re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง 96 ทาสเหมือง (ภาค 3 โลกใต้พิภพ)

Now you are reading re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง Chapter 96 ทาสเหมือง (ภาค 3 โลกใต้พิภพ) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย re Zombie World โลกซอมบี้อีกครั้ง

ตอนที่ 96 ทาสเหมือง (ภาค 3 โลกใต้พิภพ)

ในเรลที่ลงมาจนแม้แต่แสงก็ส่งลงมาแทบจะไม่ถึง อากาศโดยรอบหายใจได้ยาก ลำบากพอสมควรที่มันก็ยังคงเพียงพอให้มนุษย์อย่างพวกเขาหายใจได้

ที่ด้านล่างนั้นไม่ได้มีแค่ในเรลที่เป็นมนุษย์ผู้เดียว กลับมีทาสมนุษย์อยู่อีกหลายคน ซึ่งดูเหมือนว่าจะมีทั้งมนุษย์ธรรมดาและมนุษย์ชั้นสูงอยู่ในนั้นนี้ด้วย แต่ส่วนใหญ่ร่างกายของพวกเขานั้นผอมแห้งพอสมควร

ไนเรลมองไปที่พื้นด้านล่างแล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อมันมีซากของมนุษย์และโครงกระดูกอยู่ตุบ!

แจ่แล้วก็มีเสียงที่เป็นคําตอบให้กับเขาว่าทําไมถึงมีโครงกระดูกมนุษย์ นั้นก็เป็นเพราะว่ามีคนร่วงลงมาจากด้านบน คนที่หล่นลงมานั้นก็เนื่องมาจากว่าพวกเขาพัดตกลงมาจากตอนที่เดินลงมา

แต่มันก็ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะด้วยระยะความสูงขนาดนั้น บวกกับฝนที่ตกลงมาทําให้พื้นมันลื่น ถ้าเกิดใครไม่ระวังก็จะมีจุดจบแบบกระดูกพวกนี้ที่มากองอยู่ด้านล่าง

ในขณะที่มีคนร่วงลงมาทหารยักษ์เถื่อนตนหนึ่งก็เดินไปและกระทืบไปที่หัวของศพคนที่ร่วงลงมา เหตุที่ต้องทําแบบนี้ก็เพื่อไม่ให้มันกลายเป็นซอมบี้หลังจากนั้น ทหารยักษ์เถื่อนผู้นั้นก็เดินไปล้างเท้าที่ทางน้ําไหล

ซึ่งน้ําเหล่านี้ก็ไหลไปตามไหล่หินลงสู่ธารน้ําใต้พิภพ ในเรลรออยู่สักพักก็มียักษ์เถื่อนที่มาพากรงที่ขังเขาไปแต่เมื่อพวกมันเห็นสภาพ ในเรลก็ได้แต่ยิ้มเหยียด ๆ บางตนก็พูดออกมาว่าไนเรลนั้นน่าจะอยู่รอดไม่กี่วันเท่านั้น

ซึ่งก็ไม่แปลกเพราะสภาพที่นอนเป็นผักของไนเรลในตอนนี้

ในเรลถูกแบกออกไปจากตรงนี้ทั้งกรง โดยมีพวกของทาสมนุษย์นับร้อยเดินตาม มาด้านหลังเมื่อเข้ามาในที่มืดมาก ๆ พวกยักษ์เถื่อนก็เอาของรูปร่างแปลกตาออกมาถ้าให้อธิบายมันก็คงจะคล้าย ๆ กับตะเกียงไฟ แต่มันกลมมากกว่าภายในบรรจุไว้ด้วยลาวาที่ร้อนมาก

ซึ่งในเรลก็พอจะรู้ชื่อมันอยู่บ้าง มันก็คือบอลแสงลาวา เพราะในชีวิตก่อนมักจะพบเจอในซากศพของยักษ์เถื่อน มันถือว่าเป็นเทคโนโลยีของยักษ์เถื่อนอย่างแท้จริง เพราะด้วยความที่พวกมันถูกกักขังมานานไม่รู้กี่หมื่นปีการที่จะสร้างของแบบนี้ขึ้นมาก็ไม่แปลกสักเท่าไหร่

ด้วยความที่อุโมงนั้นมืดมากพอสมควรจึงทําให้ทุกคนต้องเดินระวัง ในเรลเองก็รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย และคอยมองสํารวจรอบ ๆ โดยอาศัยแสงจากบอลแสงลาวาเช่น กันเพราะนี้ก็เป็นครั้งแรกที่เขาได้มาที่โลกใต้พิภพ

ยักษ์เถื่อนที่ทั้งในเรลและกรงที่ด้านในมีเสาโลหะพิภพได้ยินความคิดของไนเรลที่ ตื่นเต้นราวกับมาเที่ยวที่ใหม่ พวกมันคงจะซัดหน้าไนเรลคนละหมัดสองหมัดเป็นแน่ อีกทั้งด่าในเรลไปว่า “ถูกจับตัวมาอีกทั้งยังมีสภาพแบบนี้แล้วยังมีอารมณ์มาชื่นชมธรรมชาติอยู่อีก”

แต่แน่นอนว่าพวกมันนั้นไม่สามารถได้ยินความคิดในเรลได้
เมื่อเหล่ายักษ์เถื่อนแบกไนเรลที่โดนตอกติดไปกับเสาโลหะพิภพผ่านถ้ําและ อุโมงค์ไปจํานวนมาก ก็มาถึงทางแยกที่สลับซับซ้อน

หลังจากนั้นทั้งในเรลและเหล่าทาสมนุษย์ก็ถูกนําตัวเข้าไปทางอุโมงค์หนึ่ง ซึ่งใน เรลคาดการตามเวลาแล้วพวกเขาน่าจะลงมาลึกมาก ๆ แล้ว แต่กลับแปลกพอสมควร ที่มันยังคงมีอากาศใช้ในการหายใจ

แต่พอผ่านอุโมงค์นี้ไปไนเรลก็เข้าใจได้ว่าเพราะอะไรถึงยังคงมีอากาศให้หายใจ ด้านหน้าที่เขาเห็นนี้หลังจากผ่านเข้ามามันมีต้นไม้จํานวนมาก ซึ่งเป็นพืชอีกระบบนิเวศหนึ่งเลยก็ว่าได้ พวกมันปลดปล่อยออกซิเจนออกมา และอีกทั้งยังฟอกอากาศที่มีแต่กามะถันและแก๊สพิษที่เกิดมาจากภูเขาไฟและลาวาใต้พิภพซึ่งนั้นทําให้สัตว์อื่น ๆ ยังสามารถอยู่อาศัยได้

นอกจากต้นไม้พวกนี้แล้วมันก็มีพวกแมลงและแบททีเรียบางชนิดที่มีแสงสว่างปล่อยออกมา แต่ต่อให้มันจะน่าตื่นตาตื่นใจแค่ไหนมันก็ไม่ต่างจากคุกใต้ดิน นั้นคงทําให้พวกยักษ์เถื่อนหรือเทพไททันถึงอยากย้ายไปด้านบนและปกครองโลกอีกครั้ง

ในขณะที่ยักษ์เถื่อนนําเขาเดินเข้าไปเรื่อย ๆ ก็เจอเข้ากับสถานที่เป็นเหมือนกับคุกขนาดใหญ่ ๆ มันถูกสร้างขึ้นมาจากหินและโลหะที่ทนทานและแข็งแกร่งมาก

ในเรลถูกจับขังแยกไว้ ส่วนทาสมนุษย์คนอื่น ๆ นั้นได้รับการตรวจสอบอยู่สักพักก็ถูกนําตัวไปที่อื่น ๆ ในเรลได้ยินแวว ๆ ว่าพวกทาสเหล่านั้นจะถูกพาไปเป็นทาสเหมือง

ในขณะเดียวกันที่พระราชวังเหนือภูเขาไฟ ราชาเผ่าอัคคีที่ได้รับรู้ว่ามนุษย์ผู้ฆ่าเลฟอนนั้นถูกจับตัวได้แล้วก็กล่าวออกมาด้วยสีหน้าที่เงียบขึ้น

“ฆ่ามันทิ้งซะและฆ่าเผ่ามนุษย์เพื่อสังเวยให้กับวิญญาณของเลฟอนอีกหนึ่งล้านคน”

“ขอรับ” อัศวินยักษ์เถื่อนตนนั้นกล่าวออกมาพร้อมกับเดินถอยออกไป หลังจากนั้น ก็ออกไปจากเมืองแห่งนี้ข้ามผ่านกําแพงชั้นในสุดไปและมาหยุดอยู่ที่กําแพงชั้นกลางที่เป็นเหมือนกับม่านแสงซึ่งกักขังไม่ให้ระดับ 5 เป็นต้นไปออกมาได้

และในตอนนั้นเองก็มียักษ์ชราที่ร่วมมือกับอุคาจับไนเรลเดินออกมาหยุดขวางทางต่อหน้าอัศวินตนนั้น

“ท่านจะทําแบบนี้จริง ๆ งั้นหรือขัดคาสั่งขององค์ราชา” อัศวินยักษ์เถื่อนตนนี้กล่าวออกด้วยสีหน้าที่วิตกกังวล

“ข้าคือข้ารับใช้ขององค์ชายใหญ่ ย่อมทําตามคําสั่งขององค์ชายใหญ่ ส่วนเจ้าคาเดลเจ้าก็แค่ทําเป็นไม่รู้ไม่เห็นก็ได้อย่างไรซะองค์ราชาท่านก็ไม่สามารถรู้ได้ถ้าไม่มีคนไปรายงาน” ยักษ์ชรากล่าวออกมาด้วยสีหน้าที่สงบ

อัศวินคาเดลที่ได้รับค่าสั่งของราชาเผ่าอัคคีมานั้นก็นิ่งเงียบไป เขารู้สึกลังเลเพราะตนไม่ต้องเข้าไปขัดขวางเรื่องขององค์ชายใหญ่

“ข้าจะเคารพการคําพูดขององค์ชายใหญ่ เรื่องของมนุษย์ผู้นั้นก็ให้ท่านจัดการก็แล้วกัน แต่มนุษย์อีกล้านคนคงต้องจัดการตามคําสั่งองค์ราชาเหมือนเดิม แต่ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาข้าจะปฏิเสธไม่เห็นใด ๆ ทั้งสิ้นองค์ชายใหญ่ต้องไปกล่าวต่อหน้าฝ่าบาทด้วยตัวของพระองค์เอง”

“เรื่องนั้นองค์ชายใหญ่ไม่ได้สนใจอยู่แล้ว”

หลังจากพูดคุยอยู่สักพักอัศวินคาเดลหันหลังกลับไป

“พวกเจ้าไปจัดการก็แล้วกัน” ยักษ์ชราพูดออกมาพร้อมกับเดินไป ด้านหลังของเขามีสองยักษเถื่อนที่เดินออกมาจากที่ซ่อน และเดินตรงไปด้านนอกของม่านแสงกำแพงชั้นกลางไปเงียบๆ

สองวันต่อมาในความมืดที่ถูกขังอยู่ ถ้าไม่ได้เป็นเพราะว่าในเรลเป็นมนุษย์ชั้นสูงละก็คงจะหิวตายไปแล้ว เพราะในช่วงที่ผ่านมามันไม่มีอะไรตกถึงท้อเลยแม้แต่น้อยนอกจากจะมีน้ําที่หยดลงมาจากด้านบนห้องขังพอให้เขาได้ดับกระหายบ้าง

แต่ถึงแบบนั้นพลังงานที่อยู่ในร่างกายก็ถูกใช้ไปมากเช่นกัน ถ้ายังคงเป็นแบบนี้ต่อไปบางที่แม้แต่พลังหรือความสามารถของมนุษย์ชั้นสูงเขาก็อาจจะให้ไม่ได้ เพราะไม่มีพลังงานที่เพียงพอต่อการใช้ความสามารถเหล่านั้น

และหลังจากที่ทนรอมานานในที่สุดก็มียักษ์เถื่อนเดินเข้ามา ในเรลไม่รู้ว่าพวกมันจะเอาเขาไปขังไว้ที่ไหน เพราะถ้าพวกมันต้องการฆ่าเขาก็คงฆ่าไปนานแล้ว ไม่น่าจะจับมาขังแบบนี้

ทหารยักษเถื่อนกลับพาในเรลมาส่งที่เหมือง ซึ่งไม่ต้องเดาในเรลก็รู้ว่าตอนนี้เขาคงถูกตัดสินให้มาเป็นทาสเหมืองแห่งนี้

ไนเรลถูกพาเข้ามารวมกับทาสมนุษย์ในเหมือง แต่แน่นอนว่าในตอนแรกพวกยักษ์เถื่อนเห็นในเรลก็ต้องแปลกใจ

“มนุษย์คนนนี้ถูกจับเพราะฆ่าเผ่าของพวกเราไปจํานวนมาก เอานี่กุญแจกับสิ่งของ ๆ มันฝากเอาเข้าไปเก็บด้วย เอ้อแล้วก็นักโทษนั้นฝากดูแลมันดี ๆ ละระวังพลังของมันไว้ด้วย” ยักษ์เถื่อนที่พาในเรลมาที่เหมืองแห่งนี้ ส่งเข็มทิศชีพและกุญแจที่ให้ปลดโซ่และเสาโลหะที่เขาถูกล่าม ให้กับหัวหน้าผู้คุมพร้อมกับกําชับไปสองสามประโยคซึ่งดูเหมือนว่าผู้คุมยักษ์ ขั้น 4 ตนนี้ก็ไม่ค่อยชอบเรื่องยุ่งยากแบบนี้มากนักจึงรับปากไปส่ง ๆ อย่างไม่ใส่ใจจากนั้นก็หันไปสั่งการยักษ์เถื่อนแถวนั้นเพื่อให้รับหน้าที่นี่ต่อ

ยักษ์เถื่อนขั้น 3 เห็น ทหารยักษ์เถื่อนที่คุมทาสมนุษย์มาส่งกําลังกับออกไปก็รู้สึกอิจฉาเล็กน้อย เพราะยักษ์เถื่อนพวกนี้ได้ออกไปข้างนอก ออกไปจากโลกใต้พิภพซึ่งต่างจากตนที่ต้องมาคอยจับมนุษย์ตัวเหม็นโยนลงไปในหลุม ต้องคอยรับแลกแร่ที่ พวกทาสขุดได้มา

ซึ่งมันเป็นงานที่น่าเบื่อมาก จนยักษ์เถื่อนตนนี้อยากจะส่งเรื่องขอไปประจําการที่อื่นให้มันรู้แล้วรู้รอดไปแต่ก็ต้องเซ็งเพราะเมื่อคิดว่าอย่างไรเรื่องที่ตนขอก็คงไม่สําเร็จเพราะคงไม่มียักษ์ตนไหนขอมาประจําการในที่แบบนี้อแน่นอน

ยักเลื่อนขั้น 3 หลังจากที่บนในใจเสร็จแล้วก็มาจัดการเรื่องของไนเรล แต่ว่าเมื่อเห็นสภาพของในเรลที่โดนตัดเอ็นแขนขาจนหมดมันก็ยิ่งเซ็งเข้าไปใหญ่ เพราะนี่มัน เหมือนกับการที่เอาคนตายก็ไม่ผิด

“เจ้าคงเจ็บสักหน่อยนะ” ในเรลเงยหน้ามองยักเถื่อนที่กําลังพูดกับเขาอยู่จากนั้นยักษ์ตนนั้นก็หยิบเหล็กร้อน ๆ ทาบไปที่แขนของไนเรล จนมันเกิดรอยแผลซึ่งเป็นสัญลักษณ์ทาส

ทาสทุกคนจะถูกทําสัญลักษณ์ด้วยเหล็กร้อน ที่เขียนด้วยภาษาของเทพไททันว่า “ทาสเหมืองทมิฬ” หลังจากนั้นทุกคนก็ถูกพาตัวไปอีกทางซึ่งเป็นทางลงไปที่เหมือง

ในเรลถูกพามาทิ้งไว้อยู่เหนือกรงเหล็กที่ปิดอยู่ตรงพื้น ด้านล่างมีหมอกและกลุ่มควันหนาแน่นและบริเวณโดยรอบไม่ได้มีแค่เขาคนเดียว แต่ยังมีทาสมนุษย์หลายร้อยคนที่ยืนเบียดกันอยู่เหนือกรงเหล็ก

ก๊ก ๆ!!! ในขณะนั้นเองที่อยู่ ๆ กรงเหล็กก็ค่อย ๆ เลื่อนออกจากตรงกลาง ทาสมนุษย์ถึงกับถอยหนีออกจากตรงนั้นทันที แต่เพราะว่ายักษ์เถื่อนที่อยู่โดยรอบนั้นต่างพากันผลักทาสมนุษย์ลงไปในหลุม

“ไม่ ได้โปรด” เสียงร้องขอความเมตตาจากมนุษย์ก็พากันดังมาอย่างต่อเนื่องแต่ส่วนใหญ่นั้นก็ถูกถีบลงไปอยู่ดี

และไม่นานมนุษย์นับร้อยถูกโยนลงไปรวมถึงในเรลด้วย จากนั้นเหล่ายักษ์ผู้คุมโยนลูกบอลลาวาลงมาประมาณ 100 ลูกและปิดปากหลุมด้วยลูกกรงเหล็กขนาดยักษ์เหมือนเช่นที่ทํามาตลอด

ในขณะนั้นเองที่ยักษ์เถื่อนตนที่พาในเรลว่าที่หลุมก็ดูเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ เมื่อมองไปที่กุญแจที่อยู่ในมือนั้นก็คือ มันดันลืมไขกุญแจให้กับในเรลเพื่อเอาเสา และโซ่ออก แต่ตอนนี้มันก็ไม่ทันแล้ว เพราะไนเรลร่วงหล่นลงไปแล้ว

อีกอย่างปากหลุมทางเข้าก็ปิดไปแล้ว จะเปิดอีกที่ก็ตอนที่แลกเอาแร่โลหะในอีกหนึ่งอาทิตย์ เมื่อถึงตอนนั้นด้วยสภาพแบบไนเรลก็คงตายไปแล้ว

และถ้าให้ตนมาเปิดหลุมเพราะมนุษย์นั้นเพียงคนเดียวก็คงไม่ใช่เหตุ มันจะเสียเวลาเกินไป

“เฮ้ย ไคยืนทําอะไรอยู่ พวกข้ารอนานแล้วนะ” ขณะที่มันยืนคิดอยู่นั้นก็มีเสียงของยักษ์เถื่อนตนอื่น ๆ ดังมา

“งั้นก็ช่างมันเถอะ” เมื่อคิดได้ดังนั้นยักษ์เถื่อนที่ชื่อ ไค ตนนี้ก็เดินออกไปอย่างสบายใจ พร้อมกับเก็บกุญแจและเข็มทิศชีพไปด้วย มันเดินไปกับเหล่าเพื่อน ๆ ยักษ์ผู้คุมของตนเพื่อไปหาอะไรกินอย่างรีบร้อน

เนื่องจากว่าวันนี้เป็นเวลาที่เสบียงของเหมืองทมิฬนี้จะมาส่งให้พอดีซึ่งถ้าไปชมหวังของดี ๆ คงถูกแย่งไปกินหมด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง 96 ทาสเหมือง (ภาค 3 โลกใต้พิภพ)

Now you are reading re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง Chapter 96 ทาสเหมือง (ภาค 3 โลกใต้พิภพ) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย re Zombie World โลกซอมบี้อีกครั้ง

ตอนที่ 96 ทาสเหมือง (ภาค 3 โลกใต้พิภพ)

ในเรลที่ลงมาจนแม้แต่แสงก็ส่งลงมาแทบจะไม่ถึง อากาศโดยรอบหายใจได้ยาก ลำบากพอสมควรที่มันก็ยังคงเพียงพอให้มนุษย์อย่างพวกเขาหายใจได้

ที่ด้านล่างนั้นไม่ได้มีแค่ในเรลที่เป็นมนุษย์ผู้เดียว กลับมีทาสมนุษย์อยู่อีกหลายคน ซึ่งดูเหมือนว่าจะมีทั้งมนุษย์ธรรมดาและมนุษย์ชั้นสูงอยู่ในนั้นนี้ด้วย แต่ส่วนใหญ่ร่างกายของพวกเขานั้นผอมแห้งพอสมควร

ไนเรลมองไปที่พื้นด้านล่างแล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อมันมีซากของมนุษย์และโครงกระดูกอยู่ตุบ!

แจ่แล้วก็มีเสียงที่เป็นคําตอบให้กับเขาว่าทําไมถึงมีโครงกระดูกมนุษย์ นั้นก็เป็นเพราะว่ามีคนร่วงลงมาจากด้านบน คนที่หล่นลงมานั้นก็เนื่องมาจากว่าพวกเขาพัดตกลงมาจากตอนที่เดินลงมา

แต่มันก็ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะด้วยระยะความสูงขนาดนั้น บวกกับฝนที่ตกลงมาทําให้พื้นมันลื่น ถ้าเกิดใครไม่ระวังก็จะมีจุดจบแบบกระดูกพวกนี้ที่มากองอยู่ด้านล่าง

ในขณะที่มีคนร่วงลงมาทหารยักษ์เถื่อนตนหนึ่งก็เดินไปและกระทืบไปที่หัวของศพคนที่ร่วงลงมา เหตุที่ต้องทําแบบนี้ก็เพื่อไม่ให้มันกลายเป็นซอมบี้หลังจากนั้น ทหารยักษ์เถื่อนผู้นั้นก็เดินไปล้างเท้าที่ทางน้ําไหล

ซึ่งน้ําเหล่านี้ก็ไหลไปตามไหล่หินลงสู่ธารน้ําใต้พิภพ ในเรลรออยู่สักพักก็มียักษ์เถื่อนที่มาพากรงที่ขังเขาไปแต่เมื่อพวกมันเห็นสภาพ ในเรลก็ได้แต่ยิ้มเหยียด ๆ บางตนก็พูดออกมาว่าไนเรลนั้นน่าจะอยู่รอดไม่กี่วันเท่านั้น

ซึ่งก็ไม่แปลกเพราะสภาพที่นอนเป็นผักของไนเรลในตอนนี้

ในเรลถูกแบกออกไปจากตรงนี้ทั้งกรง โดยมีพวกของทาสมนุษย์นับร้อยเดินตาม มาด้านหลังเมื่อเข้ามาในที่มืดมาก ๆ พวกยักษ์เถื่อนก็เอาของรูปร่างแปลกตาออกมาถ้าให้อธิบายมันก็คงจะคล้าย ๆ กับตะเกียงไฟ แต่มันกลมมากกว่าภายในบรรจุไว้ด้วยลาวาที่ร้อนมาก

ซึ่งในเรลก็พอจะรู้ชื่อมันอยู่บ้าง มันก็คือบอลแสงลาวา เพราะในชีวิตก่อนมักจะพบเจอในซากศพของยักษ์เถื่อน มันถือว่าเป็นเทคโนโลยีของยักษ์เถื่อนอย่างแท้จริง เพราะด้วยความที่พวกมันถูกกักขังมานานไม่รู้กี่หมื่นปีการที่จะสร้างของแบบนี้ขึ้นมาก็ไม่แปลกสักเท่าไหร่

ด้วยความที่อุโมงนั้นมืดมากพอสมควรจึงทําให้ทุกคนต้องเดินระวัง ในเรลเองก็รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย และคอยมองสํารวจรอบ ๆ โดยอาศัยแสงจากบอลแสงลาวาเช่น กันเพราะนี้ก็เป็นครั้งแรกที่เขาได้มาที่โลกใต้พิภพ

ยักษ์เถื่อนที่ทั้งในเรลและกรงที่ด้านในมีเสาโลหะพิภพได้ยินความคิดของไนเรลที่ ตื่นเต้นราวกับมาเที่ยวที่ใหม่ พวกมันคงจะซัดหน้าไนเรลคนละหมัดสองหมัดเป็นแน่ อีกทั้งด่าในเรลไปว่า “ถูกจับตัวมาอีกทั้งยังมีสภาพแบบนี้แล้วยังมีอารมณ์มาชื่นชมธรรมชาติอยู่อีก”

แต่แน่นอนว่าพวกมันนั้นไม่สามารถได้ยินความคิดในเรลได้
เมื่อเหล่ายักษ์เถื่อนแบกไนเรลที่โดนตอกติดไปกับเสาโลหะพิภพผ่านถ้ําและ อุโมงค์ไปจํานวนมาก ก็มาถึงทางแยกที่สลับซับซ้อน

หลังจากนั้นทั้งในเรลและเหล่าทาสมนุษย์ก็ถูกนําตัวเข้าไปทางอุโมงค์หนึ่ง ซึ่งใน เรลคาดการตามเวลาแล้วพวกเขาน่าจะลงมาลึกมาก ๆ แล้ว แต่กลับแปลกพอสมควร ที่มันยังคงมีอากาศใช้ในการหายใจ

แต่พอผ่านอุโมงค์นี้ไปไนเรลก็เข้าใจได้ว่าเพราะอะไรถึงยังคงมีอากาศให้หายใจ ด้านหน้าที่เขาเห็นนี้หลังจากผ่านเข้ามามันมีต้นไม้จํานวนมาก ซึ่งเป็นพืชอีกระบบนิเวศหนึ่งเลยก็ว่าได้ พวกมันปลดปล่อยออกซิเจนออกมา และอีกทั้งยังฟอกอากาศที่มีแต่กามะถันและแก๊สพิษที่เกิดมาจากภูเขาไฟและลาวาใต้พิภพซึ่งนั้นทําให้สัตว์อื่น ๆ ยังสามารถอยู่อาศัยได้

นอกจากต้นไม้พวกนี้แล้วมันก็มีพวกแมลงและแบททีเรียบางชนิดที่มีแสงสว่างปล่อยออกมา แต่ต่อให้มันจะน่าตื่นตาตื่นใจแค่ไหนมันก็ไม่ต่างจากคุกใต้ดิน นั้นคงทําให้พวกยักษ์เถื่อนหรือเทพไททันถึงอยากย้ายไปด้านบนและปกครองโลกอีกครั้ง

ในขณะที่ยักษ์เถื่อนนําเขาเดินเข้าไปเรื่อย ๆ ก็เจอเข้ากับสถานที่เป็นเหมือนกับคุกขนาดใหญ่ ๆ มันถูกสร้างขึ้นมาจากหินและโลหะที่ทนทานและแข็งแกร่งมาก

ในเรลถูกจับขังแยกไว้ ส่วนทาสมนุษย์คนอื่น ๆ นั้นได้รับการตรวจสอบอยู่สักพักก็ถูกนําตัวไปที่อื่น ๆ ในเรลได้ยินแวว ๆ ว่าพวกทาสเหล่านั้นจะถูกพาไปเป็นทาสเหมือง

ในขณะเดียวกันที่พระราชวังเหนือภูเขาไฟ ราชาเผ่าอัคคีที่ได้รับรู้ว่ามนุษย์ผู้ฆ่าเลฟอนนั้นถูกจับตัวได้แล้วก็กล่าวออกมาด้วยสีหน้าที่เงียบขึ้น

“ฆ่ามันทิ้งซะและฆ่าเผ่ามนุษย์เพื่อสังเวยให้กับวิญญาณของเลฟอนอีกหนึ่งล้านคน”

“ขอรับ” อัศวินยักษ์เถื่อนตนนั้นกล่าวออกมาพร้อมกับเดินถอยออกไป หลังจากนั้น ก็ออกไปจากเมืองแห่งนี้ข้ามผ่านกําแพงชั้นในสุดไปและมาหยุดอยู่ที่กําแพงชั้นกลางที่เป็นเหมือนกับม่านแสงซึ่งกักขังไม่ให้ระดับ 5 เป็นต้นไปออกมาได้

และในตอนนั้นเองก็มียักษ์ชราที่ร่วมมือกับอุคาจับไนเรลเดินออกมาหยุดขวางทางต่อหน้าอัศวินตนนั้น

“ท่านจะทําแบบนี้จริง ๆ งั้นหรือขัดคาสั่งขององค์ราชา” อัศวินยักษ์เถื่อนตนนี้กล่าวออกด้วยสีหน้าที่วิตกกังวล

“ข้าคือข้ารับใช้ขององค์ชายใหญ่ ย่อมทําตามคําสั่งขององค์ชายใหญ่ ส่วนเจ้าคาเดลเจ้าก็แค่ทําเป็นไม่รู้ไม่เห็นก็ได้อย่างไรซะองค์ราชาท่านก็ไม่สามารถรู้ได้ถ้าไม่มีคนไปรายงาน” ยักษ์ชรากล่าวออกมาด้วยสีหน้าที่สงบ

อัศวินคาเดลที่ได้รับค่าสั่งของราชาเผ่าอัคคีมานั้นก็นิ่งเงียบไป เขารู้สึกลังเลเพราะตนไม่ต้องเข้าไปขัดขวางเรื่องขององค์ชายใหญ่

“ข้าจะเคารพการคําพูดขององค์ชายใหญ่ เรื่องของมนุษย์ผู้นั้นก็ให้ท่านจัดการก็แล้วกัน แต่มนุษย์อีกล้านคนคงต้องจัดการตามคําสั่งองค์ราชาเหมือนเดิม แต่ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาข้าจะปฏิเสธไม่เห็นใด ๆ ทั้งสิ้นองค์ชายใหญ่ต้องไปกล่าวต่อหน้าฝ่าบาทด้วยตัวของพระองค์เอง”

“เรื่องนั้นองค์ชายใหญ่ไม่ได้สนใจอยู่แล้ว”

หลังจากพูดคุยอยู่สักพักอัศวินคาเดลหันหลังกลับไป

“พวกเจ้าไปจัดการก็แล้วกัน” ยักษ์ชราพูดออกมาพร้อมกับเดินไป ด้านหลังของเขามีสองยักษเถื่อนที่เดินออกมาจากที่ซ่อน และเดินตรงไปด้านนอกของม่านแสงกำแพงชั้นกลางไปเงียบๆ

สองวันต่อมาในความมืดที่ถูกขังอยู่ ถ้าไม่ได้เป็นเพราะว่าในเรลเป็นมนุษย์ชั้นสูงละก็คงจะหิวตายไปแล้ว เพราะในช่วงที่ผ่านมามันไม่มีอะไรตกถึงท้อเลยแม้แต่น้อยนอกจากจะมีน้ําที่หยดลงมาจากด้านบนห้องขังพอให้เขาได้ดับกระหายบ้าง

แต่ถึงแบบนั้นพลังงานที่อยู่ในร่างกายก็ถูกใช้ไปมากเช่นกัน ถ้ายังคงเป็นแบบนี้ต่อไปบางที่แม้แต่พลังหรือความสามารถของมนุษย์ชั้นสูงเขาก็อาจจะให้ไม่ได้ เพราะไม่มีพลังงานที่เพียงพอต่อการใช้ความสามารถเหล่านั้น

และหลังจากที่ทนรอมานานในที่สุดก็มียักษ์เถื่อนเดินเข้ามา ในเรลไม่รู้ว่าพวกมันจะเอาเขาไปขังไว้ที่ไหน เพราะถ้าพวกมันต้องการฆ่าเขาก็คงฆ่าไปนานแล้ว ไม่น่าจะจับมาขังแบบนี้

ทหารยักษเถื่อนกลับพาในเรลมาส่งที่เหมือง ซึ่งไม่ต้องเดาในเรลก็รู้ว่าตอนนี้เขาคงถูกตัดสินให้มาเป็นทาสเหมืองแห่งนี้

ไนเรลถูกพาเข้ามารวมกับทาสมนุษย์ในเหมือง แต่แน่นอนว่าในตอนแรกพวกยักษ์เถื่อนเห็นในเรลก็ต้องแปลกใจ

“มนุษย์คนนนี้ถูกจับเพราะฆ่าเผ่าของพวกเราไปจํานวนมาก เอานี่กุญแจกับสิ่งของ ๆ มันฝากเอาเข้าไปเก็บด้วย เอ้อแล้วก็นักโทษนั้นฝากดูแลมันดี ๆ ละระวังพลังของมันไว้ด้วย” ยักษ์เถื่อนที่พาในเรลมาที่เหมืองแห่งนี้ ส่งเข็มทิศชีพและกุญแจที่ให้ปลดโซ่และเสาโลหะที่เขาถูกล่าม ให้กับหัวหน้าผู้คุมพร้อมกับกําชับไปสองสามประโยคซึ่งดูเหมือนว่าผู้คุมยักษ์ ขั้น 4 ตนนี้ก็ไม่ค่อยชอบเรื่องยุ่งยากแบบนี้มากนักจึงรับปากไปส่ง ๆ อย่างไม่ใส่ใจจากนั้นก็หันไปสั่งการยักษ์เถื่อนแถวนั้นเพื่อให้รับหน้าที่นี่ต่อ

ยักษ์เถื่อนขั้น 3 เห็น ทหารยักษ์เถื่อนที่คุมทาสมนุษย์มาส่งกําลังกับออกไปก็รู้สึกอิจฉาเล็กน้อย เพราะยักษ์เถื่อนพวกนี้ได้ออกไปข้างนอก ออกไปจากโลกใต้พิภพซึ่งต่างจากตนที่ต้องมาคอยจับมนุษย์ตัวเหม็นโยนลงไปในหลุม ต้องคอยรับแลกแร่ที่ พวกทาสขุดได้มา

ซึ่งมันเป็นงานที่น่าเบื่อมาก จนยักษ์เถื่อนตนนี้อยากจะส่งเรื่องขอไปประจําการที่อื่นให้มันรู้แล้วรู้รอดไปแต่ก็ต้องเซ็งเพราะเมื่อคิดว่าอย่างไรเรื่องที่ตนขอก็คงไม่สําเร็จเพราะคงไม่มียักษ์ตนไหนขอมาประจําการในที่แบบนี้อแน่นอน

ยักเลื่อนขั้น 3 หลังจากที่บนในใจเสร็จแล้วก็มาจัดการเรื่องของไนเรล แต่ว่าเมื่อเห็นสภาพของในเรลที่โดนตัดเอ็นแขนขาจนหมดมันก็ยิ่งเซ็งเข้าไปใหญ่ เพราะนี่มัน เหมือนกับการที่เอาคนตายก็ไม่ผิด

“เจ้าคงเจ็บสักหน่อยนะ” ในเรลเงยหน้ามองยักเถื่อนที่กําลังพูดกับเขาอยู่จากนั้นยักษ์ตนนั้นก็หยิบเหล็กร้อน ๆ ทาบไปที่แขนของไนเรล จนมันเกิดรอยแผลซึ่งเป็นสัญลักษณ์ทาส

ทาสทุกคนจะถูกทําสัญลักษณ์ด้วยเหล็กร้อน ที่เขียนด้วยภาษาของเทพไททันว่า “ทาสเหมืองทมิฬ” หลังจากนั้นทุกคนก็ถูกพาตัวไปอีกทางซึ่งเป็นทางลงไปที่เหมือง

ในเรลถูกพามาทิ้งไว้อยู่เหนือกรงเหล็กที่ปิดอยู่ตรงพื้น ด้านล่างมีหมอกและกลุ่มควันหนาแน่นและบริเวณโดยรอบไม่ได้มีแค่เขาคนเดียว แต่ยังมีทาสมนุษย์หลายร้อยคนที่ยืนเบียดกันอยู่เหนือกรงเหล็ก

ก๊ก ๆ!!! ในขณะนั้นเองที่อยู่ ๆ กรงเหล็กก็ค่อย ๆ เลื่อนออกจากตรงกลาง ทาสมนุษย์ถึงกับถอยหนีออกจากตรงนั้นทันที แต่เพราะว่ายักษ์เถื่อนที่อยู่โดยรอบนั้นต่างพากันผลักทาสมนุษย์ลงไปในหลุม

“ไม่ ได้โปรด” เสียงร้องขอความเมตตาจากมนุษย์ก็พากันดังมาอย่างต่อเนื่องแต่ส่วนใหญ่นั้นก็ถูกถีบลงไปอยู่ดี

และไม่นานมนุษย์นับร้อยถูกโยนลงไปรวมถึงในเรลด้วย จากนั้นเหล่ายักษ์ผู้คุมโยนลูกบอลลาวาลงมาประมาณ 100 ลูกและปิดปากหลุมด้วยลูกกรงเหล็กขนาดยักษ์เหมือนเช่นที่ทํามาตลอด

ในขณะนั้นเองที่ยักษ์เถื่อนตนที่พาในเรลว่าที่หลุมก็ดูเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ เมื่อมองไปที่กุญแจที่อยู่ในมือนั้นก็คือ มันดันลืมไขกุญแจให้กับในเรลเพื่อเอาเสา และโซ่ออก แต่ตอนนี้มันก็ไม่ทันแล้ว เพราะไนเรลร่วงหล่นลงไปแล้ว

อีกอย่างปากหลุมทางเข้าก็ปิดไปแล้ว จะเปิดอีกที่ก็ตอนที่แลกเอาแร่โลหะในอีกหนึ่งอาทิตย์ เมื่อถึงตอนนั้นด้วยสภาพแบบไนเรลก็คงตายไปแล้ว

และถ้าให้ตนมาเปิดหลุมเพราะมนุษย์นั้นเพียงคนเดียวก็คงไม่ใช่เหตุ มันจะเสียเวลาเกินไป

“เฮ้ย ไคยืนทําอะไรอยู่ พวกข้ารอนานแล้วนะ” ขณะที่มันยืนคิดอยู่นั้นก็มีเสียงของยักษ์เถื่อนตนอื่น ๆ ดังมา

“งั้นก็ช่างมันเถอะ” เมื่อคิดได้ดังนั้นยักษ์เถื่อนที่ชื่อ ไค ตนนี้ก็เดินออกไปอย่างสบายใจ พร้อมกับเก็บกุญแจและเข็มทิศชีพไปด้วย มันเดินไปกับเหล่าเพื่อน ๆ ยักษ์ผู้คุมของตนเพื่อไปหาอะไรกินอย่างรีบร้อน

เนื่องจากว่าวันนี้เป็นเวลาที่เสบียงของเหมืองทมิฬนี้จะมาส่งให้พอดีซึ่งถ้าไปชมหวังของดี ๆ คงถูกแย่งไปกินหมด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+