ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง 555 รักภรรยาคนอื่นเข้าให้แล้ว / 556 คิดไปเอง

Now you are reading ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง Chapter 555 รักภรรยาคนอื่นเข้าให้แล้ว / 556 คิดไปเอง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 555 รักภรรยาคนอื่นเข้าให้แล้ว

 

 

อวี่เหวินลู่คิดไม่ออกจริงๆ ว่าตัวเองผิดใจกับนางตั้งแต่เมื่อใด ทำเอานางเกลียดตัวเองเช่นนี้ เมื่อคืนเขาฝัน ฝันว่าตัวเองได้แต่งภรรยาแล้ว ภรรยาส่งมาที่ประตู ถึงยามที่เข้าเรือนหอเปิดผ้าคลุมศีรษะดู ดีเหลือเกิน หน้าตาเหมือนกับเว่ยเฉินยาง เห็นผีแล้วจริงๆ นางไม่ได้หน้าตาสวยงามจนน่าหลงใหล ไฉนถึงมองแล้วกลับฝังอยู่ในใจ แม้แต่ฝันก็ยังฝันเห็นคนที่เหมือนกับนาง หน้าตายังจำได้ชัดเจน เพียงแค่ยามที่ยิ้มนั้นไม่เหมือน เว่ยเฉินยางไม่เคยยิ้มให้เขา เขาก็ไม่รู้ว่านางยิ้มแล้วเป็นเช่นไรบ้าง

 

 

เขามองใบหน้าที่โกรธอยู่ตรงหน้า เขาเกิดความคิดประหลาด ไม่รู้ถูกสิ่งใดกระแทกศีรษะเข้าให้ เขามองนางอย่างเหม่อลอยแล้วพูดเปรยๆ ขึ้นว่า “ไฉนเจ้าถึงไม่ยิ้มให้ข้า เจ้ายิ้มให้ข้าดูบ้างสิ ทำหน้าบูดบึ้งอยู่ทุกวันทำไม พวกเราไม่ได้เป็นคู่แค้นเสียหน่อย!”

 

 

ยังกล้าบอกว่าไม่ได้เป็นคู่แค้นอีก บังคับสามีของนางให้ทำงานให้เขานี่ยังไม่ได้เป็นคู่แค้นอีกหรือ เฉินยางรู้สึกว่าคำพูดของเขานั้นไร้เหตุผล นางยิ้มหรือไม่เกี่ยวอะไรกับเขา ฐานะซื่อจื่อของเขาใช้ที่นี่ไม่ได้ เหตุใดนางต้องยิ้มให้เขา ทันใดนั้นสีหน้าของนางก็ยิ่งบูดบึ้งลง นางหึเบาๆ “เจ้าเสียสติแล้วหรือไม่ ข้าติดหนี้เจ้าหรือ ไฉนต้องยิ้มให้เจ้าดู เจ้าคิดว่าข้าเป็นใคร อย่าว่าแต่ตอนนี้คำพูดของเจ้าจะใช้กับข้าไม่ได้ ต่อให้เจ้าได้เป็นฮ่องเต้ ไม่อยากยิ้มให้เจ้าก็จะไม่ยิ้มให้เจ้าเช่นเดิม”

 

 

คำพูดนี้ช่างตัดรอนนัก ใจของอวี่เหวินลู่ชาไปครึ่งหนึ่ง พอดึงสติกลับมา นางก็ไปไกลแล้ว นี่เป็นเรื่องอันใด อย่าได้รักภรรยาคนอื่นเข้าให้เชียว จะเป็นเช่นนั้นไม่ได้ น่าขายหน้ายิ่งนัก ทำเอาเป็นดั่งพระปิตุลาเซี่ยวเซียนฮ่องเต้ที่เพิ่งสวรรคตของเขานั้นไม่ได้ รู้อยู่แล้วว่าตระกูลเขานั้นไม่มีใครปกติ ยังคิดว่าเขานั้นยกเว้น เพียงแต่นึกไม่ถึงว่า ตระกูลพวกเขาล้วนเป็นเช่นกัน หลายชายเช่นเขานั้นเป็นเหมือนอา ถึงกับคิดจะตีท้ายครัวคนอื่น

 

 

เพียงแต่ จะเป็นผู้หญิงของใครไม่เป็น ดันเป็นผู้หญิงของเฝิงเยี่ยไป๋ไปได้ เขาถูกเฝิงเยี่ยไป๋สวนกลับมาจนพูดไม่ออกอยู่หลายครั้ง ตอนนั้นไม่มีความคิดเช่นนี้ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร พอมาคิดดูตอนนี้ ช่างขายหน้ายิ่งนัก

 

 

เจ็บใจนักยิ่งนัก ปล่อยให้นางเดินไปเช่นนี้ก็เจ็บใจนัก วันหลังยังจะได้เจออีกกี่ครั้งหรือ ระหว่างพวกเขามีสิ่งขวางกั้นมากมาย ความกังวลก็มีมากมาย แถมยังเป็นเขาเองที่คิดไปฝ่ายเดียว ช่างทรมานยิ่งนัก เขาไม่เหมือนกับเฝิงเยี่ยไป๋ เฝิงเยี่ยไป๋ผ่านแม่นางมามากมายนับไม่ถ้วน สุดท้ายจบลงที่เว่ยเฉินยาง นั่นคือรู้ตัวแล้ว ตัวเองเป็นอะไรไป ผู้หญิงก็ไม่ได้เห็นมากมายนัก ไฉนถึงได้มอบใจให้กับคนที่มีเจ้าของแล้วง่ายๆ เช่นนี้ ช่างไม่ได้เรื่องเอาเสียเลย

 

 

เขารีบก้าวขาตามเฉินยางไปแล้วคว้าแขนของนางไว้ กลั้นหายใจจนหน้าแดงก่ำ สุดท้ายก็ถามอย่างไร้เหตุผลว่า “ตกลงเจ้าชอบเฝิงเยี่ยไป๋ที่ตรงไหน”

 

 

ชอบเขาที่ตรงไหน เกี่ยวอะไรกับเขาหรือ เฉินยางสะบัดเขาทิ้ง นางโกรธจัด “เจ้าทำอะไร นี่ยังอยู่ในจวนท่านอ๋องไม่ใช่บ้านเจ้า สามีข้าช่วยเจ้าถึงไม่ได้จับเจ้าไป เจ้าอย่าได้ทำลายความหวังดีของเขา ชายหญิงไม่อาจถูกเนื้อต้องตัว เจ้าระวังหน่อย อย่าได้สร้างปัญหาให้ตัวเอง”

 

 

อวี่เหวินลู่ได้ยินก็ไม่พอใจขึ้นมา เขาขมวดคิ้วทำหน้าดุ “แต่เดิมนั้นจวนอ๋องนี้ก็เป็นบ้านของข้า เจ้าก็อย่าได้เอาเฝิงเยี่ยไป๋มาขู่ข้าอีก ข้าหลีกทางให้เขา เจ้าอย่าคิดว่าข้าจะกลัวเขาจริงๆ ”

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 556 คิดไปเอง

 

 

เพิ่งจะกล่อมตัวเองว่าอย่าไปสนใจเขา เพียงแต่คำพูดของเขานั้นก็ช่างชวนให้โมโหเสียเหลือเกิน เป็นคนที่มาจากตระกูลสูงศักดิ์เช่นกัน ไฉนถึงได้เรื่องมากเช่นนี้ เฝิงเยี่ยไป๋ที่ไม่ได้มีฐานะด้อยไปกว่าเขาก็ไม่เห็นว่าจะเอาแต่ใจเช่นเขาเลย ดูเขาสิ คิดว่าตัวเองเป็นพระเจ้าหรืออย่างไร

 

 

อวี่เหวินลู่ไม่เข้าใจผู้หญิง และไม่รู้ว่าจะเอาใจผู้หญิงอย่างไร เวลาพูดคุยกับผู้หญิงนั้นก็เหมือนคุยกับผู้ชาย พูดไม่ถูกใจเขาก็อารมณ์เสีย ไม่รู้จักไว้หน้าคนอื่นบ้าง นิสัยนี้ของเขา จนป่านนี้แล้วยังไม่อาจรั้งผู้หญิงไว้อยู่ข้างกายได้ก็ไม่แปลก

 

 

ตัวเขาเองไม่รู้ถึงปัญหาของตัวเอง คนอื่นก็ไม่กล้าพูด นานวันเข้า นิสัยก็กลายเป็นเช่นนี้จนแก้ไม่ได้เสียแล้ว

 

 

ทำไม่เป็นเขาเรียนรู้ได้ ดูเพียงว่าคนอื่นจะให้โอกาสเขาหรือไม่ เพียงแต่เขากลับมาสนใจเฉินยางเช่นนี้ก็ออกจะไม่ใช่เรื่องเสียแล้ว คนที่มีเจ้าของแล้วไม่สนใจเขา ยิ่งไม่มีเวลามาเล่นละครความรักกับเขาอีก เห็นเขาก็ขนลุกชันทั้งตัว เข้าใกล้ไม่ได้จะทำอย่างไร

 

 

เป็นครั้งแรกที่อวี่เหวินลู่รู้สึกว่าตัวเองแพ้ยับเยิน กำลังจะโมโหด้วยความขายหน้า เห็นตัวเองที่มีท่าทางโมโหในดวงตาของนาง ช่างน่ารังเกียจอะไรเช่นนี้ นี่เป็นท่าทางที่พึงมีต่อสตรีหรือ แม้แต่ตัวเองเห็นแล้วก็ยังรังเกียจเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงนาง

 

 

หน้าตาของซื่อจื่อไม่ใช่แค่ของเขาเอง ยังเป็นของซู่อ๋องอีกด้วย อนาคตอาจจะเป็นหน้าตาของทั่วทั้งแคว้นด้วยซ้ำ ต่อให้เขามีใจให้นาง ก็ไม่อาจมาทำขายหน้าที่นี่ได้ นางดื้อดึง เขาก็ดื้อดึงเช่นกัน เขาสะบัดแขนเสื้อ ท่าทางเอาแต่ใจเช่นเดิม “เจ้าคิดไปเองอะไรกัน ข้าเพียงแค่สงสัยว่าเฝิงเยี่ยไป๋มีอะไรดี ถึงมีค่าให้เจ้าชอบเขาได้ ล้วนมีตามีจมูกเช่นกัน ใบหน้าของเขามีดอกไม้เพิ่มมาหรืออย่างไรกัน”

 

 

คนไม่เคยมีความรักย่อมไม่เข้าใจ ที่นางรักไม่ใช่ใบหน้านั้น หากรักคนที่ใบหน้า คนจะต้องมีวันที่แก่ชราลง ไม่ใช่สิ่งยั่งยืนนัก เฝิงเยี่ยไป๋ดีต่อนาง ทุกเรื่องล้วนคิดถึงนางก่อน ให้ความสำคัญกับนาง ในใจเขามีนาง ทุกการกระทำได้หลอมละลายนางไปตามกาลเวลา นานวันเข้า คนผู้นี้ย่อมอยู่ในใจของนาง วางไม่ลงทิ้งไม่ได้

 

 

พูดถึงตรงนี้ ในใจเฉินยางพลันรู้สึกหวานซึ้ง ใบหน้าก็มีความสุขขึ้นมา “ใช่ ใบหน้าของเขามีดอกไม้แล้วจะเป็นไร คนที่ข้ารักคือเขาคนนี้ ไม่ใช่ใบหน้าของเขา ยามที่เขาแต่งกับข้านั้นก็ไม่รังเกียจข้า ปกป้องข้าได้ทุกเรื่อง คนที่ดีกับข้าเช่นนี้ ใต้ฟ้านอกจากท่านพ่อของข้าแล้วก็มีเขาเพียงคนเดียว ข้าไม่รักเขาแล้วจะรักใครอีก เจ้าไม่มีทางเทียบเขาได้เลย เจ้าเป็นท่านซื่อจื่อของเจ้าก็พอแล้ว คิดแต่จะแข่งกับคนอื่นอยู่ทุกวัน ไม่เบื่อหรือ”

 

 

เบื่อสิ เพียงแต่ต่อให้เขาแพ้ก็ต้องแพ้อย่างชัดเจน ต้องถามให้รู้ หากไม่รู้เรื่องแล้วในใจเขาคงไม่ยอม มักรู้สึกว่ามีบางอย่างอยู่ในใจทรมานยิ่งนัก

 

 

เขาไม่เข้าใจความรักเหมือนเช่นพวกเขา เพียงแต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขามีความรู้สึกที่ยากจะอธิบายกับผู้หญิง จะว่าอธิบายได้ยากอย่างไร ก็คือน่าประหลาด หรือว่าเถียงกันจนเกิดความรู้สึกชอบขึ้นมา? เป็นไปไม่ได้กระมัง ไม่ใช่ว่ายิ่งเถียงยิ่งเกลียดชังหรือ ไฉนมาถึงที่เขาแล้วยิ่งเถียงกลับยิ่งเกิดความรู้สึกชอบขึ้นมาเสียได้

 

 

พอคิดไม่ออกก็รู้สึกเครียด ที่นางพูดก็มีเหตุผล ตัวเองจะแข่งกับเฝิงเยี่ยไป๋ไปทำไมกัน สายตาของเขามองไปที่นาง คิดได้แล้ว ทำไมหรือ ก็เพราะตัวเองประหลาด ชอบภรรยาของเฝิงเยี่ยไป๋เข้าให้แล้ว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด