Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1875

Now you are reading Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน Chapter 1875 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
 ฆ่าลิ่วเหวินหลาน!

ลิ่วเหวินหลานเห็นกับตาตัวเองว่าเส้นใยสีดำนับไม่ถ้วนกำลังหมุนรอบตัวหวังหลิน กลิ่นอายในร่างกายหวังหลินกำลังทรงพลังขึ้นในระดับที่น่าหวาดกลัว

เรื่องนี้ถึงกับทำให้เขาต้องหลั่งเหงื่อเย็นเยียบ จิตใจสั่นเทาและเกิดแววตาหวาดกลัวเกินอธิบาย ทั้งยังมีความอิจฉาปนอยู่ด้วย!

ทั้งหมดนี้ควรจะเป็นของเขา กลิ่นอายนี้ควรจะเป็นของเขา ทั้งหมดควรจะเป็นของเขา ลิ่วเหวินหลาน!

หวังหลินซึ่งห่อหุ้มด้วยเส้นใยสีดำนับไม่ถ้วนกำลังกดฝ่ามือลงต้านกับฟันเฟืองจนเกิดรอยแตกและสลายเป็นชิ้นๆ

เส้นใยนับไม่ถ้วนเคลื่อนไหวจนกลายเป็นชุดเกราะสีดำปกคลุมทั้งร่างของหวังหลินตั้งแต่หัวจรดเท้า เว้นว่างไว้เพียงแต่ดวงตากับเรือนผมสีขาว!

ร่างเงากระทิงสวรรค์ตัวยักษ์ปรากฏขึ้นด้านหลังหวังหลิน กระทิงตัวนี้มีกลิ่นอายฝืนลิขิตสวรรค์ ดวงตายังคงหลับใหล

ระดับบ่มเพาะของหวังหลินเพิ่มขึ้นอย่างน่ากลัว เขากำลังใช้พลังอำนาจของเกราะวิญญาณ แม้จะเป็นเพียงชั่วคราวแต่กลับทำให้หวังหลินได้ประโยชน์มหาศาลเกินจินตนาการ

ระดับบ่มเพาะเพิ่มขึ้นไปถึงขั้นแก่นแท้ดับสูญระดับต้นโดยไม่สนว่าเขาขาดแก่นแท้ไปหนึ่งอย่าง!

ผ่านไปไม่ถึงหนึ่งลมหายใจในขั้นแก่นแท้ดับสูญระดับต้น ระดับบ่มเพาะของเขาได้เพิ่มไปถึงขั้นแก่นแท้ดับสูญระดับกลาง!

จากนั้นถัดมาความเร็วได้เพิ่มขึ้นไปอีก กลิ่นอายบรรลุไปที่ขั้นแก่นแท้ดับสูญระดับปลาย!

ระดับบ่มเพาะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในชั่วพริบตา ไม่เพียงแต่ลิ่วเหวินหลานที่ตกตะลึง แต่หยานหลวน ซิ่วตงเต๋อและเซียนขั้นวิบากดับสูญระดับต้นสามคนก็ยังอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงไปทั้งหมด

คงไม่ต้องพูดถึงเหล่าเซียนนับพันด้านล่าง ทั้งหมดจ้องมองหวังหลินอย่างตกตะลึงจนพูดไม่ออก พวกเขาเป็นพยานรู้เห็นถึงความอัศจรรย์ของคนที่ได้สวมเกราะวิญญาณ!!

‘ข้าไม่ยอมให้เป็นแบบนี้!!’ ลิ่วเหวินหลานรู้สึกกลัว ดวงตาแดงฉานและร้องคำรามอย่างบ้าคลั่ง เขาพุ่งออกไปปรากฏเบื้องหน้าหวังหลิน แขนสร้างผนึกพลางระเบิดระดับบ่มเพาะเข้ากระหน่ำใส่หวังหลิน

แสงจากเหล่าวิชาทำเอาดวงตาพร่าเลือนและเกิดเสียงดังกึกก้อง ทว่าไม่มีวิชาใดส่งผลกระทบต่อหวังหลิน หวังหลินยังคงหลับตาและยอมให้ลิ่วเหวินหลานใช้วิชาหลายอย่างเข้ามาใส่

แค่ชุดเกราะก็มากพอให้หวังหลินไร้เทียมทาน แม้ลิ่วเหวินหลานจะระเบิดตัวเองก็ไม่สามารถทำร้ายหวังหลินได้เลย!

ยิ่งนานยิ่งยิ่งทำให้ลิ่วเหวินหลานเกิดความอิจฉา เขาร้องคำรามและกระหน่ำวิชาใส่อย่างต่อเนื่อง แต่ผลลัพธ์ยังคงเหมือนเดิม!

“มันเป็นของข้า! ไม่ใช่ของเจ้า!”

“หวังหลิน เกราะวิญญาณเป็นของข้า เจ้าขโมยเกราะวิญญาณข้าไป เจ้าจะต้องตายอย่างสาสม!!”

“ข้าจะสังหารเจ้า ข้าจะฆ่าเจ้า!” ลิ่วเหวินหลานไม่ได้รู้เลยว่าเขาโดนปิศาจภายในเข้าครอบงำไปแล้ว เรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นแต่ทั้งหมดนั้นเพียงเพราะเขาคาดหวังสูงเกินไปและเห็นทั้งหมดหายไปต่อหน้าต่อตา

ทุกอย่างที่เตรียมการมาจนถึงตอนนี้กลับโดนคนอื่นเอาไป! เรื่องแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะยอมรับได้และพอเกิดขึ้นแล้วจึงยากจะปฏิเสธ

การปรากฏตัวของหวังหลินคือตัวการของเรื่องทั้งหมด ความบ้าคลั่งของเขาก็มาจากหวังหลิน! ทว่านี่เป็นผลลัพธ์ที่คนอื่นมองเห็นจากภายนอก มีเพียงหวังหลินที่รู้ว่าในใจลิ่วเหวินหลานมีร่างสตรีชุดขาวกำลังร้องไห้

ตั้งแต่ที่หวังหลินลงมือ เขาจึงคำนวณผลลัพธ์ทั้งหมดอย่างดีที่สุด วิชามายาทับซ้อนถูกวางเอาไว้อย่างแยบยลโดยที่ลิ่วเหวินหลานไม่ทันสังเกต!

ขณะที่ลิ่วเหวินหลานโจมตีอย่างบ้าคลั่ง กลิ่นอายของหวังหลินเพิ่มขึ้นไปอีกครั้ง ตรงเข้าสู่ขั้นแก่นแท้ดับสูญระดับสูงสุดและจากนั้นเข้าสู่ขั้นวิบากแก่นแท้!

การเปลี่ยนแปลงนี้เสมือนการโจมตีอันหนักหน่วงเข้าใส่จิตใจลิ่วเหวินหลานจนแทบทำให้เขากระอักโลหิต ดวงตาแดงก่ำและโจมตีอย่างบ้าคลั่ง

“ข้าอยู่ที่ทะเลโอสถและเจ้าก็อยู่ทะเลโอสถเช่นกัน! ทำไมข้าถึงหนีไปแต่เจ้ากลับอยู่เพื่อระเบิดทะเลโอสถจนได้รับความดีความชอบ?! หากเป็นข้า ข้าก็ทำได้เช่นกัน!!”

“ข้าอยู่ที่เส้นชีพจรแห่งที่สามและเจ้าก็อยู่ที่นี่ ระดับบ่มเพาะของข้าสูงส่งกว่าเจ้าและข้าอาวุโสกว่า เกราะวิญญาณนี้คือของข้า เจ้ามีสิทธิ์อะไรขโมยไป?!”

หวังหลินหลับตาและยังคงไม่ตื่น กลิ่นอายหลังจากเข้าสู่ขั้นวิบากแก่นแท้ได้เพิ่มพูนขึ้นอีกครั้ง

วิบากแก่นแท้ด่านแรก ด่านสอง ด่านสาม สี่…แปด เก้า!!!

กลิ่นอายของหวังหลินเปลี่ยนไปถึงเก้าครั้งและเพิ่มถึงเก้าครั้ง ตรงเข้าจากขั้นวิบากแก่นแท้ไปสู่ขั้นวิบากดับสูญ!!

วิบากดับสูญระดับต้น!!

จังหวะที่หวังหลินบรรลุถึงขั้นนี้ได้ เขาพลันลืมตาขึ้นมา ร่างเงากระทิงสวรรค์ด้านหลังลืมตาขึ้นมาเช่นกัน เผยความดุร้ายและดวงตาฝืนลิขิตสวรรค์!

กรรร!!

ร่างเงากระทิงสวรรค์เชิดศีรษะขึ้นมาส่งเสียงร้องคำรามแผ่กระจายผ่านวังใต้ดิน ผ่านไปบนพื้นดิน ทั่วทั้งทุ่งยอดนภาและทั่วแคว้น!

เซียนขั้นวิบากดับสูญระดับกลางจำนวนหกคนด้านบนพื้นดินได้ยินเสียงคำรามนี้ สีหน้าท่าทางแต่ละคนเปลี่ยนไปมหาศาล!

“เสียงคำรามของกระทิงสวรรค์!!”

“ต้องเป็นเสียงคำรามของกระทิงสวรรค์แน่นอน! มีเพียงกระทิงสวรรค์เท่านั้นถึงจะทำให้จิตใจข้าสั่นไหวได้!”

“ข้าเคยได้ยินเสียงคล้ายกันแบบนี้มาก่อน มันเป็นเสียงคำรามของมารเขียว นี่ต้องเป็นกระทิงสวรรค์!!” ทั้งหกคนรู้สึกถึงสิ่งแย่ๆ ในใจ

หากพวกเขาเป็นแบบนี้คงไม่ต้องพูดถึงเหล่าเซียนจากแคว้นมารเขียวเกือบสองพันคน ร่างกายแต่ละคนสั่นสะท้านและเกิดความหวาดกลัว เสียงคำรามนั้นแทบทำให้วิญญาณดั้งเดิมของแต่ละคนเกิดการแตกสลาย

ในวังใต้ดิน หวังหลินดวงตาแดงฉานซึ่งไม่ได้มาจากความบ้าคลั่งแต่มาจากเกราะวิญญาณ มาจากความแค้นฝืนชะตาสวรรค์ของกระทิงสวรรค์!

“เจ้าจะมาฆ่าข้า?” หวังหลินไม่เผยอารมณ์อันใดและจ้องมองลิ่วเหวินหลานที่หยุดโจมตีเข้ามา ทั้งยังหน้าซีดเผือดถอยออกไป

“เจ้าจะมาฆ่าข้า?” หวังหลินพึมพำราวกับความทรงจำกลับคืนมาแล้ว เขายกแขนขวาขึ้นมาโบกสะบัด

เพียงเท่านี้โลกจึงส่งเสียงดังสนั่น แขนของหวังหลินเปลี่ยนกลายเป็นกระทิงสวรรค์หนึ่งตัวพุ่งทะยานเข้าหาลิ่วเหวินหลานจนเกิดเสียดดังปัง ร่างของลิ่วเหวินหลานกระเด็นกลับไปเหมือนว่าวสายป่านขาด

หวังหลินพุ่งทะยานไปข้างหน้าพร้อมกับชุดเกราะสีดำที่เห็นเพียงแต่ดวงตาของเขา เพียงก้าวครั้งเดียวพลันปรากฏตัวเบื้องหน้าลิ่วเหวินหลาย เขาไม่ได้ใช้วิชาอันใดและเพียงแค่เตะใส่เท่านั้น!

วินาทีที่หวังหลินยกเท้าขวาขึ้นมา เขากระทิงสวรรค์ปรากฏขึ้นไปด้วย!

ลิ่วเหวินหลานส่งเสียงกรีดร้องพร้อมกับเสียงดังปังรุนแรง ร่างกายแตกสลายเป็นละอองโลหิต วิญญาณดั้งเดิมรีบหนีออกมา เขาไม่บ้าคลั่งอีกแล้ว ความคิดถูกแทนที่ด้วยความหวาดกลัว

ตอนนี้เขาไม่รู้สึกอิจฉาหรือบ้าคลั่งแล้ว ราวกับได้สติมาได้และถอยร่นออกมา

“ข้าเป็นผู้อาวุโสของสำนักมหาวิญญาณ เจ้าฆ่าข้าไม่ได้!!” หวังหลินดวงตาเย็นเยียบและไล่ตามทัน สะบัดแขนขวาออกไป วิญญาณดั้งเดิมของลิ่วเหวินหลานเกิดการระเบิด สูญเสียท่อนล่างไปครึ่งตัว

“ข้าเป็นศิษย์ของบรรพชนกระทิงสวรรค์ หากเจ้าฆ่าข้า อาจารย์จะไม่ปล่อยเจ้าแน่!!” ลิ่วเหวินหลานอ่อนแอลงหลังจากสูญเสียร่างไปครึ่งส่วน เขาถอยด้วยแววตาหวาดกลัวโดยไม่คิดชีวิต

แต่หวังหลินก้าวอีกครั้งและเข้าไปใกล้ได้อีก เขาสะบัดแขนทำให้ร่างของลิ่วเหวินหลานแตกสลายอีกครั้งจนเหลือเพียงศีรษะที่สามารถสูญสลายได้ทุกเมื่อ

“ตำแหน่งของข้าในสำนักมหาวิญญาณนั้นสูงส่งมาก เจ้า…” ศีรษะถอยไปพลางร่ำร้องออกมา ตอนนี้เขากลัวจริงๆ เขาไม่อยากตาย เขาเป็นเซียนขั้นวิบากดับสูญระดับกลาง การฆ่าเขาเป็นเรื่องยากแต่ตอนนี้กลับรู้สึกถึงความตายแบบไม่เคยเป็นมาก่อน

“อย่าฆ่าข้า!” ขณะที่เอ่ยปากออกไป หวังหลินปรากฏตัวด้านข้างที่กำลังสวมชุดเกราะสีดำ หวังหลินมีท่าทีเย็นเยียบและไม่แยแส พลางส่งฝ่ามือลงไปกระแทก

“ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปหรอก!”

ฝ่ามือกระแทกใส่เสียงดังกึกก้อง ศีรษะที่เป็นวิญญาณดั้งเดิมของลิ่วเหวินหลานเกิดการระเบิดและเขาตายในทันที!

นี่คือหวังหลิน เขาไม่สนใจพื้นหลังหรือตัวตนของคนที่เขาสังหาร หากเขาไม่ฆ่าลิ่วเหวินหลานวันนี้ เมื่อผลของชุดเกราะหายไป ลิ่วเหวินหลานคงไม่ปล่อยเขาไปแน่

สถานการณ์อยู่ระหว่างหวังหลินจะตายหรือลิ่วเหวินหลานจะตาย ไม่มีจุดที่หวังหลินจะต้องห่วงเรื่องตัวตน แม้อีกฝ่ายจะเป็นลูกของจักพรรดิเทพ เขาก็ยังต้องสังหาร!

ตอนนี้หวังหลินสัมผัสได้ถึงพลังอำนาจชัดเจน ทุกจังหวะเต็มไปด้วยพลังที่เขาไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน แก่นแท้ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้วเพราะเขาสัมผัสได้ว่าแก่นแท้ของเขาหายไปและกลายเป็นส่วนหนึ่งของสายโลหิต!

ร่างกายถือได้ว่าเป็นร่างที่สร้างขึ้นจากแก่นแท้ โลหิตเขาคือแก่นแท้วารี ดวงตาคือแก่นแท้สายฟ้า ทั่วทั้งตัวถูกสร้างขึ้นจากแก่นแท้!

ความรู้สึกนี้ออกมาจากชุดเกราะบนร่างกายเขา ยามนี้เขารู้สึกว่าตัวเองไม่ใช่เซียนอีกต่อไปแต่กลับเป็นกระทิงสวรรค์ที่บ่มเพาะในอวกาศอันกว้างใหญ่มานานหลายปี!

หวังหลินเงยหน้าขึ้นมาจ้องมองด้านบนวังใต้ดิน แววตาผุดจิตสังหารรุนแรง

“จางต้าวจง ข้ามาแล้ว!” หวังหลินผสานกับร่างเงากระทิงสวรรค์ด้านหลังและมุ่งหน้าขึ้นสู่ด้านบน!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด