เอ็กซ์เรย์เป็นมากกว่าที่ฉันคิด – X-ray Is More Than I Thought 123

Now you are reading เอ็กซ์เรย์เป็นมากกว่าที่ฉันคิด – X-ray Is More Than I Thought Chapter 123 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 123

 

เวอร์ชั่นไม่เซ็นเซอร์อ่านได้ที่ tunwalai หรือ readAwrite

 

เมื่อผมลงไปที่บันไดและเข้าไปที่ห้องใต้ดิน ทุกคนได้รวมกันอยู่ในห้องใต้ดินและเห็นเราในเวลาเดียวกัน

 

ไม่ มีแค่มารินะมองไปที่อื่น

 

「โมตะ-คุง! ดู! นี่เป็นชุดการต่อสู้! ไม่คิดว่านี่น่ารักเหรอ?」

 

ยูกะอยู่ในอารมณ์ดีและแสดงเสื้อสีดำให้ผมดู

 

มารินะ ยืนอยู่มุมห้องกอดอก ปฏิเสธที่จะมองยูกะ

 

ผมไม่อยากให้เธอมีท่าทางน่าสงสัย ผมจะอยู่ในปัญหาถ้ายูกะรู้สึกสงสัย

 

แต่ยังไงซะ ผมต้องขอบคุณเธอที่เก็บไว้เป็นความลับ

 

「มันเป็นเสื้อพวกที่จะออกมาในนิยายวิทยาศาสตร์! มันเท่ น่ารัก แต่ซนนิดหน่อย ไม่ใช่เหรอ?」

 

ระหว่างที่เอาชุดให้ผมดู ยูกะถามด้วยรอยยิ้มที่กว้างและแก้มที่แดง

 

「ที่เป็นชุดเกราะเหรอ?」

 

ผมมองดูชุดยูกะและถามเธอ

 

ชุดสีดำเป็น “จั๊มพ์สูท” มันเชื่อมต่อกันข้างบนข้างล่าง ถ้าให้พูดถึงมันเป็นชุดเซ็นไตสีดำ มันเหมือนกับชุดยางมากกว่าชุดเกราะ

 

อย่างไรก็ตาม ไหล่ ศอก และเขาเสริมไปด้วยวัตถุดิบที่ดูเหมือนจะแข็งแรง และมีกระโปรง

 

พื้นฐานแล้ว มันดูเหมือนมันจะติดกับผิวหนัง ดังนั้นหน้าอก สะโพก และเส้นต้นขาถูกเปิดเผย มันดูค่อนข้างลามกเมื่อเธอใส่มัน

 

แต่เพราะไหล่ ศอกและเข่าถูกเสริม มันมีความรู้สึกของเกราะและมันเท่แน่นอน แต่ขอบคุณกระโปรง ความน่ารักถูกเน้น

 

อย่างไรก็ตาม ผ้าดูเหมือนจะบางและมันดูเหมือนง่ายที่จะขยับ แต่ผมรู้สึกว่าพลังการป้องกันจะลดลง

 

「มันก็ยังมีถุงมือและบูท! มันค่อนข้างหยาบๆ แต่ไม่คิดว่ามันเท่เหรอ?」

 

ยูกะหยิบแจ็คเก็ตด้วยมือของเธอและพูดระหว่างที่ชี้ด้วยมือขวา

 

ที่ที่ยูกะชี้ มันเป็นถุงมือดำและบูทหยาบๆเรียงอยู่

 

มันน่าทึ่ง ทั้งหมดถูกสร้างโดยทามะมูชิเหรอ?

 

「มันเหมาะกับยูกะ มันดูดีและดูตื่นเต้น」

 

เมื่อผมพูดอย่างนั้น หน้าของยูกะเปลี่ยนเป็นสีแดงสด

 

「ช-ใช่…ชั้นเห็นด้วย ♥」

 

และเมื่อเธอมองลงไปนิดหน่อย เธอพึมพำอย่างอายระหว่างที่มองผมด้วยสายตาที่มองขึ้นมา

 

「โอ้! นั่นใช่แล้ว! ดูนี่! มันเครื่องหมายของเรา!」

 

ยูกะที่ร้องเพื่อซ่อนความอาย เอาข้างหลังชุดต่อสู้ของเธอให้ดู

 

「ไยแมงมุมและแมงมุมเหรอ?」

 

บนข้างหลังชุดต่อสู้ ไยแมงมุมถูกเขียนในเส้นสีชมพู แมงมุมสีชมพูตัวเล็กๆถูกเขียนอยูบนขอบไยแมงมุม

 

「ไยแมงมุมเป็นตราของหมู่บ้านที่ชั้นเกิดมา ผู้ใช้แมลงของหมู่บ้านหมอกเวทมนตร์ได้ชื่อเสียงโด่งดังในฐานะผู้ใช้แมงมุมมาหลายรุ่น ปรกติถูกเขียนในสีขาว แต่สีชมพูทำให้มันน่ารัก ดังนั้นชั้นทำให้มันเป็นสีชมพู」

 

ทามะมูชิ ที่ยืนอยู่กลางทุกคนที่รวมกัน พูดอย่างภาคภูมิใจ

 

「เธอเปลี่ยนสีของตราโดยไม่ได้รับอนุญาต…อย่างที่คาด มาสเตอร์ของชั้น」

 

นานะฟูชิที่เตะตา จ้องทามะมูชิที่ภาคภูมิใจ และพึมพำเหมือนเธอทึ่ง

 

「ยังไงซะ ไม่ใช่ว่ามันดีเหรอ? เพราะมันเป็นสัญลักษณ์สำหรับเรา ไม่ใช่เหรอ?」

 

เมื่อผมพูดกับนานะฟูชิ เธอยักไหล่และถอนหายใจ

 

「และแมงมุมเป็นตราของตระกูลชั้น บ้านอื่นเป็น มอธ หนอนเขา แมลงวัน และอื่นๆ พื้นฐานแล้วมันถูกเขียนอยู่ในไยแมงมุม แต่แมงมุม ซึ่งเป็นนักล่าเดียวในครอบครัวของชั้น เขียนอยู่บนตรา เหตุผลคือ――」

 

และทามะมูชิปิดตาของเธอ ตัดคำพูดเธอและหายใจ จากนั้นเธอเปิดตาของเธอ

 

「เพราะตระกูลของชั้นมีชื่อเสียงมากที่สุดในหมู่บ้านของชั้น! เป็นยังไงล่ะ! ฟุ่ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!」

 

ทามะมูชิแอ่นอกถึงจุดที่ว่าเกือบจะล้มไปข้างหลังและหัวเราะ

 

เฮฮ๋~ ทามูะมูชิเป็นสาวชื่อดังเหรอ?

 

ถ้าคุณถาม มีความจริงหลายอย่าง จากวิธีที่เธอพูด และเธอสง่างามอย่างแปลกประหลาด มีความรู้ ขยัน และมีทักษะดีๆหลายอย่าง ด้วยเหตุผลนั้น เธอง่ายที่จะถูกหลอก และเธอดูเหมือนหญิงสาวไร้เดียงสา

 

「เพราะเธอมาจากตระกูลที่รู้จักกันดี เธอทนตัวเองไม่ได้เพราะเธอทำอะไรไม่ได้ที่บ้าน เธอเลยพยายามที่จะใช้เทคนิคต้องห้าม จากนั้นเธอถูกปฏิเสธและไม่สามารถอยู่ที่บ้านได้ เพิ่มเติมจากนั้น มันรู้สึกเหมือนเรื่องของสาวที่ดังที่ร่วงหล่น」

 

นานะฟูชิยักไหล่ของเธอพร้อมกับถอนหายใจ

 

「นุ!? นานะฟูชิ! อย่าพูดอย่างนั้น! เมื่อทุกคนเคารพชั้นสิ!」

 

ทามะมูชิ ที่เปลี่ยนเป็นแดงสด ได้เปลี่ยนเป็นแดงสดหลังจากถูกบ่นโดยนานะฟูชิ โกรธ

 

「ใครเคารพเธอกัน งี่เง่า!」

 

ริกกะพึมพำ

 

「ช-ช่างเป็นสาวที่น่ากลัว! ม-มารินะพูดอะไรซักอย่างสิ!」

 

ทามะมูชิ ที่เปลี่ยนเป็นแดงถึงหูแสดงความโกรธ และขอความช่วยเหลือมารินะ

 

มันดูเหมือนพวกเธอรู้จักกันค่อนข้างนิดหน่อยแล้ว ระหว่างที่พวกเธอเตรียมตัวด้วยกัน

 

อย่างไรก็ตาม มารินะไม่ตอบสนองและหันหน้าหนีไป

 

「มารินะ?」

 

「มารินะ-ซามะ?」

 

ทามะมูชิเรียกมารินะที่ไม่ตอบสนอง และริกกะก็เรียกเธอด้วย

 

「เอ๋? อึน อา ใช่ มันเป็นชุดต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม ไม่ใช่เหรอ?」

 

มารินะ ที่ดูโล่งใจ ยิ้มและส่งเสียงของเธอ

 

「มีอะไรเหรอ มารินะ?」

 

「มารินะ-ซามะ เธอมีปัญหาอะไรมั้ย?」

 

ทามะมูชิและริกกะกังวลกับมารินะที่ไม่พูดกัน ทำให้พวกเธอรู้สึกไม่สบายใจ

 

「ก-กังวลเหรอ!? อ๊ะ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ชั้นไม่มีความกังวล! ชั้นไม่มีเวลาพอที่จะให้กังวล!」

 

มารินะที่กังวลและทำให้ทั้งสองคนใจร้อน โบกมือของเธอและส่งเสียง

 

พวกเธอเห็นได้ว่าพวกเธอถูกหลอกอยู่ มันเหมือนพูดว่าเธอมีปัญหา

 

ยังไงซะ มันไม่มีเหตุผลที่จะอารมณ์เสียเหรอ? เธอแค่ต้องแบกเรื่องของผมไป มารินะ

 

「มารินะ-จัง เกิดอะไรขึ้น? เมื่อกี้นี้เธอยังโอเคอยู่เลย」

 

ยูกะจ้องมารินะและพึมพำอย่างกังวล

 

เก็บความลับกับแค่ยูกะ ถ้าไม่มีใครทำได้ ก็ไม่มีปัญหา แต่ยูกะอาจจะสามารถทำได้

 

โดยแลกกับชีวิตของเธอ

 

「ไม่ใช่ว่าอาซาฮินะโง่ไปที่จะมีปัญหาเหรอ? เธอทำให้ฮิซูกิไม่ระวัง」

 

「โอ้ เข้าใจแล้ว นั่นก็เป็นปัญหาด้วย ยู-จังก็มีปัญหา」

 

พูกะได้ยินคำพูดของผมและพยักหน้าด้วยสีหน้าที่จริงจัง เห็นว่าเธอเชื่อใจ

 

หืมมม อาซาฮินะบางทีก็มีประโยชน์

 

ผมพูดไม่ได้ว่าผมโกรธโดยมารินะ งั้นผมแค่ต้องปรับตัว

 

มารินะได้ยินฉันมั้ย? เธออารมณ์เสียได้ เธอหดหู่ได้ ถ้าเธออยากจะร้องไห้ เธอร้องไห้ได้

 

ถ้าเธอเงียบเกี่ยวกับเรื่องของฉัน นั่นโอเค

 

เมื่อผมคิดเกี่ยวกับมันในใจของผม มารินะที่พยายามจะไม่มองผมจนถึงตอนนี้ มองข้างๆมาที่ผม แต่ไม่นานเธอก็หันไป

 

ความสามารถของมารินะมีปัญหา แต่นั่นอาจจะเป็นที่มารินะคิดด้วย

 

เพราะเธออ่านมันได้ เธอรู้สิ่งที่ไม่ควรจะรู้

 

「ชั้นจะขอให้ทามะมูชิอธิบายหลายอย่าง แต่ก่อนหน้านั้น มันโอเคเหรอ?」

 

เมื่อผมพูดอย่างนั้น ทุกคนยกเว้นมารินะมองผม

 

「ชั้นไม่อยากให้อาซาฮินะและฮิซูกิตามมาในกรณีนี้ ชั้นอยากให้นานะฟูชิ และคาซะฮานะอยู่คุ้มกันพวกเธอต่อ ดังนั้น ชั้นเก็บเป็นความลับกับอาซาฮินะและฮิซูกิ โดยเฉพาะอาซาฮินะ ชั้นไม่อยากให้เธอรู้อย่างแน่นอน ถ้าเธอรู้มัน เธอจะพูดว่าเธออยากไปกับชั้น และไม่ว่าชั้นจะพูดอะไร เธอจะไม่เปลี่ยนความคิดของเธอ ถ้าเธอตามชั้น…ทุกอย่างจะเละเทะ」

 

ทุกคนที่ได้ยินคำพูดผมร้อง “โอ้”

 

เห็นได้ชัดว่า พวกเธอเชื่อ

 

「นั่นคือทั้งหมดจากชั้น ทามะมูชิ โปรดอธิบายอย่างอื่น」

 

ผมส่งเสียง วางมือไปที่เอวของยูกะ และเริ่มเดินไปที่ที่ทุกคนรวมตัว

 

ยูกะ ที่มีมืออยู่บนสะโพกของเธอ เธออายและยิ้มอย่างมีความสุข

 

ทามะมูชิ ที่แก้มย้อมเป็นสีแดง กำหมัดและวางไว้หน้าปากของเธอ และเธอกระแอมเคลียร์คอ

 

「ชั้นพยายามจะสร้างชุดต่อสู้ แต่ถ้าให้พูด พวกนั้นทั้งหมดเป็นมือสองและของที่ล้มเหลว」

 

ทามะมูชิทำสีหน้าเข้ม และพูดว่ามันไม่ได้เข้ม

 

ริกกะ คาซะฮานะ และนานะฟูชิเป็นตา

 

「ทุกอย่างได้ถูกทำเพื่อชั้นก่อนหน้า แต่เมื่อชั้นพิจารณาว่ามันไม่มีประโยชน์สำหรับชั้น ที่เกือบจะอมตะ และวางมันอยู่ในโกดัง จากนั้น ชั้นพัฒนามันเพื่อเธอ」

 

แม้ว่าทามะมูชิถูกเห็นได้ด้วยตาของผม เธอไม่แสดงว่าเธอสนใจอะไร และพูดอย่างภาคภูมิใจ

 

ยังไงซะ ทามะมูชิ ไม่จำเป็นต้องมีเกราะ ชุดเบาๆจะเหมาะสมมากกว่า

 

เมื่อผมสังเกตมัน มันดูเหมือนจะเป็นทามะมูชิ

 

「มันดีที่จะพัฒนามัน ชั้นคิดว่ามันแข็งแกร่ง ทุกคนอยากจะดูน่ารัก แต่ชั้นไม่ต้องการมัน」

 

เมื่อผมถามทามะมูชิ เธอเห็นผมส่งเสียงทางจมูก

 

「ส่วนที่รัดรูปใช้ไยแมงมุมที่ถูกปรับปรุงเพื่อการต่อสู้ มันเป็นเหล็กที่แข็งแกร่ง มันทนกับการโจมตีของปืนกลได้สบายๆ และมันยืดหยุ่น สำหรับเหตุผลนั้น มั่นผ่อนแรงกระแทกข้างใน」

 

「เฮฮ๋~」

 

วัตถุดิบที่แน่นดูเเหมือนจะบาง แต่มันทนการโจมตีจากปืนกลได้? มากกว่านั้น แรงกระแทกข้างในถูกผ่อนได้

 

「เกราะด้านนอกทำจากเปลือกของด้วยที่ใช้บนไหล่ ศอก และเข่า มันยืดหยุ่นน้อยกว่า แต่มันแข็งแกร่งกว่าผ้าที่ทำมาจากไหมแมงมุม」

 

งั้นมันเป็นอย่างนั้น ส่วนที่ต้องการความยืดหยุ่น เหมือนข้อต่อ และไหมแมงมุม และส่วนที่ไม่ได้ต้องการความยืดหยุ่นสร้างจากวัตถุดิบที่แข็งแรง?

 

มันค่อนข้างเป็นตัวแทนเพราะมันกันปืนกลได้แม้ว่ามันเป็นบริเวณที่ป้องกันต่ำ

 

「มันดีกว่าที่จะเห็นมันมากกว่าอธิบายมันด้วยปาก」

 

ทามะมูชิยิ้มและจับเสื้อคลุมสีดำที่เธอใส่ และ――

 

「นี่คือที่ชั้นใส่!」

 

ระหว่างที่ส่งเสียงของเธอ เธอถอดเสื้อคลุมของเธออย่างรวดเร็ว

 

「……เอ๋?」

 

ทามะมูชิใส่ชุดต่อสู้ ด้วยสองมืออยู่ที่สะโพกของเธอ และยิ้มอย่างภาคภูมิใจ ยูกะ ที่เห็นทามะมูชิ ทำเสียงที่โง่เขลา

 

ยังไงซะ มันธรรมชาติที่จะผิดหวีงเมื่อเธอเห็น “นั่น”

 

「เอ๋!? เฮ้!? น่าา~! ทามะมูชิ! ชั้นเห็นมัน!」

 

ยูกะ ที่ตกใจ เปลี่ยนเป็นสีแดงสดระหว่างที่ส่งเสียง

 

「อุมุ!」

 

ต่างจากความรีบของยูกะ ทามะมูชิพยักหน้าแรงๆโดยไม่สนเกี่ยวกับมัน

 

「ยูกะ ใจเย็น! มันไม่สำคัญว่าเธอเห็นมันมั้ย!」

 

「ใช่ ใช่ ใช่! ชั้นคิดว่ามันเป็นปัญหาใหญ่!」

 

ยูกะวิ่งเข้าไปหาทามะมูชิ ที่ยกหน้าอกของเธอและส่งเสียง

 

ถ้าพูดให้ถูกควรจะพูดว่ามันถูกเห็นได้หรือมันถูกเปิดเผย

 

ชุดต่อสู้ที่ใส่โดยทามะมูชิปิดเกือบทุกอย่างยกเว้นหน้า และมันติดกับผิว

 

การเปิดเผยมันน้อยมาก แต่แทนนั่น เส้นร่างการเธอถูกเน้น

 

ท่อนล่างของเธอ ปิดโดยกระโปรงจิ๋ว ดังนั้นมันสามารถจะซ่อนมันได้ แต่ครึ่งบนของตัวนั้นถูกเห็นได้ นมที่ถูกห่อในผ้าสีดำที่บางเห็นทรงหัวนมอย่างชัดเจน

 

เพื่อจะพูดให้ถูก มันลามกมากกว่าเปลือย

 

อย่างไรก็ตาม เพราะทามะมูชิไม่อายเกี่ยวกับมัน ความลามกลดลงครึ่งหนึ่ง

 

「มัน น-น่ารัก」

 

เมื่อผมปรบมือด้วยเสียงดัง ทามะมูชิที่แก้มแดง ยิ้ม

 

เซ็นไตสีดำสนิท และเครื่องป้องกันป้องกันไหล่และศอกและเข่า และกระโปรงจิ๋วและถุงมือกับบูทหยาบๆ

 

นี่มันไม่แย่ มันน่ารักและลามกมากจริงๆ

 

แต่ผมอยากให้ทามะมูชิอายกว่านี้

 

ผมคิดว่าเธอจะน่ารักมากกว่านี้ถ้าเธออาย

 

「นั่นใช่แล้ว เท่และน่ารัก แต่นั่น…ชั้นสงสัยว่าชั้นต้องใส่มันด้วยมั้ย」

 

ยูกะพูดว่าเธออยากน่ารัก แต่เธอรู้ความจริงว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเธอใส่มัน เธอพึมพำด้วยรอยยิ้มที่เกร็ง

 

แม้ว่ามันดูเหมือนทามะมูชิ มันยังลามกเลย ถ้ายูกะหรือมารินะใส่มัน มันจะค่อนข้างอันตราย

 

ผมจินตนาการและเอ็นผมดูเหมือนจะตอบสนอง

 

อะไร? นี่เป็นสัญญานของการฟื้นคืนชีพหรือ?

 

หือห์ นั่นดี เอ็นผมดูเหมือนจะปลอดภัย

 

ไม่ว่าอย่างไร――

 

ผมจิ้มไหล่ของยูกะ ที่พูดอย่างอาย ด้วยนิ้วของผม

 

ยูกะชำเลืองมองผมระหว่างที่เปลี่ยนเป็นสีแดงสด

 

「ถ้าเธออาย ทำไมเธอไม่ใส่ชุดอื่นบนชุดนั้นล่ะ」

 

เมื่อผมกระซิบกับเธอ ปากของยูกะเป็นสามเหลี่ยม

 

ผ้ามันบาง ดังนั้นมันค่อนข้างเป็นไปได้ที่จะใส่ชุดอื่นจากข้างบน เธอไม่รู้เรื่องนั้น

 

ยูกะลืมมันอย่างคาดไม่ถึง

 

「มันไม่น่ารัก….」

 

ริกกะ ที่อารมเสียอยู่จนถึงตอนนี้ พึมพำ

 

「มันถูกทำให้ผู้ใช้แมลง แต่ถ้ามาสเตอร์ชมหนู หนูจะใส่มัน…」

 

ริกกะพึมพำ ย้อมแก้มของเธอเป็นสีแดง หยิบชุดต่อสู้ ชำเลืองมองผม จากนั้น ทามะมูชิตีมือของริกกะ

 

「อะไร!?」

 

ริกกะที่ตกใจ จ้องทามะมูชิ

 

「ชั้นไม่มีสำหรับเธอ…!」

 

ทามะมูชิเปิดตาของเธอและส่งเสียง

 

「อะไร!? ทำไม! ทำไมชั้นไม่ได้!」

 

「เพราะเธอไม่ชอบมัน」

 

「ธ-เธอ!」

 

ริกกะที่ถูกยั่วยุโดยทามะมูชิ มันดูเหมือนความโกรธของเธอไปถึงขีดจำกัดในทีเดียว ได้ถูกเติ่มเชื้อไฟโดยทามะมูชิ

 

หมัดของริกกะตัดอากาศและไปที่ท้องของทามะมูชิ

 

「อะไร!?」

 

เสียงของเหล็กกระทบกันดังก้อง และริกกะร้องในความประหลาดใจ

 

ทามะมูชิที่ท้องถูกต่อยโดยริกกะ หัวเราะพร้อมวางมือของเธอลงไปบนสะโพก

 

「เฮฮ๋~」

 

มันเป็นตัวแบบไหนกัน? มันแม้แต่แข็งแกร่งพอที่จะทนหมัดของริกกะ นมของเธอส่าย

 

「อย่างที่พวกเธอเห็น ความแข็งของชุดต่อสู้เปลี่ยนตามแรงกระแทกจากภายนอก มันยืดหยุ่นปรกติ แต่เท่าที่เธอเห็น เมื่อมันถูกโจมตี มันรับแรงกระแทกบนพื้นผิว」

 

ทามะมูชิอธิบายกับริกกะที่ตกใจ

 

「แต่สาวน้อยไม่ได้โจมตีชั้นจริงจังตอนนี้」

 

ทามะมูชิหัวเราะอย่างภาคภูมิใจ

 

「ถ้าสาวน้อยต่อยชั้นจริงๆ ชั้นจะทนมันไม่ได้ การเสริมกำลังส่วนที่ทำมาจากเปลือกด้านนอกของด้วง ไม่ใช่บางอย่างที่ทนแรงของสาวน้อยได้ ถ้าสาวน้อยโจมตีด้วยมีด มันจะขาดอย่างง่ายๆ มันน่าจะแทนได้ “ถึงแค่นั้น”」

 

เมื่อผมได้ยินคำพูดของทามะมูชิ ผมคิด

 

「ชุดต่อสู้นั้นสำหรับมนุษย์เหรอ?」

 

「แน่นอน」

 

ทามะมูชิพยักหน้ากับคำพูดผม

 

「มันแก้ทาง “มนุษย์” ที่ใส่อาวุธหนัก มีศัตรู้ที่มีพลังพิเศษ แต่ในแง่ของ “มนุษย์ธรรมดา” มันดีกว่า และซูซูฮาระ มารินะ ยูกะ อาซาฮินะ และฮิซูกิ ทนการโจมตีของอาวุธหนักไม่ได้ ชั้นเลยทำมัน」

 

「มันหมายถึงมันทนการโจมตีของความสามารถอื่นไม่ได้เหรอ?」

 

「ไม่ มันไม่ มันอาจจะทนได้ แต่มันอาจจะทนไม่ได้ ถ้าศัตรูเป็นคนที่มีความสามารถพิเศษ ได้โปรดคิดถึงความเป็นไปได้ว่ามันจะทนการโจมตีไม่ได้ด้วย」

 

ผมเชื่อคำอธิบายของทามะมูชิ

 

เพราะมันทนการโจมตีปรกติจากริกกะได้ แม้ว่ามันไม่ซีเรียส ถ้าริกกะโจมตี “มนุษย์ปรกติ” จะตายทันที เธอพูดว่ามันทนการโจมตีแบบนั้นได้ แต่มันทนการโจมตีจริงจังของริกกะอย่างจริงจังไม่ได้

 

「สั้นๆก็คือ อย่าถูกเบี่ยงความสนใจ」

 

「ใช่ นั่นเป็นอย่างนั้น」

 

ทามะมูชิพยักหน้ากับคำพูดผม และโยนชุดต่อสู้ให้ริกกะ

 

「ชั้นล้อเล่นที่บอกว่าของเธอไม่มี แต่สำหรับบางคนอย่างเราที่มีความสามารถเสริมความแข็งแกร่งร่างกาย ชุดต่อสู้เกือบจะไม่มีความหมาย ไม่ ใช่โล่งใจที่จะคิดว่ามันเพิ่มพลังป้องกัน ถ้าทำอย่างนั้น มันต่อต้านการพัฒนา เลี่ยงการโจมตีมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ถ้าโดนโจมตี ถ้าโดนก็ใช้เกราะนี้ นั่นดีที่สุด อย่าลืมล่ะ」

 

ริกกะที่รับชุดต่อสู้ ดูเหมือนจะไม่ชอบใจกับคำพูดของทามะมูชิ แต่ไม่พูดอะไรกลับไป

 

ยังไงซะ เพราะทั้งหมดทามะมูชิพึ่งพาได้ อย่างไรก็ตาม เธอพูดว่าเธอทำชุดต่อสู้เพื่อตัวเธอเอง แต่มันมีขข้อเสียอย่างที่ทามะมูชิพูด มันไม่มีเหตุผลที่จะใส่มัน เธอเลยเก็บมันไว้ในโกดัง

 

ทำไมเธอไม่สังเกตก่อนที่เธอจะสร้างมัน?

 

มันยากที่จะตัดสินว่าเธอฉลาดหรือโง่

 

「แม้อย่างนั้น แค่จำไว้」

 

พูดอย่างนั้น ทามะมูชิจับคอเสื้อของชุดต่อสู้ที่เธอใส่ และดึงคอด้วยกำลัง ผลของมัน ผ้ารัดรูปสีดำยืดออก

 

「เพื่อทำให้มันทนเท่าที่จะเป็นไปได้ ผ้าไม่มีกระดุมหรือซิบ นั่นหมายถึงเธอต้องยืดส่วนคอเพื่อถอดมันออก」

 

โอ้ เข้าใจแล้ว ความทนทานเพิ่มขึ้นโดยการกำจัดข้อต่อและช่องว่างในผ้า?

 

ทรงมันที่ปรกติมันใส่ไม่ได้ แต่มันเป็นเป็นได้เพราะความยืดหยุ่นที่สูง

 

「เมื่อเธออยากจะฉี่นิดหน่อย เธอต้องถอดมันออก ระวังอย่าให้ถูกศัตรูโจมตีระหว่างที่ฉี่ล่ะ」

 

ทามะมูชิที่พูดด้วยสีหน้าที่จริงจังทำให้ทุกคนที่ได้ยินรู้สึกไม่ดี

 

ยังไงซะ มันเป็นเครื่องเตือนใจแน่นอน แต่เพราะทั้งหมด ทามะมูชินั้นโง่

 

ไม่ว่าอย่างไร――

 

「แล้วชั้นล่ะ? เธอจะไม่บอกให้ชั้นใส่อย่างเดียวกัน ใช่มั้ย?」

 

ชุดต่อสู้ที่มีกระโปรงกับชุดรัดรูบ ถ้าผู้ชายใส่มัน มันน่าเกลียด

 

นั่นทำไม เมื่อพูดถึงความรู้สึก มันอาจจะสร้างความเสียหายให้ศัตรู

 

「อย่ากังวล ชั้นทำให้ซูซูฮาระตั้งแต่เริ่ม」

 

ทามะมูชิยิ้มหลังจากพูดอย่างนั้น

 

「ชั้นมีเวลาที่ลำบากที่จะทำมันเพราะมันไม่ได้ถูกนำมาใช้ใหม่ แต่ชั้นจะมีปัญหาถ้านายตาย มีเสื้อเชิ้ต แจ็คเก็ต กางเกง ถุงมือ และรองเท้าบูท ชั้นแค่ทำให้นาย ไม่ใช่ว่ามันเท่เหรอ」

 

ทามะมูชินำแจ็คเก็ตสีดำออกมาจากกล่อง ที่วางไว้ที่เท้าเธอและพูดอย่างภาคภูมิใจ

 

「โอ้」

 

มันไม่ใช่ผ้ารัดรูป แต่เป็นแจ็คเก็ตสีดำที่ทำจากหนัง เท่อย่างแน่นอน

 

「และ ดูนี่!」

 

ทามะมูชิส่งเสียงของเธอ พลิกแจ็คเก็ตและแสดงข้างหลังให้ดู

 

เครื่องหมายไยแมงมุมเขียนอยู่ข้างหลัง มันเหมือนกันกับชุดต่อสู้อื่น แต่สิ่งที่เขียนอยู่บนไยแมงมุมเป็นตั๊กแตนตำข้าวไม่ใช่แมงมุม

 

「แมลงนักล่าที่แข็งแกร่งที่สุด มันเป็นตราที่ถูกถือโดยผู้ใหญ่แมลงที่เป็นอัจฉริยะ」

 

นานะฟูชิตอบสนองกับคำพูดของทามะมูชิ

 

「มาสเตอร์ก็ทำอะไรเท่ๆด้วย」

 

นานะฟูชิพึมพำอย่างมีความสุข

 

「แน่นอนว่าคล้ายกัน ซูซูฮาระ-ซามะและมากิริ-ซามะ」

 

นานะฟูชิมองผมและพึมพำ แต่รอยยิ้มของเธอดูเศร้า

 

มากิริ ผู้ใช้แมลงที่สร้างนานะฟูชิ?

 

「ชั้นอยากจะขอนายด้วย ซูซูฮาระ-ซามะ ได้โปรดถือตรานี้ไว้ที่หลังของนาย ได้โปรดมอบความรู้สึกให้ความรู้สึกขอฃมากิริ-ซามะที่ไม่เป็นความจริง…」

 

ด้วยนั่นพูด นานะฟูชิคำนับลึกๆ

 

ไม่ใช่มันแค่ตราเหรอ?

 

ยังไงซะ ผมอาจจะตายก่อน

 

「ซู-ซูซูฮาระ…」

 

ทามะมูชิที่หัวเราะอย่างภาคภูมิใจ พึมพำอย่างกังวลและมองผม

 

「โมตะ-คุง?」

 

ไม่ใช่แค่ทามะมูชิ แต่ยูกะที่ยืนต่อจากเธอพูดอย่างกังวล

 

「มาสเตอร์?」

 

「ซูซูฮาระ-ซามะ?」

 

ริกกะและแม้แต่คาซะฮานะมองผมและพูดอย่างกังวล

 

อะไร? เกิดอะไรขึ้น? ผมดูแปลกเหรอ?

 

「นายร้องไห้…?」

 

ผมตกใจเมื่อทามะมูชิพึมพำ ดังนั้นผมเช็ดตาด้วยมือขวาของผม

 

ผมร้องไห้เหรอ? ผมเนี่ยนะ? ทำไม?

 

「ยังไงซะ ถ้าซูซูฮาระร้องไห้ พูดจากใจ ชั้นตกใจ」

 

ทามะมูชิตะลึง ยูกะ ริกกะ และคาซะฮานะก็ตกใจ

 

ไม่มีทางที่ผมจะร้องไห้ ทุกคนดูเหมือนจะตกใจ แต่ผมก็ตกใจ

 

「ฝุ่นเข้าตาเหรอ?」

 

ผมหัวเราะกับทามะมูชิที่ถามผม

 

「ไม่ ชั้นร้องไห้ปรกติ บางทีเพราะชั้นประทับใจที่พวกเธอทำเต็มที่」

 

ผมตอบคำถามของทามะมูชิอย่างเชื่อฟัง

 

อย่างไรก็ไม่รู้ ผมไม่อยากโกหก ไม่ ผมมั่นใจว่าผมไม่ได้ประทับใจจนร้องไห้ ดังนั้นผมสงสัยว่ามันจบที่การเป็นคำโกหกมั้ย

 

「อะไร? ล้อเราเล่นเหรอ? ยังไงซะ ชั้นกลัวเมื่อนายร้องไห้」

 

ทามะมูชิมองผมด้วยตาของเธอ

 

มันดูเหมือนว่าเธอคิดว่านั่นเป็นการประชดประชัน ที่ผมประทับใจกับพวกเธอ

 

「อ-อะไร? อย่าทำให้ชั้นตกใจสิ โมตะ-คุง」

 

ยูกะได้ยินคำพูดของทามะมูชิ ส่งเสียงของเธอดั่งเธอโล่งใจ และเธอตีไหล่ผม

 

บางทีริกกะและคาซะฮานะก็โล่งใจด้วย ยิ้มอย่างมีความสุข

 

นานะฟูชิก็ยิ้มด้วย แต่รอยยิ้มของเธอดูเศร้า และมารินะมองไปทางอื่น

 

「นั่นคือทั้งหมดเกี่ยวกับชุด และต่อไปคืออาวุธ เฮ้ สาวน้อย ชั้นจะให้อาวุธกับเธอ ขอบคุณชั้นทีหลัง」

 

ทามะมูชิที่พูดกับริกกะจากข้างบนน โยนมีดใหญ่ไปให้ริกกะ จากนั้น เธอจับด้ามจับของมีด และจ้องทามะมูชิ

 

「มีดถูกทำมาจากด้วงที่มีเปลือกแข็ง มันดีเพราะมันแข็งแรง แต่มันหนักมากเกินไป น้ำหนักประมาณ 60 กิโลกรัม」

 

ผมตกใจที่ได้ยินว่า 60 กิโลกรัม

 

ทามะมูชิที่โยนมันเบาๆ และริกกะที่รับมันเบาๆ ผมเลยไม่คิดว่ามันหนัก

 

「ปรกติแล้วมันจะหนักเกินไป แต่เธอควบคุมมันได้อย่างอิสระ ยิ่งมันหนักเท่าไหร่ มันยิ่งทรงพลัง มันเป็นอาวุธที่สมบูรณ์แบบสำหรับเธอ ที่ไม่มีทางเลือกนอกจากฟันตรงๆ」

 

「มันเป็นอาวุธที่เหมาะกับชั้น แต่คำพูดของเธอทำให้ชั้นอารมณ์เสีย」

 

ริกกะเหวี่ยงมีดใหญ่ไปรอบๆระหว่างที่อารมณ์เสียโดยคำพูดของทามะมูชิ

 

เธอเคลื่อนไหวมันดั่งมันเป็นกิ่งไม้ เธอไม่คิดว่ามันหนัก 60 กิโลกรัม

 

สำหรับเธอ มันเป็นมีดที่หนักและแข็ง แต่มันดูเหมือนขวานใหญ่มากกว่ามีด

 

มันเป็นอาวุธที่ยอดเยี่ยมแน่นอน เพราเธอเก่งกับการก้าวหน้าเป็นเส้นตรงและใช้กำลังของเธอเพื่อโจมตี

 

「ข-ขออภัย…อาวุธนั่นสำหรับชั้นด้วยสิ」

 

ระหว่างที่มองริกกะ คาซะฮานะลดหูและหางสัตว์จากนั้นกระซิบหาทามะมูชิ

 

ริกกะได้อาวุธที่เหมาะกับเธอ แม้ว่ามีความต่างในความสามารถการได้เห็นสิ่งนั้นทำให้เธอตกอยู่ในความกังวลและใจร้อน

 

「โอ้ ไม่ใช่ว่ามันคือพี่สาวเหรอ? อย่ากังวล ชั้นได้เตรียมอาวุธสำหรับเธอ แม้ว่ามันไม่ได้ถูกสร้างโดยชั้น」

 

ด้วยนั่นที่พูด ทามะมูชิเดินไปที่โกดัง และกลับมากับบางอย่างที่ดูเหมือนกล่องไม้

 

「นี่เป็นมรดกที่ส่งต่อกันในครอบครัวของชั้นมาหลายรุ่น เมื่อชั้นถูกเตะออกจากบ้าน ชั้นนำมันมาด้วยความรีบ」

 

ทามะมูชิที่พูดอย่างมาโซคิสม์ วางกล่องไม้ลงบนพื้น และเปิดฝากล่องไม้

 

「อะไร!?」

 

มันเป็นนานะฟูชิที่ส่งเสียงของเธอ ตาของเธอเปิดกว้างเหมือนเธอตกใจ

 

ข้างในกล่องไม้เป็นมีดสองเล่ม ทุกอย่างจากด้ามจับสู่ใบมีดสีขาวหิมะ

 

「ทำมันมาสเตอร์มี “มัน”? หรือเธอรู้มั้ยว่า “มัน” คืออะไร?!」

 

「เธอพูดอะไรน่ะ? มันเป็นมรดก」

 

「มันไม่สำคัญว่ามันเป็นมรดกมั้ย! ที่ชั้นพูดคือเธอรู้มั้ยว่ามันมีค่าและอันตรายมากแค่ไหน?!」

 

นานะฟูชิยืนขึ้นในท่าทางที่ข่มขู่ และทามะมูชิเอียงหัวของเธอด้วยรอยยิ้ม

 

「ชั้นได้ยินว่ามันเป็นมีดที่น้ำหนักเบา ทน คมอย่างมหาศาล มันเป็นของหายากที่เรียกว่ามีดสีขาว」

 

「มันหายาก!? เธอโง่รึเปล่า?!」

 

「อะไรกัน!? ทำไมเธอเรียกมาสเตอร์เธอว่าโง่ล่ะ!」

 

「เธอโง่เพราะเธอโง่จริงๆ! มันเป็นของหายาก! มันเป็นสิ่งล้ำค่ามากๆในโลกนี้ และมันเหมือนกันกับอาวุธมีชีวิตของเรา!」

 

ทามะมูชิ ที่ถูกเรียกว่าโง่ โกรธ แต่นานะฟูชิที่เห่าเธอก็โกรธด้วย

 

นานะฟูชิดูเหมือนจะรู้ว่ามีดนี้คืออะไร เธอพูดว่ามันเป็นอาวุธมีชีวิตเหมือนเธอเอง แต่นั่นหมายถึง――

 

「มันถูกสร้างโดยมากิริ?」

 

「นั่นใช่แล้ว! ซูซูฮาระ-ซามะ! มันต่างจากมาสเตอร์ที่โง่ของชั้น!」

 

「อะไร! ทำไมชั้นเป็นอีโง่? หือห์ มีดนี้เก่ามาก และไม่ได้ถูกบอกเป็นพิเศษ ดังนั้นมันธรรมชาติที่ชั้นจะไม่รู้มัน!」

 

นานะฟูชิเห็นด้วยกับคำพูดของผม และทามะมูชิได้เปลี่ยนเป็นสีแดง เพราะนานะฟูชิพูดว่ามาสเตอร์ของเธอโง่

 

「ได้โปรดอธิบายมัน」

 

「โอเค ชั้นจะอธิบายมัน ทิ้งอีโง่นั่นไว้」

 

「อย่ามาเรียกชั้นโง่อีกนะ」

 

เมินทามะมูชิที่โกรธและเสียงดัง นานะฟูชิยองลงและหยิบมีดสองเล่มจากกล่องไม้

 

「ชื่อของมีดนี้คือคาเซะมาโมรุ* มันเป็นอาวุธมีชีวิตที่สร้างก่อนที่เราเกิด ดังนั้นถ้าให้พูด มันเป็นพี่สาวของชั้น」

«TLN: คาเซะมาโมรุ -> เกราะลม»

 

นานะฟูชิที่พูดอย่างลำลึกความหลัง จับด้ามจับของมีดในสองมือ

 

「มีแค่มากิริ-ซามะที่รู้ว่าจะสร้างมันยังไง และมีแค่ชั้นที่รู้ว่าแมลงที่ถูกสร้างเป็นอาวุธนี้มีชีวิต และวิธีใช้มัน」

 

ด้วยนั่นที่พูด นานะฟูชิเหวี่ยงมือขวาของเธอ ผลของมัน มีดฟันลม

 

「แม่ว่าจะใช้มันอย่างนี้ มันเป็นดาบที่มีความคมสูง คาเซะมาโมรุยังหลับอยู่ ชั้นจำเป็นต้องใช้รหัสใช้งานเพื่อปลุกมัน อย่างไรก็ตาม มันจะไม่มีมีผลถ้าแค่รหัสเดียว และมันจะอันตรายมากถ้ามันตื่นขึ้น ถ้ามันตื่นขึ้นอย่างง่ายๆ คนรอบข้างจะเสียชีวิตไป」

 

นานะฟูชิ ที่พูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง เดินห่างไปจากเรา

 

「เมื่อคาเซะมาโมรุถูกใช้งาน ความแข็งและความคมเพิ่มขึ้นอย่างน่าทึ่ง ไม่ใช่เพียงแค่นั้น มันอ่านเจตนาของมาสเตอร์หรือคนใช้และเพิ่มความเร็วขึ้น มันอันตรายเพราะความเร็วสูงมาก」

 

มันเป็นมีดที่อ่านความต้องการของผู้ใช้แล้วเร่งความเร็วเหรอ?

 

ถ้ามันอ่านใจของผู้ใช้ มันไม่ได้ดูเหมือนจะอันตราย

 

แต่นานะฟูชิพูดว่ามันอันตราย ยังไงซะ มันยังเป็นอะไรที่ค่อนข้างอันตราย

 

「ซูซูฮาระ-ซามะ มารินะ-จัง ยูกะ-จังควรจะถอยหลังไปมากที่เสีดเท่าที่ทำได้」

 

ตามคำพูดของทามะมูชิ ผมถอยหลังไปจนชิดกำแพงกับยูกะ

 

มารินะที่ไกลจากผม ก็ถอยมาด้วย แต่ผมตกใจ

 

ผมคิดว่าเธอจะถอยไปไกลจากผม แต่เธอยืนอยู่ข้างผมและกอดผม

 

เธอไม่มองผมเหมือนเดิม แต่เธอยังกอดผมถึงจุดที่ว่าแขนของเธอเกี่ยวกับผม

 

「มาสเตอร์ ริกกะ-จัง และคาซะฮานะ-จัง ควรจะยืนอยู่ข้างหน้าของซูซูฮาระ-ซามะ และตั้งท่าป้องกันด้วยกำลังทั้งหมด ชั้นจะพยายามควบคุมมันมากเท่าที่ทำได้ แต่มันอาจจะเป็นไปไม่ได้」

 

นานะฟูชิ พูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง เธอน่าจะคิดว่านี่ไม่ใช่เรื่องเล็ก สามคนทำสีหน้าเข้มและยืนหน้าเราและตั้งท่าป้องกัน

 

「งั้น เอาล่ะนะ」

 

ด้วยรอยยิ้ม นานะฟูชินั่งลงและไขว้มีดที่เธอมีในสองมือ

 

「คาเซะมาโมรุ เริ่มเต้น」

 

นานะฟูชิพึมพำเงียบๆ จากนั้น ผมของเธอสะบัดเบาๆ

 

นี่เป็นห้องใต้ดิน ไม่มีลม อย่างไรก็ตาม มันดูเหมือนลมอ่อนๆพัดอยู่รอบๆนานะฟูชิ

 

ผมไม่รู้ว่าผม “เห็น” มันได้มั้ย แต่เมื่อผมพยายามจะใช้ความสามารถเพื่อตรวจดู ผมโดนบีบมือ

 

มารินะที่มองไปทางอื่น บีบมือของเธอ

 

――ได้โปรด อย่าใช้ความสามารถมากเท่าที่จะเป็นไปได้

 

ผมไม่ได้ยินเสียง แต่มันดูเหมือนเธอพูดอย่างนั้นทางจิต

 

เข้าใจแล้ว ผมจะไม่ใช่มัน “มากเท่าที่เป็นไปได้”

 

「คาเซะมาโมรุ ตื่นจากการหลับไหล ปัญหาเริ่มจากตอนนี้ ถ้าชั้นตัดสินใจพลาดแม้แต่นิดเดียว วิ่งหนีทันที มาสเตอร์ ริกกะ-จัง คาซะฮานะ-จัง ได้โปรดยืดตัวและปกป้องซูซูฮาระ-ซามะ」

 

นานะฟูชิพึมพำโดยไม่ขยับ หน้าม้าของนานะฟูชิสะบัดเบาๆ ฝุ่นเริ่มลอยรอบๆนานะฟูชิ

 

มันดูเหมือนลมอ่อนๆ พัดต่อไป

 

นานะฟูชิที่หรี่ตาของเธอ ขยับมือขวาของเธอ

 

ทันใดนั้น มือขวาของเธอหายไป และเสียงแคร๊กถูกได้ยิน จากนั้น――

 

「คุ-」

 

นานะฟูชิกัดฟันเธอเบาๆ และหน้าบิดเบี้ยว

 

มันเป็นแค่ช่วยพริบตามือขวาของเธออยู่ใกล้กับมือซ้ายของเธอ

 

มันงอเมินทิศทางของกระดูกและข้อต่ออย่างสมบูรณ์ และมือซ้ายของเธอไปจากข้างหลัง พูดอีกอย่างคือ มือขวาของนานะฟูชิหัก

 

「มันเป็นไปไม่ได้ที่จะรับมือมันแม้ว่าที่บ้าน」

 

นานะฟูชิพูดออกมาและหันมาทางนี้

 

ไม่ผมควรพูดว่าท่อนบนของเธอหันหลังมาอย่างบังคับ

 

ไม่ใช่ว่าแรงส่งจากมือขวาที่อ้อมไปข้างหลังหายไปเหรอ?

 

「ชิ」

 

นานะฟูชิใส่ความพยายามลงไปที่ท่อนล่างของเธอ มือซ้ายของเธอหายไป และเสียงแคร๊กถูกได้ยิน

 

เสียงทือๆถูกได้ยิน และจากนั้นมือซ้ายของเธอยืดไปหาเพดาน

 

ระยะของมือซ้ายของเธอแปลก มันยาวแปลกๆ ข้อต่อทั้งหมดของเธอหลุดเหรอ?

 

ผมถูกขับด้วยความอยากใช้ความสามารถเพื่อยืนยัน แต่มารินะจับมือผมแน่น

 

「น-นี่มันเป็นไปไม่ได้! คาเซะ ―― อุว้าาาาา」

 

นานะฟูชิขึ้นเสียงของเธอเหมือนกับจะใจร้อน แต่ด้วยเสียงกรีดร้อง เสียงน่ารักเหมือนนกตัวเล็กๆร้องได้ดังก้องอย่างต่อเนื่อง

 

ตัวของนานะฟูชิลอยขึ้น

 

รอยฟันปรากฏขึ้นบนเพดานและพื้น พร้อมกับเสียงนกตัวเล็กๆ

 

มันโดนฟัน? อย่างไรก็ตาม มันเป็นไปไม่ได้ที่จะฟันเพดานและพื้นในเวลาเดียวกัน ระยะของแขนของนานะฟูชิมันจะยาวไม่พอ

 

พูดอีกอย่าง มือของนานะฟูชิยืดไปพอที่จะทำให้มันเป็นไปได้

 

「นั่นอะไร…」

 

มันเป็นริกกะที่พึมพำ

 

เธอเหงื่อออกที่แก้ม มองดูนานะฟูชิด้วยตาที่สั่น

 

「มันเหมือนทอร์นาโดเล็กๆเลย」

 

ผมตอบริกกะที่พึมพำ

 

เสียงของนกเล็กๆร้อง อาจจะเกิดจากการเหวี่ยงของนานะฟูชิ และเพดานและพื้นถูกฟันพร้อมกัน

 

ผมไม่เห็นมันเพราะมันเร็วเกินไป

 

「คะ-คาเซะมาโมรุ! จบการเต้น!!」

 

ใยเวลาเดียวกันที่ทามะมูชิร้อง ผมได้ยินเสียงแปลกๆเหมือนบางอย่างฉีกขาด

 

「เอ๋?」

 

ริกกะขึ้นเสียงที่โง่เขลา

 

เสียงนั้นก้องอยู่ข้างหลังผม

 

เมื่อผมเห็นมัน มีดที่ถูกเหวี่ยงสองเล่มกับแขนได้ติดกับกำแพง

 

และคาซะฮานะยองลงตรงหน้าริกกะ

 

「พ-พี่สาวของชั้น…เปลี่ยนทิศทางของมีดเหรอ?」

 

ริกกะพึมพำด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจ

 

คาซะฮานะเปลี่ยนทิศทางของดาบที่บินมาทางนี้เหรอ? ผมไม่เห็นมันเลยซักนิด

 

เมื่อผมมองไปที่ตรงกลางห้อง นานะฟูชิที่แขนหลุด หายใจไม่ทัน

 

「มันอาจจะไม่โดนซูซูฮาระกับคนอื่นโดยไม่เปลี่ยนทิศทาง แต่เผื่อไว้」

 

คาซะฮานะยืนขึ้นและตอบริกกะด้วยรอยยิ้ม

 

「เห็นมันเหรอ? มันเป็นยังไง?」

 

「หืมม? ไม่ ชั้นมี “ตาที่แย่กว่า” ริกกะ ดังนั้น ชั้นไม่เห็นมัน」

 

「เอ๋? ล-แล้วยังไง?」

 

「ยังไง…หืมม?」

 

คาซะฮานะที่เอียงกับคำถามของริกกะ ดูเหมือนจะกังวลอย่างจริงจัง

 

เธอไม่สั่งเกตมันเหรอคาซะฮานะ? ยังไงซะ เธอไม่สังเกตมันแต่เธอทำเพราะมันเป็นสัญชาติญาน

 

คาซะฮานะนั้นไม่รู้ ว่าที่เธอทำนั้นยิ่งใหญ่แค่ไหน

 

「ยังไงซะ พวกเธอทั้งหมดปลอดภัยมั้ย?」

 

นานะฟูชิที่หายใจไม่ทัน เรียกออกมาระหว่างที่หันมาข้างๆ

 

「โอ้ ชั้นปลอดภัย」

 

เมือผมตอบนานะฟูชิ เธอโล่งใจและถอนหายใจ เธอเดินเข้ามาและเข้าหาที่นี่

 

「นี่เป็นความสามารถของคาเซะมาโมรุ มันเริ่มด้วย เริ่มเต้น และปิดด้วย จบการเต้น เมื่อมันเริ่ม มันเร่งความเร็วโดยการอ่านเจตนาของมาสเตอร์ แต่การเร่งความเร็วมันเร็วมาก ดังนั้นเมื่อมันเร่งความเร็ว ชั้นตามไม่ทั้น และมันกลายเป็นแบบนี้」

 

ขณะที่นานะฟูชิพูดระหว่างที่เดิน เธอเรียกทามะมูชิ และเธอขอให้นำแขนเธอที่ติดกับกำแพงกลับมา

 

「นี่เป็นบ้านของเรา ปรกติแล้ว ชั้นจะเปิดใช้งานคาเซะมาโมรุและขยับแขนชั้นนิดหน่อย เพื่อที่ชั้นจะไม่ตาย」

 

นานะฟูชิพูดระหว่างที่ให้ทามะมูชิติดแขนของเธอ

 

「คนที่ควบคุมคาเซะมาโมรุได้อย่างสมบูรณ์แบบเรียกว่า “ผู้ใช้ลม” มันดูเหมือนคนที่ควบคุมลม」

 

ควบคุมลม? นานะฟูชิได้เหวี่ยงไปรอบๆอย่างสมบูรณ์ แต่ถ้าควบคุมมันได้อย่างสมบูรณ์แบบ มันจะทำเหมือนการควบคุมลม

 

「เท่าที่ชั้นรู้ คนที่ควบคุมคาเซะมาโมรุได้สมบูรณ์แบบ ชื่อก็คือ ชิรายูกิ มันมาจากกึ่งสัตว์ในตำนาน คาซะฮานะ-จัง ริกกะ-จัง ไม่รู้จักชื่อนั้นเหรอ」

 

ทันทีนั้น แขนได้ติดกัน และระหว่างที่ขยับทั้งสองแขนของเธอเพื่อตรวจการเคลื่อนไหว นานะฟูชิดูคาซะฮานะและริกกะและถามคำถามพวกเธอ

 

ริกกะเอียงหัวของเธอ แต่คาซะฮานะตอบสนอง บางทีเป็นเพราะเธอคิดมันออก

 

「ชั้นรู้จักชิรายูกินั้น คือคนและของตระกูลที่เราภาคภูมิใจ ชั้นได้ถูกบอกโดยแม่ของชั้นหลายครั้ง」

 

「น-นั่นใช่แล้ว โอ้ พูดถึงแล้ว ชิรายูกิ-จังมีผมสีเทาและตาสีแดง กับหูและหางสัตว์ มันเป็นเวลานานมาแล้ว แต่ถ้าเธอถาม เธอไม่เหมือนคาซะฮานะ-จังหรือริกกะ-จัง」

 

นานะฟูชิฟังคำตอบของคาซะฮานะเหมือนจะจำอดีตได้

 

「มันลำลึกความหลัง อย่างที่ชื่อบ่งบอก ชิรายูกิ-จังนั้นละเอีดอ่อนเหมือนหิมะ และขี้แงและขี้ขลาด ทั้งตระกูลของเธอถูกฆ่า มีแค่เธอที่มีชีวิตรอด และเธอร้องไห้」

 

「อะไร!? ขี้แงและขี้ขลาด!? อย่ามาดูถูกรุ่นที่หนึ่งนะ! รุ่นที่หนึ่งเป็นความภาคภูมิใจของตระกูลของเราและเป็นกึ่งสัตว์ที่แข็งแกร่งที่สุด ที่ได้เป็นตำนาน」

 

「แม้ว่าเธอจะพูดอย่างนั้น มันคือความจริง」

 

คาซะฮานะไม่เห็นด้วย เพราะรุ่นที่หนึ่งถูกบอกว่าอ่อนแอ แต่ นานะฟูชิตอบด้วยรอยยิ้ม เมื่อเธอเห็นคาซะฮานะแบบนั้น

 

คาซะฮานะที่โกรธกว่าเดิม ทำให้หูสัตว์และหางสัตว์ของเธอชี้ขึ้น แต่ไม่พูดอะไร

 

ยังไงซะ นานะฟูชิดูเหมือนจะเจอคนคนนั้นเป็นๆ

 

「มากิริ-ซามะเสียใจ เพราะตระกูลเธอถูกฆ่า และพยายามจะให้เธอแก้แค้น และมอบคาเซะมาโมรุให้ชิรายูกิ-จัง ที่ขี้แง มันไม่ใช่บางอย่างที่เธอจะรับมือได้」

 

มากกว่านั้น นานะฟูชิดูเหมือนจะล้อรุ่นที่หนึ่งเล่น เมื่อคาซะฮานะได้ยินคำพูดนั้น เธอจ้องนานะฟูชิด้วยตาที่แดงก่ำ และกัดฟัน

 

「มากิริ-ซามะแค่มอบคาเซะมาโมรุให้เธอและจากมาทันที แม้ว่าเธอจะทิ้งชิรายูกิ ชั้นคิดว่ามันเศร้าที่จะให้อาวุธทำลายตัวเองกับเธอ แต่มากิริ-ซามะพูดสิ่งนี้กับชั้น」

 

นานะฟูชิยิ้มระหว่างที่รับการจ้องจากคาซะฮานะ

 

「กึ่งสัตว์ขี้ขลาดแต่กล้าหาญ สมาชิกตระกูลทั้งหมดถูกฆ่าแต่เธอไม่อยู่ในความสิ้นหัวง เธอไม่ยอมแพ้ สาวน้อยคนนั้น ในท้ายที่สุดจะแข็งแกร่ง」

 

คาซะฮานะเปิดตาของเธอกับนานะฟูชิที่ยิ้ม

 

ขี้ขลาดและกล้าหาญ เหมือนบางคนเลย

 

นานะฟูชิสังเกตเบื้องหลังของคาซะฮานะ นั่นทำไมเธอใส่ไฟ

 

「มันเหมือนคำทำนายเลย ชั้นไม่ได้เจอชิรายูกิ-จัง แต่ชั้นได้ยินข่าวลือว่า “ชิรายูกิ ผู้ใช้ลม” จากตำนาน ชิรายูกิ-จังน่าทึ่งไปเลย ไม่ใช่เหรอ?」

 

นานะฟูชิยักไหล่ พูดอย่างนั้น และชำเลืองมองทามะมูชิ

 

「แต่ทำไมคาเซะมาโมรุตกอยู่ในมือของบรรพบุรุษของมาสเตอร์ละ มันจะเน่า มันเหมือนไก่ได้พลอย ลิงได้แก้ว ผีเสื้อหางแฉกยูลิสซิสสำหรับหนอนปลอก」

 

ได้ยินคำพูดประชดประชันของนานะฟูชิ ทามะมูชิหัวเราะและเกาหัวของเธอดั่งเธออาย

 

「เพราะหนอนปลอกเท่และน่ารัก ชั้นเลยอาย」

 

เห็นว่า เธอดีใจเพราะมันเหมือนหนอนปลอก

 

เนน่~ นานะฟูชิ มันดูเหมือนคำเปรียบเทียบมันไม่ได้ผลกับทามะมูชิ เธอต้องทำให้เข้าใจง่ายขึ้น

 

「คาจิ ยาฮันยะ*」

 

«TLN: คาซะฮานะ»

 

ทันใดนั้นเสียงที่แปลกดังก้อง

 

มันเป็นเสียงทางจมูก มันฮิซูกิเหรอ

 

ผมหันตาไปที่ทางเข้าของห้องใต้ดิน และทันใดนั้น ผมเห็นอีโง่

 

มันเป็นอาซาฮินะที่ยืนอยู่ที่ทางเข้า

 

อาซาฮินะที่วางมือไว้บนเอว มองผมจากข้างบน หัวเราะเหมือนไม่มีใครเอาชนะได้ข้อเท้าของคนถูกจับโดยมือขวาของอาซาฮินะ

 

เมื่อผมมองดู มันเป็นฮิซูกิที่ม้วนอยู่ที่พื้น

 

เธอจับฮิซูกิที่ข้อเท้าและลากเธอมาเหรอ? พื้นเรียบมันโอเค แต่เธอลากลงบันไดมาด้วยเหรอ? ผมสงสัยว่าฮิซูกิยังมีชีวิตรอดอยู่มั้ย

 

ยังไงซะ ผมได้คิดเสียงเมื่อกี้นี้ดังนั้นมันดูเหมือนเธอยังมีชีวิตรอดอยู่

 

「คาจิ ยาฮันยะ」

 

ชั้นพาสาวคนนี้มาเพราะเธอพูดว่าเธอยืนและเดินคนเดียวไม่ได้!

 

「คาจิยะ――」

 

「ชั้นสงสัยว่าเธอตกใจโดยความเมตตาของชั้นมั้ย!? โดยเฉพาะซูซูฮาระ-คุง! ชั้นไม่อยากให้นายตกหลุมรักกับความเมตตาของชั้น!」

 

「คาจิ――」

 

「ชั้นเห็นหัวใจในตาของซูซูฮาระ-คุง! อา ชั้นมีปัญหาแล้ว! ชั้นมีปัญหา! ชั้นไม่มีซูซูฮาระ-คุงอยู่ในสายตาชั้น!」

 

หุบปาก เธอหนวกหูว่ะ ตาใครมีหัวใจกันวะ

 

ผมหมายถึงอาซาฮินะพยายามจะพูดบางอย่างเธอเธอกันเสียงของเธอและพูดคนเดียว

 

ให้ฮิซูกิพูด

 

「โลลิที่คอสเพลย์เป็นสัตว์นั่น! ฮิซูกิมีบางอย่างที่จะพูดกันเธอ! รับมัน!」

 

ด้วยนั้นที่พูด อาซาฮินะโบกมือขวาของเธอ

 

「กย้าาาาาาาาาาาาาาา!」

 

ฮิซูกิถูกโยนเบาๆ กรีดร้องระหว่างที่หมุนกลางอากาศ

 

มันต้องเจ็บแน่ ผมไม่เก่งกับฮิซูกิ แต่ผมเห็นอกเห็นใจเธอ

 

「ฮิซูกิ!」

 

คาซะฮานะกระโดดขึ้น จากนั้น ระหว่างที่ร้อง เธอจับฮิซูกิที่หมุนด้วยความเร็วสูงอย่างอ่อนโยน และลงพื้น

 

「อ-อาซาฮินะ-ซาะม! ไม่ว่าจะขนาดไหน――」

 

「ยังไงซะ คาจาฮันยะ! ชั้นไม่สนเกี่ยวกับเรื่องนั้น!」

 

คาซะฮานะที่มีหูสัตว์ห้อยลง แต่หางของเธอชี้และเธอจ้องอาซาฮินะ แต่ฮิซูกิขึ้นเสียงของเธอ

 

「โอ้! ทิชชูอยู่ในจมูกชั้น และชั้นพูดได้ไม่ดี!」

 

ฮิซูกิที่ส่งเสียงของเธออีกครั้ง เปลี่ยนเป็นสีแดงสดและก้าวเท้า

 

ฮิซูกิเครียดจนเส้นเลือดในหัวเธอปูด และ――

 

ทิชชู่ที่อยู่ในจมูกเธอพุ่งออกมาด้วย

 

「วะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!」

 

ผมไม่มีเวลาจะนึกอะไรออกและหัวเราะ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่หัวเราะ

 

「นุฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ทิชชู่เด้งออกมาจากจมูกเธออ่ะ! ตลกมาก!」

 

ทามะมูชิหัวเราะตามผม

 

ยูกะและริกกะหันไปทางอื่นแล้วไหล่สั่น

 

ผมไม่คิดว่าพวกเธอไม่อยากหัวเราะ เพราะมันดูเหมือนพยายามจะทนมันอย่างสิ้นหวัง

 

「คาซะฮานะ! หยิบมีดนั่น!」

 

「ต-แต่…」

 

ขณะที่ทิชชูเด้งออกมาจากจมูกเธอ ฮิซูกิในที่สุดก็พูดดีๆได้ คาซะฮานะ ที่ได้ยินฮิซูกิร้องตาสั่นและหางตก

 

คาเซะมาโมรุเป็นบางอย่างที่แม้แต่นานะฟูชิก็รับมือไม่ได้ซักนิด เธอน่าจะคิดว่าเธอรับมือมันไม่ได้

 

แต่ฮิซูกิ เวลาดี แม้ว่ามันครึ่งเดียว มันยังเป็นตาแห่งสวรรค์

 

「ช-ชั้นเป็นชิรายูกิไม่ได้…」

 

「หือห์!? ทำไมเธอต้องเป็นชิรายูกิล่ะ!」

 

「เอ๋?」

 

「ใครบอกให้เธอเป็นชิรายูกิล่ะ! ชั้นแค่บอกเธอให้หยิบมีดนั่น!」

 

「แต่…」

 

「เธอเป็นคาซะฮานะ! คาซะฮานะของชั้น! เธอเป็นดอกหิมะที่บินรอบชั้นบนลม!」

 

「ฮิ-ฮิซูกิ แต่ชั้นไม่มีพรสวรรค์เหมือนริกกะ…」

 

「คาซะฮานะ! เธอพูดอะไร!? ก่อนหน้านี้ เธอพูดว่า “ชั้นได้ยินเสียงของลม”!」

 

คาซะฮานะ ที่เสียความมั่นใจของเธอ โดนคำพูดของฮิซูกิ จากนั้นเปิดตาของเธอกว้าง

 

「วันนี้ลมอ่อน วันนี้ลมดูเศร้า วันนี้ลมดูสนุก เธอบอกชั้นเกี่ยวกับลมอย่างนั้น! คาซะฮานะ! เธอพูด “เสียงของลมชั้นได้ยินพวกคุณ”! เธอมีหูสัตว์ที่ได้ยินเสียงของลม! นั่นทำไมเธอรับมือมีดนั้นได้!」

 

แสงอ่อนๆฉายอยู่บนตาของคาซะฮานะเมื่อเธอได้ยินฮิซูกิพูด

 

ใช่ คาซะฮานะมีหูสัตว์ที่ริกกะไม่มี

 

แม้ว่าการมองของเธอเทียบกับริกกะไม่ได้ คาซาฮานะมีการได้ยินเหนือกว่าริกกะ คาซาฮานะต้องพึ่งการได้ยิน แม้ว่าจะไม่รู้ตัว

 

“เห็น” หมายถึงได้ยิน” แบบนั้น คาซะฮานะ “ได้ยินเสียงของลม”

 

「ชั้นไม่ได้บอกเธอให้เป็นชิรายูกิ! เพราะเธอเป็นคาซะฮานะของชั้น! มาสิ คาซะฮานะ! รับดาบนั้น! และขึ้นมาแข็งแกร่งที่สุด เป็น “ผู้ใช้ลม” ของเธอเอง! และกลายเป็นตำนานใหม่! “คาซะฮานะผู้ใช้ลม”!」

 

คาซะฮานะที่ได้ยินคำนั้น ลดฮิซูกิลงที่พื้นอย่างช้าๆ จากนั้นมองมีดสองเล่มที่ฝังอยู่ที่กำแพง

 

มีแสงในตาของคาซะฮานะ

 

「ชั้นจะปกป้องฮิซูกิ…」

 

คาซะฮานะที่พึมพำ มีแสงที่ทรงพลังอยู่ในตาของเธอ และก้าวออกไป

 

「นา-นานะฟูชิ」

 

「หืม?」

 

「เธอดูดาบนั่นและดูคาซะฮานะสิ? เธอดูและรู้สึกเหมือน “กึ่งสัตว์ในตำนาน”」

 

เมื่อผมถามนานะฟูชิ ที่เอียงหัวของเธอ นานะฟูชิหัวเราะ

 

「ไม่ใช่ว่าซูซูฮาระ-ซามะสังเกตตั้งแต่ก่อนหน้าแล้วเหรอ? ไม่ใช่ว่าตาของซูซูฮาระ-ซามะเมื่อมองคาซะฮานะ-จัง เหมือนกับ มากิริ-ซามะเลย?」

 

นานะฟูชิยิ้มและมองขึ้นมาหาผมหลังจากที่พูดอย่างนั้น

 

คาซะฮานะเดินไปที่มีดที่ปักอยู่ที่กำแพงอย่างช้าๆ

 

พูดถึงแล้ว มันเป็นตาผมจากที่นี่?

 

มารินะที่จับมือผม มองผมด้วยความรีบ

 

ตาของเธอสว่างและเธอหน้าซีด

 

ผมจะขอมารินะ นี่เป็น “หน้าที่ของผม”

 

มารินะที่มีตาในน้ำตา หันไปทางอื่นและเธอกัดฟัน และบีบมือผมแน่น

 

ผมขอโทษและขอบคุณที่ยกโทษให้ผม

 

ด้วยตาผมปิด ผมโฟกัสสมาธิและเปิดตาอย่างช้าๆ

 

ความสามารถผมถูกใช้งาน ความสามารถเอ็กซ์เรย์ที่เห็นผ่านทุกอย่าง

 

ผมคิดว่าเอ็กซ์เรย์ใช้งานต่อไปแม้ว่าความสามารถเอ็กซ์เรย์ไม่ถูกใช้

 

แต่ผมคิดว่ามันมีประสิทธิภาพมากกว่า

 

คาซะฮานะยื่นมือออกไปที่มีดที่ปักอยู่ที่กำแพงอย่างอ่อนโยน

 

ได้โปรดให้ผมยืมพลัง คาซะฮานะ

 

 

 

เวอร์ชั่นไม่เซ็นเซอร์อ่านได้ที่ tunwalai หรือ readAwrite

หยุดเพิ่ม 2 วันนะครับ ขอโทษจริงๆครับ

ขอบคุณสำหรับเงิน 100 บาท

เป้าหมายเดือน 4/66

ค่าเน็ต 200/200

กาแฟ 280/300

ค่าไฟ 20/1000

สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่

067-3-63958-5

กสิกรไทย

 

แปลโดย: wayuwayu

ติดตามได้ที่ดิสคอทส่งข้อความมาขอได้ที่ facebook: “wayuwayu แปล”

pdfไว้อ่านตอนกลางคืน  สปอนเซอร์ตอน จองตอน ซื้อตอน หารได้ ได้ทั้ง facebook และ discord

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เอ็กซ์เรย์เป็นมากกว่าที่ฉันคิด – X-ray Is More Than I Thought 123

Now you are reading เอ็กซ์เรย์เป็นมากกว่าที่ฉันคิด – X-ray Is More Than I Thought Chapter 123 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 123

 

เวอร์ชั่นไม่เซ็นเซอร์อ่านได้ที่ tunwalai หรือ readAwrite

 

เมื่อผมลงไปที่บันไดและเข้าไปที่ห้องใต้ดิน ทุกคนได้รวมกันอยู่ในห้องใต้ดินและเห็นเราในเวลาเดียวกัน

 

ไม่ มีแค่มารินะมองไปที่อื่น

 

「โมตะ-คุง! ดู! นี่เป็นชุดการต่อสู้! ไม่คิดว่านี่น่ารักเหรอ?」

 

ยูกะอยู่ในอารมณ์ดีและแสดงเสื้อสีดำให้ผมดู

 

มารินะ ยืนอยู่มุมห้องกอดอก ปฏิเสธที่จะมองยูกะ

 

ผมไม่อยากให้เธอมีท่าทางน่าสงสัย ผมจะอยู่ในปัญหาถ้ายูกะรู้สึกสงสัย

 

แต่ยังไงซะ ผมต้องขอบคุณเธอที่เก็บไว้เป็นความลับ

 

「มันเป็นเสื้อพวกที่จะออกมาในนิยายวิทยาศาสตร์! มันเท่ น่ารัก แต่ซนนิดหน่อย ไม่ใช่เหรอ?」

 

ระหว่างที่เอาชุดให้ผมดู ยูกะถามด้วยรอยยิ้มที่กว้างและแก้มที่แดง

 

「ที่เป็นชุดเกราะเหรอ?」

 

ผมมองดูชุดยูกะและถามเธอ

 

ชุดสีดำเป็น “จั๊มพ์สูท” มันเชื่อมต่อกันข้างบนข้างล่าง ถ้าให้พูดถึงมันเป็นชุดเซ็นไตสีดำ มันเหมือนกับชุดยางมากกว่าชุดเกราะ

 

อย่างไรก็ตาม ไหล่ ศอก และเขาเสริมไปด้วยวัตถุดิบที่ดูเหมือนจะแข็งแรง และมีกระโปรง

 

พื้นฐานแล้ว มันดูเหมือนมันจะติดกับผิวหนัง ดังนั้นหน้าอก สะโพก และเส้นต้นขาถูกเปิดเผย มันดูค่อนข้างลามกเมื่อเธอใส่มัน

 

แต่เพราะไหล่ ศอกและเข่าถูกเสริม มันมีความรู้สึกของเกราะและมันเท่แน่นอน แต่ขอบคุณกระโปรง ความน่ารักถูกเน้น

 

อย่างไรก็ตาม ผ้าดูเหมือนจะบางและมันดูเหมือนง่ายที่จะขยับ แต่ผมรู้สึกว่าพลังการป้องกันจะลดลง

 

「มันก็ยังมีถุงมือและบูท! มันค่อนข้างหยาบๆ แต่ไม่คิดว่ามันเท่เหรอ?」

 

ยูกะหยิบแจ็คเก็ตด้วยมือของเธอและพูดระหว่างที่ชี้ด้วยมือขวา

 

ที่ที่ยูกะชี้ มันเป็นถุงมือดำและบูทหยาบๆเรียงอยู่

 

มันน่าทึ่ง ทั้งหมดถูกสร้างโดยทามะมูชิเหรอ?

 

「มันเหมาะกับยูกะ มันดูดีและดูตื่นเต้น」

 

เมื่อผมพูดอย่างนั้น หน้าของยูกะเปลี่ยนเป็นสีแดงสด

 

「ช-ใช่…ชั้นเห็นด้วย ♥」

 

และเมื่อเธอมองลงไปนิดหน่อย เธอพึมพำอย่างอายระหว่างที่มองผมด้วยสายตาที่มองขึ้นมา

 

「โอ้! นั่นใช่แล้ว! ดูนี่! มันเครื่องหมายของเรา!」

 

ยูกะที่ร้องเพื่อซ่อนความอาย เอาข้างหลังชุดต่อสู้ของเธอให้ดู

 

「ไยแมงมุมและแมงมุมเหรอ?」

 

บนข้างหลังชุดต่อสู้ ไยแมงมุมถูกเขียนในเส้นสีชมพู แมงมุมสีชมพูตัวเล็กๆถูกเขียนอยูบนขอบไยแมงมุม

 

「ไยแมงมุมเป็นตราของหมู่บ้านที่ชั้นเกิดมา ผู้ใช้แมลงของหมู่บ้านหมอกเวทมนตร์ได้ชื่อเสียงโด่งดังในฐานะผู้ใช้แมงมุมมาหลายรุ่น ปรกติถูกเขียนในสีขาว แต่สีชมพูทำให้มันน่ารัก ดังนั้นชั้นทำให้มันเป็นสีชมพู」

 

ทามะมูชิ ที่ยืนอยู่กลางทุกคนที่รวมกัน พูดอย่างภาคภูมิใจ

 

「เธอเปลี่ยนสีของตราโดยไม่ได้รับอนุญาต…อย่างที่คาด มาสเตอร์ของชั้น」

 

นานะฟูชิที่เตะตา จ้องทามะมูชิที่ภาคภูมิใจ และพึมพำเหมือนเธอทึ่ง

 

「ยังไงซะ ไม่ใช่ว่ามันดีเหรอ? เพราะมันเป็นสัญลักษณ์สำหรับเรา ไม่ใช่เหรอ?」

 

เมื่อผมพูดกับนานะฟูชิ เธอยักไหล่และถอนหายใจ

 

「และแมงมุมเป็นตราของตระกูลชั้น บ้านอื่นเป็น มอธ หนอนเขา แมลงวัน และอื่นๆ พื้นฐานแล้วมันถูกเขียนอยู่ในไยแมงมุม แต่แมงมุม ซึ่งเป็นนักล่าเดียวในครอบครัวของชั้น เขียนอยู่บนตรา เหตุผลคือ――」

 

และทามะมูชิปิดตาของเธอ ตัดคำพูดเธอและหายใจ จากนั้นเธอเปิดตาของเธอ

 

「เพราะตระกูลของชั้นมีชื่อเสียงมากที่สุดในหมู่บ้านของชั้น! เป็นยังไงล่ะ! ฟุ่ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!」

 

ทามะมูชิแอ่นอกถึงจุดที่ว่าเกือบจะล้มไปข้างหลังและหัวเราะ

 

เฮฮ๋~ ทามูะมูชิเป็นสาวชื่อดังเหรอ?

 

ถ้าคุณถาม มีความจริงหลายอย่าง จากวิธีที่เธอพูด และเธอสง่างามอย่างแปลกประหลาด มีความรู้ ขยัน และมีทักษะดีๆหลายอย่าง ด้วยเหตุผลนั้น เธอง่ายที่จะถูกหลอก และเธอดูเหมือนหญิงสาวไร้เดียงสา

 

「เพราะเธอมาจากตระกูลที่รู้จักกันดี เธอทนตัวเองไม่ได้เพราะเธอทำอะไรไม่ได้ที่บ้าน เธอเลยพยายามที่จะใช้เทคนิคต้องห้าม จากนั้นเธอถูกปฏิเสธและไม่สามารถอยู่ที่บ้านได้ เพิ่มเติมจากนั้น มันรู้สึกเหมือนเรื่องของสาวที่ดังที่ร่วงหล่น」

 

นานะฟูชิยักไหล่ของเธอพร้อมกับถอนหายใจ

 

「นุ!? นานะฟูชิ! อย่าพูดอย่างนั้น! เมื่อทุกคนเคารพชั้นสิ!」

 

ทามะมูชิ ที่เปลี่ยนเป็นแดงสด ได้เปลี่ยนเป็นแดงสดหลังจากถูกบ่นโดยนานะฟูชิ โกรธ

 

「ใครเคารพเธอกัน งี่เง่า!」

 

ริกกะพึมพำ

 

「ช-ช่างเป็นสาวที่น่ากลัว! ม-มารินะพูดอะไรซักอย่างสิ!」

 

ทามะมูชิ ที่เปลี่ยนเป็นแดงถึงหูแสดงความโกรธ และขอความช่วยเหลือมารินะ

 

มันดูเหมือนพวกเธอรู้จักกันค่อนข้างนิดหน่อยแล้ว ระหว่างที่พวกเธอเตรียมตัวด้วยกัน

 

อย่างไรก็ตาม มารินะไม่ตอบสนองและหันหน้าหนีไป

 

「มารินะ?」

 

「มารินะ-ซามะ?」

 

ทามะมูชิเรียกมารินะที่ไม่ตอบสนอง และริกกะก็เรียกเธอด้วย

 

「เอ๋? อึน อา ใช่ มันเป็นชุดต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม ไม่ใช่เหรอ?」

 

มารินะ ที่ดูโล่งใจ ยิ้มและส่งเสียงของเธอ

 

「มีอะไรเหรอ มารินะ?」

 

「มารินะ-ซามะ เธอมีปัญหาอะไรมั้ย?」

 

ทามะมูชิและริกกะกังวลกับมารินะที่ไม่พูดกัน ทำให้พวกเธอรู้สึกไม่สบายใจ

 

「ก-กังวลเหรอ!? อ๊ะ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ชั้นไม่มีความกังวล! ชั้นไม่มีเวลาพอที่จะให้กังวล!」

 

มารินะที่กังวลและทำให้ทั้งสองคนใจร้อน โบกมือของเธอและส่งเสียง

 

พวกเธอเห็นได้ว่าพวกเธอถูกหลอกอยู่ มันเหมือนพูดว่าเธอมีปัญหา

 

ยังไงซะ มันไม่มีเหตุผลที่จะอารมณ์เสียเหรอ? เธอแค่ต้องแบกเรื่องของผมไป มารินะ

 

「มารินะ-จัง เกิดอะไรขึ้น? เมื่อกี้นี้เธอยังโอเคอยู่เลย」

 

ยูกะจ้องมารินะและพึมพำอย่างกังวล

 

เก็บความลับกับแค่ยูกะ ถ้าไม่มีใครทำได้ ก็ไม่มีปัญหา แต่ยูกะอาจจะสามารถทำได้

 

โดยแลกกับชีวิตของเธอ

 

「ไม่ใช่ว่าอาซาฮินะโง่ไปที่จะมีปัญหาเหรอ? เธอทำให้ฮิซูกิไม่ระวัง」

 

「โอ้ เข้าใจแล้ว นั่นก็เป็นปัญหาด้วย ยู-จังก็มีปัญหา」

 

พูกะได้ยินคำพูดของผมและพยักหน้าด้วยสีหน้าที่จริงจัง เห็นว่าเธอเชื่อใจ

 

หืมมม อาซาฮินะบางทีก็มีประโยชน์

 

ผมพูดไม่ได้ว่าผมโกรธโดยมารินะ งั้นผมแค่ต้องปรับตัว

 

มารินะได้ยินฉันมั้ย? เธออารมณ์เสียได้ เธอหดหู่ได้ ถ้าเธออยากจะร้องไห้ เธอร้องไห้ได้

 

ถ้าเธอเงียบเกี่ยวกับเรื่องของฉัน นั่นโอเค

 

เมื่อผมคิดเกี่ยวกับมันในใจของผม มารินะที่พยายามจะไม่มองผมจนถึงตอนนี้ มองข้างๆมาที่ผม แต่ไม่นานเธอก็หันไป

 

ความสามารถของมารินะมีปัญหา แต่นั่นอาจจะเป็นที่มารินะคิดด้วย

 

เพราะเธออ่านมันได้ เธอรู้สิ่งที่ไม่ควรจะรู้

 

「ชั้นจะขอให้ทามะมูชิอธิบายหลายอย่าง แต่ก่อนหน้านั้น มันโอเคเหรอ?」

 

เมื่อผมพูดอย่างนั้น ทุกคนยกเว้นมารินะมองผม

 

「ชั้นไม่อยากให้อาซาฮินะและฮิซูกิตามมาในกรณีนี้ ชั้นอยากให้นานะฟูชิ และคาซะฮานะอยู่คุ้มกันพวกเธอต่อ ดังนั้น ชั้นเก็บเป็นความลับกับอาซาฮินะและฮิซูกิ โดยเฉพาะอาซาฮินะ ชั้นไม่อยากให้เธอรู้อย่างแน่นอน ถ้าเธอรู้มัน เธอจะพูดว่าเธออยากไปกับชั้น และไม่ว่าชั้นจะพูดอะไร เธอจะไม่เปลี่ยนความคิดของเธอ ถ้าเธอตามชั้น…ทุกอย่างจะเละเทะ」

 

ทุกคนที่ได้ยินคำพูดผมร้อง “โอ้”

 

เห็นได้ชัดว่า พวกเธอเชื่อ

 

「นั่นคือทั้งหมดจากชั้น ทามะมูชิ โปรดอธิบายอย่างอื่น」

 

ผมส่งเสียง วางมือไปที่เอวของยูกะ และเริ่มเดินไปที่ที่ทุกคนรวมตัว

 

ยูกะ ที่มีมืออยู่บนสะโพกของเธอ เธออายและยิ้มอย่างมีความสุข

 

ทามะมูชิ ที่แก้มย้อมเป็นสีแดง กำหมัดและวางไว้หน้าปากของเธอ และเธอกระแอมเคลียร์คอ

 

「ชั้นพยายามจะสร้างชุดต่อสู้ แต่ถ้าให้พูด พวกนั้นทั้งหมดเป็นมือสองและของที่ล้มเหลว」

 

ทามะมูชิทำสีหน้าเข้ม และพูดว่ามันไม่ได้เข้ม

 

ริกกะ คาซะฮานะ และนานะฟูชิเป็นตา

 

「ทุกอย่างได้ถูกทำเพื่อชั้นก่อนหน้า แต่เมื่อชั้นพิจารณาว่ามันไม่มีประโยชน์สำหรับชั้น ที่เกือบจะอมตะ และวางมันอยู่ในโกดัง จากนั้น ชั้นพัฒนามันเพื่อเธอ」

 

แม้ว่าทามะมูชิถูกเห็นได้ด้วยตาของผม เธอไม่แสดงว่าเธอสนใจอะไร และพูดอย่างภาคภูมิใจ

 

ยังไงซะ ทามะมูชิ ไม่จำเป็นต้องมีเกราะ ชุดเบาๆจะเหมาะสมมากกว่า

 

เมื่อผมสังเกตมัน มันดูเหมือนจะเป็นทามะมูชิ

 

「มันดีที่จะพัฒนามัน ชั้นคิดว่ามันแข็งแกร่ง ทุกคนอยากจะดูน่ารัก แต่ชั้นไม่ต้องการมัน」

 

เมื่อผมถามทามะมูชิ เธอเห็นผมส่งเสียงทางจมูก

 

「ส่วนที่รัดรูปใช้ไยแมงมุมที่ถูกปรับปรุงเพื่อการต่อสู้ มันเป็นเหล็กที่แข็งแกร่ง มันทนกับการโจมตีของปืนกลได้สบายๆ และมันยืดหยุ่น สำหรับเหตุผลนั้น มั่นผ่อนแรงกระแทกข้างใน」

 

「เฮฮ๋~」

 

วัตถุดิบที่แน่นดูเเหมือนจะบาง แต่มันทนการโจมตีจากปืนกลได้? มากกว่านั้น แรงกระแทกข้างในถูกผ่อนได้

 

「เกราะด้านนอกทำจากเปลือกของด้วยที่ใช้บนไหล่ ศอก และเข่า มันยืดหยุ่นน้อยกว่า แต่มันแข็งแกร่งกว่าผ้าที่ทำมาจากไหมแมงมุม」

 

งั้นมันเป็นอย่างนั้น ส่วนที่ต้องการความยืดหยุ่น เหมือนข้อต่อ และไหมแมงมุม และส่วนที่ไม่ได้ต้องการความยืดหยุ่นสร้างจากวัตถุดิบที่แข็งแรง?

 

มันค่อนข้างเป็นตัวแทนเพราะมันกันปืนกลได้แม้ว่ามันเป็นบริเวณที่ป้องกันต่ำ

 

「มันดีกว่าที่จะเห็นมันมากกว่าอธิบายมันด้วยปาก」

 

ทามะมูชิยิ้มและจับเสื้อคลุมสีดำที่เธอใส่ และ――

 

「นี่คือที่ชั้นใส่!」

 

ระหว่างที่ส่งเสียงของเธอ เธอถอดเสื้อคลุมของเธออย่างรวดเร็ว

 

「……เอ๋?」

 

ทามะมูชิใส่ชุดต่อสู้ ด้วยสองมืออยู่ที่สะโพกของเธอ และยิ้มอย่างภาคภูมิใจ ยูกะ ที่เห็นทามะมูชิ ทำเสียงที่โง่เขลา

 

ยังไงซะ มันธรรมชาติที่จะผิดหวีงเมื่อเธอเห็น “นั่น”

 

「เอ๋!? เฮ้!? น่าา~! ทามะมูชิ! ชั้นเห็นมัน!」

 

ยูกะ ที่ตกใจ เปลี่ยนเป็นสีแดงสดระหว่างที่ส่งเสียง

 

「อุมุ!」

 

ต่างจากความรีบของยูกะ ทามะมูชิพยักหน้าแรงๆโดยไม่สนเกี่ยวกับมัน

 

「ยูกะ ใจเย็น! มันไม่สำคัญว่าเธอเห็นมันมั้ย!」

 

「ใช่ ใช่ ใช่! ชั้นคิดว่ามันเป็นปัญหาใหญ่!」

 

ยูกะวิ่งเข้าไปหาทามะมูชิ ที่ยกหน้าอกของเธอและส่งเสียง

 

ถ้าพูดให้ถูกควรจะพูดว่ามันถูกเห็นได้หรือมันถูกเปิดเผย

 

ชุดต่อสู้ที่ใส่โดยทามะมูชิปิดเกือบทุกอย่างยกเว้นหน้า และมันติดกับผิว

 

การเปิดเผยมันน้อยมาก แต่แทนนั่น เส้นร่างการเธอถูกเน้น

 

ท่อนล่างของเธอ ปิดโดยกระโปรงจิ๋ว ดังนั้นมันสามารถจะซ่อนมันได้ แต่ครึ่งบนของตัวนั้นถูกเห็นได้ นมที่ถูกห่อในผ้าสีดำที่บางเห็นทรงหัวนมอย่างชัดเจน

 

เพื่อจะพูดให้ถูก มันลามกมากกว่าเปลือย

 

อย่างไรก็ตาม เพราะทามะมูชิไม่อายเกี่ยวกับมัน ความลามกลดลงครึ่งหนึ่ง

 

「มัน น-น่ารัก」

 

เมื่อผมปรบมือด้วยเสียงดัง ทามะมูชิที่แก้มแดง ยิ้ม

 

เซ็นไตสีดำสนิท และเครื่องป้องกันป้องกันไหล่และศอกและเข่า และกระโปรงจิ๋วและถุงมือกับบูทหยาบๆ

 

นี่มันไม่แย่ มันน่ารักและลามกมากจริงๆ

 

แต่ผมอยากให้ทามะมูชิอายกว่านี้

 

ผมคิดว่าเธอจะน่ารักมากกว่านี้ถ้าเธออาย

 

「นั่นใช่แล้ว เท่และน่ารัก แต่นั่น…ชั้นสงสัยว่าชั้นต้องใส่มันด้วยมั้ย」

 

ยูกะพูดว่าเธออยากน่ารัก แต่เธอรู้ความจริงว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเธอใส่มัน เธอพึมพำด้วยรอยยิ้มที่เกร็ง

 

แม้ว่ามันดูเหมือนทามะมูชิ มันยังลามกเลย ถ้ายูกะหรือมารินะใส่มัน มันจะค่อนข้างอันตราย

 

ผมจินตนาการและเอ็นผมดูเหมือนจะตอบสนอง

 

อะไร? นี่เป็นสัญญานของการฟื้นคืนชีพหรือ?

 

หือห์ นั่นดี เอ็นผมดูเหมือนจะปลอดภัย

 

ไม่ว่าอย่างไร――

 

ผมจิ้มไหล่ของยูกะ ที่พูดอย่างอาย ด้วยนิ้วของผม

 

ยูกะชำเลืองมองผมระหว่างที่เปลี่ยนเป็นสีแดงสด

 

「ถ้าเธออาย ทำไมเธอไม่ใส่ชุดอื่นบนชุดนั้นล่ะ」

 

เมื่อผมกระซิบกับเธอ ปากของยูกะเป็นสามเหลี่ยม

 

ผ้ามันบาง ดังนั้นมันค่อนข้างเป็นไปได้ที่จะใส่ชุดอื่นจากข้างบน เธอไม่รู้เรื่องนั้น

 

ยูกะลืมมันอย่างคาดไม่ถึง

 

「มันไม่น่ารัก….」

 

ริกกะ ที่อารมเสียอยู่จนถึงตอนนี้ พึมพำ

 

「มันถูกทำให้ผู้ใช้แมลง แต่ถ้ามาสเตอร์ชมหนู หนูจะใส่มัน…」

 

ริกกะพึมพำ ย้อมแก้มของเธอเป็นสีแดง หยิบชุดต่อสู้ ชำเลืองมองผม จากนั้น ทามะมูชิตีมือของริกกะ

 

「อะไร!?」

 

ริกกะที่ตกใจ จ้องทามะมูชิ

 

「ชั้นไม่มีสำหรับเธอ…!」

 

ทามะมูชิเปิดตาของเธอและส่งเสียง

 

「อะไร!? ทำไม! ทำไมชั้นไม่ได้!」

 

「เพราะเธอไม่ชอบมัน」

 

「ธ-เธอ!」

 

ริกกะที่ถูกยั่วยุโดยทามะมูชิ มันดูเหมือนความโกรธของเธอไปถึงขีดจำกัดในทีเดียว ได้ถูกเติ่มเชื้อไฟโดยทามะมูชิ

 

หมัดของริกกะตัดอากาศและไปที่ท้องของทามะมูชิ

 

「อะไร!?」

 

เสียงของเหล็กกระทบกันดังก้อง และริกกะร้องในความประหลาดใจ

 

ทามะมูชิที่ท้องถูกต่อยโดยริกกะ หัวเราะพร้อมวางมือของเธอลงไปบนสะโพก

 

「เฮฮ๋~」

 

มันเป็นตัวแบบไหนกัน? มันแม้แต่แข็งแกร่งพอที่จะทนหมัดของริกกะ นมของเธอส่าย

 

「อย่างที่พวกเธอเห็น ความแข็งของชุดต่อสู้เปลี่ยนตามแรงกระแทกจากภายนอก มันยืดหยุ่นปรกติ แต่เท่าที่เธอเห็น เมื่อมันถูกโจมตี มันรับแรงกระแทกบนพื้นผิว」

 

ทามะมูชิอธิบายกับริกกะที่ตกใจ

 

「แต่สาวน้อยไม่ได้โจมตีชั้นจริงจังตอนนี้」

 

ทามะมูชิหัวเราะอย่างภาคภูมิใจ

 

「ถ้าสาวน้อยต่อยชั้นจริงๆ ชั้นจะทนมันไม่ได้ การเสริมกำลังส่วนที่ทำมาจากเปลือกด้านนอกของด้วง ไม่ใช่บางอย่างที่ทนแรงของสาวน้อยได้ ถ้าสาวน้อยโจมตีด้วยมีด มันจะขาดอย่างง่ายๆ มันน่าจะแทนได้ “ถึงแค่นั้น”」

 

เมื่อผมได้ยินคำพูดของทามะมูชิ ผมคิด

 

「ชุดต่อสู้นั้นสำหรับมนุษย์เหรอ?」

 

「แน่นอน」

 

ทามะมูชิพยักหน้ากับคำพูดผม

 

「มันแก้ทาง “มนุษย์” ที่ใส่อาวุธหนัก มีศัตรู้ที่มีพลังพิเศษ แต่ในแง่ของ “มนุษย์ธรรมดา” มันดีกว่า และซูซูฮาระ มารินะ ยูกะ อาซาฮินะ และฮิซูกิ ทนการโจมตีของอาวุธหนักไม่ได้ ชั้นเลยทำมัน」

 

「มันหมายถึงมันทนการโจมตีของความสามารถอื่นไม่ได้เหรอ?」

 

「ไม่ มันไม่ มันอาจจะทนได้ แต่มันอาจจะทนไม่ได้ ถ้าศัตรูเป็นคนที่มีความสามารถพิเศษ ได้โปรดคิดถึงความเป็นไปได้ว่ามันจะทนการโจมตีไม่ได้ด้วย」

 

ผมเชื่อคำอธิบายของทามะมูชิ

 

เพราะมันทนการโจมตีปรกติจากริกกะได้ แม้ว่ามันไม่ซีเรียส ถ้าริกกะโจมตี “มนุษย์ปรกติ” จะตายทันที เธอพูดว่ามันทนการโจมตีแบบนั้นได้ แต่มันทนการโจมตีจริงจังของริกกะอย่างจริงจังไม่ได้

 

「สั้นๆก็คือ อย่าถูกเบี่ยงความสนใจ」

 

「ใช่ นั่นเป็นอย่างนั้น」

 

ทามะมูชิพยักหน้ากับคำพูดผม และโยนชุดต่อสู้ให้ริกกะ

 

「ชั้นล้อเล่นที่บอกว่าของเธอไม่มี แต่สำหรับบางคนอย่างเราที่มีความสามารถเสริมความแข็งแกร่งร่างกาย ชุดต่อสู้เกือบจะไม่มีความหมาย ไม่ ใช่โล่งใจที่จะคิดว่ามันเพิ่มพลังป้องกัน ถ้าทำอย่างนั้น มันต่อต้านการพัฒนา เลี่ยงการโจมตีมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ถ้าโดนโจมตี ถ้าโดนก็ใช้เกราะนี้ นั่นดีที่สุด อย่าลืมล่ะ」

 

ริกกะที่รับชุดต่อสู้ ดูเหมือนจะไม่ชอบใจกับคำพูดของทามะมูชิ แต่ไม่พูดอะไรกลับไป

 

ยังไงซะ เพราะทั้งหมดทามะมูชิพึ่งพาได้ อย่างไรก็ตาม เธอพูดว่าเธอทำชุดต่อสู้เพื่อตัวเธอเอง แต่มันมีขข้อเสียอย่างที่ทามะมูชิพูด มันไม่มีเหตุผลที่จะใส่มัน เธอเลยเก็บมันไว้ในโกดัง

 

ทำไมเธอไม่สังเกตก่อนที่เธอจะสร้างมัน?

 

มันยากที่จะตัดสินว่าเธอฉลาดหรือโง่

 

「แม้อย่างนั้น แค่จำไว้」

 

พูดอย่างนั้น ทามะมูชิจับคอเสื้อของชุดต่อสู้ที่เธอใส่ และดึงคอด้วยกำลัง ผลของมัน ผ้ารัดรูปสีดำยืดออก

 

「เพื่อทำให้มันทนเท่าที่จะเป็นไปได้ ผ้าไม่มีกระดุมหรือซิบ นั่นหมายถึงเธอต้องยืดส่วนคอเพื่อถอดมันออก」

 

โอ้ เข้าใจแล้ว ความทนทานเพิ่มขึ้นโดยการกำจัดข้อต่อและช่องว่างในผ้า?

 

ทรงมันที่ปรกติมันใส่ไม่ได้ แต่มันเป็นเป็นได้เพราะความยืดหยุ่นที่สูง

 

「เมื่อเธออยากจะฉี่นิดหน่อย เธอต้องถอดมันออก ระวังอย่าให้ถูกศัตรูโจมตีระหว่างที่ฉี่ล่ะ」

 

ทามะมูชิที่พูดด้วยสีหน้าที่จริงจังทำให้ทุกคนที่ได้ยินรู้สึกไม่ดี

 

ยังไงซะ มันเป็นเครื่องเตือนใจแน่นอน แต่เพราะทั้งหมด ทามะมูชินั้นโง่

 

ไม่ว่าอย่างไร――

 

「แล้วชั้นล่ะ? เธอจะไม่บอกให้ชั้นใส่อย่างเดียวกัน ใช่มั้ย?」

 

ชุดต่อสู้ที่มีกระโปรงกับชุดรัดรูบ ถ้าผู้ชายใส่มัน มันน่าเกลียด

 

นั่นทำไม เมื่อพูดถึงความรู้สึก มันอาจจะสร้างความเสียหายให้ศัตรู

 

「อย่ากังวล ชั้นทำให้ซูซูฮาระตั้งแต่เริ่ม」

 

ทามะมูชิยิ้มหลังจากพูดอย่างนั้น

 

「ชั้นมีเวลาที่ลำบากที่จะทำมันเพราะมันไม่ได้ถูกนำมาใช้ใหม่ แต่ชั้นจะมีปัญหาถ้านายตาย มีเสื้อเชิ้ต แจ็คเก็ต กางเกง ถุงมือ และรองเท้าบูท ชั้นแค่ทำให้นาย ไม่ใช่ว่ามันเท่เหรอ」

 

ทามะมูชินำแจ็คเก็ตสีดำออกมาจากกล่อง ที่วางไว้ที่เท้าเธอและพูดอย่างภาคภูมิใจ

 

「โอ้」

 

มันไม่ใช่ผ้ารัดรูป แต่เป็นแจ็คเก็ตสีดำที่ทำจากหนัง เท่อย่างแน่นอน

 

「และ ดูนี่!」

 

ทามะมูชิส่งเสียงของเธอ พลิกแจ็คเก็ตและแสดงข้างหลังให้ดู

 

เครื่องหมายไยแมงมุมเขียนอยู่ข้างหลัง มันเหมือนกันกับชุดต่อสู้อื่น แต่สิ่งที่เขียนอยู่บนไยแมงมุมเป็นตั๊กแตนตำข้าวไม่ใช่แมงมุม

 

「แมลงนักล่าที่แข็งแกร่งที่สุด มันเป็นตราที่ถูกถือโดยผู้ใหญ่แมลงที่เป็นอัจฉริยะ」

 

นานะฟูชิตอบสนองกับคำพูดของทามะมูชิ

 

「มาสเตอร์ก็ทำอะไรเท่ๆด้วย」

 

นานะฟูชิพึมพำอย่างมีความสุข

 

「แน่นอนว่าคล้ายกัน ซูซูฮาระ-ซามะและมากิริ-ซามะ」

 

นานะฟูชิมองผมและพึมพำ แต่รอยยิ้มของเธอดูเศร้า

 

มากิริ ผู้ใช้แมลงที่สร้างนานะฟูชิ?

 

「ชั้นอยากจะขอนายด้วย ซูซูฮาระ-ซามะ ได้โปรดถือตรานี้ไว้ที่หลังของนาย ได้โปรดมอบความรู้สึกให้ความรู้สึกขอฃมากิริ-ซามะที่ไม่เป็นความจริง…」

 

ด้วยนั่นพูด นานะฟูชิคำนับลึกๆ

 

ไม่ใช่มันแค่ตราเหรอ?

 

ยังไงซะ ผมอาจจะตายก่อน

 

「ซู-ซูซูฮาระ…」

 

ทามะมูชิที่หัวเราะอย่างภาคภูมิใจ พึมพำอย่างกังวลและมองผม

 

「โมตะ-คุง?」

 

ไม่ใช่แค่ทามะมูชิ แต่ยูกะที่ยืนต่อจากเธอพูดอย่างกังวล

 

「มาสเตอร์?」

 

「ซูซูฮาระ-ซามะ?」

 

ริกกะและแม้แต่คาซะฮานะมองผมและพูดอย่างกังวล

 

อะไร? เกิดอะไรขึ้น? ผมดูแปลกเหรอ?

 

「นายร้องไห้…?」

 

ผมตกใจเมื่อทามะมูชิพึมพำ ดังนั้นผมเช็ดตาด้วยมือขวาของผม

 

ผมร้องไห้เหรอ? ผมเนี่ยนะ? ทำไม?

 

「ยังไงซะ ถ้าซูซูฮาระร้องไห้ พูดจากใจ ชั้นตกใจ」

 

ทามะมูชิตะลึง ยูกะ ริกกะ และคาซะฮานะก็ตกใจ

 

ไม่มีทางที่ผมจะร้องไห้ ทุกคนดูเหมือนจะตกใจ แต่ผมก็ตกใจ

 

「ฝุ่นเข้าตาเหรอ?」

 

ผมหัวเราะกับทามะมูชิที่ถามผม

 

「ไม่ ชั้นร้องไห้ปรกติ บางทีเพราะชั้นประทับใจที่พวกเธอทำเต็มที่」

 

ผมตอบคำถามของทามะมูชิอย่างเชื่อฟัง

 

อย่างไรก็ไม่รู้ ผมไม่อยากโกหก ไม่ ผมมั่นใจว่าผมไม่ได้ประทับใจจนร้องไห้ ดังนั้นผมสงสัยว่ามันจบที่การเป็นคำโกหกมั้ย

 

「อะไร? ล้อเราเล่นเหรอ? ยังไงซะ ชั้นกลัวเมื่อนายร้องไห้」

 

ทามะมูชิมองผมด้วยตาของเธอ

 

มันดูเหมือนว่าเธอคิดว่านั่นเป็นการประชดประชัน ที่ผมประทับใจกับพวกเธอ

 

「อ-อะไร? อย่าทำให้ชั้นตกใจสิ โมตะ-คุง」

 

ยูกะได้ยินคำพูดของทามะมูชิ ส่งเสียงของเธอดั่งเธอโล่งใจ และเธอตีไหล่ผม

 

บางทีริกกะและคาซะฮานะก็โล่งใจด้วย ยิ้มอย่างมีความสุข

 

นานะฟูชิก็ยิ้มด้วย แต่รอยยิ้มของเธอดูเศร้า และมารินะมองไปทางอื่น

 

「นั่นคือทั้งหมดเกี่ยวกับชุด และต่อไปคืออาวุธ เฮ้ สาวน้อย ชั้นจะให้อาวุธกับเธอ ขอบคุณชั้นทีหลัง」

 

ทามะมูชิที่พูดกับริกกะจากข้างบนน โยนมีดใหญ่ไปให้ริกกะ จากนั้น เธอจับด้ามจับของมีด และจ้องทามะมูชิ

 

「มีดถูกทำมาจากด้วงที่มีเปลือกแข็ง มันดีเพราะมันแข็งแรง แต่มันหนักมากเกินไป น้ำหนักประมาณ 60 กิโลกรัม」

 

ผมตกใจที่ได้ยินว่า 60 กิโลกรัม

 

ทามะมูชิที่โยนมันเบาๆ และริกกะที่รับมันเบาๆ ผมเลยไม่คิดว่ามันหนัก

 

「ปรกติแล้วมันจะหนักเกินไป แต่เธอควบคุมมันได้อย่างอิสระ ยิ่งมันหนักเท่าไหร่ มันยิ่งทรงพลัง มันเป็นอาวุธที่สมบูรณ์แบบสำหรับเธอ ที่ไม่มีทางเลือกนอกจากฟันตรงๆ」

 

「มันเป็นอาวุธที่เหมาะกับชั้น แต่คำพูดของเธอทำให้ชั้นอารมณ์เสีย」

 

ริกกะเหวี่ยงมีดใหญ่ไปรอบๆระหว่างที่อารมณ์เสียโดยคำพูดของทามะมูชิ

 

เธอเคลื่อนไหวมันดั่งมันเป็นกิ่งไม้ เธอไม่คิดว่ามันหนัก 60 กิโลกรัม

 

สำหรับเธอ มันเป็นมีดที่หนักและแข็ง แต่มันดูเหมือนขวานใหญ่มากกว่ามีด

 

มันเป็นอาวุธที่ยอดเยี่ยมแน่นอน เพราเธอเก่งกับการก้าวหน้าเป็นเส้นตรงและใช้กำลังของเธอเพื่อโจมตี

 

「ข-ขออภัย…อาวุธนั่นสำหรับชั้นด้วยสิ」

 

ระหว่างที่มองริกกะ คาซะฮานะลดหูและหางสัตว์จากนั้นกระซิบหาทามะมูชิ

 

ริกกะได้อาวุธที่เหมาะกับเธอ แม้ว่ามีความต่างในความสามารถการได้เห็นสิ่งนั้นทำให้เธอตกอยู่ในความกังวลและใจร้อน

 

「โอ้ ไม่ใช่ว่ามันคือพี่สาวเหรอ? อย่ากังวล ชั้นได้เตรียมอาวุธสำหรับเธอ แม้ว่ามันไม่ได้ถูกสร้างโดยชั้น」

 

ด้วยนั่นที่พูด ทามะมูชิเดินไปที่โกดัง และกลับมากับบางอย่างที่ดูเหมือนกล่องไม้

 

「นี่เป็นมรดกที่ส่งต่อกันในครอบครัวของชั้นมาหลายรุ่น เมื่อชั้นถูกเตะออกจากบ้าน ชั้นนำมันมาด้วยความรีบ」

 

ทามะมูชิที่พูดอย่างมาโซคิสม์ วางกล่องไม้ลงบนพื้น และเปิดฝากล่องไม้

 

「อะไร!?」

 

มันเป็นนานะฟูชิที่ส่งเสียงของเธอ ตาของเธอเปิดกว้างเหมือนเธอตกใจ

 

ข้างในกล่องไม้เป็นมีดสองเล่ม ทุกอย่างจากด้ามจับสู่ใบมีดสีขาวหิมะ

 

「ทำมันมาสเตอร์มี “มัน”? หรือเธอรู้มั้ยว่า “มัน” คืออะไร?!」

 

「เธอพูดอะไรน่ะ? มันเป็นมรดก」

 

「มันไม่สำคัญว่ามันเป็นมรดกมั้ย! ที่ชั้นพูดคือเธอรู้มั้ยว่ามันมีค่าและอันตรายมากแค่ไหน?!」

 

นานะฟูชิยืนขึ้นในท่าทางที่ข่มขู่ และทามะมูชิเอียงหัวของเธอด้วยรอยยิ้ม

 

「ชั้นได้ยินว่ามันเป็นมีดที่น้ำหนักเบา ทน คมอย่างมหาศาล มันเป็นของหายากที่เรียกว่ามีดสีขาว」

 

「มันหายาก!? เธอโง่รึเปล่า?!」

 

「อะไรกัน!? ทำไมเธอเรียกมาสเตอร์เธอว่าโง่ล่ะ!」

 

「เธอโง่เพราะเธอโง่จริงๆ! มันเป็นของหายาก! มันเป็นสิ่งล้ำค่ามากๆในโลกนี้ และมันเหมือนกันกับอาวุธมีชีวิตของเรา!」

 

ทามะมูชิ ที่ถูกเรียกว่าโง่ โกรธ แต่นานะฟูชิที่เห่าเธอก็โกรธด้วย

 

นานะฟูชิดูเหมือนจะรู้ว่ามีดนี้คืออะไร เธอพูดว่ามันเป็นอาวุธมีชีวิตเหมือนเธอเอง แต่นั่นหมายถึง――

 

「มันถูกสร้างโดยมากิริ?」

 

「นั่นใช่แล้ว! ซูซูฮาระ-ซามะ! มันต่างจากมาสเตอร์ที่โง่ของชั้น!」

 

「อะไร! ทำไมชั้นเป็นอีโง่? หือห์ มีดนี้เก่ามาก และไม่ได้ถูกบอกเป็นพิเศษ ดังนั้นมันธรรมชาติที่ชั้นจะไม่รู้มัน!」

 

นานะฟูชิเห็นด้วยกับคำพูดของผม และทามะมูชิได้เปลี่ยนเป็นสีแดง เพราะนานะฟูชิพูดว่ามาสเตอร์ของเธอโง่

 

「ได้โปรดอธิบายมัน」

 

「โอเค ชั้นจะอธิบายมัน ทิ้งอีโง่นั่นไว้」

 

「อย่ามาเรียกชั้นโง่อีกนะ」

 

เมินทามะมูชิที่โกรธและเสียงดัง นานะฟูชิยองลงและหยิบมีดสองเล่มจากกล่องไม้

 

「ชื่อของมีดนี้คือคาเซะมาโมรุ* มันเป็นอาวุธมีชีวิตที่สร้างก่อนที่เราเกิด ดังนั้นถ้าให้พูด มันเป็นพี่สาวของชั้น」

«TLN: คาเซะมาโมรุ -> เกราะลม»

 

นานะฟูชิที่พูดอย่างลำลึกความหลัง จับด้ามจับของมีดในสองมือ

 

「มีแค่มากิริ-ซามะที่รู้ว่าจะสร้างมันยังไง และมีแค่ชั้นที่รู้ว่าแมลงที่ถูกสร้างเป็นอาวุธนี้มีชีวิต และวิธีใช้มัน」

 

ด้วยนั่นที่พูด นานะฟูชิเหวี่ยงมือขวาของเธอ ผลของมัน มีดฟันลม

 

「แม่ว่าจะใช้มันอย่างนี้ มันเป็นดาบที่มีความคมสูง คาเซะมาโมรุยังหลับอยู่ ชั้นจำเป็นต้องใช้รหัสใช้งานเพื่อปลุกมัน อย่างไรก็ตาม มันจะไม่มีมีผลถ้าแค่รหัสเดียว และมันจะอันตรายมากถ้ามันตื่นขึ้น ถ้ามันตื่นขึ้นอย่างง่ายๆ คนรอบข้างจะเสียชีวิตไป」

 

นานะฟูชิ ที่พูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง เดินห่างไปจากเรา

 

「เมื่อคาเซะมาโมรุถูกใช้งาน ความแข็งและความคมเพิ่มขึ้นอย่างน่าทึ่ง ไม่ใช่เพียงแค่นั้น มันอ่านเจตนาของมาสเตอร์หรือคนใช้และเพิ่มความเร็วขึ้น มันอันตรายเพราะความเร็วสูงมาก」

 

มันเป็นมีดที่อ่านความต้องการของผู้ใช้แล้วเร่งความเร็วเหรอ?

 

ถ้ามันอ่านใจของผู้ใช้ มันไม่ได้ดูเหมือนจะอันตราย

 

แต่นานะฟูชิพูดว่ามันอันตราย ยังไงซะ มันยังเป็นอะไรที่ค่อนข้างอันตราย

 

「ซูซูฮาระ-ซามะ มารินะ-จัง ยูกะ-จังควรจะถอยหลังไปมากที่เสีดเท่าที่ทำได้」

 

ตามคำพูดของทามะมูชิ ผมถอยหลังไปจนชิดกำแพงกับยูกะ

 

มารินะที่ไกลจากผม ก็ถอยมาด้วย แต่ผมตกใจ

 

ผมคิดว่าเธอจะถอยไปไกลจากผม แต่เธอยืนอยู่ข้างผมและกอดผม

 

เธอไม่มองผมเหมือนเดิม แต่เธอยังกอดผมถึงจุดที่ว่าแขนของเธอเกี่ยวกับผม

 

「มาสเตอร์ ริกกะ-จัง และคาซะฮานะ-จัง ควรจะยืนอยู่ข้างหน้าของซูซูฮาระ-ซามะ และตั้งท่าป้องกันด้วยกำลังทั้งหมด ชั้นจะพยายามควบคุมมันมากเท่าที่ทำได้ แต่มันอาจจะเป็นไปไม่ได้」

 

นานะฟูชิ พูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง เธอน่าจะคิดว่านี่ไม่ใช่เรื่องเล็ก สามคนทำสีหน้าเข้มและยืนหน้าเราและตั้งท่าป้องกัน

 

「งั้น เอาล่ะนะ」

 

ด้วยรอยยิ้ม นานะฟูชินั่งลงและไขว้มีดที่เธอมีในสองมือ

 

「คาเซะมาโมรุ เริ่มเต้น」

 

นานะฟูชิพึมพำเงียบๆ จากนั้น ผมของเธอสะบัดเบาๆ

 

นี่เป็นห้องใต้ดิน ไม่มีลม อย่างไรก็ตาม มันดูเหมือนลมอ่อนๆพัดอยู่รอบๆนานะฟูชิ

 

ผมไม่รู้ว่าผม “เห็น” มันได้มั้ย แต่เมื่อผมพยายามจะใช้ความสามารถเพื่อตรวจดู ผมโดนบีบมือ

 

มารินะที่มองไปทางอื่น บีบมือของเธอ

 

――ได้โปรด อย่าใช้ความสามารถมากเท่าที่จะเป็นไปได้

 

ผมไม่ได้ยินเสียง แต่มันดูเหมือนเธอพูดอย่างนั้นทางจิต

 

เข้าใจแล้ว ผมจะไม่ใช่มัน “มากเท่าที่เป็นไปได้”

 

「คาเซะมาโมรุ ตื่นจากการหลับไหล ปัญหาเริ่มจากตอนนี้ ถ้าชั้นตัดสินใจพลาดแม้แต่นิดเดียว วิ่งหนีทันที มาสเตอร์ ริกกะ-จัง คาซะฮานะ-จัง ได้โปรดยืดตัวและปกป้องซูซูฮาระ-ซามะ」

 

นานะฟูชิพึมพำโดยไม่ขยับ หน้าม้าของนานะฟูชิสะบัดเบาๆ ฝุ่นเริ่มลอยรอบๆนานะฟูชิ

 

มันดูเหมือนลมอ่อนๆ พัดต่อไป

 

นานะฟูชิที่หรี่ตาของเธอ ขยับมือขวาของเธอ

 

ทันใดนั้น มือขวาของเธอหายไป และเสียงแคร๊กถูกได้ยิน จากนั้น――

 

「คุ-」

 

นานะฟูชิกัดฟันเธอเบาๆ และหน้าบิดเบี้ยว

 

มันเป็นแค่ช่วยพริบตามือขวาของเธออยู่ใกล้กับมือซ้ายของเธอ

 

มันงอเมินทิศทางของกระดูกและข้อต่ออย่างสมบูรณ์ และมือซ้ายของเธอไปจากข้างหลัง พูดอีกอย่างคือ มือขวาของนานะฟูชิหัก

 

「มันเป็นไปไม่ได้ที่จะรับมือมันแม้ว่าที่บ้าน」

 

นานะฟูชิพูดออกมาและหันมาทางนี้

 

ไม่ผมควรพูดว่าท่อนบนของเธอหันหลังมาอย่างบังคับ

 

ไม่ใช่ว่าแรงส่งจากมือขวาที่อ้อมไปข้างหลังหายไปเหรอ?

 

「ชิ」

 

นานะฟูชิใส่ความพยายามลงไปที่ท่อนล่างของเธอ มือซ้ายของเธอหายไป และเสียงแคร๊กถูกได้ยิน

 

เสียงทือๆถูกได้ยิน และจากนั้นมือซ้ายของเธอยืดไปหาเพดาน

 

ระยะของมือซ้ายของเธอแปลก มันยาวแปลกๆ ข้อต่อทั้งหมดของเธอหลุดเหรอ?

 

ผมถูกขับด้วยความอยากใช้ความสามารถเพื่อยืนยัน แต่มารินะจับมือผมแน่น

 

「น-นี่มันเป็นไปไม่ได้! คาเซะ ―― อุว้าาาาา」

 

นานะฟูชิขึ้นเสียงของเธอเหมือนกับจะใจร้อน แต่ด้วยเสียงกรีดร้อง เสียงน่ารักเหมือนนกตัวเล็กๆร้องได้ดังก้องอย่างต่อเนื่อง

 

ตัวของนานะฟูชิลอยขึ้น

 

รอยฟันปรากฏขึ้นบนเพดานและพื้น พร้อมกับเสียงนกตัวเล็กๆ

 

มันโดนฟัน? อย่างไรก็ตาม มันเป็นไปไม่ได้ที่จะฟันเพดานและพื้นในเวลาเดียวกัน ระยะของแขนของนานะฟูชิมันจะยาวไม่พอ

 

พูดอีกอย่าง มือของนานะฟูชิยืดไปพอที่จะทำให้มันเป็นไปได้

 

「นั่นอะไร…」

 

มันเป็นริกกะที่พึมพำ

 

เธอเหงื่อออกที่แก้ม มองดูนานะฟูชิด้วยตาที่สั่น

 

「มันเหมือนทอร์นาโดเล็กๆเลย」

 

ผมตอบริกกะที่พึมพำ

 

เสียงของนกเล็กๆร้อง อาจจะเกิดจากการเหวี่ยงของนานะฟูชิ และเพดานและพื้นถูกฟันพร้อมกัน

 

ผมไม่เห็นมันเพราะมันเร็วเกินไป

 

「คะ-คาเซะมาโมรุ! จบการเต้น!!」

 

ใยเวลาเดียวกันที่ทามะมูชิร้อง ผมได้ยินเสียงแปลกๆเหมือนบางอย่างฉีกขาด

 

「เอ๋?」

 

ริกกะขึ้นเสียงที่โง่เขลา

 

เสียงนั้นก้องอยู่ข้างหลังผม

 

เมื่อผมเห็นมัน มีดที่ถูกเหวี่ยงสองเล่มกับแขนได้ติดกับกำแพง

 

และคาซะฮานะยองลงตรงหน้าริกกะ

 

「พ-พี่สาวของชั้น…เปลี่ยนทิศทางของมีดเหรอ?」

 

ริกกะพึมพำด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจ

 

คาซะฮานะเปลี่ยนทิศทางของดาบที่บินมาทางนี้เหรอ? ผมไม่เห็นมันเลยซักนิด

 

เมื่อผมมองไปที่ตรงกลางห้อง นานะฟูชิที่แขนหลุด หายใจไม่ทัน

 

「มันอาจจะไม่โดนซูซูฮาระกับคนอื่นโดยไม่เปลี่ยนทิศทาง แต่เผื่อไว้」

 

คาซะฮานะยืนขึ้นและตอบริกกะด้วยรอยยิ้ม

 

「เห็นมันเหรอ? มันเป็นยังไง?」

 

「หืมม? ไม่ ชั้นมี “ตาที่แย่กว่า” ริกกะ ดังนั้น ชั้นไม่เห็นมัน」

 

「เอ๋? ล-แล้วยังไง?」

 

「ยังไง…หืมม?」

 

คาซะฮานะที่เอียงกับคำถามของริกกะ ดูเหมือนจะกังวลอย่างจริงจัง

 

เธอไม่สั่งเกตมันเหรอคาซะฮานะ? ยังไงซะ เธอไม่สังเกตมันแต่เธอทำเพราะมันเป็นสัญชาติญาน

 

คาซะฮานะนั้นไม่รู้ ว่าที่เธอทำนั้นยิ่งใหญ่แค่ไหน

 

「ยังไงซะ พวกเธอทั้งหมดปลอดภัยมั้ย?」

 

นานะฟูชิที่หายใจไม่ทัน เรียกออกมาระหว่างที่หันมาข้างๆ

 

「โอ้ ชั้นปลอดภัย」

 

เมือผมตอบนานะฟูชิ เธอโล่งใจและถอนหายใจ เธอเดินเข้ามาและเข้าหาที่นี่

 

「นี่เป็นความสามารถของคาเซะมาโมรุ มันเริ่มด้วย เริ่มเต้น และปิดด้วย จบการเต้น เมื่อมันเริ่ม มันเร่งความเร็วโดยการอ่านเจตนาของมาสเตอร์ แต่การเร่งความเร็วมันเร็วมาก ดังนั้นเมื่อมันเร่งความเร็ว ชั้นตามไม่ทั้น และมันกลายเป็นแบบนี้」

 

ขณะที่นานะฟูชิพูดระหว่างที่เดิน เธอเรียกทามะมูชิ และเธอขอให้นำแขนเธอที่ติดกับกำแพงกลับมา

 

「นี่เป็นบ้านของเรา ปรกติแล้ว ชั้นจะเปิดใช้งานคาเซะมาโมรุและขยับแขนชั้นนิดหน่อย เพื่อที่ชั้นจะไม่ตาย」

 

นานะฟูชิพูดระหว่างที่ให้ทามะมูชิติดแขนของเธอ

 

「คนที่ควบคุมคาเซะมาโมรุได้อย่างสมบูรณ์แบบเรียกว่า “ผู้ใช้ลม” มันดูเหมือนคนที่ควบคุมลม」

 

ควบคุมลม? นานะฟูชิได้เหวี่ยงไปรอบๆอย่างสมบูรณ์ แต่ถ้าควบคุมมันได้อย่างสมบูรณ์แบบ มันจะทำเหมือนการควบคุมลม

 

「เท่าที่ชั้นรู้ คนที่ควบคุมคาเซะมาโมรุได้สมบูรณ์แบบ ชื่อก็คือ ชิรายูกิ มันมาจากกึ่งสัตว์ในตำนาน คาซะฮานะ-จัง ริกกะ-จัง ไม่รู้จักชื่อนั้นเหรอ」

 

ทันทีนั้น แขนได้ติดกัน และระหว่างที่ขยับทั้งสองแขนของเธอเพื่อตรวจการเคลื่อนไหว นานะฟูชิดูคาซะฮานะและริกกะและถามคำถามพวกเธอ

 

ริกกะเอียงหัวของเธอ แต่คาซะฮานะตอบสนอง บางทีเป็นเพราะเธอคิดมันออก

 

「ชั้นรู้จักชิรายูกินั้น คือคนและของตระกูลที่เราภาคภูมิใจ ชั้นได้ถูกบอกโดยแม่ของชั้นหลายครั้ง」

 

「น-นั่นใช่แล้ว โอ้ พูดถึงแล้ว ชิรายูกิ-จังมีผมสีเทาและตาสีแดง กับหูและหางสัตว์ มันเป็นเวลานานมาแล้ว แต่ถ้าเธอถาม เธอไม่เหมือนคาซะฮานะ-จังหรือริกกะ-จัง」

 

นานะฟูชิฟังคำตอบของคาซะฮานะเหมือนจะจำอดีตได้

 

「มันลำลึกความหลัง อย่างที่ชื่อบ่งบอก ชิรายูกิ-จังนั้นละเอีดอ่อนเหมือนหิมะ และขี้แงและขี้ขลาด ทั้งตระกูลของเธอถูกฆ่า มีแค่เธอที่มีชีวิตรอด และเธอร้องไห้」

 

「อะไร!? ขี้แงและขี้ขลาด!? อย่ามาดูถูกรุ่นที่หนึ่งนะ! รุ่นที่หนึ่งเป็นความภาคภูมิใจของตระกูลของเราและเป็นกึ่งสัตว์ที่แข็งแกร่งที่สุด ที่ได้เป็นตำนาน」

 

「แม้ว่าเธอจะพูดอย่างนั้น มันคือความจริง」

 

คาซะฮานะไม่เห็นด้วย เพราะรุ่นที่หนึ่งถูกบอกว่าอ่อนแอ แต่ นานะฟูชิตอบด้วยรอยยิ้ม เมื่อเธอเห็นคาซะฮานะแบบนั้น

 

คาซะฮานะที่โกรธกว่าเดิม ทำให้หูสัตว์และหางสัตว์ของเธอชี้ขึ้น แต่ไม่พูดอะไร

 

ยังไงซะ นานะฟูชิดูเหมือนจะเจอคนคนนั้นเป็นๆ

 

「มากิริ-ซามะเสียใจ เพราะตระกูลเธอถูกฆ่า และพยายามจะให้เธอแก้แค้น และมอบคาเซะมาโมรุให้ชิรายูกิ-จัง ที่ขี้แง มันไม่ใช่บางอย่างที่เธอจะรับมือได้」

 

มากกว่านั้น นานะฟูชิดูเหมือนจะล้อรุ่นที่หนึ่งเล่น เมื่อคาซะฮานะได้ยินคำพูดนั้น เธอจ้องนานะฟูชิด้วยตาที่แดงก่ำ และกัดฟัน

 

「มากิริ-ซามะแค่มอบคาเซะมาโมรุให้เธอและจากมาทันที แม้ว่าเธอจะทิ้งชิรายูกิ ชั้นคิดว่ามันเศร้าที่จะให้อาวุธทำลายตัวเองกับเธอ แต่มากิริ-ซามะพูดสิ่งนี้กับชั้น」

 

นานะฟูชิยิ้มระหว่างที่รับการจ้องจากคาซะฮานะ

 

「กึ่งสัตว์ขี้ขลาดแต่กล้าหาญ สมาชิกตระกูลทั้งหมดถูกฆ่าแต่เธอไม่อยู่ในความสิ้นหัวง เธอไม่ยอมแพ้ สาวน้อยคนนั้น ในท้ายที่สุดจะแข็งแกร่ง」

 

คาซะฮานะเปิดตาของเธอกับนานะฟูชิที่ยิ้ม

 

ขี้ขลาดและกล้าหาญ เหมือนบางคนเลย

 

นานะฟูชิสังเกตเบื้องหลังของคาซะฮานะ นั่นทำไมเธอใส่ไฟ

 

「มันเหมือนคำทำนายเลย ชั้นไม่ได้เจอชิรายูกิ-จัง แต่ชั้นได้ยินข่าวลือว่า “ชิรายูกิ ผู้ใช้ลม” จากตำนาน ชิรายูกิ-จังน่าทึ่งไปเลย ไม่ใช่เหรอ?」

 

นานะฟูชิยักไหล่ พูดอย่างนั้น และชำเลืองมองทามะมูชิ

 

「แต่ทำไมคาเซะมาโมรุตกอยู่ในมือของบรรพบุรุษของมาสเตอร์ละ มันจะเน่า มันเหมือนไก่ได้พลอย ลิงได้แก้ว ผีเสื้อหางแฉกยูลิสซิสสำหรับหนอนปลอก」

 

ได้ยินคำพูดประชดประชันของนานะฟูชิ ทามะมูชิหัวเราะและเกาหัวของเธอดั่งเธออาย

 

「เพราะหนอนปลอกเท่และน่ารัก ชั้นเลยอาย」

 

เห็นว่า เธอดีใจเพราะมันเหมือนหนอนปลอก

 

เนน่~ นานะฟูชิ มันดูเหมือนคำเปรียบเทียบมันไม่ได้ผลกับทามะมูชิ เธอต้องทำให้เข้าใจง่ายขึ้น

 

「คาจิ ยาฮันยะ*」

 

«TLN: คาซะฮานะ»

 

ทันใดนั้นเสียงที่แปลกดังก้อง

 

มันเป็นเสียงทางจมูก มันฮิซูกิเหรอ

 

ผมหันตาไปที่ทางเข้าของห้องใต้ดิน และทันใดนั้น ผมเห็นอีโง่

 

มันเป็นอาซาฮินะที่ยืนอยู่ที่ทางเข้า

 

อาซาฮินะที่วางมือไว้บนเอว มองผมจากข้างบน หัวเราะเหมือนไม่มีใครเอาชนะได้ข้อเท้าของคนถูกจับโดยมือขวาของอาซาฮินะ

 

เมื่อผมมองดู มันเป็นฮิซูกิที่ม้วนอยู่ที่พื้น

 

เธอจับฮิซูกิที่ข้อเท้าและลากเธอมาเหรอ? พื้นเรียบมันโอเค แต่เธอลากลงบันไดมาด้วยเหรอ? ผมสงสัยว่าฮิซูกิยังมีชีวิตรอดอยู่มั้ย

 

ยังไงซะ ผมได้คิดเสียงเมื่อกี้นี้ดังนั้นมันดูเหมือนเธอยังมีชีวิตรอดอยู่

 

「คาจิ ยาฮันยะ」

 

ชั้นพาสาวคนนี้มาเพราะเธอพูดว่าเธอยืนและเดินคนเดียวไม่ได้!

 

「คาจิยะ――」

 

「ชั้นสงสัยว่าเธอตกใจโดยความเมตตาของชั้นมั้ย!? โดยเฉพาะซูซูฮาระ-คุง! ชั้นไม่อยากให้นายตกหลุมรักกับความเมตตาของชั้น!」

 

「คาจิ――」

 

「ชั้นเห็นหัวใจในตาของซูซูฮาระ-คุง! อา ชั้นมีปัญหาแล้ว! ชั้นมีปัญหา! ชั้นไม่มีซูซูฮาระ-คุงอยู่ในสายตาชั้น!」

 

หุบปาก เธอหนวกหูว่ะ ตาใครมีหัวใจกันวะ

 

ผมหมายถึงอาซาฮินะพยายามจะพูดบางอย่างเธอเธอกันเสียงของเธอและพูดคนเดียว

 

ให้ฮิซูกิพูด

 

「โลลิที่คอสเพลย์เป็นสัตว์นั่น! ฮิซูกิมีบางอย่างที่จะพูดกันเธอ! รับมัน!」

 

ด้วยนั้นที่พูด อาซาฮินะโบกมือขวาของเธอ

 

「กย้าาาาาาาาาาาาาาา!」

 

ฮิซูกิถูกโยนเบาๆ กรีดร้องระหว่างที่หมุนกลางอากาศ

 

มันต้องเจ็บแน่ ผมไม่เก่งกับฮิซูกิ แต่ผมเห็นอกเห็นใจเธอ

 

「ฮิซูกิ!」

 

คาซะฮานะกระโดดขึ้น จากนั้น ระหว่างที่ร้อง เธอจับฮิซูกิที่หมุนด้วยความเร็วสูงอย่างอ่อนโยน และลงพื้น

 

「อ-อาซาฮินะ-ซาะม! ไม่ว่าจะขนาดไหน――」

 

「ยังไงซะ คาจาฮันยะ! ชั้นไม่สนเกี่ยวกับเรื่องนั้น!」

 

คาซะฮานะที่มีหูสัตว์ห้อยลง แต่หางของเธอชี้และเธอจ้องอาซาฮินะ แต่ฮิซูกิขึ้นเสียงของเธอ

 

「โอ้! ทิชชูอยู่ในจมูกชั้น และชั้นพูดได้ไม่ดี!」

 

ฮิซูกิที่ส่งเสียงของเธออีกครั้ง เปลี่ยนเป็นสีแดงสดและก้าวเท้า

 

ฮิซูกิเครียดจนเส้นเลือดในหัวเธอปูด และ――

 

ทิชชู่ที่อยู่ในจมูกเธอพุ่งออกมาด้วย

 

「วะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!」

 

ผมไม่มีเวลาจะนึกอะไรออกและหัวเราะ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่หัวเราะ

 

「นุฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ทิชชู่เด้งออกมาจากจมูกเธออ่ะ! ตลกมาก!」

 

ทามะมูชิหัวเราะตามผม

 

ยูกะและริกกะหันไปทางอื่นแล้วไหล่สั่น

 

ผมไม่คิดว่าพวกเธอไม่อยากหัวเราะ เพราะมันดูเหมือนพยายามจะทนมันอย่างสิ้นหวัง

 

「คาซะฮานะ! หยิบมีดนั่น!」

 

「ต-แต่…」

 

ขณะที่ทิชชูเด้งออกมาจากจมูกเธอ ฮิซูกิในที่สุดก็พูดดีๆได้ คาซะฮานะ ที่ได้ยินฮิซูกิร้องตาสั่นและหางตก

 

คาเซะมาโมรุเป็นบางอย่างที่แม้แต่นานะฟูชิก็รับมือไม่ได้ซักนิด เธอน่าจะคิดว่าเธอรับมือมันไม่ได้

 

แต่ฮิซูกิ เวลาดี แม้ว่ามันครึ่งเดียว มันยังเป็นตาแห่งสวรรค์

 

「ช-ชั้นเป็นชิรายูกิไม่ได้…」

 

「หือห์!? ทำไมเธอต้องเป็นชิรายูกิล่ะ!」

 

「เอ๋?」

 

「ใครบอกให้เธอเป็นชิรายูกิล่ะ! ชั้นแค่บอกเธอให้หยิบมีดนั่น!」

 

「แต่…」

 

「เธอเป็นคาซะฮานะ! คาซะฮานะของชั้น! เธอเป็นดอกหิมะที่บินรอบชั้นบนลม!」

 

「ฮิ-ฮิซูกิ แต่ชั้นไม่มีพรสวรรค์เหมือนริกกะ…」

 

「คาซะฮานะ! เธอพูดอะไร!? ก่อนหน้านี้ เธอพูดว่า “ชั้นได้ยินเสียงของลม”!」

 

คาซะฮานะ ที่เสียความมั่นใจของเธอ โดนคำพูดของฮิซูกิ จากนั้นเปิดตาของเธอกว้าง

 

「วันนี้ลมอ่อน วันนี้ลมดูเศร้า วันนี้ลมดูสนุก เธอบอกชั้นเกี่ยวกับลมอย่างนั้น! คาซะฮานะ! เธอพูด “เสียงของลมชั้นได้ยินพวกคุณ”! เธอมีหูสัตว์ที่ได้ยินเสียงของลม! นั่นทำไมเธอรับมือมีดนั้นได้!」

 

แสงอ่อนๆฉายอยู่บนตาของคาซะฮานะเมื่อเธอได้ยินฮิซูกิพูด

 

ใช่ คาซะฮานะมีหูสัตว์ที่ริกกะไม่มี

 

แม้ว่าการมองของเธอเทียบกับริกกะไม่ได้ คาซาฮานะมีการได้ยินเหนือกว่าริกกะ คาซาฮานะต้องพึ่งการได้ยิน แม้ว่าจะไม่รู้ตัว

 

“เห็น” หมายถึงได้ยิน” แบบนั้น คาซะฮานะ “ได้ยินเสียงของลม”

 

「ชั้นไม่ได้บอกเธอให้เป็นชิรายูกิ! เพราะเธอเป็นคาซะฮานะของชั้น! มาสิ คาซะฮานะ! รับดาบนั้น! และขึ้นมาแข็งแกร่งที่สุด เป็น “ผู้ใช้ลม” ของเธอเอง! และกลายเป็นตำนานใหม่! “คาซะฮานะผู้ใช้ลม”!」

 

คาซะฮานะที่ได้ยินคำนั้น ลดฮิซูกิลงที่พื้นอย่างช้าๆ จากนั้นมองมีดสองเล่มที่ฝังอยู่ที่กำแพง

 

มีแสงในตาของคาซะฮานะ

 

「ชั้นจะปกป้องฮิซูกิ…」

 

คาซะฮานะที่พึมพำ มีแสงที่ทรงพลังอยู่ในตาของเธอ และก้าวออกไป

 

「นา-นานะฟูชิ」

 

「หืม?」

 

「เธอดูดาบนั่นและดูคาซะฮานะสิ? เธอดูและรู้สึกเหมือน “กึ่งสัตว์ในตำนาน”」

 

เมื่อผมถามนานะฟูชิ ที่เอียงหัวของเธอ นานะฟูชิหัวเราะ

 

「ไม่ใช่ว่าซูซูฮาระ-ซามะสังเกตตั้งแต่ก่อนหน้าแล้วเหรอ? ไม่ใช่ว่าตาของซูซูฮาระ-ซามะเมื่อมองคาซะฮานะ-จัง เหมือนกับ มากิริ-ซามะเลย?」

 

นานะฟูชิยิ้มและมองขึ้นมาหาผมหลังจากที่พูดอย่างนั้น

 

คาซะฮานะเดินไปที่มีดที่ปักอยู่ที่กำแพงอย่างช้าๆ

 

พูดถึงแล้ว มันเป็นตาผมจากที่นี่?

 

มารินะที่จับมือผม มองผมด้วยความรีบ

 

ตาของเธอสว่างและเธอหน้าซีด

 

ผมจะขอมารินะ นี่เป็น “หน้าที่ของผม”

 

มารินะที่มีตาในน้ำตา หันไปทางอื่นและเธอกัดฟัน และบีบมือผมแน่น

 

ผมขอโทษและขอบคุณที่ยกโทษให้ผม

 

ด้วยตาผมปิด ผมโฟกัสสมาธิและเปิดตาอย่างช้าๆ

 

ความสามารถผมถูกใช้งาน ความสามารถเอ็กซ์เรย์ที่เห็นผ่านทุกอย่าง

 

ผมคิดว่าเอ็กซ์เรย์ใช้งานต่อไปแม้ว่าความสามารถเอ็กซ์เรย์ไม่ถูกใช้

 

แต่ผมคิดว่ามันมีประสิทธิภาพมากกว่า

 

คาซะฮานะยื่นมือออกไปที่มีดที่ปักอยู่ที่กำแพงอย่างอ่อนโยน

 

ได้โปรดให้ผมยืมพลัง คาซะฮานะ

 

 

 

เวอร์ชั่นไม่เซ็นเซอร์อ่านได้ที่ tunwalai หรือ readAwrite

หยุดเพิ่ม 2 วันนะครับ ขอโทษจริงๆครับ

ขอบคุณสำหรับเงิน 100 บาท

เป้าหมายเดือน 4/66

ค่าเน็ต 200/200

กาแฟ 280/300

ค่าไฟ 20/1000

สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่

067-3-63958-5

กสิกรไทย

 

แปลโดย: wayuwayu

ติดตามได้ที่ดิสคอทส่งข้อความมาขอได้ที่ facebook: “wayuwayu แปล”

pdfไว้อ่านตอนกลางคืน  สปอนเซอร์ตอน จองตอน ซื้อตอน หารได้ ได้ทั้ง facebook และ discord

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+