มีแค่เราที่เป็นเนโครแมนเซอร์ 34 โซนปลอดภัยในซูวอน-ฮวาซอง(3)

Now you are reading มีแค่เราที่เป็นเนโครแมนเซอร์ Chapter 34 โซนปลอดภัยในซูวอน-ฮวาซอง(3) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

มีแค่เราที่เป็นเนโครแมนเซอร์ ตอนที่ 34 โซนปลอดภัยในซูวอน-ฮวาซอง(3)

 

“กระทู้เมื่อวานเป็นการทดลอง จากนี้ไปเขาจะได้ทองจากแต่ละคนและทําอะไรก็ได้ที่ใจอยาก เรื่องใหญ่แน่”

 

“ไม่มีความเชื่อที่ไม่มีเหตุผลสินะ?”

 

ซองอูพยักหน้า

 

จากระบบเกมในตอนนี้ คนที่เริ่มใช้สมองเพื่อผลประโยชน์เริ่มมีมากขึ้น

 

“พวกเราไปไม่ได้หรอก ยองดึงโพน่ะไกลเกินไป”

“แหงสิ อ่านนี่”

 

-คิมวัยกลางคน : อาชีพชั้นเป็น “มิชชันนารี” ได้ปลอดภัยเล็ก ๆ มาแล้วในซูวอน กําลังหาผู้หญิงอายุน้อยมาอยู่ด้วยมาอยู่ด้วยกันเถอะ พาเพื่อนมาด้วยก็ได้ฮ่าๆๆๆๆ

-ผู้รอดชีวิต 44 : แหวะ ลุง น่าขยะแขยง

 

“ให้ตายสิ ไม่ได้จะเอาแบบนี้ แล้วนี่ล่ะ?”

 

ฮันโฮให้ดูอีกคอมเมนต์

 

-ผู้จัดการฝ่ายคู : ชั้นก็มีที่ปลอดภัยในซูวอน ฮวาซองด้วยเป็นนักสํารวจ 3 ดาวเหมือนกัน ขอเก็บค่าเช่ารายเดือน มาติดต่อได้

 

“เช่ารายเดือนเหรอ? มีเจ้าพ่อที่ดินในเวลาแบบนี้ด้วยเหรอ? ไปที่นั่นเป็นไง?”

 

ถึงซองอูจะไม่ชอบเรื่องแบบนี้ เขาก็คิดว่าเป็นสิ่งจําเป็นที่จะไปยืนยันเรื่องพื้นที่ปลอดภัย

 

“ซูวอน ฮวาซอง มันไม่ไกลใช่ไหม?”

 

“อืม…ไม่เคยเดินไปที่นั่นมาก่อนเลย แต่นั่งรถบัสไป 20 นาทีนะ”

 

“ให้มันเป็นที่หมายต่อไปของเราดีไหม?”

 

ทุกคนเห็นด้วย แม้ทุกอย่างจะไม่แน่นอนพวกเขาก็รู้สึกกับ แนวคิดเรื่องพื้นที่ “ปลอดภัย”

 

จนถึงตอนนี้ ไม่ว่าพวกเขาจะนอนที่ใด พวกเขาต้องมีคนเฝ้ายามตลอดเวลา มันทําให้พวกเขานอนไม่พอและเครียดและในที่สุดได้เจอที่ที่จะหลับได้อย่างไร้กังวล! พวกเขาย่อมต้องอยากไปที่นั่นอยู่แล้ว

 

“วันนี้หลับก่อนแล้วค่อยเดินทางพรุ่งนี้ ฮันโฮ บอกแผนกับพ่อแม่นายและเก็บของที่จําเป็นก่อนออกเดินทาง”

 

“ได้เลย”

 

ไม่นานฮันโฮก็กลับมาหลังจากคุยกับพ่อแม่

 

“พ่อกับแม่บอกว่ามีพวกโจรอยู่รอบ ๆ ที่นี่”

 

“กลุ่มโจรเหรอ? เหมือนกับพวกที่ H อพาร์ตเมนต์เมื่อวานสินะ?”

 

เมื่อกฎหมายพังทลายลง กลุ่มโจรจึงได้เล็งที่ผู้รอดชีวิตแทนที่จะเป็นมอนสเตอร์สินะ?

 

“คงเหมือนพวกอันธพาลม.ปลายนั่นแหละ พวกมันขี่มอเตอร์ไซคอยปล้นคนรอดชีวิตล่ะมั้ง? แม่ชั้นบอกว่าเห็นคนบ้านข้าง ๆ ถูกพวกมันดักปล้นตอนที่พยายามจะออกไปข้างนอกน่ะ”

 

ซองอูยิ้มเย็นชา คนพวกนี้คืออันธพาลชั้นต่ํา

 

“เจ้าพวกบ้านี้ไม่รู้อะไรเลย”

 

“พวกมันไม่น่ากลัวหรอก”

 

ปาร์ตี้ของซองอูมีประสบการณ์ในการต่อสู้มากพอแล้ว

 

นอกจากว่าพวกเด็กอันธพาลจะไม่โง่พอ พวกมันจะไม่กล้าปรากฏตัวต่อหน้าปาร์ตี้ซองอูที่นําโดยเหล่าโครงกระดูก

 

แต่ในเช้าวันถัดมา พวกเขาได้เจอกับพวกมันจริง ๆ

 

บรื่นนนน!

 

พวกอันธพาลมารวมตัวกันที่ทางเข้าชั้นล่างราวกับว่าได้ข่าวเรื่องปาร์ตี้ของซองอู มีมอเตอร์ไซทั้งหมด 7 คันแต่ละคันมีคน 2 คน รวมแล้วมี 14 คนที่รอให้พวกเขาออกมา

 

“นี่ คุณน่ะ?”

 

เด็กสาวม.ปลายข้างหลังคนขี่มอเตอร์ไซสีแดงยิ้มโง่ ๆ

 

“ขอทุกอย่างที่มีให้กับเราได้ไหม?”

 

ผู้ชายอีกคนที่เจาะแหวนตรงจมูกพูดขึ้นบ้าง

 

“ตอนซ่อนตัวอยู่ในบ้านควรจะเงียบนะ พวกแกถูกจับได้ตอนที่พวกเราผ่านมาแถวนี้ยังไงล่ะ”

 

เขาขู่พวกเขาด้วยกระบองในมือซ้ายและเหวี่ยงมันไปมา

 

“เอาอาวุธทุกชิ้นกับทองมาแล้วพวกเราจะใจดีด้วย เราไม่อยากจะเห็นเลือดพวกแก หา?”

 

แต่ซองอูไม่รู้สึกถึงภัยคุกคามแม้แต่น้อย เขาหัวเราะตั้งแต่ก่อนที่ตัวเองจะรู้ตัว

 

“แกแค่ได้ยิน แต่ไม่เห็นอะไรใช่ไหมล่ะ?”

 

พวกโจรเด็กหน้าแตกตื่น

 

“หา? ว่าไงนะ? เราไม่เห็นอะไร?”

“อย่าทําท่าสบายใจแบบนั้นเลย ไม่เห็นเหรอว่าเรามากี่คน?”

 

ซองอูซ่อนโครงกระดูกไว้ที่บันไดชั้นสามเมื่อคืนเผื่อว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น พวกโจรจึงไม่รู้เรื่องอะไรเลยเกี่ยวกับโครงกระดูก

 

กรอบ แกรบ

 

มีบางอย่างลงมาจากบันได

 

“อ๊ะ? หนีเร็ว!”

 

“บินคันเร่งเลย! เดี๋ยวนี้!”

 

พวกโจรกลัวและเริ่มหันรถหนีตั้งแต่ก่อนที่โครงกระดูก

 

จะออกมา

 

บรื่นนนน! บรื่นนนน!

 

พวกเโจรหนีไปโดยขี่ด้วยความเร็วเต็มที่ ควันไอเสียลอยเต็มไปหมด ฮันโฮกับจีซุงุนงงเมื่อเห็นพวกโจรที่หนีไป

ซองอูใบหน้าเศร้าหมอง

 

“อา”

 

“มีอะไรเหรอ?”

 

จีซูถาม

 

และไม่นานพวกเขาก็ได้รู้เหตุผล

 

หมาป่าตัวเท่ากระทิง ไม่สิ ตัวเท่ารถยนต์ได้ปรากฏตัวในกลุ่มรถที่ถูกทิ้งในที่จอดรถ

 

“มีสามตัว แต่อาจจะมีตัวอื่นหลบอยู่อีก”

 

ซองอูได้ยินคนพูดถึงหมาป่าตัวใหญ่มาหลายครั้งสิบเอกคิมเตือนเขา และก็มีคนคอมเมนต์เรื่องนี้ในกระดานข่าวอยู่เป็นระ

ยะ

 

ซองอูจึงคิดไว้ว่าวันหนึ่งเขาจะต้องเจอกับพวกมัน

 

แต่ไม่ว่าเขาจะคิดหนักอย่างไร เขาก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับหมาปาร่างยักษ์ด้วยวิธีการแบบไหน

 

มันอันตรายที่จะต่อสู้ตรง ๆ กับหมาป่าในระยะไกล นอกจากฟัน กรงเล็บ และพละกําลังที่น่ากลัวของพวกมันแล้วจํานวนของซองอูและเพื่อนยังเสียเปรียบอีกด้วย

 

“ทุกคน ถอยกลับไปในบ้าน!”

 

กระดูกสันหลังของหมาปานั้นขนานกับพื้น พวกมันปรับสมดุลร่างกายได้โดยพลิกตัวไปมา ต่อให้มันจะกําลังต่อสู้อยู่ก็ตามแต่กระดูกสันหลังของมนุษย์นั้นดิ่งลงสู่พื้น หากล้มลงเมื่อไหร่ก็ยากที่จะตั้งหลักกลับมาได้ หรือก็คือ ถ้าพวกเขาล้มมันก็จบเห่

 

พวกเขาถอยกลับเข้าบ้านช้า ๆ แน่นอนว่ามันไม่ปลอดภัย

 

หมาป่าเป็นมอนสเตอร์ที่มีพละกําลังมหาศาล มันฉีกกระชากหน้าต่างและทําลายกําแพงเพื่อเข้าไปข้างในได้ง่าย ๆ

 

เสียงหมาป่าเข้าใกล้พวกเขาอย่างช้า ๆ ราวกับว่ามันพร้อมที่จะกระโจนใส่พวกเขาในทุ่มเมื่อ แต่ปาร์ตี้ของซองอูนั้นถอยกลับอย่างระมัดระวัง สุดท้ายพวกหาจุดซ่อนที่ปลอดภัยเจอ

 

ฟุด ฟิด

 

หมาปาหน้าสุดดมกลิ่นที่พื้นอย่างแรง

 

ถึงจะไม่เห็นเหยื่อในสายตา แต่พวกหมาป่าก็รับรู้ได้ว่าพวกเขาอยู่ตรงไหน

 

พวกมันเข้าไปในหลุมแปลก ๆ แต่ไปไม่ไกลนัก มันเตรียมจะลากเหยื่อที่จนมุมในตึกออกมาโดยการมุดหัวเข้ามาในอาคารแคบ ๆ

 

ในตอนนั้นเอง มาบางอย่างถูกขว้างใส่หัวของมันและแตกออก

 

มันคือขวดแก้วที่มียี่ห้อน้ําส้มติดอยู่

 

“โดนล่ะ!”

 

แต่ประเด็นก็คือสิ่งที่อยู่ในขวด

 

ของเหลวเหนียวหนืดเปียกชุ่มหัวหมาป่า ควันลอยขึ้นมาพร้อมกับกลิ่นเหม็นเน่า

 

เส้นขนหยาบ ๆ ของมันละลายไปราวกับปุยนุ่น มันคือกรดจากผู้เฒ่าสไลม์ที่ซองอูให้โครงกระดูกเก็บใส่ขวดจากเมื่อวาน

 

พวกหมาป่าที่หวาดกลัวเกาหน้าด้วยกรงเล็บของตัวเองแต่ขนและผิวหนังที่ถูกกรดละลายไปแล้วก็หลุดออกจากหัว

 

“ปาไปเลย!”

 

หอกหลายเล่มขว้างไปที่จมูกและคอของพวกมัน

 

นี่คือการต่อสู้ของสัตว์สองเท้า โดยเฉพาะมนุษย์ที่มีกระดูกสันหลังในแนวดิ่ง ซึ่งการใช้พลังที่มากกว่าผู้ล่าก็คือการ “ขว้าง

 

โครงสร้างกระดูกของมนุษย์นั้นทําให้ขว้างได้ไกลและแม่นยํากว่าสัตว์อื่น มนุษย์ยุคโบราณใช้ “หอก” เพื่อล่านักล่าที่ใหญ่กว่าและแข็งแรงกว่าได้

 

แต่พวกหมาปาไม่ย่อท้อ หมาปาอีกตัวซัดประตูหน้าด้วยกรงเล็บและเข้ามาในที่ซ่อน

 

“นี่แก ตอนนี้ล่ะ!”

 

ซองอูสั่งออกโครงกระดูกตัวหนึ่งพุ่งเข้าใส่หมาป่า หมาปากัดมันอย่างไร้ปรานี

 

แต่ด้านในซี่โครงของโครงกระดูกนั้นมีขวดแก้วที่ใส่สไลม์

เอาไว้

 

กรร! กรร!

 

มันกลัวกลิ่นเหม็นของของเหลวที่ไหลออกจากปากมันหายใจแทบไม่ได้

 

มันเริ่มบิดตัวและถอยหลังไปอย่างสะเปะสะปะแต่ก็มีบางอย่างลอยไปกระทบคอของมัน เจ้ามือขวากระโดดลงมาจากชั้นสอง

ฉัวะ!

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

มีแค่เราที่เป็นเนโครแมนเซอร์ 34 โซนปลอดภัยในซูวอน-ฮวาซอง(3)

Now you are reading มีแค่เราที่เป็นเนโครแมนเซอร์ Chapter 34 โซนปลอดภัยในซูวอน-ฮวาซอง(3) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

มีแค่เราที่เป็นเนโครแมนเซอร์ ตอนที่ 34 โซนปลอดภัยในซูวอน-ฮวาซอง(3)

 

“กระทู้เมื่อวานเป็นการทดลอง จากนี้ไปเขาจะได้ทองจากแต่ละคนและทําอะไรก็ได้ที่ใจอยาก เรื่องใหญ่แน่”

 

“ไม่มีความเชื่อที่ไม่มีเหตุผลสินะ?”

 

ซองอูพยักหน้า

 

จากระบบเกมในตอนนี้ คนที่เริ่มใช้สมองเพื่อผลประโยชน์เริ่มมีมากขึ้น

 

“พวกเราไปไม่ได้หรอก ยองดึงโพน่ะไกลเกินไป”

“แหงสิ อ่านนี่”

 

-คิมวัยกลางคน : อาชีพชั้นเป็น “มิชชันนารี” ได้ปลอดภัยเล็ก ๆ มาแล้วในซูวอน กําลังหาผู้หญิงอายุน้อยมาอยู่ด้วยมาอยู่ด้วยกันเถอะ พาเพื่อนมาด้วยก็ได้ฮ่าๆๆๆๆ

-ผู้รอดชีวิต 44 : แหวะ ลุง น่าขยะแขยง

 

“ให้ตายสิ ไม่ได้จะเอาแบบนี้ แล้วนี่ล่ะ?”

 

ฮันโฮให้ดูอีกคอมเมนต์

 

-ผู้จัดการฝ่ายคู : ชั้นก็มีที่ปลอดภัยในซูวอน ฮวาซองด้วยเป็นนักสํารวจ 3 ดาวเหมือนกัน ขอเก็บค่าเช่ารายเดือน มาติดต่อได้

 

“เช่ารายเดือนเหรอ? มีเจ้าพ่อที่ดินในเวลาแบบนี้ด้วยเหรอ? ไปที่นั่นเป็นไง?”

 

ถึงซองอูจะไม่ชอบเรื่องแบบนี้ เขาก็คิดว่าเป็นสิ่งจําเป็นที่จะไปยืนยันเรื่องพื้นที่ปลอดภัย

 

“ซูวอน ฮวาซอง มันไม่ไกลใช่ไหม?”

 

“อืม…ไม่เคยเดินไปที่นั่นมาก่อนเลย แต่นั่งรถบัสไป 20 นาทีนะ”

 

“ให้มันเป็นที่หมายต่อไปของเราดีไหม?”

 

ทุกคนเห็นด้วย แม้ทุกอย่างจะไม่แน่นอนพวกเขาก็รู้สึกกับ แนวคิดเรื่องพื้นที่ “ปลอดภัย”

 

จนถึงตอนนี้ ไม่ว่าพวกเขาจะนอนที่ใด พวกเขาต้องมีคนเฝ้ายามตลอดเวลา มันทําให้พวกเขานอนไม่พอและเครียดและในที่สุดได้เจอที่ที่จะหลับได้อย่างไร้กังวล! พวกเขาย่อมต้องอยากไปที่นั่นอยู่แล้ว

 

“วันนี้หลับก่อนแล้วค่อยเดินทางพรุ่งนี้ ฮันโฮ บอกแผนกับพ่อแม่นายและเก็บของที่จําเป็นก่อนออกเดินทาง”

 

“ได้เลย”

 

ไม่นานฮันโฮก็กลับมาหลังจากคุยกับพ่อแม่

 

“พ่อกับแม่บอกว่ามีพวกโจรอยู่รอบ ๆ ที่นี่”

 

“กลุ่มโจรเหรอ? เหมือนกับพวกที่ H อพาร์ตเมนต์เมื่อวานสินะ?”

 

เมื่อกฎหมายพังทลายลง กลุ่มโจรจึงได้เล็งที่ผู้รอดชีวิตแทนที่จะเป็นมอนสเตอร์สินะ?

 

“คงเหมือนพวกอันธพาลม.ปลายนั่นแหละ พวกมันขี่มอเตอร์ไซคอยปล้นคนรอดชีวิตล่ะมั้ง? แม่ชั้นบอกว่าเห็นคนบ้านข้าง ๆ ถูกพวกมันดักปล้นตอนที่พยายามจะออกไปข้างนอกน่ะ”

 

ซองอูยิ้มเย็นชา คนพวกนี้คืออันธพาลชั้นต่ํา

 

“เจ้าพวกบ้านี้ไม่รู้อะไรเลย”

 

“พวกมันไม่น่ากลัวหรอก”

 

ปาร์ตี้ของซองอูมีประสบการณ์ในการต่อสู้มากพอแล้ว

 

นอกจากว่าพวกเด็กอันธพาลจะไม่โง่พอ พวกมันจะไม่กล้าปรากฏตัวต่อหน้าปาร์ตี้ซองอูที่นําโดยเหล่าโครงกระดูก

 

แต่ในเช้าวันถัดมา พวกเขาได้เจอกับพวกมันจริง ๆ

 

บรื่นนนน!

 

พวกอันธพาลมารวมตัวกันที่ทางเข้าชั้นล่างราวกับว่าได้ข่าวเรื่องปาร์ตี้ของซองอู มีมอเตอร์ไซทั้งหมด 7 คันแต่ละคันมีคน 2 คน รวมแล้วมี 14 คนที่รอให้พวกเขาออกมา

 

“นี่ คุณน่ะ?”

 

เด็กสาวม.ปลายข้างหลังคนขี่มอเตอร์ไซสีแดงยิ้มโง่ ๆ

 

“ขอทุกอย่างที่มีให้กับเราได้ไหม?”

 

ผู้ชายอีกคนที่เจาะแหวนตรงจมูกพูดขึ้นบ้าง

 

“ตอนซ่อนตัวอยู่ในบ้านควรจะเงียบนะ พวกแกถูกจับได้ตอนที่พวกเราผ่านมาแถวนี้ยังไงล่ะ”

 

เขาขู่พวกเขาด้วยกระบองในมือซ้ายและเหวี่ยงมันไปมา

 

“เอาอาวุธทุกชิ้นกับทองมาแล้วพวกเราจะใจดีด้วย เราไม่อยากจะเห็นเลือดพวกแก หา?”

 

แต่ซองอูไม่รู้สึกถึงภัยคุกคามแม้แต่น้อย เขาหัวเราะตั้งแต่ก่อนที่ตัวเองจะรู้ตัว

 

“แกแค่ได้ยิน แต่ไม่เห็นอะไรใช่ไหมล่ะ?”

 

พวกโจรเด็กหน้าแตกตื่น

 

“หา? ว่าไงนะ? เราไม่เห็นอะไร?”

“อย่าทําท่าสบายใจแบบนั้นเลย ไม่เห็นเหรอว่าเรามากี่คน?”

 

ซองอูซ่อนโครงกระดูกไว้ที่บันไดชั้นสามเมื่อคืนเผื่อว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น พวกโจรจึงไม่รู้เรื่องอะไรเลยเกี่ยวกับโครงกระดูก

 

กรอบ แกรบ

 

มีบางอย่างลงมาจากบันได

 

“อ๊ะ? หนีเร็ว!”

 

“บินคันเร่งเลย! เดี๋ยวนี้!”

 

พวกโจรกลัวและเริ่มหันรถหนีตั้งแต่ก่อนที่โครงกระดูก

 

จะออกมา

 

บรื่นนนน! บรื่นนนน!

 

พวกเโจรหนีไปโดยขี่ด้วยความเร็วเต็มที่ ควันไอเสียลอยเต็มไปหมด ฮันโฮกับจีซุงุนงงเมื่อเห็นพวกโจรที่หนีไป

ซองอูใบหน้าเศร้าหมอง

 

“อา”

 

“มีอะไรเหรอ?”

 

จีซูถาม

 

และไม่นานพวกเขาก็ได้รู้เหตุผล

 

หมาป่าตัวเท่ากระทิง ไม่สิ ตัวเท่ารถยนต์ได้ปรากฏตัวในกลุ่มรถที่ถูกทิ้งในที่จอดรถ

 

“มีสามตัว แต่อาจจะมีตัวอื่นหลบอยู่อีก”

 

ซองอูได้ยินคนพูดถึงหมาป่าตัวใหญ่มาหลายครั้งสิบเอกคิมเตือนเขา และก็มีคนคอมเมนต์เรื่องนี้ในกระดานข่าวอยู่เป็นระ

ยะ

 

ซองอูจึงคิดไว้ว่าวันหนึ่งเขาจะต้องเจอกับพวกมัน

 

แต่ไม่ว่าเขาจะคิดหนักอย่างไร เขาก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับหมาปาร่างยักษ์ด้วยวิธีการแบบไหน

 

มันอันตรายที่จะต่อสู้ตรง ๆ กับหมาป่าในระยะไกล นอกจากฟัน กรงเล็บ และพละกําลังที่น่ากลัวของพวกมันแล้วจํานวนของซองอูและเพื่อนยังเสียเปรียบอีกด้วย

 

“ทุกคน ถอยกลับไปในบ้าน!”

 

กระดูกสันหลังของหมาปานั้นขนานกับพื้น พวกมันปรับสมดุลร่างกายได้โดยพลิกตัวไปมา ต่อให้มันจะกําลังต่อสู้อยู่ก็ตามแต่กระดูกสันหลังของมนุษย์นั้นดิ่งลงสู่พื้น หากล้มลงเมื่อไหร่ก็ยากที่จะตั้งหลักกลับมาได้ หรือก็คือ ถ้าพวกเขาล้มมันก็จบเห่

 

พวกเขาถอยกลับเข้าบ้านช้า ๆ แน่นอนว่ามันไม่ปลอดภัย

 

หมาป่าเป็นมอนสเตอร์ที่มีพละกําลังมหาศาล มันฉีกกระชากหน้าต่างและทําลายกําแพงเพื่อเข้าไปข้างในได้ง่าย ๆ

 

เสียงหมาป่าเข้าใกล้พวกเขาอย่างช้า ๆ ราวกับว่ามันพร้อมที่จะกระโจนใส่พวกเขาในทุ่มเมื่อ แต่ปาร์ตี้ของซองอูนั้นถอยกลับอย่างระมัดระวัง สุดท้ายพวกหาจุดซ่อนที่ปลอดภัยเจอ

 

ฟุด ฟิด

 

หมาปาหน้าสุดดมกลิ่นที่พื้นอย่างแรง

 

ถึงจะไม่เห็นเหยื่อในสายตา แต่พวกหมาป่าก็รับรู้ได้ว่าพวกเขาอยู่ตรงไหน

 

พวกมันเข้าไปในหลุมแปลก ๆ แต่ไปไม่ไกลนัก มันเตรียมจะลากเหยื่อที่จนมุมในตึกออกมาโดยการมุดหัวเข้ามาในอาคารแคบ ๆ

 

ในตอนนั้นเอง มาบางอย่างถูกขว้างใส่หัวของมันและแตกออก

 

มันคือขวดแก้วที่มียี่ห้อน้ําส้มติดอยู่

 

“โดนล่ะ!”

 

แต่ประเด็นก็คือสิ่งที่อยู่ในขวด

 

ของเหลวเหนียวหนืดเปียกชุ่มหัวหมาป่า ควันลอยขึ้นมาพร้อมกับกลิ่นเหม็นเน่า

 

เส้นขนหยาบ ๆ ของมันละลายไปราวกับปุยนุ่น มันคือกรดจากผู้เฒ่าสไลม์ที่ซองอูให้โครงกระดูกเก็บใส่ขวดจากเมื่อวาน

 

พวกหมาป่าที่หวาดกลัวเกาหน้าด้วยกรงเล็บของตัวเองแต่ขนและผิวหนังที่ถูกกรดละลายไปแล้วก็หลุดออกจากหัว

 

“ปาไปเลย!”

 

หอกหลายเล่มขว้างไปที่จมูกและคอของพวกมัน

 

นี่คือการต่อสู้ของสัตว์สองเท้า โดยเฉพาะมนุษย์ที่มีกระดูกสันหลังในแนวดิ่ง ซึ่งการใช้พลังที่มากกว่าผู้ล่าก็คือการ “ขว้าง

 

โครงสร้างกระดูกของมนุษย์นั้นทําให้ขว้างได้ไกลและแม่นยํากว่าสัตว์อื่น มนุษย์ยุคโบราณใช้ “หอก” เพื่อล่านักล่าที่ใหญ่กว่าและแข็งแรงกว่าได้

 

แต่พวกหมาปาไม่ย่อท้อ หมาปาอีกตัวซัดประตูหน้าด้วยกรงเล็บและเข้ามาในที่ซ่อน

 

“นี่แก ตอนนี้ล่ะ!”

 

ซองอูสั่งออกโครงกระดูกตัวหนึ่งพุ่งเข้าใส่หมาป่า หมาปากัดมันอย่างไร้ปรานี

 

แต่ด้านในซี่โครงของโครงกระดูกนั้นมีขวดแก้วที่ใส่สไลม์

เอาไว้

 

กรร! กรร!

 

มันกลัวกลิ่นเหม็นของของเหลวที่ไหลออกจากปากมันหายใจแทบไม่ได้

 

มันเริ่มบิดตัวและถอยหลังไปอย่างสะเปะสะปะแต่ก็มีบางอย่างลอยไปกระทบคอของมัน เจ้ามือขวากระโดดลงมาจากชั้นสอง

ฉัวะ!

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+