เอ็กซ์เรย์เป็นมากกว่าที่ฉันคิด – X-ray Is More Than I Thought 91

Now you are reading เอ็กซ์เรย์เป็นมากกว่าที่ฉันคิด – X-ray Is More Than I Thought Chapter 91 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 91

 

เวอร์ชั่นไม่เซ็นเซอร์อ่านได้ที่ tunwalai หรือ readAwrite

 

ตอนนี้ผมอยู่ที่ห้องนอนของทามะมูชิ

 

นั่นอยู่บนเตียง คามูโระ ฮิซูกิเกี่ยวแขนของเธอไปรอบของผม และพิงหัวของเธอไปที่ไหล่ผมกอดใกล้กับผม

 

「อ๊าา♥ มันเหมือนเป็นความฝันเลย♥」

 

ด้วยแก้มของเธอที่ย้อมเป็นสีแดง คามูโระ ฮิซูกิพึมพำขณะที่เธอปิดตาของเธอและปล่อยถอนหายใจที่ร้อน

 

ผมเห็นด้วย ถ้าเป็นไปได้ ผมหวังให้นี่เป็นความฝัน

 

ทำไมคุณถามว่าผมอยู่คนเดียวในห้องนอนกับคามูโระ ฮิซูกิ คุณพูด? ยังไงซะ มีหลายสถานการณ์

 

เพื่อที่จะสรุปการสนทนาของเราทั้งหมดที่เราเพิ่งมีเมื่อกี้ เราตัดสินใจที่จะตามคำแนะนำของคามูโระ ฮิซูกิ ซึ่งคือการนำ มารินะ, ยูกะ, และยูกินะ มาในการดำเนินการครั้งนี้

 

อย่างไรก็ตาม ถ้าพวกเธอได้ปฏิเสธข้อเสนอของพวกเรา จากนั้นเรามีเจตนาที่จะถอยกลับอย่างเชื่อฟัง

 

พูดอีกอย่างคือ เราใช้ข้อเสนอของอาซาฮินะ

 

นั่นทำไมผมมีแผนที่จะไปรับมารินะ, ยูกะ, และยูกินะ แต่ก่อนหน้านั้น มีบางอย่างที่ผมต้องทำ

 

ในสถานการณ์ก่อนหน้า ข้อมูลเกี่ยวกับองค์กรอนุรักษ์ธรรมชาติ สามารถพึ่งพาความรู้ของทามะมูชิได้

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อคามูโระ ฮิซูกิได้เข้าร่วม นั่นเปลี่ยนสถานการณ์ของเราอย่างสมบูรณ์

 

คามูโระ ฮิซูกิที่สามารถจะเข้าใจทุกอย่างที่เกิดขึ้นใน “ปัจจุบัน” อย่างสมบูรณ์ ชัดเจนว่าสามารถที่จะเข้าใจข้อมูลเกี่ยวกับองค์กรอนุรักษ์ธรรมชาติอย่างสมบูรณ์แบบด้วย

ไม่ มันดีกว่าที่จะพูดว่าเธอไม่ได้เข้าใจมันอย่างสมบูรณ์ การแบ่งปันข้อมูลมีลำดับความสำคัญเหนือสิ่งอื่น

 

หัวใจหลักในการจะทำแผนปฏิบัติการคือข้อมูล

 

เพราะก่อนหน้าที่คุณจะมุ่งหน้าเข้าไปสู้ คุณได้กำหนดว่าใครจะเป็นผู้ชนะคร่าวๆไปแล้วด้วยการได้มาซึ่งข้อมูล

 

หนึ่งในปัจจัยของชัยชนะคือการรู้ว่าจะได้มาซึ่งข้อมูลของศัตรูได้ยังไง และเนื่องจากตัวตนของคามูโระ ฮิซูกิ เราได้อยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบอย่างท่วมท้น

อย่างไรก็ตาม มันทั้งหมดจะไร้ความหมายถ้าคามูโระ ฮิซูกิเก็บข้อมูลไว้กับตัวเธอเอง

 

ดังนั้น เราต้องกระทำกระบวนการที่จะมอบบางอย่างสำหรับข้อมูล เพื่อที่จะให้เธอมอบมันมาให้เรา

 

『ก-เกี่ยวกับสิ่งนั้น……มีบางอย่างที่ชั้นต้องพูด……』

 

ด้วยอาซาฮินะ, ริกกะ, คาซะฮานะ, และทามะมูชิ รวมอยู่ในห้องนั่งเล่น ถามว่าอะไรที่คามูโระ ฮิซูกิ ต้องการในการตอบแทนกับข้อมูล คามูโระ ฮิซูกิ เริ่มจะอยู่ไม่สุข และเธอแก้มแดงไปถึงหูเธอ และมอบการชำเลืองมองเร็วๆมาให้ผม

 

ผมมีความรู้สึกที่ไม่ดีเกี่ยวกับสิ่งนี้ ความรู้สึกที่ไม่ดีสุดขีด

 

『อ-อธิบายมันเป็นคำพูดมัน…อืมม…มันจะแค่ทำให้เราเสียเวลา… แล้วก็…ชั้นไม่เก่งกับคำพูดของชั้น…ดังนั้นชั้นไม่มีความมั่นใจที่จะอธิบายมันดีๆ……』

 

คามูโระ ฮิซูกิพูดขณะที่เธออยู่ไม่สุขต่อไป ดั่งเธอเป็นหญิงสาว “ไร้เดียงสา” ระหว่างที่ชำเลืองมองผมอย่างรวดเร็วด้วยความเขินอาย

 

เธอรู้มั้ยว่าพูดไม่เก่งมันหมายความว่ายังไง? คือที่ผมอยากจะแทรกเข้าไปและพูดมัน แต่ผมคิดว่าถ้าผมเคลื่อนไหวผิดตอนนี้ งันเราจะไม่สามารถเดินหน้าได้ ดังนั้น สำหรับเวลานี้ ผมตัดสินใจจะให้คามูโระ ฮิซูกิพูดอะไรก็ตามที่เธอต้องการ

 

『อ-อย่ามาอธิบายเป็นคำพูดเถอะ แต่แทนอย่างนั้น ถ้าเราเชื่อมต่อสติของเราเข้าด้วยกัน มันเป็นไปได้ที่พวกนายจะสามารถเข้าใจข้อมูลที่ชั้นมีตอนนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ชั้นคิดว่าทำอย่างนั้นจะดีกว่า……』

 

ใช้สติร่วมกัน ถ้าเธอทำอะไรบางอย่างแบบนั้นได้ ทำมันสิ ผมอยากจะให้เธอทำ คือที่ผมอยากจะพูด แต่ผมไม่สามารถพาตัวเองไปพูดมันได้

 

ถ้าใช้สติร่วมกันมันเรียบง่ายขนาดนั้น งันไม่มีเหตุผลที่คามูโระ ฮิซูกิจะอยู่ไม่สุขอย่างเขินอาย พูดอีกอย่าง มีเงื่อนไขเฉพาะที่จำเป็นสำหรับการทำมัน มากกว่านั้น แค่จากการดูพฤติกรรมของคามูโระ ฮิซูกิ ผมสามารถจะรู้ได้คร่าวๆว่าเงื่อนไขมันคืออะไร

 

『เราต้องเชื่อมต่อกัน ล-ลึกๆ ลึกๆ ลึกๆ ลื้กกกกกกกกลึก♥ กับกันและกัน♥』

 

หน้าแดงอย่างคึกคะนอง คามูโระ ฮิซูกิมองผมด้วยตาที่เปียก อย่างที่ผมคาด

 

การเชื่อมต่อที่ลึกๆ นั่นหมายถึงมีเซ็กส์

 

เราต้องเปลือยกอดกัน? หรือเราต้องพันลิ้นกัน? หรือมันคือเราต้องเชื่อมต่ออวัยวะเพศของเราอย่างมั่นคง?

 

ผมตัดสินใจตรงนี้ไม่ได้จริงๆ แต่ผมคิดว่ามันเป็นการเชื่อมต่ออวัยวะเพศของเราเข้าด้วยกัน

 

ยังไงซะ ทั้งหมดมันขึ้นอยู่กับว่าถ้าคามูโระ ฮิซูกิได้พูด “ความจริง”

 

พูดจากใจ ผมสงสัยว่าที่เธอพูดจริงมั้ย อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเราได้ถูกหลอกโดยเธอ เราจะไม่ได้รับความเสียหายจากมัน ดังนั้น มันแค่มาอยู่ที่ผมว่าผมทนมันได้มั้ย

 

แล้วก็ ถ้าคามูโระ ฮิซูกิ โกหกจริงๆ จากนั้นผมจะไม่มีวันเชื่อเธออีกครั้ง ตัวของคามูโระ ฮิซูกิเองก็น่าจะรู้เรื่องนั้น

 

งั้น เธอจะแค่โยนทุกอย่างทิ้งเพื่อที่จะได้ทำมันกับผมครั้งหนึ่งเหรอ?

 

ถ้ามันเป็นคามูโระ ฮิซูกิ งั้นมันก็มีความเป็นไปได้ แต่ ถ้าเธอบอกความจริงจริงๆ ถ้างั้นราคาที่ต้องจ่ายมันเล็กน้อยเมื่อเทียบกับข้อมูลที่ได้รับ

 

『ได้เลย ชั้นเชื่อใจเธอ ถ้าเธอโอเคกับชั้น งั้นชั้นจะทำทุกอย่าง เธอบอกให้ชั้นให้ทำอะไรก็ได้』

 

ผมบอกคามูโระ ฮิซูกิ

 

ผมจงใจเลือกคำพูดผมอย่างระวังเพื่อที่จะหมายความมันว่าผมเชื่อใจเธอ

 

ผมถือเจตนาในการหมายความมันกับคามูโระ ฮิซูกิว่าถ้าเธอหลอกผม งั้นผมจะไม่มีวันเชื่อซักคำพูดที่ออกมาจากปากเธออีกครั้ง

 

คามูโระ ฮิซูกิ ได้กลัวกับคำพูดผมอย่างชัดเจน

 

มันเหมือนกับว่าเธอไม่ได้คาดหวังให้ผมเห็นด้วยกับข้อเสนอเธอ

 

มันเป็นการแสดงของคามูโระ ฮิซูกิหรือมันเนื่องจาก “การคาดเดาอนาคตที่คลุมเครื่อ”

 

มันเลี่ยงไม่ได้ที่จะคิดเกี่ยวกับมัน แม้ว่าคามูโระ ฮิซูกิพูดว่าความสามารถผมทำงานได้ปรกติ แต่เพราะผมไม่สามารถ “เห็น” ผมช่วยไม่ได้นอกจากคิดเกี่ยวกับมัน

 

อย่างไรก็ตาม ผมขายตัวผมเพื่อที่จะให้ได้ข้อมูลมา

 

ผมตัดสินใจจะทิ้งทุกอย่างไว้ในมือของคามูโระ ฮิซูกิ

 

โดยเฉพาะสำหรับเวลาแบบนี้

 

「แล้วเราต้องเชื่อมต่อกันนานแค่ไหน?」

 

หลังจากที่นั่งอยู่บนเตียงประมาณ 30 นาที ผมเรียกออกไปและถามคามูโระ ฮิซูกิที่ไม่ทำอะไรนอกจากกอดผม

 

「อ่ะ อะโน อะโน อโนเดสุ เนะ♥ โซโนะ อะโน มันคือ…♥ น-นายพูดว่านายไม่เข้าใจที่ชั้นพูดเหรอ…?♥」

 

คามูโระ ฮิซูกิ ที่ได้พิงหัวของเธอที่ไหล่ผมตลอดเวลานี้ยกหัวของเธอขึ้นและมองผม ถามในเสียงที่สั่น

 

เธอหน้าแดงมากจนมันเหมือนกับหน้าเธอไหม้ และมองผมด้วยตาสีดำที่มีหัวใจลอยอยู่ในนัยน์ตา ผมเห็นตัวเองสะท้อนจากตาของเธอได้ เหมือนกับการมองริมฝีปากของคามูโระ ฮิซูกิ มันได้บอกผมว่าเธอกลัว

 

มันดูเหมือนเธอไม่ได้โกหก

 

ไม่ โดยไม่มีความสามารถผม การตัดสินของผมได้ทื่อลงไป

 

พูดอีกอย่างผมตอนนี้ “ถูกหลอกง่ายๆ”

 

อย่างไรก็ตาม ผมเตรียมพร้อมที่จะถูกหลอก

 

ถ้าคามูโระ ฮิซูกิได้พูด “ความจริง” งั้นมูลค่าของข้อมูลนั้นไม่สามารถที่จะวัดค่าได้ สำหรับสิ่งนั้น ผมเตรียมพร้อมจะขายตัวผมให้เธออย่างทั่วถึง ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป อย่าลังเล ไปอย่างบริสุทธิ์และเสนอทุกอย่าง

 

「ชั้นบอกเธอว่าชั้นจะทำทุกอย่าง ชั้นจะทำตามที่เธอบอก ชั้นขอโทษแต่ชั้นไม่เก่งกับการจัดการกับเธอ ชั้นทำอะไรไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องนั้น」

 

พูดสิ่งนั้น คามูโระ ฮิซูกิ เธอส่ายหัวของเธอ

 

「ชั้นเข้าใจอย่างสมบูรณ์ว่านายขยะแขยงชั้น♥ แต่ถึงยังไง ชั้นไม่รู้สึกถึงอะไรนอกจากคำขอบคุณสำหรับนายที่ยอมรับชั้น♥」

 

ระหว่างมองผมด้วยนัยน์ตารูปหัวใจ คามูโระ ฮิซูกิกระซิบในหูผมด้วยเสียงหวาน

 

ผมดำยาวที่งดงามและตาปลายตก ผิวขาวดุจหิมะและตัวผู้หญิงที่กลม ระหว่างที่ยังใส่ชุดนักเรียนของเธอ เธอดันก้อนเนื้อใหญ่ทั้งสองมาใส่หน้าอกผม

 

การการตัดสินรูปร้างหน้าตาของเธอ เธอเป็นสาวสวยที่สู้กับความสวยของอาซาฮินะได้

 

สาวสวยที่ไม่มีใครจะบ่นซักคำถ้าเขาได้ทำมันกับเธอ และแม้อย่างนั้น ทำไมผมรู้สึกเกลียดชังต่อสาวคนนี้อย่างยิ่งใหญ่ล่ะ?

 

อย่างไรก็ตาม พูดจากใจ มันดูเหมือนความรู้สึกขยะแขยงกับเธอได้เบาลงจากก่อนหน้า

 

ถ้ามันไม่ใช่อย่างนั้น ไม่ว่าผมจะได้กับมันมากแค่ไหน ผมน่าจะไม่มีวันอนุญาตให้ตัวผมอยู่ในห้องตามลำพังกับคามูโระ ฮิซูกิ

 

「ชั้นคิดว่ามันมาจากความสามารถของชั้นอย่างแน่นอน♥」

 

คามูโระ ฮิซูกิพูด เธอเห็นผ่านความคิดของผมเหรอ?

 

「พลังของตาแห่งสววรค์มันมหาศาล♥ ไม่ มันแข็งแกร่งเกินไป♥ มันเป็นความสามารถที่ควบคุมไม่ได้ แม้แต่คนระดับปานกลางอย่างชั้นยังรับมือไม่ได้♥ แต่ถ้ามันเป็นนาย มันอาจจะมีความเป็นไปได้ที่จะสามารถควบคุมมัน♥ ถ้าตัวชั้นก่อนหน้าได้ปลุกตาแห่งสวรรค์ให้ตื่น งั้นความสามารถของชั้นจะแผลงฤทธิไปแล้ว♥ ชั้นจะมุ่งหน้าไปสู้เส้นทางแห่งการทำลางล้างอย่างแน่นอน♥ นั่นคือทำไมนายถึงเกลียดชั้น♥ ดังนั้นนายตัดสินใจว่าชั้นเป็นสิง่มีชีวิตที่อันตรายและพยายามจะเลี่ยงชั้น ♥」

 

ผมเข้าใจว่าคำพูดของคามูโระ ฮิซูกิมาจากไหน

 

จากคำอธิบายของทามะมูชิ ลักษณะเฉพาะดั้งเดิมของความสามารถของผมคือการมองเข้าไปในใจคนและนำทางมัน ในเวลาเดียวกัน มันมีความเป็นไปได้ที่จะปลุกพลังเหนือธรรมชาติให้ตื่น หรือเพิ่มระดับพลังของมันมากขึ้นไปอีก

 

นั่นทำไมผมหนีคามูโระ ฮิซูกิด้วยสัญชาติญาน เนื่องจากเธอเป็นสิ่งมีชีวิตที่อันตราย

 

งั้นสถานการณ์ตอนนี้ล่ะ?

 

แม้ว่าผมยังค่อนข้างรู้สึกขยะแขยงต่อคามูโระ ฮิซูกิ ผมพยายามจะยอมรับเธอ

 

งั้นนั่นหมายความว่า สัญชาติญานของผมบอกผมว่าคามูโระ ฮิซูกิไม่อันตรายอีกต่อไปเหรอ?

 

「ถูกต้องแล้ว ♥ “โมตะ-คุง” เริ่มที่จะยอมรับชั้นแล้ว♥ แม้ว่าแค่นิดเดียว แค่นิดเดียว โมตะ-คุงเริ่มที่จะรักชั้น♥ แต่มันแค่นิดเดียว แต่มั่นใจได้เลยนะ♥ นายจะไม่ทำชั้นจม♥ นายรักชั้นได้โดยไม่ต้องกังวล♥ มันโอเค♥ ดังนั้นมันโอเค♥」

 

พูดมันในเสียงกระซิบที่หวานเธอมองผมด้วยตาที่เปียก

 

ผมเห็นตาที่ใหญ่ข้างในหัวเธอ

 

ตาแห่งสวรรค์

 

มันมอบความรู้สึกให้ผมว่าทั้งตัวผมถูกกัดกร่อน เหมือนกับผมได้ถูกกลืนโดยมัน

 

ความรู้สึกนี้ ผมได้ถูกชักจูงไปทางจิตใจและจิตวิญญาน ดังนั้นผมได้ถูกควบคุมจิตใจ

 

เฮฮ๋ห์ เข้าใจแล้ว ที่คามูโระ ฮิซูกิพูดไม่ใช่เรื่องโกหก

 

มันดูเหมือนว่าความสามารถผมอยู่ในสภาพใช้การไม่ได้ แต่ผมสามารถ “ระวัง” กับการเหนี่ยวนำทางจิตใจของคามูโระ ฮิซูกิ

 

และเห็นได้ชัดว่า มันดูเหมือนพลังของการต้านทานทางจิตใจทำให้มัน “มีผลน้อยลง” เพราะ ผมสามารถที่จะ “เข้าใจ”

 

พูดอีกอย่าง แม้ความสามารถของผมจะอยู่ในสภาพที่ใช้การไม่ได้ มันยังทำงานปรกติอยู่

 

ตาแห่งพื้นดินและตาแห่งสวรรค์อยู่ตรงข้ามกันคนละขั้วโลก บางทีเนื่องจากความสามารถผมแสดงผลในสภาพที่ใช้งานไม่ได้ ตาแห่งสวรรค์ไม่สามารถที่จะแทรกแซงสภาพจิตใจผมได้

 

「งั้นนี่คือการควบคุมจิตใจ ถ้ามันเป็นคนปรกติ งั้นพวกเค้าจะตกอยู่ในสภาพถูกล้างสมอง แต่เธอรู้มั้ยว่าประสิทธิภาพของมันเล็กน้อยเมื่อใช้กับชั้น」

 

พูดมันกับคามูโระ ฮิซูกิ เธอหัวเราะมันอย่างไม่เคารพและแลบลิ้นของเธอออกมา

 

「ทั้งหมดนี้ งั้นมันล้มเหลวเหรอ? ชั้นขอโทษ ชั้นอยากจะลองมันจริงๆน่ะ」

 

โดยไม่เขินอายเกี่ยวกับมัน คามูโระ ฮิซูกิหัวเราะ

 

「มันเลยความคาดหวังของชั้นไปจริงๆสำหรับนายที่จะยอมรับชั้น ดังนั้น บางที ชั้นคิดว่าชั้นกัดกร่อนสติของนายโดยไม่รู้ตัว ดังนั้น ชั้นได้ลองมัน แต่มันดูเหมือนว่านายไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับมันนะ」

 

คามูโระ ฮิซูกิพูดความจริงหรือโกหก?

 

มันดูเหมือนว่าเธอล้มเหลวที่จะล้างสมองผม เธอใช้ข้ออ้างนั้น แต่ผมก็คิดด้วยว่าความสามารถของเธอได้แข็งแกร่งเกินไปและเธอสับสน

 

「และ? เราจะใช่สติร่วมกันยังไง?」

 

มันช่วยไม่ได้ที่จะคิดเกี่ยวกับมัน ดังนั้นผมคิดว่าผมควรจะรีบเข้าและตรงไปที่จุดประสงค์หลัก ดังนั้น ผมถามคำถามนั้นกับคามูโระ ฮิซูกิ

 

「น-นั่น…นั่นมัน…อืมม…ชั้นไม่รู้จริงๆ……ชั้นขอโทษ」

 

คามูโระ ฮิซูกิมองผมด้วยสายตามองบนและตอบคำถามผม ขัดแย้งกับที่เธอพูดมาก่อน

 

“ชั้นไม่รู้จริง”? มันเป็นเธอที่บอกทุกคนเกี่ยวกับกระบวนการของมัน แต่กระนั้น เธอหมายความว่ายังไงเธอไม่รู้

 

「ช-ชั้นรู้ว่าจะใช้ร่วมกันได้ยังไง และชั้นรู้ว่าเราจะเชื่อมต่อหัวใจเราลึกๆได้ยังไง อย่างไรก็ตาม ชั้นไม่รู้ว่าจะทำกระบวนการต่อยังไง ชั้นขอโทษจริงๆที่ให้คำตอบคลุมเครือนี้กับนาย」

 

พูดอย่างนั้น คามูโระ ฮิซูกิก้มหัวของเธอ ดูขอโทษขอโพย

 

พูดว่าเธอไม่รู้เกี่ยวกับมัน งั้นแล้วผมจะรู้มันได้ยังไงวะ?

 

เราจะทำอะไรดี?

 

「งั้นนั่นหมายถึงเราต้องลองหลายๆอย่าง? ชั้นไม่ถือมันจริงๆถ้ามันเป็นแบบนั้น?」

 

พูดมันกับคามูโระ ฮิซูกิ ตามองบนของเธอเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มที่มีชีวิตชีวา

 

「ข-ขอบคุณมากค่ะ♥」

 

มองดูมีความสุขมาก เธอขอบคุณผมด้วยแก้มที่ย้อมเป็นสีแดง

 

มองเธอแบบนี้ เธอเหมือนเป็นสาวปรกติจริงๆ แม้ว่าเธอได้ปลุกตาแห่งสวรรค์ของเธอให้ตื่นได้ไม่นาน มันดูเหมือนว่าเธอได้ “ดี” มากขึ้นกว่าแต่ก่อน

 

ที่สุดของทั้งหมด มันเป็นเพราะเธอสามารถเห็น “ทุกอย่างในปัจจุบัน” และ “อนาคตที่คลุมเครื่อ” ใช้ประโยชน์กับนั้น เธออาจจะแสดงทำเป็น “สาวปรกติ”

 

เพื่อที่จะใช้สติเราร่วมกัน ผมตามคำแนะนำของคามูโระ ฮิซูกิตามนั้นและนั่งลงบนที่เตียง และตรงหน้าผม คามูโระ ฮิซูกิก็นั่งอยู่ที่เตียงด้วย เราทั้งสองหันหน้าเข้าหากัน

 

「ง-งั้น…เรามาลองจับมือกันนะ♥」

 

เอื้อมออกมาด้วยสองมือ คามูโระ ฮิซูกิ ถามและมองผมด้วยนัยน์ตารูปทรงหัวใจ

 

「เธอเริ่มจากที่ที่มันค่อนข้างพอสมควรเลยนะ」

 

พูดสิ่งนั้นกับคามูโระ ฮิซูกิ ผมจับสองมือของเธอ

 

ขณะที่ผมจับมือของเธอ คามูโระ ฮิซูกิที่สั่น สะดุ้ง รู้สึกอาย เธอมองไปทางอื่นและเริ่มอยู่ไม่สุข

 

รู้สึกถึงความรู้สึกใต้มือผม ผมรู้สึกถึงนิ้วของเธอที่นุ่มและอ่อนโยนอุณหภูมิตัวของเธอต่ำกว่าผม ดังนั้นมือของเธอรู้สึกเย็น

 

「มีอะไร?」

 

กับคำถามผม ยังมองไปทางอื่น คามูโระ ฮิซูกิส่ายหัวของเธอ

 

「งั้นอะไรต่อล่ะ?」

 

เห็นคามูโระ ฮิซูกิได้ชัดเงียบและอาย ผมได้รำคาญและถามคำถามเธอ

 

กับคำถามผม คามูโระ ฮิซูกิสะดุ้งและดูเหมือนเธอกำลังจะร้องไห้ เธอจับมือผมอย่างแน่น

 

――ม-มันน่าอาย นายนำได้มั้ย

 

คามูโระ ฮิซูกิดูเหมือนเธอกำลังจะร้องไห้ ผมบอกได้ว่าเธอต้องการอะไรโดยการมองที่ตาเธอ

 

แม้ว่าเธอบอกให้ผมนำ…แล้วผมจะรู้ได้ยังไงวะเมือนเธอเป็นคนที่ไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อ? ถ้าถ้ามันยังเป็นอยู่แบบนี้ เราจะเสียเวลาเปล่า

 

ดังนั้น ผมเดาว่าผมควรจะนำและลองหลายๆอย่าง

 

ผมรู้สึกอย่างไรก็ไม่รู้ว่าผมได้ติดกับอยู่ในแผนของคามูโระ ฮิซูกิ แต่ผมได้ขายตัวของผมให้เธอไปแล้ว ไม่ว่ามันเป็นกับดักหรือไม่ มันจะเป็นราคาน้อยที่จะต้องจ่ายเพื่อที่เราจะใช้สติร่วมกันและได้ข้อมูลมา

 

「ยังไงซะ งั้น เรามาลองมีเซ็กส์มั้ย?」

 

เพราะทั้งหมด ยังไงเราก็มุ่งหน้าไปทางนั้น งั้นเราอาจจะทำมันให้เสร็จๆไปเลย เพราะฉะนั้น ผมถามตรงๆ

 

คามูโระ ฮิซูกิเด้งด้วยปฏิกิริยาตอบสนองกับคำถามผม และในทันที่ หน้าเธอได้ร้อนขึ้น เธอได้แดงอย่างสมบูรณ์ที่หน้า จากนั้นเธอเริ่มสั่น

 

「อะ อะโน♥ อะโน♥ น-นั่นมัน…♥ ไม่ใช่ว่าเราใช้สิ่งนั้นเป็นตัวเลือกสุดท้ายเหรอ?♥」

 

ระหว่างนำสายตาเธอไปจากทิศทางของผม เธอกระซิบเบาๆขณะที่เธอได้สั่นต่อ

 

แม้ว่าผมจะเห็นด้วยกับนั้น แต่ผิดคาด ผมแนะนำการแก้ปัญหาที่ตรงไปตรงมา

 

ม่าา แม้ว่ามันเป็นการเสียเวลาที่จะลองตัวเลือกอื่น เราก็ยังไม่ถูกต้อนจนมุมในเรื่องนั้นด้วย เพิ่มเติมจากนั้น สร้างหนทางที่จะใช้ความคิดร่วมกัน มีข้อดีที่ยิ่งใหญ่ที่อย่างอื่นไม่มี

 

ถ้าการมีเซ็กส์ไม่เชื่อมต่อความคิดของเรา งั้นนั่นหมายความว่าสำหรับสาวๆ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้ความคิดร่วมกัน

 

「เข้าใจแล้ว อืมงั้น เราควรจะมาลองทางเลือกอื่นมั้ย?」

 

ขณะที่ผมพูดนั่น ผมดึงมือของเธอถือจับผมอยู่ คามูโระ ฮิซูกิที่ตกมาอยู่ในอ้อมกอดผมขณะที่ผมวางมือลงไปบนเอวที่บางของเธอและกอดเธอ

 

คามูโระ ฮิซูกิเริ่มสั่นทั้งตัว เธอกังวลเหรอ?

 

ผมรู้สึกถึงความรู้สึกนุ่มนิ่มที่อกของผมและ กลิ่นหวานหอมเบาๆได้เตะจมูกผม

 

เป็นครั้งแรก ผมบอกได้ว่าเธอมีตัวที่เปราะบางและละเอียดอ่อนจากการกอดเธอ

 

ไม่ว่าเธอจะมีพลังมากเท่าไหน ด้วยตัวที่อ่อนแอและเพราะบางนั้น ทำไมเธอมีประสาทที่กล้าที่จะเผชิญหน้ากับอาซาฮินะตรงๆล่ะ?

 

โอ้ เข้าใจแล้ว แน่นอนว่าในเวลานั้น หลังจากที่เธอเห็นผมหันหลังให้เธอขณะที่เราได้มุ่งหน้ากลับ คิดแล้วว่าเธอแพ้ นั่นทำไมผมคิดว่าความไม่ชอบเธอได้น้อยลงไปเล็กน้อยกว่าแต่ก่อน

 

แต่แม้อย่างนั้น เธอยังอ่อนแออยู่

 

ขณะที่มันดูเหมือนว่า วิธีที่ใจเราจะใช้ร่วมกันมันต้องเกี่ยวข้องกับสภาพจิตใจแน่นอน

 

ดังนั้น ผมไม่คิดว่ามันดีที่จะประหม่าเกินไป ดังนั้นผมต้องผ่อนความเครียดของคามูโระ ฮิซูกิ

 

「กอดกันแบบนี้ซักพักนึง」

 

ระหว่างที่กอดอย่างมั่นคง ผมกระซิบในเสียงที่อ่อนโยน

 

「ค-คคค-ค่ะ♥ ชั้นขอโทษ…♥」

 

ระหว่างที่ถูกโอบกอดอย่างแรงโดยผม คามูโระ ฮิซูกิตอบในความตื่นตกใจ และด้วยเหตุผลบางอย่าง ขอโทษ

 

ไม่มีแม้แต่เหตุผลที่จะให้เธอขอโทษ

 

ม่าา คามูโระ ฮิซูกิรู้ว่าเธอถูกเกลียดโดยผม ดังนั้นผมเดาว่ามันธรรมชาติสำหรับเธอที่จะประหม่าและตื่นตระหนก

 

ผมสงสัยว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่

 

คามูโระ ฮิซูกิที่ถูกกอดโดยออก ค่อยๆผ่อนคลายนิดหน่อยอย่างช้าๆ

 

เธอดูเหมือนจะโอเค ดังนั้นมันโอเคถ้าเราทำมัน

 

ไม่ เดี๋ยว มันมีปัญหากับผมทุกครั้งที่เราพยายามจะทำวิธีอื่น เธอได้ประหม่า มากกว่านั้น ถ้ามันเกี่ยวกับสภาพจิตใจของเรา งั้นมันอาจจะไร้ความหมายถ้าทำให้เสร็จทางกายภาพ

 

ผมได้ขายตัวผมไปแล้ว ผมก็ยังเตรียมตัวมาสำหรับนี่ด้วย ดังนั้น ผมต้องทำให้ต่อ

 

「“ฮิซูกิ” มันโอเค ทิ้งทุกอย่างไว้ให้ชั้น」

 

ขณะที่ผมกระซิบข้างหูของฮิซูกิที่ยังอยู่ในอ้อมกอดของผม ฮิซูกิกระตุกและทั้งตัวของเธอได้แข็ง

 

จากนั้นผมดันฮิซูกิที่อยู่ในสภาพนั้นลง

 

ถ้ากระบวนการใช้สติร่วมกันของเราได้สำเร็จ งั้นผมควรจะรู้สึกว่าสติของเธอได้ไหลเข้ามาในผม

พูดอีกอย่าง ผมไม่ต้องหยุดและตรวจฮิซูกิทุกครั้ง

 

ขณะที่ผมคิดอย่างนั้น ผมจูบและเลียคอที่ซีดบางของเธออย่างอ่อนโยน

 

ฮิซูกิกระตุก

 

เนื่องจากความประหม่า ผิวของเธอได้เหงื่อออกเล็กน้อย ใช้ลิ้นของผม ผมเลียและลูบไล้คอของเธอในท่าทางที่รักใคร่อย่างอ่อนโยน

 

ทุกครั้งที่ผมกระตุ้นคอเธอด้วยลิ้นของผม ฮิซูกิที่สั่นและกระตุกบ่อยๆ ได้ปิดปากของเธอและกำหมัดเหมือนเธอพยายามจะเก็บเสียงของเธอ

 

ผมทำมันด้วยความระวัง และในวิธีที่มีเป้าหมายในการแก้ปมในหัวใจผู้หญิง

 

เท่าที่ผมรู้ มารินะคือคนที่ไม่เป็นมิตรกับผม และประหม่าและระวังตัวสูง มันเป็นประสบการที่เรียบง่ายและรู้สึกดี ที่บรรเทาความไม่เป็นมิตร, ความประหม่า, และความตึงเครียดกับผม มันเพราะผมมีเป้าหมายไปที่จุดอ่อนของเธอและให้เธอแตกนับครั้งไม่ถ้วน อย่างไม่หยุดหย่อน

 

ถ้านั่นเป็นอย่างนั้น งันผมจะให้ฮิซูกิแตกในแบบเดียวกันนับครั้งไม่ถ้วน และหลังจากนั้น มันควรจะผ่อนความเครียดของเธอ

 

อย่างไรก็ตาม เพราะความสามารถผมไม่สามารถทำงานได้ปรกติ ผมไม่มีความคิดเลยว่าจุดอ่อนของฮิซูกิอยู่ไหน

 

ถ้ามารินะ หรือยูกะเป็นคู่ของผม ยังผมมีความมั่นใจที่จะให้เธอแตกได้โดยไม่ต้องใช้ความสามาถ แต่สำหรับกรณีของฮิซูกิข้อมูลที่ผมมีกับเธอนั้นน้อยนิดมากเกินไป ดังนั้นผมไม่มีความมั่นใจที่จะทำแบบนั้น

 

ผมไม่รู้ว่ามันจะเป็นไปได้มั้ยที่จะทำให้เธอแตก โดยไม่ได้รับความช่วยเหลือจากความสามารถของผม

 

「อ่ะ อะโน…♥」

 

ระหว่างที่ผมกังวลเกี่ยวกับมัน ฮิซูกิเรียกผม

 

「ถ-ถ้านายเป็นคู่ของชั้น (สำหรับการมีเซ็กส์) งั้นชั้นก็มีความสุขแล้ว♥」

 

ระหว่างที่สั่น ฮิซูกิพยายามที่จะส่งเสียงของเธออย่างสิ้นหวัง ได้ยินคำพูดนั้น “อา เข้าใจแล้ว” คือที่ผมคิด

 

แม้ว่าผมคุ้นเคยกับการ “มอง” ในหัวใจ(ความคิด) คนอื่น ผมไม่ชินกับการที่คนอื่นมองเข้ามาในของผม

เพราะสิ่งนั้น ผมชอบที่จะลืมว่าฮิซูกิสามารถที่จะ “เห็น” ความคิดของผม

 

「ความผิดของชั้นเอง ชั้นถูกจับคาหนังคาเขาว่าเพื่อที่จะให้ได้ข้อมูลจากเธอ ชั้นแกล้งปฏิบัตกับเธอในฐานะ “ผู้หญิง”」

 

เพื่อแกล้งจะปฏิบัติกับฮิซูกิในฐานะ “ผู้หญิง” เพื่อที่จะให้ได้ข้อมูลมาจากเธอ มันเลือดเย็นมากกว่าการที่เห็นเธอเป็นแค่เครื่องมือ

 

ถ้าผมปฏิกับเธอเป็นเครื่องมือ งั้นเธอน่าจะพอใจ แม้ว่ามันเป็นการโกหก ถ้าผมปฏิบัติกับฮิซูกิในฐานะ “ผู้หญิง” ฮิซูกิจะเข้าร่วมไปกับมันด้วย

 

「ช-ชั้นโอเคกับมัน♥ ช-ชั้นเข้าใจอย่างสมบูรณ์♥ เพราะชั้นเห็นได้ทุกอย่าง♥ ชั้นไม่ใช่ผู้หญิงปัญหาเยอะที่เข้าใจอะไรผิดๆได้ง่ายๆ♥」

 

ผมตัดสินไม่ได้ว่าที่เธอพูดจริงหรือไม่จริง ความคิดนั้นก็ “มองเห็นได้” กับฮิซูกิด้วย

 

มันเป็นความสามารถที่มีปัญหาจริงๆ สำหรับเราสองคน

 

「ชั้นอาจจะเคยกลัว」

 

ฮิซูกิที่ถูกดันลงไปบนเตียงโดยผม มองขึ้นมาที่ผมขณะที่ผมพึมพำ

 

「เธอใกล้ชั้นมากกว่าใครๆ การใช้กำลังจะไม่มีผลกับเธอ ตรงหน้าเธอ ชั้นได้เปลือยอย่างสมบูรณ์ ถ้ามันเป็นเธอ งั้นเธอก็ควรจะรู้ เธอควรจะรู้ว่าชั้นเป็นมนุษย์ที่ไม่เที่ยงและไม่เท่ขนาดไหนที่ชั้นเป็น บางทีมันอาจเป็นเพราะเธอรู้เกี่ยวกับมัน ชั้นพยายามที่จะปฏิเสธมัน」

 

ผมสามารถที่จะได้มาซื้อตำแหน่งที่ได้เปรียบอย่างแน่นอนโดยการใช้ความสามารถของผม หาประโยชน์จากสิ่งนั้น ผมเล่นไปทั่วกับมารินะและยูกะ ผมพบว่ามันสนุกระหว่างที่ทำมัน

 

อย่างไรก็ตาม กับคนนั้น มันจะไม่มีผล

 

ถ้าให้พูดมันอย่างเรียบง่าย มันอาจจะน่ากลัว ผมน่าจะกลัวเกี่ยวกับการที่ธาตุแท้ของผมจะถูกเปิดเผย

 

แต่กระนั้น ด้วยเหตุผลบางอย่างหรืออื่นๆ ผมได้เว้นระยะกับเธอไว้

 

ผมเจอ “สหาย” ที่มีความสามารถคล้ายๆกัน แบกความทุกข์ทรมานแบบเดียวกัน เดินทางคล้ายกันบนชีวิต

 

เธอเป็นเพียงคนเดียวที่เข้าใจผมได้ และบางคนที่ผมเรียกได้ว่าเป็นสหาย

 

ฮิซูกิและผมเหมือนสองด้านของเหรียญ

 

ครั้งแรกที่เธอปรากฏตรงหน้าผม ผมควรจะเข้าใจเธอตอนนั้น

 

นั่นคือบางอย่างที่ไม่มีใครทำได้ ไม่แม้แต่คาเซะบานะ*หรือริกกะ

TLN: คาซะฮานะ

 

มันเป็นไปได้ที่จะเข้าใจโดยคนที่มีความสามารถที่คล้ายกันแบบผมเท่านั้น

 

「ได้โปรดหยุด!」

 

ฮิซูกิได้ส่งเสียงกระทันหัน

 

「ได้โปรดหยุดมันได้แล้ว! ชั้นโอเคแม้ว่ามันจะเป็นคำโกหก! มันโอเคถ้ามันเป็นการประดิษฐ์ขึ้นมา! แต่แม้อย่างนั้น ได้โปรด อย่าใจดีกับชั้นมาก! ได้โปรด อย่ามองชั้นด้วยสายตาที่อ่อนโยนแบบนั้น! ชั้นจะเข้าใจเจตนานของนายผิดไป! ชั้นจะเข้าใจผิด!」

 

เอ่อล้นไปด้วยน้ำตา ฮิซูกิร้องออกมาอย่างสิ้นหวัง

 

แม้ว่าเธอจะบอกให้ผมหยุด หัวใจของผมโกหกไม่ได้

 

ถ้าเธอไม่สามารถที่จะ “เห็น” มัน งั้นเราจะดำเนินไปได้โดยไม่ต้องรู้มัน แต่เธอสามารถที่จะ “เห็น” ความคิดของผมได้

 

นั่นเป็นทั้งความสามารถของฮิซูกิและผม

 

「ความผิดของชั้นเอง」

 

「ได้โปรดอย่าขอโทษ!」

 

「ชั้นไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไร」

 

「นั่นเป็นที่ชั้นต้องพูด!」

 

「มันเจ็บปวดมั้ย?」

 

「ความสุขของชั้นเลยผ่านขีดจำกัดไปถึงจุดที่ว่ามันเจ็บ เหมือนกับมันฉีกและทำลายออกมาจากหน้าอกชั้น! มันเจ็บปวด มันเจ็บปวดถึงจุดที่ว่าชั้นอยากที่จะตายมากกว่าเพื่อที่จะบรรเทาความเจ็บปวด!」

 

「ชั้นขอโทษ」

 

「ดังนั้น ได้โปรด อย่าขอโทษ! ได้โปรด อย่าอยู่ดีๆก็มาเสน่หากัน!」

 

ระหว่างที่ร้องไห้ ฮิซูกิยิงการจ้องแบบฆาตกรมาให้ผม

 

แม้ว่าเธอพูดว่าอย่ามาจู่ๆเสน่หา ผมไม่มีเจตนาที่จะทำมัน

 

ผมเพิ่งจะสังเกตมัน

 

ในที่สุดผมก็เข้าใจว่าความหมายมันคืออะไร เมื่อตาแห่งสวรรค์และตาแห่งพื้นดินสะท้อนกัน

 

「มันเป็นความผิดนายที่ความสามารถที่จะเห็นอนาคตไม่ทำงานอย่างถูกต้อง」

 

「เอ๋?」

 

「ตาแห่งสวรรค์มีพลังที่จะเห็น “ความสิ้นหวัง” มันมีจุดจบของทุกอย่าง ตาแห่งสวรรค์มีพลังที่จะ “เห็น” สิ่งต่างๆที่มันจะจบสิ้น แม้ว่าถ้ามีเข็มเล่มเล็กๆ ปลายของเข็มจิ้มผ่านความสิ้นหวังและ “แสดง” อนาคตใหม่ด้วยความหวัง นั่นทำไมตาแห่งสวรรค์ต้องการตาแห่งพื้นดิน นั่นทำไมตาแห่งสวรรค์จะไม่มีตัวตนถ้าไม่มีตาแห่งพื้นดิน ดังนั้น ชั้นไม่มีประโยชน์ตรงหน้านาย」

 

พูดสิ่งนั้น ฮิซูกินำมือขวาของเธอล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อนักเรียนที่เธอใส่แล้วดึงมีดออกมา

 

「นี่เป็นอนาคตที่ชั้น “เห็นมาแล้ว” ชั้นสมควรที่จะตายที่นี่ตรงหน้านาย เพราะเพื่อที่จะสลักตัวชั้นเข้าไปนาย ชั้นอยากจะแสดงให้นายดูว่าชั้นจะฟันคอชั้นและให้เลือดสดๆของชั้นพุ่งออกมาเหมือนน้ำพุ และ ด้วยการนั้น ชั้น “สมควร” ที่จะสลักอยู่ในหัวใจนายตลอดไป」

 

จ้องตรงมาที่ผม ฮิซูกิทิ้งมีดที่เธอถือด้วยมือขวาของเธอ

 

「อุเอ่ะะะ! แต่ชั้นไม่อยากตายอีกต่อไปแล้ว! เพราะชั้นอยากจะเห็นนายมากกว่านี้ นายที่ดีกับชั้น! ชั้นจะไม่สามารถที่จะอยู่โดยไม่มีมันได้อีกต่อไปแล้ว! อนาคตควรจะถูกตัดสินใจแล้ว แต่ชั้นไม่เข้าใจ! ด้วยการที่นายอยู่ข้างชั้น อนาคตได้เปลี่ยนไปตลอด! ชั้นควรจะทำยังไงดี?!」

 

และเหมือนเด็ก เธอร้องไห้

 

「ชั้น “เห็น” อนาคตที่เธอฆ่าชั้น」

 

「ออุ อออุ ฮิ้คุ……ม-มันเป็นจังหวะที่ว่าตาแห่งสวรรค์ได้ตื่น มันเป็นเมื่อนายมาช่วยชั้นผู้ที่ถูกกักตัวอยู่ในชั้นใต้ดินของบ้านทามะมูชิ-ซัง」

 

*ฮิ้คคุ ฮิ้คคุ*

 

เล็ดเสียงสะอื้น เธอตอบคำถามผมในเสียงที่สั่น

 

อาา เวลานั้น แน่นอนว่า ในเวลานั้น มันเป็นเพราะฮิซูกิได้บ้าไปอย่างสมบูรณ์

 

「และ?」

 

「ช-ชั้นได้มุ่งหน้าไปสู่อาซาฮินะ-ซัง และจากนั้นนายก็ออกมา ในเวลานั้นชั้นรู้สึกถึงความรู้สึกที่บิดเบี้ยวของอนาคตที่ “ชะตาที่จะเกิดขึ้น”」

 

มันเป็นเมื่ออาซาฮินะและฮิซูกิมีการต่อสู้ที่เร่าร้อน

 

ผมสงสัยถ้ามันเป็นเพราะเมื่อผมได้เข้าใกล้ฮิซูกิ ความสามารถที่จะเห็นอนาคตของเธอบิดเบี้ยว

 

ทามะมูชิได้พูดมันหลายครั้งว่าตาแห่งพื้นดินมีระยะมีผลที่เล็ก

 

ระยะเต็มที่ของตาแห่งพื้นดินควรจะเป็นระยะเต็มที่ของความสามารถของผม

 

「ม-แม้ว่ามันบิดเบี้ยว อนาคตได้ถูกตัดสินไปแล้ว และอนาคตได้ที่แน่นอนว่าจะเป็นอย่างนั้นได้เริ่มเปลี่ยน เมื่อชั้นรับความพ่ายแพ้ของชั้น ในช่วงเวลานั้น อนาคตได้แตกเป็นจำนวนนับไปถ้วน และหนึ่งในชิ้นนั้นเป็นอนาคตที่ชั้นจะฆ่าตัวตายต่อหน้านาย」

 

อย่างนั้นเหรอ มีทางแยกหลายทางที่จะทำไปสู่อนาคตที่ต่างออกไป นั่นทำไมฮิซูกิได้ประกาศว่าความสามารถที่จะทำนายอนาคตมัน “คลุมเครือ”

 

ความสามารถตาแห่งสวรรค์ที่จะทำนายอนาคตปรกติแล้วมีอนาคตเดียวให้ทำนาย อย่างไรก็ตาม เมื่อความสามารถผมใส่เข้าไปหามัน หนึ่งอนาคตนั้นแยกทางเป็นทางอื่นที่หลากหลายมากมาย

 

พูดอีกอย่าง ฮิซูกิสามารถที่จะ “เลือก” อนาคต

 

แต่ถ้าอนาคตที่เลือกได้แยกทางออกไปอีกนับไม่ถ้วย งั้นคุณไม่สามารถเรียกความสามารถนั้นว่าเป็นความสามารถที่ทำนายอนาคตได้อีกต่อไป

 

สิ่งที่คลุมเครือแบบนี้เรียกว่าการทำนายไม่ได้

 

มันเป็นป้ายบองทางที่มีศักยภาพที่ยิ่งใหญ่

 

「แล้วมันเป็นยังไงตอนนี้?」

 

「จนถึงเมื่อกี้นี้ ยังมีความเป็นไปได้ของอนาคตที่ชั้นจะตายตรงหน้านาย แต่เมื่อชั้นได้รู้ความรู้สึกของนาย มันได้หายไปอย่างสมบูรณ์」

 

หายไป นั่นหมายถึงฮิซูกิได้ “เลือก” อนาคตอื่น

 

「และ อนาคตแบบไหนที่เธอ “เลือก”」

 

ถามนั่นกับฮิซูกิ เธอได้แดงอย่างสมบูรณ์ที่หน้าของเธอถึงหูเธอ และมองไปทางอ่อนจากผมอย่างเขินอายขณะที่เธอตีหน้าอกผมอย่างอ่อนโยน

 

「อ-อย่าให้ชั้นพูดมันสิ~♥ มันล่วงละเมิดทางเพศนะ~♥」

 

และจากนั้นเธอพูดอะไรแบบนั้น

 

โฮ่ะโฮ่ เธอหมายถึงเธอเลือกอนาคตที่ผมล่วงละเมิดทางเพศเธอ

 

พูดอีกอย่าง เธอเลือกอนาคตที่ผมจะทำนี่และนั่นกับเธอ

 

「น-นายคิดเกี่ยวกับเรื่องลามก ใช่มั้ย?♥」

 

「ไม่ใช่ว่านี่เป็นอนาคตที่เธอเลือกเหรอ?」

 

「ม-มันเป็นอนาคตที่นายสร้าง♥」

 

「แต่คนที่ “เลือก” มันคือเธอ」

 

ยิ้มขณะที่ผมพูดมัน ฮิซูกิที่มองไปทางอื่นจากผมชำเลืองมองผม

 

「พ-เพราะ ถ้าชั้นเลือกอนาคตนั้น งั้นนายจะปฏิบัติกับชั้นด้วยความรักและความเสน่หา มันปรกติที่ชั้นจะเลือกนั่น♥」

 

รู้สึกอาย ฮิซูกิที่มองผมด้วยตามองบน ปิดมันอย่างอ่อนโยน จากนั้นฮิซูกินำหน้าของเธอเข้ามาใกล้ผม โหยหาการจูบ ผมตอบการร้องขอของเธอโดยการวางริมฝีปากผมไปบนริมฝีปากของเธอ

 

ตอบสนองกับการกระทำของผม ฮิซูกิสะดุ้งขณะที่ทั้งตัวของเธอเกร็ง แต่จากนั้นเธอผ่อนคลายมันอย่างรวดเร็ว และมอบความไว้วางใจตัวเธอไว้ให้ผม

 

ริมฝีปากของเธออ่อนนุ่มและเปียก

 

เอ็นของผมที่ก่อนหน้าไม่เคยจะรู้สึกอะไรกับเธอได้แข็ง

 

แต่ทันทีต่อมานั้น――

 

「อึ๋นน?!」

 

「อึ๋นน!?」

 

ฮิซูกิและผมกระตุกในเวลาเดียวกัน

 

ข้อมูลจำนวนมากไหลเข้ามาในหัวผม

 

เราใช้สติร่วมกันได้สำเร็จ?

 

น่าทึ่ง นี่มันน่าทึ่ง

 

「ทำได้ดีมากฮิซูกิ! เธอทำได้ยอดเยี่ยม!」

 

ผมแยกริมฝีปากผมจากฮิซูกิแล้วตะโกนออกมา

 

「อุว้าาาาาาาาา! เดี๋ยว เดี๋ยว เดี๋ยว! ได้โปรดรอเดี๋ยวก่อน! มันไม่ได้เกิดขึ้นตอนนี้! ได้โปรดแกล้งว่ามันไม่ได้เกิดขึ้น!」

 

หน้าของฮิซูกิที่ก่อนหน้าได้แดงมากจนมันดูเหมือนจะลุกไหม้ เปลี่ยนเป็นซีดและตะโกนออกมา

 

แม้ว่าเธอจะบอกว่านั่นไม่ได้เกิดขึ้น ข้อมูลได้ฝังตัวเข้ามาในหัวผมแล้ว

 

「ท-ทำไมล่ะ?! ใช้สติร่วมกันควรจะถูกควบคุมอยู่ภายใต้เจตนาของชั้น! ชั้นอยากจะจีบเยอะๆกับโมตะ-คุง และให้นายทำให้ชั้นแตกหลายครั้ง! แม้ว่าเมื่อชั้นบอกว่าชั้นไม่ไหวแล้ว นายจะยังสร้างความรักกับชั้นต่อไป และในท้ายที่สุดเมื่อเราเสร็จ ชั้นสมควรจะใช้ร่วมกันกับนายในตอนนั้น!」

 

ด้วยเธอที่ซีดและเจ๊ง ฮิซูกิผู้ที่ดูเหมือนว่าเธออยู่ในสภาพความตื่นตกใจที่หนัก พ่นทุกอย่างจากใจเธอออกมาโดยไม่คิด

 

โฮ่ะโฮ่ งั้นการใช้สติร่วมกันทำได้ด้วย “เจตนาของเธอ” ดังนั้น เธอรู้มันตั้งแต่แรก แต่เธอแกล้งว่าเธอไม่รู้เกี่ยวกับมัน และอยากจะทำมันกับผมจนกว่าเธอจะพอใจ

 

ผมจะไม่พูดว่าทุกอย่างที่เธอพูดนั้นเป็นคำโกหก แต่มันไม่ต้องสงสัยว่าเธอพยายามจะหลอกผมให้ทำสิ่งลามกกับเธอ

 

ม่าา ผมได้ข้อมูลมาแล้วว ดังนั้นตอนนี้มาไม่สนใจค่าที่มันครอบครองอย่างมหาศาลเถอะ

 

「ออุー! ออออุー! ทำไม?! ทำไม?! ชั้นไม่ได้ตั้งใจจะใช้ร่วมกันเลย! นั่นต่างออกไปจากอนาคตที่ชั้นเลือกอ่า! ให้ตายเถอะตาแห่งสวรรค์! มันไร้ประโยชน์สิ้นดี!」

 

เหมือนดั่งเธอเป็นเด็ก ฮิซูกิงอแงด้วยสองมอที่กำจากด้านข้างของเธอ ร้องไห้จากความเดือดเนื้อร้อนใจ

 

เฮ้อ คนนี้ไม่เข้าใจอะไรเลย ตาแห่งสวรรค์จะก่อตัวจากความต้องการภายในสุดของเธอ เธอจำเป็นต้องชื่นชมมันนะ

 

「เธออาจจะโตขึ้นเป็นผู้หญิงที่ดี」

 

ผมยืนขึ้น จัดเสื้อผ้าของผมที่มันยับ และพูดมันขณะที่ผมลุกออกจากเตียง

 

หลังจากที่ได้ยินคำพูดผม ฮิซูกิที่งอแงอยู่บนเตียงหยุดเคลื่อนไหว

 

「ชั้นไม่ได้ไม่ชอบเธอมากขนาดนั้นด้วยวิธีที่เธอเป็นแบบนี้」

 

ผมหันหลังให้คามูโระ ฮิซูกิขณะที่ผมพูดอย่างนั้น

 

อาา มันไม่ดีเลย ผมพูดมันตรงๆไม่ได้ มันยากที่จะเข้าใจความหมายภายหลังคำว่า “ชั้นไม่ได้ไม่ชอบเธอ”

 

「ชั้นขอโทษที่ชั้นพูดมันชัดๆไม่ได้ มันอยู่ในธรรมชาติของชั้น มองเข้ามาใน “หัวใจ” ชั้นถ้าเธออยากรู้ว่าตอนนี้ชั้นคิดกับเธอยังไง เพราะชั้นไม่ได้คิดแง่ลบกับเธอ」

 

ผมเกาแก้มของผมด้วยนิ้วและพูดกับฮิซูกิที่ได้อยู่ข้างหลังผม

 

อ๊าา นี่มันอะไรกันวะ? เฮ้ย นี่มันน่าอาย

 

ขณะที่ผมชำเลืองมองอย่างรวดเร็วไปข้างหลังผม ผมเห็นฮิซูกิที่นั่งอยู่บนเตียงได้หน้าแดงอย่างสมบูรณ์ และผมเห็นนัยน์ตารูปทรงหัวใจที่ลอยขึ้นมาในตาที่แฉะของเธอ

 

เห็นได้ชัดว่า ข้อความของผมดูเหมือนว่าจะถูกส่งผ่านไปให้เธอแล้ว

 

ผมลูบอกเพื่อให้ใจของผมเย็นลง ขณะที่ผมได้ออกไปจากห้องนอน ทิ้งฮิซูกิไว้ที่นั่น

 

หลังจากที่เธอได้ใจเย็นลง ให้เธอได้แบ่งมันกับคนอื่นทุกคนด้วยเถอะ

 

เพราะฮิซูกิสามารถที่จะควบคุมมันได้โดยใช้ “เจตนา” ของเธอ งั้นไม่ควรจะมีปัญหาที่จะใช้มันร่วมกันกับสาวคนอื่น

 

ขณะที่ผมคิดอย่างนั้น ผมมุ่งหน้าไปที่ห้องนั่งเล่น

 

หลังจากซักพัก ฮิซูกิมาที่ห้องนั่งเล่น

 

แม้หน้าของเธอค่อนข้างแดง มันดูเหมือนว่าเธอใจเย็นลงแล้วส่วนใหญ่

 

ฮิซูกิชำเลืองมองผมและยิ้มเล็กน้อย

 

มันดูเหมือนว่าฮิซูกิได้เข้าใจความรู้สึกของผมต่อเธอดังนั้นมันมอบความรู้สึกโล่งใจให้ผม

 

「ฮิซูกิ ขอโทษที่กระทันหันมากกับเธอที่เพิ่งได้มาที่นี่ แต่เธอใช้สติของเธอร่วมกันกับคนอื่นได้มั้ย」

 

「แน่นอน♥ชั้นจะทำทุกอย่างที่โมตะ-คุงขอ♥」

 

ฮิซูกิได้ตอบการร้องขอของผมอย่างร่าเริง

 

ผมคิดว่าเธอเป็นยันเดเระ*ที่อันตราย แต่ฮิซูกิดั้งเดิมแล้วเป็นคนค่อนข้างสวย ถ้าเธอไม่มีปัญหาทางใจอะไร งันเธอจะเป็น “สาวที่สมบูรณ์แบบ” ที่เกือบจะไม่มีข้อเสียใดๆเลย

TLN: หลงใหลแบบคลั่งใคล้ผูกขาด เจอบ่อยๆจะชอบฆ่าคนรัก

 

หน้าอกของเธอก็ใหญ่ด้วย

 

「ยังไงซะ ถ้างั้น มาเริ่มกันจากอาซาฮินะ-ซังมั้ย?」

 

พูดสิ่งนั้น ฮิซูกิได้เข้าหาอาซาฮินะที่นั่งอยู่บนโซฟาและยืนอยู่ตรงหน้าเธอ จากนั้นเธอคุกเข่าลงตรงนั้น

 

「ทำตามใจเลย」

 

อาซาฮินะตอบในท่าทางที่ภาคภูมิใจและหยิ่งเหมือนเคย

 

สายตาตรงกันกับอาซาฮินะ ฮิซูกิวางหน้าผากของเธอลงไปบนหน้าผากอาซาฮินะ

 

ริกกะและทามะมูชิดูอย่างประหม่า

 

ระหว่างที่เรารอฮิซูกิทำเสร็จด้วยไพ่สำรับหนึ่ง ริกกะ, คาซะฮานะ, ทามะมูชิ และผมได้เล่นเกมบาบะนุกิ*ในเวลานั้น ไพ่ได้กระจายไปทุกที่อยู่บนโตะ และพวกเราสามคนได้ถือแค่ไม่กี่ใบด้วยสองมือ

TLN: อีแก่กินน้ำ

 

ความตึงเครียดได้พร่องลงไปเพราะเหตุนั้น

 

พูดถึงแล้ว ริกกะเป็นคนที่มีการ์ดโจ้กเกอร์

 

สั้นๆซักพักหนึ่ง ความเงียบได้ครอบงำห้อง จากนั้นฮิซูกิถอนหายใจและปล่อยหน้าผากของเธอ ที่ติดกับอาซาฮินะก่อนหน้านั้น

 

「อึ๋นน?」

 

อาซาฮินะเอียงหัวของเธอ

 

「ชั้นไม่ได้รับข้อมูลอะไรเลย ไม่มีอะไรเปลี่ยน」

 

และพึมพำอย่างลึกลับ

 

เอ๋? มันล้มเหลวเหรอ?

 

「ชั้นเดาว่ามันไม่มีประโยชน์ มันไม่มี “ความรัก” เพียงพอ」

 

*ฟฟฟู่*

 

ฮิซูกิพึมพำระหว่างที่ถอนหายใจ

 

ไม่มีความรักพอ…ยังไงซะ…นั่นใช่…ผมคิดว่าเพราะคู่ของเธอคืออาซาฮินะ ดังนั้นแน่นอนว่ามันไม่เพียงพอ

 

「ไม่ว่าชั้นจะทำให้ตัวเองเชื่อว่ามันจริงมากแค่ไหน ชั้นโกหกกับหัวใจชั้นไม่ได้ อย่างสิ้นหวัง ชั้นได้ลองอย่างสิ้นหวังอย่างหนักจริงๆเกี่ยวกับมัน แต่เห็นได้ชัดว่า มันดูไม่เหมือนว่าชั้นสามารถจะใช้เนื้อหาความคิดร่วมกันกับอาซาฮินะได้ ชั้นขอโทษ」

 

หันหน้าหาผม ฮิซูกิขอโทษจากใจ

 

เข้าใจแล้ว เพราะการแบ่งปันสติกับคนอื่นจะเกิดขึ้นได้เพียงเมื่อฮิซูกิพึ่งพา “ความเต็มใจ” ที่จะแบ่งมัน ไม่ว่าเธอจะพยายามมันมากขนาดใน บางที่ในหัวใจเธอปฏิเสธมันตลอด

 

ยังไงซะ มันช่วยไม่ได้

 

「อย่าคิดมาก มันช่วยไม่ได้ถ้ามันเป็นไปไม่ได้ นอกจากนั้น ถ้ามันเป็นคาซะฮานะและริกกะ เธอควรจะโอเค」

 

「ไฮ้ โกเมนนาไซ」

 

กับคำพูดผม ฮิซูกิขอโทษด้วยสัญชาติญาน

 

「มันช่วยไม่ได้ถ้ามันเป็นไปไม่ได้ มันเป็นไปไม่ได้สำหรับเธอที่จะไม่ไม่พอใจชั้น อย่างที่ซูซูฮาระ-คุงพูด ไปและแบ่งมันกับลูกหมาตรงนั้นสิ」

 

ไม่ว่าเธอจะโง่มากแค่ไหน อาซาฮินะก็รู้อยู่แล้วว่ามันเป็นไปไม่ได้ และตัดสินใจที่จะไม่ต้องฮิซูกิจนมุมในการทำมัน

 

อีงี่เง่านั่นบางเวลาก็ค่อนข้างซื่อสัตย์กับตัวเธอเองนะ

 

「ชั้นขอโทษจริงๆ」

 

จ้องผม ฮิซูกิขอโทษผมเป็นครั้งที่สองและวิ่งเหยาะๆไปสู่คาซะฮานะ จากนั้นเหมือนที่เธอทำกับอาซาฮินะ ฮิซูกิวางหน้าผากของเธอกับคาซะฮานะแล้วมองเข้าไปที่ตาเธอ

 

แสงอ่อนๆได้ถูกเห็นว่าปรากฏจากฮิซูกิและได้ถูกส่งต่อไปที่คาซะฮานะ

 

โออ้ มันสำเร็จ?

 

「โออ้ นั่นน่าทึ่ง ฟุฟุ ชั้นเข้าใจแล้ว งั้นซูซูฮาระ-ซามะปฏิบัติเธออย่างใจดี นั่นเป็นข่าวดีนะฮิซูกิ มันทำให้ชั้นรู้สึกโล่งใจจริงๆ」

 

โดยการใช้สติร่วมกันเธอได้สามารถรู้ว่าอะไรเกิดขึ้นกับฮิซูกิในห้องนอน เอ่อล้นไปด้วยน้ำตา คาซะฮานะหัวเราะอย่างมีความสุขและพยักหน้าซ้ำๆ

 

อย่างที่คาดกับหมาที่ซื้อสัตว์ พวกเธอปฏิบัติกับความสุขของมาสเตอร์เป็นความสุขของตัวเธอเอง

 

หลังจากนั้น ฮิซูกิสามารถแบ่งมันกับริกกะโดยไม่มีปัญหาและไปสู่ทามะมูชิ

 

ทามะมูชิดูเหมือนจะประหม่าขณะที่เธอถือไพ่ด้วยสองมือ

 

เพราะทามะมูชิเป็นผู้ร้ายหลักที่กักขังฮิซูกิ และทำตามความพอใจกับคาซะฮานะ มันชัดเจนว่าเป็นธรรมชาติที่เธอจะประหม่า

 

ฮิซูกิติดหน้าผากเธอกับทามะมูชิ

 

แสงอ่อนๆปรากฏจากข้างในฮิซูกิและไหลเข้าไปที่ทามะมูชิ

 

โออ้ งั้นมันสำเร็จ ฮิซูกิยกโทษให้ทามะมูชิแล้วจริงๆ

 

นี่มันอะไรกัน? เธอเป็นคนที่ใจกว้างอย่างคาดไม่ถึง

 

「ธ-เธอยกโทษให้ชั้นเหรอ?」

 

ทามะมูชิได้ตกใจมากที่สุดหลังจากกระบวนการของการใช้สติร่วมกัน ซึ่งสำเร็จ

 

ทามะมูชิร้องไห้และสั่น

 

「ชั้นไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่ยกโทษเธอได้อีกต่อไป เพราะเธอเป็นคนที่ได้สร้างปัญหานี้ ผลของมันคือความสัมพันธ์ปัจจุบันของชั้นกับโมตะ-คุงดีขึ้น และแน่นอนว่า เธอเป็นคนทีพัฒนาความสัมพันธ์ของชั้นกับคาซะฮานะที่พยายามจะช่วยชั้น」

 

มองดูทามะมูชิ ฮิซูกิหันกลับมามองคาซะฮานะแล้วยิ้ม

 

*อึนน อึนน*

 

ได้ยินคำพูดนั้น คาซะฮานะพยักหน้าตอบ ปิดหน้าของเธอ ร้องไห้และสั่น

 

มันดูเหมือนพวกเธอทั้งสองคนได้ถูกช่วยจากคำพูดของฮิซูกิ

 

ริกกะที่ถูกปล่อยไว้คนเดียวดูเหมือนว่าเธอไม่สนใจเกี่ยวกับมันเลยซักนิด

 

นั่นแน่นอนว่า ฮิซูกิจงใจที่จะไม่พูดถึงชื่อริกกะ

 

เพราะริกกะไม่ใช่หมาของฮิซูกิ มันเป็นเพราะเธอเป็นหมาของผม ซูซูฮาระ ริกกะ ไม่ว่าสาเหตุไหน ริกกะเป็น “ของของผม”

 

ดังนั้นฮิซูกิไม่เรียกชื่อของริกกะ และริกกะก็ไม่ได้ถือมันด้วย

 

ริกกะเป็นหมาของผม ไม่ว่าเธอจะพูดว่าอะไร ริกกะไม่ควรจะมีปัญหากับมัน

 

「มันเป็นไปไม่ได้สำหรับอาซาฮินะ-ซัง “คนเดียวเท่านั้น”」

 

ฮิซูกิจ้องอาซาฮินะขณะที่เธอพูดอย่างนั้น

 

「อย่ากังวลเกี่ยวกับมัน มีสี่คนที่ได้ข้อมูล ถ้าชั้นได้พูดอธิบายกับอาซาฮินะ――」

 

「ไม่ มีทางอยู่」

 

ฮิซูกิที่ดูอาซาฮินะส่งเสียงขึ้นมา ตัดประโยคผมกลางคัน

 

มีวิธี?

 

แม้ว่ามันโอเคถ้าเธอไม่อยากกดดันตัวเอง มันมีประสิทธิภาพมากกว่ามากที่จะใช้สติร่วมกันเมื่อเทียบกับอธิบายข้อมูลเป็นคำพูด

 

นอกจากนี้ อาซาฮินะโง่ ถ้ามีทาง งันผมก็อยากจะสองมันไม่ว่ายังไง

 

「ทีชั้นต้องการคือ “ความรัก”! ถ้าชั้นมี “ความรัก” อาซาฮินะที่ชั้นเกลียดก็จะสามารถใช้สติร่วมกันได้」

 

ฮิซูกิได้ส่งเสียงของเธอ เน้นคำว่า “ความรัก” อย่างแรง

 

「อา อย่างนั้นเหรอ งั้นชั้นจะปล่อยมันให้เธอ ทำตามใจเลย」

 

ระหว่างที่จ้องเธอ อาซาฮินะถอนหายใจและตอบในวิธีที่ไม่น่ารังเกียจ

 

ม่าา เราแค่ทิ้งมันให้ฮิซูกิที่นี่ได้ มันหมายถ้าว่าอาซาฮินะรู้มันอย่างน้อยมากเท่านี้

 

「“ความรัก”! พูดอีกอย่าง ถ้ามันมีความรักร่วมที่ถูกสร้างระหว่างโมตะ-คุงและชั้น งั้นความเกลียดอาซาฮินะจะบินไปจนไม่มีตัวตน!」

 

「เอ๋?」

 

「ห๋าา?」

 

ฮิซูกิกำหมัดของเธอและเน้นคำระหว่างที่ใส่สีหน้าที่ซีเรียส อาซาฮินะและผมตอบพร้อมกัน

 

「แต่ชั้นเกลียดอาซาฮินะ-ซัง! ค่อนข้างจะมากด้วย ถึงจุดที่ว่าโมตะ-คุงและชั้นต้องรักกันอย่างหลงไหลเพื่อต่อต้านสมดุลย์นั้น! อาซาฮินะ-ซังจำเป็นต้องมองฉากที่โมตะ-คุงจะทำความรักกับชั้นซ้ำๆ และระหว่างจังหวะที่ชั้นถึงจุดสุดยอด ถ้าเธอจับชั้น ชั้นจะสามารถใช้สติร่วมกันกับเธอ! น่าจะ!」

 

เปิดตาของเธอกว้างฮิซูกิพูดมันด้วยความเน้น

 

เฮ้ย รอเดี๋ยว นั่นหมายถึง เพราะฮิซูกิเกลียดอาซาฮินะ เธออยากจะทำธุระที่เข้มข้นกับผมเพื่อที่จะแทนที่ความเกลียดอาซาฮินะ? และเธออยากจะให้อาซาฮินะดูเธอในสถานการแบบนั้น จากนั้นฮิซูกิจะถึงจุดสุดยอดจากก้นบึ้งของหัวใจเธอและในเวลานั้น เธอจะแตะหน้าผากและใช้สติร่วมกัน?

 

เฮ้ย ฮิซูกิ ไม่ใช่การแก้แค้นอาซาฮินะเป็นอย่างเดียวที่เธออยากจะทำเหรอ

 

「ช-ชั้นไม่ถือมันโดยเฉพาะ ช-ชั้นไม่ได้คิดเกี่ยวกับซูซูฮาระ-คุงมาก และชั้นไม่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ของซูซูฮาระ-คุงกับใครก็ตาม」

 

อาซาฮินะพูดอย่างหยิ่งขณะที่เธอกอดอกและมองไปทางอื่นด้วยเสียง *ฮึ่ม*

 

เธอจะยอมรับมันเหรอ? เอาจริงอ่ะ? ปรกติแล้วเธอควรจะปฏิเสธ เราจะมีเซ็กส์กันตรงหน้าเธอ ผมหมายถึง ผมไม่อยากให้เธอดูเรามีเซ็กส์กัน

 

「เข้าใจแล้ว เธอจะยอมรับมันเหรอ? งั้นเราจะต้องทำพิธีทำให้จิตใจบริสุทธิ์ถ้างั้น」

 

จ้องอาซาฮินะ ฮิซูกิผู้ที่ยิ้มพูดบางอย่างแปลกอีกครั้ง

 

พิธีทำให้ใจบริสุทธิ์อะไรวะ?

 

「พิธีทำให้ใจบริสุทธิ์ พูดอีกอย่างอาบน้ำและทำความสะอาดตัว แน่นอนว่า โมตะ-คุงก็จะเข้าร่วมด้วย และโดยไม่ถือมัน อาซาฮินะอยู่ข้างๆ เราจะเริ่มพิธี อาซาฮินะ-ซังจะมองชั้นและโมตะคุงจีบกันในอ่างอาบน้ำอย่างใกล้ๆ」

 

เธอพูดว่าจีบกัน เธอพูดว่าจีบกันเมื่อกี้นี้

 

พูดอะไรอย่างพิธีทำจิตใจให้บริสุทธิ์หรืออะไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าเธอมีแผนแค่จะแสดงให้อาซาฮินะดูว่าเธอจีบกันกับผมในห้องน้ำเหรอ?

 

「เธอ…แค่อยากจะแก้แค้นอาซาฮินะ」

 

ผมพึมพำขณะที่ผมจ้องเธออย่างเหม่อลอย ฮิซูกิหันมาอย่างแรงและมองผม

 

「นายผิดแล้ว! มันไม่ใช่การแก้แค้น! ชั้นแค่อยากจะอวด!」

 

เสียความสงบของเธอไป ฮิซูกิเปิดตาของเธอและปล่อยเจตนาจริงของเธอออกมาด้วยความพยายามของเธอทั้งหมด

 

ผมได้ยินคาซะฮานะปล่อยถอนให้ใจที่หนัก ที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอ

 

「ยังไม่ใช่เพราะการแก้แค้นที่ชั้นอยากทำเรื่องเอดชิ*กับโมตะ-คุง! มันเป็นเพราะชั้นรักโมตะ-คุง ดังนั้นชั้นเกือบตายที่อยากจะทำเรื่องเอดชิกับนาย! เพิ่มเติมจากนั้น ชั้นอยากจะแสดงมันให้อาซาฮินะ-ซังดังนั้นชั้นสามารถดื่มดำไปกับความรู้สึกที่เหนือกว่า! มันไม่ใช่การแก้แค้น! มันเป็นการอวด! มันสำคัญมากๆที่นี่!」

TLN: ลามก

 

มันไม่ใช่การแก้แค้น แต่แทนที่จะอย่างนั้น มันเพื่อการอวด ผมไม่เข้าใจความต่างจริงๆ

 

「ท-ท-ท-ทำที่เธอต้องการเลย ช-ช-ช-ชั้นไม่ได้มึนงงโดยมันโดยเฉพาะ」

 

อาซาฮินะที่กอดอกและหัวของเธอหันไปทางอื่นพูดมันในเสียงที่สั่น ขณะที่เธอร้องเสียงแหลมในทางปฏิบัติเมื่อเธอส่งเสียงออกมา

 

เฮ้ย อาซาฮินะ อย่าบอกนะว่าเธอตื่นเต้นโดยสิ่งนั้น อย่าบอกนะว่าเธอมีอารมณ์ที่เห็นผมโอบกอดผู้หญิงคนอื่นตรงหน้าเธอ

 

「ฮิ-ฮิซูกิ ซูซูฮาระ-ซามะในที่สุดก็ดีกับเธอแล้ว และแม้อย่างนั้น ทำไมเธอ…เธอจะทำยังไงถ้าเธอสร้างปัญหาให้ซูซูฮาระ-ซามะ? ก่อนเธอจะเติมเต็มความอยากความต้องการ ก่อนอื่นเธอควรจะพิจารณาถึงอีกคนนึงก่อนไม่ใช่เหรอ?」

 

ยืนข้างหลังฮิซูกิ คาซะฮานะเรียกหาเธอผสมกับถอนหายใจ เหมือนแม่ที่พูดกับลูกที่งอแง

 

「แม้ว่าเธอพูดอะไรแบบนั้น ชั้นช่วยมันไม่ได้! ถ้าชั้นไม่พอใจ งั้นชั้นใช้สติร่วมกันกับอาซาฮินะไม่ได้! มันช่วยไม่ได้! ไม่มีทางเลือกนอกจากทำอย่างนั้น」

 

เหมือนเด็ก จริงๆแล้ว ไม่ ฮิซูกิที่เปลี่ยนเป็นเด็กออกบ่นมันกับคาซะฮานะ

 

คาซะฮานะได้มองเธอ จับหน้าผากของเธอด้วยมือหนึ่งและถอนหายใจลึกๆ

 

「โอเน่-ซังอย่าหดหู่มาก ด้วยฮิซูกิที่พูดความรู้สึกจริงๆของเธอออกมา แทนที่จะเป็นอย่างนั้น ชั้นคิดว่ามันดีกว่าที่จะมีความสุขเกี่ยวกับมัน ไม่คิดอย่างนั้นเหรอ?」

 

「ไม่ แต่ สร้างปัญหาให้บางคนที่ชั้นติดหนี้อยู่อย่างซูซูฮาระ-ซามะ…ชั้นอับอายแล้ว……」

 

「ถ้ามันเป็นมาสเตอร์ งั้นมันโอเค มาสเตอร์ใจกว้างกับคนที่เปิดเผยเจตนาที่แท้จริงกับเขา เพิ่มเติมจากนั้น ชั้นแค่คาดเดาแต่ ชั้นคิดว่ามาสเตอร์ชอบฮิซูกิตอนนี้มากกว่าฮิซูกิคนก่อน」

 

「ริกกะ เธอโชคดีจริงๆที่ได้พบกับมาสเตอร์ที่มหัศจรรย์แบบนี้ เทียบกันกับเจ้านายของชั้น……」

 

แม้ว่าริกกะพยายามจะให้เธอรู้สึกดีขึ้น มันดูเหมือนว่าคาซะฮานะได้หดหู่มากกว่าเดิมมากกว่าก่อนหน้า

 

「โมตะ-คุง! ไปห้องน้ำด้วยกันเถอะ! อาซาฮินะ-ซังเป็นงี่เง่ารายใหญ่ ใช่มั้ย?! แม้ว่าเราอธิบายมัน เธอจะไม่เข้าใจมันอย่างแน่นอน! โดยไม่เข้าใจสถานการณ์ปัจจุบัน เพาะมันเป็นอาซาฮินะ-ซัง เธอจะทำมันด้วยตัวเธอเองและสร้างความไม่สะดวกมากมายให้ทุกคน! นั่นทำไมการใช้สติของชั้นร่วมกันกับเธอมันเป็นสิ่งสำคัญ! เราควรจะทำให้มั่นใจว่าเธอเข้าใจสถานะการณ์อย่างแน่นอน!」

 

ฮิซูกิรีบมาทางผมและนำทั้งสองมือของผมไป ขณะที่หัวใจผุดขึ้นมาในนัยน์ตาสีดำ

 

ม่าา เธอมีประเด็นอย่างแน่นอน

 

「เนน่ คามูโระ-ซัง ชั้นโอเคกับที่เธอดูถูกชั้นและเรียกชั้นว่าอีโง่ และชั้นก็โอเคอย่างแน่นอนที่จะดูการกระทำที่ลามกที่มีเธอทั้งสองคนทำมัน แต่ ตั้งแต่เมื่อกี้นี้แล้ว เธอได้เรียกซูซูฮาระ-คุง “โมตะ-คุง” ใช่มั้ย?」

 

อาซาฮินะพึมพำเงียบๆ จ้องฮิซูกิที่ยืนขึ้นอย่างไม่มั่นคง

 

「มันอะไรล่ะ? แม้ว่าชั้นเรียก โมตะ-คุง โมตะ-คุง โมตะ-คุงดูไม่เหมือนว่าจะปฏิเสธมัน งั้นอาซาฮินะไม่มีสิทธิที่จะบ่นเกี่ยวกับมัน ชั้นพูดถูกมั้ย」

 

ระหว่างจับมือทั้งสองของผม ฮิซูกิมองอาซาฮินะที่ยืนขึ้นและยิ้ม

 

「คนเดียวที่อนุญาตให้เรียกซูซูฮาระ-คุง “โมตะ-คุง” คือแม่และยูกะ ยูกะได้รับการอนุญาตโดยตรงจากแม่เพื่อเรียกเค้าแล้ว ถ้าเธอเข้าใจมัน งั้นก็อย่างคิดแต่เรื่องเดียวสิ」

 

「เธอไม่ซื่อสัตย์กับความรู้สึกเธอเลยนะ แม้ว่าโมตะ-คุงพูดว่าให้ซื่อสัตย์กว่านี้ ไม่ใช่เธอเป็นคนที่ไม่ซื่อสัตย์ที่สุดเหรอ? เมื่อชั้นเรียกโมตะ-คุง โมตะ-คุง เรียกเค้า “นาย” ไม่สนุกอีกต่อไปแล้วใช่มั้ยล่ะ? เธอโทษนั่นกับยูกะ-ซังได้」

 

「ธ-เธอจะหาเรื่องสู้กับชั้นเหรอ?」

 

「อย่างโชคร้าย ชั้นเป็นผู้ชนะครั้งนี้ เพราะเธอผิด อย่างที่คาดกับคนแม้แต่แบบเธอ เธอเข้าใจว่าเธอเดินหน้าต่อไปไม่ได้เมื่อเธอรู้ว่าเธอผิด」

 

ได้ยินคำพูดของคามูโระ ฮิซูกิ อาซาฮินะดูเหมือนเธอจะวิ่งหนี หันหน้าของเธอไปขณะที่กำมือของเธอแน่นและกัดปากล่างในความโมโห

 

เฮ้ย เฮ้ย จริงๆเหรอ? อาซาฮินะถูกกดดัน

 

「ชั้นรักโมตะ-คุง!」

 

ฮิซูกิพูดมันระหว่างที่หน้าแดงอย่างสมบูรณ์

 

อาซาฮินะกระตุกจากการได้ยินประโยคนั้น

 

「พ-พูดได้ดีมาก ฮิซูกิ! บราโว่!」

 

「อ่ะฮ่าฮ่า ฮิซูกิได้เป็นผู้ใหญ่แล้ว」

 

ได้ยินคำพูดของฮิซูกิมาจากก้นบึ้งของหัวใจ คาซะฮานะและริกกะได้ปรบมือ

 

「ชั้นอยากมีมีเซ็กส์กับโมตะ-คุง」

 

ฮิซูกิส่งเสียงของเธอดังขึ้นไปอีก

 

ได้ยินคำพูดของเธอ อาซาฮินะที่สั่นได้ถอยกลับไป

 

อ-อาซาฮินะนั่นถอยเรอะ?

 

「ฮิ-ฮิซูกิ เธอตรงไปตรงมามากเกินไป! แต่มันเป็นเรื่องดีที่พูดความรู้สึกจากใจออกมา!」

 

「อ่ะฮ่าฮ่า มีเซ็กส์กับมาสเตอร์เป็นความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ชั้นสลบไปนับครั้งไม่ถ้วนแหน่ะ」

 

ได้ยินฮิซูกิพูดมันออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจแม้ว่าฮิซูกิอายนิดหน่อย คาซะฮานะและริกกะสนับสนุนเธอ ริกกะพูดเกี่ยวกับประสบการณ์ส่วนตัวของเธอในความสับสน

 

「ชั้นอยากจะถูกรักโดยโมตะ-คุง! ชั้นอยากจะถูกหวงแหน! หลังจากที่เราสร้างความรักให้กันและกัน ชั้นอยากจะจีบกับเค้าภายใต้ผ้านวม! หลังจากนั้น ชั้นอยากจะกอดกันและรู้สึกถึงความอบอุ่นของกันและกัน ระหว่างที่หลับไป!」

 

ดูเหมือนเธอไหม้และเกือบจะร้องไห้ ฮิซูกิได้หน้าแดงอย่างสมบูรณ์ขณะที่กระทืบเท้าของเธอระหว่างที่ส่งเสียง

 

หันหน้าหนีไปจากฮิซูกิ รู้สึกถึงแรงกดดัน อาซาฮินะถอยกลับอย่างช้าๆ

 

เฮ้ย เฮ้ย จริงๆอ่ะ? อาซาฮินะถูกต้อนจนมุมอย่างสมบูรณ์

 

「ฮิ-ฮิซูกิ! ถ้าเป็นไปได้ ชั้นอยากจะเข้าร่วมด้วย!」

 

「เนน่ โอเน่-ซัง เธอไม่ควรจะเข้าไปขวางทางนะ……」

 

สึโคมิที่งี่เง่าของพี่สาวน้องสาวโลลิจากข้างหลังสามารถได้ยิน

 

「อาซาฮินะ-ซัง!」

 

ขณะที่ฮิซูกิกระทืบเท้าของเธอไปที่พื้น เธอเรียกชื่อของอาซาฮินะ

 

「อ-อะไร ห-เหมือนที่ชั้นพูด ทำตามใจเธอเลย……」

 

มันเป็นเสียงสั่นที่อ่อนแอไม่เหมือนอาซาฮินะ และคำพูดนั้นเป็นคำจากที่เธอรับรู้ความพ่ายแพ้

 

ว้าว ฮิซูกินั่น ชนะอาซาฮินะได้จริงๆ

 

ไม่ได้ใช้ความสามารถของเธอ มันไม่เกี่ยวกับความสามาระของเธอ อาซาฮินะยอมรับความพ่ายแพ้จากการถูกข่มขู่โดยเธอที่ตะโกนความรู้สึกจากใจออกมา

 

อาซาฮินะหันหน้าของเธอหนีไปและกอดตัวเธอเอง มันเหมือนกับเธอเป็นลูกหมาถูกทิ้งที่สั่น

 

มองดูอาซาฮินะในสภาพรูปร่างหน้าตาแบบนี้ ความเย็นวาบวิ่งผ่านสันหลังผม

 

คุคุคุ เกิดอะไรขึนอาซาฮินะ-จัง? เป็นไปได้มั้ยว่าเธออารมเสียเกี่ยวกับความจริงที่ชั้นได้ถูกเอาไปโดยฮิซูกิ? แต่เป็นเพราะเธอไม่จริงใจกับความรู้สึกของเธอ เธอพูดอะไรกลับกับฮิซูกิไม่ได้?

 

มีฝั่งที่มหัศจรรย์ของเธอด้วยเหมือนกัน

 

「โอเค นั่นพอแล้ว ฮิซูกิ ไปอาบน้ำด้วยกันเถอะ」

 

「ค-ค่ะ♥ไวววว้*♥」

TLN: วาอิ ไชโย

 

ได้ยินคำพูดของผม หน้าของฮิซูกิเต็มไปด้วยความสุขขณะที่เธอเดินกระโดด

 

ขณะที่ผมรับข้อเสนอของฮิซูกิ อาซาฮินะมองผมกระทันหัน และน้ำตาเอ่อขึ้นมาในตาทรงอัลมอนด์ จากนั้นเธอหันไปทางอื่นอีกครั้งอย่างรวดเร็ว

 

อะไรวะอาซาฮินะ เธอแค่พูดได้ว่าเธอไม่อยากเห็นฮิซูกิและผมจีบกันและอาบน้ำด้วยกัน

 

ไม่พูดมันเหรอ? เธอจะไม่พูดมันเหรอ? เธอจะมุ่ยจิงใจเหยอ? อะร้า ฉันเค้าใจแย้ว

 

ผมพบจุดอ่อนของอาซาฮินะ

 

อาซาฮินะอ่อนแอกับการโต้แย้งที่มีเหตุผล

 

ฟุฟุฟุ นี่มันดี นี่มันน่าสนใจ

 

อาซาฮินะะะ ผมจะทำความสะอาดความเกลียดที่มีต่อเธอมาช้านาน

 

ข้อความจากผู้เขียน

 

ฮิซูกิ 「ชั้นต้องทำบางอย่างก่อนมารินะ-ซังมา!」

 

คาซะฮานะ 「ทำเต็มที่นะ ฮิซูกิ! กันบาเระ! กันบาเระ!」

 

ริกกะ 「ชั้นไม่คิดว่าเธอเป็นคู่ต่อสู้ที่เธอแค่พยายามเต็มที่ได้……ยูกะ-ซังก็อยู่ที่นั่นด้วย」

 

 

 

TLN: จะปล่อยเป็นวันเว้นวันนะครับ ระหว่างรอขอแนะนำเรื่องถนนสู่อาณาจักรเป็นเรื่องที่ผมแปลอีกเรื่องครับ

ขอบคุณสำหรับเงิน 25 บาท

ขอบคุณสำหรับเงิน 50 บาท

ขอบคุณสำหรับเงิน 200 บาท

เวอร์ชั่นไม่เซ็นเซอร์อ่านได้ที่ tunwalai หรือ readAwrite

สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่

067-3-63958-5

กสิกรไทย

 

แปลโดย: wayuwayu

ติดตามได้ที่ดิสคอทส่งข้อความมาขอได้ที่ facebook: “wayuwayu แปล”

pdfไว้อ่านตอนกลางคืน  สปอนเซอร์ตอน จองตอน หารได้ ได้ทั้ง facebook และ discord

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เอ็กซ์เรย์เป็นมากกว่าที่ฉันคิด – X-ray Is More Than I Thought 91

Now you are reading เอ็กซ์เรย์เป็นมากกว่าที่ฉันคิด – X-ray Is More Than I Thought Chapter 91 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 91

 

เวอร์ชั่นไม่เซ็นเซอร์อ่านได้ที่ tunwalai หรือ readAwrite

 

ตอนนี้ผมอยู่ที่ห้องนอนของทามะมูชิ

 

นั่นอยู่บนเตียง คามูโระ ฮิซูกิเกี่ยวแขนของเธอไปรอบของผม และพิงหัวของเธอไปที่ไหล่ผมกอดใกล้กับผม

 

「อ๊าา♥ มันเหมือนเป็นความฝันเลย♥」

 

ด้วยแก้มของเธอที่ย้อมเป็นสีแดง คามูโระ ฮิซูกิพึมพำขณะที่เธอปิดตาของเธอและปล่อยถอนหายใจที่ร้อน

 

ผมเห็นด้วย ถ้าเป็นไปได้ ผมหวังให้นี่เป็นความฝัน

 

ทำไมคุณถามว่าผมอยู่คนเดียวในห้องนอนกับคามูโระ ฮิซูกิ คุณพูด? ยังไงซะ มีหลายสถานการณ์

 

เพื่อที่จะสรุปการสนทนาของเราทั้งหมดที่เราเพิ่งมีเมื่อกี้ เราตัดสินใจที่จะตามคำแนะนำของคามูโระ ฮิซูกิ ซึ่งคือการนำ มารินะ, ยูกะ, และยูกินะ มาในการดำเนินการครั้งนี้

 

อย่างไรก็ตาม ถ้าพวกเธอได้ปฏิเสธข้อเสนอของพวกเรา จากนั้นเรามีเจตนาที่จะถอยกลับอย่างเชื่อฟัง

 

พูดอีกอย่างคือ เราใช้ข้อเสนอของอาซาฮินะ

 

นั่นทำไมผมมีแผนที่จะไปรับมารินะ, ยูกะ, และยูกินะ แต่ก่อนหน้านั้น มีบางอย่างที่ผมต้องทำ

 

ในสถานการณ์ก่อนหน้า ข้อมูลเกี่ยวกับองค์กรอนุรักษ์ธรรมชาติ สามารถพึ่งพาความรู้ของทามะมูชิได้

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อคามูโระ ฮิซูกิได้เข้าร่วม นั่นเปลี่ยนสถานการณ์ของเราอย่างสมบูรณ์

 

คามูโระ ฮิซูกิที่สามารถจะเข้าใจทุกอย่างที่เกิดขึ้นใน “ปัจจุบัน” อย่างสมบูรณ์ ชัดเจนว่าสามารถที่จะเข้าใจข้อมูลเกี่ยวกับองค์กรอนุรักษ์ธรรมชาติอย่างสมบูรณ์แบบด้วย

ไม่ มันดีกว่าที่จะพูดว่าเธอไม่ได้เข้าใจมันอย่างสมบูรณ์ การแบ่งปันข้อมูลมีลำดับความสำคัญเหนือสิ่งอื่น

 

หัวใจหลักในการจะทำแผนปฏิบัติการคือข้อมูล

 

เพราะก่อนหน้าที่คุณจะมุ่งหน้าเข้าไปสู้ คุณได้กำหนดว่าใครจะเป็นผู้ชนะคร่าวๆไปแล้วด้วยการได้มาซึ่งข้อมูล

 

หนึ่งในปัจจัยของชัยชนะคือการรู้ว่าจะได้มาซึ่งข้อมูลของศัตรูได้ยังไง และเนื่องจากตัวตนของคามูโระ ฮิซูกิ เราได้อยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบอย่างท่วมท้น

อย่างไรก็ตาม มันทั้งหมดจะไร้ความหมายถ้าคามูโระ ฮิซูกิเก็บข้อมูลไว้กับตัวเธอเอง

 

ดังนั้น เราต้องกระทำกระบวนการที่จะมอบบางอย่างสำหรับข้อมูล เพื่อที่จะให้เธอมอบมันมาให้เรา

 

『ก-เกี่ยวกับสิ่งนั้น……มีบางอย่างที่ชั้นต้องพูด……』

 

ด้วยอาซาฮินะ, ริกกะ, คาซะฮานะ, และทามะมูชิ รวมอยู่ในห้องนั่งเล่น ถามว่าอะไรที่คามูโระ ฮิซูกิ ต้องการในการตอบแทนกับข้อมูล คามูโระ ฮิซูกิ เริ่มจะอยู่ไม่สุข และเธอแก้มแดงไปถึงหูเธอ และมอบการชำเลืองมองเร็วๆมาให้ผม

 

ผมมีความรู้สึกที่ไม่ดีเกี่ยวกับสิ่งนี้ ความรู้สึกที่ไม่ดีสุดขีด

 

『อ-อธิบายมันเป็นคำพูดมัน…อืมม…มันจะแค่ทำให้เราเสียเวลา… แล้วก็…ชั้นไม่เก่งกับคำพูดของชั้น…ดังนั้นชั้นไม่มีความมั่นใจที่จะอธิบายมันดีๆ……』

 

คามูโระ ฮิซูกิพูดขณะที่เธออยู่ไม่สุขต่อไป ดั่งเธอเป็นหญิงสาว “ไร้เดียงสา” ระหว่างที่ชำเลืองมองผมอย่างรวดเร็วด้วยความเขินอาย

 

เธอรู้มั้ยว่าพูดไม่เก่งมันหมายความว่ายังไง? คือที่ผมอยากจะแทรกเข้าไปและพูดมัน แต่ผมคิดว่าถ้าผมเคลื่อนไหวผิดตอนนี้ งันเราจะไม่สามารถเดินหน้าได้ ดังนั้น สำหรับเวลานี้ ผมตัดสินใจจะให้คามูโระ ฮิซูกิพูดอะไรก็ตามที่เธอต้องการ

 

『อ-อย่ามาอธิบายเป็นคำพูดเถอะ แต่แทนอย่างนั้น ถ้าเราเชื่อมต่อสติของเราเข้าด้วยกัน มันเป็นไปได้ที่พวกนายจะสามารถเข้าใจข้อมูลที่ชั้นมีตอนนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ชั้นคิดว่าทำอย่างนั้นจะดีกว่า……』

 

ใช้สติร่วมกัน ถ้าเธอทำอะไรบางอย่างแบบนั้นได้ ทำมันสิ ผมอยากจะให้เธอทำ คือที่ผมอยากจะพูด แต่ผมไม่สามารถพาตัวเองไปพูดมันได้

 

ถ้าใช้สติร่วมกันมันเรียบง่ายขนาดนั้น งันไม่มีเหตุผลที่คามูโระ ฮิซูกิจะอยู่ไม่สุขอย่างเขินอาย พูดอีกอย่าง มีเงื่อนไขเฉพาะที่จำเป็นสำหรับการทำมัน มากกว่านั้น แค่จากการดูพฤติกรรมของคามูโระ ฮิซูกิ ผมสามารถจะรู้ได้คร่าวๆว่าเงื่อนไขมันคืออะไร

 

『เราต้องเชื่อมต่อกัน ล-ลึกๆ ลึกๆ ลึกๆ ลื้กกกกกกกกลึก♥ กับกันและกัน♥』

 

หน้าแดงอย่างคึกคะนอง คามูโระ ฮิซูกิมองผมด้วยตาที่เปียก อย่างที่ผมคาด

 

การเชื่อมต่อที่ลึกๆ นั่นหมายถึงมีเซ็กส์

 

เราต้องเปลือยกอดกัน? หรือเราต้องพันลิ้นกัน? หรือมันคือเราต้องเชื่อมต่ออวัยวะเพศของเราอย่างมั่นคง?

 

ผมตัดสินใจตรงนี้ไม่ได้จริงๆ แต่ผมคิดว่ามันเป็นการเชื่อมต่ออวัยวะเพศของเราเข้าด้วยกัน

 

ยังไงซะ ทั้งหมดมันขึ้นอยู่กับว่าถ้าคามูโระ ฮิซูกิได้พูด “ความจริง”

 

พูดจากใจ ผมสงสัยว่าที่เธอพูดจริงมั้ย อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเราได้ถูกหลอกโดยเธอ เราจะไม่ได้รับความเสียหายจากมัน ดังนั้น มันแค่มาอยู่ที่ผมว่าผมทนมันได้มั้ย

 

แล้วก็ ถ้าคามูโระ ฮิซูกิ โกหกจริงๆ จากนั้นผมจะไม่มีวันเชื่อเธออีกครั้ง ตัวของคามูโระ ฮิซูกิเองก็น่าจะรู้เรื่องนั้น

 

งั้น เธอจะแค่โยนทุกอย่างทิ้งเพื่อที่จะได้ทำมันกับผมครั้งหนึ่งเหรอ?

 

ถ้ามันเป็นคามูโระ ฮิซูกิ งั้นมันก็มีความเป็นไปได้ แต่ ถ้าเธอบอกความจริงจริงๆ ถ้างั้นราคาที่ต้องจ่ายมันเล็กน้อยเมื่อเทียบกับข้อมูลที่ได้รับ

 

『ได้เลย ชั้นเชื่อใจเธอ ถ้าเธอโอเคกับชั้น งั้นชั้นจะทำทุกอย่าง เธอบอกให้ชั้นให้ทำอะไรก็ได้』

 

ผมบอกคามูโระ ฮิซูกิ

 

ผมจงใจเลือกคำพูดผมอย่างระวังเพื่อที่จะหมายความมันว่าผมเชื่อใจเธอ

 

ผมถือเจตนาในการหมายความมันกับคามูโระ ฮิซูกิว่าถ้าเธอหลอกผม งั้นผมจะไม่มีวันเชื่อซักคำพูดที่ออกมาจากปากเธออีกครั้ง

 

คามูโระ ฮิซูกิ ได้กลัวกับคำพูดผมอย่างชัดเจน

 

มันเหมือนกับว่าเธอไม่ได้คาดหวังให้ผมเห็นด้วยกับข้อเสนอเธอ

 

มันเป็นการแสดงของคามูโระ ฮิซูกิหรือมันเนื่องจาก “การคาดเดาอนาคตที่คลุมเครื่อ”

 

มันเลี่ยงไม่ได้ที่จะคิดเกี่ยวกับมัน แม้ว่าคามูโระ ฮิซูกิพูดว่าความสามารถผมทำงานได้ปรกติ แต่เพราะผมไม่สามารถ “เห็น” ผมช่วยไม่ได้นอกจากคิดเกี่ยวกับมัน

 

อย่างไรก็ตาม ผมขายตัวผมเพื่อที่จะให้ได้ข้อมูลมา

 

ผมตัดสินใจจะทิ้งทุกอย่างไว้ในมือของคามูโระ ฮิซูกิ

 

โดยเฉพาะสำหรับเวลาแบบนี้

 

「แล้วเราต้องเชื่อมต่อกันนานแค่ไหน?」

 

หลังจากที่นั่งอยู่บนเตียงประมาณ 30 นาที ผมเรียกออกไปและถามคามูโระ ฮิซูกิที่ไม่ทำอะไรนอกจากกอดผม

 

「อ่ะ อะโน อะโน อโนเดสุ เนะ♥ โซโนะ อะโน มันคือ…♥ น-นายพูดว่านายไม่เข้าใจที่ชั้นพูดเหรอ…?♥」

 

คามูโระ ฮิซูกิ ที่ได้พิงหัวของเธอที่ไหล่ผมตลอดเวลานี้ยกหัวของเธอขึ้นและมองผม ถามในเสียงที่สั่น

 

เธอหน้าแดงมากจนมันเหมือนกับหน้าเธอไหม้ และมองผมด้วยตาสีดำที่มีหัวใจลอยอยู่ในนัยน์ตา ผมเห็นตัวเองสะท้อนจากตาของเธอได้ เหมือนกับการมองริมฝีปากของคามูโระ ฮิซูกิ มันได้บอกผมว่าเธอกลัว

 

มันดูเหมือนเธอไม่ได้โกหก

 

ไม่ โดยไม่มีความสามารถผม การตัดสินของผมได้ทื่อลงไป

 

พูดอีกอย่างผมตอนนี้ “ถูกหลอกง่ายๆ”

 

อย่างไรก็ตาม ผมเตรียมพร้อมที่จะถูกหลอก

 

ถ้าคามูโระ ฮิซูกิได้พูด “ความจริง” งั้นมูลค่าของข้อมูลนั้นไม่สามารถที่จะวัดค่าได้ สำหรับสิ่งนั้น ผมเตรียมพร้อมจะขายตัวผมให้เธออย่างทั่วถึง ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป อย่าลังเล ไปอย่างบริสุทธิ์และเสนอทุกอย่าง

 

「ชั้นบอกเธอว่าชั้นจะทำทุกอย่าง ชั้นจะทำตามที่เธอบอก ชั้นขอโทษแต่ชั้นไม่เก่งกับการจัดการกับเธอ ชั้นทำอะไรไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องนั้น」

 

พูดสิ่งนั้น คามูโระ ฮิซูกิ เธอส่ายหัวของเธอ

 

「ชั้นเข้าใจอย่างสมบูรณ์ว่านายขยะแขยงชั้น♥ แต่ถึงยังไง ชั้นไม่รู้สึกถึงอะไรนอกจากคำขอบคุณสำหรับนายที่ยอมรับชั้น♥」

 

ระหว่างมองผมด้วยนัยน์ตารูปหัวใจ คามูโระ ฮิซูกิกระซิบในหูผมด้วยเสียงหวาน

 

ผมดำยาวที่งดงามและตาปลายตก ผิวขาวดุจหิมะและตัวผู้หญิงที่กลม ระหว่างที่ยังใส่ชุดนักเรียนของเธอ เธอดันก้อนเนื้อใหญ่ทั้งสองมาใส่หน้าอกผม

 

การการตัดสินรูปร้างหน้าตาของเธอ เธอเป็นสาวสวยที่สู้กับความสวยของอาซาฮินะได้

 

สาวสวยที่ไม่มีใครจะบ่นซักคำถ้าเขาได้ทำมันกับเธอ และแม้อย่างนั้น ทำไมผมรู้สึกเกลียดชังต่อสาวคนนี้อย่างยิ่งใหญ่ล่ะ?

 

อย่างไรก็ตาม พูดจากใจ มันดูเหมือนความรู้สึกขยะแขยงกับเธอได้เบาลงจากก่อนหน้า

 

ถ้ามันไม่ใช่อย่างนั้น ไม่ว่าผมจะได้กับมันมากแค่ไหน ผมน่าจะไม่มีวันอนุญาตให้ตัวผมอยู่ในห้องตามลำพังกับคามูโระ ฮิซูกิ

 

「ชั้นคิดว่ามันมาจากความสามารถของชั้นอย่างแน่นอน♥」

 

คามูโระ ฮิซูกิพูด เธอเห็นผ่านความคิดของผมเหรอ?

 

「พลังของตาแห่งสววรค์มันมหาศาล♥ ไม่ มันแข็งแกร่งเกินไป♥ มันเป็นความสามารถที่ควบคุมไม่ได้ แม้แต่คนระดับปานกลางอย่างชั้นยังรับมือไม่ได้♥ แต่ถ้ามันเป็นนาย มันอาจจะมีความเป็นไปได้ที่จะสามารถควบคุมมัน♥ ถ้าตัวชั้นก่อนหน้าได้ปลุกตาแห่งสวรรค์ให้ตื่น งั้นความสามารถของชั้นจะแผลงฤทธิไปแล้ว♥ ชั้นจะมุ่งหน้าไปสู้เส้นทางแห่งการทำลางล้างอย่างแน่นอน♥ นั่นคือทำไมนายถึงเกลียดชั้น♥ ดังนั้นนายตัดสินใจว่าชั้นเป็นสิง่มีชีวิตที่อันตรายและพยายามจะเลี่ยงชั้น ♥」

 

ผมเข้าใจว่าคำพูดของคามูโระ ฮิซูกิมาจากไหน

 

จากคำอธิบายของทามะมูชิ ลักษณะเฉพาะดั้งเดิมของความสามารถของผมคือการมองเข้าไปในใจคนและนำทางมัน ในเวลาเดียวกัน มันมีความเป็นไปได้ที่จะปลุกพลังเหนือธรรมชาติให้ตื่น หรือเพิ่มระดับพลังของมันมากขึ้นไปอีก

 

นั่นทำไมผมหนีคามูโระ ฮิซูกิด้วยสัญชาติญาน เนื่องจากเธอเป็นสิ่งมีชีวิตที่อันตราย

 

งั้นสถานการณ์ตอนนี้ล่ะ?

 

แม้ว่าผมยังค่อนข้างรู้สึกขยะแขยงต่อคามูโระ ฮิซูกิ ผมพยายามจะยอมรับเธอ

 

งั้นนั่นหมายความว่า สัญชาติญานของผมบอกผมว่าคามูโระ ฮิซูกิไม่อันตรายอีกต่อไปเหรอ?

 

「ถูกต้องแล้ว ♥ “โมตะ-คุง” เริ่มที่จะยอมรับชั้นแล้ว♥ แม้ว่าแค่นิดเดียว แค่นิดเดียว โมตะ-คุงเริ่มที่จะรักชั้น♥ แต่มันแค่นิดเดียว แต่มั่นใจได้เลยนะ♥ นายจะไม่ทำชั้นจม♥ นายรักชั้นได้โดยไม่ต้องกังวล♥ มันโอเค♥ ดังนั้นมันโอเค♥」

 

พูดมันในเสียงกระซิบที่หวานเธอมองผมด้วยตาที่เปียก

 

ผมเห็นตาที่ใหญ่ข้างในหัวเธอ

 

ตาแห่งสวรรค์

 

มันมอบความรู้สึกให้ผมว่าทั้งตัวผมถูกกัดกร่อน เหมือนกับผมได้ถูกกลืนโดยมัน

 

ความรู้สึกนี้ ผมได้ถูกชักจูงไปทางจิตใจและจิตวิญญาน ดังนั้นผมได้ถูกควบคุมจิตใจ

 

เฮฮ๋ห์ เข้าใจแล้ว ที่คามูโระ ฮิซูกิพูดไม่ใช่เรื่องโกหก

 

มันดูเหมือนว่าความสามารถผมอยู่ในสภาพใช้การไม่ได้ แต่ผมสามารถ “ระวัง” กับการเหนี่ยวนำทางจิตใจของคามูโระ ฮิซูกิ

 

และเห็นได้ชัดว่า มันดูเหมือนพลังของการต้านทานทางจิตใจทำให้มัน “มีผลน้อยลง” เพราะ ผมสามารถที่จะ “เข้าใจ”

 

พูดอีกอย่าง แม้ความสามารถของผมจะอยู่ในสภาพที่ใช้การไม่ได้ มันยังทำงานปรกติอยู่

 

ตาแห่งพื้นดินและตาแห่งสวรรค์อยู่ตรงข้ามกันคนละขั้วโลก บางทีเนื่องจากความสามารถผมแสดงผลในสภาพที่ใช้งานไม่ได้ ตาแห่งสวรรค์ไม่สามารถที่จะแทรกแซงสภาพจิตใจผมได้

 

「งั้นนี่คือการควบคุมจิตใจ ถ้ามันเป็นคนปรกติ งั้นพวกเค้าจะตกอยู่ในสภาพถูกล้างสมอง แต่เธอรู้มั้ยว่าประสิทธิภาพของมันเล็กน้อยเมื่อใช้กับชั้น」

 

พูดมันกับคามูโระ ฮิซูกิ เธอหัวเราะมันอย่างไม่เคารพและแลบลิ้นของเธอออกมา

 

「ทั้งหมดนี้ งั้นมันล้มเหลวเหรอ? ชั้นขอโทษ ชั้นอยากจะลองมันจริงๆน่ะ」

 

โดยไม่เขินอายเกี่ยวกับมัน คามูโระ ฮิซูกิหัวเราะ

 

「มันเลยความคาดหวังของชั้นไปจริงๆสำหรับนายที่จะยอมรับชั้น ดังนั้น บางที ชั้นคิดว่าชั้นกัดกร่อนสติของนายโดยไม่รู้ตัว ดังนั้น ชั้นได้ลองมัน แต่มันดูเหมือนว่านายไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับมันนะ」

 

คามูโระ ฮิซูกิพูดความจริงหรือโกหก?

 

มันดูเหมือนว่าเธอล้มเหลวที่จะล้างสมองผม เธอใช้ข้ออ้างนั้น แต่ผมก็คิดด้วยว่าความสามารถของเธอได้แข็งแกร่งเกินไปและเธอสับสน

 

「และ? เราจะใช่สติร่วมกันยังไง?」

 

มันช่วยไม่ได้ที่จะคิดเกี่ยวกับมัน ดังนั้นผมคิดว่าผมควรจะรีบเข้าและตรงไปที่จุดประสงค์หลัก ดังนั้น ผมถามคำถามนั้นกับคามูโระ ฮิซูกิ

 

「น-นั่น…นั่นมัน…อืมม…ชั้นไม่รู้จริงๆ……ชั้นขอโทษ」

 

คามูโระ ฮิซูกิมองผมด้วยสายตามองบนและตอบคำถามผม ขัดแย้งกับที่เธอพูดมาก่อน

 

“ชั้นไม่รู้จริง”? มันเป็นเธอที่บอกทุกคนเกี่ยวกับกระบวนการของมัน แต่กระนั้น เธอหมายความว่ายังไงเธอไม่รู้

 

「ช-ชั้นรู้ว่าจะใช้ร่วมกันได้ยังไง และชั้นรู้ว่าเราจะเชื่อมต่อหัวใจเราลึกๆได้ยังไง อย่างไรก็ตาม ชั้นไม่รู้ว่าจะทำกระบวนการต่อยังไง ชั้นขอโทษจริงๆที่ให้คำตอบคลุมเครือนี้กับนาย」

 

พูดอย่างนั้น คามูโระ ฮิซูกิก้มหัวของเธอ ดูขอโทษขอโพย

 

พูดว่าเธอไม่รู้เกี่ยวกับมัน งั้นแล้วผมจะรู้มันได้ยังไงวะ?

 

เราจะทำอะไรดี?

 

「งั้นนั่นหมายถึงเราต้องลองหลายๆอย่าง? ชั้นไม่ถือมันจริงๆถ้ามันเป็นแบบนั้น?」

 

พูดมันกับคามูโระ ฮิซูกิ ตามองบนของเธอเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มที่มีชีวิตชีวา

 

「ข-ขอบคุณมากค่ะ♥」

 

มองดูมีความสุขมาก เธอขอบคุณผมด้วยแก้มที่ย้อมเป็นสีแดง

 

มองเธอแบบนี้ เธอเหมือนเป็นสาวปรกติจริงๆ แม้ว่าเธอได้ปลุกตาแห่งสวรรค์ของเธอให้ตื่นได้ไม่นาน มันดูเหมือนว่าเธอได้ “ดี” มากขึ้นกว่าแต่ก่อน

 

ที่สุดของทั้งหมด มันเป็นเพราะเธอสามารถเห็น “ทุกอย่างในปัจจุบัน” และ “อนาคตที่คลุมเครื่อ” ใช้ประโยชน์กับนั้น เธออาจจะแสดงทำเป็น “สาวปรกติ”

 

เพื่อที่จะใช้สติเราร่วมกัน ผมตามคำแนะนำของคามูโระ ฮิซูกิตามนั้นและนั่งลงบนที่เตียง และตรงหน้าผม คามูโระ ฮิซูกิก็นั่งอยู่ที่เตียงด้วย เราทั้งสองหันหน้าเข้าหากัน

 

「ง-งั้น…เรามาลองจับมือกันนะ♥」

 

เอื้อมออกมาด้วยสองมือ คามูโระ ฮิซูกิ ถามและมองผมด้วยนัยน์ตารูปทรงหัวใจ

 

「เธอเริ่มจากที่ที่มันค่อนข้างพอสมควรเลยนะ」

 

พูดสิ่งนั้นกับคามูโระ ฮิซูกิ ผมจับสองมือของเธอ

 

ขณะที่ผมจับมือของเธอ คามูโระ ฮิซูกิที่สั่น สะดุ้ง รู้สึกอาย เธอมองไปทางอื่นและเริ่มอยู่ไม่สุข

 

รู้สึกถึงความรู้สึกใต้มือผม ผมรู้สึกถึงนิ้วของเธอที่นุ่มและอ่อนโยนอุณหภูมิตัวของเธอต่ำกว่าผม ดังนั้นมือของเธอรู้สึกเย็น

 

「มีอะไร?」

 

กับคำถามผม ยังมองไปทางอื่น คามูโระ ฮิซูกิส่ายหัวของเธอ

 

「งั้นอะไรต่อล่ะ?」

 

เห็นคามูโระ ฮิซูกิได้ชัดเงียบและอาย ผมได้รำคาญและถามคำถามเธอ

 

กับคำถามผม คามูโระ ฮิซูกิสะดุ้งและดูเหมือนเธอกำลังจะร้องไห้ เธอจับมือผมอย่างแน่น

 

――ม-มันน่าอาย นายนำได้มั้ย

 

คามูโระ ฮิซูกิดูเหมือนเธอกำลังจะร้องไห้ ผมบอกได้ว่าเธอต้องการอะไรโดยการมองที่ตาเธอ

 

แม้ว่าเธอบอกให้ผมนำ…แล้วผมจะรู้ได้ยังไงวะเมือนเธอเป็นคนที่ไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อ? ถ้าถ้ามันยังเป็นอยู่แบบนี้ เราจะเสียเวลาเปล่า

 

ดังนั้น ผมเดาว่าผมควรจะนำและลองหลายๆอย่าง

 

ผมรู้สึกอย่างไรก็ไม่รู้ว่าผมได้ติดกับอยู่ในแผนของคามูโระ ฮิซูกิ แต่ผมได้ขายตัวของผมให้เธอไปแล้ว ไม่ว่ามันเป็นกับดักหรือไม่ มันจะเป็นราคาน้อยที่จะต้องจ่ายเพื่อที่เราจะใช้สติร่วมกันและได้ข้อมูลมา

 

「ยังไงซะ งั้น เรามาลองมีเซ็กส์มั้ย?」

 

เพราะทั้งหมด ยังไงเราก็มุ่งหน้าไปทางนั้น งั้นเราอาจจะทำมันให้เสร็จๆไปเลย เพราะฉะนั้น ผมถามตรงๆ

 

คามูโระ ฮิซูกิเด้งด้วยปฏิกิริยาตอบสนองกับคำถามผม และในทันที่ หน้าเธอได้ร้อนขึ้น เธอได้แดงอย่างสมบูรณ์ที่หน้า จากนั้นเธอเริ่มสั่น

 

「อะ อะโน♥ อะโน♥ น-นั่นมัน…♥ ไม่ใช่ว่าเราใช้สิ่งนั้นเป็นตัวเลือกสุดท้ายเหรอ?♥」

 

ระหว่างนำสายตาเธอไปจากทิศทางของผม เธอกระซิบเบาๆขณะที่เธอได้สั่นต่อ

 

แม้ว่าผมจะเห็นด้วยกับนั้น แต่ผิดคาด ผมแนะนำการแก้ปัญหาที่ตรงไปตรงมา

 

ม่าา แม้ว่ามันเป็นการเสียเวลาที่จะลองตัวเลือกอื่น เราก็ยังไม่ถูกต้อนจนมุมในเรื่องนั้นด้วย เพิ่มเติมจากนั้น สร้างหนทางที่จะใช้ความคิดร่วมกัน มีข้อดีที่ยิ่งใหญ่ที่อย่างอื่นไม่มี

 

ถ้าการมีเซ็กส์ไม่เชื่อมต่อความคิดของเรา งั้นนั่นหมายความว่าสำหรับสาวๆ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้ความคิดร่วมกัน

 

「เข้าใจแล้ว อืมงั้น เราควรจะมาลองทางเลือกอื่นมั้ย?」

 

ขณะที่ผมพูดนั่น ผมดึงมือของเธอถือจับผมอยู่ คามูโระ ฮิซูกิที่ตกมาอยู่ในอ้อมกอดผมขณะที่ผมวางมือลงไปบนเอวที่บางของเธอและกอดเธอ

 

คามูโระ ฮิซูกิเริ่มสั่นทั้งตัว เธอกังวลเหรอ?

 

ผมรู้สึกถึงความรู้สึกนุ่มนิ่มที่อกของผมและ กลิ่นหวานหอมเบาๆได้เตะจมูกผม

 

เป็นครั้งแรก ผมบอกได้ว่าเธอมีตัวที่เปราะบางและละเอียดอ่อนจากการกอดเธอ

 

ไม่ว่าเธอจะมีพลังมากเท่าไหน ด้วยตัวที่อ่อนแอและเพราะบางนั้น ทำไมเธอมีประสาทที่กล้าที่จะเผชิญหน้ากับอาซาฮินะตรงๆล่ะ?

 

โอ้ เข้าใจแล้ว แน่นอนว่าในเวลานั้น หลังจากที่เธอเห็นผมหันหลังให้เธอขณะที่เราได้มุ่งหน้ากลับ คิดแล้วว่าเธอแพ้ นั่นทำไมผมคิดว่าความไม่ชอบเธอได้น้อยลงไปเล็กน้อยกว่าแต่ก่อน

 

แต่แม้อย่างนั้น เธอยังอ่อนแออยู่

 

ขณะที่มันดูเหมือนว่า วิธีที่ใจเราจะใช้ร่วมกันมันต้องเกี่ยวข้องกับสภาพจิตใจแน่นอน

 

ดังนั้น ผมไม่คิดว่ามันดีที่จะประหม่าเกินไป ดังนั้นผมต้องผ่อนความเครียดของคามูโระ ฮิซูกิ

 

「กอดกันแบบนี้ซักพักนึง」

 

ระหว่างที่กอดอย่างมั่นคง ผมกระซิบในเสียงที่อ่อนโยน

 

「ค-คคค-ค่ะ♥ ชั้นขอโทษ…♥」

 

ระหว่างที่ถูกโอบกอดอย่างแรงโดยผม คามูโระ ฮิซูกิตอบในความตื่นตกใจ และด้วยเหตุผลบางอย่าง ขอโทษ

 

ไม่มีแม้แต่เหตุผลที่จะให้เธอขอโทษ

 

ม่าา คามูโระ ฮิซูกิรู้ว่าเธอถูกเกลียดโดยผม ดังนั้นผมเดาว่ามันธรรมชาติสำหรับเธอที่จะประหม่าและตื่นตระหนก

 

ผมสงสัยว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่

 

คามูโระ ฮิซูกิที่ถูกกอดโดยออก ค่อยๆผ่อนคลายนิดหน่อยอย่างช้าๆ

 

เธอดูเหมือนจะโอเค ดังนั้นมันโอเคถ้าเราทำมัน

 

ไม่ เดี๋ยว มันมีปัญหากับผมทุกครั้งที่เราพยายามจะทำวิธีอื่น เธอได้ประหม่า มากกว่านั้น ถ้ามันเกี่ยวกับสภาพจิตใจของเรา งั้นมันอาจจะไร้ความหมายถ้าทำให้เสร็จทางกายภาพ

 

ผมได้ขายตัวผมไปแล้ว ผมก็ยังเตรียมตัวมาสำหรับนี่ด้วย ดังนั้น ผมต้องทำให้ต่อ

 

「“ฮิซูกิ” มันโอเค ทิ้งทุกอย่างไว้ให้ชั้น」

 

ขณะที่ผมกระซิบข้างหูของฮิซูกิที่ยังอยู่ในอ้อมกอดของผม ฮิซูกิกระตุกและทั้งตัวของเธอได้แข็ง

 

จากนั้นผมดันฮิซูกิที่อยู่ในสภาพนั้นลง

 

ถ้ากระบวนการใช้สติร่วมกันของเราได้สำเร็จ งั้นผมควรจะรู้สึกว่าสติของเธอได้ไหลเข้ามาในผม

พูดอีกอย่าง ผมไม่ต้องหยุดและตรวจฮิซูกิทุกครั้ง

 

ขณะที่ผมคิดอย่างนั้น ผมจูบและเลียคอที่ซีดบางของเธออย่างอ่อนโยน

 

ฮิซูกิกระตุก

 

เนื่องจากความประหม่า ผิวของเธอได้เหงื่อออกเล็กน้อย ใช้ลิ้นของผม ผมเลียและลูบไล้คอของเธอในท่าทางที่รักใคร่อย่างอ่อนโยน

 

ทุกครั้งที่ผมกระตุ้นคอเธอด้วยลิ้นของผม ฮิซูกิที่สั่นและกระตุกบ่อยๆ ได้ปิดปากของเธอและกำหมัดเหมือนเธอพยายามจะเก็บเสียงของเธอ

 

ผมทำมันด้วยความระวัง และในวิธีที่มีเป้าหมายในการแก้ปมในหัวใจผู้หญิง

 

เท่าที่ผมรู้ มารินะคือคนที่ไม่เป็นมิตรกับผม และประหม่าและระวังตัวสูง มันเป็นประสบการที่เรียบง่ายและรู้สึกดี ที่บรรเทาความไม่เป็นมิตร, ความประหม่า, และความตึงเครียดกับผม มันเพราะผมมีเป้าหมายไปที่จุดอ่อนของเธอและให้เธอแตกนับครั้งไม่ถ้วน อย่างไม่หยุดหย่อน

 

ถ้านั่นเป็นอย่างนั้น งันผมจะให้ฮิซูกิแตกในแบบเดียวกันนับครั้งไม่ถ้วน และหลังจากนั้น มันควรจะผ่อนความเครียดของเธอ

 

อย่างไรก็ตาม เพราะความสามารถผมไม่สามารถทำงานได้ปรกติ ผมไม่มีความคิดเลยว่าจุดอ่อนของฮิซูกิอยู่ไหน

 

ถ้ามารินะ หรือยูกะเป็นคู่ของผม ยังผมมีความมั่นใจที่จะให้เธอแตกได้โดยไม่ต้องใช้ความสามาถ แต่สำหรับกรณีของฮิซูกิข้อมูลที่ผมมีกับเธอนั้นน้อยนิดมากเกินไป ดังนั้นผมไม่มีความมั่นใจที่จะทำแบบนั้น

 

ผมไม่รู้ว่ามันจะเป็นไปได้มั้ยที่จะทำให้เธอแตก โดยไม่ได้รับความช่วยเหลือจากความสามารถของผม

 

「อ่ะ อะโน…♥」

 

ระหว่างที่ผมกังวลเกี่ยวกับมัน ฮิซูกิเรียกผม

 

「ถ-ถ้านายเป็นคู่ของชั้น (สำหรับการมีเซ็กส์) งั้นชั้นก็มีความสุขแล้ว♥」

 

ระหว่างที่สั่น ฮิซูกิพยายามที่จะส่งเสียงของเธออย่างสิ้นหวัง ได้ยินคำพูดนั้น “อา เข้าใจแล้ว” คือที่ผมคิด

 

แม้ว่าผมคุ้นเคยกับการ “มอง” ในหัวใจ(ความคิด) คนอื่น ผมไม่ชินกับการที่คนอื่นมองเข้ามาในของผม

เพราะสิ่งนั้น ผมชอบที่จะลืมว่าฮิซูกิสามารถที่จะ “เห็น” ความคิดของผม

 

「ความผิดของชั้นเอง ชั้นถูกจับคาหนังคาเขาว่าเพื่อที่จะให้ได้ข้อมูลจากเธอ ชั้นแกล้งปฏิบัตกับเธอในฐานะ “ผู้หญิง”」

 

เพื่อแกล้งจะปฏิบัติกับฮิซูกิในฐานะ “ผู้หญิง” เพื่อที่จะให้ได้ข้อมูลมาจากเธอ มันเลือดเย็นมากกว่าการที่เห็นเธอเป็นแค่เครื่องมือ

 

ถ้าผมปฏิกับเธอเป็นเครื่องมือ งั้นเธอน่าจะพอใจ แม้ว่ามันเป็นการโกหก ถ้าผมปฏิบัติกับฮิซูกิในฐานะ “ผู้หญิง” ฮิซูกิจะเข้าร่วมไปกับมันด้วย

 

「ช-ชั้นโอเคกับมัน♥ ช-ชั้นเข้าใจอย่างสมบูรณ์♥ เพราะชั้นเห็นได้ทุกอย่าง♥ ชั้นไม่ใช่ผู้หญิงปัญหาเยอะที่เข้าใจอะไรผิดๆได้ง่ายๆ♥」

 

ผมตัดสินไม่ได้ว่าที่เธอพูดจริงหรือไม่จริง ความคิดนั้นก็ “มองเห็นได้” กับฮิซูกิด้วย

 

มันเป็นความสามารถที่มีปัญหาจริงๆ สำหรับเราสองคน

 

「ชั้นอาจจะเคยกลัว」

 

ฮิซูกิที่ถูกดันลงไปบนเตียงโดยผม มองขึ้นมาที่ผมขณะที่ผมพึมพำ

 

「เธอใกล้ชั้นมากกว่าใครๆ การใช้กำลังจะไม่มีผลกับเธอ ตรงหน้าเธอ ชั้นได้เปลือยอย่างสมบูรณ์ ถ้ามันเป็นเธอ งั้นเธอก็ควรจะรู้ เธอควรจะรู้ว่าชั้นเป็นมนุษย์ที่ไม่เที่ยงและไม่เท่ขนาดไหนที่ชั้นเป็น บางทีมันอาจเป็นเพราะเธอรู้เกี่ยวกับมัน ชั้นพยายามที่จะปฏิเสธมัน」

 

ผมสามารถที่จะได้มาซื้อตำแหน่งที่ได้เปรียบอย่างแน่นอนโดยการใช้ความสามารถของผม หาประโยชน์จากสิ่งนั้น ผมเล่นไปทั่วกับมารินะและยูกะ ผมพบว่ามันสนุกระหว่างที่ทำมัน

 

อย่างไรก็ตาม กับคนนั้น มันจะไม่มีผล

 

ถ้าให้พูดมันอย่างเรียบง่าย มันอาจจะน่ากลัว ผมน่าจะกลัวเกี่ยวกับการที่ธาตุแท้ของผมจะถูกเปิดเผย

 

แต่กระนั้น ด้วยเหตุผลบางอย่างหรืออื่นๆ ผมได้เว้นระยะกับเธอไว้

 

ผมเจอ “สหาย” ที่มีความสามารถคล้ายๆกัน แบกความทุกข์ทรมานแบบเดียวกัน เดินทางคล้ายกันบนชีวิต

 

เธอเป็นเพียงคนเดียวที่เข้าใจผมได้ และบางคนที่ผมเรียกได้ว่าเป็นสหาย

 

ฮิซูกิและผมเหมือนสองด้านของเหรียญ

 

ครั้งแรกที่เธอปรากฏตรงหน้าผม ผมควรจะเข้าใจเธอตอนนั้น

 

นั่นคือบางอย่างที่ไม่มีใครทำได้ ไม่แม้แต่คาเซะบานะ*หรือริกกะ

TLN: คาซะฮานะ

 

มันเป็นไปได้ที่จะเข้าใจโดยคนที่มีความสามารถที่คล้ายกันแบบผมเท่านั้น

 

「ได้โปรดหยุด!」

 

ฮิซูกิได้ส่งเสียงกระทันหัน

 

「ได้โปรดหยุดมันได้แล้ว! ชั้นโอเคแม้ว่ามันจะเป็นคำโกหก! มันโอเคถ้ามันเป็นการประดิษฐ์ขึ้นมา! แต่แม้อย่างนั้น ได้โปรด อย่าใจดีกับชั้นมาก! ได้โปรด อย่ามองชั้นด้วยสายตาที่อ่อนโยนแบบนั้น! ชั้นจะเข้าใจเจตนานของนายผิดไป! ชั้นจะเข้าใจผิด!」

 

เอ่อล้นไปด้วยน้ำตา ฮิซูกิร้องออกมาอย่างสิ้นหวัง

 

แม้ว่าเธอจะบอกให้ผมหยุด หัวใจของผมโกหกไม่ได้

 

ถ้าเธอไม่สามารถที่จะ “เห็น” มัน งั้นเราจะดำเนินไปได้โดยไม่ต้องรู้มัน แต่เธอสามารถที่จะ “เห็น” ความคิดของผมได้

 

นั่นเป็นทั้งความสามารถของฮิซูกิและผม

 

「ความผิดของชั้นเอง」

 

「ได้โปรดอย่าขอโทษ!」

 

「ชั้นไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไร」

 

「นั่นเป็นที่ชั้นต้องพูด!」

 

「มันเจ็บปวดมั้ย?」

 

「ความสุขของชั้นเลยผ่านขีดจำกัดไปถึงจุดที่ว่ามันเจ็บ เหมือนกับมันฉีกและทำลายออกมาจากหน้าอกชั้น! มันเจ็บปวด มันเจ็บปวดถึงจุดที่ว่าชั้นอยากที่จะตายมากกว่าเพื่อที่จะบรรเทาความเจ็บปวด!」

 

「ชั้นขอโทษ」

 

「ดังนั้น ได้โปรด อย่าขอโทษ! ได้โปรด อย่าอยู่ดีๆก็มาเสน่หากัน!」

 

ระหว่างที่ร้องไห้ ฮิซูกิยิงการจ้องแบบฆาตกรมาให้ผม

 

แม้ว่าเธอพูดว่าอย่ามาจู่ๆเสน่หา ผมไม่มีเจตนาที่จะทำมัน

 

ผมเพิ่งจะสังเกตมัน

 

ในที่สุดผมก็เข้าใจว่าความหมายมันคืออะไร เมื่อตาแห่งสวรรค์และตาแห่งพื้นดินสะท้อนกัน

 

「มันเป็นความผิดนายที่ความสามารถที่จะเห็นอนาคตไม่ทำงานอย่างถูกต้อง」

 

「เอ๋?」

 

「ตาแห่งสวรรค์มีพลังที่จะเห็น “ความสิ้นหวัง” มันมีจุดจบของทุกอย่าง ตาแห่งสวรรค์มีพลังที่จะ “เห็น” สิ่งต่างๆที่มันจะจบสิ้น แม้ว่าถ้ามีเข็มเล่มเล็กๆ ปลายของเข็มจิ้มผ่านความสิ้นหวังและ “แสดง” อนาคตใหม่ด้วยความหวัง นั่นทำไมตาแห่งสวรรค์ต้องการตาแห่งพื้นดิน นั่นทำไมตาแห่งสวรรค์จะไม่มีตัวตนถ้าไม่มีตาแห่งพื้นดิน ดังนั้น ชั้นไม่มีประโยชน์ตรงหน้านาย」

 

พูดสิ่งนั้น ฮิซูกินำมือขวาของเธอล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อนักเรียนที่เธอใส่แล้วดึงมีดออกมา

 

「นี่เป็นอนาคตที่ชั้น “เห็นมาแล้ว” ชั้นสมควรที่จะตายที่นี่ตรงหน้านาย เพราะเพื่อที่จะสลักตัวชั้นเข้าไปนาย ชั้นอยากจะแสดงให้นายดูว่าชั้นจะฟันคอชั้นและให้เลือดสดๆของชั้นพุ่งออกมาเหมือนน้ำพุ และ ด้วยการนั้น ชั้น “สมควร” ที่จะสลักอยู่ในหัวใจนายตลอดไป」

 

จ้องตรงมาที่ผม ฮิซูกิทิ้งมีดที่เธอถือด้วยมือขวาของเธอ

 

「อุเอ่ะะะ! แต่ชั้นไม่อยากตายอีกต่อไปแล้ว! เพราะชั้นอยากจะเห็นนายมากกว่านี้ นายที่ดีกับชั้น! ชั้นจะไม่สามารถที่จะอยู่โดยไม่มีมันได้อีกต่อไปแล้ว! อนาคตควรจะถูกตัดสินใจแล้ว แต่ชั้นไม่เข้าใจ! ด้วยการที่นายอยู่ข้างชั้น อนาคตได้เปลี่ยนไปตลอด! ชั้นควรจะทำยังไงดี?!」

 

และเหมือนเด็ก เธอร้องไห้

 

「ชั้น “เห็น” อนาคตที่เธอฆ่าชั้น」

 

「ออุ อออุ ฮิ้คุ……ม-มันเป็นจังหวะที่ว่าตาแห่งสวรรค์ได้ตื่น มันเป็นเมื่อนายมาช่วยชั้นผู้ที่ถูกกักตัวอยู่ในชั้นใต้ดินของบ้านทามะมูชิ-ซัง」

 

*ฮิ้คคุ ฮิ้คคุ*

 

เล็ดเสียงสะอื้น เธอตอบคำถามผมในเสียงที่สั่น

 

อาา เวลานั้น แน่นอนว่า ในเวลานั้น มันเป็นเพราะฮิซูกิได้บ้าไปอย่างสมบูรณ์

 

「และ?」

 

「ช-ชั้นได้มุ่งหน้าไปสู่อาซาฮินะ-ซัง และจากนั้นนายก็ออกมา ในเวลานั้นชั้นรู้สึกถึงความรู้สึกที่บิดเบี้ยวของอนาคตที่ “ชะตาที่จะเกิดขึ้น”」

 

มันเป็นเมื่ออาซาฮินะและฮิซูกิมีการต่อสู้ที่เร่าร้อน

 

ผมสงสัยถ้ามันเป็นเพราะเมื่อผมได้เข้าใกล้ฮิซูกิ ความสามารถที่จะเห็นอนาคตของเธอบิดเบี้ยว

 

ทามะมูชิได้พูดมันหลายครั้งว่าตาแห่งพื้นดินมีระยะมีผลที่เล็ก

 

ระยะเต็มที่ของตาแห่งพื้นดินควรจะเป็นระยะเต็มที่ของความสามารถของผม

 

「ม-แม้ว่ามันบิดเบี้ยว อนาคตได้ถูกตัดสินไปแล้ว และอนาคตได้ที่แน่นอนว่าจะเป็นอย่างนั้นได้เริ่มเปลี่ยน เมื่อชั้นรับความพ่ายแพ้ของชั้น ในช่วงเวลานั้น อนาคตได้แตกเป็นจำนวนนับไปถ้วน และหนึ่งในชิ้นนั้นเป็นอนาคตที่ชั้นจะฆ่าตัวตายต่อหน้านาย」

 

อย่างนั้นเหรอ มีทางแยกหลายทางที่จะทำไปสู่อนาคตที่ต่างออกไป นั่นทำไมฮิซูกิได้ประกาศว่าความสามารถที่จะทำนายอนาคตมัน “คลุมเครือ”

 

ความสามารถตาแห่งสวรรค์ที่จะทำนายอนาคตปรกติแล้วมีอนาคตเดียวให้ทำนาย อย่างไรก็ตาม เมื่อความสามารถผมใส่เข้าไปหามัน หนึ่งอนาคตนั้นแยกทางเป็นทางอื่นที่หลากหลายมากมาย

 

พูดอีกอย่าง ฮิซูกิสามารถที่จะ “เลือก” อนาคต

 

แต่ถ้าอนาคตที่เลือกได้แยกทางออกไปอีกนับไม่ถ้วย งั้นคุณไม่สามารถเรียกความสามารถนั้นว่าเป็นความสามารถที่ทำนายอนาคตได้อีกต่อไป

 

สิ่งที่คลุมเครือแบบนี้เรียกว่าการทำนายไม่ได้

 

มันเป็นป้ายบองทางที่มีศักยภาพที่ยิ่งใหญ่

 

「แล้วมันเป็นยังไงตอนนี้?」

 

「จนถึงเมื่อกี้นี้ ยังมีความเป็นไปได้ของอนาคตที่ชั้นจะตายตรงหน้านาย แต่เมื่อชั้นได้รู้ความรู้สึกของนาย มันได้หายไปอย่างสมบูรณ์」

 

หายไป นั่นหมายถึงฮิซูกิได้ “เลือก” อนาคตอื่น

 

「และ อนาคตแบบไหนที่เธอ “เลือก”」

 

ถามนั่นกับฮิซูกิ เธอได้แดงอย่างสมบูรณ์ที่หน้าของเธอถึงหูเธอ และมองไปทางอ่อนจากผมอย่างเขินอายขณะที่เธอตีหน้าอกผมอย่างอ่อนโยน

 

「อ-อย่าให้ชั้นพูดมันสิ~♥ มันล่วงละเมิดทางเพศนะ~♥」

 

และจากนั้นเธอพูดอะไรแบบนั้น

 

โฮ่ะโฮ่ เธอหมายถึงเธอเลือกอนาคตที่ผมล่วงละเมิดทางเพศเธอ

 

พูดอีกอย่าง เธอเลือกอนาคตที่ผมจะทำนี่และนั่นกับเธอ

 

「น-นายคิดเกี่ยวกับเรื่องลามก ใช่มั้ย?♥」

 

「ไม่ใช่ว่านี่เป็นอนาคตที่เธอเลือกเหรอ?」

 

「ม-มันเป็นอนาคตที่นายสร้าง♥」

 

「แต่คนที่ “เลือก” มันคือเธอ」

 

ยิ้มขณะที่ผมพูดมัน ฮิซูกิที่มองไปทางอื่นจากผมชำเลืองมองผม

 

「พ-เพราะ ถ้าชั้นเลือกอนาคตนั้น งั้นนายจะปฏิบัติกับชั้นด้วยความรักและความเสน่หา มันปรกติที่ชั้นจะเลือกนั่น♥」

 

รู้สึกอาย ฮิซูกิที่มองผมด้วยตามองบน ปิดมันอย่างอ่อนโยน จากนั้นฮิซูกินำหน้าของเธอเข้ามาใกล้ผม โหยหาการจูบ ผมตอบการร้องขอของเธอโดยการวางริมฝีปากผมไปบนริมฝีปากของเธอ

 

ตอบสนองกับการกระทำของผม ฮิซูกิสะดุ้งขณะที่ทั้งตัวของเธอเกร็ง แต่จากนั้นเธอผ่อนคลายมันอย่างรวดเร็ว และมอบความไว้วางใจตัวเธอไว้ให้ผม

 

ริมฝีปากของเธออ่อนนุ่มและเปียก

 

เอ็นของผมที่ก่อนหน้าไม่เคยจะรู้สึกอะไรกับเธอได้แข็ง

 

แต่ทันทีต่อมานั้น――

 

「อึ๋นน?!」

 

「อึ๋นน!?」

 

ฮิซูกิและผมกระตุกในเวลาเดียวกัน

 

ข้อมูลจำนวนมากไหลเข้ามาในหัวผม

 

เราใช้สติร่วมกันได้สำเร็จ?

 

น่าทึ่ง นี่มันน่าทึ่ง

 

「ทำได้ดีมากฮิซูกิ! เธอทำได้ยอดเยี่ยม!」

 

ผมแยกริมฝีปากผมจากฮิซูกิแล้วตะโกนออกมา

 

「อุว้าาาาาาาาา! เดี๋ยว เดี๋ยว เดี๋ยว! ได้โปรดรอเดี๋ยวก่อน! มันไม่ได้เกิดขึ้นตอนนี้! ได้โปรดแกล้งว่ามันไม่ได้เกิดขึ้น!」

 

หน้าของฮิซูกิที่ก่อนหน้าได้แดงมากจนมันดูเหมือนจะลุกไหม้ เปลี่ยนเป็นซีดและตะโกนออกมา

 

แม้ว่าเธอจะบอกว่านั่นไม่ได้เกิดขึ้น ข้อมูลได้ฝังตัวเข้ามาในหัวผมแล้ว

 

「ท-ทำไมล่ะ?! ใช้สติร่วมกันควรจะถูกควบคุมอยู่ภายใต้เจตนาของชั้น! ชั้นอยากจะจีบเยอะๆกับโมตะ-คุง และให้นายทำให้ชั้นแตกหลายครั้ง! แม้ว่าเมื่อชั้นบอกว่าชั้นไม่ไหวแล้ว นายจะยังสร้างความรักกับชั้นต่อไป และในท้ายที่สุดเมื่อเราเสร็จ ชั้นสมควรจะใช้ร่วมกันกับนายในตอนนั้น!」

 

ด้วยเธอที่ซีดและเจ๊ง ฮิซูกิผู้ที่ดูเหมือนว่าเธออยู่ในสภาพความตื่นตกใจที่หนัก พ่นทุกอย่างจากใจเธอออกมาโดยไม่คิด

 

โฮ่ะโฮ่ งั้นการใช้สติร่วมกันทำได้ด้วย “เจตนาของเธอ” ดังนั้น เธอรู้มันตั้งแต่แรก แต่เธอแกล้งว่าเธอไม่รู้เกี่ยวกับมัน และอยากจะทำมันกับผมจนกว่าเธอจะพอใจ

 

ผมจะไม่พูดว่าทุกอย่างที่เธอพูดนั้นเป็นคำโกหก แต่มันไม่ต้องสงสัยว่าเธอพยายามจะหลอกผมให้ทำสิ่งลามกกับเธอ

 

ม่าา ผมได้ข้อมูลมาแล้วว ดังนั้นตอนนี้มาไม่สนใจค่าที่มันครอบครองอย่างมหาศาลเถอะ

 

「ออุー! ออออุー! ทำไม?! ทำไม?! ชั้นไม่ได้ตั้งใจจะใช้ร่วมกันเลย! นั่นต่างออกไปจากอนาคตที่ชั้นเลือกอ่า! ให้ตายเถอะตาแห่งสวรรค์! มันไร้ประโยชน์สิ้นดี!」

 

เหมือนดั่งเธอเป็นเด็ก ฮิซูกิงอแงด้วยสองมอที่กำจากด้านข้างของเธอ ร้องไห้จากความเดือดเนื้อร้อนใจ

 

เฮ้อ คนนี้ไม่เข้าใจอะไรเลย ตาแห่งสวรรค์จะก่อตัวจากความต้องการภายในสุดของเธอ เธอจำเป็นต้องชื่นชมมันนะ

 

「เธออาจจะโตขึ้นเป็นผู้หญิงที่ดี」

 

ผมยืนขึ้น จัดเสื้อผ้าของผมที่มันยับ และพูดมันขณะที่ผมลุกออกจากเตียง

 

หลังจากที่ได้ยินคำพูดผม ฮิซูกิที่งอแงอยู่บนเตียงหยุดเคลื่อนไหว

 

「ชั้นไม่ได้ไม่ชอบเธอมากขนาดนั้นด้วยวิธีที่เธอเป็นแบบนี้」

 

ผมหันหลังให้คามูโระ ฮิซูกิขณะที่ผมพูดอย่างนั้น

 

อาา มันไม่ดีเลย ผมพูดมันตรงๆไม่ได้ มันยากที่จะเข้าใจความหมายภายหลังคำว่า “ชั้นไม่ได้ไม่ชอบเธอ”

 

「ชั้นขอโทษที่ชั้นพูดมันชัดๆไม่ได้ มันอยู่ในธรรมชาติของชั้น มองเข้ามาใน “หัวใจ” ชั้นถ้าเธออยากรู้ว่าตอนนี้ชั้นคิดกับเธอยังไง เพราะชั้นไม่ได้คิดแง่ลบกับเธอ」

 

ผมเกาแก้มของผมด้วยนิ้วและพูดกับฮิซูกิที่ได้อยู่ข้างหลังผม

 

อ๊าา นี่มันอะไรกันวะ? เฮ้ย นี่มันน่าอาย

 

ขณะที่ผมชำเลืองมองอย่างรวดเร็วไปข้างหลังผม ผมเห็นฮิซูกิที่นั่งอยู่บนเตียงได้หน้าแดงอย่างสมบูรณ์ และผมเห็นนัยน์ตารูปทรงหัวใจที่ลอยขึ้นมาในตาที่แฉะของเธอ

 

เห็นได้ชัดว่า ข้อความของผมดูเหมือนว่าจะถูกส่งผ่านไปให้เธอแล้ว

 

ผมลูบอกเพื่อให้ใจของผมเย็นลง ขณะที่ผมได้ออกไปจากห้องนอน ทิ้งฮิซูกิไว้ที่นั่น

 

หลังจากที่เธอได้ใจเย็นลง ให้เธอได้แบ่งมันกับคนอื่นทุกคนด้วยเถอะ

 

เพราะฮิซูกิสามารถที่จะควบคุมมันได้โดยใช้ “เจตนา” ของเธอ งั้นไม่ควรจะมีปัญหาที่จะใช้มันร่วมกันกับสาวคนอื่น

 

ขณะที่ผมคิดอย่างนั้น ผมมุ่งหน้าไปที่ห้องนั่งเล่น

 

หลังจากซักพัก ฮิซูกิมาที่ห้องนั่งเล่น

 

แม้หน้าของเธอค่อนข้างแดง มันดูเหมือนว่าเธอใจเย็นลงแล้วส่วนใหญ่

 

ฮิซูกิชำเลืองมองผมและยิ้มเล็กน้อย

 

มันดูเหมือนว่าฮิซูกิได้เข้าใจความรู้สึกของผมต่อเธอดังนั้นมันมอบความรู้สึกโล่งใจให้ผม

 

「ฮิซูกิ ขอโทษที่กระทันหันมากกับเธอที่เพิ่งได้มาที่นี่ แต่เธอใช้สติของเธอร่วมกันกับคนอื่นได้มั้ย」

 

「แน่นอน♥ชั้นจะทำทุกอย่างที่โมตะ-คุงขอ♥」

 

ฮิซูกิได้ตอบการร้องขอของผมอย่างร่าเริง

 

ผมคิดว่าเธอเป็นยันเดเระ*ที่อันตราย แต่ฮิซูกิดั้งเดิมแล้วเป็นคนค่อนข้างสวย ถ้าเธอไม่มีปัญหาทางใจอะไร งันเธอจะเป็น “สาวที่สมบูรณ์แบบ” ที่เกือบจะไม่มีข้อเสียใดๆเลย

TLN: หลงใหลแบบคลั่งใคล้ผูกขาด เจอบ่อยๆจะชอบฆ่าคนรัก

 

หน้าอกของเธอก็ใหญ่ด้วย

 

「ยังไงซะ ถ้างั้น มาเริ่มกันจากอาซาฮินะ-ซังมั้ย?」

 

พูดสิ่งนั้น ฮิซูกิได้เข้าหาอาซาฮินะที่นั่งอยู่บนโซฟาและยืนอยู่ตรงหน้าเธอ จากนั้นเธอคุกเข่าลงตรงนั้น

 

「ทำตามใจเลย」

 

อาซาฮินะตอบในท่าทางที่ภาคภูมิใจและหยิ่งเหมือนเคย

 

สายตาตรงกันกับอาซาฮินะ ฮิซูกิวางหน้าผากของเธอลงไปบนหน้าผากอาซาฮินะ

 

ริกกะและทามะมูชิดูอย่างประหม่า

 

ระหว่างที่เรารอฮิซูกิทำเสร็จด้วยไพ่สำรับหนึ่ง ริกกะ, คาซะฮานะ, ทามะมูชิ และผมได้เล่นเกมบาบะนุกิ*ในเวลานั้น ไพ่ได้กระจายไปทุกที่อยู่บนโตะ และพวกเราสามคนได้ถือแค่ไม่กี่ใบด้วยสองมือ

TLN: อีแก่กินน้ำ

 

ความตึงเครียดได้พร่องลงไปเพราะเหตุนั้น

 

พูดถึงแล้ว ริกกะเป็นคนที่มีการ์ดโจ้กเกอร์

 

สั้นๆซักพักหนึ่ง ความเงียบได้ครอบงำห้อง จากนั้นฮิซูกิถอนหายใจและปล่อยหน้าผากของเธอ ที่ติดกับอาซาฮินะก่อนหน้านั้น

 

「อึ๋นน?」

 

อาซาฮินะเอียงหัวของเธอ

 

「ชั้นไม่ได้รับข้อมูลอะไรเลย ไม่มีอะไรเปลี่ยน」

 

และพึมพำอย่างลึกลับ

 

เอ๋? มันล้มเหลวเหรอ?

 

「ชั้นเดาว่ามันไม่มีประโยชน์ มันไม่มี “ความรัก” เพียงพอ」

 

*ฟฟฟู่*

 

ฮิซูกิพึมพำระหว่างที่ถอนหายใจ

 

ไม่มีความรักพอ…ยังไงซะ…นั่นใช่…ผมคิดว่าเพราะคู่ของเธอคืออาซาฮินะ ดังนั้นแน่นอนว่ามันไม่เพียงพอ

 

「ไม่ว่าชั้นจะทำให้ตัวเองเชื่อว่ามันจริงมากแค่ไหน ชั้นโกหกกับหัวใจชั้นไม่ได้ อย่างสิ้นหวัง ชั้นได้ลองอย่างสิ้นหวังอย่างหนักจริงๆเกี่ยวกับมัน แต่เห็นได้ชัดว่า มันดูไม่เหมือนว่าชั้นสามารถจะใช้เนื้อหาความคิดร่วมกันกับอาซาฮินะได้ ชั้นขอโทษ」

 

หันหน้าหาผม ฮิซูกิขอโทษจากใจ

 

เข้าใจแล้ว เพราะการแบ่งปันสติกับคนอื่นจะเกิดขึ้นได้เพียงเมื่อฮิซูกิพึ่งพา “ความเต็มใจ” ที่จะแบ่งมัน ไม่ว่าเธอจะพยายามมันมากขนาดใน บางที่ในหัวใจเธอปฏิเสธมันตลอด

 

ยังไงซะ มันช่วยไม่ได้

 

「อย่าคิดมาก มันช่วยไม่ได้ถ้ามันเป็นไปไม่ได้ นอกจากนั้น ถ้ามันเป็นคาซะฮานะและริกกะ เธอควรจะโอเค」

 

「ไฮ้ โกเมนนาไซ」

 

กับคำพูดผม ฮิซูกิขอโทษด้วยสัญชาติญาน

 

「มันช่วยไม่ได้ถ้ามันเป็นไปไม่ได้ มันเป็นไปไม่ได้สำหรับเธอที่จะไม่ไม่พอใจชั้น อย่างที่ซูซูฮาระ-คุงพูด ไปและแบ่งมันกับลูกหมาตรงนั้นสิ」

 

ไม่ว่าเธอจะโง่มากแค่ไหน อาซาฮินะก็รู้อยู่แล้วว่ามันเป็นไปไม่ได้ และตัดสินใจที่จะไม่ต้องฮิซูกิจนมุมในการทำมัน

 

อีงี่เง่านั่นบางเวลาก็ค่อนข้างซื่อสัตย์กับตัวเธอเองนะ

 

「ชั้นขอโทษจริงๆ」

 

จ้องผม ฮิซูกิขอโทษผมเป็นครั้งที่สองและวิ่งเหยาะๆไปสู่คาซะฮานะ จากนั้นเหมือนที่เธอทำกับอาซาฮินะ ฮิซูกิวางหน้าผากของเธอกับคาซะฮานะแล้วมองเข้าไปที่ตาเธอ

 

แสงอ่อนๆได้ถูกเห็นว่าปรากฏจากฮิซูกิและได้ถูกส่งต่อไปที่คาซะฮานะ

 

โออ้ มันสำเร็จ?

 

「โออ้ นั่นน่าทึ่ง ฟุฟุ ชั้นเข้าใจแล้ว งั้นซูซูฮาระ-ซามะปฏิบัติเธออย่างใจดี นั่นเป็นข่าวดีนะฮิซูกิ มันทำให้ชั้นรู้สึกโล่งใจจริงๆ」

 

โดยการใช้สติร่วมกันเธอได้สามารถรู้ว่าอะไรเกิดขึ้นกับฮิซูกิในห้องนอน เอ่อล้นไปด้วยน้ำตา คาซะฮานะหัวเราะอย่างมีความสุขและพยักหน้าซ้ำๆ

 

อย่างที่คาดกับหมาที่ซื้อสัตว์ พวกเธอปฏิบัติกับความสุขของมาสเตอร์เป็นความสุขของตัวเธอเอง

 

หลังจากนั้น ฮิซูกิสามารถแบ่งมันกับริกกะโดยไม่มีปัญหาและไปสู่ทามะมูชิ

 

ทามะมูชิดูเหมือนจะประหม่าขณะที่เธอถือไพ่ด้วยสองมือ

 

เพราะทามะมูชิเป็นผู้ร้ายหลักที่กักขังฮิซูกิ และทำตามความพอใจกับคาซะฮานะ มันชัดเจนว่าเป็นธรรมชาติที่เธอจะประหม่า

 

ฮิซูกิติดหน้าผากเธอกับทามะมูชิ

 

แสงอ่อนๆปรากฏจากข้างในฮิซูกิและไหลเข้าไปที่ทามะมูชิ

 

โออ้ งั้นมันสำเร็จ ฮิซูกิยกโทษให้ทามะมูชิแล้วจริงๆ

 

นี่มันอะไรกัน? เธอเป็นคนที่ใจกว้างอย่างคาดไม่ถึง

 

「ธ-เธอยกโทษให้ชั้นเหรอ?」

 

ทามะมูชิได้ตกใจมากที่สุดหลังจากกระบวนการของการใช้สติร่วมกัน ซึ่งสำเร็จ

 

ทามะมูชิร้องไห้และสั่น

 

「ชั้นไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่ยกโทษเธอได้อีกต่อไป เพราะเธอเป็นคนที่ได้สร้างปัญหานี้ ผลของมันคือความสัมพันธ์ปัจจุบันของชั้นกับโมตะ-คุงดีขึ้น และแน่นอนว่า เธอเป็นคนทีพัฒนาความสัมพันธ์ของชั้นกับคาซะฮานะที่พยายามจะช่วยชั้น」

 

มองดูทามะมูชิ ฮิซูกิหันกลับมามองคาซะฮานะแล้วยิ้ม

 

*อึนน อึนน*

 

ได้ยินคำพูดนั้น คาซะฮานะพยักหน้าตอบ ปิดหน้าของเธอ ร้องไห้และสั่น

 

มันดูเหมือนพวกเธอทั้งสองคนได้ถูกช่วยจากคำพูดของฮิซูกิ

 

ริกกะที่ถูกปล่อยไว้คนเดียวดูเหมือนว่าเธอไม่สนใจเกี่ยวกับมันเลยซักนิด

 

นั่นแน่นอนว่า ฮิซูกิจงใจที่จะไม่พูดถึงชื่อริกกะ

 

เพราะริกกะไม่ใช่หมาของฮิซูกิ มันเป็นเพราะเธอเป็นหมาของผม ซูซูฮาระ ริกกะ ไม่ว่าสาเหตุไหน ริกกะเป็น “ของของผม”

 

ดังนั้นฮิซูกิไม่เรียกชื่อของริกกะ และริกกะก็ไม่ได้ถือมันด้วย

 

ริกกะเป็นหมาของผม ไม่ว่าเธอจะพูดว่าอะไร ริกกะไม่ควรจะมีปัญหากับมัน

 

「มันเป็นไปไม่ได้สำหรับอาซาฮินะ-ซัง “คนเดียวเท่านั้น”」

 

ฮิซูกิจ้องอาซาฮินะขณะที่เธอพูดอย่างนั้น

 

「อย่ากังวลเกี่ยวกับมัน มีสี่คนที่ได้ข้อมูล ถ้าชั้นได้พูดอธิบายกับอาซาฮินะ――」

 

「ไม่ มีทางอยู่」

 

ฮิซูกิที่ดูอาซาฮินะส่งเสียงขึ้นมา ตัดประโยคผมกลางคัน

 

มีวิธี?

 

แม้ว่ามันโอเคถ้าเธอไม่อยากกดดันตัวเอง มันมีประสิทธิภาพมากกว่ามากที่จะใช้สติร่วมกันเมื่อเทียบกับอธิบายข้อมูลเป็นคำพูด

 

นอกจากนี้ อาซาฮินะโง่ ถ้ามีทาง งันผมก็อยากจะสองมันไม่ว่ายังไง

 

「ทีชั้นต้องการคือ “ความรัก”! ถ้าชั้นมี “ความรัก” อาซาฮินะที่ชั้นเกลียดก็จะสามารถใช้สติร่วมกันได้」

 

ฮิซูกิได้ส่งเสียงของเธอ เน้นคำว่า “ความรัก” อย่างแรง

 

「อา อย่างนั้นเหรอ งั้นชั้นจะปล่อยมันให้เธอ ทำตามใจเลย」

 

ระหว่างที่จ้องเธอ อาซาฮินะถอนหายใจและตอบในวิธีที่ไม่น่ารังเกียจ

 

ม่าา เราแค่ทิ้งมันให้ฮิซูกิที่นี่ได้ มันหมายถ้าว่าอาซาฮินะรู้มันอย่างน้อยมากเท่านี้

 

「“ความรัก”! พูดอีกอย่าง ถ้ามันมีความรักร่วมที่ถูกสร้างระหว่างโมตะ-คุงและชั้น งั้นความเกลียดอาซาฮินะจะบินไปจนไม่มีตัวตน!」

 

「เอ๋?」

 

「ห๋าา?」

 

ฮิซูกิกำหมัดของเธอและเน้นคำระหว่างที่ใส่สีหน้าที่ซีเรียส อาซาฮินะและผมตอบพร้อมกัน

 

「แต่ชั้นเกลียดอาซาฮินะ-ซัง! ค่อนข้างจะมากด้วย ถึงจุดที่ว่าโมตะ-คุงและชั้นต้องรักกันอย่างหลงไหลเพื่อต่อต้านสมดุลย์นั้น! อาซาฮินะ-ซังจำเป็นต้องมองฉากที่โมตะ-คุงจะทำความรักกับชั้นซ้ำๆ และระหว่างจังหวะที่ชั้นถึงจุดสุดยอด ถ้าเธอจับชั้น ชั้นจะสามารถใช้สติร่วมกันกับเธอ! น่าจะ!」

 

เปิดตาของเธอกว้างฮิซูกิพูดมันด้วยความเน้น

 

เฮ้ย รอเดี๋ยว นั่นหมายถึง เพราะฮิซูกิเกลียดอาซาฮินะ เธออยากจะทำธุระที่เข้มข้นกับผมเพื่อที่จะแทนที่ความเกลียดอาซาฮินะ? และเธออยากจะให้อาซาฮินะดูเธอในสถานการแบบนั้น จากนั้นฮิซูกิจะถึงจุดสุดยอดจากก้นบึ้งของหัวใจเธอและในเวลานั้น เธอจะแตะหน้าผากและใช้สติร่วมกัน?

 

เฮ้ย ฮิซูกิ ไม่ใช่การแก้แค้นอาซาฮินะเป็นอย่างเดียวที่เธออยากจะทำเหรอ

 

「ช-ชั้นไม่ถือมันโดยเฉพาะ ช-ชั้นไม่ได้คิดเกี่ยวกับซูซูฮาระ-คุงมาก และชั้นไม่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ของซูซูฮาระ-คุงกับใครก็ตาม」

 

อาซาฮินะพูดอย่างหยิ่งขณะที่เธอกอดอกและมองไปทางอื่นด้วยเสียง *ฮึ่ม*

 

เธอจะยอมรับมันเหรอ? เอาจริงอ่ะ? ปรกติแล้วเธอควรจะปฏิเสธ เราจะมีเซ็กส์กันตรงหน้าเธอ ผมหมายถึง ผมไม่อยากให้เธอดูเรามีเซ็กส์กัน

 

「เข้าใจแล้ว เธอจะยอมรับมันเหรอ? งั้นเราจะต้องทำพิธีทำให้จิตใจบริสุทธิ์ถ้างั้น」

 

จ้องอาซาฮินะ ฮิซูกิผู้ที่ยิ้มพูดบางอย่างแปลกอีกครั้ง

 

พิธีทำให้ใจบริสุทธิ์อะไรวะ?

 

「พิธีทำให้ใจบริสุทธิ์ พูดอีกอย่างอาบน้ำและทำความสะอาดตัว แน่นอนว่า โมตะ-คุงก็จะเข้าร่วมด้วย และโดยไม่ถือมัน อาซาฮินะอยู่ข้างๆ เราจะเริ่มพิธี อาซาฮินะ-ซังจะมองชั้นและโมตะคุงจีบกันในอ่างอาบน้ำอย่างใกล้ๆ」

 

เธอพูดว่าจีบกัน เธอพูดว่าจีบกันเมื่อกี้นี้

 

พูดอะไรอย่างพิธีทำจิตใจให้บริสุทธิ์หรืออะไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าเธอมีแผนแค่จะแสดงให้อาซาฮินะดูว่าเธอจีบกันกับผมในห้องน้ำเหรอ?

 

「เธอ…แค่อยากจะแก้แค้นอาซาฮินะ」

 

ผมพึมพำขณะที่ผมจ้องเธออย่างเหม่อลอย ฮิซูกิหันมาอย่างแรงและมองผม

 

「นายผิดแล้ว! มันไม่ใช่การแก้แค้น! ชั้นแค่อยากจะอวด!」

 

เสียความสงบของเธอไป ฮิซูกิเปิดตาของเธอและปล่อยเจตนาจริงของเธอออกมาด้วยความพยายามของเธอทั้งหมด

 

ผมได้ยินคาซะฮานะปล่อยถอนให้ใจที่หนัก ที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอ

 

「ยังไม่ใช่เพราะการแก้แค้นที่ชั้นอยากทำเรื่องเอดชิ*กับโมตะ-คุง! มันเป็นเพราะชั้นรักโมตะ-คุง ดังนั้นชั้นเกือบตายที่อยากจะทำเรื่องเอดชิกับนาย! เพิ่มเติมจากนั้น ชั้นอยากจะแสดงมันให้อาซาฮินะ-ซังดังนั้นชั้นสามารถดื่มดำไปกับความรู้สึกที่เหนือกว่า! มันไม่ใช่การแก้แค้น! มันเป็นการอวด! มันสำคัญมากๆที่นี่!」

TLN: ลามก

 

มันไม่ใช่การแก้แค้น แต่แทนที่จะอย่างนั้น มันเพื่อการอวด ผมไม่เข้าใจความต่างจริงๆ

 

「ท-ท-ท-ทำที่เธอต้องการเลย ช-ช-ช-ชั้นไม่ได้มึนงงโดยมันโดยเฉพาะ」

 

อาซาฮินะที่กอดอกและหัวของเธอหันไปทางอื่นพูดมันในเสียงที่สั่น ขณะที่เธอร้องเสียงแหลมในทางปฏิบัติเมื่อเธอส่งเสียงออกมา

 

เฮ้ย อาซาฮินะ อย่าบอกนะว่าเธอตื่นเต้นโดยสิ่งนั้น อย่าบอกนะว่าเธอมีอารมณ์ที่เห็นผมโอบกอดผู้หญิงคนอื่นตรงหน้าเธอ

 

「ฮิ-ฮิซูกิ ซูซูฮาระ-ซามะในที่สุดก็ดีกับเธอแล้ว และแม้อย่างนั้น ทำไมเธอ…เธอจะทำยังไงถ้าเธอสร้างปัญหาให้ซูซูฮาระ-ซามะ? ก่อนเธอจะเติมเต็มความอยากความต้องการ ก่อนอื่นเธอควรจะพิจารณาถึงอีกคนนึงก่อนไม่ใช่เหรอ?」

 

ยืนข้างหลังฮิซูกิ คาซะฮานะเรียกหาเธอผสมกับถอนหายใจ เหมือนแม่ที่พูดกับลูกที่งอแง

 

「แม้ว่าเธอพูดอะไรแบบนั้น ชั้นช่วยมันไม่ได้! ถ้าชั้นไม่พอใจ งั้นชั้นใช้สติร่วมกันกับอาซาฮินะไม่ได้! มันช่วยไม่ได้! ไม่มีทางเลือกนอกจากทำอย่างนั้น」

 

เหมือนเด็ก จริงๆแล้ว ไม่ ฮิซูกิที่เปลี่ยนเป็นเด็กออกบ่นมันกับคาซะฮานะ

 

คาซะฮานะได้มองเธอ จับหน้าผากของเธอด้วยมือหนึ่งและถอนหายใจลึกๆ

 

「โอเน่-ซังอย่าหดหู่มาก ด้วยฮิซูกิที่พูดความรู้สึกจริงๆของเธอออกมา แทนที่จะเป็นอย่างนั้น ชั้นคิดว่ามันดีกว่าที่จะมีความสุขเกี่ยวกับมัน ไม่คิดอย่างนั้นเหรอ?」

 

「ไม่ แต่ สร้างปัญหาให้บางคนที่ชั้นติดหนี้อยู่อย่างซูซูฮาระ-ซามะ…ชั้นอับอายแล้ว……」

 

「ถ้ามันเป็นมาสเตอร์ งั้นมันโอเค มาสเตอร์ใจกว้างกับคนที่เปิดเผยเจตนาที่แท้จริงกับเขา เพิ่มเติมจากนั้น ชั้นแค่คาดเดาแต่ ชั้นคิดว่ามาสเตอร์ชอบฮิซูกิตอนนี้มากกว่าฮิซูกิคนก่อน」

 

「ริกกะ เธอโชคดีจริงๆที่ได้พบกับมาสเตอร์ที่มหัศจรรย์แบบนี้ เทียบกันกับเจ้านายของชั้น……」

 

แม้ว่าริกกะพยายามจะให้เธอรู้สึกดีขึ้น มันดูเหมือนว่าคาซะฮานะได้หดหู่มากกว่าเดิมมากกว่าก่อนหน้า

 

「โมตะ-คุง! ไปห้องน้ำด้วยกันเถอะ! อาซาฮินะ-ซังเป็นงี่เง่ารายใหญ่ ใช่มั้ย?! แม้ว่าเราอธิบายมัน เธอจะไม่เข้าใจมันอย่างแน่นอน! โดยไม่เข้าใจสถานการณ์ปัจจุบัน เพาะมันเป็นอาซาฮินะ-ซัง เธอจะทำมันด้วยตัวเธอเองและสร้างความไม่สะดวกมากมายให้ทุกคน! นั่นทำไมการใช้สติของชั้นร่วมกันกับเธอมันเป็นสิ่งสำคัญ! เราควรจะทำให้มั่นใจว่าเธอเข้าใจสถานะการณ์อย่างแน่นอน!」

 

ฮิซูกิรีบมาทางผมและนำทั้งสองมือของผมไป ขณะที่หัวใจผุดขึ้นมาในนัยน์ตาสีดำ

 

ม่าา เธอมีประเด็นอย่างแน่นอน

 

「เนน่ คามูโระ-ซัง ชั้นโอเคกับที่เธอดูถูกชั้นและเรียกชั้นว่าอีโง่ และชั้นก็โอเคอย่างแน่นอนที่จะดูการกระทำที่ลามกที่มีเธอทั้งสองคนทำมัน แต่ ตั้งแต่เมื่อกี้นี้แล้ว เธอได้เรียกซูซูฮาระ-คุง “โมตะ-คุง” ใช่มั้ย?」

 

อาซาฮินะพึมพำเงียบๆ จ้องฮิซูกิที่ยืนขึ้นอย่างไม่มั่นคง

 

「มันอะไรล่ะ? แม้ว่าชั้นเรียก โมตะ-คุง โมตะ-คุง โมตะ-คุงดูไม่เหมือนว่าจะปฏิเสธมัน งั้นอาซาฮินะไม่มีสิทธิที่จะบ่นเกี่ยวกับมัน ชั้นพูดถูกมั้ย」

 

ระหว่างจับมือทั้งสองของผม ฮิซูกิมองอาซาฮินะที่ยืนขึ้นและยิ้ม

 

「คนเดียวที่อนุญาตให้เรียกซูซูฮาระ-คุง “โมตะ-คุง” คือแม่และยูกะ ยูกะได้รับการอนุญาตโดยตรงจากแม่เพื่อเรียกเค้าแล้ว ถ้าเธอเข้าใจมัน งั้นก็อย่างคิดแต่เรื่องเดียวสิ」

 

「เธอไม่ซื่อสัตย์กับความรู้สึกเธอเลยนะ แม้ว่าโมตะ-คุงพูดว่าให้ซื่อสัตย์กว่านี้ ไม่ใช่เธอเป็นคนที่ไม่ซื่อสัตย์ที่สุดเหรอ? เมื่อชั้นเรียกโมตะ-คุง โมตะ-คุง เรียกเค้า “นาย” ไม่สนุกอีกต่อไปแล้วใช่มั้ยล่ะ? เธอโทษนั่นกับยูกะ-ซังได้」

 

「ธ-เธอจะหาเรื่องสู้กับชั้นเหรอ?」

 

「อย่างโชคร้าย ชั้นเป็นผู้ชนะครั้งนี้ เพราะเธอผิด อย่างที่คาดกับคนแม้แต่แบบเธอ เธอเข้าใจว่าเธอเดินหน้าต่อไปไม่ได้เมื่อเธอรู้ว่าเธอผิด」

 

ได้ยินคำพูดของคามูโระ ฮิซูกิ อาซาฮินะดูเหมือนเธอจะวิ่งหนี หันหน้าของเธอไปขณะที่กำมือของเธอแน่นและกัดปากล่างในความโมโห

 

เฮ้ย เฮ้ย จริงๆเหรอ? อาซาฮินะถูกกดดัน

 

「ชั้นรักโมตะ-คุง!」

 

ฮิซูกิพูดมันระหว่างที่หน้าแดงอย่างสมบูรณ์

 

อาซาฮินะกระตุกจากการได้ยินประโยคนั้น

 

「พ-พูดได้ดีมาก ฮิซูกิ! บราโว่!」

 

「อ่ะฮ่าฮ่า ฮิซูกิได้เป็นผู้ใหญ่แล้ว」

 

ได้ยินคำพูดของฮิซูกิมาจากก้นบึ้งของหัวใจ คาซะฮานะและริกกะได้ปรบมือ

 

「ชั้นอยากมีมีเซ็กส์กับโมตะ-คุง」

 

ฮิซูกิส่งเสียงของเธอดังขึ้นไปอีก

 

ได้ยินคำพูดของเธอ อาซาฮินะที่สั่นได้ถอยกลับไป

 

อ-อาซาฮินะนั่นถอยเรอะ?

 

「ฮิ-ฮิซูกิ เธอตรงไปตรงมามากเกินไป! แต่มันเป็นเรื่องดีที่พูดความรู้สึกจากใจออกมา!」

 

「อ่ะฮ่าฮ่า มีเซ็กส์กับมาสเตอร์เป็นความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ชั้นสลบไปนับครั้งไม่ถ้วนแหน่ะ」

 

ได้ยินฮิซูกิพูดมันออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจแม้ว่าฮิซูกิอายนิดหน่อย คาซะฮานะและริกกะสนับสนุนเธอ ริกกะพูดเกี่ยวกับประสบการณ์ส่วนตัวของเธอในความสับสน

 

「ชั้นอยากจะถูกรักโดยโมตะ-คุง! ชั้นอยากจะถูกหวงแหน! หลังจากที่เราสร้างความรักให้กันและกัน ชั้นอยากจะจีบกับเค้าภายใต้ผ้านวม! หลังจากนั้น ชั้นอยากจะกอดกันและรู้สึกถึงความอบอุ่นของกันและกัน ระหว่างที่หลับไป!」

 

ดูเหมือนเธอไหม้และเกือบจะร้องไห้ ฮิซูกิได้หน้าแดงอย่างสมบูรณ์ขณะที่กระทืบเท้าของเธอระหว่างที่ส่งเสียง

 

หันหน้าหนีไปจากฮิซูกิ รู้สึกถึงแรงกดดัน อาซาฮินะถอยกลับอย่างช้าๆ

 

เฮ้ย เฮ้ย จริงๆอ่ะ? อาซาฮินะถูกต้อนจนมุมอย่างสมบูรณ์

 

「ฮิ-ฮิซูกิ! ถ้าเป็นไปได้ ชั้นอยากจะเข้าร่วมด้วย!」

 

「เนน่ โอเน่-ซัง เธอไม่ควรจะเข้าไปขวางทางนะ……」

 

สึโคมิที่งี่เง่าของพี่สาวน้องสาวโลลิจากข้างหลังสามารถได้ยิน

 

「อาซาฮินะ-ซัง!」

 

ขณะที่ฮิซูกิกระทืบเท้าของเธอไปที่พื้น เธอเรียกชื่อของอาซาฮินะ

 

「อ-อะไร ห-เหมือนที่ชั้นพูด ทำตามใจเธอเลย……」

 

มันเป็นเสียงสั่นที่อ่อนแอไม่เหมือนอาซาฮินะ และคำพูดนั้นเป็นคำจากที่เธอรับรู้ความพ่ายแพ้

 

ว้าว ฮิซูกินั่น ชนะอาซาฮินะได้จริงๆ

 

ไม่ได้ใช้ความสามารถของเธอ มันไม่เกี่ยวกับความสามาระของเธอ อาซาฮินะยอมรับความพ่ายแพ้จากการถูกข่มขู่โดยเธอที่ตะโกนความรู้สึกจากใจออกมา

 

อาซาฮินะหันหน้าของเธอหนีไปและกอดตัวเธอเอง มันเหมือนกับเธอเป็นลูกหมาถูกทิ้งที่สั่น

 

มองดูอาซาฮินะในสภาพรูปร่างหน้าตาแบบนี้ ความเย็นวาบวิ่งผ่านสันหลังผม

 

คุคุคุ เกิดอะไรขึนอาซาฮินะ-จัง? เป็นไปได้มั้ยว่าเธออารมเสียเกี่ยวกับความจริงที่ชั้นได้ถูกเอาไปโดยฮิซูกิ? แต่เป็นเพราะเธอไม่จริงใจกับความรู้สึกของเธอ เธอพูดอะไรกลับกับฮิซูกิไม่ได้?

 

มีฝั่งที่มหัศจรรย์ของเธอด้วยเหมือนกัน

 

「โอเค นั่นพอแล้ว ฮิซูกิ ไปอาบน้ำด้วยกันเถอะ」

 

「ค-ค่ะ♥ไวววว้*♥」

TLN: วาอิ ไชโย

 

ได้ยินคำพูดของผม หน้าของฮิซูกิเต็มไปด้วยความสุขขณะที่เธอเดินกระโดด

 

ขณะที่ผมรับข้อเสนอของฮิซูกิ อาซาฮินะมองผมกระทันหัน และน้ำตาเอ่อขึ้นมาในตาทรงอัลมอนด์ จากนั้นเธอหันไปทางอื่นอีกครั้งอย่างรวดเร็ว

 

อะไรวะอาซาฮินะ เธอแค่พูดได้ว่าเธอไม่อยากเห็นฮิซูกิและผมจีบกันและอาบน้ำด้วยกัน

 

ไม่พูดมันเหรอ? เธอจะไม่พูดมันเหรอ? เธอจะมุ่ยจิงใจเหยอ? อะร้า ฉันเค้าใจแย้ว

 

ผมพบจุดอ่อนของอาซาฮินะ

 

อาซาฮินะอ่อนแอกับการโต้แย้งที่มีเหตุผล

 

ฟุฟุฟุ นี่มันดี นี่มันน่าสนใจ

 

อาซาฮินะะะ ผมจะทำความสะอาดความเกลียดที่มีต่อเธอมาช้านาน

 

ข้อความจากผู้เขียน

 

ฮิซูกิ 「ชั้นต้องทำบางอย่างก่อนมารินะ-ซังมา!」

 

คาซะฮานะ 「ทำเต็มที่นะ ฮิซูกิ! กันบาเระ! กันบาเระ!」

 

ริกกะ 「ชั้นไม่คิดว่าเธอเป็นคู่ต่อสู้ที่เธอแค่พยายามเต็มที่ได้……ยูกะ-ซังก็อยู่ที่นั่นด้วย」

 

 

 

TLN: จะปล่อยเป็นวันเว้นวันนะครับ ระหว่างรอขอแนะนำเรื่องถนนสู่อาณาจักรเป็นเรื่องที่ผมแปลอีกเรื่องครับ

ขอบคุณสำหรับเงิน 25 บาท

ขอบคุณสำหรับเงิน 50 บาท

ขอบคุณสำหรับเงิน 200 บาท

เวอร์ชั่นไม่เซ็นเซอร์อ่านได้ที่ tunwalai หรือ readAwrite

สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่

067-3-63958-5

กสิกรไทย

 

แปลโดย: wayuwayu

ติดตามได้ที่ดิสคอทส่งข้อความมาขอได้ที่ facebook: “wayuwayu แปล”

pdfไว้อ่านตอนกลางคืน  สปอนเซอร์ตอน จองตอน หารได้ ได้ทั้ง facebook และ discord

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+