ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง 221

Now you are reading ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง Chapter 221 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 221 จะห้ามก็ห้ามไม่ได้ 

 

 

ไม่ได้การแล้ว เฝิงเยี่ยไป๋สีหน้าเคร่งขรึม อะไรที่เขาวางแผนไว้แล้วจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้ “เชื่อข้า เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยส่งเจ้ากลับไป” 

 

 

เฉินยางยังคงไม่ค่อยเข้าใจเฝิงเยี่ยไป๋ ตอนนี้เขายังพูดดีๆ ด้วยอยู่ถือว่าเขาใจเย็นมากแล้ว ถ้านางยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองจะต้องทำอย่างไรอีก หากเขาโกรธขึ้นมาก็คงยากที่จะจัดการได้ 

 

 

เว่ยหมิ่นสีหน้าเฉลียวฉลาด รีบไปไกล่เกลี่ยก่อนที่เฉินยางจะพูดกับเขา “นานๆ ทีพวกเราจะได้ออกมา ทางด้านหลังไม่แน่ใจว่ามีสายตากี่คู่ที่กำลังมองมาที่พวกเราอยู่ ในเมื่ออุตส่าห์ได้ออกมาทั้งที ถ้าไม่เล่นให้สุดๆ ก็จะไม่ได้กลับมาเล่นอย่างนี้อีกแล้วนะ เหล้าผลไม้ของที่นี่ขึ้นชื่อนัก ไทเฮาไม่สามารถทำอะไรเจ้าได้ แม้ว่าไทเฮาจะอยากลงโทษเจ้าเท่าไร อย่างไรเสียสามีของเจ้าก็ต้องช่วย” 

 

 

เฉินยางยังกลัวเฝิงเยี่ยไป๋อยู่ ย่อมดูออกว่าสีหน้าของเขาแปลกไป ถ้ายังคงดื้อรั้นต่อไปจะเป็นการหาเรื่องใส่ตัวเอง แล้วจะต้องรั้นไปทำไม นางไม่อยากจะทะเลาะกับเขาแล้ว ช่างเถอะ นี่ก็เสียเวลามามากแล้ว อย่างมากพรุ่งนี้กลับไปก็แค่โดนหงอวี้ ‘ใช้ไม้ไผ่ผัดเนื้อ’ ทนเอาหน่อยเดี๋ยวมันก็ผ่านไป 

 

 

นางพยักหน้า เดินตามไปพร้อมดึงแขนเสื้อของเฝิงเยี่ยไป๋ “ถ้าอย่างนั้นท่านอย่าลืมนะ พรุ่งนี้เช้าตรู่รีบพาข้ากลับไป‘’ 

 

 

ยากมากที่จะได้เห็นนางออดอ้อนเขากลับ ทำอย่างนี้ชวนให้เขาจะหยุดก็หยุดไม่ได้ ส่วนสำคัญอยู่ที่คืนนี้ เขาลูบศีรษะตัวเองอย่างงุนงง ไม่ได้สิ ถ้ายอมอ่อนข้อให้นางอีก ตนคงต้องลำบากเป็นแน่ 

 

 

“ข้าเคยโกหกเจ้าเมื่อไหร่กัน สบายใจเถอะ พรุ่งนี้เช้าตรู่ พอฟ้าสางข้าจะส่งเจ้ากลับ” 

 

 

ตอนพูดก็พูดอย่างนี้ แต่พรุ่งนี้นางตื่นได้หรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ถ้าตื่นไม่ไหว กลับไปสาย จะมาว่าเขาผิดคำพูดไม่ได้นะ อย่างไรก็โทษเขาไม่ได้อยู่ดี 

 

 

ในใจของเฝิงเยี่ยไป๋มีแผนอยู่แผนหนึ่ง ลูกคิดรางแก้วในมโนสำนึกส่งเสียงดังต๊อกแต๊ก ทั้งสี่คนไปหาอะไรทาน คนขายเข้ามาถามว่ารับเหล้าหรือไม่ เขามองไปที่เฉินยางแล้วบอกว่ารับ 

 

 

ถ้าเขาจะดื่มเหล้าแม้แต่เฉินยางเองก็ห้ามไม่อยู่ นางกลุ้มใจว่าคืนนี้จะนอนอย่างไร ครั้งก่อนหลังจากที่ดื่มเหล้ากับอิ๋งโจวเสร็จแล้ว พอกลับมาก็เมามาก ครั้งนั้นทำให้นางตกใจแทบตาย วันนี้บนรถม้าไม่ได้ดื่มเหล้าก็เป็นอย่างนั้นแล้ว ไม่ต้องพูดถึงตอนที่ดื่มเหล้าเลย 

 

 

คนขายนำเหล้าไหหนึ่งมาวาง สะบัดผ้าบนบ่าออกแล้วพูดขึ้นว่า “พวกท่านดูเหมือนมาจากราชสำนักเลย พวกท่านวางใจได้ เหล้าที่นี่ของเราเป็นเหล้าที่ดีที่สุดในเมืองหลวงแล้ว โดยเฉพาะเหล้าผลไม้ที่ทางเราหมักเอง” จากนั้นหันไปมองผู้หญิงสองคนที่โต๊ะ “เหมาะกับท่านสุภาพสตรีโดยเฉพาะ อย่าว่าแต่สีสันสวยงามเลย ยังอร่อยอีกด้วย คนที่เคยดื่มล้วนบอกว่าดี มาครั้งใดก็จะนำขึ้นรถม้ากลับไปด้วย” 

 

 

เว่ยหมิ่นก็พูดตอบว่า “เหล้าของพวกเขาเป็นเหล้าที่ดีที่สุดอย่างแท้จริง แต่ว่าเหล้านี้ดื่มแล้วเมาง่าย แต่ข้อดีของมันก็อยู่ที่เมาง่ายนี่แหละ ถ้าหากเมาแล้วตื่นมาวันรุ่งขึ้นก็ยังไม่รู้สึกปวดหัว” 

 

 

เมา? เมาก็ดีสิ เฝิงเยี่ยไป๋ตบโต๊ะแล้วพูดขึ้นว่า“ได้ เอาอันนี้” 

 

 

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เฉินหยางแตะต้องเหล้า ตอนเป็นเด็กตอนที่บิดาของนางดื่มเหล้า บิดานางจะเอาตะเกียบจิ้มเหล้าแล้วให้นางชิม เหล้าทั้งเผ็ดทั้งฉุน นางเอาลิ้นไปแตะนิดหน่อยก็ฉุนจนทนไม่ได้ และก็ไม่รู้ว่าเหล้าดีอย่างไร พอติดแล้วก็เลิกไม่ได้ ถึงอย่างไรนางก็ไม่ชอบดื่มเหล้า จึงเลื่อนไหเหล้าไปทางเหลียงอู๋เย่ว์พลางส่ายหน้า “พวกท่านดื่มเถอะ ข้าไม่ดื่ม” 

 

 

ไม่ดื่มได้อย่างไรกัน เฝิงเยี่ยไป๋นำกระบวยตักเหล้ามาตักให้นางถ้วยหนึ่ง “เหล้าผลไม้ เจ้าลองดื่มดูก่อน” 

 

 

มองไปก็เหมือนน้ำเย็น แต่กลิ่นเหล้าแรงมาก นางไม่ได้รับ ยังคงส่ายหน้า “ข้าไม่ดื่ม เหล้าอร่อยตรงไหนกัน” 

 

 

—— 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด