Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 2043 เวลา

Now you are reading Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน Chapter 2043 เวลา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
ตอนที่ 2043 เวลา

หวังหลินมองลี่มู่หวานที่อยู่ในโลงศพ เขาเห็นเปลือกตาของนางสั่นเบาๆ หยาดน้ำตาใสไหลรินลงมา หวังหลินค่อยๆ ปาดน้ำตาของนางออก หยดน้ำตานั้นยังคงเปื้อนอยู่บนนิ้ว

หวังหลินเอาน้ำตาเคลื่อนมาไว้ใกล้ปากและชิมดู มันขมขื่นยิ่ง แต่หลังจากนั้นกลับแฝงความหวานแห้งๆ

เป็นความรู้สึกที่พูดออกมาไม่ได้ หวังหลินมองลี่มู่หวานอยู่นาน เขาไม่สนใจเรื่องเวลาที่ดำเนินไป สายตามองใบหน้าของลี่มู่หวานต่อไปเรื่อยๆ

ทั้งหมดนี้กินเวลาไปหนึ่งวัน จนกระทั่งหัวใจหวังหลินค่อยๆ สงบลง เขาหลับตาและลืมตาขึ้นอีกครั้ง สายตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและเด็ดเดี่ยว

หวังหลินก้มตัวเอาใบหน้าไปสัมผัสกับริมฝีปากซีดของลี่มู่หวาน พึมพำใกล้หูของนางด้วยคำพูดที่มีเพียงเขาได้ยินคนเดียว

ครู่ต่อมาหวังหลินสะบัดแขนเสื้อ เก็บโลงศพของลี่มู่หวานให้หายไปอย่างไร้ร่องรอย ภายในห้องลับเหลือเพียงหวังหลินแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น

ห่างออกไปไม่ไกลนักมีตะเกียงน้ำมันอยู่หนึ่งดวง ตะเกียงน้ำมันนี้ลึกลับยิ่ง แม้จะไม่มีพลังงานจากภายนอกก็สามารถส่องสว่างไปได้หลายพันปี ตอนนี้มันกำลังวูบวาบอยู่ในห้องอันมืดมิด

ซึ่งทำให้เงาของหวังหลินกะพริบวูบวาบไปด้วย

หวังหลินยื่นแขนซ้ายออกไปในอากาศ ปรากฏลำแสงสีทองขึ้นมาหนึ่งสาย นี่คือวิญญาณของจักรพรรดิเทพ ดวงวิญญาณนี้หลับตาอยู่ ถึงแม้จะปกคลุมไปด้วยแสงสีทองเปล่งอาณุภาพทรงพลัง แต่ก็มีสีเทาจากการเสื่อมสลาย

หวังหลินมองดูดวงวิญญาณ เกิดความลังเลเล็กน้อยแต่ก็กัดฟันแน่นและพ่นเปลวเพลิงสีเขียวออกมาหนึ่งก้อน เปลวเพลิงนี้คือเพลิงวิญญาณของเขาและมันเริ่มเผาไหม้วิญญาณของจักรพรรดิเทพ

‘ข้าจะใช้ประโยชน์จากวิญญาณดวงนี้ได้ก็ต่อเมื่อข้าสามารถขับไล่คำสาปบรรพชนออกไปได้สำเร็จ กระบวนการนี้จะเชื่องช้ามาก…’

หวังหลินมองดูวิญญาณจักรพรรดิเทพที่ถูกเพลิงวิญญาณของเขาห่อหุ้ม ผ่านไปสักพักจึงถอนสายตาออกมาและหลับตาลง ลมหายใจบางเบาและสงบนิ่งไร้การเคลื่อนไหว

วันเวลาสามปีผ่านไปในพริบตา

ช่วงเวลาสามปีนี้ไม่มีใครเข้ามารบกวนหวังหลินเลย เขาไม่ได้ขยับตัวเลยตั้งแต่นั้น ภายในร่างมีพลังโบราณและระดับบ่มเพาะเทพเคลื่อนไหวอย่างราบรื่น แต่พลังงานผสมของพลังเทพและพลังโบราณที่เขาได้รับมาในภูเขากุ้ยต้าวกลับไม่ได้โคจรครบหนึ่งรอบ มันเคลื่อนไปได้แค่ระยะสั้นๆ เท่านั้น

วิญญาณจักรพรรดิเทพกำลังถูกเพลิงวิญญาณหล่อหลอมและไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากนัก ทว่าการเสื่อมสลายภายในชะลอตัวลงไปอย่างมาก

หวังหลินไม่คิดจะออกไปข้างนอก ห้องลับแห่งนี้มีคนคุ้มกันหลายคนและไม่มีใครอนุญาตให้เข้ามาได้

ช่วงระยะเวลาสามปี องค์ชายจี้ตูไม่ได้จากไปไหนและจัดการเรื่องในวัง บางครั้งผู้คนจากภายนอกได้ลอบมาพูดคุยกับเขา จากนั้นพวกเขาก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและรีบจากไป

ช่วงระยะเวลาสามปีขององค์ชายจี้ตูเสมือนสายลมและสายฝน ไม่ว่าสิ่งต่างๆ มีความสำคัญแค่ไหน เขามักจะยืนอยู่ด้านนอกห้องลับของหวังหลินด้วยใบหน้าเคารพอยู่ครึ่งชั่วโมงก่อนจะจากไป

วันนี้หลังจากผ่านมาสามปี หวังหลินลืมตาขึ้นมาเป็นครั้งแรก วินาทีนั้นมีประกายแสงผลึกสดใสจำนวนสองสายได้เปล่งประกาย

ร่างเงาทับซ้อนปรากฏขึ้นบนร่างกาย ร่างแก่นแท้ห้าธาตุก้าวเดินออกมาและนั่งตรงข้าม

ร่างแก่นแท้ห้าธาตุได้สร้างร่างแก่นแท้ทั้งหมดของตัวเองขึ้นมาแล้วและผสานให้กลายเป็นหนึ่ง ร่างแก่นแท้ห้าธาตุที่สมบูรณ์จึงเป็นแก่นแท้ของเขาที่พัฒนาไปได้มากที่สุด

นี่แทบจะถึงขีดจำกัดของมันแล้ว เว้นแต่จะสามารถก้าวข้ามไปอีกครั้งให้กลายเป็นวิญญาณที่แท้จริง!!

หลังจากร่างแก่นแท้ห้าธาตุนั่งลง หวังหลินหลับตาและนั่งลง ทั้งสองร่างบ่มเพาะไปด้วยกันทำให้เวลาผ่านไปอีกสามปี

นับเป็นเวลาหกปีแล้วตั้งแต่ที่หวังหลินเข้าไปปิดด่านบ่มเพาะ ร่างเงาอีกร่างทับซ้อนกับร่างดั้งเดิมและมีจิตสังหารแผ่กระจายออกมา ร่างแก่นแท้สายฟ้าสังหารของหวังหลินก้าวเดินออกมาด้วยเรือนผมสีดำสะบัดพริ้ว ก้าวเข้าสู่อีกมุมหนึ่งและนั่งลงอย่างเยือกเย็น

ตอนนี้ภาพในห้องลับกลายเป็นภาพที่แปลกประหลาดมาก ร่างทั้งสามที่ดูเหมือนหวังหลินนั่งเป็นมุมสามเหลี่ยมและทุกร่างกำลังบ่มเพาะ

ส่วนวิญญาณจักรพรรดิเทพ หลังจากเผาไหม้เป็นเวลาหกปี การเสื่อมสลายชะลอตัวลงไปมาก บางทีอาจมีสักวันหนึ่งที่การเสื่อมสลายถูกลบไปอย่างสมบูรณ์ หวังหลินก็คงจะได้หลอมมันอย่างช้าๆ

เวลาไม่เคยรอใครและผ่านไปอีกสามปี ในปีที่เก้าที่หวังหลินปิดด่านบ่มเพาะ ร่างเงาอีกร่างทับซ้อนกับร่างกาย ก้อนมวลสารนี้ไม่สามารถควบแน่นเป็นร่างกายจริงๆ ได้ หลังจากมันปรากฏขึ้นมาจึงได้ลอยออกจากร่างหวังหลินและหยุดอยู่ด้านหลังห่างไปสิบฟุต

หวังหลินลืมตาและมองร่างแก่นแท้ทั้งสามร่าง ช่วงเวลาเก้าปีที่ผ่านมาหวังหลินได้ผลักดันพลังโบราณให้ถึงจุดสูงสุด ขณะเดียวกันร่างแก่นแท้ทั้งสามก็ได้เพิ่มพลังให้ถึงจุดสูงสุดของมันตามลำดับ

ตอนนี้เขามั่นใจว่าหากต่อกรกับมหาชั้นฟ้าต้าวยี่ก็คงไม่เพลี่ยงพล้ำ กระทั่งรู้สึกว่าเขาน่าจะกดดันต้าวยี่ได้ด้วย!

‘ท่ามกลางเหล่ามหาชั้นฟ้า ต้าวยี่แห่งเผ่าเทพมีระดับพลังอ่อนแอที่สุด ด้วยความแข็งแกร่งของข้า แม้จะไม่สามารถเทียบกับจิ่วตี้ได้ ข้าก็น่าจะเท่ากับหวู่เฟิง…แม้แต่ในเผ่าโบราณ ข้าน่าจะพอต่อสู้กับซ่งเทียนซึ่งมีระดับบ่มเพาะคล้ายกับอาจารย์ซวนลั่วได้ แต่ผู้ชนะยังไม่แน่นอนนัก’

‘นี่ยังเป็นแค่ก่อนที่ข้าจะใช้ร่างอวตารที่แข็งแกร่งที่สุด’ หวังหลินขบคิดอย่างสงบนิ่ง ครู่ต่อมาเขามองดูวิญญาณของจักรพรรดิเทพที่กำลังถูกหลอมด้วยเพลิงวิญญาณ

‘ด้วยเพลิงวิญญาณของข้า มันจึงส่งผลกระทบขึ้นมาบ้างแล้วแต่ก็เชื่องช้า น่าสงสัยว่าเมื่อใดมันจะเสร็จสิ้น’ หวังหลินมองวิญญาณของจักรพรรดิเทพอยู่สักพักก่อนจะถอนสายตา

‘ข้าคงไม่ต้องกังวลเรื่องร่างแก่นแท้ห้าธาตุไปชั่วคราว ตอนที่อยู่ในเมืองหลวงอาณาเขตเต๋า ข้าได้ทำให้มันสมบูรณ์และทำให้ข้าบรรลุระดับวิบากดับสูญขั้นสูงสุด นั่นแปลว่าสิ่งที่ข้าคาดการณ์เอาไว้เป็นเรื่องถูกต้อง!’

‘หากข้าต้องการเพิ่มระดับบ่มเพาะ ขั้นต่อไปคือร่างแก่นแท้สายฟ้าสังหาร…’ หวังหลินมองร่างแก่นแท้สายฟ้าสังหาร ดวงตาเผยประกายแปลกประหลาด

‘สิ่งที่จำเป็นให้ร่างแก่นแท้นี้สมบูรณ์นั้น อาจารย์…พาข้าไปสถานที่หลายแห่งทั่วเผ่าโบราณและได้สิ่งต่างๆ มาเพียงพอ…’ หวังหลินถอนหายใจและถอนสายตา จากนั้นมองไปทางอาณาเขตเต๋า ราวกับมองทะลุผ่านห้องหนึ่งไปได้ถึงภูเขาด้านหลังอารามเต๋า ไปยังชายชราที่ไม่ได้เป็นหนุ่มอีกแล้ว

ผ่านไปสักพักหวังหลินถอนสายตาออกมา เขาตัดสินใจว่าจะไม่ออกจากการปิดด่านบ่มเพาะจนกว่าจะเพิ่มระดับบ่มเพาะขึ้นมาได้ เขาต้องยกระดับไม่ใช่เพื่อก้าวข้ามมหาชั้นฟ้าซ่งเทียน แต่ยังต้องไม่กลัวมหาชั้นฟ้ากุ้ยต้าวไปด้วย

เพียงเท่านั้นเขาถึงจะมั่นใจในการทำให้มหาชั้นฟ้าซ่งเทียนเลือกจี้ตูและพาเขาเข้าไปในอารามบรรพชน

สิ่งสำคัญที่สุด เขาจำเป็นต้องได้พลังในการเข้าแดนเทพบรรพกาลเพื่อปัดเป่าสายหมอกที่ขวางทางออกไปให้หมด ค้นหาเป้าหมายของราชครูอาณาเขตเต๋าให้ได้

‘ความคิดของมหาชั้นฟ้ากุ้ยต้าวช่างแปลกประหลาด…เขาไม่ได้มาตามหาข้าด้วยเรื่องในอาณาเขตเต๋าเลย แต่ข้ายังต้องพึ่งพาความแข็งแกร่งของตัวเองเพื่อขจัดปัญหาทั้งหมดไป ข้าไม่ยอมให้ชีวิตของข้าถูกคนอื่นตัดสิน’ หวังหลินมองร่างแก่นแท้สายฟ้าสังหาร แววตาเป็นประกายวูบวาบ

เส้นทางการฝึกฝนของเขาแตกต่างจากคนอื่นอย่างสิ้นเชิง มันเป็นเส้นทางที่เขารู้มาด้วยตัวเองและมีแค่เขาที่สามารถชี้ทางว่าจะไปทางไหนต่อ ซึ่งการลองผิดลองถูกจะทำให้เขาได้เห็นว่าเดินต่อไปข้างหน้าแล้วเป็นอย่างไร

“ร่างแก่นแท้สายฟ้าสังหารสร้างขึ้นจากแก่นแท้พิเศษ แก่นแท้สายฟ้ามีร่างแก่นแท้ แต่แก่นแท้ที่เหลือเพียงแค่สมบูรณ์เท่านั้น”

“สังหาร จุดจบที่แท้จริง จุดเริ่มต้นที่แท้จริง เขตอาคม…” หวังหลินพึมพำพลางชี้ไปที่ร่างแก่นแท้สายฟ้าสังหาร ร่างแก่นแท้สั่นเทาและค่อยๆ แบ่งตัวออกมาเบื้องหน้าหวังหลิน

ร่างแก่นแท้ถูกห่อหุ้มด้วยสายฟ้า มีเมฆหมอกจำนวนสี่ก้อนกระจายออกมา พอหนึ่งในนั้นปรากฏขึ้น ทั้งห้องกลายเป็นเย็นเยียบและมีจิตสังหารเต็มไปทั่วบริเวณ

นี่คือแก่นแท้สังหาร

เมฆหมอกอีกก้อนหนึ่งกะพริบเป็นสัญลักษณ์แปลกประหลาดนับไม่ถ้วน เพียงสายหมอกเคลื่อนไหวจึงได้มีอักขระปรากฏขึ้นจำนวนมาก นี่คือแก่นแท้เขตอาคม

ส่วนเมฆหมอกที่เหลืออีกสองก้อน หนึ่งในนั้นเปล่งแสงสว่างและอีกหนึ่งเปล่งแสงสีดำสนิท พวกมันเป็นตัวแทนของจุดเริ่มต้นแท้จริงและจุดจบแท้จริง

‘เมื่อสี่แก่นแท้ได้สร้างร่างแก่นแท้ของตัวเองขึ้นมาและผสานเป็นร่างแก่นแท้สายฟ้าสังหารสมบูรณ์ ก็จะสามารถเพิ่มระดับบ่มเพาะของข้าให้ก้าวข้ามผ่านวิบากดับสูญระดับสูงสุด!!’

‘บางทีอาจเป็นผู้สูงส่งชั้นฟ้าหรือผู้สูงส่งชั้นเทวะ แต่เป็นไปได้ที่จะไม่ใช่ทั้งสองอย่างและเป็นขอบเขตที่ข้าไม่รู้จัก…บางทีอาจเป็นมหาชั้นฟ้า!’ หวังหลินเต็มไปด้วยสายตาคาดหวัง จากความเข้าใจของเขา ผู้สูงส่งชั้นฟ้าและผู้สูงส่งชั้นเทวะเป็นแค่คนที่มีระดับบ่มเพาะวิบากดับสูญระดับสูงสุด ทว่าการก้าวเข้าสู่มหาชั้นฟ้าเป็นเรื่องยากเกินไป ดังนั้นพวกเขาจึงแบ่งออกเป็นหลายระดับ

ความจริงทั้งผู้สูงส่งชั้นฟ้าและผู้สูงส่งชั้นเทวะ โดยพื้นฐานแล้วขั้นนี้ล้วนเป็นเซียนขั้นวิบากดับสูญระดับสูงสุดทั้งหมด

หวังหลินมีแววตาเปล่งประกาย หลังจากขบคิดเพียงเล็กน้อยจึงยกแขนขึ้นมาสะบัดเข้าใส่หลังคาของห้องลับ เพดานเปลี่ยนกลายเป็นท้องฟ้าจนก่อเกิดเป็นเหตุการณ์อันแปลกตา

ท้องฟ้าสีคราม ก้อนเมฆสีขาวและสดใสไปถึงหลายพันลี้ ทว่ากลับไม่มีดวงอาทิตย์

หวังหลินคว้าจับแก่นแท้จุดเริ่มต้นแท้จริงโดยไม่ลังเล จากนั้นโยนขึ้นสู่เพดานที่เหมือนท้องฟ้า มันส่องประกายเจิดจ้าคล้ายกับดวงอาทิตย์!

หวังหลินมองไปยังเพดานที่ได้เปลี่ยนกลายเป็นท้องฟ้า จากสายตาเขาคล้ายกับท้องฟ้าได้เปลี่ยนไป ไม่นานนักช่วงเวลาเกือบทั้งวันได้ผ่านไป จุดเริ่มต้นแท้จริงซึ่งได้เปลี่ยนกลายเป็นดวงอาทิตย์ค่อยๆ ตกลงมา

……………………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด