ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง 311 ให้เจ้าแต่งกับเฝิงเยี่ยไป๋ / 312 แต่งกับเขาเจ้าก็ไม่เสียหาย

Now you are reading ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง Chapter 311 ให้เจ้าแต่งกับเฝิงเยี่ยไป๋ / 312 แต่งกับเขาเจ้าก็ไม่เสียหาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 311 ให้เจ้าแต่งกับเฝิงเยี่ยไป๋ 

 

 

 

 

 

รถม้าแล่นผ่านถนนฟู่กุ้ยค่อยๆ ไปข้างหน้า น่าอวี้ไอขึ้นมาบนรถอีกครั้ง อวี๋เอ๋อร์ลูบหลังให้นาง แล้วโทษนางที่วันนี้ไม่ควรออกมาเลย 

 

 

น่าอวี้ไอจนเจ็บหน้าอกจึงพิงบนตัวอวี๋เอ๋อร์ พูดจาเสียงอ่อนระโหยว่า “วันนี้ข้าเห็นเฝิงเยี่ยไป๋อยู่ในห้องเฉินยาง” 

 

 

อวี๋เอ๋อร์ตกใจ “เขาไม่ใช่ไม่พบแขกหรือ ไม่ใช่ว่าป่วยหนักหรืออย่างไร” 

 

 

“อาจจะเพราะนึกไม่ถึงข้าจะไปยามนั้น ไปแล้วเจอพอดี เพียงแต่ข้าเห็นสีหน้าเขาขาวซีด ยามไอยังรุนแรงกว่าข้าเสียอีก ก็ไม่รู้ว่าป่วยเป็นโรคใด” 

 

 

อวี๋เอ๋อร์พูดพึมพำว่า “ไฉนถึงบังเอิญเช่นนี้ บอกจะป่วยก็ป่วยเลย แถมยังเป็นวันเดียวกับที่ฮ่องเต้มอบปิงฝูให้เขาวันนั้น ข้าได้ยินว่ามีผีร้ายเข้าสิง คุณหนูช่วงนี้ท่านก็อย่าได้ไปเสียเถิด จะได้ไม่ต้องถูกผีร้ายเข้าสิง” 

 

 

น่าอวี้ตบที่มือนางเบาๆ “อะไรผีร้ายเข้าสิง เรื่องนี้เจ้าก็เชื่อ? เดินมาถึงขั้นนี้แล้ว จะล้มเลิกได้อย่างไร ต้องเร่งมือเข้าถึงจะได้ ไม่เช่นนั้นกรมราชสำนักยังจะมีที่ให้พวกเราอยู่ได้อย่างไร” 

 

 

“เพียงแต่…” อวี๋เอ๋อร์อ้ำอึ้ง จะปิดบังก็ไม่ใช่ จึงได้แต่พูดออกมา “ครั้งก่อนข้าแอบได้ยินนายท่านคุยกับฮูหยิน บอกว่า… บอกว่าฮ่องเต้จะให้ท่านแต่งงานกับเฝิงเยี่ยไป๋” 

 

 

เวลานี้ให้นางแต่งงานกับเฝิงเยี่ยไป๋ นี่ไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ ฮ่องเต้คิดจะควบคุมเฝิงเยี่ยไป๋อยู่ในพระหัตถ์ให้แน่นหนา ใช้เพียงบ่าวเหล่านั้นไม่ได้แน่ๆ ไม่เคยเห็นใครพูดความในใจกับบ่าวรับใช้ เพียงแต่คนข้างหมอนก็ไม่เหมือนกันแล้ว ความในใจทุกอย่างล้วนได้หมด มีเฉินยางคนหนึ่งแล้วไม่เป็นไร ผู้ชายมีภรรยาสามคนสี่คนไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร แต่งอีกคนหนึ่งก็ยังได้ 

 

 

แม้ว่านางจะรุกถอยได้ดีนัก จนถึงยามนี้เฝิงเยี่ยไป๋ก็ยังไม่แสดงทีท่าที่รังเกียจนาง เพียงแต่ใจของเขาที่มีต่อเฉินยางนั้น ยามนี้ไม่มีที่ว่างให้คนที่สองเป็นแน่แท้ เวลาเช่นนี้ให้นางแต่งกับเขา เช่นนั้นแล้วความพยายามทั้งหมดที่นางทำก่อนหน้านี้ไม่ใช่ว่าเสียเปล่าหรือ 

 

 

ฮ่องเต้ทำเช่นนี้สุดท้ายแล้วก็รังแต่จะยกก้อนหินหล่นใส่เท้าตัวเอง เฝิงเยี่ยไป๋ไม่ใช่คนโง่เสียหน่อย เขาจะเดาความหมายนี้ไม่ออกหรือ 

 

 

น่าอวี้โกรธไม่บ่อยนัก โกรธไปก็เท่านั้น เรื่องที่ใช้สมองแก้ไขได้ ไยต้องโกรธเพื่อทำร้ายตัวเอง เพียงแต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน นี่เป็นความตั้งใจของฮ่องเต้ คำพูดดั่งทองคำ คำพูดที่ฮ่องเต้ตรัสออกมาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ 

 

 

“คุณหนู พวกเราควรทำอย่างไรดี ท่านยอมแต่งหรือ” อวี๋เอ๋อร์จนปัญญาจึงได้แต่หวังพึ่งน่าอวี้ คนเหล่านี้ช่างใจดำยิ่งนัก ใช้ประโยชน์ก็ช่างเสียแล้ว ยังคิดจะให้คุณหนูของพวกนางทำเรื่องหลอกให้เป็นจริงคืออย่างไร 

 

 

ในหัวน่าอวี้วุ่นวายนัก หลังจากสงบอยู่พักหนึ่งถึงพูดว่า “กลับบ้านก่อน ในหัวพวกเขาคิดอะไรอยู่ คิดจะปิดบังข้า? ฝันไปเถอะ!” 

 

 

ทางฝั่งนี้ พั่งไห่กำลังดื่มชาอยู่ในกรมราชสำนัก อย่าว่าไป เจี่ยงเหว่ยนี้ แม้จะไร้ความสามารถแต่ชาที่บ้านกลับไม่เลวนัก เขาดื่มไปพลางรอน่าอวี้ไปพลาง แล้วนั่งไขว่ห้าง บนปากร้องเพลงเสียงเพี้ยน เหลือบมองเจี่ยงเหว่ย พูดจาสบายใจว่า “วันก่อนได้ยินใต้เท้าเจี่ยงได้ลูกชาย ยุ่งอยู่ตลอด จึงยังไม่ทันได้มาอวยพรให้ใต้เท้าเจี่ยง วันนี้มาด่วนมา…” เขาแบมือออก “อะไรก็ไม่ได้เอามา วันหลัง วันหลังจะให้คนมาส่งของขวัญชิ้นใหญ่ให้ถึงจวนใต้เท้าอย่างแน่นอน” 

 

 

ในใจเจี่ยงเหว่ยพูดว่า ‘เจ้ามาให้น้อยๆ ก็ถือเป็นของขวัญที่ใหญ่ที่สุดสำหรับข้าแล้ว’ เพียงแต่วันนี้พั่งไห่เป็นรองผู้ดูแลของตำหนักหย่างซิน เป็นคนสำคัญที่อยู่ข้างพระกายของฮ่องเต้ นอกจากยอแล้วก็ได้แต่ยอ เขาจึงอมยิ้มแล้วพูดว่า “ผู้ดูแลใหญ่กล่าวเกินไปแล้ว” 

 

 

  

 

 

—— 

 

 

ตอนที่ 312 แต่งกับเขาเจ้าก็ไม่เสียหาย 

 

 

 

 

 

ท้องฟ้าข้างนอกเริ่มมืดลง ตะวันเริ่มตกดิน พั่งไห่ดื่มชาสองชั่วยามกว่าแล้ว น่าอวี้ก็ยังไม่กลับมา เขารอจนหงุดหงิด ความโกรธจึงได้แต่ระบายที่เจี่ยงเหว่ย “ข้าว่าใต้เท้าเจี่ยง ลูกสาวท่านเมื่อใดจะกลับมาหรือ ทำเอาพวกเรารอนานเสียเหลือเกิน ฝ่าบาทยังรอให้ข้ากลับไปปรนนิบัติอยู่เลย!” 

 

 

“ขออภัยที่ให้กงกงรอนานแล้ว” 

 

 

พั่งไห่เพิ่งพูดจบ น่าอวี้ก็กลับมาแล้ว คนอื่นเรียกผู้ดูแลใหญ่ นางกลับเรียกกงกง ขันทีคนหนึ่ง ปีนสูงอย่างไร มีอำนาจมากมายเพียงใดก็ยังเป็นขันทีอยู่ดี คนที่ขาดสิ่งนั้นไป เรียกว่ากงกงก็ยังถือว่าให้เกียรติแล้ว 

 

 

พั่งไห่ก็ไม่คิดเล็กคิดน้อยกับนาง เจี่ยงเหว่ยกลับดึงนางเข้าหา ยื่นมือหยิกบนตัวนาง “อย่าได้เสียมารยาทนัก รีบคำนับรองผู้ดูแลเร็วเข้า” 

 

 

น่าอวี้ไม่ขยับแม้แต่น้อย นางปัดมือเจี่ยงเหว่ยออก ถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ท่านได้รับปากกับฮ่องเต้จะให้ข้าแต่งกับเฝิงเยี่ยไป๋ใช่หรือไม่” 

 

 

เจี่ยงเหว่ยถูกถามจนพูดไม่ออก พั่งไห่ร้องโอ๊ยขึ้นมา พูดใส่ไฟไม่กลัวจะทำให้เรื่องใหญ่โตขึ้นว่า “โหย! ใต้เท้าเจี่ยง ที่แท้ท่านก็เล่าไปเสียแล้ว เช่นนั้นข้าก็จะได้ไม่ต้องพูดซ้ำ แม่นางเจี่ยง ท่านอ๋องพวกเราหน้าตาดียิ่งนัก ตอนนี้มีทั้งอำนาจบารมี แต่งกับเขา เจ้าก็ไม่ได้เสียหาย!” 

 

 

“ไม่เสียหายอยู่จริง” รอยยิ้มของนางทำเอางุนงงนัก “ก่อนหน้านี้พวกเจ้าให้ข้าใกล้ชิดเขาแล้วสืบข้อมูลจากเขา ข้าก็ทำตามแล้ว เพียงแต่เขาไม่หลงกลข้าก็ไม่อาจบีบคอเขาแล้วถาม เฝิงเยี่ยไป๋เป็นคนฉลาด ยามนี้พวกเจ้าให้ข้าแต่งกับเขา เขาจะโง่ไม่รู้เรื่องใดๆ แต่งกับข้าดีๆ หรือ” 

 

 

พั่งไห่ก็หัวเราะขึ้นมา หลังหัวเราะเสร็จก็พูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า “นี่เป็นความประสงค์ของฝ่าบาท พวกเราล้วนเป็นบ่าวรับใช้ของฝ่าบาท เบื้องบนว่าอย่างไรพวกเราก็เพียงทำตามก็พอ ฮ่องเต้ทำเช่นนี้ก็ต้องมีเหตุผลของพระองค์เอง แม่นางเจี่ยงฉลาดเช่นนี้ คงจะไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจเหตุผลในนั้นกระมัง!” 

 

 

“เช่นนั้นหากข้าไม่แต่งล่ะ” 

 

 

เจี่ยงเหว่ยเช็ดเหงื่อที่ไหลออกมา พั่งไห่จับฝาถ้วยชาเกลี่ยฟองชาออกแล้วจิบคำหนึ่ง พูดอีกว่า “ต่อให้เจ้าไม่นึกถึงตัวเอง ก็ต้องนึกถึงน้องชายกระมัง ปีนี้น้องชายเจ้าอายุเท่าใดเอง เดินยังเดินไม่เป็นเลย เจ้าจะให้ตระกูลเจี่ยงของเจ้าขาดผู้สืบตระกูลในมือเจ้าไม่ได้กระมัง!” 

 

 

น้องชายที่พั่งไห่พูดถึงนั้นไม่ใช่ลูกชายของเจี่ยงเหว่ย แต่เป็นน้องชายแท้ๆ ของนาง นางก็ไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ของเจี่ยงเหว่ย แต่เป็นหลานสาวของเจี่ยงเหว่ย หนึ่งปีก่อน ตระกูลนางเกิดเหตุการณ์เลวร้าย หนึ่งร้อยแปดสิบชีวิตในบ้านก็มีเพียงนาง น่ายงที่ยังเป็นทารกและอวี๋เอ๋อร์ นางเป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่ง อยู่กับน้องชายใช้ชีวิตต่อไม่ไหวจริงๆ จึงได้แต่มาหาอาเจี่ยงเหว่ยที่อยู่เมืองหลวง 

 

 

เจี่ยงเหว่ยรับเลี้ยงนางไว้ ก็ไม่ใช่เพราะความผูกพันญาติมิตรอะไรเลย น่าอวี้หน้าตาสวยงาม ตอนแรกที่เจี่ยงเหว่ยเห็น ก็เกิดความรู้สึกที่อยากยึดนางไว้เป็นของตัวเอง การกระทำที่ผิดเครือญาติน่ารังเกียจยิ่งนัก น่าอวี้ไม่ยอม เขาจึงใช้น่ายงมาขู่นาง ตอนหลังถูกภรรยาที่ดุร้ายในบ้านพบเข้า ต่อหน้าแม้จะไม่กล้าทำอะไรกับตัวเอง เพียงแต่ลึกๆ แล้วเขาก็ยังไม่ตายใจ น่าอวี้ก็ตามหาน้องชายของตัวเองอยู่ตลอด เพียงแต่เฒ่าเจี่ยงเหว่ยนี้ซ่อนน่ายงไว้อย่างมิดชิดนัก นางไม่มีเบาะแสจึงหาไม่เจอเลย 

 

 

ยามนี้ได้ยินพั่งไห่พูดถึงน่ายง จึงหันศีรษะไปมองเจี่ยงเหว่ย สายตาแทบจะพ่นไฟออกมา “ท่านให้น่ายงกับเขาหรือ เจี่ยงเหว่ย! ท่านยังเป็นคนอยู่หรือไม่ ท่านไม่รู้สึกผิดต่อท่านพ่อของข้าหรือ” 

 

 

เจี่ยงเหว่ยกลับพูดว่า “เจ้าต้องเชื่อฟังผู้ดูแลใหญ่ แต่งเข้าจวนท่านอ๋องดีๆ น้องชายเจ้าจะอยู่ดีมีสุขอย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะเอาเด็กคนหนึ่งมาก็ไร้ประโยชน์ ยังต้องเลี้ยงเขาอีก ไม่คุ้มกันเลย เจ้าว่าใช่หรือไม่” 

 

 

น่าอวี้หัวเราะเย็นชาถามเขากลับ “เจ้ารู้หรือไม่ลูกชายคนแรกของท่านตายอย่างไร” 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด