My Death Flags Show No Sign of Ending 100 ฮาโรลด์ vs หุ่นยนต์วินเซนต์

Now you are reading My Death Flags Show No Sign of Ending Chapter 100 ฮาโรลด์ vs หุ่นยนต์วินเซนต์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

มือทั้ง 2 ข้างที่กำลังถือดาบอยู่นั้นรู้สึกหนักอึ้ง แค่เพียงจะประคองร่างให้ยืนอยู่พร้อมกับยกปลายดาบลอยขึ้นเหนือพื้นเพียงนิดหน่อยยังแทบจะไม่ไหว

แม้ฮาโรลด์จะฝึกร่างกายมาอย่างบ้าระห่ำเพียงใด แต่นี่มันเกินขีดจำกัดของเขาแล้ว

เวลาได้ผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมงตั้งแต่เริ่มการต่อสู้ อันที่จริงด้วยเวลาเพียงแค่นี้มันคงไม่เป็นปัญหาอะไรสำหรับเขา ถ้าหากเป็นการต่อสู้ทั่วๆไปล่ะนะ แต่มันก็อีกเรื่องหนึ่งเพราะนี่เป็นการต่อสู้ที่มีชีวิตเป็นเดิมพันกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งพอๆกับเขา แถมการใช้ไอ้ดาบเวรนี่ก็ไม่ดีต่อสภาพจิตใจของเขาเป็นอย่างมาก

แม้ว่าฮาโรลด์จะมีความเร็วที่เหนือกว่า แต่คู่ต่อสู้ของเขาการยังสามารถรับมือได้ทันครั้งแล้วครั้งเล่า แถมการโจมตีของอีกฝ่ายนั้นหากเขาโดนจังๆเพียงทีเดียว แค่นั้นก็เพียงพอที่จะทำให้รู้ผลการต่อสู้ครั้งนี้ได้เลย คิดว่าแค่นี้ก็ยากลำบากพอแล้วหรอ? ปล่าวเลย เพราะตลอดการต่อสู้ การโจมตีของอีกฝ่ายกลับยิ่งเฉียบคมและรวดเร็วขึ้นเรื่อยๆ

มีหลายครั้งที่ฮาโรลด์ไม่สามารถหลบได้ทันและต้องหันมาป้องกันแทน แม้ว่าจะสามารถป้องกันหรือเบี่ยงมันออกไปเพื่อไม่ให้ร่างกายถูกบดขยี้เป็นเสี่ยงๆได้ทุกครั้ง แต่แรงปะทะจากมวลดาบของอีกฝ่ายก็ทำให้แขนซ้ายของเขาเริ่มชาและเริ่มไร้เรี่ยวแรง  และในที่สุด ดาบสีดำในมือซ้ายก็ล่วงหล่นลงที่พื้นดิน

ก่อนหน้านี้ เขาถูกความกลัวของพลังโจมตีของอีกฝ่ายครอบงำจนไม่กล้าตั้งรับตรงๆ แต่ว่าตอนนี้ เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาเปราะนึงที่สามารถพอตั้งรับเอาไว้ได้บ้าง แต่ถึงกระนั้น ร่างกายของเขาก็เริ่มส่งเสียงร้องออกมาแล้ว กระดูกและกล้ามเนื้อเริ่มลั่นเอี๊ยดอ๊าด ที่ใบหน้าของเขาเองก็เริ่มแสดงถึงความเจ็บปวด

เขาหอบ แม้ว่าจะไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ร่างกายของเขาก็เต็มไปด้วยเลือดและบาดแผล นั้นแสดงให้เห็นถึงการต่อสู้ระหว่างฮาโรลด์และวินเซนต์นั้นรุนแรงแค่ไหน

ดาบที่วินเซนต์ใช้นั้นมีขนาดใหญ่ใกล้เคียงกับดาบ Zanbato แม้ว่าขณะนี้ จุดที่ทั้ง 2 ยืนอยู่จะห่างกันจนความยาวของดาบไม่มีผลใดๆ แต่ทันใดนั้นก็มีออร่าสีฟ้าอ่อนๆปรากฎขึ้นที่ใบดาบของวินเซนต์ ฮาโรลด์จำลักษณะรูปแบบการโจมตีนี้ได้ทันทีและรีบกระโดดทิ้งระยะห่างให้มากยิ่งขึ้น แต่ว่าราวกับไม่สนใจเรื่องนั้น วินเซนต์ก็เหวี่ยงดาบเล่มยักนั้นลงมาที่พื้นระหว่างเท้าของเขา

เกิดเสียงระเบิดดังขึ้น พื้นดินที่เท้าของวินเซนต์แตกกระจายเป็นเสี่ยงๆจนลอยขึ้นไปในอากาศ เพียงแค่นี้ก็เป็นหลักฐานชัดเจนแล้วว่าพลังทำลายของวินเซนต์มันไร้เหตุผลขนาดไหน แต่การโจมตีนั้นยังมีอะไรมากกว่านั้น ทันทีที่ดาบของวินเซนต์ปะทะเข้าที่พื้น อากาศรอบๆตัวของฮาโรลด์เริ่มๆบิดเบี้ยว แท้จริงแล้วมันคืออากาศที่ถูกอัดรวมกันอย่างรุนแรงภายใต้แรงกดอากาศมหาศาลที่เกิดจากการเหวี่ยงดาบของวินเซนต์

ชั่วพริบตา เหล่ามวลอากาศนั้นก็กลับกลายเป็นพลาสม่าร้อนและระเบิดขึ้น

 

< Exploding sword >

 

นี่เป็น 1 ในท่าโจมตีของวินเซนต์ที่ปรากฎในเกมส์เช่นกัน และเป็น 1 ในวิธีโจมตีที่มีไม่กี่วิธีที่ไม่ใช้การโจมตีระยะปะชิด

ฮาโรลด์สามารถหลบการโจมตีเหล่านั้นไปได้ด้วยระยะห่างเพียงเส้นผม แม้ว่าภายในเกมส์นั้น การโจมตีนี้จะไม่ได้สร้างความเสียหายอะไรมากนัก แต่นั้นไม่ใช่กับ “วินเซนต์” และไม่มีการโจมตีใดๆที่มาจากชายคนนี้จะธรรมดาได้

เหนือสิ่งอื่นใด ภายในเกมนั้น การโจมตีด้วย< Expoding sword > จะมีพาสม่าขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 เมตร โผล่ขึ้นมาในระยะที่กำหนดเพียงแค่อันเดียว แต่ที่โลกแห่งนี้การเหวี่ยงดาบแค่ 1 ครั้งกลับมีพาสม่าเกิดขึ้นแบบสุ่มรอบๆตัวเขา แถมระยะโจมตียังกว้างกว่าในเกมส์มาก ทำให้เป็นเรื่องยากต่อการหลบหลีก มีช่องว่างเพียงแค่วินาทีเดียวเท่านั้นตั้งแต่มันปรากฎขึ้นมาและเปลี่ยนแปลงเป็นระเบิดพาสม่า

และถ้าหากฮาโรลด์พลาดโดนเพียงแค่อันเดียว มีความเสี่ยงสูงที่อาจจะโดนลูกที่เหลือต่อแน่ๆ

“ทำไมแค่การเหวี่ยงดาบถึงสร้างพาสม่าขึ้นได้ฟร่ะ ?” ฮาโรลด์เกือบตะโกนบ่นออกมาโดยไม่สนใจความจริงที่ว่าเขาเองก็มีความเร็วที่เอ่อ–..…แถมการเคลื่อนไหวยังขัดต่อกฎฟิสิกส์อีกด้วย

แต่ถ้าหากลองคิดดูดีๆด้วยใจที่เป็นกลาง เขาก็รู้ดีว่าโลกแห่งนี้มันก็อิงมาจากโลกแฟนตาสีดีๆนี้เอง

อย่างไรก็ตาม แม้จะดูเหมือนว่าฮาโรลด์กำลังถูกวินเซนต์ไล่ต้อนอยู่ แต่ความเป็นจริงแล้วนั้นกลับกันเลย เพราะตัวของวินเซนต์เองเจ็บหนักกว่าฮาโรลด์เป็นอย่างมาก

นั้นเพราะฮาโรลด์ใช้การโจมตีที่เข้าเป้าเสมอและถอยห่างออกมาทันที ทุกการโจมตีถูกเล็งไปยังช่องว่างเล็กๆตามชุดเกราะของวินเซนต์ แม้ความเสียหายที่เกิดขึ้นจะไม่มาก แต่ความเสียหายของมันก็ถูกสะสมขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดเสื้อถักโซ่ส่วนใหญ่ก็ถูกทำลายไปจนเกือบหมดแล้ว

บาดแผลและรอยเลือดที่ไหลออกมาจากร่างของวินเซนต์เป็นหลักฐานยืนยันเรื่องเหล่านี้

 

(แต่แปลก .. ทำไมการเคลื่อนไหวของวินเซนต์ถึงไม่ช้าลงเลย? … ) – ฮาโรลด์

 

ยิ่งกว่านั้น วินเซนต์ยังสามารถปรับตัวให้เข้ากับการเคลื่อนเร็วของฮาโรลด์ขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับพึมพัมอยู่ไม่หยุดว่า “การกำจัดเป้าหมายเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด” ซ้ำไปซ้ำมา เห็นได้ชัดว่าความเจ็บปวดหรือบาดแผลยังไม่สามารถเรียกสติจากวินเซนต์ได้ ดังนั้นความจริงที่ว่าวินเซนต์ไม่ได้ช้าลงเลยคงไม่ยากเกินไปที่จะทำใจเชื่อได้ลง

อย่างไรก็ตาม หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ การเคลื่อนไหวของวินเซนต์ควรดูทื่อๆโง่ๆกว่านี้ แม้ใบหน้าที่ไร้ความรู้สึกของวินเซนต์จะชวนให้นึกถึงลิเลี่ยมและเวนโตส แต่วิธีการต่อสู้ของวินเซนต์ไม่ได้มีกลไกหรือวิธีการต่อสู้ที่ดูทื่อๆเหมือนอย่างพวกเขาทั้ง 2

อย่างแรก แผนของฮาโรลด์คือทิ้งระยะห่างออกมา ใช้การโจมตีจากระยะไกลเพื่อรบกวนและสร้างช่องว่าง เมื่อเห็นว่าได้จังหวะเหมาะเขาจะใช้ความเร็วทะลุขีดจำกัดเข้าไปโจมตีและรีบชิ่งออกมาทันที

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ฮาโรลด์ใช้วิธีนี้อยู่ 2 – 3 รอบ ทันใดนั้นเขาก็ตกหลุมพลาง วินเซนต์จงใจเผยช่องว่างให้ฮาโรลด์เข้าไปโจมตี ซึ่งวินเซนต์สามารถหลบมันได้ และโจมตีสวนมาในทันที

อย่างที่คิดไว้ ฮาโรลด์ไม่สามารถหลบการโจมตีนี้ได้ทัน เขาจึงยกดาบขึ้นมาป้องกัน และนั้นทำให้เขาถูกซัดปลิวไปหลายเมตร

หาก ลิเลี่ยมและเวนโตส คือหุ่นยนต์ที่ถูกตั้งโปรแกรมให้มีรูปแบบการโจมตีและป้องกัน พวกเขาจะมีรูปแบบการโจมตีและป้องกันเดิมๆซ้ำๆ ถ้าเช่นนั้น วินเซนต์ก็คือหุ่นยนต์ที่มีสมอง ai ที่สามารถเรียนรู้จากประสบการณ์การต่อสู้และพลิกแลพงรูปแบบการโจมตีได้ นั้นคือความแตกต่างของพวกเขา

นั้นหมายความว่า หากเทียบกับในช่วงแรกของการต่อสู้ การโจมตีของฮาโรลด์เริ่มสำเร็จน้อยลง และยากขึ้นเรื่อยๆ 

 

( … เดี่ยวสิเห้ย ! อย่าบอกนะว่าหมอนั้นเรียนรู้ได้จริงๆ ? ) – ฮาโรลด์

 

แม้ว่านั้นจะเป็นเพียงแค่ลางสังหรณ์ แต่ว่าตั้งแต่เขาได้มาอยู่ในร่างของฮาโรลด์ เขารู้สึกว่าลางสังหรณ์ของเขามักจะแม่นขึ้นเรื่อยๆ

และถ้าความคิดของเขาถูกต้องจริงๆ นั้นก็หมายความว่า ตอนนี้เขากำลังเผชิญหน้ากับเครื่องจักรสังหารที่ไม่เจ็บ ไม่กลัวตาย ไม่เหนื่อย สามารถสู้ต่อไปได้เรื่อยๆแม้จะได้รับบาดเจ็บ แถมยังสามารถศึกษาการเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้และนำมาปรับใช้กับวิธีโจมตีและรับมือได้อีกด้วย และยิ่งไปกว่านั้น เจ้าเครื่องจักรสังหารนี้คือ วินเซนต์ ผู้มีความสามารถทางร่างกายสูงมาก การโจมตีของเขาหากโดนจังเพียงครั้งเดียวก็ GAMEOVER ได้เลย แถมพลังป้องกันยังหนาราวกับป้อมปราการ 

คิดว่าหมดความซวยเท่านี้หรอ เปล่าเลย เพราะตอนนี้วินเซนต์ถูกล้างสมองไปแล้ว ทำให้วิธีการต่อสู้ของเขาไม่เหมือนกับภายในเกมส์ หรือก็คือความรู้ที่ฮาโรลด์มีมาจากในเกมส์ไม่สามารถนำมาใช้ได้

 

[ ชิ แล้วไงวะ? ] – ฮาโรลด์

 

ฮาโรลด์เหมือนจะพยายามพูดเพื่อให้กำลังใจตัวเอง แต่จริงๆแล้ว เขามั่นใจว่าเอาชนะได้แน่

ถ้าหมอนั้นเรียนรู้การเคลื่อนของ”พวกเรา” ได้ ถ้างั้นก็ต้องเจอกันการเคลื่อนไหวที่คาดเดาไม่ได้ ถ้าหมอนั้นคาดเดาการเคลื่อนไหวของ “พวกเรา” ได้ ถ้างั้นพวกเราจะใช้สิ่งนั้นในการเล่นงานหมอนั้น
ถ้าเป็น “ฮาโรลด์ สโตร์ก” ล่ะก็ชนะได้แน่ เขารู้เรื่องนี้ดีกว่าใครๆ

ฮาโรลด์ยิ้มออกมาอย่างไม่เกรงกลัว และทันใดนั้น เขาก็พุ่งออกจากตำแหน่งที่เขาอยู่ไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูง มันคือ “Air Dash” ครั้งแรกที่เขาใช้ท่านี้นั้นคือตอนที่เขาสู้กับ ริทเซิร์ต เจ้าแห่งมนตราแห่งจักรวรรดิซาเรียน ในตอนนั้น ฮาโรลด์พยายามอย่างแทบตายกว่าจะสามารถใช้มันเร่งความเร็วและเปลี่ยนทิศทางกลางอากาศได้ แต่ว่าตลอดหลายปีมานี้ ฮาโรลด์ได้ฝึกฝนมันจนสามารถใช้ต่อสู้ในรูปแบบ 3 มิติได้อย่างสมบูรณ์

และความเร็วของเขาในตอนนี้เทียบไม่ได้กับตอนนู่นเลยเช่นกัน แต่ก็นะ วินเซนต์ก็ยังสามารถตามความเร็วของเขาได้ทัน

แต่ถึงกระนั้น แม้การเคลื่อนไหวของเขาจะถูกอ่านออก แต่ฮาโรลด์ก็ยังพุ่งตรงเข้าไปประจันหน้ากับวินเซนต์ และทันใดนั้นเขาก็ถีบพื้นเพื่อส่งตัวเองขึ้นไปในอากาศและใช้ <Air Dash> เพื่อเปลี่ยนทิศทางเพื่ออ้อมไปยังด้านหลังของวินเซนต์

ฮาโรลด์เล็งไปที่หลังคอของวินเซนต์ แน่นอนว่าพื้นที่ส่วนนี้ถูกปกป้องไว้โดยชุดเกราะ แต่เป้าหมายของฮาโรลด์ไม่ใช่การฆ่าหรือสร้างความเสียหายใดๆ แต่เป็นการ “ฟัน” เพื่อล่อให้วินเซนต์ยกถุงมือซ้ายของตนขึ้นมาป้องกัน

ตั้งแต่เริ่มการต่อสู้ วินเซนต์จะยกถุงมือเหล็กของตนขึ้นมาป้องกันการโจมตีตลอด แต่ว่าหลังจากที่ฮาโรลด์ใช้การโจมตีรูปแบบเดิม 2 – 3 ครั้ง และในครั้งที่ 3 นั้น วินเซนต์สามารถเรียนรู้และโต้ตอบกลับมาได้

แต่ฮาโรลด์ที่รอจังหวะนี้อยู่แล้ว นั้นเป็นเหตุผลที่เขาหลบและอ้อมไปด้านหลังเพื่อจะโจมตี

ราวบกับตอบสนองได้ในทันที วินเซนต์หมุนตัวเหวี่ยงหลังมือซ้ายกลับมา เป้าหมายของการโจมตีนี้ไม่ใช่เพื่อโจมตีฮาโรลด์แต่อย่างใด แต่เป็นการขัดขวางไม่ให้ฮาโรลด์โจมตีเข้ามามากกว่า 

ถึงแม้มือซ้ายของวินเซนต์จะไม่ได้ถือดาบ แต่ทั้งพลังและความเร็วของหลังมือนั้นถือว่ารุนแรงมาก และถ้าฮาโรลด์โดนการโจมตีนี้เข้าไปจังๆ แรงปะทะอาจทำให้เสียหลักไปเลยก็ได้ และในขณะที่เขาเสียการทรงตัว คงโดนวินเซนต์โจมตีซ้ำด้วยดาบเล่มใหญ่

แม้จะรู้เรื่องนี้ดี แต่ฮาโรลด์ก็ยังจะลองรับพลังของหมัดนั้น แม้ว่าพลังโจมตีของมันจะไม่รุนแรงเท่าดาบ แต่ถ้ารับการโจมตีนี้เข้าไปโดยไม่ป้องกันเลยละก็ คงต้องเตรียมใจที่จะกระดูกหักซักท่อนสองท่อนเลยล่ะมั้ง

เป็นดั่งคาด ทันทีที่เขาป้องกันการโจมตีจากหมัดนั้นไว้ได้ ดาบขนาดยักของวินเซนต์ก็ถูกเหวี่ยงลงมาที่เขา การโจมตีนี้มีพลังมากพอที่จะจบการต่อสู้นี้ลงได้ และที่เลวร้ายที่สุด ถ้าฮาโรลด์โดนจังๆก็คงตุยชัวๆ

แต่ฮาโรลด์ก็ยังสามารถหลบไปได้อย่างหวุดหวิด โดยปกติแล้วเขาจะหลบการโจมตีนี้ด้วยการทิ้งระยะห่างออกมาด้านหลัง แต่ทว่าครั้งนี้เขากับสอดตัวเข้าไปด้านหน้าแทน ทำให้ดาบนั้นเฉียวเขาไปเพียงปลายเส้นผม

นี่คือการวัดดวง การโจมตีด้วยดาบนั้นฮาโรลด์ไม่สามารถป้องกันมันได้อย่างแน่นอน และถ้าหากเขากะจังหวะผิดหรือช้ากว่านี้เพียงเล็กน้อย ร่างของเขาคงถูกผ่าเป็น 2 ส่วนไปแล้ว

ถ้าหากเป็นฮาโรลด์ตอนปกติคงไม่สามารถหลบการโจมตีนี้ได้ทัน แต่เพราะตอนนี้เขาถูกเสริมพลังด้วยความสามารถของดาบดูดอายุไข ทำให้เขาสามารถทำได้ ขณะรู้สึกถึงพื้นที่ถูกทำลายโดนการโจมตีของวินเซนต์เมื่อสักครู่ ในที่สุดฮาโรลด์ก็หลบรอดการโจมตีแห่งความตายนั้นมาได้

และในที่สุด เขาก็มาอยู่ที่ด้านหลังของวินเซนต์อีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม แม้จะมาอยู่ตรงจุดแต่ฮาโรลด์ก็ยังไม่สามารถโจมตีเข้าไปได้ เพราะเขาเองก็ยังขยับตัวไม่ได้เช่นกัน นั้นเพราะแม้ว่าการเคลื่อนไหวเมื่อสักครู่จะเกิดขึ้นในชั่วอึดใจ แต่ว่าเขาจำเป็นต้องใช้สมาธิอย่างสูง แม้มันจะไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่จะหลบ แต่ด้วยลักษณะท่าทางที่เขาอยู่มันถือว่ายากที่จะโจมตี

ดังนั้น ฮาโรลด์จึงเลือกที่จะทิ้งระยะห่างออกมาเพื่อจะบุกเข้าไปหาวินเซนต์ใหม่อีกครั้ง ด้วยเหตุนี้ การเคลื่อนไหวในลักษณะเดิมน่าจะใช้ได้ผลยากขึ้นแน่ๆ และนั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้การต่อสู้นี้ยืดเยื้อ นั้นเพราะการโจมตีรูปแบบเดิมของเขาจะเริ่มใช้ไม่ได้ผลมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นฮาโรลด์จึงต้องเปลี่ยนรูปแบบการเคลื่อนไหว รูปแบบการบุกอยู่เสมอ ซึ่งทำให้ไม่สามารถสร้างความเสียหายที่ตัดสินผลการต่อสู้ได้เสียที และจากที่ลองๆมาทั้งหมด ฮาโรลด์พบว่าวินเซนต์จะชินกับการโจมตีของของและสวนกลับมาในครั้งที่ 3 เสมอ

 

( ถ้าเป็นแบบนั้น ผมจะตัดสินมันด้วยครั้งที่ 3 รอบนี้แหละ ) – ฮาโรลด์

 

ฮาโรลด์สูดลมหายใจเข้าลึกๆและเริ่มต้นใช้การโจมตีรูปแบบเดิมกับเมื่อสักครู่ แม้จะรู้ว่าเสี่ยง และแน่นอนว่าการโจมตีด้วยรูปแบบเดิมครั้งที่ 2 จะอันตรายขึ้นมาก เสียงลมที่ถูกดาบของวินเซนต์ตัดผ่านเฉียวหัวเขาไปนั้นได้ยินชัดกว่าเดิมมาก แถมยังมีเศษผ้าบางส่วนที่ถูดตัดออกจากชุดของเขาล่วงหล่นลงที่เท้าของวินเซนต์

วินเซนต์สามารถตามการเคลื่อนไหวของฮาโรลด์ได้ดีขึ้นจากการโจมตีรอบแรก จนดูราวกับว่า “ลองใช้มาอีกรอบสิ รอบนี้ชั้นฆ่าแกได้แน่” ถ้าสมองของเขายังสามารถคิดแบบนั้นได้อยู่อะนะ

ข้อผิดพลาดใดๆก็ตามที่เกิดขึ้นอาจหมายถึงความตายของฮาโรลด์ สิ่งที่เขากลัวและพยายามหลีกเลี่ยงมาโดยตลอดกำลังรอเขาอยู่

แต่ทว่า การวิ่งหนีในครั้งนี้ไม่ใช่ทางรอดที่ถูกต้อง แต่เป็นการพุ่งเข้าใส่ความตายต่างหากเขาถึงจะรอดไปได้

 

( แม้ว่ามันจะสายไปแล้ว แต่ว่า ในที่สุดผมก็เข้าใจ ) – ฮาโรลด์

 

ฮาโรลด์พึ่งจะเข้าใจก็ตอนนี้เอง เขาไม่ได้กำลังต่อสู้กับความตาย แต่เขากำลังพยายามหลีกหนีจากมันไปให้พ้น

นั้นเป็นเหตุผลที่คาซูกิไม่ได้รู้สึกกลัวที่จะตาย เพราะเขาผลักความรู้สึกเหล่านั้นไปให้ “ฮาโรลด์” ที่ยังอยู่ภายในจิตใจของเขา และทำให้เขาต้องเปิด สวิทต์ ดังนั้นวินเซนต์จะต้องเป็นคนรับผิดชอบเรื่องนี้

ถึงเวลาแล้วที่ ฮาโรลด์และคาซูกิ จะต้องเผด็จศึก

คาซูกิกำลังต่อสู้เคียงข้างกับฮาโรลด์ สโตร์ก เพื่อท้าทายโชคชะตาอีกครั้ง

ด้วยควมมรู้จากเกมส์ของคาซูกิ และ ความสามารถของ ฮาโรลด์ สโตร์ก หากไม่มีพลังของพวกเขาทั้ง 2 มันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะวินเซนต์หรือแม้กระทั้งเอาชนะยูสทัส

 

[ ก็มาสิวะ ไอ้เวรหุ่นเชิดเอ้ย! ] – ฮาโรลด์

 

และอีกครั้งที่ ฮาโรลด์กระโดดเข้าหาความตายเป็นรอบที่ 3

เขาหลบการโจมตีด้วยดาบของวินเซนต์และอ้อมมาอยู่ที่ด้านหลังอีกครั้ง แค่ครั้งที่ 3 นี้ การตอบสนองของวินเซนต์ยิ่งเร็วขึ้นกว่าเดิมมาก เขาแทบจะปล่อยหมัดออกมาทันทีจนฮาโรลด์แทบจะไม่มีเวลาตั้งตัว และฮาโรลด์สามารถป้องกันหมัดนั้นได้ทันด้วยการใช้ดาบของเขาเป็นโล่

มาถึงจุดนี้ ทุกๆอย่างเกิดขึ้นเหมือนกับ 2 ครั้งแรก

แต่ทว่า ดาบขนาดยักของวินเซนต์กำลังใกล้เข้ามาที่หัวของฮาโรลด์แล้ว แม้ว่าเขาจะก้าวไปข้างหน้าหรือถอยหลัง เขาก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงการโจมตีนี้ได้ ดังนั้นฮาโรลด์จึงยังยืนหยัดอยู่ที่เดิม

ในจังหวะที่ดาบฟาดลงมา ฮาโรลด์ใช้ขาข้างซ้ายเป็นแกนหมุนในการเบี่ยงตัวเพียงเล็กน้อย ทำให้ดาบขนาดยักเฉียดเขาไปเพียงปลายจมูก

อย่างไรก็ตาม ดาบของวินเซนต์ไม่ได้ฟันลงไปจนถึงพื้นเหมือนกับ 2 ครั้งที่ผ่านมา เพราะตัวของวินเซนต์วิเคราะห์ว่า ถ้าหากเขาทำแบบนั้น มันจะทำให้เขาไม่สามารถตอบสนองฮาโรลด์ที่จะอ้อมไปอยู่ด้านหลังอีกครั้งได้ทัน

นี่เป็นผลจากความสามารถของวินเซนต์ในการเรียนรู้การเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้ เพื่อปรับเปลี่ยนการเคลื่อนไหวของตนให้สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวก้าวต่อไปของศัตรู

แล้ว? จะเกิดอะไรขึ้นหากก้าวต่อไปของฮาโรลด์ไม่เป็นดั่งที่วินเซนต์คาดเดาเอาไว้ ? คำตอบนั้นอยู่บนรอยแผลจำนวนนับไม่ถ้วนทั้งบนชุดเกราะและร่างกายของวินเซนต์

รอยเกือบทั้งหมดนั้นเป็นฝีมือของฮาโรลด์ตั้งแต่เริ่มการต่อสู้ได้ไม่นาน และพอเขาได้เรียนรู้วิธีการต่อสู้ของฮาโรลด์ จำนวนรอบแผลพวกนั้นก็เริ่มน้อยลงเรื่อยๆ นั้นหมายความว่า ถ้าหากเผด็จศึกวินเซนต์ไม่ได้ตั้งแต่เริ่มการต่อสู้ ยิ่งต่อสู้นานเท่าไหร่ วินเซนต์ก็จะยิ่งได้เปรียบขึ้นเรื่อยๆ 

อย่างไรก็ตาม วิธีการต่อสู้ของวินเซนต์ก็ยังมีจุดอ่อนขนาดใหญ่อยู่ นั้นเพราะรูปแบบการต่อสู้ของวินเซนต์นั้นเป็นเน้นไปทางตั้งรับ

แม้ว่าวินเซนต์จะสามารถตอบสนองได้ทันทีเมื่อถูกโจมตี แต่เขาไม่สามารถใช้การโจมตีของตัวเองเป็นจุดเริ่มต้นในการควบคุมหรือคาดเดาการกระทำต่อไปของศัตรูได้ บางทีนี่อาจเป็นข้อจำกัดของวิธีการต่อสู้ของเขา

ไม่ว่าจะมองยังไง สถานการณ์ปัจจุบันตอนนี้นั้นอยู่นอกเหนือการคาดเดาของวินเซนต์ เพราะจุดที่ฮาโรลด์เคลื่อนที่ไปนั้นอยู่ที่ด้านขวาของเขา ซึ่งเป็นตำแหน่งที่วินเซนต์ไม่สามารถใช้การโจมตีสวนกลับได้ นั้นเพราะตำแหน่งของมือซ้ายที่สวมถุงมือเหล็กนั้น อยู่ห่างจากตำแหน่งของฮาโรลด์มากเกินไป

แต่ฮาโรลด์ยังมีปัญหาใหญ่อยู่ นั้นเพราะเขายังอยู่ในระยะโจมตีของวินเซนต์ แถมในตำแหน่งนี้ แถมเขาก็ไม่สามารถใช้เทคนิคเร่งความเร็วได้ และถ้าหากไม่มีเทคนิคเร่งความเร็ว การโจมตีของเขาก็จะไม่รุนแรงพอที่จะทำให้วินเซนต์ชะงัก ซึ่งนั้นจำเป็นต่อการต่อคอมโบชุดต่อๆไป

มันคงไม่มีปัญหาหากเขาใช้ท่าลับหรือเวทมนตร์ อย่างไรก็ตาม ท่าพวกนั้นจำเป็นต้องใช้พลังเวทมนตร์และการเตรียมตัวสักเล็กน้อยถึงจะใช้มันได้ แถมด้วยระยะเท่านี้ หากใช้ดาบโจมตีไปโต้งๆก็ไม่รู้จะเข้าเป้ารึปล่าวอีกด้วย แถมคู่ต่อสู้ยังเป็นวินเซนต์ การชักช้าหรือเสียเวลาเพียงนิดเดียวอาจการเป็นช่องว่างให้วินเซนต์รับมือได้ทัน

แล้ว เขาจะทำยังไงดี ? คำตอบง่ายมาก การโจมตีของฮาโรลด์ไม่ใช่ทั้งการโจมตีปกติหรือเวทมนตร์ แต่เป็นฝ่ามือ

การโจมตีด้วยฝ่ามือนั้นเร็วกว่าการโจมตีด้วยดาบเป็นอย่างมาก ภายในเกมส์นั้น เทคนิค “ฝ่ามือ” จะใช้ก็ต่อเมื่อเพื่อต่อคอมโบเท่านั้น แถมฮาโรลด์ยังใช้ฝ่ามือซ้ายที่ตอนนี้โดนวินเซนต์เล่นงานจนแขนชาจนแทบจะไม่รู้สึกแล้ว และเมื่อพิจารณาถึงพลังป้องกันของวินเซนต์ การโจมตีนี้คงแถมจะไม่มีดาเมทอะไรมากนัก

——– นั้นมันในกรณีที่ฮาโรลด์ใช้ท่าฝ่ามือของในเกมส์ล่ะนะ

 

[ < ฝ่ามือสายฟ้า ! > ] – ฮาโรลด์

 

ฝ่ามือของเขากระแทกไปยังกรามของวินเซนต์ พร้อมกับไฟฟ้าที่ถูกถ่ายโอนไปยังร่างของวินเซนต์จากมือซ้ายของเขา

ตลอด 8 ปีที่ผ่านมาเพื่อการหลีกเลี่ยงธงแห่งความตาย ฮาโรลด์ไม่เพียงแค่ฝึกฝนทุกๆเทคนิคที่เขาสามารถใช้ภายในเกมส์ได้ แต่เทคนิคของตัวละครอื่นๆภายในเกมส์เขาก็ฝึกเช่นกัน แม้จะไม่ใช่เทคนิคที่มีอยู่ในเกมส์ เขาก็พยายามลองฝึก

< ฝ่ามือสายฟ้า > เป็น 1 ในท่าที่ฮาโรลด์คิดขึ้นเอง ตามชื่อของมัน มันเป็นการโจมตีด้วยฝ่ามือที่ผสานสายฟ้าเข้าไปด้วย

อันที่จริง การโจมตีนี้ก็ไม่ได้สร้างความเสียหายอะไรมากมายเหมือนกัน นั้นเพราะมันเหมือนกับท่าโจมตีผสานอื่นๆ ที่จำเป็นจะต้องชาจพลังสายฟ้าตั้งแต่ก่อนเริ่มโจมตีถึงจะสามารถสร้างความเสียหายรุนแรงได้

แต่เทคนิคนี้ของฮาโรลด์ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาชาตพลังสายฟ้าแต่อย่างใด ฮาโรลด์เพียงแค่ใช้ฝ่ามือโจมตีเข้าไปและชาจสายฟ้าเพียงเสี้ยววิระหว่างที่ฝ่ามือกำลังพุ่งเข้าไปโจมตี ดังนั้นทั้งพลังโจมตีจากฝ่ามือและสายฟ้าจึงไม่สามารถสร้างความเสียหายให้วินเซนต์ได้มากนัก

อย่างไรก็ตาม แค่ผลกระทบจากมันก็เพียงพอแล้ว สิ่งที่ฮาโรลด์ต้องการจริงๆคืออาการชาหลังจากที่ร่างกายของวินเซนต์โดนสายฟ้าไปตรงๆ แม้จะเพียงชั่วครู่ก็ตาม

แม้ว่าวินเซนต์ที่ถูกล้างสมองให้เพิกเฉยต่ออาการบาดเจ็บหรือความเจ็บปวดจากบาดแผลใดๆก็ตาม ตราบใดที่เขายังมีชีวิต มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะสามารถยับยั้งอาการตอบสนองตามธรรมชาติของร่างกายได้ และแม้ว่าวินเซนต์จะเป็นตัวละครจากในเกมส์ แต่เขาก็ยังคงเป็นมนุษย์

 

[ ….. ! ] – วินเซนต์

 

วินเซนต์ไม่ได้พูดหรือแสดงสีหน้าใดๆออกมา แต่เพียงเท่านี้ ฮาโรลด์ก็ยืนยันได้แล้วว่าการโจมตีของเขาประสบผลสำเร็จ กล้ามเนื้อของวินเซนต์เป็นอัมพาตชั่วขณะดั่งที่เขาวางแผนไว้ และในการดวลระหว่างทั้ง 2 คนนี้ เวลาเพียงชั่วอึดใจอาจหมายถึงชีวิตได้เลย

และกว่าที่วินเซนต์จะขยับตัวได้อีกครั้ง มันก็สายไปแล้วเสียแล้ว

 

[ < ดาบสายฟ้า > ] – ฮาโรลด์

 

มันคือการโจมตีด้วยดาบที่ฮาโรลด์ชาตพลังสายฟ้าเข้าไปอย่างเต็มเปี่ยม ฮาโรลด์ฟันไปที่ท้องของวินเซนต์จังจนร่างของเขาโค้งงอ แต่ถึงกระนั้นวินเซนต์ก็ยังไม่ล้ม เขาเงยหน้าขึ้นและพยายามฟันสวนกลับมา แต่ทว่า การโจมตีเพียงแค่นี้ไม่สามารถทำอะไรฮาโรลด์ได้

ก่อนที่วินเซนต์จะฟันสวนกลับมา ฮาโรลด์โจมตีเข้าไปอย่างต่อเนื่อง และรุนแรงขึ้นเรื่อยๆทุกๆครั้งที่เขาเหวี่ยงดาบ

ทั่วทั้งชุดเกราะของวินเซนต์ถูกเผาด้วยการโจมตีจากสายฟ้า ฮาโรลด์ใช้ดาบของตนทิ้มไปที่ชุดเกราะส่วนบนของวินเซนต์จนร่างของวินเซนต์ถอยหลังออกไป และฮาโรลด์ก็หมุนตัวถีบไปที่หน้าท้องที่ไร้การป้องกันของวินเซนต์อย่างแรง ก่อนที่วินเซนต์จะหงายหลังลง ฮาโรลด์พุ่งไปด้านหลังและฟาดเขาด้วยดาบจนส่งร่างของวินเซนต์ลอยขึ้นไปในอากาศ พร้อมยิงเวทมนตร์ < Thunder Bird > ซ้ำเข้าไปอีกที

อย่างไรก็ตาม คอมโบของฮาโรลด์ยังไม่จบเพียงเท่านี้ นั้นเพราะฮาโรลด์รู้ดีด้วยการโจมตีเพียงเท่านี้ยังไม่อาจเอาชนะศัตรูตรงหน้าได้อย่างเบ็ดเสร็จ ฮาโรลด์พุ่งขึ้นไปในอากาศและโจมตีซ้ำกว่า100ครั้ง จนร่างของวินเซนต์ลอยสูงขึ้นไปเรื่อยๆ

และทันใดนั้นเอง ฮาโรลด์มาปรากฎที่ข้างใต้ร่างของวินเซนต์ ฮาโรลด์กำลังยืนชีัดาบขึ้นพร้อมกับสายฟ้าที่ปรากฎขึ้นที่ปลายดาบ 

มันคือท่าโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของฮาโรลด์ มันสามารถสร้างความเสียหายเกือบ 60% ของพลังชีวิตทั้งหมดของตัวละครหลักภายในเกมส์ที่เลเวล 100 ซึ่งเป็นเลเวลสูงสุดภายในเกมส์ในการเล่นครั้งแรก

สายฟ้าถูกยิงจากปลายดาบขึ้นไปในอากาศ ทำให้เกิดรอยแยกขึ้นบนเพดานของซากปรักหักพัก ทันใดนั้นเอง สายฟ้าขนาดยักก็ฟาดออกมาจากรอยแยกนั้นผ่านร่างของวินเซนต์ลงมาเชื่อมต่อกับดาบของฮาโรลด์ 

ฮาโรลด์ทำท่าเหวี่ยงดาบของตนลงราวกับจะผ่าร่างของวินเซนต์เป็น 2 ท่อน

 

[ < Rakurai Saku Ikazuchi!!’ > ] – ฮาโรลด์

 

เกิดเสียงฟ้าผ่าดังกึกก้องไปทั่วซากปรักหักพัง จนทั้งซากปรักหักพังเกิดการสั่นสะเทือน พร้อมกับฝุ่นควันที่ฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ

เมื่อฝุ่นควันเริ่มจางลง ปรากฎร่างของคนๆหนึ่งยืนอยู่ด้วยลมหายใจอันเหนื่อยหอบ  และคู่ต่อสู้ของเขาที่ล้มลงอย่างไม่ไหวติง

 

[ ภาพที่แกนอนกองอยู่แบบนั้นก็เหมาะสมกับแกดีนี่หว่า —– หึ ชั้นชนะ ] – ฮาโรลด์

 

 

——————————————

 

ปล. พักไปร่วมรบกับแมลงและหุ่นยนต์ใน helldriver 2 ก่อนนะ บัย

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด