หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง 358 อยากมีพี่สาวแบบพี่รองหลิน

Now you are reading หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง Chapter 358 อยากมีพี่สาวแบบพี่รองหลิน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 358 อยากมีพี่สาวแบบพี่รองหลิน

บ้านตระกูลหลินเตรียมหมูอบวุ้นเส้นใส่หัวไชเท้าสองกระทะและแป้งทอดหนึ่งตะกร้าไว้รอพวกบ่าวรับใช้สกุลหยวนที่กำลังหิวโหย พ่อซัวถัวและเหลยหยู่ก็ได้กลับบ้านไปคนละสองชุดใหญ่

หยวนเจี๋ยมอบเงินให้พ่อซัวถัว 5 ตำลึง เพราะในสภาพอากาศที่หนาวเหน็บขนาดนี้ยังรบกวนให้อีกฝ่ายออกไปข้างนอก…ส่วนพ่อซัวถัวรีบปฏิเสธ แต่สุดท้ายก็ปฏิเสธไม่สำเร็จจึงต้องรับเอาไว้…คนจากเมืองหลวงใจกว้างเสียจริง

พ่อบ้านหยางไปอยู่ที่บ้านสกุลเถียนหลังข้างๆ เพื่อดูแลพวกบ่าวรับใช้สกุลหยวน เตียงเตาได้รับการจุดไฟไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ จนร้อนนานแล้ว อาหารก็เพียงพอ ขณะมองอาหารของบรรดาบ่าวรับใช้เขาก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชมความใจกว้างของบ้านสกุลหลินต่อหน้าคุณชาย เพราะแม้จะอยู่ในบ้านตระกูลหยวน หากไม่ใช่ช่วงเทศกาลหรือฉลองปีใหม่ พวกบ่าวรับใช้ก็ไม่ได้กินอาหารที่เลิศหรูขนาดนี้หรอก อีกฝ่ายทำราวกับว่าเนื้อสัตว์ไม่ต้องเสียเงินซื้อมา พวกเนื้อเป็นส่วนผสมในอาหารถึงหนึ่งส่วนสาม !

หยวนเจี๋ยตัดสินใจแล้วว่าควรมอบของขวัญให้บ้านสกุลเจียงและสกุลหลินมากกว่าเดิม !

หิมะหยุดตกในยามบ่าย อาทิตย์กลับมาสาดแสงอีกครั้ง แต่สุดท้ายตอนกลางคืนก็กลับมาหนาวเหน็บดังเดิม วันรุ่งขึ้นถนนบนหุบเขาก็ใช้เดินทางได้ยากลำบากยิ่งกว่าเดิม !

พอได้ยินว่ายังต้องไปที่เขตเริ่นอัน หยวนเจี๋ยก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไร แต่ฉีเยี่ยนกลับทำหน้าเศร้า หลินเว่ยเว่ยพูดกับบัณฑิตหนุ่มว่า “ถ้าอย่างไร…ให้ข้านั่งรถม้าไปที่บ้านผู้อาวุโสเพื่อจะได้ช่วยเล่าให้ท่านฟังว่าเกิดอะไรขึ้น ส่วนจะยอมพบคุณชายหยวนหรือไม่ ผู้อาวุโสจะได้ตัดสินใจเอง…”

เจียงโม่หานหันไปมองหยวนเจี๋ย “คุณชายหยวนคิดว่าอย่างไร ? ”

หยวนเจี๋ยครุ่นคิดก่อนจะพูดว่า “ข้าไปด้วยดีกว่า แต่วางใจได้ หากผู้อาวุโสไม่ยอมพบ ข้าก็จะไม่รั้นอีกต่อไป”

เจียงโม่หานพยักหน้าแล้วหันไปมองหลินเว่ยเว่ยที่กำลังยุ่งอยู่กับการเตรียมรถม้า “เจ้าเพิ่งหายเป็นหวัด ข้าไปเป็นเพื่อนคุณชายหยวนคนเดียวก็พอ ! ”

หลินเว่ยเว่ยคิดว่าใกล้ถึงวันปีใหม่แล้ว ทว่าในบ้านยังมีเรื่องให้ทำอีกมาก นางจึงตอบว่า “ได้ ! เจ้าสวมเสื้อผ้าหนา ๆ หน่อย อากาศหนาวเข้ากระดูกแล้วก็ระวังตัวด้วย ! ”

หลังส่งทั้งสองออกไปแล้ว หลินเว่ยเว่ยก็โบกมือ “เจ้าตัวน้อยทั้งหลาย ! วันนี้เรามาทำขนมอร่อยกัน ! มีใครอยากช่วยข้าบ้าง ? ”

“ข้าอยาก ! ”

“ข้าก็อยาก ! ”

“พี่รองหลิน เลือกข้า ! ”

พวกเจ้าตัวน้อยไม่กี่คนที่วิ่งออกจากบ้านมาเล่นกับเจ้าหนูน้อยตั้งแต่ฟ้าเพิ่งสว่างได้ไม่นานก็รีบยกมือเสนอตัวกันอย่างพร้อมเพรียง เจียงโม่หานและหยวนเจี๋ยที่นั่งรถม้าออกไปไกลแล้วก็ยังได้ยินเสียงร้องตะโกนของพวกเขาจนต้องหันกลับมามอง !

“ได้ ! วันนี้ข้าจะทำ ‘ขนมข้าวตัด’ ‘ขนมถั่วตัด’ ‘ขนมงาตัด’ แถมยังมี ‘สาลี่ตุ๋นน้ำตาลกรวด’ กับ ‘ลูกอมชวนเป้ย1’ ที่ยังช่วยบรรเทาอาการไอและละลายเสมหะได้ด้วย ! พวกเจ้ามาช่วยข้าดูไฟแล้วกัน ! ” ต่อจากนั้นหลินเว่ยเว่ยก็เลือกเด็กมาสี่คนโดยแบ่งเป็นเสี่ยวถู่โต้วบ้านลุงต้าซวน วังตงเฉียงหลายชายคนเล็กของผู้ใหญ่บ้านและยังมีโก่วเชิ่งเอ๋อร์กับมู่เกินเอ๋อร์อีกสองคน

เดิมทีมู่เกินเอ๋อร์เป็นเด็กนิสัยเสียประจำหมู่บ้าน หลังมาตามก้นเจ้าหนูน้อยต้อย ๆ แล้วก็ดูดีขึ้นมาก เรื่องนี้พิสูจน์ได้ว่าไม่มีอะไรที่ของอร่อยปราบไม่ได้ !

ในอากาศที่หนาวเหน็บเช่นนี้จะปล่อยให้พวกเจ้าตัวน้อยออกไปวิ่งอยู่ข้างนอกไม่ได้ ดังนั้นต้องหาเหตุผลให้พวกเขามาอยู่หน้าเตา อย่างน้อยก็ไม่ต้องตากลมหนาว

เตาไม่กี่เตาถูกจุดขึ้นในเวลาเดียวกัน เตาหนึ่งทำขนมข้าวตัด ข้าวสารถูกแช่ไว้ครึ่งชั่วยามแล้วตากให้แห้งบนเตียงเตา ไฟทำให้กระทะร้อนขึ้นมา หลังเทน้ำมันลงไปเคลือบแล้วก็ลดไฟอ่อน เมื่อได้ที่แล้วก็นำข้าวลงไปผัด เวลานี้ก็เพิ่มไฟให้กลับมาแรงดังเดิม หลังผัดให้ทั่วถึงกันแล้วก็ปิดฝาไว้พักหนึ่ง

มู่เกินเอ๋อร์รับหน้าที่ควบคุมไฟก็สามารถคุมไฟดีใช้ได้ หลังผ่านการชี้แนะจากหลินเว่ยเว่ยแล้ว เขาก็ทำตามระดับที่นางต้องการ ผ่านไปไม่นานมู่เกินเอ๋อร์ก็เริ่มได้ยินเสียงป๊อกแป๊กดังจากกระทะจึงรีบไปเรียกหลินเว่ยเว่ย นางให้เขาลดไฟจากนั้นก็ใส่ถุงมือเนื้อหนามาเขย่ากระทะเบาๆ เพื่อให้ข้าวด้านในได้รับความร้อนอย่างสม่ำเสมอ

ผ่านไปอีกครู่หนึ่ง พอด้านในมีเสียงป๊อกแป๊กต่ออีกเล็กน้อยก็สามารถยกกระทะออกได้ ตอนนี้ข้าวสีขาวหิมะกลายเป็นสีเหลืองนวลของการเผาไหม้แล้ว แม้จะเทียบกับใช้เครื่องคั่วไม่ได้แต่มันก็ถือว่าไม่เลว

หลินเว่ยเว่ยได้คั่วถั่วลิสงและงาในกระทะอีกใบเสร็จแล้ว นางเทข้าวออกมาเพื่อผึ่งให้เย็น จากนั้นก็เริ่มเคี่ยวน้ำตาลสีขาวกับแปะแซที่ซื้อมาจากตัวอำเภอ เคี่ยวจนเกิดฟองเล็กๆ จากนั้นนางก็ใส่ถั่วลิสงทุบและข้าวพองลงไป หลังคนพวกมันเข้ากันแล้วก็เทใส่แม่พิมพ์ ค่อย ๆ กดมันแล้วเริ่มตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ

หลังทำเสร็จแล้วนางก็ให้พวกเด็ก ๆ ที่มาช่วยงานกินคนละชิ้น พอเจ้าตัวน้อยได้กินของหวานแล้วก็เริ่มมีพลังขึ้นมาทันที

เมื่อวานหลังได้ขนมหนวดมังกรแล้ว มู่เกินเอ๋อร์ก็กินหมดตั้งแต่ยังไม่ถึงบ้าน มารดาเห็นโก่วเชิ่งเอ๋อร์เอาขนมกลับมาแบ่งให้บิดากินอย่างรู้ความ พอลองถามจึงได้รู้ว่าบุตรชายของนางก็ได้มาเช่นกัน แต่ไม่เห็นเขาจะนึกถึงนางเลย นางจึงด่ามู่เกินเอ๋อร์ยกใหญ่ แต่สุดท้ายก็ยังต้องมาร้องไห้เสียใจภายหลัง

มู่เกินเอ๋อร์ลองเทียบตัวเองกับโก่วเชิ่งเอ๋อร์ อีกฝ่ายเอาขนมกลับมาที่บ้าน ท่านพ่อได้กินแค่เศษเสี้ยวขนมเท่านั้นแต่แลกมาด้วยคำชมจากพวกผู้ใหญ่ ลองหันมามองตัวเอง…ดังนั้นหลังจากได้ขนมถั่วตัดมาแล้ว เขาไม่ได้ยัดมันลงท้องทันที แต่บิมาชิมคำเล็ก ๆ จากนั้นก็เก็บเข้ากระเป๋าแขนเสื้อ…

เมื่อเห็นแบบนั้นแล้ว หลินเว่ยเว่ยก็บอกให้เขารีบนำออกมา “ประเดี๋ยวมันละลายติดแขนเสื้อ พอกลับไปแม่เจ้าก็ด่าอีก เจ้ากินก่อนเลย แล้วก่อนจะกลับไปข้าแบ่งให้พวกเจ้าอีกแน่นอน ! ”

มู่เกินเอ๋อร์หัวเราะร่าอย่างโง่งม ก่อนจะเริ่มแทะขนมถั่วตัดทีละนิดพลางคุมไฟไปด้วย ท่าทางขยันหมั่นเพียรสุด ๆ ส่วนเจ้าตัวน้อยคนอื่นก็เป็นเช่นเดียวกัน อย่าเห็นว่าเป็นแค่เด็กอายุหกถึงแปดขวบเลย เด็กที่มีฐานะยากจนอาจทำงานอื่นไม่ได้ แต่เรื่องคุมไฟพวกเขาชำนาญมาก !

พอมีเด็กพวกนี้ช่วยแล้ว หลินเว่ยเว่ยก็ทำขนมข้าวตัดไปสามกระทะ ขนมถั่วตัดสองกระทะและขนมงาตัดไปอีกหนึ่งกระทะ

ตอนที่มารดาของพวกเด็ก ๆ เรียกกลับไปกินข้าวที่บ้าน หลินเว่ยเว่ยก็รั้งเด็กทั้งสี่คนไว้ ก่อนจะห่อขนมให้พวกเขาชนิดละ 4-5 ชิ้น

แม้พวกตัวน้อยจะทำงานมาตลอดทั้งเช้าแต่ก็ได้กินขนมตลอด ทุกครั้งที่ทำขนมเสร็จ พี่รองหลินจะให้พวกเขากินคนละชิ้น ขนมที่นางทำอร่อยมาก ! ถ้าพี่รองหลินเป็นพี่สาวแท้ ๆ ของตนก็คงดี !

ก่อนจากไป มู่เกินเอ๋อร์ก็ถามด้วยความอาลัยอาวรณ์ว่า “พี่รองหลิน ตอนบ่ายท่านยังทำขนมอีกหรือไม่ ? ยังต้องการความช่วยเหลืออีกหรือเปล่า ? ”

“ทำสิ ! ตอนบ่ายทำสาลี่ตุ๋นน้ำตาลกรวด” หลินเว่ยเว่ยลูบศีรษะเจ้าตัวน้อย “รีบกลับไปเถิด ถ้าหาพวกเจ้าไม่เจอแล้ว พ่อแม่จะเป็นห่วงเอาได้ ! ”

วังตงเฉียงกำลังเคี้ยวขนมงาตัดอยู่ หลังได้ยินแบบนั้นก็พูดว่า “ไม่ขอรับ ถ้าหาพวกเราไม่เจอ พวกเขาก็จะรู้ว่าเราออกมาเล่นกับเอ้อร์ฮว๋า ! ”

โก่วเชิ่งเอ๋อร์พูดอย่างรู้ความ “ก่อนออกมา ข้าบอกท่านพ่อว่ามาเล่นกับเอ้อร์ฮว๋า ! ”

หลินเว่ยเว่ยบีบแก้มน้อย ๆ ของเขาแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “นี่ต่างหากถึงจะถูก ! ตอนออกจากบ้านก็ต้องบอกให้คนในบ้านรู้ ไม่อย่างนั้นคนในบ้านจะเป็นห่วง เข้าใจหรือไม่ ? ”

พวกเจ้าตัวน้อยพูดออกมาอย่างพร้อมเพียง “เข้า…ใจ…”

เมื่อพวกเด็ก ๆ ออกไปแล้วก็ถูกมารดาของตนจับตัวไว้ทันที แม่เลี้ยงโก่วเชิ่งเอ๋อร์ดึงหูมู่เกินเอ๋อร์ “เจ้าไปเล่นเตาไฟบ้านใครมา ? สกปรกไปหมด ! ”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *