re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง 94 กับดัก

Now you are reading re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง Chapter 94 กับดัก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย re zombie World โลกซอมบี้อีกครั้ง

ตอนที่ 94 กับดัก

ตอนที่ 94 กับดัก

ในเรลและเนโคเข้ามานั่งพักที่ด้านในอย่างเงียบ ๆ พร้อมกับที่จัดการกินดองดินที่เนโคล่ามา

หลังจากที่กินไปสักพักจนกระทั่งมีแรงขึ้นมาบ้างแล้ว ในเรลก็ถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งเนโคก็เล่าอย่างเงียบ ๆ

ในเรลถามแซ์กบ้างเป็นบางครั้งโดยเฉพาะเรื่องของพวกตาเดียว ชารอนและคนอื่น ๆ แต่ดูเหมือนเนโคก็ไม่รู้เพราะตัวของเนโคก็รีบออกมาจนไม่ได้นึกถึงเช่นกัน

เมื่อได้ยินสิ่งที่เนโคบอกไนเรลก็เงียบไป แต่ในใจเขารู้ว่าตาเดียวและกลุ่มโนเนทน่าจะยังไม่ตาย ที่เขาเชื่อแบบนั้นก็เป็นเพราะว่าตาเดียวและชารอนในชาติก่อนเป็นถึงคนที่มีอิทธิพลและทรงพลังมาก ทั้งสองไม่น่าจะมาตายง่าย ๆ แบบนี้

แต่ถึงกระนั้นในเรลก็ไม่ได้มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะขนาดเลฟอนยังโดนเขาฆ่าตายได้เลย

ตอนนี้ตั้งแต่ที่เขาย้อนกับมามันก็เปลี่ยนบางสิ่งไปเรื่อย ๆ จนเขาเชื่อว่าอนาคตไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว แต่มันยังไม่เค้าโครงเดิมอยู่บ้างก็เป็นไปได้

ดังนั้นในเรลคิดว่าจะย้อนกลับไปหาคนอื่น ๆ เพราะถึงอย่างไร เขาก็เสียผลลึกลับถึง 9 ผลไป ซึ่งผลคริสตัลวิวัฒนาการ ประเภทลึกลับนั้นมีค่าเกินไป อย่างน้อยถ้าพวกเขาตายไปแล้วไนเรลก็อยากจะยืนยันด้วยตาตนเอง

แต่เมื่อเนโคได้ยินที่ในเรลพูดเขาก็ได้แต่สายหัวและกล่าวออกมาในทันทีว่า “ปู่จะไม่ได้ไปด้วย หลานควรที่จะกลับไปที่เมืองย่อย ส่วนเราทั้งสองควรแยกกันตรงนี้”

“ปู่หมายความว่าไง?”

“ปู่กลับไปด้วยมันอันตรายเกินไป ครั้งนี้พวกมันส่งมาถึงสามมนุษย์ชั้นสูง ระดับสีเขียว ครั้งหน้าพวกมันต้องส่งมามากกว่านี้แน่นอน อีกอย่างรัฐบาลไทกีล่าไม่ได้แข็งแกร่งอีกแล้ว พวกเขาไม่มีปัญญาหยุดพวกพาราซัสและจีนาสได้อย่างแน่นอน ดังนั้นปู่จะไปจัดการกับพวกมันเองและต้องรู้แผนการของพวกมันให้ได้ว่าเป้าหมายที่แท้จริงคืออะไรกันแน่” เนโคพูดออกมาด้วยสีหน้าเข้มข็งขณะที่หยิบผืนใส่ไฟที่กาลังจะมอดดับลง

ในเรลมองไปที่เปลวไปจากนั้นก็แบมือออกมา เปลวไฟบางส่วนก็ลอยมาอยู่เหนือมือของเขา ไนเรลมองไฟที่อยู่ในมือจากนั้นก็คิดตามที่ปู่กล่าว ซึ่งมันก็จริงถ้าปู่กลับไปกับเขานั้นมันก็มีแต่จะทําให้ทุกคนอันตราย

เมื่อคิดได้ดังนั้นในเรลก็ได้แต่พยักหน้ารับ ว่ารู้แล้วอย่างเงียบ ๆ

เช้าวันต่อมาหลังจากที่เนโคเช็คสภาพของตัวเองว่าไม่เป็นอะไรมากแล้ว เขาก็ถือโอกาสหยิบดาบหนักกระดูกไป ดูเหมือนเนโคจะชอบดาบทั้งสองมากและไม่คิดคืนไนเรล ซึ่งในเรลก็ไม่ได้พูดอะไร

แต่เขาหยิบผลคริสตัลวิวัฒนาการที่เหลืออีก 16 ผลออกมาให้กับเนโค และโลหิตแห่งชีวิตอีกหนึ่งขาดที่ได้เมื่อวานพร้อมกับบอกถึงวิธีใช้มัน พอเนโคได้ยินดังนั้นก็ยิ่งถามและกําชับเขาให้ระวังตัวมากขึ้นกับเรื่องนี้ หลังจากนั้นเนโคก็ออกเดินทางไปในทันที

หลังจากเนโคออกไปแล้วในเรลก็หามุมที่มีแสงส่องลงมาและใช้ความสามารถ [โลหิตแห่งชีวิต Al สร้างโลหิตแห่งชีวิตออกมาได้อีกจํานวนหนึ่งแต่ทั้งหมดนั้นก็ถูกในเรลจัดการกินลงไปในทันที

ในเรลลองขยับร่างกายตามส่วนต่าง ๆ ดูเพื่อเช็คว่ายังมีอาการบาดเจ็บตรงไหนอีก ซึ่งอาการบาดเจ็บส่วนใหญ่ก็หายไปมากแล้ว

จะเหลือก็แต่รอยแผลที่ลึกมา ๆ เท่านั้น แต่มันก็คงอีกแค่วันสองวันเท่านั้นน่าจะฟื้นสภาพกับมาได้เต็มร้อย

ในเรลที่ตอนนี้เสียผ้าคลุมที่สร้างมาจากหนังหมีอัคคีขั้น 4 ไปในตอนที่เกิดระเบิด เขาจึงหยิบไปในเงาแล้วเอาหนังหนูกลายพันธุ์ที่เคยลอกเอามาเป็นผ้าคลุมแบ่งกับตาเดียวและคนอื่น ๆ ที่เมืองออสธาตอนที่จัดการพาทุกคนหนีมา

ถึงเขาจะรู้สึกเสียดายหนังหมีอัคคีขั้น 4 ผืนนั้นอยู่บ้างแต่ก็ไม่มากนัก เพราะถ้าไม่ได้มันที่ช่วยกันแรงและความร้อนที่ผ่านต้นไม้ใหญ่เข้ามาที่ตัวเขาตอนเกิดตอนระเบิดละก็ บางทีในเรลอาจจะบาดเจ็บหนักกว่านี้มากนัก

เมื่อคิดถึงเรื่องที่สลบไปในเรลก็ได้แต่คิดว่าครั้งนี้เขาไม่ได้เห็นภาพแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นมาเหมือนกับตอนที่เขาสลบไปครั้งที่ต่อสู้กับซอมบี้ที่ประตูตะวันออก

ไนเรลเดินออกมาท่ามกลางสายฝนและมุ่งหน้ากับไปที่คฤหาสน์ตระกูลอาโรเดีย แต่ในระหว่างการเดินทางเขาก็ระวังตัวมากกว่าเดิม เพื่อไม่ทิ้งร่องรอยไว้

เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ที่ยักษ์เถื่อนพวกนั้นสะกดรอยตามล่าเขาได้ ซึ่งในเรลก็ไม่รู้เช่นกันว่าพวกมันทําได้อย่างไร

จะว่าใช้สัตว์ก็ไม่น่าจะใช่เพราะไม่เห็นพวกมันจะมีสัตว์อะไรติดตัวมาเลย “ไม่สิ! มีอยู่หมาป่ายักษ์นั้น” แต่ในเรลก็รีบทิ้งความคิดนี้ไปในทันทีเพราะว่ามันไม่น่าเป็นไปได้ ด้วยระยะทางที่ไกลขนาดนั้นอีกอย่างหมาป่ายักษ์กับเขาก็ไม่เคยเจอกันมาก่อน มันไม่น่าจะดมหรือจากลิ่นเขาได้

ถึงอย่างงั้นในเรลก็กล้มลงไปดมตัวเองสองสามที่ซึ่งมันก็มีกลิ่นตัวเล็กน้อยที่เกิดจากการอับชื้น

แต่มันก็ถือว่าปกติเพราะด้วยสายฝนที่ตกลงมาใครบ้างที่จะไม่มีกลิ่นอับชื้นตามตัว

ในเรลมองหาทิศทางสักพักจากนั้นก็มุ่งหน้าออกไปต่อ

หลังจากนั้น 3 ชั่วโมงให้หลังในผืนป่าที่มีสายฝนตกลงมาหนักมากกว่าตอนเช้าเล็กน้อยก็มีตะขาบที่ดูเหมือนจะหนีน้ําตามพื้นขึ้นมาจากพื้นดิน มันคือตะขาบขั้น 2 ตัว ไม่ใหญ่มากนัก แต่ก่อนที่มันจะได้ทําอะไรก็โดนนกขนาดยักษ์ที่มีลักษณะเหมือนกับนกกระจอกเทศจิกกินในทันที

มันคือไก่ป่ากลายพันธุ์ขั้น 3 ซึ่งเป็นตัวผู้ที่มีหงอนและจงอยปากที่ยาวและแข็งแรง มันกําลังคุมตัวเมียอยู่อีกหลาย ๆ ตัวหลบหาอาหารอยู่ตามพุ่มไม้

ในขณะที่มันพึ่งจะกินตะขาบตัวเล็กนั้นไป พอมันเงยหน้าขึ้นมาก็ต้องตกใจที่เห็นว่ามีมนุษย์สูงพอ ๆ กับมันยืนอยู่ข้างหน้ามัน แต่แล้วก็ที่มันจะได้ส่งเสียงร้องก็โดนมนุษย์คนนั้นบีบคอแน่นจนไม่มีเสียงร้องออกมาได้แต่ชักดิ้นชักงออยู่ในมือคู่นั้น

และมนุษย์คนนั้นนี้ก็คือในเรลนั้นเอง เนื่องจากเขาต้องเติมเต็มพลังงานที่เสียไปให้กับร่างกายในระหว่างทางไนเรลจะต้องออกล่าสัตว์กลายพันธุ์เพื่อกินพวกมัน แต่เขาก็เลือกตัวไม่ใหญ่มากนัก เพราะว่ายิงสัตว์ใหญ่มากเท่าไหร่พลังงานในเนื้อก็จะมีน้อยลงไป

ท่าให้เขาเขาต้องกินเนื้อเยอะขึ้น ในเรลไม่ได้มีเวลามากขนาดนั้น
ซึ่งนั้นก็ทําให้เจ้าไก่ผู้โชครายตัวนี้ต้องมาจบลงเป็นไก่ย่างให้เขาซึ้งกินในป่า หลัง จากจัดการหักคอไก่ตัวผู้แล้วไนเรลก็ไม่ยอมให้ตัวเมียตัวอื่น ๆ หนีไปอย่างแน่นอน

และไก่ทั้งฝูงนี้ที่มีอยู่ประมาณ 10 ตัวก็โดนไนเรลจัดการฆ่าทั้งหมด

ในขณะที่เขาเก็บไก่ตัวเมียอยู่นั้นก็โชคดีเจอไข่ไก่ป่ากลายพันธุ์ที่มีขนาดเท่าลูกฟุตบอลอยู่ประมา 12 ฟอง และมันก็เป็นเหมือนเช่นปกติไนเรลไม่มีทางทิ้งมันอย่างแน่นอน

หลังจากนั้นซึ่งถ้านับตามเวลามันก็คือเวลาเที่ยงและดังนั้นในเรลจึงหาที่หลบฝน ตามผาและก็จัดการต้มไข่กิน ส่วนวิธีการนั้นไนเรลก็แค่ตัดไม้แถวนั้นและใช้ความสามารถ [เพลิง A] ของตนในการต้ม

หลังจากนั้นในเรลก็จัดการกินไข่พวกนี้ไป ซึ่งไข่แต่ละฟองนั้นก็ให้พลังงานสูงมาก มันก็ไม่แปลกเพราะในไข่นั้นเต็มไปด้วยสารอาหารจากแม่ไก่ที่อัดลงไปในไข่เพื่อเป็นพลังงานให้กับลูกเจี๊ยบ

ในเรลจัดการกินมันไปหมดทั้ง 12 ฟองซึ่งมันก็ไม่สามารถสร้างใบไม้ความสามารถใหม่ให้กับเขา

พักหลัง ๆ มานี้ในเรลเริ่มสั่งเกตแล้วว่าความสามารถที่จะได้มานั้นเริ่มยากขึ้นมาก เรื่อย ๆ มันเหมือนว่าความสามารถจากสิ่งมีชีวิตขั้นต่ํากว่านั้นดูดซับได้ยากขึ้น

“คงต้องกินพวกระดับสูง ๆ สินะ” ในเรลได้แต่ถึงวิธีการนี้เท่านั้น หลังจากจัดการกับไข่ไป 12 ฟองไนเรลก็ยังไม่อิ่ม แต่เขาก็เลือกที่จะเดินทางต่อ ช่วงหลังจากนั้นไนเรลก็ฆ่าสัตว์กลายพันธุ์ไปอีกสี่ถึงห้าตัว

และก็มีอยู่ตัวหนึ่งที่ไนเรลถึงกับตื่นเต้นเล็กน้อย ถ้าเขาได้ความสามารถมันมานั้นก็คือ ผีเสื้อมายามันมีอยู่ไม่กี่ตัวที่เกาะอยู่ตามต้นไม้ ผงที่ปีกของมันมีฤทธิ์ในการกล่อมประสาท แต่ก็อีกตามเคยไนเรลฆ่าได้ไม่กี่ตัว ตัวอื่น ๆ ก็บินหนีหมด

พอจะกินพวกมันนั้นก็ไม่มีความสามารถที่ดูดซับเป็นใบไม่ได้สําเร็จ ในเรลใจหนึ่งก็ยังคงอยากจะตามล่าพวกมันต่อ แต่คิดว่ามันอาจจะไม่คุ้มค่า เพราะถ้ความสามารถที่ได้มาไม่ใช่ ฤทธิ์ในการกล่อมประสาทอะไรแบบนั้น แล้วได้ความสามารถบินมาแทน

เขาก็คงจะไม่ได้ใช้มัน เพราะมีความสามารถอย่างปีกแห่งความตายอยู่แล้ว แต่มันก็ยังมีอีกเหตุผลเพราะมันไม่เท่ เขาคงไม่ได้อยากเป็นนางฟ้าตัวน้อยมีปีกผีเสื้ออยู่ด้านหลังมันคงพิลึกน่าดู

ในเรลขณะที่เขาเดินต่อ และไม่ได้เลือกที่จะบินนั้นก็คงเป็นเพราะไม่อยากโดนฟ้าผ่าตาย

เบี้ยง!!!!

พอพูดถึงฟ้าเสียงฟ้าร้องก็มาในทันที พร้อมกับฟ้าที่ผ่าที่ผีเสื้อบางส่วนซึ่งมันก็ได้ แต่ตายกลายเป็นเถ้าถ่าน ในเรลได้แต่คิดว่าถ้าเขาโดนไปสักดอกมันจะตายหรือไม่ ในเรได้แต่คิด แต่ไนเรลก็ไม่ได้คิดอยากจะลองแต่อย่างไร

ในเรลเดินไปอีกสักพักตามสายฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง และอีกไม่นานเขาก็คงจะมาถึงที่เมืองออสธาแถวแนวชายป่าเหนือสุด

แต่แล้วด้วยประสบการณ์ของไนเรลเขาก็รู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง ที่นี่มันเงียบเกินไป

ต่อให้มีฝนตกแล้วบอกว่าสัตว์กลายพันธุ์พากันหลบฝนจนหมดพวกมันเลยไม่ส่งเสียง แต่มันก็ยังแปลกอยู่ดี

ในเรลเดินมาเรื่อย ๆ เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ามีบางสิ่งก่าลังจ้องมองเขาอยู่

และในจังหวะนั้นเองที่อยู่ ๆ ก็มีบางสิ่งโจมตีเขามาจากด้านหลัง ในเรลไม่รอช้า รีบหลบการโจมตีนั้นและส่วนกับไปด้วย [นิ้วเหล็กในพิษ A] เข้าไปที่คนที่รอบโจมตีเขาถึง 3 ครั้งติดกัน พร้อมกับถอยห่างออกมาจากจุดนั้นออกไปไกลกว่า 10 เมตร

แต่แล้วมันก็ไม่จบแค่นั้น ในเรลก็ต้องตกใจอีกเพราะ เพราะดูเหมือนเขาจะหลังกล เข้าแล้วเงาร่างขนาดใหญ่ที่โผล่มาที่ด้านหลังมันล็อคไนเรลไว้แน่นจนขยับไปไหนไม่
ได้

ขณะที่เขาใช้แรงทั้งหมดอยู่ ๆ ก็มีศรดําขนาดเล็กยิงตึงไปที่แขนขาทั้งสี่ของเขา

“อ๊ากกก!!!” ไนเรลร้องออกมาพร้อมกับกระโดดเข้าไปในเงาที่แล้วเขาก็โดนแรงมหาศาลลากออกมาจากเงา

อีกทั้งยังมีการโจมตีที่รุนแรงมากเข้ามาที่ขมับของเขาอย่างรวดเร็ว มันต้องไม่ใช่การโจมตีจากพวกระดับต่ําแน่นอน

ซึ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้นมันเร็วมากเพียงแค่เสี้ยววินาทีที่หลบการโจมตีแรกได้ ก็โดนการโจมตีที่สองและสามต่อทันที

ซึ่งไม่ต้องคิดก็รู้ว่าเขาโดนดักซุ่มโจมตีเข้าให้แล้ว อีกทั้งมันยังไม่ใช่คนที่มีพลังอ่อนแอเลย

ไนเรลที่ตาลายเล็กน้อยมองไปที่เงาร่างยักษ์ที่เต็มไปด้วยบาดแผลแค่ออร่าที่ออกมาจากร่างนั้นเขาก็จาได้ในทันที แต่แล้วมันก็ไม่ได้มีร่างเดียวเพราะคนที่โจมตีเขาเป็นอีกคน แต่ยังไม่ทันพูดอะไรไนเรลก็โดนเข้าไปอีกหนึ่งหมัดจนภาพตรงหน้านั้นตัดไปในทันที

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง 94 กับดัก

Now you are reading re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง Chapter 94 กับดัก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย re zombie World โลกซอมบี้อีกครั้ง

ตอนที่ 94 กับดัก

ตอนที่ 94 กับดัก

ในเรลและเนโคเข้ามานั่งพักที่ด้านในอย่างเงียบ ๆ พร้อมกับที่จัดการกินดองดินที่เนโคล่ามา

หลังจากที่กินไปสักพักจนกระทั่งมีแรงขึ้นมาบ้างแล้ว ในเรลก็ถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งเนโคก็เล่าอย่างเงียบ ๆ

ในเรลถามแซ์กบ้างเป็นบางครั้งโดยเฉพาะเรื่องของพวกตาเดียว ชารอนและคนอื่น ๆ แต่ดูเหมือนเนโคก็ไม่รู้เพราะตัวของเนโคก็รีบออกมาจนไม่ได้นึกถึงเช่นกัน

เมื่อได้ยินสิ่งที่เนโคบอกไนเรลก็เงียบไป แต่ในใจเขารู้ว่าตาเดียวและกลุ่มโนเนทน่าจะยังไม่ตาย ที่เขาเชื่อแบบนั้นก็เป็นเพราะว่าตาเดียวและชารอนในชาติก่อนเป็นถึงคนที่มีอิทธิพลและทรงพลังมาก ทั้งสองไม่น่าจะมาตายง่าย ๆ แบบนี้

แต่ถึงกระนั้นในเรลก็ไม่ได้มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะขนาดเลฟอนยังโดนเขาฆ่าตายได้เลย

ตอนนี้ตั้งแต่ที่เขาย้อนกับมามันก็เปลี่ยนบางสิ่งไปเรื่อย ๆ จนเขาเชื่อว่าอนาคตไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว แต่มันยังไม่เค้าโครงเดิมอยู่บ้างก็เป็นไปได้

ดังนั้นในเรลคิดว่าจะย้อนกลับไปหาคนอื่น ๆ เพราะถึงอย่างไร เขาก็เสียผลลึกลับถึง 9 ผลไป ซึ่งผลคริสตัลวิวัฒนาการ ประเภทลึกลับนั้นมีค่าเกินไป อย่างน้อยถ้าพวกเขาตายไปแล้วไนเรลก็อยากจะยืนยันด้วยตาตนเอง

แต่เมื่อเนโคได้ยินที่ในเรลพูดเขาก็ได้แต่สายหัวและกล่าวออกมาในทันทีว่า “ปู่จะไม่ได้ไปด้วย หลานควรที่จะกลับไปที่เมืองย่อย ส่วนเราทั้งสองควรแยกกันตรงนี้”

“ปู่หมายความว่าไง?”

“ปู่กลับไปด้วยมันอันตรายเกินไป ครั้งนี้พวกมันส่งมาถึงสามมนุษย์ชั้นสูง ระดับสีเขียว ครั้งหน้าพวกมันต้องส่งมามากกว่านี้แน่นอน อีกอย่างรัฐบาลไทกีล่าไม่ได้แข็งแกร่งอีกแล้ว พวกเขาไม่มีปัญญาหยุดพวกพาราซัสและจีนาสได้อย่างแน่นอน ดังนั้นปู่จะไปจัดการกับพวกมันเองและต้องรู้แผนการของพวกมันให้ได้ว่าเป้าหมายที่แท้จริงคืออะไรกันแน่” เนโคพูดออกมาด้วยสีหน้าเข้มข็งขณะที่หยิบผืนใส่ไฟที่กาลังจะมอดดับลง

ในเรลมองไปที่เปลวไปจากนั้นก็แบมือออกมา เปลวไฟบางส่วนก็ลอยมาอยู่เหนือมือของเขา ไนเรลมองไฟที่อยู่ในมือจากนั้นก็คิดตามที่ปู่กล่าว ซึ่งมันก็จริงถ้าปู่กลับไปกับเขานั้นมันก็มีแต่จะทําให้ทุกคนอันตราย

เมื่อคิดได้ดังนั้นในเรลก็ได้แต่พยักหน้ารับ ว่ารู้แล้วอย่างเงียบ ๆ

เช้าวันต่อมาหลังจากที่เนโคเช็คสภาพของตัวเองว่าไม่เป็นอะไรมากแล้ว เขาก็ถือโอกาสหยิบดาบหนักกระดูกไป ดูเหมือนเนโคจะชอบดาบทั้งสองมากและไม่คิดคืนไนเรล ซึ่งในเรลก็ไม่ได้พูดอะไร

แต่เขาหยิบผลคริสตัลวิวัฒนาการที่เหลืออีก 16 ผลออกมาให้กับเนโค และโลหิตแห่งชีวิตอีกหนึ่งขาดที่ได้เมื่อวานพร้อมกับบอกถึงวิธีใช้มัน พอเนโคได้ยินดังนั้นก็ยิ่งถามและกําชับเขาให้ระวังตัวมากขึ้นกับเรื่องนี้ หลังจากนั้นเนโคก็ออกเดินทางไปในทันที

หลังจากเนโคออกไปแล้วในเรลก็หามุมที่มีแสงส่องลงมาและใช้ความสามารถ [โลหิตแห่งชีวิต Al สร้างโลหิตแห่งชีวิตออกมาได้อีกจํานวนหนึ่งแต่ทั้งหมดนั้นก็ถูกในเรลจัดการกินลงไปในทันที

ในเรลลองขยับร่างกายตามส่วนต่าง ๆ ดูเพื่อเช็คว่ายังมีอาการบาดเจ็บตรงไหนอีก ซึ่งอาการบาดเจ็บส่วนใหญ่ก็หายไปมากแล้ว

จะเหลือก็แต่รอยแผลที่ลึกมา ๆ เท่านั้น แต่มันก็คงอีกแค่วันสองวันเท่านั้นน่าจะฟื้นสภาพกับมาได้เต็มร้อย

ในเรลที่ตอนนี้เสียผ้าคลุมที่สร้างมาจากหนังหมีอัคคีขั้น 4 ไปในตอนที่เกิดระเบิด เขาจึงหยิบไปในเงาแล้วเอาหนังหนูกลายพันธุ์ที่เคยลอกเอามาเป็นผ้าคลุมแบ่งกับตาเดียวและคนอื่น ๆ ที่เมืองออสธาตอนที่จัดการพาทุกคนหนีมา

ถึงเขาจะรู้สึกเสียดายหนังหมีอัคคีขั้น 4 ผืนนั้นอยู่บ้างแต่ก็ไม่มากนัก เพราะถ้าไม่ได้มันที่ช่วยกันแรงและความร้อนที่ผ่านต้นไม้ใหญ่เข้ามาที่ตัวเขาตอนเกิดตอนระเบิดละก็ บางทีในเรลอาจจะบาดเจ็บหนักกว่านี้มากนัก

เมื่อคิดถึงเรื่องที่สลบไปในเรลก็ได้แต่คิดว่าครั้งนี้เขาไม่ได้เห็นภาพแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นมาเหมือนกับตอนที่เขาสลบไปครั้งที่ต่อสู้กับซอมบี้ที่ประตูตะวันออก

ไนเรลเดินออกมาท่ามกลางสายฝนและมุ่งหน้ากับไปที่คฤหาสน์ตระกูลอาโรเดีย แต่ในระหว่างการเดินทางเขาก็ระวังตัวมากกว่าเดิม เพื่อไม่ทิ้งร่องรอยไว้

เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ที่ยักษ์เถื่อนพวกนั้นสะกดรอยตามล่าเขาได้ ซึ่งในเรลก็ไม่รู้เช่นกันว่าพวกมันทําได้อย่างไร

จะว่าใช้สัตว์ก็ไม่น่าจะใช่เพราะไม่เห็นพวกมันจะมีสัตว์อะไรติดตัวมาเลย “ไม่สิ! มีอยู่หมาป่ายักษ์นั้น” แต่ในเรลก็รีบทิ้งความคิดนี้ไปในทันทีเพราะว่ามันไม่น่าเป็นไปได้ ด้วยระยะทางที่ไกลขนาดนั้นอีกอย่างหมาป่ายักษ์กับเขาก็ไม่เคยเจอกันมาก่อน มันไม่น่าจะดมหรือจากลิ่นเขาได้

ถึงอย่างงั้นในเรลก็กล้มลงไปดมตัวเองสองสามที่ซึ่งมันก็มีกลิ่นตัวเล็กน้อยที่เกิดจากการอับชื้น

แต่มันก็ถือว่าปกติเพราะด้วยสายฝนที่ตกลงมาใครบ้างที่จะไม่มีกลิ่นอับชื้นตามตัว

ในเรลมองหาทิศทางสักพักจากนั้นก็มุ่งหน้าออกไปต่อ

หลังจากนั้น 3 ชั่วโมงให้หลังในผืนป่าที่มีสายฝนตกลงมาหนักมากกว่าตอนเช้าเล็กน้อยก็มีตะขาบที่ดูเหมือนจะหนีน้ําตามพื้นขึ้นมาจากพื้นดิน มันคือตะขาบขั้น 2 ตัว ไม่ใหญ่มากนัก แต่ก่อนที่มันจะได้ทําอะไรก็โดนนกขนาดยักษ์ที่มีลักษณะเหมือนกับนกกระจอกเทศจิกกินในทันที

มันคือไก่ป่ากลายพันธุ์ขั้น 3 ซึ่งเป็นตัวผู้ที่มีหงอนและจงอยปากที่ยาวและแข็งแรง มันกําลังคุมตัวเมียอยู่อีกหลาย ๆ ตัวหลบหาอาหารอยู่ตามพุ่มไม้

ในขณะที่มันพึ่งจะกินตะขาบตัวเล็กนั้นไป พอมันเงยหน้าขึ้นมาก็ต้องตกใจที่เห็นว่ามีมนุษย์สูงพอ ๆ กับมันยืนอยู่ข้างหน้ามัน แต่แล้วก็ที่มันจะได้ส่งเสียงร้องก็โดนมนุษย์คนนั้นบีบคอแน่นจนไม่มีเสียงร้องออกมาได้แต่ชักดิ้นชักงออยู่ในมือคู่นั้น

และมนุษย์คนนั้นนี้ก็คือในเรลนั้นเอง เนื่องจากเขาต้องเติมเต็มพลังงานที่เสียไปให้กับร่างกายในระหว่างทางไนเรลจะต้องออกล่าสัตว์กลายพันธุ์เพื่อกินพวกมัน แต่เขาก็เลือกตัวไม่ใหญ่มากนัก เพราะว่ายิงสัตว์ใหญ่มากเท่าไหร่พลังงานในเนื้อก็จะมีน้อยลงไป

ท่าให้เขาเขาต้องกินเนื้อเยอะขึ้น ในเรลไม่ได้มีเวลามากขนาดนั้น
ซึ่งนั้นก็ทําให้เจ้าไก่ผู้โชครายตัวนี้ต้องมาจบลงเป็นไก่ย่างให้เขาซึ้งกินในป่า หลัง จากจัดการหักคอไก่ตัวผู้แล้วไนเรลก็ไม่ยอมให้ตัวเมียตัวอื่น ๆ หนีไปอย่างแน่นอน

และไก่ทั้งฝูงนี้ที่มีอยู่ประมาณ 10 ตัวก็โดนไนเรลจัดการฆ่าทั้งหมด

ในขณะที่เขาเก็บไก่ตัวเมียอยู่นั้นก็โชคดีเจอไข่ไก่ป่ากลายพันธุ์ที่มีขนาดเท่าลูกฟุตบอลอยู่ประมา 12 ฟอง และมันก็เป็นเหมือนเช่นปกติไนเรลไม่มีทางทิ้งมันอย่างแน่นอน

หลังจากนั้นซึ่งถ้านับตามเวลามันก็คือเวลาเที่ยงและดังนั้นในเรลจึงหาที่หลบฝน ตามผาและก็จัดการต้มไข่กิน ส่วนวิธีการนั้นไนเรลก็แค่ตัดไม้แถวนั้นและใช้ความสามารถ [เพลิง A] ของตนในการต้ม

หลังจากนั้นในเรลก็จัดการกินไข่พวกนี้ไป ซึ่งไข่แต่ละฟองนั้นก็ให้พลังงานสูงมาก มันก็ไม่แปลกเพราะในไข่นั้นเต็มไปด้วยสารอาหารจากแม่ไก่ที่อัดลงไปในไข่เพื่อเป็นพลังงานให้กับลูกเจี๊ยบ

ในเรลจัดการกินมันไปหมดทั้ง 12 ฟองซึ่งมันก็ไม่สามารถสร้างใบไม้ความสามารถใหม่ให้กับเขา

พักหลัง ๆ มานี้ในเรลเริ่มสั่งเกตแล้วว่าความสามารถที่จะได้มานั้นเริ่มยากขึ้นมาก เรื่อย ๆ มันเหมือนว่าความสามารถจากสิ่งมีชีวิตขั้นต่ํากว่านั้นดูดซับได้ยากขึ้น

“คงต้องกินพวกระดับสูง ๆ สินะ” ในเรลได้แต่ถึงวิธีการนี้เท่านั้น หลังจากจัดการกับไข่ไป 12 ฟองไนเรลก็ยังไม่อิ่ม แต่เขาก็เลือกที่จะเดินทางต่อ ช่วงหลังจากนั้นไนเรลก็ฆ่าสัตว์กลายพันธุ์ไปอีกสี่ถึงห้าตัว

และก็มีอยู่ตัวหนึ่งที่ไนเรลถึงกับตื่นเต้นเล็กน้อย ถ้าเขาได้ความสามารถมันมานั้นก็คือ ผีเสื้อมายามันมีอยู่ไม่กี่ตัวที่เกาะอยู่ตามต้นไม้ ผงที่ปีกของมันมีฤทธิ์ในการกล่อมประสาท แต่ก็อีกตามเคยไนเรลฆ่าได้ไม่กี่ตัว ตัวอื่น ๆ ก็บินหนีหมด

พอจะกินพวกมันนั้นก็ไม่มีความสามารถที่ดูดซับเป็นใบไม่ได้สําเร็จ ในเรลใจหนึ่งก็ยังคงอยากจะตามล่าพวกมันต่อ แต่คิดว่ามันอาจจะไม่คุ้มค่า เพราะถ้ความสามารถที่ได้มาไม่ใช่ ฤทธิ์ในการกล่อมประสาทอะไรแบบนั้น แล้วได้ความสามารถบินมาแทน

เขาก็คงจะไม่ได้ใช้มัน เพราะมีความสามารถอย่างปีกแห่งความตายอยู่แล้ว แต่มันก็ยังมีอีกเหตุผลเพราะมันไม่เท่ เขาคงไม่ได้อยากเป็นนางฟ้าตัวน้อยมีปีกผีเสื้ออยู่ด้านหลังมันคงพิลึกน่าดู

ในเรลขณะที่เขาเดินต่อ และไม่ได้เลือกที่จะบินนั้นก็คงเป็นเพราะไม่อยากโดนฟ้าผ่าตาย

เบี้ยง!!!!

พอพูดถึงฟ้าเสียงฟ้าร้องก็มาในทันที พร้อมกับฟ้าที่ผ่าที่ผีเสื้อบางส่วนซึ่งมันก็ได้ แต่ตายกลายเป็นเถ้าถ่าน ในเรลได้แต่คิดว่าถ้าเขาโดนไปสักดอกมันจะตายหรือไม่ ในเรได้แต่คิด แต่ไนเรลก็ไม่ได้คิดอยากจะลองแต่อย่างไร

ในเรลเดินไปอีกสักพักตามสายฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง และอีกไม่นานเขาก็คงจะมาถึงที่เมืองออสธาแถวแนวชายป่าเหนือสุด

แต่แล้วด้วยประสบการณ์ของไนเรลเขาก็รู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง ที่นี่มันเงียบเกินไป

ต่อให้มีฝนตกแล้วบอกว่าสัตว์กลายพันธุ์พากันหลบฝนจนหมดพวกมันเลยไม่ส่งเสียง แต่มันก็ยังแปลกอยู่ดี

ในเรลเดินมาเรื่อย ๆ เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ามีบางสิ่งก่าลังจ้องมองเขาอยู่

และในจังหวะนั้นเองที่อยู่ ๆ ก็มีบางสิ่งโจมตีเขามาจากด้านหลัง ในเรลไม่รอช้า รีบหลบการโจมตีนั้นและส่วนกับไปด้วย [นิ้วเหล็กในพิษ A] เข้าไปที่คนที่รอบโจมตีเขาถึง 3 ครั้งติดกัน พร้อมกับถอยห่างออกมาจากจุดนั้นออกไปไกลกว่า 10 เมตร

แต่แล้วมันก็ไม่จบแค่นั้น ในเรลก็ต้องตกใจอีกเพราะ เพราะดูเหมือนเขาจะหลังกล เข้าแล้วเงาร่างขนาดใหญ่ที่โผล่มาที่ด้านหลังมันล็อคไนเรลไว้แน่นจนขยับไปไหนไม่
ได้

ขณะที่เขาใช้แรงทั้งหมดอยู่ ๆ ก็มีศรดําขนาดเล็กยิงตึงไปที่แขนขาทั้งสี่ของเขา

“อ๊ากกก!!!” ไนเรลร้องออกมาพร้อมกับกระโดดเข้าไปในเงาที่แล้วเขาก็โดนแรงมหาศาลลากออกมาจากเงา

อีกทั้งยังมีการโจมตีที่รุนแรงมากเข้ามาที่ขมับของเขาอย่างรวดเร็ว มันต้องไม่ใช่การโจมตีจากพวกระดับต่ําแน่นอน

ซึ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้นมันเร็วมากเพียงแค่เสี้ยววินาทีที่หลบการโจมตีแรกได้ ก็โดนการโจมตีที่สองและสามต่อทันที

ซึ่งไม่ต้องคิดก็รู้ว่าเขาโดนดักซุ่มโจมตีเข้าให้แล้ว อีกทั้งมันยังไม่ใช่คนที่มีพลังอ่อนแอเลย

ไนเรลที่ตาลายเล็กน้อยมองไปที่เงาร่างยักษ์ที่เต็มไปด้วยบาดแผลแค่ออร่าที่ออกมาจากร่างนั้นเขาก็จาได้ในทันที แต่แล้วมันก็ไม่ได้มีร่างเดียวเพราะคนที่โจมตีเขาเป็นอีกคน แต่ยังไม่ทันพูดอะไรไนเรลก็โดนเข้าไปอีกหนึ่งหมัดจนภาพตรงหน้านั้นตัดไปในทันที

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+