Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 2015 เก้าบทเพลง สามสัญญาณ (1)

Now you are reading Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน Chapter 2015 เก้าบทเพลง สามสัญญาณ (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
ตอนที่ 2015 เก้าบทเพลง สามสัญญาณ (1)

พอเห็นความมุ่งมั่นของหวังหลิน ซวนลั่วจึงหรี่ตาแคบลงแต่ก็ไม่หยุดยั้งหวังหลิน เขาเฝ้าดูหวังหลินก้าวเดินไปยังขั้นที่ 201

แรงกดดันจากภูเขากุ้ยต้าวกลายเป็นแรงกดดันเกินอธิบายและกระแทกลงใส่หวังหลิน

ช่องว่างระหว่างพลังในขั้นที่ 200 และ 201 นับว่ามหาศาลมาก หากก่อนหน้านี้คือคลื่นโหมกระหน่ำที่หวังหลินต้องใช้พลังทั้งหมดและเผาผลาญโครงร่างตะวันมหาชั้นฟ้าเพื่อข้ามผ่าน เช่นนั้นตอนนี้มันคือทะเลทั้งผืนที่กำลังกระหน่ำลงมาใส่เขา

หลังจากก้าวไปเพียงขั้นเดียว หวังหลินหน้าซีดยิ่งขึ้น ร่างกายสั่นเทา โลหิตไหลออกจากมุมปากอย่างต่อเนื่อง กระดูกกำลังถูกบดขยี้ เลือดเนื้อฉีกขาด วิญญาณดั้งเดิมกำลังแตกสลาย และวิญญาณเขากำลังถูกลบล้างออกไป!

เขาเหมือนเรือที่กำลังล่องอยู่ในทะเล เป็นเรือที่เปราะบางและกำลังเผชิญหน้ากับพลังของทั้งมหาสมุทร!

ทว่าหวังหลินไม่ยอมถอย แม้เส้นทางต่อไปจะอันตรายยิ่ง หวังหลินก็ไม่ยอมละทิ้งโอกาสนี้! มันคือโอกาสที่มีเพียงครั้งเดียวในชีวิต บางทีอาจเป็นโอกาสสุดท้ายนับตั้งแต่ที่เขาผสานพวกมันล้มเหลวในครั้งล่าสุด!

เมื่อเขายอมแพ้ไปแล้ว ไม่เพียงจะล้มเหลวในการผสาน มันคงกลายเป็นรอยแผลในใจหวังหลิน กลายเป็นเงาของกุ้ยต้าวที่ไม่อาจต้านทานได้ ซึ่งสามารถสร้างความหวาดกลัวไว้ได้อีกนาน

‘มหาชั้นฟ้ากุ้ยต้าว…ข้าต้องเดินผ่านสามร้อยขั้นนี้ไปให้ได้!’ หวังหลินใบหน้าบิดเบี้ยว ความเจ็บปวดทั้งภายในและภายนอกร่างกายทำให้เขาต้องการร้องคำรามใส่ท้องฟ้า ทว่าเขาก็ระงับเอาไว้และสงวนพลังคำรามนี้ในร่างกายเพื่อก้าวครั้งที่สอง

พอก้าวครั้งที่สอง จิตใจหวังหลินสั่นไหว ร่างกายสั่นสะท้านอย่างรุนแรงแต่สัมผัสได้ชัดเจนว่าพลังทั้งสองสายในร่างกายกำลังถูกแรงกดดันนี้บังคับให้ผสานกัน

แต่ขณะที่พวกมันผสานกัน ได้เกิดพลังต่อต้านอันน่าตกตะลึงขึ้นมาด้วย ถ้าไม่ใช่เพราะแรงกดดันจากภูเขา หวังหลินคงไม่มีทางหยุดยั้งพลังต่อต้านนี้ได้และการผสานก็คงจะล้มเหลวอีกรอบ

แต่ตอนนี้หวังหลินไม่จำเป็นต้องระงับมันเอาไว้ เนื่องจากแรงกดดันจากภูเขากุ้ยต้าวทำหน้าที่ในการระงับพลังการต่อต้านให้เขาแล้ว

หวังหลินพยายามก้าวไปขั้นที่สาม สี่ ห้าและหก!

แม้จะสั่นเทา ทว่าร่างกายมีความทนทานอย่างประหลาด ความทนทานช่วยค้ำจุนกระดูกสันหลัง ทำให้หวังหลินมองขึ้นไปเผชิญหน้าทุกคนได้!

ขั้นที่เจ็ด ขั้นที่แปด! หวังหลินก้าวไปบนขั้นที่ 208 เส้นเลือดบนใบหน้าบวมเป่งและเกิดเสียงแตกร้าวดังขึ้นในร่างกายราวกับกระดูกกำลังเสียดสีกัน!

แต่สายตายังเผยความไม่ยอมแพ้ เขารู้สึกว่าพลังทั้งสองสายกำลังผสานกันอย่างรวดเร็วภายใต้แรงกดดัน นาทีนั้นหวังหลินรู้สึกถึงบางสิ่งที่แตกต่างกันออกไป!

“พลังโบราณอยู่ข้างนอกและระดับบ่มเพาะเทพอยู่ข้างใน การผสานของพลังเทพและพลังโบราณให้กลายเป็นหนึ่ง…” หวังหลินยกเท้าและก้าวสู้ขั้นที่ 209 และ 210 !

วินาทีที่เหยียบลงไป ในที่สุดพลังทั้งสองสายก็ผสานกันได้เศษเสี้ยวหนึ่งภายใต้แรงกดดันอันรุนแรงจากภายนอก!

พลังเศษเสี้ยวนี้มีทั้งพลังเทพและพลังโบราณ แต่ก็เป็นพลังของหวังหลินเองด้วย!

เมื่อพลังสายนี้ปรากฏขึ้นมา ภาพเหตุการณ์หนึ่งปรากฏขึ้นในท้องฟ้า ทำให้ซวนลั่วและร่างที่อยู่ในสายหมอกบนยอดหอคอยต้องลืมตาอย่างตกตะลึง!

ท้องฟ้าเปลี่ยนจากสีครามไปเป็นสีทอง ท้องฟ้าสีทองเปล่งประกายเจิดจ้าและแผ่กระจายออกไปทั่วสารทิศ พริบตาเดียวท้องฟ้าภายในรัศมีหลายแสนลี้ได้เปลี่ยนกลายเป็นสีทอง!

ท้องฟ้าสีทองสามารถมองเห็นได้ไกลสุดสายตา เป็นภาพที่น่าตกตะลึงยิ่ง!

สีทองนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากวิชา ในเผ่าโบราณ ท้องฟ้าสีทองโดยธรรมชาติที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากวิชานั้นไม่เคยมีขึ้นมาก่อน

การปรากฏของฉากเหตุการณ์นี้ทำให้ซวนลั่วต้องมองขึ้นไป ดวงตาสะท้อนกับท้องฟ้าสีทองด้านบน

พื้นดินของเผ่าโบราณเป็นสีดำ แต่ภายใต้ท้องฟ้าสีทองนี้กลับทำให้มันเข้มมากขึ้นอย่างมหาศาล ทั่วทั้งพื้นดินจึงถูกปกคลุมด้วยความมืดไร้ที่สิ้นสุด!

หากมีคนมองมายังพื้นดินสีดำนี้ จิตใจจะเกิดอาการตกตะลึง!

มันคือ…

“เก้าบทเพลง สามสัญญาณ สัญญาณแรก ท้องฟ้าสีทองและปฐพีสีดำ!” ซวนลั่วสูดหายใจลึก

เก้าบทเพลงสามสัญญาณเป็นปรากฏการณ์ที่ปรากฏขึ้นตอนที่บรรพชนเทพและบรรพชนโบราณถือกำเนิด เก้าบทเพลงคือบรรพชนโบราณและสามสัญญาณคือบรรพชนเทพ นอกจากการถือกำเนิดจากแต่ละฝ่ายแล้ว ปรากฏการณ์เหล่านี้ไม่เคยเกิดขึ้นที่ไหนอีกเลย

แต่วันนี้มันกำลังเกิดขึ้นบนภูเขากุ้ยต้าว ท้องฟ้าสีทองและปฐพีสีดำได้เปล่งสัมผัสอันแปลกประหลาดเกินจะพูดออกมาได้ รอบด้านกลายเป็นเงียบสงัดในทันที

ความคิดเดียวในหัวหวังหลินตอนนี้คือไปให้ถึงขั้นที่สามร้อย และระหว่างกระบวนการนี้จะเกิดการผสานพลังเทพและพลังโบราณเข้าไปด้วยกัน!

เมื่อท้องฟ้าสีทองปฐพีสีดำปรากฏขึ้นมา หวังหลินเหยียบไปบนขั้นที่ 211 ภูเขากุ้ยต้าวคล้ายกับสั่นไหว หวังหลินรู้สึกว่าภูเขานับไม่ถ้วนกำลังกดทับเข้ามาใส่ แต่หวังหลินก็ก้าวไปอีกโดยไม่ลังเล!

ก้าวที่ 11

ก้าวที่ 12

ก้าวที่ 13

ก้าวที่ 14

จนกระทั่งก้าวที่ 19

ทุกย่างก้าวทำให้ร่างหวังหลินสั่นสะท้าน เขาอ่อนแอมากแม้กระทั่งวิญญาณดั้งเดิมและวิญญาณของตัวเองก็กำลังสั่นไหวภายใต้แรงกดดันราวกับไม่สามารถทนได้อีกต่อไปแล้ว

พอก้าวไปบนขั้นที่ 219 ร่างหวังหลินจึงแตกสลาย ทว่ามันสลายเป็นควันสีดำนับไม่ถ้วนที่กลับคืนเป็นร่างเดิมอย่างรวดเร็ว!

หวังหลินกระทั่งยอมใช้พลังของมือสังหารเพื่อฟื้นคืนร่างกาย ตราบใดที่วิญญาณเขาไม่ถูกทำลาย หวังหลินสามารถบังคับการผสานพลังนี้ได้หลายครั้งตราบที่เขาต้องการ!

อย่างไรก็ตามภายใต้แรงกดดันที่มีอยู่ตอนนี้ แม้จะสามารถฟื้นคืนร่างกายได้นับพันครั้ง เขาก็อาจจะยังไม่สามารถผสานพลังขึ้นได้เพราะวิญญาณเขาอาจจะตายไปจากแรงกดดัน!

แต่แรงกดดันที่คุกคามถึงชีวิตเช่นนี้ถือเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการผสานพลังเทพและพลังโบราณ หวังหลินกู่ร้องคำราม ฝ่าเท้าเหยียบย่ำไปบนขั้นที่ 220!

เสียงปะทุดังกึกก้องไปทั่วอาณาบริเวณอย่างบ้าคลั่ง เท้าของหวังหลินพังทลายกลายเป็นควันสีดำนับสิบครั้งและก่อเกิดอีกหลายสิบครั้งจนในที่สุดเขาก็ประคองตัวเองได้!

เมื่อเขายังยืนอยู่ได้ บนท้องฟ้าสีทองปฐพีสีดำเกิดเสียงดังสนั่นในทันที เสียงนี้ไม่ได้ชัดเจนนักแต่ไม่นานมันก็ผ่านเข้ามากลายเป็นเสียงที่ชัดเจน

หากฟังดีดีมันคือเสียงของสายลม แต่ที่น่าประหลาดคือไม่มีลมพัดผ่านมา แต่เป็นเสียงลมที่กำลังพัดเป็นบทเพลง!

กระนั้นตอนที่เสียงสายลมดังออกมา ซวนลั่วมีสีหน้าเปลี่ยนไป!

คนชุดเทาทั้งสี่คนที่นั่งอยู่ในเสาทั้งสี่ต่างก็ลืมตา พวกเขามองไปบนท้องฟ้าด้วยท่าทีเปลี่ยนไป

ส่วนร่างที่อยู่ในสายหมอกพลันลืมตาขึ้นตอนที่ท้องฟ้าสีทองปฐพีสีดำปรากฏ เขาขบคิดเล็กน้อยและเริ่มพึมพำ

“บทเพลงวายุสวรรค์…บทเพลงแรกของเก้าเพลง…”

ภายในร่างหวังหลินเกิดการผสานพลังทั้งสองสายขึ้นมาอีกเศษเสี้ยว มันไม่ได้ไหลเวียนอยู่ในร่างแต่รวมอยู่เป็นหลักแหล่ง ขณะที่พลังเทพและพลังโบราณผสานกันอย่างต่อเนื่อง พลังสายนี้ค่อยๆ เติบโตขึ้นอย่างช้าๆ

แต่หวังหลินรู้ว่าถึงแม้เขาจะไม่สามารถมองทะลุพลังนี้ได้ มันก็เป็นพลังที่เหนือชั้นกว่าพลังเทพและพลังโบราณไปแล้ว!

มันคือพลังที่เขาต้องการจากการผสานพลัง นับเป็นความเสียใจที่ล้มเหลวเมื่อครั้งนั้น!

เขาได้ยินเสียงเพลงแห่งสายลม มีเสียงดังกึกก้องลอดผ่านเข้ามาราวกับกำลังขับขานและเล่าเรื่องราว ทว่าหวังหลินไม่เข้าใจ เช่นเดียวกับที่เขาไม่เข้าใจเสียงพึมพำในลูกปัดฝืนลิขิตฟ้า

หวังหลินรู้สึกเหนื่อยแต่ก็ยังก้าวขึ้นภูเขากุ้ยต้าว เขากัดฟันและเดินต่อไปจากขั้นที่ 220 ทุกๆ สองขั้นร่างกายจะพังทลายกลายเป็นสายใยสีดำและก่อเกิดขึ้นมาใหม่ กระนั้นวิญญาณและวิญญาณดั้งเดิมกำลังจะไม่สามารถทนไหวได้อีกต่อไป

ราวกับเขาใกล้จะถึงขีดจำกัด

หนึ่งก้าว หนึ่งก้าว หนึ่งก้าว…พอหวังหลินก้าวไปบนขั้นที่ 230 จึงกระอักโลหิตออกมาหยดลงบนขั้นบันได แต่กลับกลายเป็นภาพที่น่าตกตะลึง

เพราะนาทีที่โลหิตหยดลง เสียงที่สองดังขึ้นมาในบทเพลงวายุสวรรค์!

มันคือเสียงของสายฟ้า ซึ่งดังกึกก้องไปทั่วทิศทาง สายฟ้าคล้ายกับคำรามแต่ก็มีจังหวะดุจเสียงเพลงสายฟ้าแห่งสวรรค์!

สายฟ้าดังกึกก้องและผสานกับบทเพลงวายุ ทั้งสองเสียงผสานกันราวกับม้านับล้านตัวพุ่งทะลุผ่านท้องฟ้าสีทองปฐพีสีดำ!

‘ตอนที่บรรพชนโบราณถือกำเนิด เขามาพร้อมกับเก้าบทเพลง หากทั้งเก้าบทเพลงปรากฏขึ้นมา พวกมันจะกลายเป็นบทเพลงวันเกิด…ลือกันว่าตั้งแต่ยุคโบราณเมื่อทั้งเก้าบทเพลงสามสัญญาณปรากฏบนแผ่นดินเซียนดารา ผู้สืบทอดบรรพชนเทพและบรรพชนโบราณจะปรากฏตัว…’ ซวนลั่วมองหวังหลิน เขารู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถมองทะลุศิษย์ของตนได้อีกต่อไปแล้ว

‘ในโลกถ้ำ ข้าเห็นเขามี…เนตรสีเงิน…’

‘นี่เป็นแค่ข่าวลือที่แพร่กระจายไปทั่วแผ่นดินเซียนดารา…จะกลายเป็นเขาหรือไม่…’ ซวนลั่วตกอยู่ในภวังค์ เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้จะให้เชื่อทุกอย่างคงเป็นไปได้ยาก

………………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด