หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง 84 ศึกของจ่าฝูง

Now you are reading หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง Chapter 84 ศึกของจ่าฝูง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 84 ศึกของจ่าฝูง

จู่ ๆ เจ้าเทาก็หยุดเดิน ดวงตาสีอำพันของมันจับจ้องไปยังบริเวณหนึ่งของป่าลึก ทันใดนั้นกล้ามเนื้อทั่วทั้งตัวของมันก็เกร็งขึ้นอย่างฉับพลัน มันอ้าปากเผยเขี้ยวแหลมคมออกมา…

หลินเว่ยเว่ยมองไปตามทิศที่มันมองอย่างระวังตัว ‘ไอหยา หมาป่า ! นั่นคือฝูงหมาป่า ! ! ที่แท้เป็นฝูงหมาป่านี่เอง ! รู้หรือไม่ว่าสิ่งใดน่ากลัวที่สุดในป่า ? ไม่ใช่ทั้งเสือและหมีควายหรอก แต่เป็นหมาป่าที่อยู่รวมกันเป็นฝูงเพราะถ้าโดนพวกมันล้อมเอาไว้ บทสรุปที่ต้องเจอมีเพียงความตายเท่านั้น’

เจ้าเทา เร็ว…หนีเร็ว…เอ๋ ? ! !

บัดซบ ! มีฝูงหมาป่าปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของพวกนาง ‘เฮอะ สมกับที่บอกว่าปากพาซวย ! พวกนางโดนฝูงหมาป่าล้อมเอาไว้จริงด้วย ! ’

เจ้าเทา เจ้าเป็นสัตว์ประเภทเดียวกับพวกมัน พอจะสื่อสารเพื่อปรึกษาหารือกับพวกมันว่าเราพอใช้กวางสองตัว…โอ้ ไม่สิ สามตัวไปเลย จะแลกกวางสามตัวกับชีวิตน้อย ๆ ของพวกเราได้หรือไม่ เจ้าลองถามให้ข้าทีเถิด หลินเว่ยเว่ยเอาหลังชนเจ้าเทา นางมองไปยังฝูงหมาป่าที่อยู่ด้านหลังสุดอย่างระมัดระวัง คาดไม่ถึงเลยว่านางต้องมอบแผ่นหลังของตนให้หมาป่าเช่นนี้

ทว่าแววตาที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้นชิงชังของเจ้าเทาได้จับจ้องไปยังหมาป่าตัวหนึ่งซึ่งมีร่างกำยำและดูแข็งแกร่งที่สุดในฝูงหมาป่า หมาป่าตัวนั้นมีขนสีเทาดำทั่วทั้งตัว ขาทั้งสี่ข้างของมันแข็งแกร่งมาก ขนตั้งฟู ตรงหน้าผากมีรอยแผลเป็นลากยาวมาถึงล่างตาขวา แค่เห็นลักษณะของมันก็มองออกเลยว่ามันคือจ่าฝูง

หมาป่าสีเทาดำตัวนั้นใช้สายตาราวกับมองผู้ใต้บังคับบัญชาจับจ้องมายังเจ้าเทาอย่างหยิ่งทะนง จากนั้นก็กวาดสายตามายังหลินเว่ยเว่ยที่หลบอยู่ด้านหลังของเจ้าเทา ‘หึ ยอมไปอยู่กับพวกมนุษย์นี่เอง’

หลินเว่ยเว่ยเหมือนสังเกตเห็นถึงบางอย่าง เจ้าเทา นี่คือศัตรูคู่แค้นของเจ้าใช่หรือไม่ ?

นางแอบทอดถอนใจออกมาอย่างปวดศีรษะ ดูท่าว่าจะขอประนีประนอมไม่เป็นผลแล้ว คงต้องสู้อย่างสุดกำลังเท่านั้น นางจึงค่อย ๆ จับจ้องไปยังฝูงหมาป่าอย่างเงียบเชียบ ขณะที่ภายในใจก็ประเมินสถานการณ์ไปด้วย ‘บ้าเอ๊ย ! เฉพาะหมาป่าโตเต็มวัยก็มีตั้งยี่สิบสามสิบตัวแล้ว หากพวกมันทั้งหมดบุกเข้ามาพร้อมกัน มีหวังว่านางคงต้องแลกด้วยชีวิตน้อย ๆ ของตน ! ’

เจ้าเทาเดินไปทางทิศที่จ่าฝูงยืนอยู่ราวสองก้าว จากนั้นมันก็ส่งเสียงหอนออกมา ทว่าจ่าฝูงมองมาที่มันอย่างดูแคลน เห็นได้ชัดว่าไม่เห็นมันอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย ทั้งยังส่งเสียงขู่ที่แฝงไปด้วยอำนาจคุกคามอีกต่างหาก ฝูงหมาป่าค่อย ๆ ถอยไปด้านหลังพร้อมใช้สายตาแพรวพราวมองมายังหลินเว่ยเว่ยราวกับว่านางคือเนื้อวัวคุณภาพเยี่ยมที่วางรอพวกมันอยู่

เจ้าเทากำลังเผชิญหน้ากับจ่าฝูง แววตาของมันเต็มไปด้วยความดุดันและไม่ยอม หมาป่าทั้งสองตัวนี้ตั้งท่าพร้อมจู่โจมกันราวกับว่ามันทั้งคู่กำลังหาจุดอ่อนของอีกฝ่าย

หลินเว่ยเว่ยกะพริบดวงตากลมโตพลางจับจ้องไปด้านนั้น ในใจของนางก็รู้สึกตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย ‘ศึกชิงตำแหน่งจ่าฝูงหมาป่ากำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว ! เจ้าเทา สู้ สู้ ! พี่สาวเอาใจช่วย ! ! ’ หลินเว่ยเว่ยกลัวว่าเจ้าเทาจะเสียสมาธิจึงทำได้เพียงแอบให้กำลังใจอยู่ในความคิด

เจ้าเทาเอ๋ยเจ้าเทา ! ชีวิตของเราอยู่ในมือเจ้า ! ออกไปเถิด ออกไปเอาชนะจ่าฝูงตัวนั้นแล้วขึ้นเป็นจ่าฝูงหมาป่า ผู้มีชัยจะได้เป็นจ่าฝูง ผู้ที่พ่ายแพ้ก็ต้องยอมก้มหัวศิโรราบ !

ในตอนที่นางกำลังเฝ้าดูอยู่นั้น เจ้าเทาก็เป็นฝ่ายเข้าจู่โจมก่อน หมาป่าทั้งสองตัวกระโจนเข้าหากันกลางอากาศ พวกมันกัดฟันเข้าห้ำหั่นกันอย่างเอาเป็นเอาตาย…จ่าฝูงตัวนั้นเคลื่อนไหวได้อย่างโหดเหี้ยม มันแยกเขี้ยวแล้วตะปบกรงเล็บขึ้นมาเตรียมพร้อมกระโจนเข้าใส่และกัดเจ้าเทา

เจ้าเทาเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วและปราดเปรียวราวกับว่ามันคือลำแสงสีเทาที่วาบผ่านไปมา ในขณะที่จ่าฝูงจู่โจมอย่างรวดเร็วและดุดันครั้งแล้วครั้งเล่า ทว่าทุกครั้งก็มักล้มเหลวกลางอากาศเสมอ จนกระทั่งมันค่อย ๆ หมดความอดทนและเผยข้อบกพร่องออกมามากขึ้น

เจ้าเทาสบโอกาสก็รีบใช้กรงเล็บแหลมคมประดุจมีดตวัดไปที่ดวงตาของจ่าฝูง เสียงกรงเล็บของมันที่ตวัดออกไปดัง ‘ฉวับ’ ราวกับมีดที่ตัดผ่านอากาศ จ่าฝูงล้มเหลวดังเดิมอยู่หลายครั้ง มันพยายามสะบัดตัวเพื่อหลบการโจมตีที่กำลังจะมาถึงดวงตา

จ่าฝูงโมโหมาก มันอ้าปากแยกเขี้ยวเพื่อหมายกัดคอเจ้าเทา แต่เจ้าเทาสามารถหลบการจู่โจมได้อย่างสวยงาม ในขณะที่จ่าฝูงกระโจนอยู่กลางอากาศ ยังไม่ทันได้ยืนอย่างมั่นคงบนพื้น เจ้าเทาก็กระโจนเข้าใส่แล้วใช้เท้าเหยียบจ่าฝูงไว้กับพื้น จ่าฝูงที่ถูกกดไว้ตรงพื้นก็พยายามดิ้นอยู่หลายครา…

หลินเว่ยเว่ยเห็นเช่นนั้นก็มั่นใจเรื่องหนึ่งทันที สมแล้วที่เจ้าเทาถูกบำรุงด้วยน้ำในมิติน้ำพุวิญญาณ ไม่เสียแรงเลยที่นางให้มันกินอาหารที่ล่ามาให้ เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เจ้าเทาเป็นฝ่ายได้เปรียบ ไม่ช้าก็เร็วมันต้องเอาชนะอีกฝ่ายได้แน่นอน

และในตอนนั้นเอง จู่ ๆ นางก็ได้ยินเสียงเหมือนบางอย่างกระโจนอยู่กลางอากาศ นางจึงรีบกระโดดหลบไปด้านหน้า ตามมาด้วยเสียงเสื้อผ้าของนางที่ถูกฉีกขาด นางกลิ้งหลบไปกับพื้นและตอนนี้นางก็ได้เห็นว่ามีหมาป่าสีเทาตัวหนึ่งกระโดดลงพื้นตรงบริเวณที่นางเคยยืนอยู่ตอนแรก ยิ่งไปกว่านั้นบนกรงเล็บของมันยังมีเศษเสื้อที่ฉีกขาดติดไปด้วย

ไอ้หมาบ้า ! ลอบโจมตีนางเช่นนี้จะถือว่าเป็นสุภาพบุรุษได้อย่างไร ?

หลินเว่ยเว่ยเพิ่งลุกยืนได้ไม่นาน หมาป่าสีเทาตัวนั้นก็กระโจนเข้าหานางอีกครา ขณะที่หมาป่าตัวอื่นก็เริ่มเบนความสนใจมาที่นางแทนที่จะไปสนใจการต่อสู้ระหว่างจ่าฝูงและเจ้าเทา จากนั้นพวกมันก็ค่อย ๆ เข้ามาล้อมนางไว้…

เจ้าหมาป่าพวกนี้คิดว่าข้าเป็นเหยื่ออ่อนหัดหรือไร ? พวกเจ้าคิดผิดแล้ว ข้าน่ะคือไม้ที่ทั้งแข็งทั้งอึดแถมยังเป็นผู้ฉลาดหลักแหลม ซ่อนคมเอาไว้อีกมากมาย ! หลินเว่ยเว่ยคิดได้ดังนั้นจึงพลิกตัวไปด้านข้าง จากนั้นนางก็หามุมที่เหมาะสมตั้งแต่ก่อนหมาป่าตัวนั้นจะใช้เท้าแตะบนพื้น นางคว้าเข้าที่หลังคอของมัน ทำให้ตอนนี้เจ้าหมาป่ารุ่นหนุ่มกลายเป็นเหมือนเป็ดน้อยที่ห้อยต่องแต่งอยู่ในมือของนาง

หมาป่าตัวนี้พยายามดิ้นรนสุดชีวิต แต่มันพบว่าตนมีพละกำลังน้อยนิดเสียเหลือเกิน ไม่ต่างจากไก่ในมือของหลินเว่ยเว่ยที่กำลังจะถูกเชือด หลินเว่ยเว่ยเขย่าคอของมันแล้วเอ่ยอย่างดุดันว่า

ทำตัวให้ดีหน่อย ข้าสามารถหักคอเจ้าไม่ต่างอันใดจากการหักต้นกก เจ้าลองคิดให้ดีแล้วกันว่าหัวของเจ้าแข็งกว่าหัวของหมูป่าหรือไม่ ? หากยังดิ้นทุรนทุรายเช่นนี้อีก ข้าจะทุบเจ้าให้สมองเปิดไปเลย !

เจ้าหมาป่าถูกนางเขย่าจนหน้ามืดตาลาย และในตอนนี้เองที่ฝูงหมาป่าต่างพากันตกใจกับพฤติกรรมของนาง พวกมันหยุดฝีเท้าเพื่อสังเกตสถานการณ์ จากนั้นก็ไม่เคลื่อนที่ไปที่ใดอีก !

ตอนนี้เองที่ทางฝั่งของเจ้าเทาก็เริ่มมีผลลัพธ์ปรากฏออกมาให้เห็นแล้ว ทั่วทั้งตัวของหมาป่าจ่าฝูงถูกย้อมไปด้วยเลือดสีแดงสด ลำคอของมันถูกกัดจนเป็นแผลเหวอะ ทำให้เลือดไหลนองออกมาด้านนอก จ่าฝูงได้ถูกเจ้าเทาใช้เท้ากดไว้กับพื้น ดวงตาสีเขียวอมเทาของมันค่อย ๆ มืดบอด ขณะที่ร่างกายอ่อนระทวยลงทุกทีจนไม่มีความเคลื่อนไหวใดอีก…

เจ้าเทาส่งเสียงหอนเพื่อแสดงพลังอำนาจออกมาเป็นเวลานาน ทันใดนั้นฝูงหมาป่าก็กรูกันเข้าไปหมอบต่อหน้ามันอย่างรวดเร็วราวกับต้องการแสดงความยินดีที่มันได้ขึ้นเป็นจ่าฝูงตัวใหม่

เจ้าเทาก้าวเดินอย่างสง่าผ่าเผยไปยังหลินเว่ยเว่ย เวลานี้หลินเว่ยเว่ยปรากฏรอยยิ้มดีใจออกมา จากนั้นนางก็โยนเจ้าหมาป่าในมือที่กำลังแกล้งตายลงพื้นแล้วเอาน้ำจากมิติน้ำพุวิญญาณมาช่วยล้างบาดแผลให้เจ้าเทา

เจ้าหมาป่าเอ๋ย…ไม่สิ ควรเรียกว่าจ่าฝูงเจ้าเทาได้แล้ว

เจ้าเทายังยืนนิ่งให้หลินเว่ยเว่ยช่วยล้างบาดแผลให้ ตอนนี้บนตัวของมันมีบาดแผลเป็นจำนวนมาก เพียงแต่บาดแผลส่วนใหญ่เป็นรอยแผลเปิดตามผิวหนังเท่านั้น หากใช้น้ำจากมิติน้ำพุวิญญาณมาช่วยล้างแผลก็จะทำให้เลือดหยุดไหลได้

เจ้าเทาหันไปหอนใส่ฝูงหมาป่าอีกครา หลังจากนั้นไม่นานฝูงหมาป่าก็วิ่งกระโจนหายเข้าไปในป่าลึกอย่างรวดเร็ว ขณะที่เจ้าหมาป่าตัวที่โดนหลินเว่ยเว่ยเขย่าศีรษะจนตาลายกลับมีฝีเท้าวิ่งเร็วยิ่งกว่าหมาป่าตัวใด ในใจของมันคงคร่ำครวญว่า ‘บัดซบ ! เหตุใดมนุษย์ผู้นี้จึงเก่งกาจเหลือเกิน ในเมื่อสู้ไม่ได้ก็หลบสักหน่อยแล้วกัน ! ’

บัดนี้เจ้าเทาเดินตรงไปยังทิศทางหนึ่งแล้วหันมามองหลินเว่ยเว่ยราวกับต้องการให้นางตามไป หลินเว่ยเว่ยเห็นเช่นนั้นก็รีบตามไปอย่างรวดเร็ว ฝีเท้าของเจ้าเทาไปหยุดอยู่บริเวณหน้าพืชชนิดหนึ่งที่นางคุ้นเคยเป็นอย่างดี ส่วนเจ้าเทาก็มองนางราวกับต้องการคำชม

ว้าว ! โสม ! เจ้าเทา เจ้าเหมือนสุนัขตำรวจมาก ! หลินเว่ยเว่ยย่อตัวลงไปขุดโสมขึ้นมา แม้โสมต้นนี้มีคุณภาพด้อยกว่าที่อยู่ในมิติน้ำพุวิญญาณเล็กน้อย ทว่าอายุของมันก็น่าจะราวหกสิบเจ็ดสิบปีได้

ตอนต่อไป

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *