เอ็กซ์เรย์เป็นมากกว่าที่ฉันคิด – X-ray Is More Than I Thought 148

Now you are reading เอ็กซ์เรย์เป็นมากกว่าที่ฉันคิด – X-ray Is More Than I Thought Chapter 148 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 148

แมลงที่นำทางเราหยุดหน้าลิฟต์ของโรงเรียนคุโรยูริ และมันบินในรูปเลข 8

「มันดูเหมือนแมลงจะบอกอะไรเราบางอย่าง」

ริกกะที่เอียงหัวของเธอ มองงขึ้นมาหาผม แลถาม

「บางทีมันอาจจะเป็นระบบเตือน……」

ผมพึมพำ มองลิฟต์

ถ้ามันเป็นแมลงตัวเล็กๆ มันจะสามารถเข้าไปในอาคารโรงเรียนผ่านรอยแยกได้ แต่มันไม่ใช่แบบนนั้นสำหรับผมกับริกะ

เราคงต้องทำลายล็อคเพื่อที่จะเปิดประตู และเข้าไปในาคาร หรือทำให้หน้าต่างแตก

แต่จากน้น ระบบสัญญานเตือนภัยจะเป็นปัญหา

การทำลายล็อคจะใช้งานสัญญาานเตือนภัยอย่างแน่นอน

ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ยามที่จะพุ่งเข้ามา แต่ปัญหาคือพวกนั้นที่มีเป้าหมายอยู่ที่กึ่งสัตว์

ถ้าสัญญานเตือนภัยดังขั้นและพวกเขาใจร้อนพวกเขาจะลืมสิ่งที่จะทำและพยายามใช้มาตรการที่รุนแรงขึ้น

ยกตัวอย่างเช่น พวกเขาอาจจะฆ่าพวกเธอทั้งหมด และวิ่งหนี

แมลงที่รู้เรื่องนี้ บอกผมสองครั้งก่อนที่เราจะรุกเข้าไป

ถ้าเป็นอย่างนั้น มันเป็นแมลงที่ฉลาด

ไม่ ไม่ใช่อย่างนั้น

สัตว์เลี้ยงจะเหมือนเจ้าของ

เพราะพลังของทามะมูชิได้เพิ่มขึ้น ค่าของความสามารถของแมลงที่ถูกควบคุมก็เพิ่มขึ้นด้วย

นั่นใช่แล้ว

「เราหลีกสายไฟและพังหน้าต่างได้ แต่」

ตาของผมเห็นสายไฟที่ถูกซ่อนอยู่ และผมเลี่ยงสายไฟ ทำลายหน้าต่าง และเข้าไปข้างในได้

แต่นี่เป็นโรงเรียนสำหรับผู้หญิงที่มีศักดิ์ศรี ระบบรักษาความปลอดภัยมันค่อนข้างดี

ผมก็เห็นตัวส่งสัญญานเตือนภัยที่ถูกต่อใฟ ดูเหมือนจะเป็นแสงอินฟาเรด ในที่อื่นๆที่ผมเข้าไปได้

บนชั้นที่สอง ผม “เห็น” สิ่งที่ดูเหมือระบบสายไฟสำหรับระบบสัญญานเตือนภัย แต่ผมไม่เห็นอะไรที่ดูเหมือนแสงอินฟราเรด

ระบบสัญญานเตือนพภัย น่าจะสำหรับคนที่คิดว่าระบบสัญญานเตื่นไฟที่เชื่่อมต่อไฟมันเพียงพอสำหรับชั้นหนึ่ง และไม่ติดกับทุกั้น

「ริกกะพังเข้าไปได้ง่ายๆ แต่ชั้นเป็นคนที่เป็นภาระ」

มันจริงที่ว่าถ้าผมไม่มีทางเข้าดีๆสำหรับอีงี่เง่าสองคนที่จะมาหลังจากเรา พวกเธอจะพังประตูหน้าและสร้างความวุ่นวาย

ถ้าอย่างนั้น―

ผมก้าวเข้าไปและยืนที่กำแพงที่ต่อจากลิฟต์ในทางเข้า

สามัญสำนึกบอกว่าถ้าผมทำทางเข้าที่มนุษย์เข้าไม่ได้ งั้นมันจะไม่มีปัญหา

แะริกกะทำมันนได้

「ริกกะหนูตัดกำแพงนี้ให้เสียงเบาที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ได้มั้ย 」

ผมถามริกกะและวางมือไปที่กำแพง

ริกกะยิ้มขณะที่เธอได้ยินคำพูดของผม

「มันไม่มีปัญหา」

และเธอตอบมา ริกกะนำมือขวาไว้ข้างหลังของงเธอ

ด้วยเสียงฟันผ่านลม เสียงเหล็กเบาๆดังก้อง

แผลเปิดรูปววงรีที่กำแพง และรอยฟันรูปกางเขน

ด้วยมีดใหญ่ที่ถือที่หลังเธอ ริกกะนำทั้งสองมือไปที่กำแพง

มีเสียงแตก และส่วนของกำแพงถูกดึงออกไปเหมือนจิ๊กซอว์

ระหว่างที่ถือหิน ที่มันต้องหนักหลายร้อยกิโลกรับในแต่ละก้อนแน่ ดั่งเป็นชิ้นของเล่น ริกกะวางมันลงบนพื้นอย่างอ่อนโยน

สี่ก้อนได้ถูกนำออกไป และรูได้ถูกสร้างที่กำแพง ซึ่งผมผ่านไปได้ง่ายๆ

มันยังมีโครงสร้างเหล็กในกำแพงเพื่อเสริมความแข็งแกร่งมัน แต่ริกกะทำมันเหมือนเป็นเต้าหู้

ไม่มีใครที่จะคาดว่าจะมีการพังเข้าไปในอาคารโรงเรียน ในรูปแบบที่ใช้กำลังแบบนี้

แมลงที่บินเป็นเลข 8 ตรงหน้าประตูลิฟต์ได้เข้าไปในอาคารโรงเรียน ผ่านทางเข้าที่ริกกะสร้ง

ผมมองริกกะ ที่มองดูผมและพยักหน้า

เราต้องให้ความสนใจกับการสนทนาที่นี่ ผมต้องเข้าหาศัตรูด้วยเสียงที่เบาน้อยที่สุดเท่าที่เป็นไปได้

อย่างไรก็ตาม ผมมี “เด็นชิน” ของมารินะอยู่กับผม

ผ่านมารินะผมสื่อความคิดกับริกกะได้ และริกกะสื่อความคิดของเธอมากับผมได้

แต่ผมรู้สึกไม่สบายใจเมื่อมารินะเงียบ

มารินะ? เฮ้ มารินะ? ได้ยินฉันมั้ย

ผมถามเธอหลายคร้งในใจของผม แต่เธอไม่ตอบ

เกิดอะไรขึ้น ผมมั่นใจว่าไม่มีอะไรผิดไปกับเด็นชิน เมื่อผมเข้ามาในบาเรีย และมันไม่มีบาเรียใหม่

ถ้าไม่ใช่เพราะบาเรีย มันเพราะเธออยู่ในระหว่างการย้ายฐาน และไมมีเวลาที่จะสนใจเรา หรือบางอย่างผิดไป?

มีปัญหา นั่นคือการโจมตีของศัตรู ถ้าพวกเธอพูดโจมตีโดยศัตรู นี่นแปลก เธอจะบอกผมทันทีผ่านเด็นชิน ว่าเธอถูกโจมตี เพิ่มเติมการนั้น อีกฝ่ายปล่อยพลังที่ท่วมท้นอย่างทามะมูชิ นานะฟูชิ และคาซะฮานะ และมีมนต์ของยูกะ และจากนั้นมี “เด็นชิน” ของมารินะที่ควบคุมพวกเธอทั้งหมดได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ถ้าพวกเขามาด้วยกำลังที่น้อย พวกเขาจะถูกกำจัดอย่างง่ายดาย

อย่างไรก็ตาม ถ้ากองกำลังที่ถูกส่งมามากกว่าน้อยนิดหน่อยล่ะ?

「ริกกะกลับกันเถอะ」

ผมเรียกริกกะที่กำลังจะเข้าไปในอาคารโรงเรียนผ่านรูที่กำพง

สีหน้าของริกกะเข้มขึ้นทันที หลังจากที่ตกใจอยู่ชั่วครู่

「ค่ะ」

และจากนั้น ริกกะพยักหน้า

ฉันขอโทษยูกินะ แต่ฉันยื่นมือไปช่วยเธอไม่ได้แล้ว

「แล้วบาเรียล่ะ」

ริกกะที่วิ่งอยู่ข้างผมขณะที่ผมเริ่มวิ่ง ถามผม

กรณีสุดท้ายเมื่อบาเรียถูกบอกว่าทำลายไม่ได้แม่แต่นานะฟูชิ แต่ครั้งนี้ บาเรีย “เละ” บางที――

「ลองทำลายมันด้วยกำลัง」

「ค่ะ!」

ริกกะพยักหน้ากับคำพูดของผม และดึงมีดเล่มใหญ่ออกมาจากข้างหลังของเธอ

ถ้าริกกะทำลาายมันได้ มันโอเค แต่ถ้าเธอทำไม่ได้เราต้องหาวิธีอื่น

อย่างที่ทามะมูชิพูด มันมี “จุดเริ่ม” ของบาเรีย เพื่อที่จะทำลายบาเรีย เราต้องไปหา “จุดเริ่ม”

ด้วยตาของผม เราอาจจะเจอจุดเริ่ม

แต่จะทำอะไรหลังจากเจอจุดเริ่มล่ะ?

มันดูเหมือนทามะมูชิที่มีความรู้เกี่ยวกับบาเรีย ทำลายมมันได้ แต่ผมไม่มีความรู้นั้น

อย่างไรก็ตาม แทนที่จะพยายามทำลายมันสุ่มๆ มันจะมีความเป็นไปได้มากว่าที่จะพยายามทำลายมันด้วยพลังกายภาพบนจุดเริ่ม

「มาสเตอร์ ได้โปรดถอยไปข้างหลังเผื่อว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น!」

พูดอย่างนี้ ริกกะได้ถือมีดใหญ่ที่อยู่บนหลัง และลดสะโพกของเธอ พร้อมกลืนน้ำลาย

เส้นเลือดขึ้นมาที่กล้ามเนื้อของเธอ และมันทำเสียงแตก และตัวของเธอ ลั่นเอี๊ยดและกระตุก

ริกกะบอกให้ผมไปข้างหลังเผื่อไว้ แต่ระยะของความสามารถของผมกว้าง ดังนั้น เพื่อที่จะหา “จุดเริ่ม” ผมไปอยู่ข้างหลังไม่ได้

มันไม่สำคัญถ้าผมเสัยแขนหรือขาไป

ในฐานะคนดูสนามรบ ผมโอเคตราบใดที่หัวของผมปลอดภัย

――เดี๋ยวก่อน! เดี๋ยว! เดี๋ยว! หยุดก่อน! หยุด!

เสียงของมารินะก้องในสมองของผม

ริกกะต้องได้ยินมันด้วยแน่ๆ เพราะเธอมองผมด้วยตาที่เบิกกว้าง

――ฉัน-ฉันขอโทษที่ฉันไม่ตอบ! ฉันโอเคที่นี่! ฉันไม่โอเค แต่! โอ้ พระเจ้า!

มารินะพูดว่าเธอโอเค แต่เธอดูเหมือนจะอยู่ในปัญหา

เธอดูเหมือนจะโอเค แต่ผมมั่นใจว่ามีอะไรบางอย่างที่ผิดไป

มารินะ ไม่ต้องอธิบาย แค่บอกฉันว่าเธอต้องการฉันและริกกะมั้ย

――นั่นใช่แล้ว มันจะช่วยได้ถ้าซูซูฮาระเป็นคนเจรจา! แต่ซูซูฮาระ-ซัง ได้โปรดมอบลำดับความสำคัญให้กับยูกินะ! โอ้พระเจ้า! หยุดมัน! เธอจะตาย! เธอจะตายจริงๆ!

คนเจรจา? ตาย? หมายความว่าอย่างไร? ให้ฉันได้ยินเรื่องนั้นให้ชัดเจน

――อาซาฮินะซัดฮิซูกิ-จัง! และเธอจะตายถ้าอาซาฮินะทำอะไรไปมากกว่านี เธอจะตายจริงๆ! เธอควรจะขอโทษด้วย ฮิซูกิ-จัง! ถ้าเธอนิสัยไม่ดีอยู่แบบนี้ เธอจะตายจริงๆ และเธอรู้ว่าคนนั้นไม่ยกโทษให้!

หือห์? อาซาฮินะซัดฮิซูกิ?

――ฮิซูกิ-จังได้พยายามจะทำให้อาซาฮินะร้อนเป็นเวลานาน แต่อาซาฮินะไ่ม่ได้ถูกเธอกวนใจ และฮิซูกิ-จังอารมณ์เสียและพูดบางอย่างที่เธอไม่สมควรจะพูด!

……หืมม แล้ว?

――เธอพูดว่า “หน้าอกที่น่าสงสาร! หน้าอกของเธแบนยิ่งกว่าเขียงอีก” จากนั้นอาซาฮินะ-ซังพูดว่า “หน้าอกที่ใหญ่ทำให้ไหล่แข็ง!” แต่ฮิซูกิ-จังมอบการด่าต่อเนื่องของสิ่งที่เธอไม่ควรจะพูด! จากนั้น เธอได้ถูกซัดจนน่วม! ฮิซูกิ-จังกำลังจะตาย แต่เธอไม่ขอโทษ! ในทางตรงกัน้าม เธอดูเหมือนว่าจะมีความสุขที่ได้ถูกซัด!

ผมปล่อยการถอนหายใจขณะที่ผมได้ยินเสียงของมารินะที่กรีดร้อง

ริกกะก็เหนื่อยกับเรื่องนี้ด้วย

――ยกโทษให้ฉันด้วย! ฉันไม่มีเวลาตอบ ฉันขอโทษ! ฉันได้ยินเสียงแหลม! เธอจะตาย! เธอกำังจะตาย! เธอจะตายจริงๆ! ได้โปรดดดดดดดด ขอโทษเธอออออ ฮิซูกิ-จังงงงงงงงงงง!

เสียงกรีดร้องของมารินะก้องอยู่ในสมองของผม อะไรกันวะ อีงี่เง่าสองคนนั้นทำอะไร?

「หนูมั่นใจว่าฮิซูกิ อิจฉาและมีความสุข」

ริกกะที่มองผมพึมพำด้วยรอยิ้มที่อยู่บนหน้า

เธออิจฉาและมีความสุข

ยังไงซะผมไม่เข้าใจความรู้สึกของเธอ

ก่อนที่เธอจะพัฒนาพลังตาของเธอ ฮิซูกิมีพลังที่จะ “อ่านคลุมเครือ” ใจของคน

มันเป็นพลังที่น้อย แต่การที่จะสามารถอ่านใจคน ไม่ใช่อะไรนอกจากสัตว์ประหลาด

นอกจากนี้ ถ้าเธอได้อ่านสิ่งที่เธอไม่อยากอ่านมันจะเป็นความน่ารำคาญและภาระที่มหาศาล

ไม่ต้องสงสัว่าทำไมเธอถูกทิ้ง ผมเดาว่าเธอควรจะพิจารณาว่าต้วเธอโชคดีที่ไมถูกลบออกไป

แต่ก็อีกแหละ ฮิซูกิน่าจะเป็นแค่เด็ก

เธอต้องเกลียดโลกอย่างมาก เกลียดพลังของเธอ และใจของเธอต้องบิดเบี้ยวไปถึงจุดหนึ่ง

ในความเป็นจริง เมื่อเราได้เจอกันครั้งแรก ฮิซูกิบ้าอย่างชัดเจน

นั่นทำไมเธอรับพี่สาวน้องสาวสองคนที่ถูกพิษของโลกมนุษย์ ผมเดาว่าผมพูดอย่างนั้นได้

นานมาแล้ว ในวันหนึ่ง ตรงหน้าของฮิซูกิ อาซาฮินะปรากฏขึ้นมา

「อาซาฮินะเป็นพระอาทิตย์」

「พระอาทิตย์ หือห์?」

「ใช่ในการมองผ่านๆันเดูเหมือนเธอเป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติ แต่ในความเป็นจริง เธอไม่」

พระอาทิตย์ไม่ได้ส่องสว่างเพื่อมนุษย์ หรือแม้แต่สิ่งมีชีวิต มันทำอย่างนั้นเพราะมันอยากทำ พระอาทิตย์ไม่ได้สนใจว่าใครจะมีปัญหากับแสง ลและจะส่องแสงต่ออย่างไร้ปราณีและไม่มีการสิ้นสุด

「ฮิซูกิในทางตรงกันข้ามเป็นพระจันทร์ในท้องฟ้าตอนกลางคืน ถ้าาไม่มีแสงอาทิตย์เธอแม้แต่ส่องแสงยังไม่ได้เลยเป็นตัวตนที่เล็กนิดเดียว」

เมื่อพระอาทิตย์ขึ้น มันซ่อนตัวและหนีไป และเมื่อพระอาทิตย์ตกดิน มันปรากฏขึ้นมาอย่างเงียบๆ และโดยไม่มีแสงของพระอาทิตย์ มันส่องแสงเองยังไม่ได้เลย

อย่างไรก็ตาม มีคนเหล่านั้น ที่ต้องการตัวตนที่เล็กนิดเดียวแบบนั้น

สำหรับคนเหล่านั้นที่ใช้ชีวิตอยู่ในความืด แสงของพระจันทร์ไม่มีอะไรจะมาทดแทนได้

มีแค่ฮิซูกิที่ใช้ชีวิตอยู่ในความมืดมิดที่รับคาซะฮานะและริกกะ ที่ใช้ชีวิอยู่ในความมืดมิด

อาซาฮินะคิดว่าตัวเองถูก และเดินตรงไปที่ทางที่แคบโดยไม่ลังเล และฮิซูกิ ที่เดินอยู่ในความมืด

พวกเธอตรงกันข้ามกัน แต่นั่นอาจจะเป็นว่าทำไม พวกเธอดึงดูดกันและกัน

นอกจากนี้ พวกเธอยังมีบางอย่างที่เหมือนกัน

อาซาฮินะที่ไร้ความสามารถ แต่แม้แต่นานะฟูชิก็ยังกลัวเธอ และฮิซูกิ ที่ควบคุมตาแห่งสวรรค์ แม้ว่าจะชั่วคราว

พวกเธอสองคน ไม่ว่าคุณจะมองมันอย่างไร,,,

 「มันเป็นสัตว์ประหลาดที่ไม่ปรกติ」   

ริกกะยิ้มเมื่อเธอได้ยินผมพึมพำคำนั้น

 「ฮิซูกิจะสู้ตรงๅกับอาซาฮินะ-ซามะนั้นชัดเจนว่าเป็นคนโง่ที่ช่วยตัวเองไม่ได้ แต่หนูรักฮิซูกิก่อนหน้านั้น หนูรักฮิซูกิของวันนี้ มากกว่าฮิซูกิก่อนหน้า」

 「ใช่! ชั้นก็ไม่เกลียดฮิซูกิปัจจุบันด้วย」      

ผมพยักหน้ากับคำพูดขงริกกะ และยิ้มพร้อมถอนหายใจ

พูดถึงแล้ว มารินะปล่อยอีงี่เง่าสองตัวตามลำพัง ฉันหมายถึง พวกเธอแค่มีความสุข ที่ได้เจอเพื่อนซี้ที่สู้กันอย่างเท่าเทียม ดังนั้นอย่าไปแทรกแซง

ผมพูดกับมารินะในใจของผม แต่ไม่มีการตอบ

เธอน่าจะอยู่ในความตื่นตกใจเพราะฮิซูกิถูกซัดจนน่วมโดยอาซาฮนะและอยูในปัญาหา

ผมมั่นใจว่าแม้แต่มารินะก็รับมือกับสองคนนั้นไม่ได้ด้วย

ไม่ว่าจะพยายามหยุดพวกเธออย่างไร พวกเธอจะไม่หยุดสู้กันและดังนั้นทำไมเธอไม่ปล่อยพวกเธอไว้ล่ะ

ยังไงซะ――

 「ผู้บัญชาการเหมือนคนรับใช้ที่ต้องให้ความสนใจกับรอบข้าง」 

มันเป็นงานที่หนัก

ในเรื่องนั้น มันดีที่จะแนวหน้าสบายใจได้

 ริกกะได้ยินผมพึมพำและหัวเราะคิกคัก

 「ตอนนี้ เรามารีบกันมั้ย?」        

 「นั่นใช่แล้วถ้าเราไม่รีบ สองคนั้นจะมา 」   

 「นั่นเป็นส่วนที่มีปัญหามาที่สุด」     

เราคุยกันและเริ่มวิ่ง และเราเข้าอาคารเรียนผ่านรูในกำแพง

 เป้าหมายเดือน 6/66

ค่าเน็ต 200/200

คีย์บอร์ดมือถือ 100/100

พาวเวอร์ซัพพลาย 140/140

ค่าห้องโรงพยาบาลยาย 460/2000

สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่

067-3-63958-5

วายุ แซ่จิว

กสิกรไทย

แปลโดย: wayuwayu

ติดตามได้ที่ดิสคอทส่งข้อความมาขอได้ที่ Facebook: “wayuwayu แปล” Line: @326jilhj

โดเนทแล้วอยากให้เรื่องขึ้นหรือสะสมเงินเพิ่มตอน แจ้งได้ที่ Facebook และ Line

pdfไว้อ่านตอนกลางคืน  สปอนเซอร์ตอน จองตอน ซื้อตอน หารได้ ได้ทั้ง facebook,Line และ Discord   

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เอ็กซ์เรย์เป็นมากกว่าที่ฉันคิด – X-ray Is More Than I Thought 148

Now you are reading เอ็กซ์เรย์เป็นมากกว่าที่ฉันคิด – X-ray Is More Than I Thought Chapter 148 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 148

แมลงที่นำทางเราหยุดหน้าลิฟต์ของโรงเรียนคุโรยูริ และมันบินในรูปเลข 8

「มันดูเหมือนแมลงจะบอกอะไรเราบางอย่าง」

ริกกะที่เอียงหัวของเธอ มองงขึ้นมาหาผม แลถาม

「บางทีมันอาจจะเป็นระบบเตือน……」

ผมพึมพำ มองลิฟต์

ถ้ามันเป็นแมลงตัวเล็กๆ มันจะสามารถเข้าไปในอาคารโรงเรียนผ่านรอยแยกได้ แต่มันไม่ใช่แบบนนั้นสำหรับผมกับริกะ

เราคงต้องทำลายล็อคเพื่อที่จะเปิดประตู และเข้าไปในาคาร หรือทำให้หน้าต่างแตก

แต่จากน้น ระบบสัญญานเตือนภัยจะเป็นปัญหา

การทำลายล็อคจะใช้งานสัญญาานเตือนภัยอย่างแน่นอน

ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ยามที่จะพุ่งเข้ามา แต่ปัญหาคือพวกนั้นที่มีเป้าหมายอยู่ที่กึ่งสัตว์

ถ้าสัญญานเตือนภัยดังขั้นและพวกเขาใจร้อนพวกเขาจะลืมสิ่งที่จะทำและพยายามใช้มาตรการที่รุนแรงขึ้น

ยกตัวอย่างเช่น พวกเขาอาจจะฆ่าพวกเธอทั้งหมด และวิ่งหนี

แมลงที่รู้เรื่องนี้ บอกผมสองครั้งก่อนที่เราจะรุกเข้าไป

ถ้าเป็นอย่างนั้น มันเป็นแมลงที่ฉลาด

ไม่ ไม่ใช่อย่างนั้น

สัตว์เลี้ยงจะเหมือนเจ้าของ

เพราะพลังของทามะมูชิได้เพิ่มขึ้น ค่าของความสามารถของแมลงที่ถูกควบคุมก็เพิ่มขึ้นด้วย

นั่นใช่แล้ว

「เราหลีกสายไฟและพังหน้าต่างได้ แต่」

ตาของผมเห็นสายไฟที่ถูกซ่อนอยู่ และผมเลี่ยงสายไฟ ทำลายหน้าต่าง และเข้าไปข้างในได้

แต่นี่เป็นโรงเรียนสำหรับผู้หญิงที่มีศักดิ์ศรี ระบบรักษาความปลอดภัยมันค่อนข้างดี

ผมก็เห็นตัวส่งสัญญานเตือนภัยที่ถูกต่อใฟ ดูเหมือนจะเป็นแสงอินฟาเรด ในที่อื่นๆที่ผมเข้าไปได้

บนชั้นที่สอง ผม “เห็น” สิ่งที่ดูเหมือระบบสายไฟสำหรับระบบสัญญานเตือนภัย แต่ผมไม่เห็นอะไรที่ดูเหมือนแสงอินฟราเรด

ระบบสัญญานเตือนพภัย น่าจะสำหรับคนที่คิดว่าระบบสัญญานเตื่นไฟที่เชื่่อมต่อไฟมันเพียงพอสำหรับชั้นหนึ่ง และไม่ติดกับทุกั้น

「ริกกะพังเข้าไปได้ง่ายๆ แต่ชั้นเป็นคนที่เป็นภาระ」

มันจริงที่ว่าถ้าผมไม่มีทางเข้าดีๆสำหรับอีงี่เง่าสองคนที่จะมาหลังจากเรา พวกเธอจะพังประตูหน้าและสร้างความวุ่นวาย

ถ้าอย่างนั้น―

ผมก้าวเข้าไปและยืนที่กำแพงที่ต่อจากลิฟต์ในทางเข้า

สามัญสำนึกบอกว่าถ้าผมทำทางเข้าที่มนุษย์เข้าไม่ได้ งั้นมันจะไม่มีปัญหา

แะริกกะทำมันนได้

「ริกกะหนูตัดกำแพงนี้ให้เสียงเบาที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ได้มั้ย 」

ผมถามริกกะและวางมือไปที่กำแพง

ริกกะยิ้มขณะที่เธอได้ยินคำพูดของผม

「มันไม่มีปัญหา」

และเธอตอบมา ริกกะนำมือขวาไว้ข้างหลังของงเธอ

ด้วยเสียงฟันผ่านลม เสียงเหล็กเบาๆดังก้อง

แผลเปิดรูปววงรีที่กำแพง และรอยฟันรูปกางเขน

ด้วยมีดใหญ่ที่ถือที่หลังเธอ ริกกะนำทั้งสองมือไปที่กำแพง

มีเสียงแตก และส่วนของกำแพงถูกดึงออกไปเหมือนจิ๊กซอว์

ระหว่างที่ถือหิน ที่มันต้องหนักหลายร้อยกิโลกรับในแต่ละก้อนแน่ ดั่งเป็นชิ้นของเล่น ริกกะวางมันลงบนพื้นอย่างอ่อนโยน

สี่ก้อนได้ถูกนำออกไป และรูได้ถูกสร้างที่กำแพง ซึ่งผมผ่านไปได้ง่ายๆ

มันยังมีโครงสร้างเหล็กในกำแพงเพื่อเสริมความแข็งแกร่งมัน แต่ริกกะทำมันเหมือนเป็นเต้าหู้

ไม่มีใครที่จะคาดว่าจะมีการพังเข้าไปในอาคารโรงเรียน ในรูปแบบที่ใช้กำลังแบบนี้

แมลงที่บินเป็นเลข 8 ตรงหน้าประตูลิฟต์ได้เข้าไปในอาคารโรงเรียน ผ่านทางเข้าที่ริกกะสร้ง

ผมมองริกกะ ที่มองดูผมและพยักหน้า

เราต้องให้ความสนใจกับการสนทนาที่นี่ ผมต้องเข้าหาศัตรูด้วยเสียงที่เบาน้อยที่สุดเท่าที่เป็นไปได้

อย่างไรก็ตาม ผมมี “เด็นชิน” ของมารินะอยู่กับผม

ผ่านมารินะผมสื่อความคิดกับริกกะได้ และริกกะสื่อความคิดของเธอมากับผมได้

แต่ผมรู้สึกไม่สบายใจเมื่อมารินะเงียบ

มารินะ? เฮ้ มารินะ? ได้ยินฉันมั้ย

ผมถามเธอหลายคร้งในใจของผม แต่เธอไม่ตอบ

เกิดอะไรขึ้น ผมมั่นใจว่าไม่มีอะไรผิดไปกับเด็นชิน เมื่อผมเข้ามาในบาเรีย และมันไม่มีบาเรียใหม่

ถ้าไม่ใช่เพราะบาเรีย มันเพราะเธออยู่ในระหว่างการย้ายฐาน และไมมีเวลาที่จะสนใจเรา หรือบางอย่างผิดไป?

มีปัญหา นั่นคือการโจมตีของศัตรู ถ้าพวกเธอพูดโจมตีโดยศัตรู นี่นแปลก เธอจะบอกผมทันทีผ่านเด็นชิน ว่าเธอถูกโจมตี เพิ่มเติมการนั้น อีกฝ่ายปล่อยพลังที่ท่วมท้นอย่างทามะมูชิ นานะฟูชิ และคาซะฮานะ และมีมนต์ของยูกะ และจากนั้นมี “เด็นชิน” ของมารินะที่ควบคุมพวกเธอทั้งหมดได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ถ้าพวกเขามาด้วยกำลังที่น้อย พวกเขาจะถูกกำจัดอย่างง่ายดาย

อย่างไรก็ตาม ถ้ากองกำลังที่ถูกส่งมามากกว่าน้อยนิดหน่อยล่ะ?

「ริกกะกลับกันเถอะ」

ผมเรียกริกกะที่กำลังจะเข้าไปในอาคารโรงเรียนผ่านรูที่กำพง

สีหน้าของริกกะเข้มขึ้นทันที หลังจากที่ตกใจอยู่ชั่วครู่

「ค่ะ」

และจากนั้น ริกกะพยักหน้า

ฉันขอโทษยูกินะ แต่ฉันยื่นมือไปช่วยเธอไม่ได้แล้ว

「แล้วบาเรียล่ะ」

ริกกะที่วิ่งอยู่ข้างผมขณะที่ผมเริ่มวิ่ง ถามผม

กรณีสุดท้ายเมื่อบาเรียถูกบอกว่าทำลายไม่ได้แม่แต่นานะฟูชิ แต่ครั้งนี้ บาเรีย “เละ” บางที――

「ลองทำลายมันด้วยกำลัง」

「ค่ะ!」

ริกกะพยักหน้ากับคำพูดของผม และดึงมีดเล่มใหญ่ออกมาจากข้างหลังของเธอ

ถ้าริกกะทำลาายมันได้ มันโอเค แต่ถ้าเธอทำไม่ได้เราต้องหาวิธีอื่น

อย่างที่ทามะมูชิพูด มันมี “จุดเริ่ม” ของบาเรีย เพื่อที่จะทำลายบาเรีย เราต้องไปหา “จุดเริ่ม”

ด้วยตาของผม เราอาจจะเจอจุดเริ่ม

แต่จะทำอะไรหลังจากเจอจุดเริ่มล่ะ?

มันดูเหมือนทามะมูชิที่มีความรู้เกี่ยวกับบาเรีย ทำลายมมันได้ แต่ผมไม่มีความรู้นั้น

อย่างไรก็ตาม แทนที่จะพยายามทำลายมันสุ่มๆ มันจะมีความเป็นไปได้มากว่าที่จะพยายามทำลายมันด้วยพลังกายภาพบนจุดเริ่ม

「มาสเตอร์ ได้โปรดถอยไปข้างหลังเผื่อว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น!」

พูดอย่างนี้ ริกกะได้ถือมีดใหญ่ที่อยู่บนหลัง และลดสะโพกของเธอ พร้อมกลืนน้ำลาย

เส้นเลือดขึ้นมาที่กล้ามเนื้อของเธอ และมันทำเสียงแตก และตัวของเธอ ลั่นเอี๊ยดและกระตุก

ริกกะบอกให้ผมไปข้างหลังเผื่อไว้ แต่ระยะของความสามารถของผมกว้าง ดังนั้น เพื่อที่จะหา “จุดเริ่ม” ผมไปอยู่ข้างหลังไม่ได้

มันไม่สำคัญถ้าผมเสัยแขนหรือขาไป

ในฐานะคนดูสนามรบ ผมโอเคตราบใดที่หัวของผมปลอดภัย

――เดี๋ยวก่อน! เดี๋ยว! เดี๋ยว! หยุดก่อน! หยุด!

เสียงของมารินะก้องในสมองของผม

ริกกะต้องได้ยินมันด้วยแน่ๆ เพราะเธอมองผมด้วยตาที่เบิกกว้าง

――ฉัน-ฉันขอโทษที่ฉันไม่ตอบ! ฉันโอเคที่นี่! ฉันไม่โอเค แต่! โอ้ พระเจ้า!

มารินะพูดว่าเธอโอเค แต่เธอดูเหมือนจะอยู่ในปัญหา

เธอดูเหมือนจะโอเค แต่ผมมั่นใจว่ามีอะไรบางอย่างที่ผิดไป

มารินะ ไม่ต้องอธิบาย แค่บอกฉันว่าเธอต้องการฉันและริกกะมั้ย

――นั่นใช่แล้ว มันจะช่วยได้ถ้าซูซูฮาระเป็นคนเจรจา! แต่ซูซูฮาระ-ซัง ได้โปรดมอบลำดับความสำคัญให้กับยูกินะ! โอ้พระเจ้า! หยุดมัน! เธอจะตาย! เธอจะตายจริงๆ!

คนเจรจา? ตาย? หมายความว่าอย่างไร? ให้ฉันได้ยินเรื่องนั้นให้ชัดเจน

――อาซาฮินะซัดฮิซูกิ-จัง! และเธอจะตายถ้าอาซาฮินะทำอะไรไปมากกว่านี เธอจะตายจริงๆ! เธอควรจะขอโทษด้วย ฮิซูกิ-จัง! ถ้าเธอนิสัยไม่ดีอยู่แบบนี้ เธอจะตายจริงๆ และเธอรู้ว่าคนนั้นไม่ยกโทษให้!

หือห์? อาซาฮินะซัดฮิซูกิ?

――ฮิซูกิ-จังได้พยายามจะทำให้อาซาฮินะร้อนเป็นเวลานาน แต่อาซาฮินะไ่ม่ได้ถูกเธอกวนใจ และฮิซูกิ-จังอารมณ์เสียและพูดบางอย่างที่เธอไม่สมควรจะพูด!

……หืมม แล้ว?

――เธอพูดว่า “หน้าอกที่น่าสงสาร! หน้าอกของเธแบนยิ่งกว่าเขียงอีก” จากนั้นอาซาฮินะ-ซังพูดว่า “หน้าอกที่ใหญ่ทำให้ไหล่แข็ง!” แต่ฮิซูกิ-จังมอบการด่าต่อเนื่องของสิ่งที่เธอไม่ควรจะพูด! จากนั้น เธอได้ถูกซัดจนน่วม! ฮิซูกิ-จังกำลังจะตาย แต่เธอไม่ขอโทษ! ในทางตรงกัน้าม เธอดูเหมือนว่าจะมีความสุขที่ได้ถูกซัด!

ผมปล่อยการถอนหายใจขณะที่ผมได้ยินเสียงของมารินะที่กรีดร้อง

ริกกะก็เหนื่อยกับเรื่องนี้ด้วย

――ยกโทษให้ฉันด้วย! ฉันไม่มีเวลาตอบ ฉันขอโทษ! ฉันได้ยินเสียงแหลม! เธอจะตาย! เธอกำังจะตาย! เธอจะตายจริงๆ! ได้โปรดดดดดดดด ขอโทษเธอออออ ฮิซูกิ-จังงงงงงงงงงง!

เสียงกรีดร้องของมารินะก้องอยู่ในสมองของผม อะไรกันวะ อีงี่เง่าสองคนนั้นทำอะไร?

「หนูมั่นใจว่าฮิซูกิ อิจฉาและมีความสุข」

ริกกะที่มองผมพึมพำด้วยรอยิ้มที่อยู่บนหน้า

เธออิจฉาและมีความสุข

ยังไงซะผมไม่เข้าใจความรู้สึกของเธอ

ก่อนที่เธอจะพัฒนาพลังตาของเธอ ฮิซูกิมีพลังที่จะ “อ่านคลุมเครือ” ใจของคน

มันเป็นพลังที่น้อย แต่การที่จะสามารถอ่านใจคน ไม่ใช่อะไรนอกจากสัตว์ประหลาด

นอกจากนี้ ถ้าเธอได้อ่านสิ่งที่เธอไม่อยากอ่านมันจะเป็นความน่ารำคาญและภาระที่มหาศาล

ไม่ต้องสงสัว่าทำไมเธอถูกทิ้ง ผมเดาว่าเธอควรจะพิจารณาว่าต้วเธอโชคดีที่ไมถูกลบออกไป

แต่ก็อีกแหละ ฮิซูกิน่าจะเป็นแค่เด็ก

เธอต้องเกลียดโลกอย่างมาก เกลียดพลังของเธอ และใจของเธอต้องบิดเบี้ยวไปถึงจุดหนึ่ง

ในความเป็นจริง เมื่อเราได้เจอกันครั้งแรก ฮิซูกิบ้าอย่างชัดเจน

นั่นทำไมเธอรับพี่สาวน้องสาวสองคนที่ถูกพิษของโลกมนุษย์ ผมเดาว่าผมพูดอย่างนั้นได้

นานมาแล้ว ในวันหนึ่ง ตรงหน้าของฮิซูกิ อาซาฮินะปรากฏขึ้นมา

「อาซาฮินะเป็นพระอาทิตย์」

「พระอาทิตย์ หือห์?」

「ใช่ในการมองผ่านๆันเดูเหมือนเธอเป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติ แต่ในความเป็นจริง เธอไม่」

พระอาทิตย์ไม่ได้ส่องสว่างเพื่อมนุษย์ หรือแม้แต่สิ่งมีชีวิต มันทำอย่างนั้นเพราะมันอยากทำ พระอาทิตย์ไม่ได้สนใจว่าใครจะมีปัญหากับแสง ลและจะส่องแสงต่ออย่างไร้ปราณีและไม่มีการสิ้นสุด

「ฮิซูกิในทางตรงกันข้ามเป็นพระจันทร์ในท้องฟ้าตอนกลางคืน ถ้าาไม่มีแสงอาทิตย์เธอแม้แต่ส่องแสงยังไม่ได้เลยเป็นตัวตนที่เล็กนิดเดียว」

เมื่อพระอาทิตย์ขึ้น มันซ่อนตัวและหนีไป และเมื่อพระอาทิตย์ตกดิน มันปรากฏขึ้นมาอย่างเงียบๆ และโดยไม่มีแสงของพระอาทิตย์ มันส่องแสงเองยังไม่ได้เลย

อย่างไรก็ตาม มีคนเหล่านั้น ที่ต้องการตัวตนที่เล็กนิดเดียวแบบนั้น

สำหรับคนเหล่านั้นที่ใช้ชีวิตอยู่ในความืด แสงของพระจันทร์ไม่มีอะไรจะมาทดแทนได้

มีแค่ฮิซูกิที่ใช้ชีวิตอยู่ในความมืดมิดที่รับคาซะฮานะและริกกะ ที่ใช้ชีวิอยู่ในความมืดมิด

อาซาฮินะคิดว่าตัวเองถูก และเดินตรงไปที่ทางที่แคบโดยไม่ลังเล และฮิซูกิ ที่เดินอยู่ในความมืด

พวกเธอตรงกันข้ามกัน แต่นั่นอาจจะเป็นว่าทำไม พวกเธอดึงดูดกันและกัน

นอกจากนี้ พวกเธอยังมีบางอย่างที่เหมือนกัน

อาซาฮินะที่ไร้ความสามารถ แต่แม้แต่นานะฟูชิก็ยังกลัวเธอ และฮิซูกิ ที่ควบคุมตาแห่งสวรรค์ แม้ว่าจะชั่วคราว

พวกเธอสองคน ไม่ว่าคุณจะมองมันอย่างไร,,,

 「มันเป็นสัตว์ประหลาดที่ไม่ปรกติ」   

ริกกะยิ้มเมื่อเธอได้ยินผมพึมพำคำนั้น

 「ฮิซูกิจะสู้ตรงๅกับอาซาฮินะ-ซามะนั้นชัดเจนว่าเป็นคนโง่ที่ช่วยตัวเองไม่ได้ แต่หนูรักฮิซูกิก่อนหน้านั้น หนูรักฮิซูกิของวันนี้ มากกว่าฮิซูกิก่อนหน้า」

 「ใช่! ชั้นก็ไม่เกลียดฮิซูกิปัจจุบันด้วย」      

ผมพยักหน้ากับคำพูดขงริกกะ และยิ้มพร้อมถอนหายใจ

พูดถึงแล้ว มารินะปล่อยอีงี่เง่าสองตัวตามลำพัง ฉันหมายถึง พวกเธอแค่มีความสุข ที่ได้เจอเพื่อนซี้ที่สู้กันอย่างเท่าเทียม ดังนั้นอย่าไปแทรกแซง

ผมพูดกับมารินะในใจของผม แต่ไม่มีการตอบ

เธอน่าจะอยู่ในความตื่นตกใจเพราะฮิซูกิถูกซัดจนน่วมโดยอาซาฮนะและอยูในปัญาหา

ผมมั่นใจว่าแม้แต่มารินะก็รับมือกับสองคนนั้นไม่ได้ด้วย

ไม่ว่าจะพยายามหยุดพวกเธออย่างไร พวกเธอจะไม่หยุดสู้กันและดังนั้นทำไมเธอไม่ปล่อยพวกเธอไว้ล่ะ

ยังไงซะ――

 「ผู้บัญชาการเหมือนคนรับใช้ที่ต้องให้ความสนใจกับรอบข้าง」 

มันเป็นงานที่หนัก

ในเรื่องนั้น มันดีที่จะแนวหน้าสบายใจได้

 ริกกะได้ยินผมพึมพำและหัวเราะคิกคัก

 「ตอนนี้ เรามารีบกันมั้ย?」        

 「นั่นใช่แล้วถ้าเราไม่รีบ สองคนั้นจะมา 」   

 「นั่นเป็นส่วนที่มีปัญหามาที่สุด」     

เราคุยกันและเริ่มวิ่ง และเราเข้าอาคารเรียนผ่านรูในกำแพง

 เป้าหมายเดือน 6/66

ค่าเน็ต 200/200

คีย์บอร์ดมือถือ 100/100

พาวเวอร์ซัพพลาย 140/140

ค่าห้องโรงพยาบาลยาย 460/2000

สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่

067-3-63958-5

วายุ แซ่จิว

กสิกรไทย

แปลโดย: wayuwayu

ติดตามได้ที่ดิสคอทส่งข้อความมาขอได้ที่ Facebook: “wayuwayu แปล” Line: @326jilhj

โดเนทแล้วอยากให้เรื่องขึ้นหรือสะสมเงินเพิ่มตอน แจ้งได้ที่ Facebook และ Line

pdfไว้อ่านตอนกลางคืน  สปอนเซอร์ตอน จองตอน ซื้อตอน หารได้ ได้ทั้ง facebook,Line และ Discord   

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+