ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง 208

Now you are reading ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง Chapter 208 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 208 ล้วนแสร้งทำทั้งสิ้น 

 

 

 

 

 

คำพูดของเว่ยหมิ่นหงอวี้ไม่กล้าไม่ฟัง อีกอย่างเว่ยหมิ่นสามารถมาถึงที่นี่ดูเว่ยเฉินยางได้นั้นก็คงจะได้รับพระราชทานอนุญาตจากไทเฮาแล้ว จึงเข้าไปบอกให้นางไม่ต้องยืนแล้ว ให้นางไปที่ระเบียงทางเดินหาเว่ยหมิ่น 

 

 

เมื่อครู่ได้เห็นเว่ยหมิ่นนางยังรู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อย เพียงแต่ในความประหลาดใจนั้นก็ยังจำได้ว่าที่นี่ยังอยู่ในวัง จึงไม่ได้พุ่งเข้าไปอย่างไร้มารยาทนัก หงอวี้ถือไม้ลงโทษตามอยู่ข้างหลังนาง นางรู้สึกเสียวสันหลัง เวลาเดินก็ยังต้องเกร็งไว้ ไม่เช่นนั้นก็ไม่รู้ืไม้ลงโทษจะฟาดลงมาเมื่อไหร่ ข้างหลังเป็นจุดที่เปราะบางที่สุด หากจู่ๆ นางฟาดไม้ใส่ เช่นนั้นแล้วคงได้เจ็บเจียนตายเป็นแน่ 

 

 

หงอวี้เดินตามหลังนาง แล้วเตือนนาง “เห็นท่านหญิงต้องคำนับ เมื่อวานเพิ่งสอนเจ้าไป ลืมอีกแล้วหรือ” 

 

 

เฉินยางกำมือแน่น กำลังจะย่อตัวคำนับ นึกไม่ถึงว่ากลับถูกเว่ยหมิ่นประคองขึ้นมา เว่ยหมิ่นดึงนางมาอยู่ข้างๆ ตัวเอง ยิ้มพูดว่า “หงอวี้กูกูจำผิดหรือไม่ ตอนนี้เฉินยางเป็นพระชายาแล้ว พวกเรามีฐานะเท่ากัน หากจะต้องพูดถึงมารยาทต้องทำให้ครบละก็ เฉินยางนางเป็นภรรยาของพี่ชายข้า หากนับเช่นนี้แล้วข้ายังต้องเรียกนางว่าพี่สะใภ้ด้วยซ้ำ พวกเราพี่น้องอยากจะคุยกัน กูกูก็ต้องเห็นกับตาว่าพวกเราคำนับให้ซึ่งกันและกันถึงจะยอมพาคนออกไปใช่หรือไม่” 

 

 

หงอวี้พูดมิบังอาจอย่างรู้ตัวแล้วนำคนออกไป 

 

 

เฉินยางเห็นหงอวี้เดินไปไกลแล้ว หลังที่ตั้งตรงอยู่นั้นก็ทรุดลงมาทันที นางเอาแขนเสื้อเช็ดเหงื่อ มือพัดโบกลมไม่หยุด “ไปเสียที ข้าเหนื่อยแทบตาย” 

 

 

เว่ยหมิ่นยื่นผ้าเช็ดหน้าของตนให้นาง “เจ้าจริงจังขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ล้วนแสร้งทำทั้งสิ้น!” 

 

 

“ไม่แสร้งทำไม่ได้เลย ในมือนางถือไม้ลงโทษ หากผิดพลาดแม้เพียงเล็กน้อยก็ต้องถูกตี” นางปากไว พริบตาเดียวก็หลุดเผยออกมาหมดแล้ว นางจึงตั้งสติกลับมาแล้วพูดกลบเกลื่อนด้วยความเขินอายว่า “คือว่าถ้าทำผิดเรื่องใหญ่ถึงจะถูกตี เพียงแค่นางกำนัลน้อยที่ข้าเคยเห็น ที่ถูกตีก็มีหลายคน นี่เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย… ท่านอย่าเอาไปเล่าให้เฝิงเยี่ยไป๋ฟังเลย ไม่เช่นนั้นไทเฮาก็จะตรัสว่าข้าเป็นพวกต่อหน้าเป็นอย่างหนึ่งลับหลังเป็นอีกอย่างหนึ่ง นิสัยหยิ่งยโสอดทนไม่ได้ ไปฟ้องเฝิงเยี่ยไป๋เพื่อทำลายความสัมพันธ์แม่ลูกของพวกเขา” 

 

 

เว่ยหมิ่นหลุดหัวเราะออกมา “ไทเฮาว่าเจ้าเช่นนี้หรือ” 

 

 

เฉินยางถึงได้รู้สึกตัว เว่ยหมิ่นเป็นหลานสาวของไทเฮา ตัวเองนินทาไทเฮาต่อหน้าเว่ยหมิ่นเช่นนี้ ไม่ใช่รนหาที่ตายหรือ สีหน้าของนางจึงเศร้าหมองเล็กน้อย บิดผ้าไปมาแล้วไม่พูดอะไรอีก 

 

 

“ข้าได้ยินพวกเขาว่าเป็นเจ้าเองที่ยอมอยู่ในวังเรียนระเบียบหรือ” 

 

 

“อืม” เฉินยางมองพื้นที่ร้อนระอุข้างนอกนั่น นึกถึงว่าพอเว่ยหมิ่นไปแล้วนางยังต้องกลับไปยืนฝึกระเบียบอยู่ ในใจก็รู้สึกเศร้าขึ้นมา 

 

 

เว่ยหมิ่นจ้องมองนางแล้วถามว่า “ทำไมหรือ” 

 

 

เฉินยางถามนางกลับด้วยความสงสัย ตอนแรกไม่เข้าใจ แต่จู่ๆ ก็เหมือนคิดได้อย่างนั้น จึงแสร้งวางท่าเป็นผู้ใหญ่ “ตอนที่ข้ามาท่านพ่อของข้าก็บอกข้าแล้ว แม่สามีเป็นคนที่อยู่ด้วยได้ยากที่สุดบนโลกนี้ ท่านคิดดู ผู้หญิงอีกคนหนึ่ง จู่ๆ ก็แย่งลูกชายของนางไป คนเป็นแม่เลี้ยงลูกชายมานานเช่นนี้ ไม่ว่าทำอะไรตอนหลังก็ต้องแบ่งครึ่งหนึ่งกับลูกสะใภ้ ผู้เป็นแม่จะต้องไม่มีความสุขแน่ๆ จะหาเรื่องลูกสะใภ้ก็เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แม่สามีก็เป็นแม่แท้ๆ ครึ่งหนึ่ง วันหลังก็ต้องกตัญญูต่อท่านไปตลอดชีวิต หากไม่กตัญญูคนอื่นจะนินทาเอาได้ สามีก็จะไม่สนใจ แม้ความสัมพันธ์ของท่านพี่และไทเฮาจะไม่ดีนัก แต่ข้ารู้สึกว่าพวกเขาไม่ช้าก็เร็วก็ต้องคืนดีกัน จะมีใครคิดจะไม่มีแม่ไปตลอดชีวิตบ้าง ขอเพียงไทเฮาไม่รังแกจนข้าตาย ข้าก็ยังคงรับมือได้อยู่” 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด