หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง 154 ผู้ใดมีอำนาจกว่ากัน

Now you are reading หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง Chapter 154 ผู้ใดมีอำนาจกว่ากัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลิวว่ายจื่อไม่พอใจชายคนนี้ตั้งนานแล้ว ! เจ้าก็เป็นแค่ผู้ดูแล ตัวข้าก็เป็นผู้ดูแล จะมาวางอำนาจไปเพื่อสิ่งใด ? ถ้าไม่ได้กลัวว่าจะทำการค้าของเจ้านายเสียหาย ข้าคงชักสีหน้าใส่เจ้าตั้งนานแล้ว !

นางหนูรองมีความสามารถจริง ๆ ซ้ำยังมีหน้ามีตามากจนถึงขั้นรู้จักผู้ที่แต่งตัวดี ดูมีฐานะเช่นนี้ได้ หลานสาวคนนี้เป็นดาวนำโชคสำหรับข้า !

“คุณชายเชิญทางนี้เลยขอรับ…ท่านดูโกดังของพวกเราก่อน สองแถวนี้มีทั้งหมด 16 ห้อง เพดานสูงจากพื้น 5 หมี่ โกดังทุกห้องมีความยาว 9 หมี่และกว้าง 6 หมี่ มีการระบายอากาศที่ดี…ไม่ทราบว่าสินค้าที่คุณชายต้องการเก็บคือสิ่งใด ? หากเป็นเครื่องปั้นดินเผาก็ควรเช่าโกดังของพวกเราขอรับ ! ท่านลองคิดตามว่าหากเป็นโกดังแคบ ๆ ตามปกติ เครื่องปั้นดินเผาจะต้องเรียงซ้อนกันขึ้นไป หากมีชิ้นไหนกระแทกกันขึ้นมา มันก็อาจเสียหายได้ขอรับ…” ในที่สุดลิ้นสามฉื่อของหลิวว่ายจื่อก็ได้ใช้ประโยชน์เสียที

ชิงเฟิงไม่วางใจในความสามารถของคุณชายอยู่แล้วจึงกลับไปหาผู้ดูแลจางที่อยู่บนเรือ ตัวผู้ดูแลจางก็เดินรอบท่าเรือหนึ่งรอบเสร็จแล้วก็ไม่อาจหาโกดังที่ดีเท่าของเจ้านี้ได้ ! คราวนี้คุณชายรองสามารถพึ่งพาได้แล้ว !

หลังเดินดูโกดังเสร็จแล้ว ลู่เหวินจวินก็สาวเท้าเดินมาที่ข้างกายหลินเว่ยเว่ยแล้วกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ข้าพอใจกับโกดังที่กู่เหนียงแนะนำให้มาก ท่านช่วยข้าไว้อีกคราแล้ว ! ”

ขณะเจรจาเรื่องค่าเช่า ผู้ดูแลจางก็ถามถึงเรื่องราคากับหลิวว่ายจื่อซึ่งรีบหันมามองหลินเว่ยเว่ยทันที…ราคาค่าเช่าโกดังนี้คุณชายหนิงไม่ได้บอกเขาเอาไว้ แล้วจะทำเช่นไรดี ?

หลินเว่ยเว่ยถามลู่เหวินจวินพร้อมรอยยิ้ม “ไม่ทราบว่าคุณชายจะเช่าเป็นเวลานานเท่าไร ? ”

ลู่เหวินจวินเริ่มคำนวณเวลาในการล่องเรือไปเมืองหมินโจวแล้วให้คำตอบว่า “น่าจะใช้เวลาเก็บสินค้าประมาณแปดถึงเก้าวัน ถ้าเกิดความการล่าช้าขึ้นก็น่าจะไม่เกินสิบวัน…”

“โกดังของเราคิดตามระยะเวลาเช่า ราคาก็แตกต่างกันออกไป หากใช้หนึ่งเดือนแล้วราคาต่อห้องจะอยู่ที่ 20 ตำลึง หากใช้ 20 วัน ราคาต่อห้องจะอยู่ที่ 15 ตำลึง แต่ถ้าใช้ 10 วันราคาต่อห้องจะอยู่ที่ 10 ตำลึง เมื่อครู่ข้ากล่าวไว้แล้วว่าจะให้ราคาพิเศษแก่คุณชาย…เช่นนั้นเก็บท่านห้องละ 8 ตำลึงแล้วกัน คุณชายคิดจะเช่ากี่ห้อง ? ”

ระดับน้ำในแม่น้ำหรงเจียงตอนบนกำลังลดลงเป็นอย่างมาก ทำให้เรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่จำนวนมากต้องติดอยู่ที่ท่าเรือ ถ้าไม่เช่าโกดังเก็บสินค้าก็ต้องปล่อยให้สินค้าตากแดดตากลมอยู่เช่นนั้น บัดนี้ชาวบ้านที่ประสบภัยแล้งนอกตัวเมืองเริ่มเยอะขึ้นเรื่อย ๆ หากวางสินค้าไว้บนพื้นที่โล่งของท่าเรือ นอกจากไม่ดีต่อการเก็บรักษาแล้วยังเสี่ยงหายได้ง่ายด้วย…โดยเฉพาะสินค้าที่เป็นข้าวสารหรือพวกอาหารต่าง ๆ หากจัดการไม่ดีก็อาจโดนปล้นไปเสียดื้อ ๆ ทำให้ขาดทุนหนักกว่าเดิม !

ของหายากย่อมกักตุนไว้เก็งกำไรได้ ดังนั้นราคาบ้านบริเวณท่าเรือหรือริมฝั่งจึงมีราคาสูงขึ้นเรื่อย ๆ แม้แต่ชาวบ้านธรรมดาที่ปล่อยเช่าแค่ห้องปีกเล็กก็มีราคาอยู่ที่ 1 ตำลึงต่อหนึ่งวันแล้ว เมื่อเทียบกันแล้วโกดังแสนกว้างขวางของหลินเว่ยเว่ยมีราคาคุ้มกว่ามาก

ผู้ดูแลจางยังอยากกดราคาลงมาอีกหน่อยจึงส่งสายตาให้คุณชายรองอย่างต่อเนื่อง ทว่าลู่เหวินจวินตอบตกลงทันที “ไม่ต้องลดราคาหรอก ยึดตามราคาห้องละ 10 ตำลึงนั่นแหละ ได้เช่าโกดังที่กว้างขวางเช่นนี้เพราะได้กู่เหนียงช่วยแนะนำให้ ไฉนเลยจะกล้าติดค้างน้ำใจท่านอีก ? โกดังทั้งสิบหกห้องนี้พวกเราเหมาทั้งหมด ! ”

บุญคุณช่วยชีวิตยังไม่ได้ตอบแทน หากติดค้างน้ำใจกันอีก เขาจะเอาสิ่งใดมาตอบแทนนางเล่า ? แม้ใช้ร่างกายตอบแทน นางก็ยังไม่อยากได้เลย ! ลู่เหวินจวินเหลือบตามองเจียงโม่หานที่อยู่ถัดจากหลินเว่ยเว่ย ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกอับอายต่อความอัปลักษณ์ของตนขึ้นมาทันที…ไม่น่าแปลกใจเลยว่าเหตุใดนางจึงไม่ชอบข้า เพราะข้างกายนางมีคนที่โดดเด่นถึงเพียงนี้อยู่แล้ว !

“เยี่ยมไปเลยคุณชาย ! 16 ห้องก็คิดเป็นเงิน 160 ตำลึง หากมีการเปลี่ยนแปลงใดแล้วเกิดล่าช้าไปอีกวันสองวัน เราจะไม่คิดเงินคุณชายเพิ่มสักตำลึงเดียว ! ”

ต่อจากนั้นหลินเว่ยเว่ยก็ให้หลิวว่ายจื่อไปเตรียมสัญญาเช่าให้เรียบร้อย จากนั้นก็ให้บัณฑิตหนุ่มกรอกวันเวลา ราคาค่าเช่าและเงื่อนไขเพิ่มเติมต่าง ๆ แต่ในขณะที่กำลังจะลงชื่อของตนก็มีมือหยาบกร้านของใครบางคนมากระชากกระดาษไปเสียก่อน !

“ข้าเจอโกดังแห่งนี้ก่อน ! ยังไม่ทันพูดว่าจะเช่าหรือไม่ พวกเจ้าก็ให้ผู้อื่นเช่าโดยไม่ได้รับอนุญาตแล้วหรือ ? ” ผู้ดูแลเหมาทำท่าวางอำนาจ เขาสาวเท้าก้าวออกมาจากกลุ่มผู้คุ้มกันที่แยกกระดาษไป จากนั้นก็แสยะยิ้มแล้วกล่าวว่า “โกดัง 16 ห้องนี้ ข้าจะเช่า 5 ห้อง ! ”

“ไอหยา ! เคยเห็นแต่พวกบังคับค้าขายหรือดักปล้นสตรีมาก่อน เพิ่งเคยเห็นการบังคับให้เช่าครั้งแรก ! ผู้ดูแลหลิว ตอนที่เขาดูโกดังเมื่อครู่ได้พูดหรือไม่ว่าจะเช่าโกดังของเรา ? ได้ตกลงราคากันหรือเปล่า ? ได้จ่ายเงินมัดจำหรือไม่ ? ได้ลงนามในสัญญาหรือยั ง? หากไม่มีเลย เช่นนั้นเจ้ามีสิทธิ์อันใดมาห้ามให้พวกเราปล่อยเช่าแก่ผู้อื่น ? ” หลินเว่ยเว่ยยกมือกอดอกแล้วจ้องผู้ดูแลเหมาโดยไม่เกรงกลัว

ผู้ดูแลเหมาเผยสีหน้าดูถูก “เด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้าที่ไหนกัน ไสหัวไป ! เวลาของข้ามีค่า ดังนั้นรีบเรียกผู้มีสิทธิ์ตัดสินใจมาคุยกับข้าเดี๋ยวนี้ ! ”

มุมปากของหลินเว่ยเว่ยยกขึ้น “ต้องขอโทษด้วย โกดัง 16 ห้องนี้เป็นของสาวน้อยที่ไร้ความสามารถเช่นข้า ! จะให้ผู้ใดเช่าก็เป็นสิทธิ์ของข้า ! ”

“ของเจ้าหรือ ? ” จนถึงตอนนี้ผู้ดูแลเหมาจึงเริ่มกวาดสายตามองนาง เมื่อเห็นเสื้อผ้าบนตัวนางแม้จะถูกตัดเย็บอย่างประณีต แต่เนื้อผ้าธรรมดามาก เขาจึงไม่ได้คิดจริงจังต่อถ้อยคำของนาง “ในเมื่อเจ้ากล่าวว่าเป็นเจ้าของ เช่นนั้นก็จัดการง่ายแล้ว นี่คือเงิน 80 ตำลึง ข้าเหมาโกดังสองแถว 16 ห้องนี้แล้ว ! ”

“เฮอะเฮอะ หากเจ้าไม่ใช่คนหูหนวกก็คงตาบอดกระมัง ? โกดัง 1 ห้อง เช่า 10 วันราคา 10 ตำลึง เช่า 16 ห้องก็ต้อง 160 ตำลึง ทว่าโกดัง 16 ห้องนี้ข้าปล่อยเช่าให้คุณชายท่านนี้แล้ว สิทธิ์ในการเช่าอีกสิบวันข้างหน้าอยู่ในมือคุณชาย หากเจ้าอยากใช้โกดังก็ขอร้องเขาสิ…”

หลินเว่ยเว่ยเดินไปตรงหน้าผู้คุ้มกันร่างกำยำซึ่งสูงกว่าตน จากนั้นก็เขย่งเท้าพลางบีบข้อมือของเขา ‘เบา ๆ ’ ในขณะที่เขากำลังกัดฟันนางก็แย่งสัญญากลับมา เมื่อลงนามของนางไปแล้วก็เป่าน้ำหมึกครู่หนึ่ง จากนั้นก็ส่งให้ลู่เหวินจวิน

“อวดดี รู้หรือไม่ว่านายพวกข้าเป็นใคร ? ท่านคือน้องชายของฮูหยินเจ้าเมืองจงโจว ! ก่อนที่เจ้าจะลงนามก็จงคิดให้ดีก่อน นายของเราไม่ใช่คนที่พ่อค้าตัวเล็ก ๆ สามารถผิดใจได้ ! ” ผู้ดูแลเหมาถลึงตาใส่ผู้คุ้มกันที่ไม่ได้เรื่องแล้วหันไปจ้องลู่เหวินจวินด้วยแววตาข่มขู่

“ที่แท้ก็เป็นน้องภรรยาของท่านเจ้าเมือง ไม่น่าแปลกใจว่าเหตุใดจึงกล้าวางอำนาจในเขตเริ่นอัน ! ” ลู่เหวินจวินลงนามของตนอย่างไม่แยแส ขณะเดียวกันก็พูดกับผู้ดูแลจางโดยไม่ยกเปลือกตาขึ้นมองด้วยซ้ำ “ผู้ดูแลจาง บอกเขาว่าข้าเป็นใคร ? ท่านตาและท่านน้าของข้าเป็นใคร…”

ผู้ดูแลจางฉีกยิ้มเย้ยหยัน จากนั้นก็กล่าวว่า “คุณชายของเราคือคุณชายรองแห่งตระกูลลู่ ตระกูลพ่อค้าหลวงซึ่งได้รับสิทธิ์ทำการค้ากับราชสำนักจากฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน ท่านตาคือเจิ้นหยวนโหว ส่วนท่านน้าคือชื่อหลาง1แห่งกรมขุนนาง…”

“ว้าว ! กรมขุนนาง ! การพิจารณาเลื่อนขั้นเจ้าเมืองต้องผ่านกรมขุนนางใช่หรือไม่ ? หากท่านเจ้าเมืองรู้ว่าบ่าวเยี่ยงเจ้ามาผิดใจกับเจ้านายเบื้องบน ไม่รู้ว่าเขาจะจัดการเจ้าเช่นไร ? ” หลินเว่ยเว่ยหัวเราะซ้ำเติมอยู่ด้านข้าง

ผู้ดูแลเหมาตกตะลึงทันที ความจริงแล้วพี่สาวของคุณชายเป็นแค่อนุภรรยาคนโปรดของท่านเจ้าเมือง ถ้าปล่อยให้ท่านเจ้าเมืองรู้ว่าเขามาทำให้หลานชายของชื่อหลางแห่งกรมขุนนางขุ่นเคืองใจ อย่าว่าแต่งานเลย แม้แต่ชีวิตก็ยากที่จะรักษา !

1 ชื่อหลาง คือ รองหัวหน้า ( ช่างชู ) กรม

ตอนต่อไป

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *