หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ 107 ถ้าเจ้าชอบใครสักคน (ต้น)

Now you are reading หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ Chapter 107 ถ้าเจ้าชอบใครสักคน (ต้น) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 107 ถ้าเจ้าชอบใครสักคน (ต้น)

“นี่มันอะไรกัน ?”

หมายความว่ายังไงกัน ทุกคนต่างสงสัยและงุนงงกับคำทักทายนั้น

“เข้ามาสิ !”

ในตอนนี้เองที่เสียงจากในตำหนักดังขึ้นอีกครั้ง

ทุกคนมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ หากทว่าไม่มีผู้ใดกล้าเคลื่อนไหว

นั่นก็เพราะว่าพวกเขาทั้งหมดต่างก็ไม่คิดว่าข้างในนั้นจะมีคนอยู่ !

ทันใดนั้นเยี่ยฉวนพลันเป็นคนเดินนำหน้าไปยังตำหนักนั่น ทุกคนต่างมองที่เยี่ยฉวนเป็นตาเดียว องค์ หญิงเก้าที่ยืนอยู่ข้าง ๆ รีบคว้าตัวชายหนุ่มเอาไว้ “เจ้าจะทำอะไรน่ะ ?”

ในสมองของเยี่ยฉวนนั้นว่างเปล่า “ข้าจะทำอะไรหรือ ?”

“มีบางอย่างผิดปกติ !”

“ต้องเป็นเพราะกระบี่หลิงเซี่ยวแน่ ๆ!”

สีหน้าของเยี่ยฉวนสลดลง เมื่อครู่ก่อนหน้านี้ มีพลังลึกลับผลักดันให้เขาค่อย ๆ ก้าวเข้าไปใกล้ที่พำนัก ขึ้นเรื่อย ๆ พลังนี้มากระบี่หลิงเซี่ยวไม่ผิดแน่ !

“กระบี่หลิงเซี่ยวมีความเกี่ยวข้องอะไรกับจ้าวแห่งกระบี่หรือไม่ ?”

“จ้าวแห่งกระบี่หรือ ?”

เมื่อครุ่นคิดมาถึงตรงนี้ เยี่ยฉวนก็พอนึกออก “คงไม่ใช่ว่าจ้าวแห่งกระบี่เสียชีวิตในหอคอยแห่งเรือนจำหรอกกระมัง ? แล้วแบบนี้จะมีสิ่งใดที่ข้าต้องทำให้กับเขาหรือเปล่า ?”

ในเวลานี้เอง ชายในชุดคลุมสีดำซึ่งยืนอยู่ไม่ไกลก็พลันพูดขึ้นทันที “ผู้กล้ายอมประสบผลสำเร็จมากกว่าพวกคนขี้ขลาด ข้าจะเข้าไปก่อน !”

เมื่อพูดจบ คนของเขาทั้งหมดก็กลายเป็นควันดำ ก่อนจะลอยตรงเข้าไป

หลังจากที่ชายในชุดคลุมสีดำเข้าไปแล้ว ทุกคนที่มารวมตัวกันจึงรีบวิ่งตามหลังไปโดยพลัน

เยี่ยฉวนและองค์หญิงเก้าเองก็เช่นกัน ทั้งสองคนรีบปรี่เข้าไปอย่างรวดเร็ว แต่ทว่าเมื่อทุกคนก้าวเข้ามาในตำหนักแล้ว ทั้งหมดก็กลายเป็นอัมพาต ไม่อาจเคลื่อนไหวด้วยความตะลึงงัน

ภายในที่พำนักนั้นมีประติมากรรมภาพนูนสูงของชายคนหนึ่งประดับอยู่ หากมองผ่านตา แวบแรกจะมีประติมากรรมที่มีลักษณะเหมือนกันอีกเกือบเป็นพันชิ้นเลยทีเดียว เมื่อดูจากรูปร่างลักษณะของรูปปั้นแล้ว คนผู้เป็นต้นแบบน่าจะยังอายุไม่มากนัก ดูยังหนุ่มยังแน่นอยู่เลย มีกระบี่ไม้เล่มหนึ่งแขวนอยู่ที่เอวของรูปแกะสลัก ซึ่งมันก็ทำเอาเยี่ยฉวนรู้สึกตกตะลึงตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น

“กระบี่หลิงเซี่ยว !”

กระบี่ไม้พวกนี้เหมือนกันกับกระบี่หลิงเซี่ยวที่อยู่ในร่างเขาทุกประการ และเหนือสิ่งอื่นใด พวกมันยังถูกสลักไว้ด้วยอักขระสองตัวอย่าง ‘หลิง’ และ ‘เซี่ยว’ อยู่บนนั้น

“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ?”

เยี่ยฉวนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย !

ทันใดนั้นพวกเขาทั้งหมดก็พลันหันกลับมาเพื่อมองไปยังระยะไกลโดยพร้อมเพรียงกัน ที่มุมห้องโถง ใหญ่มีสตรีผมยาวผู้หนึ่งกำลังจดจ่ออยู่กับการแกะสลักไม้ตรงหน้า หญิงสาวนั่งพับเพียบเรียบร้อยกับพื้น ชุดที่ นางสวมใส่อยู่ดูเหมือนจะเสียรูปทรงเดิมไปตั้งนานแล้ว ผมยาวสลวยแผ่กระจายเต็มพื้น เส้นผมของนางทั้ง หมดเป็นสีขาวราวกับหิมะ นางเอาแต่แกะสลักไม้ชิ้นนั้นทีละน้อยอย่างระมัดระวังและจริงจัง

เมื่อได้เห็นสตรีนางนี้ ทุกคนที่อยู่ในที่นั้นจึงรู้สึกตัวทันที !

สตรีผมยาวก็พลันกล่าวขึ้น “ถ้ามาที่นี่เพื่อตามหาสมบัติ พวกเจ้าสามารถไปที่กระท่อมไม้ไผ่ด้านหลัง ห้องโถงนี้ได้ ที่นั่นมีบางสิ่งบางอย่างที่เขาคนนั้นทิ้งไว้อยู่”

เมื่อได้ยินคำกล่าวดังกล่าว ทุกคนต่างก็หันมามองหน้ากัน ต่อมาชายในชุดคลุมสีดำและคนอื่น ๆ จึงได้ทยอยออกจากห้องโถงไป องค์หญิงเก้าเองก็เช่นกัน แต่เมื่อนางเห็นเยี่ยฉวนยังยืนนิ่งค้าง

“แล้วเจ้าไม่ไปหรือไง ?”

เยี่ยฉวนมองไปที่สตรีผมยาวก่อนตอบ “ท่านไปก่อนเลย ข้ายังมีเรื่องอะไรที่อยากจะถามนางสักหน่อย !”

องค์หญิงเก้ามองเยี่ยฉวน “งั้นก็ระวังตัวด้วยล่ะ”

เมื่อพูดจบนางก็หมุนตัวและเดินออกจากห้องโถงไปอีกคน

“คัมภีร์ยุทธ์ชั้นยอดขั้นปฐพี !”

ช่วงเวลาที่องค์หญิงเก้ากำลังออกไปข้างนอก ฉับพลันก็ได้มีเสียงประหลาดใจดังมาจากด้านหลังที่พำนักอื้ออึง ก่อนที่จะตามมาด้วยเสียงการต่อสู้มากมายนับไม่ถ้วน

เยี่ยฉวนไม่สนใจสถานการณ์ภายนอก เขาเดินไปหาสตรีผมยาว นางจึงหยุดงานที่ทำอยู่ในมือและหัน กลับมามองเยี่ยฉวน หญิงสาวส่ายศีรษะเบา ๆ “เจ้าไม่ใช่เขา”

จากนั้นนางก็เบือนหน้ากลับมาทำงานแกะสลักไม้ชิ้นเมื่อครู่ต่อ

เยี่ยฉวนกางมือขวาออก ก่อนที่จะมีกระบี่หลิงเซี่ยวปรากฏขึ้นบนฝ่ามือ

สตรีผมยาวหยุดมืออีกครั้ง

แต่นั่นก็เพียงแค่ครู่เดียวเท่านั้น นางลงมือแกะสลักไม้ชิ้นที่อยู่ตรงหน้าต่อพลางพูดว่า “จิตวิญญาณในกระบี่เล่มนี้ได้สลายไปแล้ว จะเหลือก็แต่ร่องรอยวิญญาณ… เขาตายแล้วงั้นหรือ ?”

เยี่ยฉวนเงียบไป ทีนี้ชายหนุ่มก็มั่นใจได้แล้วว่าจ้าวแห่งกระบี่ที่อยู่ในชั้นแรกของหอคอยเรือนจำนั้นถูก แกะสลักโดยสตรีผมยาวคนนี้เป็นแน่

กระบี่หลิงเซี่ยวในมือสั่นเล็กน้อย จากนั้นมันก็ตกลงมาต่อหน้าสตรีผมยาว

มือของนางแข็งค้างกลางอากาศ หลังจากนั้นไม่นานหญิงสาวก็วางเครื่องมือแกะสลักในมือลง สตรีผมยาวหยิบกระบี่หลิงเซี่ยวขึ้นมาอย่างเบามือ เมื่อได้มองดูมันแล้วนางก็ยิ้มออกมา แต่ขณะที่กำลังยิ้มนั้น น้ำตา สองสายก็ไหลลงมาบนกระบี่หลิงเซี่ยวเล่มนั้นด้วย

เยี่ยฉวนนิ่งเงียบเพราะไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี

เวลาผ่านไปช้าๆ สตรีผมยาวจึงได้กระซิบขึ้น “ข้าเป็นคนทำกระบี่เล่มนี้ให้กับเขา”

เยี่ยฉวนจ้องมองขณะที่หญิงสาวกำลังลูบไล้กระบี่หลิงเซี่ยวเบา ๆ “ในปีนั้นเขาให้ข้ารออยู่ที่นี่ เขาบอกว่าจะกลับมาอีกแน่นอน ข้าจึงได้แต่รอแล้วรอเล่าจนเส้นผมเปลี่ยนเป็นสีขาว แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่กลับมา… มันคงดีไม่น้อยถ้าเขาไม่กลับมาอีกต่อไป เพราะข้าก็ยังมีความหวังสุดท้ายที่จะยึดมั่น แต่ตอนนี้ความหวังสุดท้ายของข้าได้หมดลงแล้ว…”

ด้วยเหตุนี้นางจึงหันไปมองเยี่ยฉวน “เจ้าคือศิษย์ของเขาหรือ ?”

เยี่ยฉวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบ “ถ้าเรียกตามศักดิ์แล้วก็น่าจะใช่ !”

สตรีผมยาวค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน นางจัดเสื้อผ้าและทรงผมให้เรียบร้อยจากนั้นจึงหันไปหาเยี่ยฉวน “เขาไม่ ได้บอกชื่อภรรยาแก่ข้า… ว่ากันอย่างจริงจังแล้ว ข้าไม่ใช่ภรรยาของเขาก็จริง แต่เจ้าช่วยเรียกข้าว่าท่านอาจารย์หญิงด้วยได้หรือไม่ ?”

เยี่ยฉวนนิ่งไป จากนั้นถึงได้กล่าวออกมาอย่างจริงใจ “ขอรับ ท่านอาจารย์หญิง !”

สตรีผมยาวยิ้ม ดวงตาของนางคลอไปด้วยน้ำตา ! หญิงสาวสัมผัสที่แก้มของเยี่ยฉวนเบา ๆ “หลายปี มานี้เขาเป็นชายหนุ่มที่ดีเช่นเดียวกับเจ้า ในตอนนั้นเขาเองก็ฝึกฝนเพื่อก้าวสู่การเป็นเซียนกระบี่… ถ้าหากวัน ข้างหน้าเจ้ามีคนที่เจ้ารัก ก็จงอย่าทำให้นางผิดหวังเสียล่ะ”

เยี่ยฉวนนิ่งคิดเล็กน้อยก่อนจะถาม “ท่านรอเขามาตั้งหลายปี ไม่ทราบว่าเคยนึกเสียใจบ้างหรือไม่ ?”

สตรีผมยาวส่ายหน้าและหัวเราะเบา ๆ “ถ้าเจ้าชอบใครสักคน เจ้าจะไม่มีทางเสียใจ แม้ว่าเจ้าจะไม่ได้ อะไรกลับมาเลยหลังจากที่ทุ่มเทให้เขาหมดทุกอย่างก็ตาม”

เยี่ยฉวนได้แต่เงียบงัน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ 107 ถ้าเจ้าชอบใครสักคน (ต้น)

Now you are reading หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ Chapter 107 ถ้าเจ้าชอบใครสักคน (ต้น) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 107 ถ้าเจ้าชอบใครสักคน (ต้น)

“นี่มันอะไรกัน ?”

หมายความว่ายังไงกัน ทุกคนต่างสงสัยและงุนงงกับคำทักทายนั้น

“เข้ามาสิ !”

ในตอนนี้เองที่เสียงจากในตำหนักดังขึ้นอีกครั้ง

ทุกคนมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ หากทว่าไม่มีผู้ใดกล้าเคลื่อนไหว

นั่นก็เพราะว่าพวกเขาทั้งหมดต่างก็ไม่คิดว่าข้างในนั้นจะมีคนอยู่ !

ทันใดนั้นเยี่ยฉวนพลันเป็นคนเดินนำหน้าไปยังตำหนักนั่น ทุกคนต่างมองที่เยี่ยฉวนเป็นตาเดียว องค์ หญิงเก้าที่ยืนอยู่ข้าง ๆ รีบคว้าตัวชายหนุ่มเอาไว้ “เจ้าจะทำอะไรน่ะ ?”

ในสมองของเยี่ยฉวนนั้นว่างเปล่า “ข้าจะทำอะไรหรือ ?”

“มีบางอย่างผิดปกติ !”

“ต้องเป็นเพราะกระบี่หลิงเซี่ยวแน่ ๆ!”

สีหน้าของเยี่ยฉวนสลดลง เมื่อครู่ก่อนหน้านี้ มีพลังลึกลับผลักดันให้เขาค่อย ๆ ก้าวเข้าไปใกล้ที่พำนัก ขึ้นเรื่อย ๆ พลังนี้มากระบี่หลิงเซี่ยวไม่ผิดแน่ !

“กระบี่หลิงเซี่ยวมีความเกี่ยวข้องอะไรกับจ้าวแห่งกระบี่หรือไม่ ?”

“จ้าวแห่งกระบี่หรือ ?”

เมื่อครุ่นคิดมาถึงตรงนี้ เยี่ยฉวนก็พอนึกออก “คงไม่ใช่ว่าจ้าวแห่งกระบี่เสียชีวิตในหอคอยแห่งเรือนจำหรอกกระมัง ? แล้วแบบนี้จะมีสิ่งใดที่ข้าต้องทำให้กับเขาหรือเปล่า ?”

ในเวลานี้เอง ชายในชุดคลุมสีดำซึ่งยืนอยู่ไม่ไกลก็พลันพูดขึ้นทันที “ผู้กล้ายอมประสบผลสำเร็จมากกว่าพวกคนขี้ขลาด ข้าจะเข้าไปก่อน !”

เมื่อพูดจบ คนของเขาทั้งหมดก็กลายเป็นควันดำ ก่อนจะลอยตรงเข้าไป

หลังจากที่ชายในชุดคลุมสีดำเข้าไปแล้ว ทุกคนที่มารวมตัวกันจึงรีบวิ่งตามหลังไปโดยพลัน

เยี่ยฉวนและองค์หญิงเก้าเองก็เช่นกัน ทั้งสองคนรีบปรี่เข้าไปอย่างรวดเร็ว แต่ทว่าเมื่อทุกคนก้าวเข้ามาในตำหนักแล้ว ทั้งหมดก็กลายเป็นอัมพาต ไม่อาจเคลื่อนไหวด้วยความตะลึงงัน

ภายในที่พำนักนั้นมีประติมากรรมภาพนูนสูงของชายคนหนึ่งประดับอยู่ หากมองผ่านตา แวบแรกจะมีประติมากรรมที่มีลักษณะเหมือนกันอีกเกือบเป็นพันชิ้นเลยทีเดียว เมื่อดูจากรูปร่างลักษณะของรูปปั้นแล้ว คนผู้เป็นต้นแบบน่าจะยังอายุไม่มากนัก ดูยังหนุ่มยังแน่นอยู่เลย มีกระบี่ไม้เล่มหนึ่งแขวนอยู่ที่เอวของรูปแกะสลัก ซึ่งมันก็ทำเอาเยี่ยฉวนรู้สึกตกตะลึงตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น

“กระบี่หลิงเซี่ยว !”

กระบี่ไม้พวกนี้เหมือนกันกับกระบี่หลิงเซี่ยวที่อยู่ในร่างเขาทุกประการ และเหนือสิ่งอื่นใด พวกมันยังถูกสลักไว้ด้วยอักขระสองตัวอย่าง ‘หลิง’ และ ‘เซี่ยว’ อยู่บนนั้น

“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ?”

เยี่ยฉวนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย !

ทันใดนั้นพวกเขาทั้งหมดก็พลันหันกลับมาเพื่อมองไปยังระยะไกลโดยพร้อมเพรียงกัน ที่มุมห้องโถง ใหญ่มีสตรีผมยาวผู้หนึ่งกำลังจดจ่ออยู่กับการแกะสลักไม้ตรงหน้า หญิงสาวนั่งพับเพียบเรียบร้อยกับพื้น ชุดที่ นางสวมใส่อยู่ดูเหมือนจะเสียรูปทรงเดิมไปตั้งนานแล้ว ผมยาวสลวยแผ่กระจายเต็มพื้น เส้นผมของนางทั้ง หมดเป็นสีขาวราวกับหิมะ นางเอาแต่แกะสลักไม้ชิ้นนั้นทีละน้อยอย่างระมัดระวังและจริงจัง

เมื่อได้เห็นสตรีนางนี้ ทุกคนที่อยู่ในที่นั้นจึงรู้สึกตัวทันที !

สตรีผมยาวก็พลันกล่าวขึ้น “ถ้ามาที่นี่เพื่อตามหาสมบัติ พวกเจ้าสามารถไปที่กระท่อมไม้ไผ่ด้านหลัง ห้องโถงนี้ได้ ที่นั่นมีบางสิ่งบางอย่างที่เขาคนนั้นทิ้งไว้อยู่”

เมื่อได้ยินคำกล่าวดังกล่าว ทุกคนต่างก็หันมามองหน้ากัน ต่อมาชายในชุดคลุมสีดำและคนอื่น ๆ จึงได้ทยอยออกจากห้องโถงไป องค์หญิงเก้าเองก็เช่นกัน แต่เมื่อนางเห็นเยี่ยฉวนยังยืนนิ่งค้าง

“แล้วเจ้าไม่ไปหรือไง ?”

เยี่ยฉวนมองไปที่สตรีผมยาวก่อนตอบ “ท่านไปก่อนเลย ข้ายังมีเรื่องอะไรที่อยากจะถามนางสักหน่อย !”

องค์หญิงเก้ามองเยี่ยฉวน “งั้นก็ระวังตัวด้วยล่ะ”

เมื่อพูดจบนางก็หมุนตัวและเดินออกจากห้องโถงไปอีกคน

“คัมภีร์ยุทธ์ชั้นยอดขั้นปฐพี !”

ช่วงเวลาที่องค์หญิงเก้ากำลังออกไปข้างนอก ฉับพลันก็ได้มีเสียงประหลาดใจดังมาจากด้านหลังที่พำนักอื้ออึง ก่อนที่จะตามมาด้วยเสียงการต่อสู้มากมายนับไม่ถ้วน

เยี่ยฉวนไม่สนใจสถานการณ์ภายนอก เขาเดินไปหาสตรีผมยาว นางจึงหยุดงานที่ทำอยู่ในมือและหัน กลับมามองเยี่ยฉวน หญิงสาวส่ายศีรษะเบา ๆ “เจ้าไม่ใช่เขา”

จากนั้นนางก็เบือนหน้ากลับมาทำงานแกะสลักไม้ชิ้นเมื่อครู่ต่อ

เยี่ยฉวนกางมือขวาออก ก่อนที่จะมีกระบี่หลิงเซี่ยวปรากฏขึ้นบนฝ่ามือ

สตรีผมยาวหยุดมืออีกครั้ง

แต่นั่นก็เพียงแค่ครู่เดียวเท่านั้น นางลงมือแกะสลักไม้ชิ้นที่อยู่ตรงหน้าต่อพลางพูดว่า “จิตวิญญาณในกระบี่เล่มนี้ได้สลายไปแล้ว จะเหลือก็แต่ร่องรอยวิญญาณ… เขาตายแล้วงั้นหรือ ?”

เยี่ยฉวนเงียบไป ทีนี้ชายหนุ่มก็มั่นใจได้แล้วว่าจ้าวแห่งกระบี่ที่อยู่ในชั้นแรกของหอคอยเรือนจำนั้นถูก แกะสลักโดยสตรีผมยาวคนนี้เป็นแน่

กระบี่หลิงเซี่ยวในมือสั่นเล็กน้อย จากนั้นมันก็ตกลงมาต่อหน้าสตรีผมยาว

มือของนางแข็งค้างกลางอากาศ หลังจากนั้นไม่นานหญิงสาวก็วางเครื่องมือแกะสลักในมือลง สตรีผมยาวหยิบกระบี่หลิงเซี่ยวขึ้นมาอย่างเบามือ เมื่อได้มองดูมันแล้วนางก็ยิ้มออกมา แต่ขณะที่กำลังยิ้มนั้น น้ำตา สองสายก็ไหลลงมาบนกระบี่หลิงเซี่ยวเล่มนั้นด้วย

เยี่ยฉวนนิ่งเงียบเพราะไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี

เวลาผ่านไปช้าๆ สตรีผมยาวจึงได้กระซิบขึ้น “ข้าเป็นคนทำกระบี่เล่มนี้ให้กับเขา”

เยี่ยฉวนจ้องมองขณะที่หญิงสาวกำลังลูบไล้กระบี่หลิงเซี่ยวเบา ๆ “ในปีนั้นเขาให้ข้ารออยู่ที่นี่ เขาบอกว่าจะกลับมาอีกแน่นอน ข้าจึงได้แต่รอแล้วรอเล่าจนเส้นผมเปลี่ยนเป็นสีขาว แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่กลับมา… มันคงดีไม่น้อยถ้าเขาไม่กลับมาอีกต่อไป เพราะข้าก็ยังมีความหวังสุดท้ายที่จะยึดมั่น แต่ตอนนี้ความหวังสุดท้ายของข้าได้หมดลงแล้ว…”

ด้วยเหตุนี้นางจึงหันไปมองเยี่ยฉวน “เจ้าคือศิษย์ของเขาหรือ ?”

เยี่ยฉวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบ “ถ้าเรียกตามศักดิ์แล้วก็น่าจะใช่ !”

สตรีผมยาวค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน นางจัดเสื้อผ้าและทรงผมให้เรียบร้อยจากนั้นจึงหันไปหาเยี่ยฉวน “เขาไม่ ได้บอกชื่อภรรยาแก่ข้า… ว่ากันอย่างจริงจังแล้ว ข้าไม่ใช่ภรรยาของเขาก็จริง แต่เจ้าช่วยเรียกข้าว่าท่านอาจารย์หญิงด้วยได้หรือไม่ ?”

เยี่ยฉวนนิ่งไป จากนั้นถึงได้กล่าวออกมาอย่างจริงใจ “ขอรับ ท่านอาจารย์หญิง !”

สตรีผมยาวยิ้ม ดวงตาของนางคลอไปด้วยน้ำตา ! หญิงสาวสัมผัสที่แก้มของเยี่ยฉวนเบา ๆ “หลายปี มานี้เขาเป็นชายหนุ่มที่ดีเช่นเดียวกับเจ้า ในตอนนั้นเขาเองก็ฝึกฝนเพื่อก้าวสู่การเป็นเซียนกระบี่… ถ้าหากวัน ข้างหน้าเจ้ามีคนที่เจ้ารัก ก็จงอย่าทำให้นางผิดหวังเสียล่ะ”

เยี่ยฉวนนิ่งคิดเล็กน้อยก่อนจะถาม “ท่านรอเขามาตั้งหลายปี ไม่ทราบว่าเคยนึกเสียใจบ้างหรือไม่ ?”

สตรีผมยาวส่ายหน้าและหัวเราะเบา ๆ “ถ้าเจ้าชอบใครสักคน เจ้าจะไม่มีทางเสียใจ แม้ว่าเจ้าจะไม่ได้ อะไรกลับมาเลยหลังจากที่ทุ่มเทให้เขาหมดทุกอย่างก็ตาม”

เยี่ยฉวนได้แต่เงียบงัน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+