เอ็กซ์เรย์เป็นมากกว่าที่ฉันคิด – X-ray Is More Than I Thought 140

Now you are reading เอ็กซ์เรย์เป็นมากกว่าที่ฉันคิด – X-ray Is More Than I Thought Chapter 140 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 140

 

หลังจากที่มองลงไปหาชายที่ตาย ผมชำเลืองมองนานะฟูชิ

 

แม้ว่าเธอโกรธชายคนนั้นมาก นานะฟูชิ ที่ยืนอยู่ข้างทามะมูชิ ไม่ได้ดูเหมือนจะพูดอะไรกับทามะมูชิ

 

นิสัยของเธอต่างจากริกกะ แต่เธอมีนิสัยซึนเดเระเหมือนกัน

 

พูดถึงแล้ว นานะฟูชิก็ใจดีมากๆด้วย ไม่ใช่หรือ? เธอไม่ทำให้ชายทรมาน เธอทำให้เค้าตายด้วยการโจมตีทีเดียว

 

「ยังไงซะ…」

 

เมื่อผมพูดอย่างนั้น ผมมองดูอลิสที่นั่งอยู่บนพื้น

 

ผมและตาสีครามที่ดูเหมือนก้นทะเลสาบ

 

มันดูเหมือนเธอมีความสามารถที่จะควบคุมน้ำ และมันแน่นอนว่ามีบางอย่างเหมือนน้ำไหลเวียนอยู่ในตัวเธอ

 

มันอัตรายที่จะเข้าใกล้เธอ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะควบคุมน้ำห่างจากตัว เพราะบาเรีย แต่ถ้าผม “จับ” เธอ เธอใช้ความสามารถได้ เหมือนที่ทามะมูชิใช้แมลงได้

 

การที่เห็น เธอแก่กว่าริกกะมากนิดหน่อย และเด็กกว่าผม แต่ผมไม่ตัดสินเธอจากภาพที่เห็น

 

แล้วก็ ผมคิดว่ามันเรียกว่าคลีเลียหรืออะไรแบบนั้นมั้ย?

 

เธอได้อุ้มหัวหน้าของเธอ ที่ตอนนี้เป็นหัวศพ กับหน้าอกเธอ จ้องไปในความว่างเปล่าด้วยตาที่เสียแสงไป

 

สำหรับอลิส สถานการณ์นั้นย่ำแย่

 

ริกกะและทามะมูชิ ฆ่ากึ่งสัตว์ที่อลิสกำจัดไม่ได้ด้วยตัวเองทันที และคนต่อไป นานะฟูชิก็เป็นสัตว์ประหลาดที่เกินฝันที่ร้ายกาจของเธอ และเพราะบาเรีย ไม่มีทางหนี

 

「เธอชื่ออลิส」

 

ผมเรียกเธอโดยไม่ขยับจากที่

 

มันไม่อันตรายเพราะผมมีริกกะอยู่ข้างผม แต่ผมอ่อนแอ มันดีกว่าที่จะสร้างระยะออกมา

 

「เธอพยายามจะฆ่า “เพื่อน” ชั้นเพื่อทำภารกิจของเธอ ปรกติแล้ว ชั้นจะฆ่าเธอเดี๋ยวนี้เลย แต่ชั้นจะไม่ทำ เพราะเธอมีค่า」

 

ผมถามอลิสและชำเลืองมองทามะมูชิ

 

เธอพยักหน้าตอบสายตาของผม และยืดโซ่นับไม่ถ้วนออกไปสามชิ้น ที่ลอยอยู่ในอากาศเพื่อจับอลิส

 

โซ่รัดรอบคอและมือของอลิส

 

「เราควรทำอะไรดี ซูซูฮาระ? ถ้าเป็นไปได้ มันจะดีกว่าที่จะพาเธอกลับไป แต่อลิสเป็นผู้ถือความสามารถหมวดหมู่ ดี มันจะอันตรายที่จะให้เธอออกจากบาเรีย」

 

ทามะมูชิที่จับอลิสด้วยโซ่ ถามคำถามผม

 

ถ้าผมใช้มนต์ของยูกะ ไม่ว่าอลิสจะต่อต้านแค่ไหน ผมจะสามารถรีดข้อมูลที่เธอมีได้ อย่างไรก็ตาม ถาอลิสออกจากบาเรีย ความสามารถของเธอจะฟื้นคืนมา

 

แม้ว่าความสามารถของอลิสจะกลับมา ผมมีริกกะ ทามะมูชิ และนานะฟูชิ มันไม่เหมือนว่าพวกเธอจะแพ้ แต่ถ้าเธอหนี เราจะมีปัญหา

 

ถ้าเป็นอย่างนั้น ยังมีตัวเลือกที่จะนำยูกะเข้ามาในบาเรีย และสอบสวนเธอที่นี่ แต่ความสามารถของยูกะ ใช้เสียงเป็นสื่อกลาง ดังนั้นมีความเป็นไปได้สูง ว่าเธอจะใช้มันในบาเรียนี้ไม่ได้ และ “เด็นชิน” ของมารินะได้พิสูจน์สิ่งนี้

 

ทางเดียวที่เหลือคือใช้พลังของผมเพื่อรีดข้อมูล ผม “เห็น” ในใจได้นะ รู้มั้ย

 

อย่างไรก็ตาม ความสามารถที่จะ “เห็น” ในใจเหมือนโบนัส ผมเห็นได้แค่พื้นผิวของใจ แค่นั้น ว่าเธอคิดอะไรอยู่ตอนนี้ ดังนั้น เพื่อที่จะได้ข้อมูลออกมาจากเธอ ผมต้องถามคำถาม และ “ดู” คำตอบของคำถามนั้นๆ

 

อลิสเป็นสายลับ ดังนั้นเธอน่าจะถูกฝึกมาในท้ายที่สุด

 

ยกตัวอย่างเช่น การฝึกสอบสวน

 

สำหรับตัวอย่างเฉพาะที่มากกว่านั้นนิดหน่อย เมื่อนานะฟูชิมีทางที่จะจัดการกับความสามารถผม ที่เห็นในใจเธอ

 

ผมมั่นใจว่านานะฟูชิพิเศษ แต่ถ้าผมถามคำถามเธอ และเธอคิดอะไรที่ไม่เกี่ยวข้องเลย ความสามารถของผมจะเทียบกับเธอไม่ได้

 

พูดเรื่องนั้นแล้ว มันจะอันตรายที่จะให้เธอออกไปจากบาเรีย

 

ถ้างั้น ผมต้องสอบสวนเธอที่นี่

 

「ถ้านายอยากจะทรมานเธอ ชั้นจะจัดการกับมัน」

 

ดั่งรู้สึกถึงความคิดผม นานะฟูชิพูดขึ้นมา

 

「มาสเตอร์ของชั้นใจอ่อนเกินไป เมื่อมันเป็นเรื่องทรมานคน ริกกะจะฆ่าเธอทันที แต่ชั้นทรมานเธอได้อย่างทั่วถึงโดยไม่ให้เธอตาย」

 

「อืม」

 

มันเหมือนที่นานะฟูชิพูด

 

ในฐานะอาวุธชีวภาพ นานะฟูชิจะทรมานเธอต่อไป ไม่ว่าวิธีไหนที่คู่ต่อสู้จะใช้ต้าน

 

「ชั้นขอโทษ ชั้นควรจะเป็นคนที่ทำมือสกปรก แต่ชั้นอ่อนแอเกินไปที่จะเสี่ยงเข้าใกล้อลิส」

 

「นายไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับชั้น ‘อาวุธ’」

 

นานะฟูชิตอบด้วยการหัวเราคิกคักกับคำพูดของผม

 

「ชั้นยอมแพ้ ชั้นจะไม่ต่อต้านใดๆ」

 

ขณะที่ผมกำลังจะเริ่มทรมานเธอ อลิส ที่เงียบจนถึงตอนนี้ พูดขึ้นมา

 

「ชั้นขอโทษ แต่ชั้นไม่เชื่อใจเธอ เธอพยายามจะทำภารกิจ โดยเหยียบหัวของหัวหน้าที่เคารพ ในแง่นั้น ชั้นยอมรับความภักดีและพลังใจของเธอ นั่นทำไม ชั้นเชื่ออะไรก็ตามที่เธอพูดไม่ได้」

 

ขณะที่ผมตอบอริส ที่หมุนหัวไปรอบๆเมื่อมองดูผม ตาที่ไร้แสงของเธอจ้องเข้าไปในความว่างเปล่า

 

「แม้ว่าจะไม่มีบาเรีย ชั้นไม่เทียบกับนาย ระดับของคความแข็งแกร่งต่างกัน ตราบใดที่นายควบคุมทีมของนาย ไม่มีโอกาส ชั้นมากกว่าจะรูว่านายน่ากลัวแค่ไหน」

 

「เราเอาชนะเธอได้แม้ว่าไม่มีบาเรีย ชั้นเข้าใจความความแข็งแกร่งเราระดับต่างกัน แต่ถ้าเธอพยายามจะหนี มีโอกาสเล็กๆ ที่บางอย่างจะเกิดขึ้น ชั้นจะไม่ยอมรับการยอมแพ้ของเธอ ชั้นจะไม่บกป้องเธอเลยซักนิด ชั้นจะทรมานเธอ สอบสวน และในท้ายที่สุด ฆ่าเธอ เพราะเธอพยายามฆ่าทามะมูชิ แม้ว่านั่นจะเป็นภารกิจ ตอนนี้เธอหันมาต่อต่านเรา ชั้นจะไม่มีวันยกโทษให้เธอ ยอมแพ้เถอะ」

 

「ชั้นยอมแพ้ ชั้นไม่อยากรอดชีวิต ชั้นไม่สนใจถ้านายฆ่าชั้น แต่ก่อนนายจะทำ ได้โปรดฟังชั้น」

 

「ใด้ ชั้นไม่ถือที่จะได้ฟังเธอ เพราะชั้นจะทรมานเธอต้องแต่ทีแรกเพื่อจะฟังว่าเธอจะพูดอะไร ดังนั้น มาฟังมันเธอ อย่างไรก็ตาม ถ้าชั้นมีความสงสัยแม้แต่น้อยในเรื่องที่เธอเล่า ชั้นจะเริ่มทรมานเธอทันที」

 

「ขอบคุณ ถ้านายอยากจะทรมานชั้น ชั้นยินดีที่นายจะทำอย่างนั้น」

 

「มันไม่ใช่ว่าชั้นมีความสุขกับการทรมานคน มันเป็นเรื่องของความจำเป็น」

 

กับคำพูดของผม อลิสที่จ้องผมด้วยตาท่เสียงแสงไป ยิ้มเล็กน้อย

 

「องค์กรปกป้องจบไปแล้ว ไม่มีการพูดเกินจริงที่จะพูดว่าองค์กรตอนนี้อยู่ใต้ร่มขององค์กรที่ถูกนำโดยฟีนเนสและคุดัน คนเดียวที่ต่อต้านคือนายพลที่มีคนที่มีพรสวรรค์ทำงานขึ้นตรงกับเค้า」

 

「เธอหมายถึงองค์กรเสื่อมถอยจากข้างในเหรอ?」

 

「ใช่」

 

「นายพลคนนี้มีคำทำงานให้เค้ากี่คน?」

 

「สิบห้า รวมถึงคลีเดีย」

 

「มีคนใช้พลังจิตกี่คนในทั้งองค์กร?」

 

「รวมถึงคนเหล่านั้นที่ไม่มีความสามารถ มีประมาณล้านคนทั่วโลกที่ขึ้นตรงกับองค์กรปกป้อง ในนั้น ประมาณ 10,000 ที่มพรสวรร์ จำนวนของหมวด ดี หรือสูงกว่านั้นประมาณสามร้อย」

 

「ถ้าเป็นอย่างนั้น มันไร้สาระ องค์กรที่มีหมื่นคน บนฝั่งนายพลที่แค่สิบห้าเหรอ? ความจริงที่ว่ากำลังของนายพล ยังอยู่ในสภาพแบบนั้นมันผิดธรรมชาติ」

 

「มันมีประมาณยี่สิบเปอร์เซ็นต์ของเราที่ไม่เลือกฝ่าย และมันไม่ง่ายที่จะเอานายพลออกจากตำแหน่ง ไม่ ชั้นจะพูดว่ามันเป็นไปไม่ได้ เหตุผลที่เค้าเป็นนายพลเพราะสายเลือดของเค้า」

 

「สายเลือด? เหมือนตระกูลราชวงศ์หรือราชวงศ์น่ะเหรอ?」

 

「ใช่ นั่นทำไมเลือดของนายพลจำเป็นที่จะรักษาองค์กรปกป้อง แม้ว่าถ้ามันรวมภายใต้ร่มของฟีนเนส ถ้าไม่มีเลือดของนายพล องค์กรจะล่มสลาย」

 

สายเลือด แม้ว่ามันจะเน่า ไม่เพราะมันเน่าเขาเลยต้องการลูกน้องเพื่อถือมัน แต่นายพลดื้อเกี่ยวกับมัน

 

แล้วก็ ผมได้ยินมาว่าคลีเลียเป็นมือขวาของนายพล แต่ผมเห็นได้ว่าแม้แต่มือขวาของนายพล ก็ถูกบังคับให้เข้าสนามรบ เนื่องจากขาดกำลังคน

 

「สิบห้าคนบนฝั่งของนายพล โอ้ใช้ คลีเลียตายแล้ว ดังนั้นมีสิบสี่ มีคนใช้พลังจิตระดับสูงมั้ย?」

 

「การ์ด ชายที่นายฆ่าคือหนึ่งในสิบห้าคน ดังนั้นตอนนี้มีสิบสาม ถ้าพวกเค้าทั้งหมดยังมีชีวิตรอดนะ และทั้งหมดสิบสามคนไม่ใช่คนใช้พลังจิตระดับสูง มีคนที่ใช้ความสามารถสื่อเหมือนชั้นและการ์ด」

 

「งั้นก็มีคนแข็งแกร่งอยู่ในนั้น?」

 

「ใช่ มีหมวด บี สามคน และหมวด เอ หนึ่งคน สี่คนนี้เป็นกุญแจ」

 

สาบบี และหนึ่ง เอ?

 

ผมไม่ตกใจที่ได้ยินว่ามี บี และ เอ เพราะทีมเราเต็มไปด้วยสัตว์ประหลายหลายๆอย่าง แต่พวกเขาต้องมีพลังที่มหาศาลในองค์กรแน่

 

โดยเฉพาะ มันดูเหมือน เอ นั้นจะพิเศษ

 

มันต้องขอบคุณคนชั้นสูงเหล่านี้ นายพลถึงรอดมาได้หรือ?

 

「มันปลอดภัยที่จะพูดว่าโลกตอนนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของฟีนนีส ส่วนที่แย่ที่สุดคือคุดัน ที่อยู่บนสุด ไม่มีความสนใจในองค์กร แต่ผู้บริหารที่มีพลังในองค์ก็ พวกเค้าเป็นหมาจิ้งจอกที่มีอำนาจของเสือ พวกเค้าใช้ชื่อที่เหมือนฟ้าร้องของคุดันเพื่อทำอะไรตามใจ」

 

「น-นั่นฟังดูมีเหตุผล คุดันไม่ได้ดูเหมือนจะสนใจในองค์กร」

 

「น-นายได้เจอ……คุดัน ใช่มั้ย?」

 

「ใช่ เห็นว่าเธอรักชั้น」

 

「อะไร?」

 

ตาของอลิสมีไฟขณะที่ผมตอบด้วยรอยยิ้ม

 

คุดัน เธอไม่สนใจบัลลังก์ เธอแค่อยากจะเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุด และถ้าเธอสู้ต่อไป เธอจะไม่มีใครเหลือ

 

มดที่มาหาคุดันเริ่มที่จะสร้างรังของตัวเอง ผมเดาว่ามันเป็นอย่างนั้น

 

「งั้น มีจุดหมายอะไร?」

 

「อะไร?」

 

「อะไร เธอแค่อยากจะบ่นเหรอ?」

 

「โอ้ ไม่」

 

อลิสส่งเสียงอย่างใจร้อนกับคำถามของผม

 

เธอต้องสับสนเมื่อเธอรู้ว่าผมได้เจอคุดันแล้ว

 

ถ้าคุณเจอกับคุดัน มันน่าจะผิดธรรมชาติที่คุณยังมีชีวิต

 

「นายเป็นกำลังที่สามที่ปรากฏมากระทันหัน มากกว่านั้น แต่ละคนของนายมีพลังที่ไม่ธรรมดา และไม่เป็นมิตรกับฟีนนิส ถ้าเป็นอย่างนั้น ชั้นรักที่จะสนับสนุนนาย」

 

จับหัวของหัวหน้าของเธอ ที่เป็นหัวดิบ ไว้กับอกของเธอ อลิสมองดูผมและพูด

 

ตาของเธอยังไม่มีชีวิต

 

อลิสต้องมีแผนที่จะตายที่นี่ แต่ก่อนหน้านั้น เธอจะบังคับเราเข้าไปในปัญหา

 

สนับสนุน

 

มันไม่ใช่สิ่งที่แย่ที่จะมีการสนับสนุนนิดหน่อย และผมอยากจะจะไปเจอความสามารถหมวด เอ เป็นพิเศษ

 

นอกจากนี้ แม้ว่าพลังของนายพลเกือบจะถูกทำลายหมดแล้ว เขาเป็นหัวในองค์กรใหญ่ ผมมั่นใจว่าอย่างน้อยเขามีคอนเนคชั่นกับพวกนั้นที่ยังมีชีวิตอยู่

 

แต่นั่นแค่สิ่งที่อลิสพูดนั้นเป็นความจริง

 

มาลองมันเถอะ

 

「มีอะไรอย่างอื่นที่เธออยากบอกชั้นมั้ย?」

 

「มีข้อมูลมากมาย แต่นั่นคือทั้งหมดที่ชั้นอยากพูดที่เหลือคือนายทำตามสบายเลย」

 

「งั้นมาเริ่มการทรมาน อย่างที่ชั้นบอกก่อนหน้า ชั้นไม่เชื่อใจเธอ」

 

「ข-ขอบคุณที่ฟังชั้น」

 

ตอบอย่างเงียบๆ อลิสปิดตาของเธออย่างช้าๆ และกอดศพหัวหน้าอย่างแน่น

 

ผมไปที่นั่นแล้วตอนนี้ เธอพูดกับหัวในใจของเธอ

 

มันเป็นเรื่องราวที่ทำใหผมร้องไห้

 

ผมขอโทษ แต่ผมจะไม่ให้เธอตายง่ายๆ

 

「นานะฟูชิ ส่งมือมา」

 

「ค่ะ ท่าน」

 

「ชั้นอยากจะทำลายหัวที่อลิสถือ หรือชั้นควรจะพูดว่ากระทืบมัน?」

 

「ค่ะ ท่าน ชั้นเข้าใจ」

 

นานะฟูชิตอบคำพูดของผม อลิสที่ฟังการสนทนาอยู่ เปิดตาของเธอและมองดูผม

 

「เดี๋ยว เดี๋ยว เดี๋ยว ได้โปรดยกโทษให้ชั้น ชั้นไม่สนใจว่าการทรมานแบบไหนที่นายจะทำกับชั้น ดังนั้น ได้โปรดอย่าทำให้คลีเลียอับอายไปมากกว่านี้ สำหรับที่เหลือของชีวิตของเธอ ได้โปรด ได้โปรด ไดโปรด ยกโทษให้ชั้น…….」

 

หน้าของอลิสซีด ตาสั่น ร้องขออย่างสิ้นหวังระหว่างที่กอดหัวศพของเธออย่างแน่น

 

「เธอโง่นะ การทรมานคือการลงโทษจุดที่อ่อนแอที่สุด เมื่อคนอย่างเธอตั้งใจ มันไม่มีเหตุผลมากที่จะทำตัวเธอ นั่นทำไมชั้นต้องทรมานใจเธอ โดยใช้ศพที่เธอถือด้วยความรัก โอ้ เธอยังไม่ต้องพูดอะไร ชั้นจะถามคำคามเธอเมื่อเธอพังอย่างดีแล้ว」

 

เมื่อผมบอกสิ่งนั้นกับอลิส น้ำตาเอ่อขึ้นมาในตาที่ซีดของเธอ

 

โอ้ มันได้ผล มันได้ผล

 

「ชั้นมั่นใจว่ามันมากไป!」

 

เสียงดังก้อง

 

มันเป็นทามะมูชิที่ส่งเสียงของเธอ

 

「อลิสพูดว่าเธอจะโดนทรมาน! เธอเตรียมที่จะตายแล้ว! ในการตอบแทน เธอหวังว่าจิตวิญญานของคลีเลียจะไม่แปดเปื้อน! ที่เป็นความปรารถนาสุดท้ายของนักรบที่ภาคภูมิใจ! ได้โปรดฟังเธอ!」

 

การตะโกนของทามะมูชิหมดไปและยืนอยู่ตรงหน้าของอลิส

 

「เวร เธอมันโง่มาก…….」

 

ตาของนานะฟูชิกว้างขึ้น และเธอถอนหายใจออกมา

 

「คำสั่งของมาสเตอร์ของชั้นแน่นอนที่สุด ออกไปไกล ถ้าเธอไม่ทำ ชั้นจะฆ่าเธอ」

 

ริกกะส่งเสียงของเธอขณะที่เธอจ้องทามะมูชิ และเธอถือมีดใหญ่

 

「ชั้นจะไม่ขยับ! ชั้นไม่แม้แต่จะต่อต้าน! ถ้าเธออยากจะฟันชั้น ฟันชั้น! คนนี้ อลิส แข็งแกร่งกว่าชั้น! ไม่เหมือนชั้น ที่ตกไปในความชั่วร้าย อลิสกำลังจะตายในฐานะนักรบที่น่านับถือ! ระหว่างที่ปกป้องจิตวิญญานของคนที่เธอติดค้าง! ชั้นไม่อยากจะที่ทำความรู้สึกของอลิสเปื้อน!」

 

ทามะมูชิระเบิดน้ำตาออกมา และร้องไห้อย่างสิ้นหวัง ได้ยินคำพูดของเธอ เส้นเลือดปูดออกมาจากขมับริกกะ

 

มันเป็นแสงสว่างพริบตาของสายฟ้า

 

จากนั้น น้ำตาอาบแก้มของอลิส ขณะที่เธอมองขึ้นไปหาทามะมูชิที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ พยายามจะปกป้องเธออย่างสิ้นหวัง

 

คุคุคุ เหมือนบทเลย พวกเธอเยี่ยมที่สุด

 

「ริกกะ นานะฟูชิ ฆ่าคนทรยศ」

 

ผมยิ้มและบอกพวกเธอ

 

สองคนเตะพื้นและพุ่งไปเพื่อซัดทามะมูชิ

 

ทามะมูชิกางแขน ปิดตา และกัดฟัน

 

และจากนั้น…

 

「ขอบคุณ…….」

 

ผมได้ยินเสียงเบาๆ ในเวลาเดียวกัน อลิสจับทามะมูชิที่ไหล่ ดันเธอออกไป และกระโดดมาตรงหน้าเธอ ด้วยหัวศพยังอยู่ในแขนของเธอ

 

อลิสปิดตาของเธอ กอดหัวศพอย่างนั่น และรอความตายที่จะมาถึงในไม่ช้า แต่ทั้งริกกะและนานะฟูชิยืนที่นั่นด้วยตาที่หวาน

 

「นี่มันโอเค ไม่ใช่เหรอ ซูซูฮาระ-ซามะ?」

 

นานะฟูชิหัวเราะคิกคักขณะที่เธอพูดอย่างนี้

 

「ชั้นอยากจะฟันทามะมูชิที่ปฏิเสธเจตนาของมาสเตอร์ แต่ถ้าอย่างนั้นชั้นจะปฏิเสธเจตนาของมาสเตอร์」

 

ริกกะที่พูดต่อจากนานะฟูชิเป็นคนที่สอง วางมือขวาไว้ข้างหลังเธอ และเก็บมีดพร้อมการถอนหายใจ

 

ตาของอลิสมองไปมา ระหว่างไหล่ของทามะมูชิ และหัวศพในแขนของเธอ

 

หลังจากได้ยินคำพูดที่โหดร้ายของผม และรู้ความรู้สึกของทามะมูชิ อลิสพยายามจะปกป้องทามะมูชิในช่วงเวลาสุดท้าย

 

ยังไงซะ โอเค

 

「ชั้นจะพูดซ้ำ ชั้นยังไม่เชื่อใจองค์กรที่เธอเป็นส่วนหนึ่ง แต่ชั้นจะเชื่อใจเธอ」

 

ผมพูดเรื่องนี้กับอลิส แต่เธอสับสน เธอไม่ได้ดูเหมือนจะเข้าใจสถานการณ์

 

เมือพูดนั่นแล้ว…

 

「พวกเธอสังเกตเจตนาของชั้นได้ไง?」

 

ผมบอกพวกเธอทั้งสองคน

 

ทามะมูชิยิ้ม และริกกะขมวดคิ้ว แก้มของเธอแดง

 

「ซูซูฮาระ-ซามะบอกเราให้ฆ่าคนทรยศ มาสเตอร์ของชั้นโง่ แต่เธอแค่อยากจะเคารพเจตนาของอลิส ไม่ใช่ทรยศนาย ตั้งแต่ทีแรก อลิสไม่ใช่หนึ่งในพวกเรา ดังนั้นไม่มีความจำเป็นที่เธอจะทรยศนาย พูดอีกอย่าง ไม่มีคนทรยศ และไม่มีความจำเป็นต้องฆ่าเธอ นายหมายความว่าอย่างนั้น ใช่มั้ย?」

 

「ถูกต้อง นั่น 100 แต้ม」

 

เมื่่อผมตอบคำพูดของนานะฟูชิ ริกกะ ที่ฟังการสนทนาอยู่ เปลี่ยนเป็นแดงและยิ้ม

 

นานะฟูชิดีใจที่ได้ยินว่าเธอได้ร้อยแต้ม

 

「ชั้นจะพาอลิสกลับไปที่บ้านทามะมูชิ ชั้นจะถามเธอเกี่ยวกับรายละเอียดที่บ้าน」

 

「สำหรับเรื่องนั้น เราทำลายบาเรียไม่ได้ด้วย รู้มั้ย ชั้นมั่นใจว่ามาสเตอร์ทำลายมันได้ แต่มันจะใช้เวลานาน」

 

「โอ้ นั่นไม่ใช่ปัญหา」

 

ผมตอบคำถามของนานะฟูชิด้วยรอยยิ้ม

 

ทำลายบาเรียดูเหมือนจะเป็นงานยาก แต่ไม่จำเป็นต้องทำลายมัน

 

「มีรูในบาเรียนี้」

 

จากทั้นผมชี้ไปที่พื้น

 

มันดูเหมือนรูธรรมดาที่พื้น แต่จริงๆแล้วมันซ่อนทางออก

 

มันเป็นที่ที่ชายที่นานะฟูชิฆ่า พยายามจะหนี

 

มันถูกซ่อนอย่างชาญฉลาด ที่ผมจะไม่สังเกตมันปรกติ แต่ตาของผมเห็นใต้ดินได้

 

「มันทำให้มั่นใจที่นายเป็น “เพื่อน” แต่ถ้านายเป็นศัตรู ตาทิพย์ของนายเป็นปัญหาจริงๆ ไม่ใช่เหรอ?」

 

นานะฟูชิ ที่จ้องอย่างว่างเปล่าใส่ผม ขณะที่เธอพูด หัวเราะคิกคัก

 

ดังนั้น ผมตัดสินใจที่จะทิ้งศพที่กระจายกันอยู่ไว้ข้างหลัง และนำอลิสกลับไปบ้านของทามะมูชิ

 

เหตุผลที่ทำไมผมปล่อยศพไว้ข้างหลัง เพราะแม้ว่าผมซ่อนพวกเขา พวกเขาจะถูกค้นพบไม่ว่ายังไง

 

นอกจากนี้ ถ้าจะมีใครสงสัยเมื่อชายและกึ่งสัตว์ตาย จะเป็นอลิสและทามะมูชิ

 

เพราะทามะมูชิดูเหมือนจะถูกประเมินต่ำโดยองค์กร ความสงสัยจะตกไปอยู่ที่อลิส

 

สายลับสมควรจะถูกกำจัด แต่เธอพลิกกระดานใส่พวกเขาและหนีไป พวกเขาจะคิดว่าอลิสได้ควบคุมทามะมูชิหรือจับเธอ และองค์กรของคุดันไม่รู้ว่าเราอยู่ที่นี่ จากนั้น พวกเขาจะคิดว่าอลิสกลับไปที่องค์กรปกป้อง

 

ผมไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนที่พวกเขาต้องรอก่อนที่จะรู้ว่าเราอยู่ที่นี่ แต่ผมคิดว่าเราจะมีเวลาอย่างน้อยให้เคลื่อนฐานและเอาตัวเราเข้าไปสู่ตำแหน่ง

 

พูดจากใจ ผมดีใจที่ได้กลับบ้านของทามะมูชิแต่ในเวลานี้ ผมไม่คิดว่าจะสามารถกลับไปได้

 

ด้วยความคิดนั่นอยู่ในใจ เราออกจากโกดังโดยมีอลิสตามมา

 

 

 

เป้าหมายเดือน 6/66

ค่าเน็ต 200/200

ค่าห้องโรงพยาบาลยาย 0/2000

สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่

067-3-63958-5

วายุ แซ่จิว

กสิกรไทย

 

แปลโดย: wayuwayu

ติดตามได้ที่ดิสคอทส่งข้อความมาขอได้ที่ Facebook: “wayuwayu แปล” Line: @326jilhj

โดเนทแล้วอยากให้เรื่องขึ้นหรือสะสมเงินเพิ่มตอน แจ้งได้ที่ Facebook และ Line

pdfไว้อ่านตอนกลางคืน  สปอนเซอร์ตอน จองตอน ซื้อตอน หารได้ ได้ทั้ง facebook,Line และ Discord

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เอ็กซ์เรย์เป็นมากกว่าที่ฉันคิด – X-ray Is More Than I Thought 140

Now you are reading เอ็กซ์เรย์เป็นมากกว่าที่ฉันคิด – X-ray Is More Than I Thought Chapter 140 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 140

 

หลังจากที่มองลงไปหาชายที่ตาย ผมชำเลืองมองนานะฟูชิ

 

แม้ว่าเธอโกรธชายคนนั้นมาก นานะฟูชิ ที่ยืนอยู่ข้างทามะมูชิ ไม่ได้ดูเหมือนจะพูดอะไรกับทามะมูชิ

 

นิสัยของเธอต่างจากริกกะ แต่เธอมีนิสัยซึนเดเระเหมือนกัน

 

พูดถึงแล้ว นานะฟูชิก็ใจดีมากๆด้วย ไม่ใช่หรือ? เธอไม่ทำให้ชายทรมาน เธอทำให้เค้าตายด้วยการโจมตีทีเดียว

 

「ยังไงซะ…」

 

เมื่อผมพูดอย่างนั้น ผมมองดูอลิสที่นั่งอยู่บนพื้น

 

ผมและตาสีครามที่ดูเหมือนก้นทะเลสาบ

 

มันดูเหมือนเธอมีความสามารถที่จะควบคุมน้ำ และมันแน่นอนว่ามีบางอย่างเหมือนน้ำไหลเวียนอยู่ในตัวเธอ

 

มันอัตรายที่จะเข้าใกล้เธอ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะควบคุมน้ำห่างจากตัว เพราะบาเรีย แต่ถ้าผม “จับ” เธอ เธอใช้ความสามารถได้ เหมือนที่ทามะมูชิใช้แมลงได้

 

การที่เห็น เธอแก่กว่าริกกะมากนิดหน่อย และเด็กกว่าผม แต่ผมไม่ตัดสินเธอจากภาพที่เห็น

 

แล้วก็ ผมคิดว่ามันเรียกว่าคลีเลียหรืออะไรแบบนั้นมั้ย?

 

เธอได้อุ้มหัวหน้าของเธอ ที่ตอนนี้เป็นหัวศพ กับหน้าอกเธอ จ้องไปในความว่างเปล่าด้วยตาที่เสียแสงไป

 

สำหรับอลิส สถานการณ์นั้นย่ำแย่

 

ริกกะและทามะมูชิ ฆ่ากึ่งสัตว์ที่อลิสกำจัดไม่ได้ด้วยตัวเองทันที และคนต่อไป นานะฟูชิก็เป็นสัตว์ประหลาดที่เกินฝันที่ร้ายกาจของเธอ และเพราะบาเรีย ไม่มีทางหนี

 

「เธอชื่ออลิส」

 

ผมเรียกเธอโดยไม่ขยับจากที่

 

มันไม่อันตรายเพราะผมมีริกกะอยู่ข้างผม แต่ผมอ่อนแอ มันดีกว่าที่จะสร้างระยะออกมา

 

「เธอพยายามจะฆ่า “เพื่อน” ชั้นเพื่อทำภารกิจของเธอ ปรกติแล้ว ชั้นจะฆ่าเธอเดี๋ยวนี้เลย แต่ชั้นจะไม่ทำ เพราะเธอมีค่า」

 

ผมถามอลิสและชำเลืองมองทามะมูชิ

 

เธอพยักหน้าตอบสายตาของผม และยืดโซ่นับไม่ถ้วนออกไปสามชิ้น ที่ลอยอยู่ในอากาศเพื่อจับอลิส

 

โซ่รัดรอบคอและมือของอลิส

 

「เราควรทำอะไรดี ซูซูฮาระ? ถ้าเป็นไปได้ มันจะดีกว่าที่จะพาเธอกลับไป แต่อลิสเป็นผู้ถือความสามารถหมวดหมู่ ดี มันจะอันตรายที่จะให้เธอออกจากบาเรีย」

 

ทามะมูชิที่จับอลิสด้วยโซ่ ถามคำถามผม

 

ถ้าผมใช้มนต์ของยูกะ ไม่ว่าอลิสจะต่อต้านแค่ไหน ผมจะสามารถรีดข้อมูลที่เธอมีได้ อย่างไรก็ตาม ถาอลิสออกจากบาเรีย ความสามารถของเธอจะฟื้นคืนมา

 

แม้ว่าความสามารถของอลิสจะกลับมา ผมมีริกกะ ทามะมูชิ และนานะฟูชิ มันไม่เหมือนว่าพวกเธอจะแพ้ แต่ถ้าเธอหนี เราจะมีปัญหา

 

ถ้าเป็นอย่างนั้น ยังมีตัวเลือกที่จะนำยูกะเข้ามาในบาเรีย และสอบสวนเธอที่นี่ แต่ความสามารถของยูกะ ใช้เสียงเป็นสื่อกลาง ดังนั้นมีความเป็นไปได้สูง ว่าเธอจะใช้มันในบาเรียนี้ไม่ได้ และ “เด็นชิน” ของมารินะได้พิสูจน์สิ่งนี้

 

ทางเดียวที่เหลือคือใช้พลังของผมเพื่อรีดข้อมูล ผม “เห็น” ในใจได้นะ รู้มั้ย

 

อย่างไรก็ตาม ความสามารถที่จะ “เห็น” ในใจเหมือนโบนัส ผมเห็นได้แค่พื้นผิวของใจ แค่นั้น ว่าเธอคิดอะไรอยู่ตอนนี้ ดังนั้น เพื่อที่จะได้ข้อมูลออกมาจากเธอ ผมต้องถามคำถาม และ “ดู” คำตอบของคำถามนั้นๆ

 

อลิสเป็นสายลับ ดังนั้นเธอน่าจะถูกฝึกมาในท้ายที่สุด

 

ยกตัวอย่างเช่น การฝึกสอบสวน

 

สำหรับตัวอย่างเฉพาะที่มากกว่านั้นนิดหน่อย เมื่อนานะฟูชิมีทางที่จะจัดการกับความสามารถผม ที่เห็นในใจเธอ

 

ผมมั่นใจว่านานะฟูชิพิเศษ แต่ถ้าผมถามคำถามเธอ และเธอคิดอะไรที่ไม่เกี่ยวข้องเลย ความสามารถของผมจะเทียบกับเธอไม่ได้

 

พูดเรื่องนั้นแล้ว มันจะอันตรายที่จะให้เธอออกไปจากบาเรีย

 

ถ้างั้น ผมต้องสอบสวนเธอที่นี่

 

「ถ้านายอยากจะทรมานเธอ ชั้นจะจัดการกับมัน」

 

ดั่งรู้สึกถึงความคิดผม นานะฟูชิพูดขึ้นมา

 

「มาสเตอร์ของชั้นใจอ่อนเกินไป เมื่อมันเป็นเรื่องทรมานคน ริกกะจะฆ่าเธอทันที แต่ชั้นทรมานเธอได้อย่างทั่วถึงโดยไม่ให้เธอตาย」

 

「อืม」

 

มันเหมือนที่นานะฟูชิพูด

 

ในฐานะอาวุธชีวภาพ นานะฟูชิจะทรมานเธอต่อไป ไม่ว่าวิธีไหนที่คู่ต่อสู้จะใช้ต้าน

 

「ชั้นขอโทษ ชั้นควรจะเป็นคนที่ทำมือสกปรก แต่ชั้นอ่อนแอเกินไปที่จะเสี่ยงเข้าใกล้อลิส」

 

「นายไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับชั้น ‘อาวุธ’」

 

นานะฟูชิตอบด้วยการหัวเราคิกคักกับคำพูดของผม

 

「ชั้นยอมแพ้ ชั้นจะไม่ต่อต้านใดๆ」

 

ขณะที่ผมกำลังจะเริ่มทรมานเธอ อลิส ที่เงียบจนถึงตอนนี้ พูดขึ้นมา

 

「ชั้นขอโทษ แต่ชั้นไม่เชื่อใจเธอ เธอพยายามจะทำภารกิจ โดยเหยียบหัวของหัวหน้าที่เคารพ ในแง่นั้น ชั้นยอมรับความภักดีและพลังใจของเธอ นั่นทำไม ชั้นเชื่ออะไรก็ตามที่เธอพูดไม่ได้」

 

ขณะที่ผมตอบอริส ที่หมุนหัวไปรอบๆเมื่อมองดูผม ตาที่ไร้แสงของเธอจ้องเข้าไปในความว่างเปล่า

 

「แม้ว่าจะไม่มีบาเรีย ชั้นไม่เทียบกับนาย ระดับของคความแข็งแกร่งต่างกัน ตราบใดที่นายควบคุมทีมของนาย ไม่มีโอกาส ชั้นมากกว่าจะรูว่านายน่ากลัวแค่ไหน」

 

「เราเอาชนะเธอได้แม้ว่าไม่มีบาเรีย ชั้นเข้าใจความความแข็งแกร่งเราระดับต่างกัน แต่ถ้าเธอพยายามจะหนี มีโอกาสเล็กๆ ที่บางอย่างจะเกิดขึ้น ชั้นจะไม่ยอมรับการยอมแพ้ของเธอ ชั้นจะไม่บกป้องเธอเลยซักนิด ชั้นจะทรมานเธอ สอบสวน และในท้ายที่สุด ฆ่าเธอ เพราะเธอพยายามฆ่าทามะมูชิ แม้ว่านั่นจะเป็นภารกิจ ตอนนี้เธอหันมาต่อต่านเรา ชั้นจะไม่มีวันยกโทษให้เธอ ยอมแพ้เถอะ」

 

「ชั้นยอมแพ้ ชั้นไม่อยากรอดชีวิต ชั้นไม่สนใจถ้านายฆ่าชั้น แต่ก่อนนายจะทำ ได้โปรดฟังชั้น」

 

「ใด้ ชั้นไม่ถือที่จะได้ฟังเธอ เพราะชั้นจะทรมานเธอต้องแต่ทีแรกเพื่อจะฟังว่าเธอจะพูดอะไร ดังนั้น มาฟังมันเธอ อย่างไรก็ตาม ถ้าชั้นมีความสงสัยแม้แต่น้อยในเรื่องที่เธอเล่า ชั้นจะเริ่มทรมานเธอทันที」

 

「ขอบคุณ ถ้านายอยากจะทรมานชั้น ชั้นยินดีที่นายจะทำอย่างนั้น」

 

「มันไม่ใช่ว่าชั้นมีความสุขกับการทรมานคน มันเป็นเรื่องของความจำเป็น」

 

กับคำพูดของผม อลิสที่จ้องผมด้วยตาท่เสียงแสงไป ยิ้มเล็กน้อย

 

「องค์กรปกป้องจบไปแล้ว ไม่มีการพูดเกินจริงที่จะพูดว่าองค์กรตอนนี้อยู่ใต้ร่มขององค์กรที่ถูกนำโดยฟีนเนสและคุดัน คนเดียวที่ต่อต้านคือนายพลที่มีคนที่มีพรสวรรค์ทำงานขึ้นตรงกับเค้า」

 

「เธอหมายถึงองค์กรเสื่อมถอยจากข้างในเหรอ?」

 

「ใช่」

 

「นายพลคนนี้มีคำทำงานให้เค้ากี่คน?」

 

「สิบห้า รวมถึงคลีเดีย」

 

「มีคนใช้พลังจิตกี่คนในทั้งองค์กร?」

 

「รวมถึงคนเหล่านั้นที่ไม่มีความสามารถ มีประมาณล้านคนทั่วโลกที่ขึ้นตรงกับองค์กรปกป้อง ในนั้น ประมาณ 10,000 ที่มพรสวรร์ จำนวนของหมวด ดี หรือสูงกว่านั้นประมาณสามร้อย」

 

「ถ้าเป็นอย่างนั้น มันไร้สาระ องค์กรที่มีหมื่นคน บนฝั่งนายพลที่แค่สิบห้าเหรอ? ความจริงที่ว่ากำลังของนายพล ยังอยู่ในสภาพแบบนั้นมันผิดธรรมชาติ」

 

「มันมีประมาณยี่สิบเปอร์เซ็นต์ของเราที่ไม่เลือกฝ่าย และมันไม่ง่ายที่จะเอานายพลออกจากตำแหน่ง ไม่ ชั้นจะพูดว่ามันเป็นไปไม่ได้ เหตุผลที่เค้าเป็นนายพลเพราะสายเลือดของเค้า」

 

「สายเลือด? เหมือนตระกูลราชวงศ์หรือราชวงศ์น่ะเหรอ?」

 

「ใช่ นั่นทำไมเลือดของนายพลจำเป็นที่จะรักษาองค์กรปกป้อง แม้ว่าถ้ามันรวมภายใต้ร่มของฟีนเนส ถ้าไม่มีเลือดของนายพล องค์กรจะล่มสลาย」

 

สายเลือด แม้ว่ามันจะเน่า ไม่เพราะมันเน่าเขาเลยต้องการลูกน้องเพื่อถือมัน แต่นายพลดื้อเกี่ยวกับมัน

 

แล้วก็ ผมได้ยินมาว่าคลีเลียเป็นมือขวาของนายพล แต่ผมเห็นได้ว่าแม้แต่มือขวาของนายพล ก็ถูกบังคับให้เข้าสนามรบ เนื่องจากขาดกำลังคน

 

「สิบห้าคนบนฝั่งของนายพล โอ้ใช้ คลีเลียตายแล้ว ดังนั้นมีสิบสี่ มีคนใช้พลังจิตระดับสูงมั้ย?」

 

「การ์ด ชายที่นายฆ่าคือหนึ่งในสิบห้าคน ดังนั้นตอนนี้มีสิบสาม ถ้าพวกเค้าทั้งหมดยังมีชีวิตรอดนะ และทั้งหมดสิบสามคนไม่ใช่คนใช้พลังจิตระดับสูง มีคนที่ใช้ความสามารถสื่อเหมือนชั้นและการ์ด」

 

「งั้นก็มีคนแข็งแกร่งอยู่ในนั้น?」

 

「ใช่ มีหมวด บี สามคน และหมวด เอ หนึ่งคน สี่คนนี้เป็นกุญแจ」

 

สาบบี และหนึ่ง เอ?

 

ผมไม่ตกใจที่ได้ยินว่ามี บี และ เอ เพราะทีมเราเต็มไปด้วยสัตว์ประหลายหลายๆอย่าง แต่พวกเขาต้องมีพลังที่มหาศาลในองค์กรแน่

 

โดยเฉพาะ มันดูเหมือน เอ นั้นจะพิเศษ

 

มันต้องขอบคุณคนชั้นสูงเหล่านี้ นายพลถึงรอดมาได้หรือ?

 

「มันปลอดภัยที่จะพูดว่าโลกตอนนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของฟีนนีส ส่วนที่แย่ที่สุดคือคุดัน ที่อยู่บนสุด ไม่มีความสนใจในองค์กร แต่ผู้บริหารที่มีพลังในองค์ก็ พวกเค้าเป็นหมาจิ้งจอกที่มีอำนาจของเสือ พวกเค้าใช้ชื่อที่เหมือนฟ้าร้องของคุดันเพื่อทำอะไรตามใจ」

 

「น-นั่นฟังดูมีเหตุผล คุดันไม่ได้ดูเหมือนจะสนใจในองค์กร」

 

「น-นายได้เจอ……คุดัน ใช่มั้ย?」

 

「ใช่ เห็นว่าเธอรักชั้น」

 

「อะไร?」

 

ตาของอลิสมีไฟขณะที่ผมตอบด้วยรอยยิ้ม

 

คุดัน เธอไม่สนใจบัลลังก์ เธอแค่อยากจะเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุด และถ้าเธอสู้ต่อไป เธอจะไม่มีใครเหลือ

 

มดที่มาหาคุดันเริ่มที่จะสร้างรังของตัวเอง ผมเดาว่ามันเป็นอย่างนั้น

 

「งั้น มีจุดหมายอะไร?」

 

「อะไร?」

 

「อะไร เธอแค่อยากจะบ่นเหรอ?」

 

「โอ้ ไม่」

 

อลิสส่งเสียงอย่างใจร้อนกับคำถามของผม

 

เธอต้องสับสนเมื่อเธอรู้ว่าผมได้เจอคุดันแล้ว

 

ถ้าคุณเจอกับคุดัน มันน่าจะผิดธรรมชาติที่คุณยังมีชีวิต

 

「นายเป็นกำลังที่สามที่ปรากฏมากระทันหัน มากกว่านั้น แต่ละคนของนายมีพลังที่ไม่ธรรมดา และไม่เป็นมิตรกับฟีนนิส ถ้าเป็นอย่างนั้น ชั้นรักที่จะสนับสนุนนาย」

 

จับหัวของหัวหน้าของเธอ ที่เป็นหัวดิบ ไว้กับอกของเธอ อลิสมองดูผมและพูด

 

ตาของเธอยังไม่มีชีวิต

 

อลิสต้องมีแผนที่จะตายที่นี่ แต่ก่อนหน้านั้น เธอจะบังคับเราเข้าไปในปัญหา

 

สนับสนุน

 

มันไม่ใช่สิ่งที่แย่ที่จะมีการสนับสนุนนิดหน่อย และผมอยากจะจะไปเจอความสามารถหมวด เอ เป็นพิเศษ

 

นอกจากนี้ แม้ว่าพลังของนายพลเกือบจะถูกทำลายหมดแล้ว เขาเป็นหัวในองค์กรใหญ่ ผมมั่นใจว่าอย่างน้อยเขามีคอนเนคชั่นกับพวกนั้นที่ยังมีชีวิตอยู่

 

แต่นั่นแค่สิ่งที่อลิสพูดนั้นเป็นความจริง

 

มาลองมันเถอะ

 

「มีอะไรอย่างอื่นที่เธออยากบอกชั้นมั้ย?」

 

「มีข้อมูลมากมาย แต่นั่นคือทั้งหมดที่ชั้นอยากพูดที่เหลือคือนายทำตามสบายเลย」

 

「งั้นมาเริ่มการทรมาน อย่างที่ชั้นบอกก่อนหน้า ชั้นไม่เชื่อใจเธอ」

 

「ข-ขอบคุณที่ฟังชั้น」

 

ตอบอย่างเงียบๆ อลิสปิดตาของเธออย่างช้าๆ และกอดศพหัวหน้าอย่างแน่น

 

ผมไปที่นั่นแล้วตอนนี้ เธอพูดกับหัวในใจของเธอ

 

มันเป็นเรื่องราวที่ทำใหผมร้องไห้

 

ผมขอโทษ แต่ผมจะไม่ให้เธอตายง่ายๆ

 

「นานะฟูชิ ส่งมือมา」

 

「ค่ะ ท่าน」

 

「ชั้นอยากจะทำลายหัวที่อลิสถือ หรือชั้นควรจะพูดว่ากระทืบมัน?」

 

「ค่ะ ท่าน ชั้นเข้าใจ」

 

นานะฟูชิตอบคำพูดของผม อลิสที่ฟังการสนทนาอยู่ เปิดตาของเธอและมองดูผม

 

「เดี๋ยว เดี๋ยว เดี๋ยว ได้โปรดยกโทษให้ชั้น ชั้นไม่สนใจว่าการทรมานแบบไหนที่นายจะทำกับชั้น ดังนั้น ได้โปรดอย่าทำให้คลีเลียอับอายไปมากกว่านี้ สำหรับที่เหลือของชีวิตของเธอ ได้โปรด ได้โปรด ไดโปรด ยกโทษให้ชั้น…….」

 

หน้าของอลิสซีด ตาสั่น ร้องขออย่างสิ้นหวังระหว่างที่กอดหัวศพของเธออย่างแน่น

 

「เธอโง่นะ การทรมานคือการลงโทษจุดที่อ่อนแอที่สุด เมื่อคนอย่างเธอตั้งใจ มันไม่มีเหตุผลมากที่จะทำตัวเธอ นั่นทำไมชั้นต้องทรมานใจเธอ โดยใช้ศพที่เธอถือด้วยความรัก โอ้ เธอยังไม่ต้องพูดอะไร ชั้นจะถามคำคามเธอเมื่อเธอพังอย่างดีแล้ว」

 

เมื่อผมบอกสิ่งนั้นกับอลิส น้ำตาเอ่อขึ้นมาในตาที่ซีดของเธอ

 

โอ้ มันได้ผล มันได้ผล

 

「ชั้นมั่นใจว่ามันมากไป!」

 

เสียงดังก้อง

 

มันเป็นทามะมูชิที่ส่งเสียงของเธอ

 

「อลิสพูดว่าเธอจะโดนทรมาน! เธอเตรียมที่จะตายแล้ว! ในการตอบแทน เธอหวังว่าจิตวิญญานของคลีเลียจะไม่แปดเปื้อน! ที่เป็นความปรารถนาสุดท้ายของนักรบที่ภาคภูมิใจ! ได้โปรดฟังเธอ!」

 

การตะโกนของทามะมูชิหมดไปและยืนอยู่ตรงหน้าของอลิส

 

「เวร เธอมันโง่มาก…….」

 

ตาของนานะฟูชิกว้างขึ้น และเธอถอนหายใจออกมา

 

「คำสั่งของมาสเตอร์ของชั้นแน่นอนที่สุด ออกไปไกล ถ้าเธอไม่ทำ ชั้นจะฆ่าเธอ」

 

ริกกะส่งเสียงของเธอขณะที่เธอจ้องทามะมูชิ และเธอถือมีดใหญ่

 

「ชั้นจะไม่ขยับ! ชั้นไม่แม้แต่จะต่อต้าน! ถ้าเธออยากจะฟันชั้น ฟันชั้น! คนนี้ อลิส แข็งแกร่งกว่าชั้น! ไม่เหมือนชั้น ที่ตกไปในความชั่วร้าย อลิสกำลังจะตายในฐานะนักรบที่น่านับถือ! ระหว่างที่ปกป้องจิตวิญญานของคนที่เธอติดค้าง! ชั้นไม่อยากจะที่ทำความรู้สึกของอลิสเปื้อน!」

 

ทามะมูชิระเบิดน้ำตาออกมา และร้องไห้อย่างสิ้นหวัง ได้ยินคำพูดของเธอ เส้นเลือดปูดออกมาจากขมับริกกะ

 

มันเป็นแสงสว่างพริบตาของสายฟ้า

 

จากนั้น น้ำตาอาบแก้มของอลิส ขณะที่เธอมองขึ้นไปหาทามะมูชิที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ พยายามจะปกป้องเธออย่างสิ้นหวัง

 

คุคุคุ เหมือนบทเลย พวกเธอเยี่ยมที่สุด

 

「ริกกะ นานะฟูชิ ฆ่าคนทรยศ」

 

ผมยิ้มและบอกพวกเธอ

 

สองคนเตะพื้นและพุ่งไปเพื่อซัดทามะมูชิ

 

ทามะมูชิกางแขน ปิดตา และกัดฟัน

 

และจากนั้น…

 

「ขอบคุณ…….」

 

ผมได้ยินเสียงเบาๆ ในเวลาเดียวกัน อลิสจับทามะมูชิที่ไหล่ ดันเธอออกไป และกระโดดมาตรงหน้าเธอ ด้วยหัวศพยังอยู่ในแขนของเธอ

 

อลิสปิดตาของเธอ กอดหัวศพอย่างนั่น และรอความตายที่จะมาถึงในไม่ช้า แต่ทั้งริกกะและนานะฟูชิยืนที่นั่นด้วยตาที่หวาน

 

「นี่มันโอเค ไม่ใช่เหรอ ซูซูฮาระ-ซามะ?」

 

นานะฟูชิหัวเราะคิกคักขณะที่เธอพูดอย่างนี้

 

「ชั้นอยากจะฟันทามะมูชิที่ปฏิเสธเจตนาของมาสเตอร์ แต่ถ้าอย่างนั้นชั้นจะปฏิเสธเจตนาของมาสเตอร์」

 

ริกกะที่พูดต่อจากนานะฟูชิเป็นคนที่สอง วางมือขวาไว้ข้างหลังเธอ และเก็บมีดพร้อมการถอนหายใจ

 

ตาของอลิสมองไปมา ระหว่างไหล่ของทามะมูชิ และหัวศพในแขนของเธอ

 

หลังจากได้ยินคำพูดที่โหดร้ายของผม และรู้ความรู้สึกของทามะมูชิ อลิสพยายามจะปกป้องทามะมูชิในช่วงเวลาสุดท้าย

 

ยังไงซะ โอเค

 

「ชั้นจะพูดซ้ำ ชั้นยังไม่เชื่อใจองค์กรที่เธอเป็นส่วนหนึ่ง แต่ชั้นจะเชื่อใจเธอ」

 

ผมพูดเรื่องนี้กับอลิส แต่เธอสับสน เธอไม่ได้ดูเหมือนจะเข้าใจสถานการณ์

 

เมือพูดนั่นแล้ว…

 

「พวกเธอสังเกตเจตนาของชั้นได้ไง?」

 

ผมบอกพวกเธอทั้งสองคน

 

ทามะมูชิยิ้ม และริกกะขมวดคิ้ว แก้มของเธอแดง

 

「ซูซูฮาระ-ซามะบอกเราให้ฆ่าคนทรยศ มาสเตอร์ของชั้นโง่ แต่เธอแค่อยากจะเคารพเจตนาของอลิส ไม่ใช่ทรยศนาย ตั้งแต่ทีแรก อลิสไม่ใช่หนึ่งในพวกเรา ดังนั้นไม่มีความจำเป็นที่เธอจะทรยศนาย พูดอีกอย่าง ไม่มีคนทรยศ และไม่มีความจำเป็นต้องฆ่าเธอ นายหมายความว่าอย่างนั้น ใช่มั้ย?」

 

「ถูกต้อง นั่น 100 แต้ม」

 

เมื่่อผมตอบคำพูดของนานะฟูชิ ริกกะ ที่ฟังการสนทนาอยู่ เปลี่ยนเป็นแดงและยิ้ม

 

นานะฟูชิดีใจที่ได้ยินว่าเธอได้ร้อยแต้ม

 

「ชั้นจะพาอลิสกลับไปที่บ้านทามะมูชิ ชั้นจะถามเธอเกี่ยวกับรายละเอียดที่บ้าน」

 

「สำหรับเรื่องนั้น เราทำลายบาเรียไม่ได้ด้วย รู้มั้ย ชั้นมั่นใจว่ามาสเตอร์ทำลายมันได้ แต่มันจะใช้เวลานาน」

 

「โอ้ นั่นไม่ใช่ปัญหา」

 

ผมตอบคำถามของนานะฟูชิด้วยรอยยิ้ม

 

ทำลายบาเรียดูเหมือนจะเป็นงานยาก แต่ไม่จำเป็นต้องทำลายมัน

 

「มีรูในบาเรียนี้」

 

จากทั้นผมชี้ไปที่พื้น

 

มันดูเหมือนรูธรรมดาที่พื้น แต่จริงๆแล้วมันซ่อนทางออก

 

มันเป็นที่ที่ชายที่นานะฟูชิฆ่า พยายามจะหนี

 

มันถูกซ่อนอย่างชาญฉลาด ที่ผมจะไม่สังเกตมันปรกติ แต่ตาของผมเห็นใต้ดินได้

 

「มันทำให้มั่นใจที่นายเป็น “เพื่อน” แต่ถ้านายเป็นศัตรู ตาทิพย์ของนายเป็นปัญหาจริงๆ ไม่ใช่เหรอ?」

 

นานะฟูชิ ที่จ้องอย่างว่างเปล่าใส่ผม ขณะที่เธอพูด หัวเราะคิกคัก

 

ดังนั้น ผมตัดสินใจที่จะทิ้งศพที่กระจายกันอยู่ไว้ข้างหลัง และนำอลิสกลับไปบ้านของทามะมูชิ

 

เหตุผลที่ทำไมผมปล่อยศพไว้ข้างหลัง เพราะแม้ว่าผมซ่อนพวกเขา พวกเขาจะถูกค้นพบไม่ว่ายังไง

 

นอกจากนี้ ถ้าจะมีใครสงสัยเมื่อชายและกึ่งสัตว์ตาย จะเป็นอลิสและทามะมูชิ

 

เพราะทามะมูชิดูเหมือนจะถูกประเมินต่ำโดยองค์กร ความสงสัยจะตกไปอยู่ที่อลิส

 

สายลับสมควรจะถูกกำจัด แต่เธอพลิกกระดานใส่พวกเขาและหนีไป พวกเขาจะคิดว่าอลิสได้ควบคุมทามะมูชิหรือจับเธอ และองค์กรของคุดันไม่รู้ว่าเราอยู่ที่นี่ จากนั้น พวกเขาจะคิดว่าอลิสกลับไปที่องค์กรปกป้อง

 

ผมไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนที่พวกเขาต้องรอก่อนที่จะรู้ว่าเราอยู่ที่นี่ แต่ผมคิดว่าเราจะมีเวลาอย่างน้อยให้เคลื่อนฐานและเอาตัวเราเข้าไปสู่ตำแหน่ง

 

พูดจากใจ ผมดีใจที่ได้กลับบ้านของทามะมูชิแต่ในเวลานี้ ผมไม่คิดว่าจะสามารถกลับไปได้

 

ด้วยความคิดนั่นอยู่ในใจ เราออกจากโกดังโดยมีอลิสตามมา

 

 

 

เป้าหมายเดือน 6/66

ค่าเน็ต 200/200

ค่าห้องโรงพยาบาลยาย 0/2000

สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่

067-3-63958-5

วายุ แซ่จิว

กสิกรไทย

 

แปลโดย: wayuwayu

ติดตามได้ที่ดิสคอทส่งข้อความมาขอได้ที่ Facebook: “wayuwayu แปล” Line: @326jilhj

โดเนทแล้วอยากให้เรื่องขึ้นหรือสะสมเงินเพิ่มตอน แจ้งได้ที่ Facebook และ Line

pdfไว้อ่านตอนกลางคืน  สปอนเซอร์ตอน จองตอน ซื้อตอน หารได้ ได้ทั้ง facebook,Line และ Discord

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+