Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 2085 ที่หายไป

Now you are reading Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน Chapter 2085 ที่หายไป at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
ตอนที่ 2085 ที่หายไป

แดนเทพบรรพกาลคืออะไร?

นี่คือคำถามที่เซียนแทบทุกคนบนแผ่นดินเซียนดาราตั้งคำถามขึ้นมา แม้แต่มหาชั้นฟ้าก็ไม่รู้ว่าแดนเทพบรรพกาลเป็นแบบไหนหรือมาจากที่ใด

แม้จะมีคนจำนวนมากเข้าไปมากมาย ก็บอกไม่ได้ว่ามันคือสถานที่แบบใด

หวังหลินมองไปรอบตัว ท้องฟ้าสีแดง ไม่มีดวงดาว ไม่มีดวงอาทิตย์หรือดวงจันทร์ แต่มีแสงอ่อนๆ พื้นดินเป็นรูปวงกลม

ที่นี่สัมผัสวิญญาณใช้ได้อย่างจำกัดและไม่สามารถปกคลุมได้ทั้งแผ่นดิน เขามองเห็นแต่เทือกเขาใกล้เคียงและร่องลึกยาว

หวังหลินก้าวเดินไปบนพื้น ขบคิดเงียบๆ สายตาสับสนและคุ้นเคยไปด้วย

หวังหลินหยุดลงที่ร่องลึกแห่งหนึ่งและสำรวจ มันช่างประหลาดยิ่งราวกับถูกสร้างจากการฟาดฟันด้วยกระบี่

ควันสีดำเบาบางลอยขึ้นมาจากในร่อง เมื่อลอยขึ้นมาในอากาศจึงหายไปอย่างช้าๆ มองจากมุมนี้ ความลึกของร่องนั้นดำมืดราวกับไม่มีอะไรอยู่ตรงนั้น

หวังหลินครุ่นคิดและจากนั้นก็ก้าวเดินต่อไป เขาข้ามผ่านร่องขนาดใหญ่และเดินออกไปไกล เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าไม่รู้ว่านานแค่ไหน หวังหลินเห็นร่องลึกและเทือกเขามากขึ้น

ร่องลึกทั้งหมดดูคุ้นเคย พวกมันเป็นแนวตรงราวกับสร้างจากการฟันกระบี่

“พื้นดินวงกลม…” หวังหลินพึมพำพร้อมกับดวงตาส่องสว่าง เขาทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ยิ่งสูงขึ้นยิ่งทำให้โครงร่างพื้นดินหดลง พอหวังหลินไปถึงยอดสุดและมองกลับมาจึงทำให้เกิดความรู้สึกคุ้นเคยหนักเข้าไปอีก

พื้นดินวงกลมและร่องลึกถูกวางเป็นระเบียบเรียบร้อย รวมกันแล้วพวกมันดูเหมือนเข็มทิศ

เข็มทิศยักษ์ ร่องลึกคือเข็มแต่ละองศา เทือกเขาค่อยๆ กลายเป็นอักขระโบราณ

‘เข็มทิศ…เข็มทิศที่ไร้เข็ม…พื้นดินคือเข็มทิศแต่มันไม่สมบูรณ์ ครึ่งหนึ่งขาดหายไป’ หวังหลินมองพื้นดินและเห็นว่าครึ่งหนึ่งดูเหมือนภาพเลือนลาง

สายตาหวังหลินกวาดผ่านพื้นดินไปและหยุดลงใจกลางเข็มทิศ มีภูเขาที่แทงทะลุขึ้นสู่ท้องฟ้า บนยอดมีหิมะสีรุ้งกำลังตกอยู่ในขณะนั้น

หวังหลินมองภูเขา เผยสีหน้าท่าทางซับซ้อน ในอารามบรรพชนอาณาเขตฉี ตอนที่เขากำลังผ่านแยกสามวิญญาณ หวังหลินก็ได้เห็นภูเขาอันลึกลับแห่งนี้

นี่คือที่ที่เขาเห็นร่างหนึ่งที่กำลังโอบกอดและตั้งคำถามกับท้องฟ้า แต่ตอนนี้เขากำลังมองดูภูเขาหิมะสีรุ้ง เขาไม่เห็นร่างนั้นแต่มีร่างที่คุ้นเคยอีกคนกำลังนั่งตรงนั้น รอคอยเขาอยู่

คนผู้นี้ดูแก่ชราแต่ก็ไม่แก่มากและปกคลุมด้วยแสงสีรุ้ง ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เขาคือชายที่เหมือนเทียนหยุน เหมือนราชันย์เทพสีรุ้งและเหมือนราชครูอาณาเขตเต๋า!

เบื้องหลังร่างนี้ เบื้องหลังภูเขาแห่งนี้มีสะพานอยู่หนึ่งแห่ง ปลายสุดสะพานฝั่งหนึ่งเชื่อมต่อกับเข็มทิศและอีกฝั่งเชื่อมกับท้องฟ้า กลายเป็นเส้นโค้งขนาดใหญ่

สะพานดูเหมือนสะพานย่ำสวรรค์ไม่มีผิด จุดที่เชื่อมต่อกับท้องฟ้า หวังหลินมองเห็นภาพมายาที่อยู่ด้านหลังท้องฟ้าสีโลหิตได้อย่างเลือนลาง

ดูเหมือนมีร่างสองร่างที่อยู่ในภาพมายา แต่มันพร่าเลือนจนมองไม่ออกได้ชัดมากนัก

ภาพนี้เหมือนกับภาพมายาที่เขาเห็นด้านหลังสะพานแห่งที่เก้า

“ในที่สุดเจ้าก็มาที่นี่!” เทียนหยุนมองหวังหลินและหัวเราะ

หวังหลินถอนสายตาออกมาจากสะพานและมองเทียนหยุน เขาไม่ได้พูดอะไรและก้าวเดินเข้าหาอย่างช้าๆ ชั่วครู่ต่อมาหวังหลินจึงยืนอยู่ตรงภูเขาที่มีหิมะสีรุ้งตกอยู่ เขามองหิมะรอบด้านและถอนหายใจ

“ข้ารอคอยวันนี้มานาน ทั้งหมดนี้คือความฝันของเจ้า แต่เมื่อใดที่เจ้ามาที่นี่ จะเกิดการบิดเบือนขึ้นในความฝัน!” เทียนหยุนหัวเราะพลางสะบัดแขน

ทันใดนั้นพื้นดินวงกลมก็เริ่มสั่นเทา เกิดเสียงดังสนั่น ควันสีดำหนาแน่นปะทุออกมาจากร่องลึกหลายแห่ง ควันสีดำลอยทะยานขึ้นไปในท้องฟ้าและพุ่งเข้าหาภูเขาแห่งนี้

พริบตาเดียวควันสีดำจึงปกคลุมท้องฟ้าสีโลหิต จากนั้นก็รวมตัวด้านหลังเทียนหยุนกลายเป็นร่างขนาดยักษ์

ร่างนี้สูงใหญ่และจุนโลกได้ในทันใด มองไกลๆ มันมีผ้าคลุมสีดำปกคลุมใบหน้า แต่หวังหลินจำได้ว่าร่างนี้เหมือนกับเทียนหยุนตรงหน้าเขา

“หวังหลิน แม้ในชาติก่อนของเจ้าจะเป็นถึงเซียนขั้นย่ำสวรรค์ แต่ในเข็มทิศไร้ขอบเขตแห่งนี้ข้ามีอำนาจสูงสุด ทั่วทั้งแผ่นดินเซียนดารา นี่คือสถานที่แห่งเดียวที่ข้าสามารถกลืนกินและผสานกับเจ้าได้!”

“ที่นี่ ความฝันของเจ้าจะถูกบิดเบือน และจากนี้ต่อไป ข้าจะกลายเป็นเจ้า!” เสียงคำรามดังออกมาจากร่างยักษ์ กึกก้องไปทั่วทิศทาง

“ชาติก่อน…” หวังหลินมองเทียนหยุนและร่างที่อยู่ด้านหลังเทียนหยุน สีหน้าหวังหลินสงบนิ่งมาก

“ดูเหมือนเจ้ายังจำไม่ได้ทุกอย่าง ช่างมันเถอะ ก่อนเจ้าตายข้าจะให้เจ้าได้เข้าใจทุกอย่าง!” เทียนหยุนยืนขึ้นและก้าวถอยกลับเข้าไปในร่างใหญ่ยักษ์นั้น ผ้าคลุมสีดำที่ปกคลุมใบหน้าได้ขยับออกมาเผยให้เห็นใบหน้าอันชั่วร้าย

“แผ่นดินเซียนดาราไม่มีอยู่จริง มันถูกสร้างขึ้นจากความฝันของเจ้า ความจริงที่นี่เป็นแค่มิติว่างซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนฝืนชะตาปฐพี”

‘มิติว่าง เอ…’ หวังหลินขบคิด

“เจ้าไม่เชื่อข้า? เจ้าที่ไม่ได้ฟื้นความทรงจำช่างน่าสงสารเสียจริงๆ! หวังหลิน ข้าจะบอกเจ้าให้ฟัง จักรวาลประกอบด้วยดินแดนใหญ่สี่แห่ง ดินแดนแห่งนี้คือดินแดนฝืนชะตาปฐพี! แต่ละดินแดนมีสมบัติหนึ่งชิ้นและสมบัติของดินแดนฝืนชะตาปฐพีคือเข็มทิศไร้ขอบเขต สมบัติระดับสูญสิ้นเพียงชิ้นเดียว!”

“แดนเทพบรรพกาลแห่งนี้คือเข็มทิศไร้ขอบเขต!” ร่างขนาดยักษ์ของเทียนหยุนมีแววตาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

“ส่วนเจ้า ในชาติที่แล้วเจ้าคือคนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกและสามารถทำทุกอย่างได้ตามที่ต้องการ แต่เพื่อสตรีคนเดียว เจ้าถึงกับยืมเข็มทิศไร้ขอบเขตจากองครักษ์และใช้มันเพื่อฟื้นคืนชีพภรรยา!”

“เจ้าใช้เต๋าแห่งความฝันที่เจ้าสร้างขึ้นเองมากระจายตัวตนของเจ้าไปสร้างวัฏจักรแห่งการเกิดใหม่ เจ้าต้องการทำให้ความฝันในการชุบชีวิตภรรยาเป็นจริงขึ้นมาและหวนคืนการเปลี่ยนแปลงแห่งฟ้าดิน!”

“แม้แต่ข้ายังตกตะลึงการกระทำและความคิดบ้าๆ ของเจ้า!” เทียนหยุนมองหวังหลินพร้อมกับพูดเสียงดังกึกก้อง

หวังหลินหลับตาและลืมตาขึ้นมาชั่วครู่ต่อมา เขามองร่างใหญ่ยักษ์นั้นและเอ่ยถาม “ถ้าเป็นแบบนี้แล้ว เช่นนั้นเจ้าเป็นใคร?”

เทียนหยุนพูดอย่างมืดมน “ข้าคือองครักษ์เข็มทิศไร้ขอบเขต ตอนนั้นเจ้าดึงไปจากมือข้า! ข้ามีศิษย์คนหนึ่ง เจ้าน่าจะรู้จักเขา เขาชื่อโม่จื่อ!”

หวังหลินขบคิด

เทียนหยุนมีแววตาเปล่งประกายพลางสะบัดแขนขวาให้ควันสีดำส่วนหนึ่งบนร่างกายแยกเข้าสู่ท้องฟ้าจนเกิดเป็นวังวนสีดำ วังวนหมุนต่อไปปรากฏเป็นภาพหลายอย่างข้างใน

“หากเจ้ายังไม่เชื่อข้า เจ้าก็ดูด้วยตาตัวเอง! เจ้าจะบอกได้เองว่านี่คือเรื่องจริงหรือโกหก”

ภายในวังวนสีดำ หวังหลินเห็นตัวเองในอีกรูปแบบหนึ่งกำลังกอดร่างภรรยาและร้องคำรามใส่ท้องฟ้า

เขาเห็นตัวเองในอดีตที่ชุบชีวิตลี่มู่หวานด้วยความล้มเหลว สีหน้าแห่งความโศกเศร้า เสียงคำรามแห่งความโกรธเรี้ยวและสายตาแห่งความบ้าคลั่ง

“แม้สวรรค์อยากให้เจ้าตาย ข้าก็จะพาเจ้ากลับมา! ข้าจะทำลายสวรรค์ ป่นปฐพี ข้าจะพาตัวเองเข้าไปในวัฏจักรแห่งการเกิดใหม่และค้นหาทุกวิธีทางที่จะพาเจ้ากลับมาตลอดไป…”

“หากข้าทำไม่สำเร็จ ข้าหวังหลิน จะไม่มีวันตื่นขึ้นอีกเลย ข้าจะขอตกอยู่ในภวังค์แห่งการเกิดใหม่ไปกับเจ้าชั่วนิรันดร์…”

ขณะที่หวังหลินมองภาพในวังวน ความทรงจำหลายอย่างในอดีตปรากฏขึ้นในใจ ราวกับพวกมันมีอยู่แล้วแต่เขาแค่ลืมไป

หวังหลินครุ่นคิดอย่างเงียบงันไปชั่วขณะก่อนจะมองเทียนหยุนและเอ่ยขึ้น “เพื่อให้ข้ามาที่นี่ เจ้าบอกข้าว่าสามารถชุบชีวิตลี่มู่หวานที่นี่ได้ นั่นเป็นเรื่องจริงหรือโกหก?”

“ทั้งจริงและโกหก! เข็มทิศไร้ขอบเขตเป็นสมบัติขั้นดับสูญชิ้นเดียวในดินแดนฝืนชะตาปฐพี มันสามารถเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างได้ แต่เจ้าจะไม่ได้รับโอกาสนั้น” เทียนหยุนเห็นความสงบนิ่งของหวังหลินและไม่เห็นสัญญาณการบิดเบือนเลยแม้แต่น้อย สิ่งนี้ทำให้เทียนหยุนลังเล พอเขาได้ยินคำพูดของหวังหลินจึงไม่ได้ลงมือวู่วาม เขารู้สึกเหมือนมีบางอย่างผิดพลาด

“นั่นมันสะพานอะไร?” หวังหลินยกแขนขึ้นมาชี้ใส่สะพานที่เชื่อมกับฟ้าดินด้านหลังร่างใหญ่ยักษ์ของเทียนหยุน

“สะพานย่ำสวรรค์ของเข็มทิศไร้ขอบเขต มันเป็นร่างที่แท้จริงของเข็มทิศย่ำสวรรค์ที่ทุกชีวิตในดินแดนฝืนชะตาปฐพีจะสัมผัสได้เมื่อระดับบ่มเพาะแต่ละคนมาถึงจุดหนึ่ง” ความรู้สึกที่เกิดขึ้นกลับชัดเจนสำหรับเทียนหยุน แต่เขาก็คิดหาเหตุผลไม่ออกว่าทำไม

หวังหลินยิ้มพลางมองเทียนหยุนและพูดอย่างสงบนิ่ง “เจ้ากำลังลังเลและสงสัยว่าทำไมถึงไม่เกิดการบิดเบือนขึ้นเหมือนคนหลับที่กำลังจะตื่น”

เทียนหยุนมีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที ร่างขนาดใหญ่ยักษ์จึงถอยไปหลายก้าวเพื่อจ้องมองหวังหลิน จากนั้นพอมองอย่างละเอียดจึงมีแววตาไม่เชื่อ

“เจ้า…มีบางอย่างผิดพลาด ถึงแม้เจ้าจะจำชีวิตในอดีตได้ เมื่อเข้าสู่เข็มทิศไร้ขอบเขต เจ้าจะตื่นจากเต๋าแห่งความฝัน!!”

“ที่ผ่านมาหลายครั้ง พอถึงขั้นนี้เจ้าก็จะตื่นขึ้นตลอด คราวนี้มันจะไม่มีอะไรแตกต่าง!”

หวังหลินมองเทียนหยุนและเอ่ยขึ้นเบาๆ “เจ้าไม่ใช่องครักษ์ แต่ที่หายไป…”

พอหวังหลินพูดเช่นนี้ เทียนหยุนพลันรู้สึกหัวใจหล่นวูบ

…………………………………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด