re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง 17 เทพเอส

Now you are reading re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง Chapter 17 เทพเอส at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 17 เทพเอส

ไนเรลคิดถึงท่อน้ำขนาดใหญ่ที่เชื่อมไปถึงอาคารชั้นใต้ดินของคุก แต่ว่ายังไงเขาก็ต้องลองเสี่ยงดูเพราะมีเวลาไม่มากแล้ว

“พี่จะไปช่วยปู่ออกมา ส่วนน้องรออยู่นี่นะ ค่อยดูเส้นทางที่จะถอยให้พี่ด้วย” ไนเรลหันไปกล่าวกับนิเรียน้องสาวของเขา

“พี่ชาย…” นิเรียพูดออกมาและกำลังจะขอตามไปด้วยความเป็นห่วง

“พี่ตัดสินใจแล้ว” ไนเรลพูดขัดขึ้นมาทันที และก็บอกกับดามินที่อยู่ด้านข้าง “ฝากดูเเลทุกคนช่วงที่ฉันไม่อยู่ด้วย”

“ครับ ระวังตัวด้วยพี่ไนเรล” ดามินรับปากอย่างเข้มแข็ง เขาสัญญาในใจว่าจะทำให้ดีที่สุดเหมือนกับที่ไนเรลได้ไว้ใจเขา

นิเรียเมื่อเห็นว่าพี่ชายของเธอ ได้ตัดสินใจแล้วและดูจะไม่ยอมเปลี่ยนใจง่าย ๆ เธอจึงได้แต่บอกให้เขาระวังตัว “พี่ชายระวังตัวด้วยนะ”

เขาพยักหน้าตอบและเดินออกมาแต่นิเรียก็ยังพูดขึ้น “พี่ชายต้องกลับมานะ”

“พี่ต้องกลับมาอยู่แล้ว น้องนับหนึ่งถึงสิบพี่ก็กลับมาแล้ว ถ้าไม่กลับมาใครจะคอยดูแลน้องสาวที่น่ารักคนนี้กัน” ไนเรลลูบไปที่หัวของเธออย่างอ่อนโยนและเดินออกไปจากตัวตึกทันที

ในขณะที่นิเรียนับหนึ่งถึงสิบในใจและพึมพำว่า ‘ไม่เห็นพี่ชายจะกลับมาเลย’ บางครั้งเธอก็ชอบทำตัวเป็นเด็กต่อหน้าพี่ชายและมันก็จะเป็นเช่นนี้ไปตลอดไม่ว่าพวกเขาจะอายุเท่าไหร่

นิเรียรีบปรับอารมณ์ของเธอแล้วเอาสไนเปอร์ M-21 จากดามินมาส่องไปที่คุก

……………………………..

ไนเรลออกมาได้สักพักเขาก็เจอกับท่อของโรงบำบัดน้ำ เขาเดินหาทางเข้าท่อน้ำทิ้งท่อหลักที่เชื่อมต่อไปยังคุก และที่โชคดีไปกว่านั้นคือเขาเจอแผนที่ด้วยมันวางอยู่บนกองเอกสาร ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีการตรวจเช็คซ่อมบำรุงประจำปี แต่ทุกคนก็ตายและเกิดเรื่องซะก่อน ของพวกนี้จึงยังไม่ได้เก็บไป

ภายในนั้นมืดมาก ด้านในท่อหลักมีเสียงลมพัดผ่านดังออกมาอยู่ตลอด เขาเปิดไฟฉายที่อยู่บนหัวที่ได้มาจากของที่พวกช่างซอมบำรุงทิ้งไว้ เขายังเอาเสื้อกั๊กของช่างมาด้วย เนื่องจากภายในมันมีน้ำจำนวนมากอากาศจึงเย็นเหมือนกับอยู่ในถ้ำ

ทันทีที่แสงส่องเข้าไปแมลงเล็ก ๆ ทั้งหลายต่างก็พากันหลบแสงกันอย่างรวดเร็ว

ไนเรลเดินเข้าไปอย่างระมัดระวัง ภายในต่อมาขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 10 เมตร มันใหญ่พอสมควร

กลิ่นที่นี่เน่าเหม็นพอสมควร แต่มันไม่ควรที่จะแรงแบบนี้ เพราะว่าปกติน้ำที่ปล่อยออกมาจะต้องได้รับการบำบัดเสียก่อน

‘ดูเหมือนว่าจะมีตัวอะไรตายอยู่ในนี้เป็นจำนวนมาก’

เขาหยิบแผนที่ออกมาดู เส้นทางแค่ 2 กิโลมันใช้เวลาแค่ 30 นาทีก็ไปถึงแล้ว ท่อหลักระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตรและท่อย่อยอีก 0.5 กิโลเมตร

เมื่อเดินเข้ามาได้สักพักเขาก็เจอกับตะขาบตัวเท่าแขนยาวกว่า 2 เมตร มันพยายามจะเข้ามากัดเขาจึงโดนดาบยาวทังสแตนฟันจนขาดครึ่งอย่างง่ายดาย แต่มันก็ยังไม่ตายท่อนหัวและห่างของมันต่างพากันคลานหนีหายไปอย่างรวดเร็ว ‘ตะขาบสองหัว’

ไนเรลยังคงเดินทางต่อ แต่ว่าพอเดินมาได้สักพักเขาก็รู้แล้วว่ากลิ่นเหม็นมันมาจากไหน ที่นี่มีพวกศพคนตายจำนวนมากมันเป็นฝีมือของหนูยักษ์กลายพันธุ์เเละตอนนี้มันก็ขวางทางที่ไปสู้ท่อย่อยตรงไปคุกของเขาอยู่

เขารีบหลบไปที่ช่องของท่อด้านข้าง

เมื่อลองนับมันมีอยู่ราว ๆ 70-80 ตัวได้กำลังกินซากศพกันอย่างเมามัน ในนั้นไม่ได้มีแค่หนูแต่ยังมีพวกแมลลงสาป หนอน ตะขาบอยู่ด้วย

แต่พวกมันกินไม่นานก็ถูกหนูเจ้าถิ่นจับกินอยู่ดี

เขาต้องหาทางเข้าไปและก็กล้มลงไปเห็นก้อนอิฐที่เท้า ไนเรลจึงคิดบางอย่างออก

เขาหยิบก้อนอิฐขึ้นมาและใช้เนื้อแห้งของต่อกลายพันธุ์ที่เขาพกติดตัวมาด้วย ใช้เศษผ้าที่ฉีกออกมาผูกเนื้อและก้อนอิฐเข้าด้วยกัน

และใช้แรงทั้งถึง 3 เท่าป่ามันออกไปด้วยท่าควงสวิง ด้วยพลังที่ป่าออกไปมันเป็นเหมือนกับกระสุนปืนใหญ่แต่ด้วยข้อจำกัดของขนาดท่อ ก้อนอิฐก็ไปชนกับเพดานเสียงดัง ตึ๋ง!! ดึงดูดหนูทุกตัว

พอพวกมันได้กลิ่นเนื้อต่อกลายพันธุ์กรูวิ่งพากันไปตามกลิ่นของเนื้อต่อหัวเสือกลายพันธุ์ทันที

หนูทั้งหมดหายไปแล้วแต่เวลาของเขาไม่มากนัก เพราะเนื้อที่อยู่กับอิฐไม่พอให้พวกมันแย่งกันด้วยซ้ำ

ไนเรลรีบวิ่งไปทันทีพร้อมกับหลบแมลงเล็ก ๆ ไปด้วย ตอนนี้เขามาถึงหน้าท่อย่อยแล้วแต่มันมีกรงเหล็กขวางอยู่

จี๊ด ๆ!

เขามีเวลาไม่มากแล้ว เพราะหนูกลายพันธุ์พวกนั้นกลับมาแล้ว

โดยไม่รอช้าไนเรลรีบใช้แรงกระชากกรงเหล็กออก

แคร๊ง ๆ!!!

“ซวยละ” เขาออกแรงมากไปหน่อยโครงเหล็กถูกดึงออกมาจนหลุดมือเพราะแรงเหวี่ยงไปชนกับผนัง

เสียงจี๊ด ๆ! หนูกลายพันธุ์จำนวนมากก็พากันกรูเข้ามาหาเขา ไนเรลรีบวิ่งหนีสุดชีวิต

แต่ดูเหมือนจะมีหนูกลายพันธุ์บางตัวตามเขามาทันมันกระโดดเข้าใส่จากด้านหลังทันที

ไนเรลไม่รอช้าม้วนตัวใช้ดาบฟันมันจนขาดครึ่ง จากนั้นเขาก็ใช้ดาบแทงไปอีกตัวจนตาย

ไนเรลถุยน้ำที่กระเด็นเข้าปากเขาออกและเริ่มวิ่งต่อ…

300 เมตร…

200 เมตร…

100 เมตร…

50 เมตร..

10 9 8 7 6 5 4 3 2 1 เมตร…

“เจอแล้วประตูบานนั้น” ไนเรลรีบวิ่งไปที่ประตูเหล็กมันอยู่สูงจากพื้นประมาณ 1 เมตรเพื่อป้องกันน้ำ

เมื่อไปถึงประตูดูเหมือนจะถูกล๊อคไว้แต่แน่นอนว่าด้วยความสามารถ [พละกำลัง 50 เท่า (มดกินเหล็ก) B] ของเขามันก็ถูกเปิดออกอย่างง่ายดาย

แต่ในตอนนั้น หนูกลายพันธุ์ก็วิ่งตามมาถึงเขาแล้ว ไนเรลรีบเข้าไปด้านในทันทีและผลักประตูไว้

ตุบ! ปัง! ตุบ! ปัง!

หนูกลายพันธุ์หลาย ๆ ตัวที่หยุดไม่ทันหน้าจึงพุ่งชนเข้ากับประตูเหล็กเสียงดังลั่นสนั่นหวั่นไหว

“โชคยังดีที่ประตูเหล็กบ้านนี้มันหนาพอไม่งั้นประตูได้พังแน่” ไนเรลมองหาอะไรที่พอจะมาใช้ล๊อคหรือขัดประตูได้บ้างเพราะตอนนี้ตัวล๊อคของประตูมันพังไปตอนที่เขาพังมันเข้ามาแล้ว

และเขาก็เจอเหล็กราวบันได เขาจึงเอื้อมมือไปดึงมันมา

ปึก!

และก็แทงมันเข้าไปในพื้นปูนขัดกับประตูไว้เพื่อไม่ให้ประตูเปิดออก “น่าจะพอต้านได้สักพัก”

ไนเรลมุ่งหน้าต่อทันที

ห้องที่เขาอยู่ตอนนี้เป็นห้องของชั้นใต้ดินมันมีน้ำขังอยู่พอสมควร น้ำพวกนี้ท่วมมาจากชั้นใต้ดินข้างล่างลงไปอีก

ตั้งแต่ไฟฟ้าดับไป เครื่องสูบน้ำชั้นใต้ดินก็หยุดทำงานน้ำจึงท่วมขังแบบนี้

ที่นี่มืดมาก เขาใช้ไฟฉายที่หัวส่องดูรอบ ๆ อย่างระมัดระวังและเดินขึ้นบันไดไปอย่างช้า ๆ

ว๊าก ๆ!!!

ทันใดนั้นก็มีซอมบี้ ขั้น 1 ตัวหนึ่งกระโดดออกมาจากไหนไม่รู้มาหาเขา แต่ด้วยความที่ไนเรลระวังตัวอยู่ตลอด มันจึงถูกมีดสั้นทังสแตนปักเข้าที่ศีรษะอย่างรวดเร็ว

ตึง!

ร่างของมันล้มลงกับพื้นกรงเหล็กเสียงดังไปทั้งชั้น เพราะด้วยความที่มันเป็นห้องปิด

ฮื่อออ ฮึ่ม!!!

หลังเสียงล้มลงหายไปเสียงของซอมบี้ที่ออกมาจากลำคอก็ดังไปทั่วมันดังส่งต่อกันเป็นทอด ๆ

เมื่อเขาเห็นพวกมันน่าจะมีซอมบี้ ประมาณ 20 กว่าตัวก็รีบไปจัดการมันทันทีก่อนที่พวกมันจะเรียกพวกมามากกว่านี้

“ย้า!” ไนเรลใช้ดาบยาวมือขวา และมีดสั้นมือซ้ายเพื่อความรวดเร็ว เขาเน้นแทงไปที่ส่วนหัวของมัน

จากอีกตัวไปอีกตัว บางครั้งก็ต้องฟันไปที่ขาของมันเพื่อจำกัดการเคลื่อนไหวของมันและค่อยหันกลับมาฆ่ามันอีกที

แค่ 5 นาทีเขาก็จัดการซอมบี้ 24 ตัวจนหมด แต่ก็มีแผลจากรอยข่วนที่แขนเล็กน้อย

มันทะลุเสื้อผ้าลงไปแต่ก็ไม่ลึกมากนัก

และรีบวิ่งไปที่ชั้นบนต่อทันที เมื่อมาถึงประตูมันก็ถูกดันขวางไว้ด้วยเก้าอี้และโต๊ะจำนวนมาก ที่หน้าประตูมีคนที่ใส่ชุดนักโทษและผู้คุมสองคนนั่งเฝ้าอยู่

“เฮ้ย! เองได้ยินเสียงดังจากห้องข้างล่างไหมวะ” ผู้คุมสกิตนักโทษที่หลับอยู่ข้าง ๆ

“หืม อะไร! มีอะไร!” นักโทษคนนั้นสะดุ้งตกใจตื่นทันที เขามองซ้ายมองขวาเมื่อไม่มีอะไรเขาก็หันไปทางผู้คุม “เองจะบ้าเหรอกูตกใจหมด”

เขาทำท่าถอนหายใจ และทั้งสองคนก็นั่งคุยกันถึงเรื่องวันเก่า ๆ

ดูเหมือนว่าตอนนี้นักโทษและผู้คุมจะกลายเป็นเพื่อนกันไปแล้ว

แต่ในตอนนี้ เวลานี้พวกเขาก็เหมือนลงเรือลำเดียวกันต้องมาติดอยู่ในวงล้อมฝูงซอมบี้จำนวนมหาศาล จะไปไหนก็ไม่ได้

กำลังคนแค่ผู้คุมก็น้อยไม่มีทางจัดการคุ้มกันรอบ ๆ คุกขนาดใหญ่ที่นี่ได้หมดแน่นอน ดังนั้นพวกผู้คุมจึงปล่อยตัวนักโทษที่ไว้ใจได้ให้มาช่วยกัน และแน่นอนเมื่อนักโทษเหล่านี้เห็นสถานการณ์ด้านนอกก็ไม่ปฏิเสธ

ปึง! ปึง! ปึง!

และในตอนนั้นเองเสียงทุบประตูก็ดังขึ้นจากประด้านหลังของพวกเขา

“เฮ้ เปิดประตูให้หน่อย” ไนเรลพยายามบอกกับทั้งสองคนที่เฝ้าประตูอยู่

“ซอมบี้!” นักโทษคนนั้นถึงกลับตกใจร้องออกมา

“ซอมบี้ บ้านเองสิพูดได้” ผู้คุมรีบท้วงทันที และเขาก็รีบไปยกโต๊ะออกทันที “เร็วมาช่วยกันหน่อย”

หลังจากนั้นสักพักพวกเขาก็เปิดประตูให้ไนเรลได้ แต่ในที่เขาเข้ามาได้แล้วปรากฏว่ามีซอมบี้วิ่งตามไนเรลมา

“ซวยละ เร็วรีบช่วยกันปิดประตูก่อน” ผู้คุมและนักโทษรีบช่วยกันยกโต๊ะเก้าอีกกลับไปขวางไว้อย่างเดิม แต่ดูเหมือนจะช้าไป

ในตอนนั้นเองเขาก็เห็นว่าอยู่ ๆ ตู้ล็อกเกอร์ตรงทางเดินก็ถูกยกมา และ คนที่ยกก็คือไนเรลนั้นเองมันถูกยกมาวางปิดประตูได้อย่างง่ายดาย

ทั้งสองคนมองไปที่ไนเรลและคิดว่า ‘พวกเราไปเปิดประตูให้ตัวประหลาดอะไรเข้ามา’

“ส..สวัสดี” ทั้งสองคนทักทายไนเรลแบบกล้า ๆ กลัว ๆ

“สวัสดี ที่นี่ใครควบคุมอยู่ พาผมไปหาเขาได้หรือไม่?” ไนเรลตรงเข้าประเด็นทันที ตอนนี้มันเสียเวลามามากแล้ว เขาต้องรีบไม่งั้นตอนกลับออกไปมันจะมืดซะก่อน

ทั้งสองคนพาไนเรลไปพบกับคนที่คุมที่นี่

เมื่อเข้าไปในห้องก็พบกับชายอายุราว ๆ 25 ปี นั่งอยู่ที่เก้าอี้ในห้องของพัศดี

“นายไม่ใช่พัศดี” ไนเรลพูดออกมาและมองไปที่คริสตัลวงกลมขนาดเล็กที่หน้าผากของเขา ‘ประเภทพลังธาตุ’

“ก่อนอื่นนายควรที่จะแนะนำตัวเองก่อนไม่ใช่หรือ ว่าเป็นใคร? มาทำอะไร? แล้วเข้ามาในนี้ได้อย่างไร?” ชายหนุ่มคนนั้นพูดออกมาราวกับว่าตนเองสูงส่งเหนือกว่า

ไนเรลที่ได้ยินน้ำเสียงแบบนั้นก็รู้สึกหมั่นไส้อยากจะกระโดดเตะสองขาคู่สักที แต่เขาก็ยังต้องแนะนำตัวเอง เพราะถึงอย่างไรที่นี่ยังถือว่าเป็นบ้านของชายหนุ่มคนนี้

ในฐานะคนมาเยือนเขาก็ควรแนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการ “ฉันไนเรล เข้ามาทางใต้ดินทางท่อน้ำทิ้ง แค่เข้ามาหาคน คนหนึ่งเท่านั้น”

ไนเรลพูดออกไปแบบห้วน ๆ เพราะเขาไม่ชอบท่าทีของหมอนี่เลยแม้แต่น้อย

“โอ้ ท่อน้ำทิ้ง ชั้นที่เชื่อมกับส่วนนั้นมันเต็มไปด้วยซอมบี้ นายผ่านมันมาได้อย่างไร” ชายคนนั้นยังถามต่อแต่ไนเรลไม่ตอบ

เมื่อมองกันอยู่สักพักชายคนนั้นจึงแนะนำตัวเอง

“ข้าคือ เอส เรียกว่าเทพเอสก็ได้” เอสแนะนำตัวเองราวกับว่าเป็นเทพผู้สูงส่ง จากนั้นเขาก็ยกมือขึ้นยิงลูกไฟขนาดเล็กออกมาจากมือของเขายิงใส่ผนังห้องจนเป็นรอยไหม้

ดูเหมือนว่าเขาพยายามโชพลังของตัวเองที่เหมือนกับเป็นเทพพระเจ้าลงมาช่วยผู้คนในวันสิ้นโลก

ผู้คุมและนักโทษ ทั้งสองคนรีบคุกเข่าลงทันที ด้วยความเคารพ

เอสหวังว่าจะเห็นไนเรลคุกเขาสรรเสริญและขอร้องเป็นคนรับใช้ของเขาแต่ท่าทีที่เห็นนั้นมันกับมีแค่รอยยิ้มที่เหยียด เห็นเขาเป็นตัวตลกกับมาทั้งนั้น

ไนเรลมองไปที่เอส และคิดว่าชื่อเอสก็คงจะเปลี่ยนและตั้งให้กับตัวเองเท่านั้นตามการ์ตูนดังเท่านั้น

เขาจึงลุกขึ้นและเดินไปที่ตู้เหล็กขนาดไหญ่ที่ใส่เอกสารไว้ด้านข้างมันใหญ่และหนักราว ๆ 300 กิโลกรัม

เอสมองไปที่ไนเรลแบบงง ๆ ว่าเขาจะทำอะไรและทันใดนั้นเขาก็เห็นไนเรลใช้มือเดี่ยวยกตู้เหล็กขึ้นมาอย่างง่ายดาย

ทั้งสามคนที่อยู่ในห้องถึงกับตกใจ

แต่คนที่ตกใจมากสุดคือ เอส เขาถึงกลับคิดในใจ ‘พระเจ้า! ยังมีคนที่เหมือนกับข้าอีก ข้าจะต้องให้มันมาเป็นผู้ติดตามให้ได้’

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง 17 เทพเอส

Now you are reading re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง Chapter 17 เทพเอส at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 17 เทพเอส

ไนเรลคิดถึงท่อน้ำขนาดใหญ่ที่เชื่อมไปถึงอาคารชั้นใต้ดินของคุก แต่ว่ายังไงเขาก็ต้องลองเสี่ยงดูเพราะมีเวลาไม่มากแล้ว

“พี่จะไปช่วยปู่ออกมา ส่วนน้องรออยู่นี่นะ ค่อยดูเส้นทางที่จะถอยให้พี่ด้วย” ไนเรลหันไปกล่าวกับนิเรียน้องสาวของเขา

“พี่ชาย…” นิเรียพูดออกมาและกำลังจะขอตามไปด้วยความเป็นห่วง

“พี่ตัดสินใจแล้ว” ไนเรลพูดขัดขึ้นมาทันที และก็บอกกับดามินที่อยู่ด้านข้าง “ฝากดูเเลทุกคนช่วงที่ฉันไม่อยู่ด้วย”

“ครับ ระวังตัวด้วยพี่ไนเรล” ดามินรับปากอย่างเข้มแข็ง เขาสัญญาในใจว่าจะทำให้ดีที่สุดเหมือนกับที่ไนเรลได้ไว้ใจเขา

นิเรียเมื่อเห็นว่าพี่ชายของเธอ ได้ตัดสินใจแล้วและดูจะไม่ยอมเปลี่ยนใจง่าย ๆ เธอจึงได้แต่บอกให้เขาระวังตัว “พี่ชายระวังตัวด้วยนะ”

เขาพยักหน้าตอบและเดินออกมาแต่นิเรียก็ยังพูดขึ้น “พี่ชายต้องกลับมานะ”

“พี่ต้องกลับมาอยู่แล้ว น้องนับหนึ่งถึงสิบพี่ก็กลับมาแล้ว ถ้าไม่กลับมาใครจะคอยดูแลน้องสาวที่น่ารักคนนี้กัน” ไนเรลลูบไปที่หัวของเธออย่างอ่อนโยนและเดินออกไปจากตัวตึกทันที

ในขณะที่นิเรียนับหนึ่งถึงสิบในใจและพึมพำว่า ‘ไม่เห็นพี่ชายจะกลับมาเลย’ บางครั้งเธอก็ชอบทำตัวเป็นเด็กต่อหน้าพี่ชายและมันก็จะเป็นเช่นนี้ไปตลอดไม่ว่าพวกเขาจะอายุเท่าไหร่

นิเรียรีบปรับอารมณ์ของเธอแล้วเอาสไนเปอร์ M-21 จากดามินมาส่องไปที่คุก

……………………………..

ไนเรลออกมาได้สักพักเขาก็เจอกับท่อของโรงบำบัดน้ำ เขาเดินหาทางเข้าท่อน้ำทิ้งท่อหลักที่เชื่อมต่อไปยังคุก และที่โชคดีไปกว่านั้นคือเขาเจอแผนที่ด้วยมันวางอยู่บนกองเอกสาร ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีการตรวจเช็คซ่อมบำรุงประจำปี แต่ทุกคนก็ตายและเกิดเรื่องซะก่อน ของพวกนี้จึงยังไม่ได้เก็บไป

ภายในนั้นมืดมาก ด้านในท่อหลักมีเสียงลมพัดผ่านดังออกมาอยู่ตลอด เขาเปิดไฟฉายที่อยู่บนหัวที่ได้มาจากของที่พวกช่างซอมบำรุงทิ้งไว้ เขายังเอาเสื้อกั๊กของช่างมาด้วย เนื่องจากภายในมันมีน้ำจำนวนมากอากาศจึงเย็นเหมือนกับอยู่ในถ้ำ

ทันทีที่แสงส่องเข้าไปแมลงเล็ก ๆ ทั้งหลายต่างก็พากันหลบแสงกันอย่างรวดเร็ว

ไนเรลเดินเข้าไปอย่างระมัดระวัง ภายในต่อมาขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 10 เมตร มันใหญ่พอสมควร

กลิ่นที่นี่เน่าเหม็นพอสมควร แต่มันไม่ควรที่จะแรงแบบนี้ เพราะว่าปกติน้ำที่ปล่อยออกมาจะต้องได้รับการบำบัดเสียก่อน

‘ดูเหมือนว่าจะมีตัวอะไรตายอยู่ในนี้เป็นจำนวนมาก’

เขาหยิบแผนที่ออกมาดู เส้นทางแค่ 2 กิโลมันใช้เวลาแค่ 30 นาทีก็ไปถึงแล้ว ท่อหลักระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตรและท่อย่อยอีก 0.5 กิโลเมตร

เมื่อเดินเข้ามาได้สักพักเขาก็เจอกับตะขาบตัวเท่าแขนยาวกว่า 2 เมตร มันพยายามจะเข้ามากัดเขาจึงโดนดาบยาวทังสแตนฟันจนขาดครึ่งอย่างง่ายดาย แต่มันก็ยังไม่ตายท่อนหัวและห่างของมันต่างพากันคลานหนีหายไปอย่างรวดเร็ว ‘ตะขาบสองหัว’

ไนเรลยังคงเดินทางต่อ แต่ว่าพอเดินมาได้สักพักเขาก็รู้แล้วว่ากลิ่นเหม็นมันมาจากไหน ที่นี่มีพวกศพคนตายจำนวนมากมันเป็นฝีมือของหนูยักษ์กลายพันธุ์เเละตอนนี้มันก็ขวางทางที่ไปสู้ท่อย่อยตรงไปคุกของเขาอยู่

เขารีบหลบไปที่ช่องของท่อด้านข้าง

เมื่อลองนับมันมีอยู่ราว ๆ 70-80 ตัวได้กำลังกินซากศพกันอย่างเมามัน ในนั้นไม่ได้มีแค่หนูแต่ยังมีพวกแมลลงสาป หนอน ตะขาบอยู่ด้วย

แต่พวกมันกินไม่นานก็ถูกหนูเจ้าถิ่นจับกินอยู่ดี

เขาต้องหาทางเข้าไปและก็กล้มลงไปเห็นก้อนอิฐที่เท้า ไนเรลจึงคิดบางอย่างออก

เขาหยิบก้อนอิฐขึ้นมาและใช้เนื้อแห้งของต่อกลายพันธุ์ที่เขาพกติดตัวมาด้วย ใช้เศษผ้าที่ฉีกออกมาผูกเนื้อและก้อนอิฐเข้าด้วยกัน

และใช้แรงทั้งถึง 3 เท่าป่ามันออกไปด้วยท่าควงสวิง ด้วยพลังที่ป่าออกไปมันเป็นเหมือนกับกระสุนปืนใหญ่แต่ด้วยข้อจำกัดของขนาดท่อ ก้อนอิฐก็ไปชนกับเพดานเสียงดัง ตึ๋ง!! ดึงดูดหนูทุกตัว

พอพวกมันได้กลิ่นเนื้อต่อกลายพันธุ์กรูวิ่งพากันไปตามกลิ่นของเนื้อต่อหัวเสือกลายพันธุ์ทันที

หนูทั้งหมดหายไปแล้วแต่เวลาของเขาไม่มากนัก เพราะเนื้อที่อยู่กับอิฐไม่พอให้พวกมันแย่งกันด้วยซ้ำ

ไนเรลรีบวิ่งไปทันทีพร้อมกับหลบแมลงเล็ก ๆ ไปด้วย ตอนนี้เขามาถึงหน้าท่อย่อยแล้วแต่มันมีกรงเหล็กขวางอยู่

จี๊ด ๆ!

เขามีเวลาไม่มากแล้ว เพราะหนูกลายพันธุ์พวกนั้นกลับมาแล้ว

โดยไม่รอช้าไนเรลรีบใช้แรงกระชากกรงเหล็กออก

แคร๊ง ๆ!!!

“ซวยละ” เขาออกแรงมากไปหน่อยโครงเหล็กถูกดึงออกมาจนหลุดมือเพราะแรงเหวี่ยงไปชนกับผนัง

เสียงจี๊ด ๆ! หนูกลายพันธุ์จำนวนมากก็พากันกรูเข้ามาหาเขา ไนเรลรีบวิ่งหนีสุดชีวิต

แต่ดูเหมือนจะมีหนูกลายพันธุ์บางตัวตามเขามาทันมันกระโดดเข้าใส่จากด้านหลังทันที

ไนเรลไม่รอช้าม้วนตัวใช้ดาบฟันมันจนขาดครึ่ง จากนั้นเขาก็ใช้ดาบแทงไปอีกตัวจนตาย

ไนเรลถุยน้ำที่กระเด็นเข้าปากเขาออกและเริ่มวิ่งต่อ…

300 เมตร…

200 เมตร…

100 เมตร…

50 เมตร..

10 9 8 7 6 5 4 3 2 1 เมตร…

“เจอแล้วประตูบานนั้น” ไนเรลรีบวิ่งไปที่ประตูเหล็กมันอยู่สูงจากพื้นประมาณ 1 เมตรเพื่อป้องกันน้ำ

เมื่อไปถึงประตูดูเหมือนจะถูกล๊อคไว้แต่แน่นอนว่าด้วยความสามารถ [พละกำลัง 50 เท่า (มดกินเหล็ก) B] ของเขามันก็ถูกเปิดออกอย่างง่ายดาย

แต่ในตอนนั้น หนูกลายพันธุ์ก็วิ่งตามมาถึงเขาแล้ว ไนเรลรีบเข้าไปด้านในทันทีและผลักประตูไว้

ตุบ! ปัง! ตุบ! ปัง!

หนูกลายพันธุ์หลาย ๆ ตัวที่หยุดไม่ทันหน้าจึงพุ่งชนเข้ากับประตูเหล็กเสียงดังลั่นสนั่นหวั่นไหว

“โชคยังดีที่ประตูเหล็กบ้านนี้มันหนาพอไม่งั้นประตูได้พังแน่” ไนเรลมองหาอะไรที่พอจะมาใช้ล๊อคหรือขัดประตูได้บ้างเพราะตอนนี้ตัวล๊อคของประตูมันพังไปตอนที่เขาพังมันเข้ามาแล้ว

และเขาก็เจอเหล็กราวบันได เขาจึงเอื้อมมือไปดึงมันมา

ปึก!

และก็แทงมันเข้าไปในพื้นปูนขัดกับประตูไว้เพื่อไม่ให้ประตูเปิดออก “น่าจะพอต้านได้สักพัก”

ไนเรลมุ่งหน้าต่อทันที

ห้องที่เขาอยู่ตอนนี้เป็นห้องของชั้นใต้ดินมันมีน้ำขังอยู่พอสมควร น้ำพวกนี้ท่วมมาจากชั้นใต้ดินข้างล่างลงไปอีก

ตั้งแต่ไฟฟ้าดับไป เครื่องสูบน้ำชั้นใต้ดินก็หยุดทำงานน้ำจึงท่วมขังแบบนี้

ที่นี่มืดมาก เขาใช้ไฟฉายที่หัวส่องดูรอบ ๆ อย่างระมัดระวังและเดินขึ้นบันไดไปอย่างช้า ๆ

ว๊าก ๆ!!!

ทันใดนั้นก็มีซอมบี้ ขั้น 1 ตัวหนึ่งกระโดดออกมาจากไหนไม่รู้มาหาเขา แต่ด้วยความที่ไนเรลระวังตัวอยู่ตลอด มันจึงถูกมีดสั้นทังสแตนปักเข้าที่ศีรษะอย่างรวดเร็ว

ตึง!

ร่างของมันล้มลงกับพื้นกรงเหล็กเสียงดังไปทั้งชั้น เพราะด้วยความที่มันเป็นห้องปิด

ฮื่อออ ฮึ่ม!!!

หลังเสียงล้มลงหายไปเสียงของซอมบี้ที่ออกมาจากลำคอก็ดังไปทั่วมันดังส่งต่อกันเป็นทอด ๆ

เมื่อเขาเห็นพวกมันน่าจะมีซอมบี้ ประมาณ 20 กว่าตัวก็รีบไปจัดการมันทันทีก่อนที่พวกมันจะเรียกพวกมามากกว่านี้

“ย้า!” ไนเรลใช้ดาบยาวมือขวา และมีดสั้นมือซ้ายเพื่อความรวดเร็ว เขาเน้นแทงไปที่ส่วนหัวของมัน

จากอีกตัวไปอีกตัว บางครั้งก็ต้องฟันไปที่ขาของมันเพื่อจำกัดการเคลื่อนไหวของมันและค่อยหันกลับมาฆ่ามันอีกที

แค่ 5 นาทีเขาก็จัดการซอมบี้ 24 ตัวจนหมด แต่ก็มีแผลจากรอยข่วนที่แขนเล็กน้อย

มันทะลุเสื้อผ้าลงไปแต่ก็ไม่ลึกมากนัก

และรีบวิ่งไปที่ชั้นบนต่อทันที เมื่อมาถึงประตูมันก็ถูกดันขวางไว้ด้วยเก้าอี้และโต๊ะจำนวนมาก ที่หน้าประตูมีคนที่ใส่ชุดนักโทษและผู้คุมสองคนนั่งเฝ้าอยู่

“เฮ้ย! เองได้ยินเสียงดังจากห้องข้างล่างไหมวะ” ผู้คุมสกิตนักโทษที่หลับอยู่ข้าง ๆ

“หืม อะไร! มีอะไร!” นักโทษคนนั้นสะดุ้งตกใจตื่นทันที เขามองซ้ายมองขวาเมื่อไม่มีอะไรเขาก็หันไปทางผู้คุม “เองจะบ้าเหรอกูตกใจหมด”

เขาทำท่าถอนหายใจ และทั้งสองคนก็นั่งคุยกันถึงเรื่องวันเก่า ๆ

ดูเหมือนว่าตอนนี้นักโทษและผู้คุมจะกลายเป็นเพื่อนกันไปแล้ว

แต่ในตอนนี้ เวลานี้พวกเขาก็เหมือนลงเรือลำเดียวกันต้องมาติดอยู่ในวงล้อมฝูงซอมบี้จำนวนมหาศาล จะไปไหนก็ไม่ได้

กำลังคนแค่ผู้คุมก็น้อยไม่มีทางจัดการคุ้มกันรอบ ๆ คุกขนาดใหญ่ที่นี่ได้หมดแน่นอน ดังนั้นพวกผู้คุมจึงปล่อยตัวนักโทษที่ไว้ใจได้ให้มาช่วยกัน และแน่นอนเมื่อนักโทษเหล่านี้เห็นสถานการณ์ด้านนอกก็ไม่ปฏิเสธ

ปึง! ปึง! ปึง!

และในตอนนั้นเองเสียงทุบประตูก็ดังขึ้นจากประด้านหลังของพวกเขา

“เฮ้ เปิดประตูให้หน่อย” ไนเรลพยายามบอกกับทั้งสองคนที่เฝ้าประตูอยู่

“ซอมบี้!” นักโทษคนนั้นถึงกลับตกใจร้องออกมา

“ซอมบี้ บ้านเองสิพูดได้” ผู้คุมรีบท้วงทันที และเขาก็รีบไปยกโต๊ะออกทันที “เร็วมาช่วยกันหน่อย”

หลังจากนั้นสักพักพวกเขาก็เปิดประตูให้ไนเรลได้ แต่ในที่เขาเข้ามาได้แล้วปรากฏว่ามีซอมบี้วิ่งตามไนเรลมา

“ซวยละ เร็วรีบช่วยกันปิดประตูก่อน” ผู้คุมและนักโทษรีบช่วยกันยกโต๊ะเก้าอีกกลับไปขวางไว้อย่างเดิม แต่ดูเหมือนจะช้าไป

ในตอนนั้นเองเขาก็เห็นว่าอยู่ ๆ ตู้ล็อกเกอร์ตรงทางเดินก็ถูกยกมา และ คนที่ยกก็คือไนเรลนั้นเองมันถูกยกมาวางปิดประตูได้อย่างง่ายดาย

ทั้งสองคนมองไปที่ไนเรลและคิดว่า ‘พวกเราไปเปิดประตูให้ตัวประหลาดอะไรเข้ามา’

“ส..สวัสดี” ทั้งสองคนทักทายไนเรลแบบกล้า ๆ กลัว ๆ

“สวัสดี ที่นี่ใครควบคุมอยู่ พาผมไปหาเขาได้หรือไม่?” ไนเรลตรงเข้าประเด็นทันที ตอนนี้มันเสียเวลามามากแล้ว เขาต้องรีบไม่งั้นตอนกลับออกไปมันจะมืดซะก่อน

ทั้งสองคนพาไนเรลไปพบกับคนที่คุมที่นี่

เมื่อเข้าไปในห้องก็พบกับชายอายุราว ๆ 25 ปี นั่งอยู่ที่เก้าอี้ในห้องของพัศดี

“นายไม่ใช่พัศดี” ไนเรลพูดออกมาและมองไปที่คริสตัลวงกลมขนาดเล็กที่หน้าผากของเขา ‘ประเภทพลังธาตุ’

“ก่อนอื่นนายควรที่จะแนะนำตัวเองก่อนไม่ใช่หรือ ว่าเป็นใคร? มาทำอะไร? แล้วเข้ามาในนี้ได้อย่างไร?” ชายหนุ่มคนนั้นพูดออกมาราวกับว่าตนเองสูงส่งเหนือกว่า

ไนเรลที่ได้ยินน้ำเสียงแบบนั้นก็รู้สึกหมั่นไส้อยากจะกระโดดเตะสองขาคู่สักที แต่เขาก็ยังต้องแนะนำตัวเอง เพราะถึงอย่างไรที่นี่ยังถือว่าเป็นบ้านของชายหนุ่มคนนี้

ในฐานะคนมาเยือนเขาก็ควรแนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการ “ฉันไนเรล เข้ามาทางใต้ดินทางท่อน้ำทิ้ง แค่เข้ามาหาคน คนหนึ่งเท่านั้น”

ไนเรลพูดออกไปแบบห้วน ๆ เพราะเขาไม่ชอบท่าทีของหมอนี่เลยแม้แต่น้อย

“โอ้ ท่อน้ำทิ้ง ชั้นที่เชื่อมกับส่วนนั้นมันเต็มไปด้วยซอมบี้ นายผ่านมันมาได้อย่างไร” ชายคนนั้นยังถามต่อแต่ไนเรลไม่ตอบ

เมื่อมองกันอยู่สักพักชายคนนั้นจึงแนะนำตัวเอง

“ข้าคือ เอส เรียกว่าเทพเอสก็ได้” เอสแนะนำตัวเองราวกับว่าเป็นเทพผู้สูงส่ง จากนั้นเขาก็ยกมือขึ้นยิงลูกไฟขนาดเล็กออกมาจากมือของเขายิงใส่ผนังห้องจนเป็นรอยไหม้

ดูเหมือนว่าเขาพยายามโชพลังของตัวเองที่เหมือนกับเป็นเทพพระเจ้าลงมาช่วยผู้คนในวันสิ้นโลก

ผู้คุมและนักโทษ ทั้งสองคนรีบคุกเข่าลงทันที ด้วยความเคารพ

เอสหวังว่าจะเห็นไนเรลคุกเขาสรรเสริญและขอร้องเป็นคนรับใช้ของเขาแต่ท่าทีที่เห็นนั้นมันกับมีแค่รอยยิ้มที่เหยียด เห็นเขาเป็นตัวตลกกับมาทั้งนั้น

ไนเรลมองไปที่เอส และคิดว่าชื่อเอสก็คงจะเปลี่ยนและตั้งให้กับตัวเองเท่านั้นตามการ์ตูนดังเท่านั้น

เขาจึงลุกขึ้นและเดินไปที่ตู้เหล็กขนาดไหญ่ที่ใส่เอกสารไว้ด้านข้างมันใหญ่และหนักราว ๆ 300 กิโลกรัม

เอสมองไปที่ไนเรลแบบงง ๆ ว่าเขาจะทำอะไรและทันใดนั้นเขาก็เห็นไนเรลใช้มือเดี่ยวยกตู้เหล็กขึ้นมาอย่างง่ายดาย

ทั้งสามคนที่อยู่ในห้องถึงกับตกใจ

แต่คนที่ตกใจมากสุดคือ เอส เขาถึงกลับคิดในใจ ‘พระเจ้า! ยังมีคนที่เหมือนกับข้าอีก ข้าจะต้องให้มันมาเป็นผู้ติดตามให้ได้’

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+