re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง 33 ซวยแล้วซวยอีก

Now you are reading re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง Chapter 33 ซวยแล้วซวยอีก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 33 ซวยแล้วซวยอีก

ไนเรลมองไปที่เอวาด้วยสีหน้าที่จริงจัง เธอมีความแน่วแน่เป็นอย่างมาก รวมถึงนักล่าอีกทั้ง 16 คนด้วยเช่นกัน

“การก่อตั้งสมาพันธ์นักล่านั้นไม่ใช่เรื่องง่าย รัฐบาลจะต้องไม่ยอมอย่างแน่นอน ถึงจะก่อตั้งได้สำเร็จคนที่เป็นประธานสมาพันธ์ก็ต้องรับแรงกดดันที่มหาศาลจากทุกฝ่าย”

“ที่สำคัญใช่ว่านักล่าทุกคนจะยอมรับ”

ทุกคนได้ยินดังนั้นลังเลเล็กน้อย เอวากัดริมฝีปากของเธอและกล่าวออกมา “เพราะงั้นพวกเขาถึงต้องการให้นายเป็นประธานสมาพันนักล่า ตอนนี้ในค่ายลี้ภัย 101 นั้น นักล่าที่สามารถต่อกรกับพวกระดับสีน้ำตาลได้นั้นก็มีแค่นายอีกอย่าง”

“ฉันรู้นายนั้นก็เป็นคนของตระกูลชั้นสูงเช่นกัน รัฐบาลต้องไม่ทำอะไรที่เกินเลยไป เพราะถึงอย่างไรรัฐบาลก็ให้ความสำคัญกับตระกูลชั้นสูงอยู่ไม่มากก็น้อย”

ไนเรลคิดทันทีถ้าเขาเป็นประธานสหพันธ์นักล่านั้นมันก็ถือเขาได้ควบคุมนักล่าที่อยู่ในสังกัด อำนาจและอิทพลของนักล่าในอนาคตนั้นมีมากจนน่ากลัวแต่กับไม่มีใครคิดจะรวบรวมคนเหล่านี้ในชีวิตที่แล้วของเขา

เพราะส่วนใหญ่ทุกคนเลือกที่จะเข้าร่วมกับค่าย หรือเป็นคนของรัฐบาล ตระกูลชั้นสูง หรือไม่ก็บริษัทที่มีอิทธิพลต่าง ๆ

แต่ถ้าเขาก่อตั้งสหพันธ์นักล่าขึ้นมาละก็จะสามารถดึงคนเหล่านี้มารวมกัน และที่สำคัญไม่ต้องจำกัดว่าใครเป็นใครขอแค่ปฏิบัติตามกฎของสหพันธ์ก็พอ

ส่วนแรงกดดันจากรัฐบาลหรือใครก็ตามนั้นเขาไม่ได้สนใจมันเลยแม้แต่น้อย ถ้าพวกมันไม่มีก็ความตายก็ให้พวกมันเข้ามา

“ตกลง แต่เรื่องนี้รอให้กลับไปที่ค่ายลี้ภัย 101 ก่อนค่อยพูดคุยรายละเอียดอีกที” ไนเรลตอบตกลงทันที ในชีวิตนี้เขาต้องการอำนาจแบบนี้ บางทีนี้อาจจะเป็นสิ่งที่ใช้ต่อกรกับยักษ์เถื่อนและอสูรก็ได้

หลังจากที่ได้รับคำตอบยืนยันจากไนเรลพวกเขาก็แยกกันไปพักผ่อนเนื่องจากพวกเขาไม่ได้มีอาหารอะไรมาด้วยทำให้ทุกคนเลือกที่จะนอนเพราะขอแค่หลับก็ไม่ต้องทนหิว

ในขณะที่ไนเรลนั้นหยิบหัวของซอมบี้แล้วแยกตัวออกไปเพียงลำพัง เขาหายไปไม่นานประมาณ 5 นาทีก็กลับเข้ามาตอนนี้หัวของซอมบี้ได้หายไปแล้วในขณะที่หน้าอกของเขามีใบไม้ใบเล็กงอกออกมาแต่ครั้งนี้มันแตกต่างจากใบอื่น ๆ เพราะสีของมันนั้นเป็นสีทองแต่ใบของมันเล็กมาก

พลังที่เขาได้มาใหม่นี้คือ [คำบัญชาเผ่าพันธุ์ E] เป็นพลังประเภทจิตใจ มันไม่ใช่การควบคุมซอมบี้แต่เป็นการควบคุมมนุษย์ น่าจะเป็นเพราะว่าเขานั้นเป็นมนุษย์ความสามารถจึงมีผลกับแค่มนุษย์ ซึ่งระดับที่ควบคุมได้ต้องเป็นคนที่มีระดับต่ำกว่าเขา มีระดับต่ำเท่าไหร่เขาก็ควบคุมได้มากเท่านั้น

แต่ถ้าใครที่มีความสามารถประเภทพลังจิตใจที่สูงกว่าหรือเท่ากับ E มันก็ไร้ผล เพราะมนุษย์ชั้นสูงพวกนี้นั้นสามารถต้านทานความสามารถในประเภทเดียวกันได้

ในความรู้สึกของเขาพลังความสามารถนี้ยังสามารถพัฒนาขึ้นไปได้อีก ความสามารถแบบนี้ไม่น่าจะมีระดับแค่นี้

“คงต้องกินซอมบี้สติปัญญาที่มีระดับสูงกว่านี้”

ไนเรลพูดออกมาด้วยความหิวกระหาย เขามองว่าซอมบี้พวกนี้ไม่ใช่พวกที่มาจากมนุษย์แต่เป็นคนละเผ่าพันธุ์ไปแล้ว

ถ้าซอมบี้สติปัญญาตัวอื่น ๆ มาเห็นและได้ยินคำพูดของไนเรลพวกมันจะต้องคลุ้มคลั่งและไล่ล่าเขาแน่

มีอย่างที่ไหนอาหารพวกนี้คิดจะหันมากินผู้ล่า ซึ่งนี่ก็คงจะเป็นความคิดของพวกซอมบี้มันอย่างแน่นอน

แต่ถึงมันจะคิดแบบนั้นไนเรลก็บอกไปแค่ว่า ใครเป็นเหยื่อใครก็ต้องรอดูกันไป

ไนเรลหาที่นั่งพักแยกออกมา จากนั้นก็หยิบแก่นพลังงานออกมา นี่คือแก่นพลังงานที่ได้มาจากห้องทดลองของบริษัทพาราซัส

เขาค่อย ๆ กลืนแก่นพลังงานทั้ง 3 ลงไปทันที พลังงานที่อยู่ภายในค่อย ๆ ละลายหลอมรวมเข้ากับเซลล์ในร่างกายของเขา

ระดับพลังงานภายในเซลล์ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ตัวเลขในเครื่องวัดระดับพลังงานในเซลล์ของเขาเพิ่มขึ้นไปหยุดอยู่ที่ 390 หน่วย

ความเหนื่อยล้าที่ได้รับเริ่มหายไปอย่างรวดเร็ว รอยแผลเล็ก ๆ หลายแห่งค่อย ๆ ตกสะเก็ดหายไปอย่างช้า ๆ

ที่คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อพลังงานในเซลล์เพิ่มขึ้น ระดับพลังชีวิตก็จะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน อายุขัยของมนุษย์ชั้นสูงระดับสีขาวนั้นคือ 120 ปี ในขณะที่สีเทาจะมีอายุขัยอยู่ที่ 150 ปี ถ้าเขาเลื่อนไปเป็นระดับสีน้ำตาลระก็เขาจะมีอายุขัยของเซลล์ถึง 200 ปีหรือเท่ากับ 2 ช่วงอายุขัยของคนปกติ ตามทฤษฎีแล้วถ้าพลังงานในเซลล์มากขึ้นก็สามารถที่จะมีชีวิตอมตะได้เลย

นี่คือเหตุผลที่ว่าทุกคนถึงอยากไขว่คว้าในพลัง เพราะคำว่าชีวิตอมตะสำหรับมนุษย์นั้น มันคือสิ่งที่พวกเขาตามหามาทุกยุคทุกสมัยไม่ว่าจะโลกใบไหนก็ตาม

ตอนนี้เขารู้สึกว่าพลังได้กลับมาเติมเต็มเป็นที่เรียบร้อย

แสงของวันใหม่ได้สาดส่องผ่านต้นไม่ที่สูงใหญ่หลายร้อยเมตรลงมาที่ พวกเขาได้เก็บของและออกเดินทางสักพักแล้วแต่คนส่วนใหญ่ก็รู้สึกหิวเป็นอย่างมากจน เนื่องจากยังไม่ได้กินอะไรมาทั้งวัน

ที่สำคัญเขาสอบถามแล้วจึงรู้ว่าทหารกว่าครึ่งที่รอดมานั้นส่วนใหญ่เป็นแค่ทหารใหม่ที่พึ่งรับเข้ามาหลังจากเกิดการระบาดของเชื้อซอมบี้

เนื่องจากทหารแต่ละค่ายลี้ภัยนั้นไม่เพียงพอเพราะทหารจำนวนมากกว่าครึ่งภายในประเทศไทกีล่ากลายเป็นซอมบี้ไปแล้ว

ทหารเก่าส่วนใหญ่จะได้ปรับยศขึ้นไปและแทนที่ด้วยทหารใหม่ ถึงแม้ทหารเหล่านั้นจะไม่ตรงตามคุณสมบัติของยศทหารก็ตาม แต่ทางกองทัพก็ไม่มีทางเลือก

ไนเรลไม่ได้แปลกใจในเรื่องนี้เพราะในชีวิตที่แล้วทางกองทัพก็ใช้วิธีการแบบนี้เช่นกัน

หลังจากที่เดินมาเกือบ 1 ชั่วโมงพวกเขาก็เจอเข้ากับพื้นที่แปลกประหลาดสีขาวที่กว้างกว่า 100 เมตร

“นี่มัน ไข่” ไนเรลกล้มลงไปหยิบมันขึ้นมาทันที ไข่แต่ละใบมีขนาดประมาณกำปั้น

“ไข่….”

“แม่เจ้า มีแต่ไข่เต็มไปหมดเลย”

“ทะเลไข่ ฮ่า ๆ สวรรค์ต้องตอบแทนที่พวกเราฆ่าซอมบี้บัดซบพวกนั้นแน่ ๆ ถึงได้ประทานไข่มามากขนาดนี้”

“เร็วรีบไปเอาพวกมันมาทอด”

ทหารหลายคนรีบวิ่งเขามาหยิบมันไปทันที พวกเขาหิวจนไม่สนใจแล้วว่าไข่เหล่านี้จะเป็นของใครอะไร เพราะอย่างไร ไข่เหล่านี้ก็คงจะไม่ต่างจากไข่ไก่

“เดี๋ยว… ทุกคนอย่างพึ่งไปยุ่งกับไข่พวกนี้”

แต่ในตอนนั้นเองที่ไนเรลห้ามไว้ เขารู้สึกมีลางสังหรณ์ไม่ดีเอามาก ๆ สัญชาตญาณบอกเขาว่าไข่เหล่านี้นั้นอันตรายเป็นอย่างมาก

เจ้าของที่วางไข่พวกนี้นั้นมีอยู่สองพวกคือ พวกที่อาศัยอยู่เป็นฝูงตัวอาจจะไม่ใหญ่ แต่มีจำนวนที่มาก

และสองคือพวกที่ตัวใหญ่มาก ๆ แค่ 1 ท้องก็สามารถวางไข่ได้มากขนาดนี้

แต่ไม่ว่าแบบไหน พวกมันก็ต้องไม่ชอบใจแน่ ๆ ที่ไข่ถูกขโมย

นักล่าบางส่วนรีบวางไข่ลงทันที แต่ก็ยังมีนักล่าและทหารบางคนที่เก็บมันขึ้นมาเพราะพวกเขาคิดว่าไนเรลตื่นตัวไปเอง

ไนเรลรีบใช้ความสามารถ [ตรวจจับความร้อน C] เขามองไปรอบ ๆ แต่ก็ไม่เจอกับอะไร

“แปลกไม่มีอะไรเลย หรือว่าเราคิดไปเอง”

“คุณเจออะไรไหม?” จ่าคูเปอร์เดินเข้ามาหาไนเรล ในขณะที่ทหารส่วนใหญ่ก็เริ่มเก็บไข่กันแล้วพวกเขาอยากที่จะกินมันเต็มที่

“พวกเราต้องออกจากที่นี่ ลางสังหรณ์ของฉันบอกว่ามันไม่ปลอดภัย”

“ไม่ปลอดภัย!!! แค่เพราะลางสังหรณ์งั้นหรือ นายบ้าหรือเปล่า”

“พวกเราหิวจะตายแต่บอกให้ทิ้งไข่พวกนี้และออกไปงั้นหรือ”

ในตอนนั้นเองที่ทหารคนหนึ่งเดินเข้ามา

เมื่อก่อนขาเป็นอันธพาลแต่เพราะไม่มีทางเลือกจึงเข้าร่วมกองทัพ ตอนนี้เขาเบื่อที่จะต้องฟังคำสั่งของพวกทหารเก่าพวกนั้น โดยเฉพาะเจ้าคูเปอร์ที่เมื่อก่อนก็เป็นพลทหารแบบเดียวกับพวกเขาแต่เพียงเพราะมันเข้าร่วมกองทัพมาก่อนจึงได้รับการปรับเลื่อนยศให้เป็นจ่าในขณะที่เขาต้องเป็นพลทหารต่อไป

ทหารอันธพาลคนนั้นพูดออกมาไม่เกรงกลัวไนเรลแม้แต่น้อยเพราะคิดว่าตนเองนั้นเป็นทหารจึงจะทำอะไรก็ได้

“หืม……” ไนเรลหันไปหรี่ตาลงมองไปที่ทหารคนนั้น

“ถ้าเจ้าอยากกินก็กินไป พวกเราไปกันเถอะ” ไนเรลเดินออกไป เขาไม่อยากลดตัวไปคุยกับคนแบบนี้

“เดี่ยวสิเฮ้ย ไอ้ลูกสุนัข” ทหารอันธพาลกำลังจะเรียกไนเรล แต่เขาโดนตบเข้าไป

เพี๊ยะ!

ไนเรลตบไปโดยที่ใช้ความสามารถพละกำลัง ร่างของทหารคนนั้นถึงกับกระเด็นตามแรงตบไปหล่นทับลงไปที่รองไข่สีขาวจนพวกมันแตกเลอะ ไปทั้งตัวของทหารอันธพาล

“แก…” ทหารอันธพาลชี้ปากกระบอกปืนไปที่ไนเรลด้วยความเจ็บปวด

“หยุด นายคิดจะทำอะไร? อยากขึ้นศาลทหารงั้นหรือ” จ่าคูเปอร์พยายามเข้าไปห้ามทหารอันธพาล

“อย่าคิดว่าเป็นทหารแล้ว จะไม่กล้าฆ่า” เขาพูออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

“เสียงคำราม!!!!!!!!!!!!!!!!!”

ในตอนนั้นเองที่อยู่ ๆ ก็มีเสียงคำรามดังออกมาจากพุ่มไม้ด้านข้าง แค่หัวที่มันโผล่ออกมาก็เลยยอดไม้ไปแล้ว

ทุกคนถึงกับถอยหลังทันทีด้วยความกลัว ร่างกายของมันนั่นยาวถึง 20 เมตร

“นั้นมันจิ้งจกหางหอกกลายพันธุ์ รีบหนีออกไปเร็ว” ไนเรลรีบถอยออกมาทันที เอวาและนักล่าคนอื่น ๆ ก็เช่นกันพวกเขาตอบสนองได้ไว้กว่าทหารหลายคนที่กำลังเก็บไข่อยู่มาก

จ่าคูเปอร์เองก็ได้ไนเรลช่วยไว้โดยเขาถูกไนเรลดึงออกมา

ปึก! ปึก! ปึก! ปึก!

ทันทีที่เขาถอยออกมาพ้นระยะของทหารอันธพาล หอกกระดูกก็ถูกสลัดออกมาจากห่างของเจ้าจิ้งจกหางหอกกลายพันธุ์ขั้น 4 อย่างรวดเร็ว

หอกปักทะลุร่างของทหารอันธพาลตายไป ทหารหลายคนที่หลบไม่ทันก็โดนหอกกระดูกแทงทะลุไปเช่นกัน

“นี่มัน…นี่มัน”

“หนีเร็วที่มันสัตว์ประหลาดกลายพันธุ์”

พวกไนเรลนั้นวิ่งไปไกลแล้วใครจะไปสู้กับสัตว์กลายพันระดับ 4 กัน แม้แต่ซอมบี้สติปัญญาขั้น 3 ก็คงต้องคิดแล้วคิดอีกอย่างแน่นอน

จิ้งจกกลายพันธุ์หลังจากที่สลัดหอกกระดูกออกจากหางของมันแล้ว หอกกระดูกที่หางของมันก็งอกออกมาใหม่ได้อย่างน่าอัศจรรย์

ที่คือการวิวัฒนาการของมัน เปลี่ยนจากหางที่สลัดทิ้งเพื่อหลบหนี กลายเป็นอาวุธหอกกระดูกที่น่ากลัว

มันมองไปที่สิ่งมีชีวิตที่วิ่งสองขาและมองไปที่ไข่ที่ตอนนี้แตกไปหลายฟองและยังมีบางส่วนที่ถูกขโมยไปอีก

“คำราม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”

มันร้องคำรามด้วยความโกรธ และตามตัวขโมยไข่ไปทันที

“บัดซบใครที่เอาไข่มันมาทิ้งไปเร็ว” ไนเรลที่เห็นมันวิ่งตามมาเขาก็รีบตะโกนบอกทันที

แต่ไม่ทันเสียแล้วเพราะหนึ่งในทหารถูกจิ้งจกหางหอกกลายพันธุ์กินทั้งเป็นลงไป

“เพราะเจ้าจิ้งจกพวกนี้มันกำลังจะแก้แค้นฉัน”

ทหารสื่อสารคนนั้นที่วิ่งช้าที่สุดเพราะที่หลังของเขามีเครื่องมือสื่อสารมาด้วย เขาสะดุดล้มลงและพยายามหนีตายอย่างสุดชีวิต

“อย่า ๆ อย่ากินฉัน ฉันจะไม่ฆ่าจิ้งจกอีกแล้ว…อ๊ากกกก”

ถึงจะเป็นแบบนั้นจิ้งจกหางหอกกลายพันธุ์ก็ไม่ได้สนใจและกินเขาลงไปทันทีในคำเดียว

“แย่แล้วทหารสื่อสารโดนกินไปแล้ว เครื่องระบุตำแหน่งก็โดนกินเข้าไปด้วย”

“ช่างเครื่องระบุตำแหน่งไปก่อน หนีเอาตัวรอดก่อน”

ตูม!!!!

แต่แล้วในตอนนั้นเองที่เสียงดังมาจากอีกทางของป่า มันคือจิ้งจกหางหอกกลายพันธุ์อีกตัวที่วิ่งเข้ามาด้วยความรวดเร็ว

“บัดซบ นั่นมันอีกตัว”

“มันมีตัวเมียก็ต้องมีตัวผู้ ซวยแล้วไง”

ไนเรล และพวกวิ่งสุดชีวิตหนีจิ้งจกหางหอกกลายพันธุ์ขั้นที่ 4 ทั้งสองตัว เขาต้องรีบหาทางหนีพวกมันให้ได้ไม่งั้นได้เป็นอาหารเช้าของจิ้งจกพวกนี้แน่

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง 33 ซวยแล้วซวยอีก

Now you are reading re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง Chapter 33 ซวยแล้วซวยอีก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 33 ซวยแล้วซวยอีก

ไนเรลมองไปที่เอวาด้วยสีหน้าที่จริงจัง เธอมีความแน่วแน่เป็นอย่างมาก รวมถึงนักล่าอีกทั้ง 16 คนด้วยเช่นกัน

“การก่อตั้งสมาพันธ์นักล่านั้นไม่ใช่เรื่องง่าย รัฐบาลจะต้องไม่ยอมอย่างแน่นอน ถึงจะก่อตั้งได้สำเร็จคนที่เป็นประธานสมาพันธ์ก็ต้องรับแรงกดดันที่มหาศาลจากทุกฝ่าย”

“ที่สำคัญใช่ว่านักล่าทุกคนจะยอมรับ”

ทุกคนได้ยินดังนั้นลังเลเล็กน้อย เอวากัดริมฝีปากของเธอและกล่าวออกมา “เพราะงั้นพวกเขาถึงต้องการให้นายเป็นประธานสมาพันนักล่า ตอนนี้ในค่ายลี้ภัย 101 นั้น นักล่าที่สามารถต่อกรกับพวกระดับสีน้ำตาลได้นั้นก็มีแค่นายอีกอย่าง”

“ฉันรู้นายนั้นก็เป็นคนของตระกูลชั้นสูงเช่นกัน รัฐบาลต้องไม่ทำอะไรที่เกินเลยไป เพราะถึงอย่างไรรัฐบาลก็ให้ความสำคัญกับตระกูลชั้นสูงอยู่ไม่มากก็น้อย”

ไนเรลคิดทันทีถ้าเขาเป็นประธานสหพันธ์นักล่านั้นมันก็ถือเขาได้ควบคุมนักล่าที่อยู่ในสังกัด อำนาจและอิทพลของนักล่าในอนาคตนั้นมีมากจนน่ากลัวแต่กับไม่มีใครคิดจะรวบรวมคนเหล่านี้ในชีวิตที่แล้วของเขา

เพราะส่วนใหญ่ทุกคนเลือกที่จะเข้าร่วมกับค่าย หรือเป็นคนของรัฐบาล ตระกูลชั้นสูง หรือไม่ก็บริษัทที่มีอิทธิพลต่าง ๆ

แต่ถ้าเขาก่อตั้งสหพันธ์นักล่าขึ้นมาละก็จะสามารถดึงคนเหล่านี้มารวมกัน และที่สำคัญไม่ต้องจำกัดว่าใครเป็นใครขอแค่ปฏิบัติตามกฎของสหพันธ์ก็พอ

ส่วนแรงกดดันจากรัฐบาลหรือใครก็ตามนั้นเขาไม่ได้สนใจมันเลยแม้แต่น้อย ถ้าพวกมันไม่มีก็ความตายก็ให้พวกมันเข้ามา

“ตกลง แต่เรื่องนี้รอให้กลับไปที่ค่ายลี้ภัย 101 ก่อนค่อยพูดคุยรายละเอียดอีกที” ไนเรลตอบตกลงทันที ในชีวิตนี้เขาต้องการอำนาจแบบนี้ บางทีนี้อาจจะเป็นสิ่งที่ใช้ต่อกรกับยักษ์เถื่อนและอสูรก็ได้

หลังจากที่ได้รับคำตอบยืนยันจากไนเรลพวกเขาก็แยกกันไปพักผ่อนเนื่องจากพวกเขาไม่ได้มีอาหารอะไรมาด้วยทำให้ทุกคนเลือกที่จะนอนเพราะขอแค่หลับก็ไม่ต้องทนหิว

ในขณะที่ไนเรลนั้นหยิบหัวของซอมบี้แล้วแยกตัวออกไปเพียงลำพัง เขาหายไปไม่นานประมาณ 5 นาทีก็กลับเข้ามาตอนนี้หัวของซอมบี้ได้หายไปแล้วในขณะที่หน้าอกของเขามีใบไม้ใบเล็กงอกออกมาแต่ครั้งนี้มันแตกต่างจากใบอื่น ๆ เพราะสีของมันนั้นเป็นสีทองแต่ใบของมันเล็กมาก

พลังที่เขาได้มาใหม่นี้คือ [คำบัญชาเผ่าพันธุ์ E] เป็นพลังประเภทจิตใจ มันไม่ใช่การควบคุมซอมบี้แต่เป็นการควบคุมมนุษย์ น่าจะเป็นเพราะว่าเขานั้นเป็นมนุษย์ความสามารถจึงมีผลกับแค่มนุษย์ ซึ่งระดับที่ควบคุมได้ต้องเป็นคนที่มีระดับต่ำกว่าเขา มีระดับต่ำเท่าไหร่เขาก็ควบคุมได้มากเท่านั้น

แต่ถ้าใครที่มีความสามารถประเภทพลังจิตใจที่สูงกว่าหรือเท่ากับ E มันก็ไร้ผล เพราะมนุษย์ชั้นสูงพวกนี้นั้นสามารถต้านทานความสามารถในประเภทเดียวกันได้

ในความรู้สึกของเขาพลังความสามารถนี้ยังสามารถพัฒนาขึ้นไปได้อีก ความสามารถแบบนี้ไม่น่าจะมีระดับแค่นี้

“คงต้องกินซอมบี้สติปัญญาที่มีระดับสูงกว่านี้”

ไนเรลพูดออกมาด้วยความหิวกระหาย เขามองว่าซอมบี้พวกนี้ไม่ใช่พวกที่มาจากมนุษย์แต่เป็นคนละเผ่าพันธุ์ไปแล้ว

ถ้าซอมบี้สติปัญญาตัวอื่น ๆ มาเห็นและได้ยินคำพูดของไนเรลพวกมันจะต้องคลุ้มคลั่งและไล่ล่าเขาแน่

มีอย่างที่ไหนอาหารพวกนี้คิดจะหันมากินผู้ล่า ซึ่งนี่ก็คงจะเป็นความคิดของพวกซอมบี้มันอย่างแน่นอน

แต่ถึงมันจะคิดแบบนั้นไนเรลก็บอกไปแค่ว่า ใครเป็นเหยื่อใครก็ต้องรอดูกันไป

ไนเรลหาที่นั่งพักแยกออกมา จากนั้นก็หยิบแก่นพลังงานออกมา นี่คือแก่นพลังงานที่ได้มาจากห้องทดลองของบริษัทพาราซัส

เขาค่อย ๆ กลืนแก่นพลังงานทั้ง 3 ลงไปทันที พลังงานที่อยู่ภายในค่อย ๆ ละลายหลอมรวมเข้ากับเซลล์ในร่างกายของเขา

ระดับพลังงานภายในเซลล์ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ตัวเลขในเครื่องวัดระดับพลังงานในเซลล์ของเขาเพิ่มขึ้นไปหยุดอยู่ที่ 390 หน่วย

ความเหนื่อยล้าที่ได้รับเริ่มหายไปอย่างรวดเร็ว รอยแผลเล็ก ๆ หลายแห่งค่อย ๆ ตกสะเก็ดหายไปอย่างช้า ๆ

ที่คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อพลังงานในเซลล์เพิ่มขึ้น ระดับพลังชีวิตก็จะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน อายุขัยของมนุษย์ชั้นสูงระดับสีขาวนั้นคือ 120 ปี ในขณะที่สีเทาจะมีอายุขัยอยู่ที่ 150 ปี ถ้าเขาเลื่อนไปเป็นระดับสีน้ำตาลระก็เขาจะมีอายุขัยของเซลล์ถึง 200 ปีหรือเท่ากับ 2 ช่วงอายุขัยของคนปกติ ตามทฤษฎีแล้วถ้าพลังงานในเซลล์มากขึ้นก็สามารถที่จะมีชีวิตอมตะได้เลย

นี่คือเหตุผลที่ว่าทุกคนถึงอยากไขว่คว้าในพลัง เพราะคำว่าชีวิตอมตะสำหรับมนุษย์นั้น มันคือสิ่งที่พวกเขาตามหามาทุกยุคทุกสมัยไม่ว่าจะโลกใบไหนก็ตาม

ตอนนี้เขารู้สึกว่าพลังได้กลับมาเติมเต็มเป็นที่เรียบร้อย

แสงของวันใหม่ได้สาดส่องผ่านต้นไม่ที่สูงใหญ่หลายร้อยเมตรลงมาที่ พวกเขาได้เก็บของและออกเดินทางสักพักแล้วแต่คนส่วนใหญ่ก็รู้สึกหิวเป็นอย่างมากจน เนื่องจากยังไม่ได้กินอะไรมาทั้งวัน

ที่สำคัญเขาสอบถามแล้วจึงรู้ว่าทหารกว่าครึ่งที่รอดมานั้นส่วนใหญ่เป็นแค่ทหารใหม่ที่พึ่งรับเข้ามาหลังจากเกิดการระบาดของเชื้อซอมบี้

เนื่องจากทหารแต่ละค่ายลี้ภัยนั้นไม่เพียงพอเพราะทหารจำนวนมากกว่าครึ่งภายในประเทศไทกีล่ากลายเป็นซอมบี้ไปแล้ว

ทหารเก่าส่วนใหญ่จะได้ปรับยศขึ้นไปและแทนที่ด้วยทหารใหม่ ถึงแม้ทหารเหล่านั้นจะไม่ตรงตามคุณสมบัติของยศทหารก็ตาม แต่ทางกองทัพก็ไม่มีทางเลือก

ไนเรลไม่ได้แปลกใจในเรื่องนี้เพราะในชีวิตที่แล้วทางกองทัพก็ใช้วิธีการแบบนี้เช่นกัน

หลังจากที่เดินมาเกือบ 1 ชั่วโมงพวกเขาก็เจอเข้ากับพื้นที่แปลกประหลาดสีขาวที่กว้างกว่า 100 เมตร

“นี่มัน ไข่” ไนเรลกล้มลงไปหยิบมันขึ้นมาทันที ไข่แต่ละใบมีขนาดประมาณกำปั้น

“ไข่….”

“แม่เจ้า มีแต่ไข่เต็มไปหมดเลย”

“ทะเลไข่ ฮ่า ๆ สวรรค์ต้องตอบแทนที่พวกเราฆ่าซอมบี้บัดซบพวกนั้นแน่ ๆ ถึงได้ประทานไข่มามากขนาดนี้”

“เร็วรีบไปเอาพวกมันมาทอด”

ทหารหลายคนรีบวิ่งเขามาหยิบมันไปทันที พวกเขาหิวจนไม่สนใจแล้วว่าไข่เหล่านี้จะเป็นของใครอะไร เพราะอย่างไร ไข่เหล่านี้ก็คงจะไม่ต่างจากไข่ไก่

“เดี๋ยว… ทุกคนอย่างพึ่งไปยุ่งกับไข่พวกนี้”

แต่ในตอนนั้นเองที่ไนเรลห้ามไว้ เขารู้สึกมีลางสังหรณ์ไม่ดีเอามาก ๆ สัญชาตญาณบอกเขาว่าไข่เหล่านี้นั้นอันตรายเป็นอย่างมาก

เจ้าของที่วางไข่พวกนี้นั้นมีอยู่สองพวกคือ พวกที่อาศัยอยู่เป็นฝูงตัวอาจจะไม่ใหญ่ แต่มีจำนวนที่มาก

และสองคือพวกที่ตัวใหญ่มาก ๆ แค่ 1 ท้องก็สามารถวางไข่ได้มากขนาดนี้

แต่ไม่ว่าแบบไหน พวกมันก็ต้องไม่ชอบใจแน่ ๆ ที่ไข่ถูกขโมย

นักล่าบางส่วนรีบวางไข่ลงทันที แต่ก็ยังมีนักล่าและทหารบางคนที่เก็บมันขึ้นมาเพราะพวกเขาคิดว่าไนเรลตื่นตัวไปเอง

ไนเรลรีบใช้ความสามารถ [ตรวจจับความร้อน C] เขามองไปรอบ ๆ แต่ก็ไม่เจอกับอะไร

“แปลกไม่มีอะไรเลย หรือว่าเราคิดไปเอง”

“คุณเจออะไรไหม?” จ่าคูเปอร์เดินเข้ามาหาไนเรล ในขณะที่ทหารส่วนใหญ่ก็เริ่มเก็บไข่กันแล้วพวกเขาอยากที่จะกินมันเต็มที่

“พวกเราต้องออกจากที่นี่ ลางสังหรณ์ของฉันบอกว่ามันไม่ปลอดภัย”

“ไม่ปลอดภัย!!! แค่เพราะลางสังหรณ์งั้นหรือ นายบ้าหรือเปล่า”

“พวกเราหิวจะตายแต่บอกให้ทิ้งไข่พวกนี้และออกไปงั้นหรือ”

ในตอนนั้นเองที่ทหารคนหนึ่งเดินเข้ามา

เมื่อก่อนขาเป็นอันธพาลแต่เพราะไม่มีทางเลือกจึงเข้าร่วมกองทัพ ตอนนี้เขาเบื่อที่จะต้องฟังคำสั่งของพวกทหารเก่าพวกนั้น โดยเฉพาะเจ้าคูเปอร์ที่เมื่อก่อนก็เป็นพลทหารแบบเดียวกับพวกเขาแต่เพียงเพราะมันเข้าร่วมกองทัพมาก่อนจึงได้รับการปรับเลื่อนยศให้เป็นจ่าในขณะที่เขาต้องเป็นพลทหารต่อไป

ทหารอันธพาลคนนั้นพูดออกมาไม่เกรงกลัวไนเรลแม้แต่น้อยเพราะคิดว่าตนเองนั้นเป็นทหารจึงจะทำอะไรก็ได้

“หืม……” ไนเรลหันไปหรี่ตาลงมองไปที่ทหารคนนั้น

“ถ้าเจ้าอยากกินก็กินไป พวกเราไปกันเถอะ” ไนเรลเดินออกไป เขาไม่อยากลดตัวไปคุยกับคนแบบนี้

“เดี่ยวสิเฮ้ย ไอ้ลูกสุนัข” ทหารอันธพาลกำลังจะเรียกไนเรล แต่เขาโดนตบเข้าไป

เพี๊ยะ!

ไนเรลตบไปโดยที่ใช้ความสามารถพละกำลัง ร่างของทหารคนนั้นถึงกับกระเด็นตามแรงตบไปหล่นทับลงไปที่รองไข่สีขาวจนพวกมันแตกเลอะ ไปทั้งตัวของทหารอันธพาล

“แก…” ทหารอันธพาลชี้ปากกระบอกปืนไปที่ไนเรลด้วยความเจ็บปวด

“หยุด นายคิดจะทำอะไร? อยากขึ้นศาลทหารงั้นหรือ” จ่าคูเปอร์พยายามเข้าไปห้ามทหารอันธพาล

“อย่าคิดว่าเป็นทหารแล้ว จะไม่กล้าฆ่า” เขาพูออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

“เสียงคำราม!!!!!!!!!!!!!!!!!”

ในตอนนั้นเองที่อยู่ ๆ ก็มีเสียงคำรามดังออกมาจากพุ่มไม้ด้านข้าง แค่หัวที่มันโผล่ออกมาก็เลยยอดไม้ไปแล้ว

ทุกคนถึงกับถอยหลังทันทีด้วยความกลัว ร่างกายของมันนั่นยาวถึง 20 เมตร

“นั้นมันจิ้งจกหางหอกกลายพันธุ์ รีบหนีออกไปเร็ว” ไนเรลรีบถอยออกมาทันที เอวาและนักล่าคนอื่น ๆ ก็เช่นกันพวกเขาตอบสนองได้ไว้กว่าทหารหลายคนที่กำลังเก็บไข่อยู่มาก

จ่าคูเปอร์เองก็ได้ไนเรลช่วยไว้โดยเขาถูกไนเรลดึงออกมา

ปึก! ปึก! ปึก! ปึก!

ทันทีที่เขาถอยออกมาพ้นระยะของทหารอันธพาล หอกกระดูกก็ถูกสลัดออกมาจากห่างของเจ้าจิ้งจกหางหอกกลายพันธุ์ขั้น 4 อย่างรวดเร็ว

หอกปักทะลุร่างของทหารอันธพาลตายไป ทหารหลายคนที่หลบไม่ทันก็โดนหอกกระดูกแทงทะลุไปเช่นกัน

“นี่มัน…นี่มัน”

“หนีเร็วที่มันสัตว์ประหลาดกลายพันธุ์”

พวกไนเรลนั้นวิ่งไปไกลแล้วใครจะไปสู้กับสัตว์กลายพันระดับ 4 กัน แม้แต่ซอมบี้สติปัญญาขั้น 3 ก็คงต้องคิดแล้วคิดอีกอย่างแน่นอน

จิ้งจกกลายพันธุ์หลังจากที่สลัดหอกกระดูกออกจากหางของมันแล้ว หอกกระดูกที่หางของมันก็งอกออกมาใหม่ได้อย่างน่าอัศจรรย์

ที่คือการวิวัฒนาการของมัน เปลี่ยนจากหางที่สลัดทิ้งเพื่อหลบหนี กลายเป็นอาวุธหอกกระดูกที่น่ากลัว

มันมองไปที่สิ่งมีชีวิตที่วิ่งสองขาและมองไปที่ไข่ที่ตอนนี้แตกไปหลายฟองและยังมีบางส่วนที่ถูกขโมยไปอีก

“คำราม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”

มันร้องคำรามด้วยความโกรธ และตามตัวขโมยไข่ไปทันที

“บัดซบใครที่เอาไข่มันมาทิ้งไปเร็ว” ไนเรลที่เห็นมันวิ่งตามมาเขาก็รีบตะโกนบอกทันที

แต่ไม่ทันเสียแล้วเพราะหนึ่งในทหารถูกจิ้งจกหางหอกกลายพันธุ์กินทั้งเป็นลงไป

“เพราะเจ้าจิ้งจกพวกนี้มันกำลังจะแก้แค้นฉัน”

ทหารสื่อสารคนนั้นที่วิ่งช้าที่สุดเพราะที่หลังของเขามีเครื่องมือสื่อสารมาด้วย เขาสะดุดล้มลงและพยายามหนีตายอย่างสุดชีวิต

“อย่า ๆ อย่ากินฉัน ฉันจะไม่ฆ่าจิ้งจกอีกแล้ว…อ๊ากกกก”

ถึงจะเป็นแบบนั้นจิ้งจกหางหอกกลายพันธุ์ก็ไม่ได้สนใจและกินเขาลงไปทันทีในคำเดียว

“แย่แล้วทหารสื่อสารโดนกินไปแล้ว เครื่องระบุตำแหน่งก็โดนกินเข้าไปด้วย”

“ช่างเครื่องระบุตำแหน่งไปก่อน หนีเอาตัวรอดก่อน”

ตูม!!!!

แต่แล้วในตอนนั้นเองที่เสียงดังมาจากอีกทางของป่า มันคือจิ้งจกหางหอกกลายพันธุ์อีกตัวที่วิ่งเข้ามาด้วยความรวดเร็ว

“บัดซบ นั่นมันอีกตัว”

“มันมีตัวเมียก็ต้องมีตัวผู้ ซวยแล้วไง”

ไนเรล และพวกวิ่งสุดชีวิตหนีจิ้งจกหางหอกกลายพันธุ์ขั้นที่ 4 ทั้งสองตัว เขาต้องรีบหาทางหนีพวกมันให้ได้ไม่งั้นได้เป็นอาหารเช้าของจิ้งจกพวกนี้แน่

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+