มีแค่เราที่เป็นเนโครแมนเซอร์ 42 ผู้คํามนุษย์ในโรงงานร้าง(2)

Now you are reading มีแค่เราที่เป็นเนโครแมนเซอร์ Chapter 42 ผู้คํามนุษย์ในโรงงานร้าง(2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

มีแค่เราที่เป็นเนโครแมนเซอร์ ตอนที่ 42 ผู้คํามนุษย์ในโรงงานร้าง(2)

เขาไม่แน่ใจว่าสกิลมีอยู่ด้วยกันกี่เกรดที่จะต้องพัฒนาต่อไปเพราะเขายังไม่เคยได้ผ่านการอัพเกรดสกิลเลย

 

“ใช้ไอเทม

 

แผ่นกระดาษระเหิดหายไปเมื่อเขาพูด ข้อความปรากฏขึ้นมา

(ข้อมูลสกิล

 

ชื่อ : ที่พักว่าง

 

-เกรด : ปรมาจารย์

-ประเภท : ใช้งาน

-ค่าร่าย : 0

สร้างที่พักให้สมุนของคุณในมิติย่อย คุณสามารถให้สมุนของคุณอยู่ข้างในได้โดยไม่สนใจจํานวนและขนน คุณสามารถเรียกสมุนออกมาได้ตามใจชอบ(แต่จะใช้งานได้กับสมุนที่อยู่ในสถานะไม่พังทลายเท่านั้น)

 

+ เฟลเบลด : เมื่อเรียกสมุนจํานวนมากออกมาภายในครั้งเดียวคุณจะกระจายคําสาปมรณะได้ความกว้างและความรุนแรงจะเพิ่มขึ้นตามจํานวนสมุนที่เรียกออกมา(คูลดาวน์ : 1 ชั่วโมง)

 

เขารู้สึกดีเมื่ออ่านข้อมูลสกิล เขาต้องพาฝูงโครงกระดูกติดตัวไปด้วยในทุกที่จนถึงตอนนี้แต่มีหลายเรื่องที่เขาต้องกังวลอย่างเช่นการซ่อนเหล่าโครงกระดูกหรือการผ่านที่แคบอันน่าปวดหัวและเขายังต้องอธิบายเรื่องโครงกระดูกของเขาในทุกครั้งที่เจอกับผู้รอดชีวิต

 

ตอนนี้ เขาสามารถเก็บโครงกระดูกยักษ์ที่เขามีเอาไว้ในช่องเก็บของและเรียกออกมาได้ทุกเมื่อ นี่คือนวัตกรรมของแท้

“เข้าไป

ซองอูคิดในใจ เหล่าโครงกระดูกกลายเป็นผงที่หายไปเฉย ๆ

สมุนของคุณอยู่ใน “ที่พักว่าง

 

“เอ๋? พวกโครงกระดูกไปไหนแล้วล่ะ?”

 

ฮันโฮถาม

“สกิลใหม่น่ะ”

 

จากนั้นซองอูก็คิดถึงการใช้สกิลเสริม “เฟลเบลด แต่เขาต้องรอเพราะมันอาจจะทําให้ผู้รอดชีวิตคนอื่นบาดเจ็บได้

ฮันโฮสุ่มบอลขึ้นบ้างและได้ “หนังกระทิงแข็งกันหน้าอกที่เป็น “ไอเทมธรรมดา

จีซูไม่ได้โชคดีเช่นกันเธอได้ชุดเอาชีวิตรอดคลาส B ที่มีผ้าบันแผลยาปฐมพยาบาล เชือกและตะเกียง

“ซักวันมันอาจจะช่วยเราได้ก็ได้”

 

เธอพูดและรู้สึกแย่กับสิ่งที่ตัวเองได้

“ซองอู ไม่คิดว่าแกเอาดวงดีของพวกเราไปหมดแล้วเหรอ? รอบหน้าขอชั้นก่อนบ้างนะ”

“ได้เลย”

พวกเขาตัดสินใจเก็บเงินหลังจากลุ่มลูกบอล พวกเขารู้ที่อยู่ของร้านค้าและรู้ว่าทองไม่ได้ใช้กับร้านค้าเพียงอย่างเดียวเพราะยังใช้คงโซนปลอดภัยได้อีกด้วยพวกเขาจึงต้องเก็บเงินเอาไว้เผื่อสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด

 

“ไปกันได้แล้ว”

 

หลังจากเตรียมตัวเรียบร้อย ซองอูเดินขึ้นบันได

บางครั้งก็มีเวลาที่ทําให้คุณต้องเผชิญหน้ากับศัตรูตรง ๆ ซึ่งนั่นจะเกิดกับเขาในอีกไม่ช้า

 

อีคยองซูเสียใจในทุกขณะ

“ทําไมถึงได้เป็นแบบนี้? แทนที่จะขับรถออกจากมหาลัยเราควรจะอยู่กับคนที่ชื่อ ยูซองอูไม่ใช่เหรอ?ทําไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้

ความคิดของเขาที่ว่ากองทัพปลอดภัยนั้นทําให้ทุกอย่างพังไม่เป็นท่า เขาที่มาถึงหน่วยทัพหลังจากหลบฝูงไวเวิร์นและผ่านมอนสเตอร์มากมายมาได้นั้นพบเจอแต่ความว่างเปล่า เขาชอบดูหนังแนวโลกที่มีแต่ซอมบี้ แต่พอเรื่องจริงเกิดขึ้นกับเขา เขาก็ทําผิดพลาดซ้ําแล้วซ้ําเล่าเหมือนกับที่ตัวละครในหนังทํา

“ให้ตายเถอะ”

นักศึกษาทุกคนรวมถึงคยองซูต่างไม่พอใจ หลังจากที่หยุดหน้าวลวดหนาม คยองซูได้แต่นั่งเงียบหัวชนพวงมาลัยทุกอย่างมีแต่ความสิ้นหวัง

ในตอนนั้นเองเพื่อนของเขายื่นโทรศัพท์มือถือให้ดู

“คยองซู ดูนี่สิ!”

 

โชคดีที่เขาเจอคิวอาร์โค้ดสําหรับแอพ “คู่มือผู้เล่น” และบอกคยองซูถึงวิธีการติดต่อกับผู้คนในแอพซึ่งนั่นทําให้คยองซูใจเต้น

“หือ? โซนปลอดภัยเหรอ?”

 

“ใช่ มันอยู่ไม่ไกลจากที่นี่! ซูวอนฮวาซอง น้ํามันเราพอไปถึงที่นั่นใช้ไหม?”

“ชั้นว่าน่าจะถึงนะ”

 

คยองซูมีหวังอีกครั้ง เขาจับพวงมาลัยอย่างมั่นคง

แน่นอนว่านักศึกษาทั้งสามสิบคนบนรถบัสตัดสินใจเหมือนกับเขา เขารู้สึกถึงความรับผิดชอบอันหนักอึ้งซึ่งจริง ๆ แล้วทุกคนตามเขามาเพราะรู้ว่าเขาขับรถบัสได้และรู้ทางมากองทัพเท่านั้น

 

“ดี ไปกันอีกครั้งเถอะ”

 

เขาเริ่มมีจุดหมาย เขาค่อย ๆ ขับไปอย่างช้า ๆ และระมัดระวังการเดินทางนั้นอันตรายมากแต่เขาก็ไปถึงจุดหมายโดยไร้อุบัติเหตุเขารู้สึกโชคดีมาตลอดการเดินทาง

“พวกเราใกล้ถึงแล้วคอมเมนต์เอาไว้เร็ว!”

 

“ขอพิมพ์ก่อนนะ”

แต่สิ่งที่เขาได้พบที่นั่นไม่ใช่ผู้ช่วยชีวิตอย่างซองอู

“เดินตรงมา

เมื่อได้ยินเสียงขู่จากด้านหลัง คยองซูรู้สึกตัวและเงยหน้า เขาเดินไปด้วยความหนักใจ

“อะไรของแก? เหนื่อยเรอะ? ถ้าไม่ชอบก็บอกมา เดี๋ยวอีกนิดแกก็จะได้ไปในครัวแล้ว

“ครัว”ที่เสียงนั้นพูดถึงไม่ใช่ครัวที่ใช้ทําอาหารหรือล้างจาน

 

มันหมายถึงอาหารที่กองอยู่ข้างในจนเรียกว่าเป็นครัวต่างหาก

 

“อ๊ากกกก! ไอ้บ้านั่นไม่มีเนื้อที่ชั้นกินได้เลย”

คนบ้าพวกนี้คือสัตว์ประหลาดที่ล่อให้คนมารับใช้เป็นทาสไม่ก็ดูดเลือด

คยองซูและนักศึกษาอีกสามสิบคนหนีมาที่นี่เพื่อหาที่ปลอดภัยแต่พวกเขาก็โชคร้ายติดกับ ตอนนี้พวกเขากลายเป็นทาสรับใช้และเป็น “ทาสต่อสู้” ที่เสี่ยงชีวิตเพื่อล่ามอนสเตอร์และถูกริบเงินทั้งหมดไป

“คนของชั้นเริ่มจะสภาพไม่ไหวแล้วเราหาคนมาแทนไม่ดีกว่าเหรอ?”

“ก็จริง พวกมันอาจจะแข็งข้อขึ้นมาได้เพราะเลเวลอัพขึ้นมาบ้างแล้ว”

คยองซูกับทาสสี่คนไม่กล้าต่อต้าน เพราะพวกเขาเห็นเพื่อของตัวเองโดนฆ่าอย่างป่าเถื่อนหลังจากขัดขืน สิ่งเดียวที่คยองซูทําได้ในตอนนี้คือเดินก้มหน้า

ในตอนนั้นเองคยองซูเดินชนหลังคนข้างหน้าเพราะคนข้างหน้าที่หยุดเดิน

 

กรอบ แกรบ

“หา? นั่นมันตัวอะไรน่ะ?”

“กระดูกเหรอ? เห็นทีแรกนึกว่าพวกกอบลินซะอีก”

คยองซูค่อย ๆ เงยหน้า มีบางอย่างที่มีสีขาวและตัวเล็กขวางทาง

พวกเขา

“พวกมันไม่ใช่มอนสเตอร์ใหม่หรอกเหรอ? ฆ่ามัน!”

แต่คยองซูคิดว่าตัวเองตาฝาด

เองตาฝาด

“ซองอู?”

“อะไร? มันพูดอะไร? ซองอู? ใครนะ?”

 

เป็นธรรมดาที่เขาจะโพล่งออกมา เพราะโครงกระดูกขาวที่เขาเห็นคือโครงกระดูกกอบดินที่ซองอูมีติดตัวจากนั้นซองอูได้เดินออกมาจากซอยที่อยู่ทางซ้าย

 

“คยองซู ดวงที่ยืมชั้นไปคราวที่แล้วไม่ได้ช่วยอะไรเลยสินะ”

ทันทีที่เขาพูด โครงกระดูกก็โผล่มาจนเต็มไปหมด

 

คยองซูสับสน

 

ยูซองอูราวกับคิดล่วงหน้ามาหมดแล้ว ตั้งแต่วันที่โลกได้เปลี่ยนเป็นเกมเขาทําทุกอย่างได้อย่างใจเย็นและเอาตัวรอดได้ดี

เป็นไปได้ด้วยหรือ? เขาไม่ใช่นักศึกษาธรรมดาหรอกเหรอ? แม้แต่ตอนนี้สายตาเขาก็ยังเฉียบแหลม เขาระบุตําแหน่งอันตรายที่มี แวมไพร์ห้าตัวได้อย่างไร?

ถั่วะ! นิ้วะ! ฉ่วะ!

 

ตั้งแต่ก่อนที่จะได้พูดคุยกัน ซองอูก็ขว้างหอกสี่เลมใส่พวกแวมไพร์ไปแล้วมันเร็วจนแวมไพร์ตั้งตัวไม่ทัน

 

“อ๊ากกก! แกเป็นใค…อ๊ากกกกก!”

จากนั้นโครงกระดูกที่มีหัวเป็นสัตว์ก็เข้ามาจัดการฉีกกระชากแวมไพร์มันเป็นภาพที่น่าสยดสยองจนคยองซูกับเพื่อนทนดูไม่ไหวแต่แวมไพร์นั้นฟื้นตัวได้นอกเสียจากจะแหลกเป็นชิ้น ๆ ดังนั้นมันจึงไม่มีทางเลือกอื่น

 

“เหลือไว้หนึ่ง”

หลังจากฆ่าแวมไพร์ ซองอูปล่อยคยองซูกับทาสคนอื่นให้เป็นอิสระ

“ซองอู ไอ้แวมไพร์ลอร์ดโรคจิตนั่นจะต้องรู้ว่าพวกเรามาแล้วใช่ไหม? ไม่คิดว่ามันกําลังจะมาเหรอ?”

“ได้ยินว่ามันไม่ได้อยู่แถวนี้นะ”

แวมไพร์สามารถรับรู้การตายของแวมไพร์ด้วยกันได้ ไม่ยากที่จะเดาว่าการตายของแวมไพร์สี่ตัวเป็นฝีมือของซองอู

แต่จากที่แทซองบอก ที่เขตนี้ไม่มีแวมไพร์ลอร์ด

และเขาบอกว่า “โรงงานร้าง” ศูนย์กลางการค้ามนุษย์ที่ซองอูโจมตีนั้นอยู่ภายใต้การควบคุมของแวมไพร์ที่ถูกแวมไพร์ลอร์ดควบคุม

 

“ขอบคุณที่ช่วยเป็นครั้งที่สองนะ ซองอู”

คยองซูพูดด้วยสภาพอิดโรย

 

“เกิดอะไรขึ้น?”

ซองอูถาม

“ ชั้นไม่มีหน้ามาบอกนายหรอก”

 

เขาบอกว่าเขาไปที่โซนปลอดภัยในซูวอน-ฮวาซองตามโพสต์ในกระดานข่าว

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

มีแค่เราที่เป็นเนโครแมนเซอร์ 42 ผู้คํามนุษย์ในโรงงานร้าง(2)

Now you are reading มีแค่เราที่เป็นเนโครแมนเซอร์ Chapter 42 ผู้คํามนุษย์ในโรงงานร้าง(2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

มีแค่เราที่เป็นเนโครแมนเซอร์ ตอนที่ 42 ผู้คํามนุษย์ในโรงงานร้าง(2)

เขาไม่แน่ใจว่าสกิลมีอยู่ด้วยกันกี่เกรดที่จะต้องพัฒนาต่อไปเพราะเขายังไม่เคยได้ผ่านการอัพเกรดสกิลเลย

 

“ใช้ไอเทม

 

แผ่นกระดาษระเหิดหายไปเมื่อเขาพูด ข้อความปรากฏขึ้นมา

(ข้อมูลสกิล

 

ชื่อ : ที่พักว่าง

 

-เกรด : ปรมาจารย์

-ประเภท : ใช้งาน

-ค่าร่าย : 0

สร้างที่พักให้สมุนของคุณในมิติย่อย คุณสามารถให้สมุนของคุณอยู่ข้างในได้โดยไม่สนใจจํานวนและขนน คุณสามารถเรียกสมุนออกมาได้ตามใจชอบ(แต่จะใช้งานได้กับสมุนที่อยู่ในสถานะไม่พังทลายเท่านั้น)

 

+ เฟลเบลด : เมื่อเรียกสมุนจํานวนมากออกมาภายในครั้งเดียวคุณจะกระจายคําสาปมรณะได้ความกว้างและความรุนแรงจะเพิ่มขึ้นตามจํานวนสมุนที่เรียกออกมา(คูลดาวน์ : 1 ชั่วโมง)

 

เขารู้สึกดีเมื่ออ่านข้อมูลสกิล เขาต้องพาฝูงโครงกระดูกติดตัวไปด้วยในทุกที่จนถึงตอนนี้แต่มีหลายเรื่องที่เขาต้องกังวลอย่างเช่นการซ่อนเหล่าโครงกระดูกหรือการผ่านที่แคบอันน่าปวดหัวและเขายังต้องอธิบายเรื่องโครงกระดูกของเขาในทุกครั้งที่เจอกับผู้รอดชีวิต

 

ตอนนี้ เขาสามารถเก็บโครงกระดูกยักษ์ที่เขามีเอาไว้ในช่องเก็บของและเรียกออกมาได้ทุกเมื่อ นี่คือนวัตกรรมของแท้

“เข้าไป

ซองอูคิดในใจ เหล่าโครงกระดูกกลายเป็นผงที่หายไปเฉย ๆ

สมุนของคุณอยู่ใน “ที่พักว่าง

 

“เอ๋? พวกโครงกระดูกไปไหนแล้วล่ะ?”

 

ฮันโฮถาม

“สกิลใหม่น่ะ”

 

จากนั้นซองอูก็คิดถึงการใช้สกิลเสริม “เฟลเบลด แต่เขาต้องรอเพราะมันอาจจะทําให้ผู้รอดชีวิตคนอื่นบาดเจ็บได้

ฮันโฮสุ่มบอลขึ้นบ้างและได้ “หนังกระทิงแข็งกันหน้าอกที่เป็น “ไอเทมธรรมดา

จีซูไม่ได้โชคดีเช่นกันเธอได้ชุดเอาชีวิตรอดคลาส B ที่มีผ้าบันแผลยาปฐมพยาบาล เชือกและตะเกียง

“ซักวันมันอาจจะช่วยเราได้ก็ได้”

 

เธอพูดและรู้สึกแย่กับสิ่งที่ตัวเองได้

“ซองอู ไม่คิดว่าแกเอาดวงดีของพวกเราไปหมดแล้วเหรอ? รอบหน้าขอชั้นก่อนบ้างนะ”

“ได้เลย”

พวกเขาตัดสินใจเก็บเงินหลังจากลุ่มลูกบอล พวกเขารู้ที่อยู่ของร้านค้าและรู้ว่าทองไม่ได้ใช้กับร้านค้าเพียงอย่างเดียวเพราะยังใช้คงโซนปลอดภัยได้อีกด้วยพวกเขาจึงต้องเก็บเงินเอาไว้เผื่อสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด

 

“ไปกันได้แล้ว”

 

หลังจากเตรียมตัวเรียบร้อย ซองอูเดินขึ้นบันได

บางครั้งก็มีเวลาที่ทําให้คุณต้องเผชิญหน้ากับศัตรูตรง ๆ ซึ่งนั่นจะเกิดกับเขาในอีกไม่ช้า

 

อีคยองซูเสียใจในทุกขณะ

“ทําไมถึงได้เป็นแบบนี้? แทนที่จะขับรถออกจากมหาลัยเราควรจะอยู่กับคนที่ชื่อ ยูซองอูไม่ใช่เหรอ?ทําไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้

ความคิดของเขาที่ว่ากองทัพปลอดภัยนั้นทําให้ทุกอย่างพังไม่เป็นท่า เขาที่มาถึงหน่วยทัพหลังจากหลบฝูงไวเวิร์นและผ่านมอนสเตอร์มากมายมาได้นั้นพบเจอแต่ความว่างเปล่า เขาชอบดูหนังแนวโลกที่มีแต่ซอมบี้ แต่พอเรื่องจริงเกิดขึ้นกับเขา เขาก็ทําผิดพลาดซ้ําแล้วซ้ําเล่าเหมือนกับที่ตัวละครในหนังทํา

“ให้ตายเถอะ”

นักศึกษาทุกคนรวมถึงคยองซูต่างไม่พอใจ หลังจากที่หยุดหน้าวลวดหนาม คยองซูได้แต่นั่งเงียบหัวชนพวงมาลัยทุกอย่างมีแต่ความสิ้นหวัง

ในตอนนั้นเองเพื่อนของเขายื่นโทรศัพท์มือถือให้ดู

“คยองซู ดูนี่สิ!”

 

โชคดีที่เขาเจอคิวอาร์โค้ดสําหรับแอพ “คู่มือผู้เล่น” และบอกคยองซูถึงวิธีการติดต่อกับผู้คนในแอพซึ่งนั่นทําให้คยองซูใจเต้น

“หือ? โซนปลอดภัยเหรอ?”

 

“ใช่ มันอยู่ไม่ไกลจากที่นี่! ซูวอนฮวาซอง น้ํามันเราพอไปถึงที่นั่นใช้ไหม?”

“ชั้นว่าน่าจะถึงนะ”

 

คยองซูมีหวังอีกครั้ง เขาจับพวงมาลัยอย่างมั่นคง

แน่นอนว่านักศึกษาทั้งสามสิบคนบนรถบัสตัดสินใจเหมือนกับเขา เขารู้สึกถึงความรับผิดชอบอันหนักอึ้งซึ่งจริง ๆ แล้วทุกคนตามเขามาเพราะรู้ว่าเขาขับรถบัสได้และรู้ทางมากองทัพเท่านั้น

 

“ดี ไปกันอีกครั้งเถอะ”

 

เขาเริ่มมีจุดหมาย เขาค่อย ๆ ขับไปอย่างช้า ๆ และระมัดระวังการเดินทางนั้นอันตรายมากแต่เขาก็ไปถึงจุดหมายโดยไร้อุบัติเหตุเขารู้สึกโชคดีมาตลอดการเดินทาง

“พวกเราใกล้ถึงแล้วคอมเมนต์เอาไว้เร็ว!”

 

“ขอพิมพ์ก่อนนะ”

แต่สิ่งที่เขาได้พบที่นั่นไม่ใช่ผู้ช่วยชีวิตอย่างซองอู

“เดินตรงมา

เมื่อได้ยินเสียงขู่จากด้านหลัง คยองซูรู้สึกตัวและเงยหน้า เขาเดินไปด้วยความหนักใจ

“อะไรของแก? เหนื่อยเรอะ? ถ้าไม่ชอบก็บอกมา เดี๋ยวอีกนิดแกก็จะได้ไปในครัวแล้ว

“ครัว”ที่เสียงนั้นพูดถึงไม่ใช่ครัวที่ใช้ทําอาหารหรือล้างจาน

 

มันหมายถึงอาหารที่กองอยู่ข้างในจนเรียกว่าเป็นครัวต่างหาก

 

“อ๊ากกกก! ไอ้บ้านั่นไม่มีเนื้อที่ชั้นกินได้เลย”

คนบ้าพวกนี้คือสัตว์ประหลาดที่ล่อให้คนมารับใช้เป็นทาสไม่ก็ดูดเลือด

คยองซูและนักศึกษาอีกสามสิบคนหนีมาที่นี่เพื่อหาที่ปลอดภัยแต่พวกเขาก็โชคร้ายติดกับ ตอนนี้พวกเขากลายเป็นทาสรับใช้และเป็น “ทาสต่อสู้” ที่เสี่ยงชีวิตเพื่อล่ามอนสเตอร์และถูกริบเงินทั้งหมดไป

“คนของชั้นเริ่มจะสภาพไม่ไหวแล้วเราหาคนมาแทนไม่ดีกว่าเหรอ?”

“ก็จริง พวกมันอาจจะแข็งข้อขึ้นมาได้เพราะเลเวลอัพขึ้นมาบ้างแล้ว”

คยองซูกับทาสสี่คนไม่กล้าต่อต้าน เพราะพวกเขาเห็นเพื่อของตัวเองโดนฆ่าอย่างป่าเถื่อนหลังจากขัดขืน สิ่งเดียวที่คยองซูทําได้ในตอนนี้คือเดินก้มหน้า

ในตอนนั้นเองคยองซูเดินชนหลังคนข้างหน้าเพราะคนข้างหน้าที่หยุดเดิน

 

กรอบ แกรบ

“หา? นั่นมันตัวอะไรน่ะ?”

“กระดูกเหรอ? เห็นทีแรกนึกว่าพวกกอบลินซะอีก”

คยองซูค่อย ๆ เงยหน้า มีบางอย่างที่มีสีขาวและตัวเล็กขวางทาง

พวกเขา

“พวกมันไม่ใช่มอนสเตอร์ใหม่หรอกเหรอ? ฆ่ามัน!”

แต่คยองซูคิดว่าตัวเองตาฝาด

เองตาฝาด

“ซองอู?”

“อะไร? มันพูดอะไร? ซองอู? ใครนะ?”

 

เป็นธรรมดาที่เขาจะโพล่งออกมา เพราะโครงกระดูกขาวที่เขาเห็นคือโครงกระดูกกอบดินที่ซองอูมีติดตัวจากนั้นซองอูได้เดินออกมาจากซอยที่อยู่ทางซ้าย

 

“คยองซู ดวงที่ยืมชั้นไปคราวที่แล้วไม่ได้ช่วยอะไรเลยสินะ”

ทันทีที่เขาพูด โครงกระดูกก็โผล่มาจนเต็มไปหมด

 

คยองซูสับสน

 

ยูซองอูราวกับคิดล่วงหน้ามาหมดแล้ว ตั้งแต่วันที่โลกได้เปลี่ยนเป็นเกมเขาทําทุกอย่างได้อย่างใจเย็นและเอาตัวรอดได้ดี

เป็นไปได้ด้วยหรือ? เขาไม่ใช่นักศึกษาธรรมดาหรอกเหรอ? แม้แต่ตอนนี้สายตาเขาก็ยังเฉียบแหลม เขาระบุตําแหน่งอันตรายที่มี แวมไพร์ห้าตัวได้อย่างไร?

ถั่วะ! นิ้วะ! ฉ่วะ!

 

ตั้งแต่ก่อนที่จะได้พูดคุยกัน ซองอูก็ขว้างหอกสี่เลมใส่พวกแวมไพร์ไปแล้วมันเร็วจนแวมไพร์ตั้งตัวไม่ทัน

 

“อ๊ากกก! แกเป็นใค…อ๊ากกกกก!”

จากนั้นโครงกระดูกที่มีหัวเป็นสัตว์ก็เข้ามาจัดการฉีกกระชากแวมไพร์มันเป็นภาพที่น่าสยดสยองจนคยองซูกับเพื่อนทนดูไม่ไหวแต่แวมไพร์นั้นฟื้นตัวได้นอกเสียจากจะแหลกเป็นชิ้น ๆ ดังนั้นมันจึงไม่มีทางเลือกอื่น

 

“เหลือไว้หนึ่ง”

หลังจากฆ่าแวมไพร์ ซองอูปล่อยคยองซูกับทาสคนอื่นให้เป็นอิสระ

“ซองอู ไอ้แวมไพร์ลอร์ดโรคจิตนั่นจะต้องรู้ว่าพวกเรามาแล้วใช่ไหม? ไม่คิดว่ามันกําลังจะมาเหรอ?”

“ได้ยินว่ามันไม่ได้อยู่แถวนี้นะ”

แวมไพร์สามารถรับรู้การตายของแวมไพร์ด้วยกันได้ ไม่ยากที่จะเดาว่าการตายของแวมไพร์สี่ตัวเป็นฝีมือของซองอู

แต่จากที่แทซองบอก ที่เขตนี้ไม่มีแวมไพร์ลอร์ด

และเขาบอกว่า “โรงงานร้าง” ศูนย์กลางการค้ามนุษย์ที่ซองอูโจมตีนั้นอยู่ภายใต้การควบคุมของแวมไพร์ที่ถูกแวมไพร์ลอร์ดควบคุม

 

“ขอบคุณที่ช่วยเป็นครั้งที่สองนะ ซองอู”

คยองซูพูดด้วยสภาพอิดโรย

 

“เกิดอะไรขึ้น?”

ซองอูถาม

“ ชั้นไม่มีหน้ามาบอกนายหรอก”

 

เขาบอกว่าเขาไปที่โซนปลอดภัยในซูวอน-ฮวาซองตามโพสต์ในกระดานข่าว

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+