หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ 103 ไยไม่สู้ให้จนสุดกำลัง (ต้น)

Now you are reading หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ Chapter 103 ไยไม่สู้ให้จนสุดกำลัง (ต้น) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 103 ไยไม่สู้ให้จนสุดกำลัง (ต้น)

ใบหน้าของเยี่ยฉวนแสดงออกถึงความอึดอัดใจ

“นี่ข้ายังไม่โหดเหี้ยมพออีกหรือ ?”

ด้วยความสัตย์จริง เขารู้สึกว่าตัวเองเหี้ยมโหดมากพอแล้วกระมัง !

แน่นอนว่าองค์หญิงเก้าก็ดูเหมือนจะเป็นคนที่โหดเหี้ยมเช่นกัน !

ขณะนั้นเอง องค์หญิงเก้าที่เดินไปได้ไม่ไกลพลันชะลอฝีเท้า นางหันกลับมามองเยี่ยฉวน “ยืนงงอยู่ทำไมล่ะ ? ออกไปฆ่าคนเร็ว !”

เยี่ยฉวนพูดไม่ออก “…”

ว่าแล้วชายหนุ่มก็เดินตามองค์หญิงเก้าไป ทั้งสองมุ่งหน้าไกลออกไปเรื่อย ๆ

อย่างไรก็ดี พวกเขาได้ค้นร่างของชายหนุ่มร่างกำยำก่อนที่จะไป เมื่อผนวกกับที่เขาเคยได้รับรางวัล มากมาย รวมถึงก้อนหินวิญญาณระดับสูงสุดมาหลายก้อน บวกกับคนอื่น ๆ ที่เคยช่วยไว้ก่อนหน้านี้ เท่ากับว่า ตอนนี้เขามีหินวิญญาณระดับสูงสุด 15 ก้อน นอกจากนั้นยังมีเงินติดตัวอยู่ประมาณ 100 เหรียญทอง !

นับว่าโชคดีไม่น้อย !

องค์หญิงเก้าเดินนำเยี่ยฉวนมาจนถึงหุบเขาแห่งหนึ่ง

เยี่ยฉวนเห็นคนสองคนอยู่ตรงนั้น หากตัดสินจากเครื่องแต่งกายแล้ว พวกเขาย่อมต้องมาจากแคว้นถังอย่างแน่นอน !

ระหว่างแคว้นถังและแคว้นเจียง มีความแตกต่างกันในเรื่องของภาษาและเสื้อผ้าที่สวมใส่ โดยเฉพาะ อย่างยิ่งสำเนียงท้องถิ่นที่ยิ่งแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด !

เมื่อมองจากไกล ๆ ทันทีที่ชายหนุ่มทั้งสองเห็นองค์หญิงเก้าและเยี่ยฉวน พวกเขาต่างก็ตกใจมาก “พวกเจ้ามาจากแคว้นเจียงงั้นหรือ ?”

ดวงตาของพวกเขาเลื่อนมายังศีรษะเปื้อนเลือดในมือขององค์หญิงเก้า เมื่อได้เห็นใบหน้านั่นชัดเจน สีหน้าของชายหนุ่มทั้งสองก็พลันซีดเผือดลง เมื่อถึงตอนนี้ องค์หญิงเก้าก็ได้โยนศีรษะนั้นไปที่ชายคนหนึ่ง และขณะเดียวกันนั้นเอง นางก็พลันรีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว

“เร็วอะไรขนาดนี้เนี่ย !”

เยี่ยฉวนหรี่ตาลงเล็กน้อย เพราะความแข็งแกร่งขององค์หญิงเก้า …นางนั้นทรงพลังมากเกินกว่าที่เขา คาดเอาไว้มากทีเดียว !

ชายหนุ่มวิ่งออกไปโดยไม่คิดอะไรอีก เมื่อเข้าถึงตัวชายคนนั้นได้ เยี่ยฉวนจึงออกหมัดชกทันที !

หมัดทลายภูผา !

พลังหมัดที่แผ่ออกมาระเบิดหินรอบ ๆ ทำให้แตกกระจายจนสิ้น !

เมื่อชายหนุ่มฝ่ายตรงข้ามรับรู้ได้ถึงพลังหมัดของเยี่ยฉวน เขาพลันรู้สึกช็อกและไม่กล้าที่จะปล่อยหมัดอานุภาพเบาแสนเบาของตัวเองออกมาสู้ให้อาย ดังนั้นชายหนุ่มจึงหยุดและเปลี่ยนท่าทางเป็นนั่งขัดสมาธิโดย เอามือกอดอกแทน

แกร๊ก !

พื้นใต้ฝ่าเท้าของชายคนนั้นแยกออกจากกันทันที ในขณะเดียวกันแขนและขาของเขาก็กลายเป็นหนามแหลมดั่งกุหลาบสีทองที่แข็งเหมือนกับโลหะ !

ในเวลานั้น หมัดของเยี่ยฉวนก็มาถึงพอดี

ตู้ม !

เมื่อเสียงระเบิดดังขึ้น ชายคนนั้นพลันกระเด็นถอยห่างออกไปหลายจั้ง ส่วนเยี่ยฉวนเองก็ถูกแรง สะท้อนถอยหลังไปถึงหนึ่งจั้ง !

ขณะที่ชายหนุ่มหยุดมือ เขาก็เหลือบมองไปที่กำปั้นของตัวเองซึ่งตอนนี้กลายเป็นสีแดงก่ำ !

เมื่อเห็นฉากนี้ เยี่ยฉวนจึงหรี่ตาลงเล็กน้อย “ทุกคนที่นี่ล้วนไม่ธรรมดาจริง ๆ เสียด้วย !”

ชายคนนั้นก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่รอช้า ก่อนจะมาปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเยี่ยฉวน ท่อนแขนแข็งแกร่ง ของอีกฝ่ายฟาดลงไปจนสุดแรง ทันใดนั้นเสียงระเบิดพลันดังขึ้นในสนามอย่างต่อเนื่อง !

“ช่างน่ากลัวอะไรอย่างนี้ !”

เยี่ยฉวนจับมือขวาของตัวเองขึ้นมา ก่อนจะค่อย ๆ รวบรวมพลังลมปราณอย่างช้า ๆ เพื่อเสริมเคล็ดวิชาของตัวเองลงในหมัด ในช่วงเวลาที่เขากำลังจะได้ออกแรง ภาพที่เห็นตรงหน้าก็พลันเปลี่ยนไป วินาทีถัดมา ศีรษะของชายตรงหน้าก็ดูจะขาดกระเด็นไป !

เยี่ยฉวนมองสตรีผู้บ้าบิ่นที่อยู่ตรงหน้าเขาด้วยความรู้สึกทึ่ง !

ชุดสีเงินและดาบโค้งสีทอง !

นางคือองค์หญิงเก้า !

“นางใช้ดาบสังหารบุรุษได้ภายในไม่กี่วินาทีเนี่ยนะ !”

เยี่ยฉวนรู้สึกว่าสมองของตัวเองช่างว่างเปล่า !

องค์หญิงเก้าเก็บดาบสีทองเข้าฝัก นางหมุนตัวและเดินมาทางเยี่ยฉวน สายตาจับจ้องไปยังชายหนุ่มผู้ที่มาด้วยกันอย่างไม่เข้าใจ “ไยไม่สู้ให้จนสุดกำลังเล่า เจ้าจะออมแรงไว้ทำไม ?”

เยี่ยฉวนพูดไม่ออก “…”

นางจ้องหน้าเยี่ยฉวน “เจ้าเป็นถึงผู้ฝึกกระบี่ เมื่อลงมือแล้ว หากจะใช้เวลาให้สั้นที่สุดก็ย่อมได้ แต่ทำไมถึงเก็บงำความแข็งแกร่งของเจ้าเอาไว้กัน ? เจ้าต้องรู้ก่อนว่าในสถานที่แบบนี้ หากไม่รีบจบการต่อสู้ให้เร็ว ที่สุด ถ้างั้นก็เป็นไปได้ว่าฝ่ายศัตรูจะดึงพวกเข้ามาเพิ่มอีก เจ้าอยากจะหาเรื่องเหนื่อยเพิ่มขึ้นหรือยังไงกัน ?”

เยี่ยฉวนตกอยู่ในความเงียบ

องค์หญิงเก้ายังคงเดินหน้าต่อไป สายตาของนางคมกริบเหมือนใบมีด จากนั้นหญิงสาวก็กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือกว่า “เจ้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อฝึกฝน แต่มาเพื่อฆ่าหรือถูกฆ่าต่างหาก !!”

เยี่ยฉวนยิ้มอย่างขมขื่น “เข้าใจแล้ว”

องค์หญิงเก้าตวาด “ให้มันจริงจังกว่านี้หน่อย !”

เยี่ยฉวนรีบกล่าวอย่างเคร่งขรึมทันที “ข้าเข้าใจแล้ว !”

องค์หญิงเก้าพยักหน้าเล็กน้อย “จงเอาอย่างข้านี่ !”

เยี่ยฉวนเริ่มรวบรวมถ้วยรางวัลอีกครั้งอยู่ในใจ คราวนี้เขาได้รับหินวิญญาณระดับสูงสุด 5 ก้อนและ เหรียญทองอีก 50 เหรียญ ตอนนี้ชายหนุ่มมีหินวิญญาณระดับสูงสุดอยู่ 20 ก้อนและ 150 เหรียญทองแล้ว !

เยี่ยฉวนเอามือตบกระเป๋าใบเล็กที่ห้อยอยู่ข้างเอวพลางหัวเราะคนเดียวอย่างกับคนโง่ ก่อนจะรีบเดิน ตามองค์หญิงเก้าไป

องค์หญิงเก้าเดินนำเยี่ยฉวนมาจนถึงถ้ำที่ใช้ซ่อนตัว หญิงสาวนั่งไขว้ขาลงบนพื้น จากนั้นจึงลงมือก่อ ไฟและนำไก่ออกมาย่างสบายใจเฉิบ

เยี่ยฉวนรู้สึกประหลาดใจ ก็เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าเขาและนางเดินมาด้วยกันมือเปล่าแล้วจะไปเอาไก่มาจาก ไหน !

องค์หญิงเก้ามองเยี่ยฉวน “อะไรกัน ? นี่เจ้าสงสัยงั้นเหรอ ?”

เยี่ยฉวนพยักหน้ารับอย่างรวดเร็ว

นางชูแหวนที่ประดับอยู่บนนิ้วเรียวยาวให้ได้เห็น “นี่คือแหวนสำหรับเก็บสัมภาระ ยังมีที่ว่างอีกมากมายอยู่ภายใน ข้าสามารถใช้แหวนวงนี้เพื่อเก็บข้าวของที่หามาได้ จะยกเว้นก็แต่สิ่งมีชีวิตเท่านั้น”

เยี่ยฉวนทำตาเป็นประกาย “แหวนวงนั้นข้าขอดูได้หรือไม่ ?”

องค์หญิงเก้าเป็นคนใจกว้าง นางก้มหน้าลงเพื่อถอดแหวนออกและส่งมันให้กับเยี่ยฉวน เขาพินิจมอง มันอย่างละเอียดด้วยความระมัดระวัง ดวงตาทั้งสองฉายแววอยากรู้อยากเห็น “ข้างในมีพื้นที่ขนาดเท่าไหร่ ?”

องค์หญิงเก้าพึมพำ “ก็ขนาดเท่ากับห้อง ๆ หนึ่งกระมัง !”

เยี่ยฉวนดูตกใจก่อนจะถามขึ้น “ต้องใช้เหรียญทองประมาณเท่าไหร่จึงจะสามารถซื้อได้สักอัน ?”

องค์หญิงเก้าค่อย ๆ ปรายตามองเยี่ยฉวน “5 แสนเหรียญทอง เจ้าสิ่งนี้มีราคาค่างวดก็จริง แต่ทว่าก็ไม่มีวางขายอยู่ตามท้องตลาดหรอกน่ะ !”

“5 แสนเหรียญทอง !”

เยี่ยฉวนเหมือนกับจะทำวิญญาณหลุดลอยออกจากร่าง ชายหนุ่มรีบส่งแหวนคืนให้กับองค์หญิงเก้า ทันที “5 แสนเหรียญทอง ! ท่านต้องล้อข้าเล่นแน่ ๆ ต่อให้ข้าขายทรัพย์สินทั้งหมดที่มีอยู่ รวมถึงขายตัวเองด้วยแล้วก็ยังไม่มีปัญญาซื้อเลยด้วยซ้ำ !”

องค์หญิงเก้าเหลือบมองไปที่แหวนสัมภาระก่อนจะพูดขึ้น “ถ้าเจ้าชอบละก็ ข้ายกให้ !”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ 103 ไยไม่สู้ให้จนสุดกำลัง (ต้น)

Now you are reading หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ Chapter 103 ไยไม่สู้ให้จนสุดกำลัง (ต้น) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 103 ไยไม่สู้ให้จนสุดกำลัง (ต้น)

ใบหน้าของเยี่ยฉวนแสดงออกถึงความอึดอัดใจ

“นี่ข้ายังไม่โหดเหี้ยมพออีกหรือ ?”

ด้วยความสัตย์จริง เขารู้สึกว่าตัวเองเหี้ยมโหดมากพอแล้วกระมัง !

แน่นอนว่าองค์หญิงเก้าก็ดูเหมือนจะเป็นคนที่โหดเหี้ยมเช่นกัน !

ขณะนั้นเอง องค์หญิงเก้าที่เดินไปได้ไม่ไกลพลันชะลอฝีเท้า นางหันกลับมามองเยี่ยฉวน “ยืนงงอยู่ทำไมล่ะ ? ออกไปฆ่าคนเร็ว !”

เยี่ยฉวนพูดไม่ออก “…”

ว่าแล้วชายหนุ่มก็เดินตามองค์หญิงเก้าไป ทั้งสองมุ่งหน้าไกลออกไปเรื่อย ๆ

อย่างไรก็ดี พวกเขาได้ค้นร่างของชายหนุ่มร่างกำยำก่อนที่จะไป เมื่อผนวกกับที่เขาเคยได้รับรางวัล มากมาย รวมถึงก้อนหินวิญญาณระดับสูงสุดมาหลายก้อน บวกกับคนอื่น ๆ ที่เคยช่วยไว้ก่อนหน้านี้ เท่ากับว่า ตอนนี้เขามีหินวิญญาณระดับสูงสุด 15 ก้อน นอกจากนั้นยังมีเงินติดตัวอยู่ประมาณ 100 เหรียญทอง !

นับว่าโชคดีไม่น้อย !

องค์หญิงเก้าเดินนำเยี่ยฉวนมาจนถึงหุบเขาแห่งหนึ่ง

เยี่ยฉวนเห็นคนสองคนอยู่ตรงนั้น หากตัดสินจากเครื่องแต่งกายแล้ว พวกเขาย่อมต้องมาจากแคว้นถังอย่างแน่นอน !

ระหว่างแคว้นถังและแคว้นเจียง มีความแตกต่างกันในเรื่องของภาษาและเสื้อผ้าที่สวมใส่ โดยเฉพาะ อย่างยิ่งสำเนียงท้องถิ่นที่ยิ่งแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด !

เมื่อมองจากไกล ๆ ทันทีที่ชายหนุ่มทั้งสองเห็นองค์หญิงเก้าและเยี่ยฉวน พวกเขาต่างก็ตกใจมาก “พวกเจ้ามาจากแคว้นเจียงงั้นหรือ ?”

ดวงตาของพวกเขาเลื่อนมายังศีรษะเปื้อนเลือดในมือขององค์หญิงเก้า เมื่อได้เห็นใบหน้านั่นชัดเจน สีหน้าของชายหนุ่มทั้งสองก็พลันซีดเผือดลง เมื่อถึงตอนนี้ องค์หญิงเก้าก็ได้โยนศีรษะนั้นไปที่ชายคนหนึ่ง และขณะเดียวกันนั้นเอง นางก็พลันรีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว

“เร็วอะไรขนาดนี้เนี่ย !”

เยี่ยฉวนหรี่ตาลงเล็กน้อย เพราะความแข็งแกร่งขององค์หญิงเก้า …นางนั้นทรงพลังมากเกินกว่าที่เขา คาดเอาไว้มากทีเดียว !

ชายหนุ่มวิ่งออกไปโดยไม่คิดอะไรอีก เมื่อเข้าถึงตัวชายคนนั้นได้ เยี่ยฉวนจึงออกหมัดชกทันที !

หมัดทลายภูผา !

พลังหมัดที่แผ่ออกมาระเบิดหินรอบ ๆ ทำให้แตกกระจายจนสิ้น !

เมื่อชายหนุ่มฝ่ายตรงข้ามรับรู้ได้ถึงพลังหมัดของเยี่ยฉวน เขาพลันรู้สึกช็อกและไม่กล้าที่จะปล่อยหมัดอานุภาพเบาแสนเบาของตัวเองออกมาสู้ให้อาย ดังนั้นชายหนุ่มจึงหยุดและเปลี่ยนท่าทางเป็นนั่งขัดสมาธิโดย เอามือกอดอกแทน

แกร๊ก !

พื้นใต้ฝ่าเท้าของชายคนนั้นแยกออกจากกันทันที ในขณะเดียวกันแขนและขาของเขาก็กลายเป็นหนามแหลมดั่งกุหลาบสีทองที่แข็งเหมือนกับโลหะ !

ในเวลานั้น หมัดของเยี่ยฉวนก็มาถึงพอดี

ตู้ม !

เมื่อเสียงระเบิดดังขึ้น ชายคนนั้นพลันกระเด็นถอยห่างออกไปหลายจั้ง ส่วนเยี่ยฉวนเองก็ถูกแรง สะท้อนถอยหลังไปถึงหนึ่งจั้ง !

ขณะที่ชายหนุ่มหยุดมือ เขาก็เหลือบมองไปที่กำปั้นของตัวเองซึ่งตอนนี้กลายเป็นสีแดงก่ำ !

เมื่อเห็นฉากนี้ เยี่ยฉวนจึงหรี่ตาลงเล็กน้อย “ทุกคนที่นี่ล้วนไม่ธรรมดาจริง ๆ เสียด้วย !”

ชายคนนั้นก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่รอช้า ก่อนจะมาปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเยี่ยฉวน ท่อนแขนแข็งแกร่ง ของอีกฝ่ายฟาดลงไปจนสุดแรง ทันใดนั้นเสียงระเบิดพลันดังขึ้นในสนามอย่างต่อเนื่อง !

“ช่างน่ากลัวอะไรอย่างนี้ !”

เยี่ยฉวนจับมือขวาของตัวเองขึ้นมา ก่อนจะค่อย ๆ รวบรวมพลังลมปราณอย่างช้า ๆ เพื่อเสริมเคล็ดวิชาของตัวเองลงในหมัด ในช่วงเวลาที่เขากำลังจะได้ออกแรง ภาพที่เห็นตรงหน้าก็พลันเปลี่ยนไป วินาทีถัดมา ศีรษะของชายตรงหน้าก็ดูจะขาดกระเด็นไป !

เยี่ยฉวนมองสตรีผู้บ้าบิ่นที่อยู่ตรงหน้าเขาด้วยความรู้สึกทึ่ง !

ชุดสีเงินและดาบโค้งสีทอง !

นางคือองค์หญิงเก้า !

“นางใช้ดาบสังหารบุรุษได้ภายในไม่กี่วินาทีเนี่ยนะ !”

เยี่ยฉวนรู้สึกว่าสมองของตัวเองช่างว่างเปล่า !

องค์หญิงเก้าเก็บดาบสีทองเข้าฝัก นางหมุนตัวและเดินมาทางเยี่ยฉวน สายตาจับจ้องไปยังชายหนุ่มผู้ที่มาด้วยกันอย่างไม่เข้าใจ “ไยไม่สู้ให้จนสุดกำลังเล่า เจ้าจะออมแรงไว้ทำไม ?”

เยี่ยฉวนพูดไม่ออก “…”

นางจ้องหน้าเยี่ยฉวน “เจ้าเป็นถึงผู้ฝึกกระบี่ เมื่อลงมือแล้ว หากจะใช้เวลาให้สั้นที่สุดก็ย่อมได้ แต่ทำไมถึงเก็บงำความแข็งแกร่งของเจ้าเอาไว้กัน ? เจ้าต้องรู้ก่อนว่าในสถานที่แบบนี้ หากไม่รีบจบการต่อสู้ให้เร็ว ที่สุด ถ้างั้นก็เป็นไปได้ว่าฝ่ายศัตรูจะดึงพวกเข้ามาเพิ่มอีก เจ้าอยากจะหาเรื่องเหนื่อยเพิ่มขึ้นหรือยังไงกัน ?”

เยี่ยฉวนตกอยู่ในความเงียบ

องค์หญิงเก้ายังคงเดินหน้าต่อไป สายตาของนางคมกริบเหมือนใบมีด จากนั้นหญิงสาวก็กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือกว่า “เจ้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อฝึกฝน แต่มาเพื่อฆ่าหรือถูกฆ่าต่างหาก !!”

เยี่ยฉวนยิ้มอย่างขมขื่น “เข้าใจแล้ว”

องค์หญิงเก้าตวาด “ให้มันจริงจังกว่านี้หน่อย !”

เยี่ยฉวนรีบกล่าวอย่างเคร่งขรึมทันที “ข้าเข้าใจแล้ว !”

องค์หญิงเก้าพยักหน้าเล็กน้อย “จงเอาอย่างข้านี่ !”

เยี่ยฉวนเริ่มรวบรวมถ้วยรางวัลอีกครั้งอยู่ในใจ คราวนี้เขาได้รับหินวิญญาณระดับสูงสุด 5 ก้อนและ เหรียญทองอีก 50 เหรียญ ตอนนี้ชายหนุ่มมีหินวิญญาณระดับสูงสุดอยู่ 20 ก้อนและ 150 เหรียญทองแล้ว !

เยี่ยฉวนเอามือตบกระเป๋าใบเล็กที่ห้อยอยู่ข้างเอวพลางหัวเราะคนเดียวอย่างกับคนโง่ ก่อนจะรีบเดิน ตามองค์หญิงเก้าไป

องค์หญิงเก้าเดินนำเยี่ยฉวนมาจนถึงถ้ำที่ใช้ซ่อนตัว หญิงสาวนั่งไขว้ขาลงบนพื้น จากนั้นจึงลงมือก่อ ไฟและนำไก่ออกมาย่างสบายใจเฉิบ

เยี่ยฉวนรู้สึกประหลาดใจ ก็เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าเขาและนางเดินมาด้วยกันมือเปล่าแล้วจะไปเอาไก่มาจาก ไหน !

องค์หญิงเก้ามองเยี่ยฉวน “อะไรกัน ? นี่เจ้าสงสัยงั้นเหรอ ?”

เยี่ยฉวนพยักหน้ารับอย่างรวดเร็ว

นางชูแหวนที่ประดับอยู่บนนิ้วเรียวยาวให้ได้เห็น “นี่คือแหวนสำหรับเก็บสัมภาระ ยังมีที่ว่างอีกมากมายอยู่ภายใน ข้าสามารถใช้แหวนวงนี้เพื่อเก็บข้าวของที่หามาได้ จะยกเว้นก็แต่สิ่งมีชีวิตเท่านั้น”

เยี่ยฉวนทำตาเป็นประกาย “แหวนวงนั้นข้าขอดูได้หรือไม่ ?”

องค์หญิงเก้าเป็นคนใจกว้าง นางก้มหน้าลงเพื่อถอดแหวนออกและส่งมันให้กับเยี่ยฉวน เขาพินิจมอง มันอย่างละเอียดด้วยความระมัดระวัง ดวงตาทั้งสองฉายแววอยากรู้อยากเห็น “ข้างในมีพื้นที่ขนาดเท่าไหร่ ?”

องค์หญิงเก้าพึมพำ “ก็ขนาดเท่ากับห้อง ๆ หนึ่งกระมัง !”

เยี่ยฉวนดูตกใจก่อนจะถามขึ้น “ต้องใช้เหรียญทองประมาณเท่าไหร่จึงจะสามารถซื้อได้สักอัน ?”

องค์หญิงเก้าค่อย ๆ ปรายตามองเยี่ยฉวน “5 แสนเหรียญทอง เจ้าสิ่งนี้มีราคาค่างวดก็จริง แต่ทว่าก็ไม่มีวางขายอยู่ตามท้องตลาดหรอกน่ะ !”

“5 แสนเหรียญทอง !”

เยี่ยฉวนเหมือนกับจะทำวิญญาณหลุดลอยออกจากร่าง ชายหนุ่มรีบส่งแหวนคืนให้กับองค์หญิงเก้า ทันที “5 แสนเหรียญทอง ! ท่านต้องล้อข้าเล่นแน่ ๆ ต่อให้ข้าขายทรัพย์สินทั้งหมดที่มีอยู่ รวมถึงขายตัวเองด้วยแล้วก็ยังไม่มีปัญญาซื้อเลยด้วยซ้ำ !”

องค์หญิงเก้าเหลือบมองไปที่แหวนสัมภาระก่อนจะพูดขึ้น “ถ้าเจ้าชอบละก็ ข้ายกให้ !”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+