re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง 26 ห้องทดลองในตึก

Now you are reading re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง Chapter 26 ห้องทดลองในตึก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 26 ห้องทดลองในตึก

เขามองไปที่ไฟสีแดงจากระเบิดและเสียงกรีดร้องของผู้คน พร้อมกับสัญญาณเตือนดังไปทั่ว

ไนเรลรีบวิ่งไปโดยที่หยิบดาบคู่เขางูไปด้วย ส่วนเมสันก็เข้าไปหลบอยู่ในร้านของตนเอง เพราะคิดว่าเขาไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร

เขาวิ่งไปตามทางที่มีแสงไฟจากหลอดไฟที่กะพริบไปมา เนื่องจากแรงระเบิดบางส่วนทำให้ไฟช๊อต

ต้นเหตุดูเหมือนจะมาจากตัวอาคาร ผู้คนหนีตายกันอย่างวุ่นวาย ที่เกิดเหตุห่างจากเขาแค่ไม่กี่ร้อยเมตร

ซอมบี้สองตัวกำลังวิ่งตามผู้คนมาด้วยความหิวกระหาย ไนเรลใช้ดาบตัดหัวของซอมบี้ คมดาบตัดผ่านคอหอยทะลุท้ายทอย หัวของพวกมันขาดลง

คนที่อยู่บริเวณรอบที่เห็นเขาก็เหมือนมองเห็นความหวังรีบเขามาขอความช่วยเหลือ

นั้นทำให้มีซอมบี้อีกหลายตัววิ่งตามมา แต่มันก็ถูกเขาฆ่าตายอย่างรวดเร็ว หนึ่งการฟันต่อซอมบี้ 1 ตัว

ในระหว่างนั้นเองก็มีมนุษย์ชั้นสูงอีกหลายคนเขามาจัดการกับซอมบี้เช่นกัน และในนั้นก็เอวา มนุษย์ชั้นสูง ผู้มีความสามารถ [มีดสายลม B] และเจค ผู้มีความสามารถ [เร่งความเร็วระยะสั้น B]

เอวา เคยวาดแขนของเธอ ก็สามารถผ่าร่างของซอมบี้ออกเป็นสองส่วน ที่ไกลออกไปเจคเคลื่อนที่ด้วยความรวดเร็วใช้ปืนยิงจ่อไปที่เบ้าตาของซอมบี้ กระสุนระเบิดสมองพวกซอมบี้อย่างง่ายดาย

หลังจากเกิดเรื่องแค่ 3 นาที ตำรวจและกำลังทหารก็เข้ามาปิดล้อมพื้นที่ 300 เมตรจากปตึกศูนย์กลางการระบาด

“ประกาศให้ทุกคนที่อยู่ในพื้นที่กลับเขาไปหลบอยู่ในบ้าน” ข้อความนี้ประกาศออกมาหลายครั้ง เหตุเพราะพวกทหารต้องการแยกซอมบี้จากคนธรรมดา เพื่อที่จะลดการติดเชื้อและกำจัดพวกมัน

ในตอนนี้ไฟได้ดับลงไปอย่างสมบูรณ์เหลือแค่ไฟสปอตไลต์จากกองกำลังทหารและ เฮลิคอปเตอร์ที่ส่องลงมาจากบนท้องฟ้า

ปัง! ปัง! ปัง!

เสียงปืนของพวกทหารและตำรวจดังมาอย่างต่อเนื่อง

เขาเป็นมนุษย์ชั้นสูงคนแรกที่เข้ามาถึงตัวอาคาร ไนเรลจัดการซอมบี้ที่แต่งชุดยาม 2 สองตัว และเข้าไปด้านใน

ภายในเป็นห้องสำนักงานธรรมดา แต่มันไม่ธรรมดาตรงที่เป็นของบริษัทพาราซัส ตึกนี้มี 5 ชั้น ด้านในมีซอมบี้อยู่ไม่กี่ตัว ไนเรลสามารถจัดการมันอย่างไม่ยากเย็น แต่ตึกทั้งชั้นก็ดูไม่มีอะไรผิดปกติ

“หรือว่าเราจะผลาดยางอย่างไร” ไนเรลรีบวิ่งลงมาที่ชั้นล่างและเริ่มค้นหาโดยรอบอย่างระเอียดจนเจอเข้ากับประตูลับที่พาไปสู่ชั้นใต้ดิน

มันอยู่ด้านหลังของชั้นภายในห้องเก็บของ ประตูมันไม่ได้ล๊อคเขาจึงเปิดออกเดินเข้าไป ด้านในเต็มไปด้วยเลือด มีซอมบี้อยู่บ้างส่วนใหญ่เป็นพวกนักวิจัย

“ที่นี่เป็นห้องทดลอง…” ไนเรลจัดการซอมบี้ที่ข้างทางสองสามตัวเท่านั้น เพราะตัวที่เหลือส่วนใหญ่ถูกขังอยู่ในห้องปฏิบัติการ

เขาเข้าไปในห้องปฏิบัติการหนึ่งเนื่องจากของที่อยู่ในห้องทดลอมันคือ แก่นพลังงาน ATP สามชิ้น

“แก่นพลังงานระดับ 2” เขาเก็บมันทันที

ไนเรลคำนวณดูแก่นพลังงานทั้ง 3 นั้นน่าจะเพิ่มพลังงานในเซลล์ให้เขาได้ 200 หน่วยเลยทีเดียว

เขาเดินลึกเข้าไปเรื่อย จนเจอห้องปฏิบัติการที่ใหญ่ที่สุดภายในมีหลอดทดลองขนาดใหญ่ตั้งอยู่จำนวนมาก ในหลอดมีซอมบี้ที่ยังมีชีวิตอยู่

บางตัวพวกมันดูเหมือนจะมีสติปัญญาบ้างเล็กน้อย

ด้านข้างมีเตียงที่มีร่างของมนุษย์อยู่แต่ดูเหมือนพวกเขาจะถูกมัดและเฉือนเนื้อให้กับซอมบี้ที่อยู่ในหลอดทดลองพวกนั้นกินทั้งเป็น

“บัดซบ พวกพาราซัสโง่เง่า” ไนเรลด่าออกไปทัน เมื่อเขาเห็นห้องนี้ก็เดาได้ว่าพวกมันทดลองซอมบี้และมนุษย์

การทดลองเกี่ยวกับมนุษย์นั้นผิดกฎหมาย พวกนี้ใช้โอกาสในช่วงเวลานี้ในการทดลอง แต่นี้ไม่สิ่งที่เขาโกรธที่สุด สิ่งที่โกรธที่สุดคือพวกนี้มันโง่ถึงขนาดสร้างและเลี้ยงดูซอมบี้ที่มีสติปัญญา

และดูเหมือนว่าจะมีตัวที่หลุดออกไปได้ เขามองดูไปที่หลอดที่เขียนว่า ตัวทดลอง หมายเลขศูนย์

“ดูเหมือนมันจะหนีไปได้…แต่ก็คงจะยังอยู่ในตึกนี้”

ดาบคู่เขางูแทงไปที่หัวของซอมบี้ที่อยู่ในหลอดทดลอง จากนั้นเขาก็จัดการเผาเอกสารและของทั้งหมด เพื่อที่จะไม่ให้มีใครนำพวกมันไปใช้

แม้แต่กับรัฐบาลเองก็ตาม

ในขณะนั้นเองเขาก็รู้สึกได้ถึงบางอย่างที่ยืนอยู่ด้านหลังจากความสามารถ [ตรวจจับความร้อน C] มันคือเด็กชายตัวน้อยอายุประมาณ 7 ขวบใส่เสื้อสีขาวชุดที่เหมือนกับซอมบี้ในหลอดทดลอง มีเลขศูนย์ปักอยู่ที่เสื้อตรงหน้าอก

“ซอมบี้สติปัญญาขั้น 2”

ไม่รอช้าไนเรลใช้ดาบฟันไปที่มันในทันที

บูม !

แต่ในตอนนั้นเองที่ผนังด้านบนก็พังลงมา มันคือซอมบี้ปีก ขั้น 3 มาขวางเขาและซอมบี้สติปัญญาไว้

“ย้าาา!” เขาใช้ดาบฟันไปที่มันในทันที แต่แค่แรงกระพือปีกของมันก็ทำให้ตัวเขากระเด็นออกมา แขนที่เหมือนปีกของมันสะบัดฟาดไปที่เขาอย่างแรง

“ซวยละ” เขารีบใช่ร่างของกิ้งก่าในทันที ความแรงของมันทำให้ร่างของเขากระเด็นออกไปกว่า 10 เมตรชนผนังห้อง

มันไม่ได้จัดการเขาต่อเพราะซอมบี้สติปัญญาเรียกมันกลับไป

ซอมบี้ปีกพาซอมบี้สติปัญญา หรือตัวทดลองหมายเลขศูนย์ ชนกับกำแพงด้านบนบินขึ้นไปบนท้องฟ้า

เขารีบลุกขึ้นมาเสื้อผ้าส่วนใหญ่ขาดแต่เพราะเขากลายร่างทันจึงไม่เป็นอะไรมานัก

ตัวตึกเริ่มสั่นไหว ไนเรลวิ่งออกไปที่ด้านนอกในทันทีก่อนที่ตึกมันจะถล่ม เมื่อออกมาพ้นระยะตึกก็ถล่มลงมา ถ้าเขาหนีออกมาไม่ทันมีหวังไว้ถูกฝังทั้งเป็นแน่นอน

บนท้องฟ้า เฮลิคอปเตอร์ที่พยายามจะยิงมันด้วยปืนกล แต่ด้วยความคล่องแคล่วของมันจึงสามารถหลบหลีกได้อย่างง่ายๆ

ในตอนนั้นเองที่เขาเห็นกลุ่มของมนุษย์ชั้นสูงที่แต่งตัวคล้ายๆ กัน

เนื่องด้วยหน่วยโล่ถูกส่งออกไปที่ภารกิจเส้นทางรถไฟ ดังนั้นหน่วยนี้ก็คงจะเป็นหน่วยดาบ

ในตอนนั้นเองชายที่เป็นหนึ่งได้เดินออกมาจากในกลุ่ม เขาคือ จีซัส ลำดับ 1 ของหน่วยดาบค่ายลี้ภัย 101 ยกมือขึ้น ทันใดนั้นละอองน้ำ และความชื้อโดยรอบ ที่อยู่ในอากาศรวมตัวกันเป็นหอกน้ำเเข็งยิงไปที่ปีกของซอมบี้ปีก

ฮ๊ากกกก!!! ปีกของมันเกือบขาด แต่มันก็ร่อนหนีออกไปได้

ดูเหมือนว่าปีกของซอมบี้จะบาดเจ็บมาก

“ตามมันไปเร็ว!!!” ไนเรลรีบบอกกับคนอื่น ๆ แต่ดูเหมือนว่าทุกคนจะถูกหน่วยดาบล้อมไว้และไนเรลก็เช่นกัน

“จัดการปิดพื้นที่ จัดการซอมบี้ทุกตัวและควบคุมทุกคน ฉันต้องการที่จะสอบปากคำทุกคนถึงเรื่องที่เกิดขึ้น” จีซัสพูดออกมาอย่างวางอำนาจ

คนในหน่วยดาบทำตามที่เขาบอกทันทีพวกเขากระจายตัวกันไปจัดการกับซอมบี้และปิดล้อมพื้นที่โดยมีตำรวจและทหารที่เข้ามาช่วย

ส่วนพวกที่เหลือก็เข้ามาล้อมมนุษย์ชั้นสูงไว้

“เดี่ยวพวกเราเป็นนักล่านะ”

“พวกนายจะทำอะไร”

“ปล่อยนะพวกฉันก็แค่มาช่วยจัดการกับซอมบี้ก็แค่นั้นเอง”

“หลบไป” ไนเรลพยายามที่จะออกไปเพื่อตามล่าซอมบี้สติปัญญาตัวนั้นไป เพราะเขารู้ว่าถ้ามันไปรวมกับฝูงซอมบี้ได้ละก็ค่ายนี้จะต้องจบสิ้นแน่

เขายังไม่อยากมีปัญหากับพวกหน่วยดาบดังนั้นจึงต้องบอกดี ๆ

แต่หนึ่งในสมาชิกของหน่วยดาบเดินออกมาด้วยท่าทีที่เหนือกว่า เขาก็คือไอแซค มนุษย์ชั้นสูง ระดับ สีเทา ผู้มีความสามารถด้านสนับสนุน [กล้ามเนื้อเหล็กกล้า A]

ไอแซคเดินมาทางกลุ่มของมนุษย์ชั้นสูงที่ไนเรลยืนอยู่ด้วยท่าทีลำคาน

“ไอ้พวกสวะของมนุษย์ชั้นสูง นี่เป็นคำสั่งของท่านจีซัส พวกแกกลับกล้าขัดงั้นหรือ” ไอแซคพูดออกมาโดยที่ไม่ไว้หน้าเลยแม้แต่น้อย สำหรับเขาแล้วมนุษย์ชั้นสูงพวกเหล่านี้ก็เป็นแค่พวกสามัญชนที่โชคดีที่มีพลังก็เท่านั้น

และที่สำคัญพวกมันยังเป็นพวกชั้นต่ำต่างจากเขาที่เป็นชนชั้นสูงซึ่งเป็นคนของหน่วยดาบ คนพวกนี้ควรที่จะมารับใช้พวกเขามากกว่าแทนที่จะไปเป็นพวกนักล่าอะไรนั้น

สำหรับความคิดของไอแซคนั้นก็ไม่แปลกมากนักที่ชนชั้นสูงอย่างเขาจะมีความคิดแบบนี้ เพราะในรอบแรกของการกลายพพันธุ์นั้น ส่วนใหญ่เป็นคนของตระกูลชนชั้นสูงทั้งสิ้น

ทำให้ชนชั้นสูงส่วนใหญ่คิดว่าการที่ตนได้พลังนี้มาเพื่อปกครองคนธรรมดาพวกนี้

นักล่าหลายคนได้ยินชื่อของจีซัสก็กลัวขึ้นมาโดยเฉพาะพวกที่เป็นมนุษย์ชั้นสูงระดับสีขาว

“หลบไปซะ พวกเราต้องรีบไล่ตามซอมบี้สติปัญญานั้น จะปล่อยให้หนีไปไม่ได้เด็ดขาด” ไนเรลกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด และพยายามผลักหนึ่งในหน่วยดาบที่ขวางทางเขาอยู่

“แกกล้ามาก…สำหรับคนที่เข้าใจยากมันต้องโดนสั่งสอนแบบนี้” ไอแซคไม่รอช้าต่อยเข้าไปไนเรล

ด้วยหมัดที่เสริมด้วยความสามารถ [กล้ามเนื้อเหล็กกล้า A] มันทรงพลังเป็นอย่างมาก จนเกิดเสียงขณะที่หมัดปล่อยออกมา

“ถอยออกมาเร็ว”

“หมัดนั้นทรงพลังเกินไป”

“หยุดนะ…หน่วยดาบทำเกินไปแล้ว”

นักล่าโดยรอบถึงกับตกใจกลัว ในนั้นยังมีพวกตำรวจและทหารที่เป็นคนธรรมดาอยู่ด้วย พวกเขาถึงกลับสงสารเด็กหนุ่มคนนนี้ที่ไปยั่วยุไอแซค

ทั้งเอวาและเจคก็เห็นเช่นกันเขาพยายามเข้าไปช่วย เพราะถึงอย่างไรไนเรลก็เป็นนักล่าเช่นพวกเขา แต่ก็มีคนที่รู้สึกสะใจเช่นกันนั้นก็คือบิลชายหน้าหมี ที่โดนไนเรลแตะจนสลบไปนั้นเอง

ไนเรลเห็นหมัดที่ไอแซคต่อยมา เขาก็ใช้ความสามารถ [กิ้งก่ายักษ์ B] เปลี่ยนแขนเป็นอมุษย์ร่างกิ้งก่าร่วมกับความสามารถ [พละกำลัง 50 เท่า B] เพื่อรับหมัดนั้น

“โง่เง่าต้องการวัดพละกำลังกับข้างั้นเหรอ” ไอแซคใส่กำลังออกไปเต็มแรงในทันที

ตูม ! หมัดของไอแซคและไนเรลปะทะกันอย่างแรง ลมและฝุ่นกระจายออกมาโดยมีทั้งสองเป็นจุดศูนย์กลาง

จากแรงปะทะกันก็มีร่างของคนหนึ่งที่กระเด็นถอยไปชนเข้ากับกองของซากตึกที่ถล่มลงมา

ทุกคนในที่นี้คิดว่าไนเรลไม่ตายก็ต้องพิการแต่พวกเขาคิดผิดคนที่กระเด็นไปนั้นกลับเป็นไอแซค

ส่วนไนเรลนั้นเขายังยืนปกติดีไร้รอยขีดข่วน

“นั้นมันความสามารถประเภทกลายร่าง” ทั้งเอวาและเจคไม่คิดว่าไนเรลจะมีความสามารถประเภทกลายร่างตอนแรกที่เขาเห็นไนเรลที่สำนักงานนักล่าจัดการกับบิลชายหน้าหมีจะเป็นประเภทลึกลับหรือไม่ก็ประเภทสนับสนุน เช่นพวกพละกำลังมากกว่า

“มันคือร่างอะไรกันแน่ถึงมีพละกำลังมากขนาดนั้น”

“มันต้องเป็นร่างมังกรแน่ ๆ ไม่งั้นพละกำลังมันไม่มีทางเหลือกว่าความสามารถของไอแซคผู้ที่มีความสามารถ [กล้ามเนื้อเหล็กกล้า A] ”

“ไม่รู้ว่าใช่มังกรหรือไม่แต่เชื่อว่าต้องเป็นความสามารถไม่ต่ำกว่าระดับ A”

มนุษย์ชั้นสูงที่อยู่โดยรอบเริ่มพูดคุยกันในทันทีโดยลืมไปแล้วว่าพวกเขากำลังอยู่ในสถานการณ์อะไร

พวกเขาหารู้ไม่ว่าความสามารถที่ไนเรลใช้เป็นแค่ระดับ B เท่านั้นแต่มันคือผลของสองความสามารถที่เข้ากัน จนสามารถข้ามขีดจำกัดของความสามารถได้

“ไอ้ลูกสุนัข แก…” ไอแซคที่ตอนนี้รีบลุกขึ้นมาพร้อมกับถุยดินที่อยู่ในปากออก

เขาไม่อาจยอมรับได้ว่าจะโดนไนเรลต่อยจนกระเด็นด้วยหมัดเดี่ยวทั้งเขายังแพ้ให้กับในสิ่งที่เขาถนัดอีกนั้นคือ ด้านพลังกำลัง

ไอแซคกำหมัดด้วยความโมโหปล่อยจิตสังหารและวิ่งเข้าไปหมายจะฆ่าไนเรลทิ้ง ไนเรลเองก็ตั้งท่าเตรียมสู้เช่นกัน ถึงเขาไม่อยากจะฆ่าคนแต่ก็ใช่ว่าจะฆ่าไม่ได้

แต่ในตอนนั้นเองก็มีเสียงดังขึ้นมา

“หยุด!!! ไอแซค นายกำลังทำอะไร!” จีซัสก็เดินเขามามองไปที่ไอแซคและถามออกมา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง 26 ห้องทดลองในตึก

Now you are reading re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง Chapter 26 ห้องทดลองในตึก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 26 ห้องทดลองในตึก

เขามองไปที่ไฟสีแดงจากระเบิดและเสียงกรีดร้องของผู้คน พร้อมกับสัญญาณเตือนดังไปทั่ว

ไนเรลรีบวิ่งไปโดยที่หยิบดาบคู่เขางูไปด้วย ส่วนเมสันก็เข้าไปหลบอยู่ในร้านของตนเอง เพราะคิดว่าเขาไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร

เขาวิ่งไปตามทางที่มีแสงไฟจากหลอดไฟที่กะพริบไปมา เนื่องจากแรงระเบิดบางส่วนทำให้ไฟช๊อต

ต้นเหตุดูเหมือนจะมาจากตัวอาคาร ผู้คนหนีตายกันอย่างวุ่นวาย ที่เกิดเหตุห่างจากเขาแค่ไม่กี่ร้อยเมตร

ซอมบี้สองตัวกำลังวิ่งตามผู้คนมาด้วยความหิวกระหาย ไนเรลใช้ดาบตัดหัวของซอมบี้ คมดาบตัดผ่านคอหอยทะลุท้ายทอย หัวของพวกมันขาดลง

คนที่อยู่บริเวณรอบที่เห็นเขาก็เหมือนมองเห็นความหวังรีบเขามาขอความช่วยเหลือ

นั้นทำให้มีซอมบี้อีกหลายตัววิ่งตามมา แต่มันก็ถูกเขาฆ่าตายอย่างรวดเร็ว หนึ่งการฟันต่อซอมบี้ 1 ตัว

ในระหว่างนั้นเองก็มีมนุษย์ชั้นสูงอีกหลายคนเขามาจัดการกับซอมบี้เช่นกัน และในนั้นก็เอวา มนุษย์ชั้นสูง ผู้มีความสามารถ [มีดสายลม B] และเจค ผู้มีความสามารถ [เร่งความเร็วระยะสั้น B]

เอวา เคยวาดแขนของเธอ ก็สามารถผ่าร่างของซอมบี้ออกเป็นสองส่วน ที่ไกลออกไปเจคเคลื่อนที่ด้วยความรวดเร็วใช้ปืนยิงจ่อไปที่เบ้าตาของซอมบี้ กระสุนระเบิดสมองพวกซอมบี้อย่างง่ายดาย

หลังจากเกิดเรื่องแค่ 3 นาที ตำรวจและกำลังทหารก็เข้ามาปิดล้อมพื้นที่ 300 เมตรจากปตึกศูนย์กลางการระบาด

“ประกาศให้ทุกคนที่อยู่ในพื้นที่กลับเขาไปหลบอยู่ในบ้าน” ข้อความนี้ประกาศออกมาหลายครั้ง เหตุเพราะพวกทหารต้องการแยกซอมบี้จากคนธรรมดา เพื่อที่จะลดการติดเชื้อและกำจัดพวกมัน

ในตอนนี้ไฟได้ดับลงไปอย่างสมบูรณ์เหลือแค่ไฟสปอตไลต์จากกองกำลังทหารและ เฮลิคอปเตอร์ที่ส่องลงมาจากบนท้องฟ้า

ปัง! ปัง! ปัง!

เสียงปืนของพวกทหารและตำรวจดังมาอย่างต่อเนื่อง

เขาเป็นมนุษย์ชั้นสูงคนแรกที่เข้ามาถึงตัวอาคาร ไนเรลจัดการซอมบี้ที่แต่งชุดยาม 2 สองตัว และเข้าไปด้านใน

ภายในเป็นห้องสำนักงานธรรมดา แต่มันไม่ธรรมดาตรงที่เป็นของบริษัทพาราซัส ตึกนี้มี 5 ชั้น ด้านในมีซอมบี้อยู่ไม่กี่ตัว ไนเรลสามารถจัดการมันอย่างไม่ยากเย็น แต่ตึกทั้งชั้นก็ดูไม่มีอะไรผิดปกติ

“หรือว่าเราจะผลาดยางอย่างไร” ไนเรลรีบวิ่งลงมาที่ชั้นล่างและเริ่มค้นหาโดยรอบอย่างระเอียดจนเจอเข้ากับประตูลับที่พาไปสู่ชั้นใต้ดิน

มันอยู่ด้านหลังของชั้นภายในห้องเก็บของ ประตูมันไม่ได้ล๊อคเขาจึงเปิดออกเดินเข้าไป ด้านในเต็มไปด้วยเลือด มีซอมบี้อยู่บ้างส่วนใหญ่เป็นพวกนักวิจัย

“ที่นี่เป็นห้องทดลอง…” ไนเรลจัดการซอมบี้ที่ข้างทางสองสามตัวเท่านั้น เพราะตัวที่เหลือส่วนใหญ่ถูกขังอยู่ในห้องปฏิบัติการ

เขาเข้าไปในห้องปฏิบัติการหนึ่งเนื่องจากของที่อยู่ในห้องทดลอมันคือ แก่นพลังงาน ATP สามชิ้น

“แก่นพลังงานระดับ 2” เขาเก็บมันทันที

ไนเรลคำนวณดูแก่นพลังงานทั้ง 3 นั้นน่าจะเพิ่มพลังงานในเซลล์ให้เขาได้ 200 หน่วยเลยทีเดียว

เขาเดินลึกเข้าไปเรื่อย จนเจอห้องปฏิบัติการที่ใหญ่ที่สุดภายในมีหลอดทดลองขนาดใหญ่ตั้งอยู่จำนวนมาก ในหลอดมีซอมบี้ที่ยังมีชีวิตอยู่

บางตัวพวกมันดูเหมือนจะมีสติปัญญาบ้างเล็กน้อย

ด้านข้างมีเตียงที่มีร่างของมนุษย์อยู่แต่ดูเหมือนพวกเขาจะถูกมัดและเฉือนเนื้อให้กับซอมบี้ที่อยู่ในหลอดทดลองพวกนั้นกินทั้งเป็น

“บัดซบ พวกพาราซัสโง่เง่า” ไนเรลด่าออกไปทัน เมื่อเขาเห็นห้องนี้ก็เดาได้ว่าพวกมันทดลองซอมบี้และมนุษย์

การทดลองเกี่ยวกับมนุษย์นั้นผิดกฎหมาย พวกนี้ใช้โอกาสในช่วงเวลานี้ในการทดลอง แต่นี้ไม่สิ่งที่เขาโกรธที่สุด สิ่งที่โกรธที่สุดคือพวกนี้มันโง่ถึงขนาดสร้างและเลี้ยงดูซอมบี้ที่มีสติปัญญา

และดูเหมือนว่าจะมีตัวที่หลุดออกไปได้ เขามองดูไปที่หลอดที่เขียนว่า ตัวทดลอง หมายเลขศูนย์

“ดูเหมือนมันจะหนีไปได้…แต่ก็คงจะยังอยู่ในตึกนี้”

ดาบคู่เขางูแทงไปที่หัวของซอมบี้ที่อยู่ในหลอดทดลอง จากนั้นเขาก็จัดการเผาเอกสารและของทั้งหมด เพื่อที่จะไม่ให้มีใครนำพวกมันไปใช้

แม้แต่กับรัฐบาลเองก็ตาม

ในขณะนั้นเองเขาก็รู้สึกได้ถึงบางอย่างที่ยืนอยู่ด้านหลังจากความสามารถ [ตรวจจับความร้อน C] มันคือเด็กชายตัวน้อยอายุประมาณ 7 ขวบใส่เสื้อสีขาวชุดที่เหมือนกับซอมบี้ในหลอดทดลอง มีเลขศูนย์ปักอยู่ที่เสื้อตรงหน้าอก

“ซอมบี้สติปัญญาขั้น 2”

ไม่รอช้าไนเรลใช้ดาบฟันไปที่มันในทันที

บูม !

แต่ในตอนนั้นเองที่ผนังด้านบนก็พังลงมา มันคือซอมบี้ปีก ขั้น 3 มาขวางเขาและซอมบี้สติปัญญาไว้

“ย้าาา!” เขาใช้ดาบฟันไปที่มันในทันที แต่แค่แรงกระพือปีกของมันก็ทำให้ตัวเขากระเด็นออกมา แขนที่เหมือนปีกของมันสะบัดฟาดไปที่เขาอย่างแรง

“ซวยละ” เขารีบใช่ร่างของกิ้งก่าในทันที ความแรงของมันทำให้ร่างของเขากระเด็นออกไปกว่า 10 เมตรชนผนังห้อง

มันไม่ได้จัดการเขาต่อเพราะซอมบี้สติปัญญาเรียกมันกลับไป

ซอมบี้ปีกพาซอมบี้สติปัญญา หรือตัวทดลองหมายเลขศูนย์ ชนกับกำแพงด้านบนบินขึ้นไปบนท้องฟ้า

เขารีบลุกขึ้นมาเสื้อผ้าส่วนใหญ่ขาดแต่เพราะเขากลายร่างทันจึงไม่เป็นอะไรมานัก

ตัวตึกเริ่มสั่นไหว ไนเรลวิ่งออกไปที่ด้านนอกในทันทีก่อนที่ตึกมันจะถล่ม เมื่อออกมาพ้นระยะตึกก็ถล่มลงมา ถ้าเขาหนีออกมาไม่ทันมีหวังไว้ถูกฝังทั้งเป็นแน่นอน

บนท้องฟ้า เฮลิคอปเตอร์ที่พยายามจะยิงมันด้วยปืนกล แต่ด้วยความคล่องแคล่วของมันจึงสามารถหลบหลีกได้อย่างง่ายๆ

ในตอนนั้นเองที่เขาเห็นกลุ่มของมนุษย์ชั้นสูงที่แต่งตัวคล้ายๆ กัน

เนื่องด้วยหน่วยโล่ถูกส่งออกไปที่ภารกิจเส้นทางรถไฟ ดังนั้นหน่วยนี้ก็คงจะเป็นหน่วยดาบ

ในตอนนั้นเองชายที่เป็นหนึ่งได้เดินออกมาจากในกลุ่ม เขาคือ จีซัส ลำดับ 1 ของหน่วยดาบค่ายลี้ภัย 101 ยกมือขึ้น ทันใดนั้นละอองน้ำ และความชื้อโดยรอบ ที่อยู่ในอากาศรวมตัวกันเป็นหอกน้ำเเข็งยิงไปที่ปีกของซอมบี้ปีก

ฮ๊ากกกก!!! ปีกของมันเกือบขาด แต่มันก็ร่อนหนีออกไปได้

ดูเหมือนว่าปีกของซอมบี้จะบาดเจ็บมาก

“ตามมันไปเร็ว!!!” ไนเรลรีบบอกกับคนอื่น ๆ แต่ดูเหมือนว่าทุกคนจะถูกหน่วยดาบล้อมไว้และไนเรลก็เช่นกัน

“จัดการปิดพื้นที่ จัดการซอมบี้ทุกตัวและควบคุมทุกคน ฉันต้องการที่จะสอบปากคำทุกคนถึงเรื่องที่เกิดขึ้น” จีซัสพูดออกมาอย่างวางอำนาจ

คนในหน่วยดาบทำตามที่เขาบอกทันทีพวกเขากระจายตัวกันไปจัดการกับซอมบี้และปิดล้อมพื้นที่โดยมีตำรวจและทหารที่เข้ามาช่วย

ส่วนพวกที่เหลือก็เข้ามาล้อมมนุษย์ชั้นสูงไว้

“เดี่ยวพวกเราเป็นนักล่านะ”

“พวกนายจะทำอะไร”

“ปล่อยนะพวกฉันก็แค่มาช่วยจัดการกับซอมบี้ก็แค่นั้นเอง”

“หลบไป” ไนเรลพยายามที่จะออกไปเพื่อตามล่าซอมบี้สติปัญญาตัวนั้นไป เพราะเขารู้ว่าถ้ามันไปรวมกับฝูงซอมบี้ได้ละก็ค่ายนี้จะต้องจบสิ้นแน่

เขายังไม่อยากมีปัญหากับพวกหน่วยดาบดังนั้นจึงต้องบอกดี ๆ

แต่หนึ่งในสมาชิกของหน่วยดาบเดินออกมาด้วยท่าทีที่เหนือกว่า เขาก็คือไอแซค มนุษย์ชั้นสูง ระดับ สีเทา ผู้มีความสามารถด้านสนับสนุน [กล้ามเนื้อเหล็กกล้า A]

ไอแซคเดินมาทางกลุ่มของมนุษย์ชั้นสูงที่ไนเรลยืนอยู่ด้วยท่าทีลำคาน

“ไอ้พวกสวะของมนุษย์ชั้นสูง นี่เป็นคำสั่งของท่านจีซัส พวกแกกลับกล้าขัดงั้นหรือ” ไอแซคพูดออกมาโดยที่ไม่ไว้หน้าเลยแม้แต่น้อย สำหรับเขาแล้วมนุษย์ชั้นสูงพวกเหล่านี้ก็เป็นแค่พวกสามัญชนที่โชคดีที่มีพลังก็เท่านั้น

และที่สำคัญพวกมันยังเป็นพวกชั้นต่ำต่างจากเขาที่เป็นชนชั้นสูงซึ่งเป็นคนของหน่วยดาบ คนพวกนี้ควรที่จะมารับใช้พวกเขามากกว่าแทนที่จะไปเป็นพวกนักล่าอะไรนั้น

สำหรับความคิดของไอแซคนั้นก็ไม่แปลกมากนักที่ชนชั้นสูงอย่างเขาจะมีความคิดแบบนี้ เพราะในรอบแรกของการกลายพพันธุ์นั้น ส่วนใหญ่เป็นคนของตระกูลชนชั้นสูงทั้งสิ้น

ทำให้ชนชั้นสูงส่วนใหญ่คิดว่าการที่ตนได้พลังนี้มาเพื่อปกครองคนธรรมดาพวกนี้

นักล่าหลายคนได้ยินชื่อของจีซัสก็กลัวขึ้นมาโดยเฉพาะพวกที่เป็นมนุษย์ชั้นสูงระดับสีขาว

“หลบไปซะ พวกเราต้องรีบไล่ตามซอมบี้สติปัญญานั้น จะปล่อยให้หนีไปไม่ได้เด็ดขาด” ไนเรลกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด และพยายามผลักหนึ่งในหน่วยดาบที่ขวางทางเขาอยู่

“แกกล้ามาก…สำหรับคนที่เข้าใจยากมันต้องโดนสั่งสอนแบบนี้” ไอแซคไม่รอช้าต่อยเข้าไปไนเรล

ด้วยหมัดที่เสริมด้วยความสามารถ [กล้ามเนื้อเหล็กกล้า A] มันทรงพลังเป็นอย่างมาก จนเกิดเสียงขณะที่หมัดปล่อยออกมา

“ถอยออกมาเร็ว”

“หมัดนั้นทรงพลังเกินไป”

“หยุดนะ…หน่วยดาบทำเกินไปแล้ว”

นักล่าโดยรอบถึงกับตกใจกลัว ในนั้นยังมีพวกตำรวจและทหารที่เป็นคนธรรมดาอยู่ด้วย พวกเขาถึงกลับสงสารเด็กหนุ่มคนนนี้ที่ไปยั่วยุไอแซค

ทั้งเอวาและเจคก็เห็นเช่นกันเขาพยายามเข้าไปช่วย เพราะถึงอย่างไรไนเรลก็เป็นนักล่าเช่นพวกเขา แต่ก็มีคนที่รู้สึกสะใจเช่นกันนั้นก็คือบิลชายหน้าหมี ที่โดนไนเรลแตะจนสลบไปนั้นเอง

ไนเรลเห็นหมัดที่ไอแซคต่อยมา เขาก็ใช้ความสามารถ [กิ้งก่ายักษ์ B] เปลี่ยนแขนเป็นอมุษย์ร่างกิ้งก่าร่วมกับความสามารถ [พละกำลัง 50 เท่า B] เพื่อรับหมัดนั้น

“โง่เง่าต้องการวัดพละกำลังกับข้างั้นเหรอ” ไอแซคใส่กำลังออกไปเต็มแรงในทันที

ตูม ! หมัดของไอแซคและไนเรลปะทะกันอย่างแรง ลมและฝุ่นกระจายออกมาโดยมีทั้งสองเป็นจุดศูนย์กลาง

จากแรงปะทะกันก็มีร่างของคนหนึ่งที่กระเด็นถอยไปชนเข้ากับกองของซากตึกที่ถล่มลงมา

ทุกคนในที่นี้คิดว่าไนเรลไม่ตายก็ต้องพิการแต่พวกเขาคิดผิดคนที่กระเด็นไปนั้นกลับเป็นไอแซค

ส่วนไนเรลนั้นเขายังยืนปกติดีไร้รอยขีดข่วน

“นั้นมันความสามารถประเภทกลายร่าง” ทั้งเอวาและเจคไม่คิดว่าไนเรลจะมีความสามารถประเภทกลายร่างตอนแรกที่เขาเห็นไนเรลที่สำนักงานนักล่าจัดการกับบิลชายหน้าหมีจะเป็นประเภทลึกลับหรือไม่ก็ประเภทสนับสนุน เช่นพวกพละกำลังมากกว่า

“มันคือร่างอะไรกันแน่ถึงมีพละกำลังมากขนาดนั้น”

“มันต้องเป็นร่างมังกรแน่ ๆ ไม่งั้นพละกำลังมันไม่มีทางเหลือกว่าความสามารถของไอแซคผู้ที่มีความสามารถ [กล้ามเนื้อเหล็กกล้า A] ”

“ไม่รู้ว่าใช่มังกรหรือไม่แต่เชื่อว่าต้องเป็นความสามารถไม่ต่ำกว่าระดับ A”

มนุษย์ชั้นสูงที่อยู่โดยรอบเริ่มพูดคุยกันในทันทีโดยลืมไปแล้วว่าพวกเขากำลังอยู่ในสถานการณ์อะไร

พวกเขาหารู้ไม่ว่าความสามารถที่ไนเรลใช้เป็นแค่ระดับ B เท่านั้นแต่มันคือผลของสองความสามารถที่เข้ากัน จนสามารถข้ามขีดจำกัดของความสามารถได้

“ไอ้ลูกสุนัข แก…” ไอแซคที่ตอนนี้รีบลุกขึ้นมาพร้อมกับถุยดินที่อยู่ในปากออก

เขาไม่อาจยอมรับได้ว่าจะโดนไนเรลต่อยจนกระเด็นด้วยหมัดเดี่ยวทั้งเขายังแพ้ให้กับในสิ่งที่เขาถนัดอีกนั้นคือ ด้านพลังกำลัง

ไอแซคกำหมัดด้วยความโมโหปล่อยจิตสังหารและวิ่งเข้าไปหมายจะฆ่าไนเรลทิ้ง ไนเรลเองก็ตั้งท่าเตรียมสู้เช่นกัน ถึงเขาไม่อยากจะฆ่าคนแต่ก็ใช่ว่าจะฆ่าไม่ได้

แต่ในตอนนั้นเองก็มีเสียงดังขึ้นมา

“หยุด!!! ไอแซค นายกำลังทำอะไร!” จีซัสก็เดินเขามามองไปที่ไอแซคและถามออกมา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+