Sword of horny ดาบแสงพลัง X กับทรชนพันธุ์ระยำ.. 12

Now you are reading Sword of horny ดาบแสงพลัง X กับทรชนพันธุ์ระยำ.. Chapter 12 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

แสงที่ 12 เอลเดียจงเจริญ..!

 

 

ชิ้ง..!

สิ้นคำพูดของผม..เจมิสที่ยืนอยู่ก็หยิบดาบ ก่อนที่เธอจะชันตัวลุกขึ้น พร้อมกับนำใบดาบมาจ่อที่หลังคอของผม..

“เฮ้ย..สตาร์ ชักไม่ขำแล้วนะ ยกเลิกแผนเถอะ พวกเราตายแหงแซะ..”เสียงของไอ้จ้อนที่ตะโกนกู่ร้องออกมา..

“สิบตรีสตาร์ นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันจะทำเป็นมองข้าม ถ้าขืนแกยังพูดเล่นอีกครั้ง ฉันฆ่าแกแน่..”

“ผมพูดจริงครับท่าน คิดว่าผมจะโง่แต่งเรื่องนี้ขึ้นมาอย่างงั้นเหรอ..? ถึงพวกเราจะพึ่งเจอกันแต่ผมก็พอจะรู้ว่าท่านเป็นคนยังไง คิดว่าผมไม่รู้เหรอว่าถ้าเกิดพูดออกไป นอกจากท่านจะไม่เชื่อแล้ว ท่านยังจะฆ่าผมอย่างไม่ลังเล แต่มันคือความจริง..”ผมที่กล่าวเหตุผลออกไป เมื่อเจมิสได้ยินก็หยุดชะงัก..

“ถึงมันจะเป็นเรื่องจริง แต่ว่าฉันต้องขอโทษด้วยสิบตรีสตาร์ สิ่งเดียวที่ฉันพอจะช่วยแกได้คือมอบความตายที่ไม่ทรมานให้..”

“ขอบคุณครับ ดีจังอย่างน้อยก่อนตายก็ได้เป็นสิบตรี..”ผมที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มจางๆ

“แกกล้าหาญมาก ฉันจะนำเรื่องนี้ไปรายงานให้ท่านร้อยเอกได้ทราบ..”

“ครับ..ผมเริ่มจะทนไม่ไหวแล้ว เชิญเลยครับ..”ผมที่กล่าว ก่อนจะทำเป็นพูดเร่งเจมิส..

“เฮ้ย..สตาร์ กะ..แกเล่นบ้าอะไรอยู่เนี่ย ยัยนี่มันเอาจริงนะเว้ย..”ไอ้จ้อนที่กู่ร้องออกมา ตอนนี้มันเริ่มที่จะกลัวขึ้นมาจริงๆแล้ว

“มีอะไรจะสั่งเสียไหม..?”เจมิสที่เงื้อดาบขึ้นสูง พร้อมทั้งเอ่ยถาม แต่ผมกลับยังคงนั่งก้มหน้านิ่ง..

“ไม่มีสินะ..งั้นฉันจะช่วยให้แกได้ตายอย่างสบายเอง ถ้าอย่างงั้นก็..”เจมิสที่กล่าว พร้อมกับเตรียมที่จะลงดาบ..

ชวิ้ง..!

“สตาร์..!!!!!”เสียงของไอ้จ้อนที่กู่ร้องดังลั่น..

“เอลเดีย จงเจริญ..”

ยังไม่ทันที่เจมิสจะได้เหวี่ยงดาบลงมา เธอก็พลันต้องหยุดชะงักไปจากคำพูดของผม เธอหยุดนิ่งไปชั่วขณะอย่างไม่ทราบสาเหตุ..

“อะ..เอ๊ะ ทำไมกันล่ะ..?”ไอ้จ้อนที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ

‘แกคิดว่าฉันจะยอมตายโง่ๆแบบนี้จริงดิ ยัยนี่มันเป็นพวกคลั่งชาติ ถ้าเพื่อผลประโยชน์ของประเทศแล้ว ยังไงเธอก็ไม่สามารถที่จะต้านความจงรักภักดีต่อประเทศของฉันได้หรอก..’ผมที่อธิบายกับไอ้จ้อน..

“ไอ้เวร..แล้วถ้าเกิดยัยบ้านี่มันฟันแกจริงๆล่ะ..?”

‘ก็กลิ้งหลบสิวะ..หลังจากนั้นฉันพนันได้เลยว่าเธอจบไม่สวยแน่ แต่ฉันก็อยากจะใช้วิธีที่มันชาญฉลาดหน่อย..’ผมที่ตอบกลับไอ้จ้อน เดี๋ยว..ไหงตูชั่วได้ขนาดนี้..

“สตาร์..แกโหมดนี้โครตระยำเลยวะ แต่ฉันก็ชอบนะ อะฮี่ๆ~”ไอ้จ้อนที่ส่งเสียงหัวเราะออกมา..

“ท่านมัวรออะไรอยู่ ผะ..ผมทนไม่ไหวแล้ว..”ผมที่กล่าวเร่งเจมิสอีกครั้ง แต่ทว่าเธอกลับค่อยๆลดดาบในมือลงมา ก่อนจะปักมันสู่พื้น..

 

ฉึก..

 

“ว่าที่สิบตรีสตาร์ ถ้าฉันเกิดเปลี่ยนใจที่จะช่วยแก แกจะสาบานได้ไหมว่าจะจงภักดีต่อเอลเดียตลอดไป..?”

“ทะ..ท่านพูดอะไรของท่าน ก็แค่ลงดาบทุกอย่างมันก็จบแล้ว ทันทีที่ผมรู้ว่าเงื่อนไขคืออะไร ผมก็ได้เตรียมใจเอาไว้แล้ว และก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะรอดชีวิตกลับไปด้ว..ย..”

“หุบปาก ตอบสิ่งที่ฉันถามมา..!”เจมิสที่แผดเสียงตวาดใส่ผม 

 

“ผมจงรักภักดีต่อเอลเดีย แต่ผมจะไม่ทำลายศักดิ์ศรีของท่าน..!”ผมที่ตวาดกลับไปทันควันด้วยสีหน้าที่เกรี้ยวกราด ทำเอาเจมิสถึงกับผงะไป..

“เล่นใหญ่..~”ไอ้จ้อนที่ส่งเสียงแซว..

“ฉันหวังเอาไว้ว่าสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ แกจะปิดปากเอาไว้อย่างเงียบสนิท ไม่อย่างนั้นแกจะได้พบเจอกับขุมนรกที่ไม่เคยพบเห็นที่ไหนมาก่อน..”เจมิสที่ทรุดตัวลงต่อหน้าของผม เลยทำให้ในเวลานี้เราสองคนกำลังนั่งสบตากัน..

“นี่ท่าน..”

“แกไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น แค่บอกมาว่าฉันต้องทำยังไง ถ้าเกิดว่ามันยังอยู่ในขอบเขตที่ฉันพอจะรับได้ ฉันก็จะช่วย ไม่ใช่เพื่อแกแต่เพื่อเอลเดีย และจงจำใส่กะลาหัวเอาไว้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย..”

‘ไอ้จ้อนทำตัวปกติ หดเดี๋ยวนี้เลย เดี๋ยวความแตก..’ผมที่ออกคำสั่งกับไอ้จ้อนที่กำลังเบ่งกล้าม มันกำลังทำลายแผนของผม..

“ฮึบ..!”ไอ้จ้อนที่ควบคุมร่างกายให้หดลง ก่อนที่ต่อจากนั้นผมจะชันตัวลุกขึ้นยืน..

“อึก..ถ้าอย่างงั้นก็..”

 

[ชาร์จพลังงาน 3 หน่วย]

 

[ชาร์จพลังงาน 3 หน่วย]

 

[ชาร์จพลังงาน 3 หน่วย]

ครึ่งชั่วโมงต่อมา..

ณ ศูนย์บัญชาการชายแดนที่ 2 ทางทิศใต้ของเอลเดีย..

ท่ามกลางศูนย์บัญชาการชายแดนที่ 2 ตอนนี้ภาพที่ปรากฏให้เห็นคือกองกำลังทหารที่กำลังตั้งขบวนรบ ในรูปแบบเรียงแถวหน้ากระดานสามแถว โดยที่ทหารทุกนายต่างหันหน้าไปยังทิศทางของเขตชายแดนทางทิศใต้ราวกับกำลังเตรียมพร้อมที่จะเข้าปะทะ

กร็อบ ๆ ๆ 

“พวกมันมากันแล้ว ทุกหน่วยเตรียมพร้อม..!”เสียงของร้อยเอกซิลเวียที่ตะโกนออกคำสั่ง เธอลงมาบัญชาการทุกอย่างด้วยตัวเอง 

ซึ่งศูนย์บัญชาการแห่งนี้คือฐานที่มั่นสุดท้าย ถ้าเกิดกองกำลังเมลันเทียสามารถที่จะโจมตีที่นี่จนแตกพ่ายได้ อาณาเขตทางทิศใต้ส่วนกลางก็จะถูกยึดครองไป..

และต่อจากนั้นมันจะทำให้ความมั่นคงของศูนย์บัญชาการที่สองและสาม หรือฐานที่มั่นทางทิศตะวันออกเฉียงใต้และทางทิศวันตกเฉียงใต้ต้องสั่นคลอน..

อีกทั้งมันจะทำให้เมลันเทียสามารถที่จะส่งกองกำลังทหารเข้ามาโจมตีจักรวรรดิเอลเดียแห่งนี้ได้ง่ายขึ้น..

“เปิดวงจร..!!!”เสียงทหารที่ตะโกนออกมา โดยที่จำนวนทหารในตอนนี้ ประกอบไปด้วยกองกำลังทหารของเจมิสที่พึ่งจะถูกสั่งถอนกำลังพลกลับมาจำนวน 40 กว่านาย และกองกำลังทหารที่ประจำการอยู่ยังศูนย์บัญชาการแห่งนี้และที่อพยพหลบหนีมาจากป้อมปราการกว่า 60 นาย รวมทั้งสิ้น 100 นาย ไม่รวมกับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ..

วิ๊ง..!!!

วงจรเวทที่ถูกเปิดใช้งาน ร่างของเหล่าทหารที่ยืนเรียงแถวหน้ากระดานอยู่ในรูปขบวนพลันเตรียมที่จะใช้กระสุนเวทกระหน่ำยิงเข้าใส่ศัตรูที่กำลังจะออกมาจากภายในป่ารกทึบทางเบื้องหน้า แต่ทว่า..

“นะ..นั่นมัน อย่าพึ่งยิง..!”ซิลเวียที่จับสังเกตเห็นร่างของใครบางคนที่กำลังควบม้าตรงเข้ามา พลันตะโกนออกคำสั่งกับกองกำลังทหาร..

ซึ่งทันทีที่ร่างๆนั้นปรากฏตัวออกมาจากป่า ภาพที่ปรากฏให้เห็นนั่นก็คือร่างของเจมิสที่กำลังควบม้า โดยมีสตาร์ที่กำลังหมดสตินอนอยู่ข้างหน้าของเธอ..

อีกทั้งข้างหลังของเจมิสยังมีม้าอีกหนึ่งตัวที่ถูกเธอลามเอาไว้ด้วยเชือกให้วิ่งตามมา โดยที่บนแผ่นหลังของม้าตัวนั้นปรากฏเป็นร่างอันไร้สติของผบ.ร้อยจากเมลันเทีย

“ร้อยตรีเจมิส..!”ซิลเวียที่กล่าวออกมา เธอและเหล่าทหารต่างพากันรู้สึกโล่งอกเป็นอย่างมาก เมื่อได้เห็นว่าเจมิสยังมีชีวิตอยู่

“ท่านผบ.ร้อยยังไม่ตาย..!”

“เฮ..!!”

เสียงของเหล่าทหารที่ต่างเฮออกมา ไม่ว่าใครก็ต่างจงรักภักดีต่อเจมิสอย่างสุดหัวใจ จากความกล้าหาญของเธอที่ช่วยถ่วงเวลาให้ทหารทุกๆนายได้ถอนกำลังพล จนกลับมายังศูนย์บัญชาการได้อย่างปลอดภัย..

“เมื่อกี้ใครมันปากหมาบอกว่าฉันตายกันวะ..? เดี๋ยวก็ฆ่าทิ้งให้หรอก..!”เจมิสที่ควบม้ามาถึงก็พลันหันไปตวาดใส่เหล่าทหารด้วยความเกรี้ยวกราด แต่แทนที่ทุกๆจะกลัว พวกเขากลับยิ้มออกมา..

“ร้อยตรีเจมิสแล้วกองกำลังของพวกศัตรูล่ะ..?”ซิลเวียที่เอ่ยถามต่อเจมิสด้วยความร้อนรน ก่อนที่อีกฝ่ายจะกระโดดลงจากหลังม้า..

“เรียนท่านผู้บัญชาการ..ตอนนี้กองกำลังของข้าศึกถูกกวาดล้างจนหมดสิ้น พวกเราเอลเดียเป็นฝ่ายชนะศึกในครั้งนี้..”เจมิสที่ยกฝ่ามือขึ้นมาทำความเคารพ ก่อนจะรายงานสถานการณ์ให้ซิลเวียได้รับรู้..

“ห้ะ..?! เธอว่ายังไงนะ..?”ซิลเวียที่ถึงกับร้องเสียงหลง โดยเหล่าทหารที่สังกัดอยู่ในกองร้อยชั่วคราวของเจมิสก็ต่างพากันอึ้งไม่ต่างกัน

“ตามที่ท่านผู้บัญชาการได้ยินเลยค่ะ..”เจมิสที่กล่าวยืนยัน..

“เดี๋ยวสิ..ก่อนหน้านี้ฉันได้รับรายงานมาจากจ่าสิบโทเมเบิ้ล..ว่าเธอเสียเปรียบจนต้องสั่งถอนกำลังพลทั้งทางปีกขวาและปีกซ้าย ในรายงานบอกเอาไว้ว่าล่าสุดที่สั่งถอนกำลังพล กองกำลังของเมลันเทียบนเนินที่ราบสูงมีจำนวนหลงเหลืออยู่ประมาณ 60 นาย อีกทั้งเธอที่เป็นผบ.ร้อย ยังตกอยู่สถานการณ์วิกฤต..”

“ข้อมูลทั้งหมดถูกต้อง ตามที่จ่าสิบโทเมเบิ้ลรายงานค่ะ..”

“เดี๋ยว..นี่เธอกำลังจะบอกกับฉันว่าเธอเพียงคนเดียวสามารถที่จะไล่ต้อนให้กองกำลังของศัตรูถอยร่นไปได้อย่างงั้นเหรอ..?”

“เปล่าคะ..”เจมิสที่กล่าวออกมา 

เมื่อซิลเวียได้ยินก็หรี่ตาลงครึ่งหนึ่ง สีหน้าของเธอเริ่มที่จะแสดงออกถึงความไม่พอใจ จากคำตอบที่ฟังดูย้อนแย้ง จนมันทำให้เธอเกิดความคิดว่าเจมิสกำลังบิดเบือนหรือให้ข้อมูลเท็จ

“เมื่อครู่ดิฉันบอกว่ากวาดล้าง ไม่ได้บอกว่าไล่ต้อน..และที่สำคัญ ฉันได้พาตัวผบ.ร้อยของเมลันเทียกลับมาด้วย..”เจมิสที่กล่าวออกมา ก่อนจะเดินไปกระชากร่างผบ.ร้อยของเมลันเทียให้ตกลงมาจากหลังม้า..

“อะ..อึก นั่นมัน..”ดวงตาของทหารกว่าหลายนายที่เบิกกว้างขึ้น เมื่อซิลเวียได้ยินเช่นนั้นก็หันไปมองยังเหล่าทหาร เพื่อที่จะขอคำยืนยันว่าใช่ผู้นำของทัพข้าศึกจริงหรือไม่..

“เรียนท่านผู้บัญชาการ ไอ้เจ้านั่นเป็นผู้นำของเมลันเทียจริงๆ พวกเราทุกคนที่อยู่แนวหน้าต่างจดจำใบหน้าของมันได้..”

ทหารนายหนึ่งที่ยกมือขึ้น พร้อมทั้งกล่าวรายงาน ซึ่งเหล่าทหารในแนวหน้าทุกนายก็ต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกัน..

“ทำได้ดีมากร้อยตรีเจมิส แสดงว่าเธอคงจะจัดการกับไอ้เจ้าสวะนั่น จนทำให้กองกำลังของมันเสียขวัญและหนีไปสินะ..?”ซิลเวียที่ยังคงเข้าใจผิดกล่าวออกมา แม้ว่าภายในใจของเจมิสจะหงุดหงิดและรำคาญมากแค่ไหน แต่เธอก็ไม่ได้แสดงนิสัยและอารมณ์ส่วนตัวออกมาต่อหน้าของผู้บังคับบัญชา..

“ดิฉันร้อยตรีเจมิส..ขออนุญาติรายงานอีกครั้ง เรียนท่านผู้บังคับบัญชา ผู้นำของข้าศึกได้ถูกจัดการ ส่วนกองกำลังทหารจำนวน 60 กว่านายของมันไม่ได้ถอยร่นไปอย่างที่ท่านเข้าใจ ขอย้ำอีกครั้งพวกมันทุกตัวถูกสังหารหมู่และตายบนเนินที่ราบสูงค่ะ ส่วนเรื่องรายละเอียดขออนุญาติรายงานกับท่านเป็นการส่วนตัว..!”เจมิสที่ยกมือขึ้นมาทำวันทยาหัตถ์ พร้อมกับเปล่งเสียงตะโกนรายงานออกมา 

เมื่อสิ้นเสียงรายงาน ซิลเวียพร้อมด้วยกองกำลังทหารกว่าร้อยนายก็ต่างต้องพากันตกตะลึงอีกครั้ง..

“อะ..อึก อย่างงั้นเองสินะ ถ้างั้นอีกสามชั่วโมงเธอมาพบฉันยังเต็นท์ที่พัก ระหว่างนั้นก็ไปพักผ่อนก่อนเถอะ..”

“รับทราบค่ะ..!”เจมิสที่ขานรับ ก่อนจะหันไปมองยังผบ.ร้อยของเมลันเทีย..

“ท่านผู้บัญชาการ ฉันมีเรื่องที่อยากจะขอ..”

“หืม..? ได้สิ..ถ้าเป็นเรื่องรางวัลล่ะก็..”ซิลเวียที่กล่าวออกมา..

“ไม่ใช่ค่ะ..”

“แล้วเรื่องอะไร..?”ซิลเวียที่เอ่ยถามด้วยความสงสัย..

“ฉันอยากจะขอให้ท่านอย่าพึ่งสังหารผู้นำของเมลันเทีย..”เจมิสที่กล่าวออกมา

“ว่ายังไงนะ มันยังไม่ตายอย่างงั้นเหรอ..?”ซิลเวียที่หันขวับไปมองยังผบ.ร้อยของเมลันเทีย..

“ใช่คะ..ก็แค่ตอนนี้เท่านั้น ฉันต้องการจะล้วงข้อมูลจากมัน พวกเราจะได้รับรู้ถึงความเคลื่อนไหวของไอ้พวกสวะเมลันเทีย..”

“หืม..? ร้อยตรีเจมิส เธอคิดว่ามันจะยอมบอกพวกเราหรือยังไงกัน..?”

“แล้วท่านผู้บัญชาการคิดว่าฉันจะถามมันด้วยถ้อยคำที่ไพเราะอย่างงั้นหรอคะ..? ขอเพียงแค่ท่านยินยอม ฉันมีวิธีที่จะทำให้มันคายข้อมูลออกมา..”เจมิสที่กล่าวกับซิลเวีย เมื่ออีกฝ่ายได้ยินก็นิ่งเงียบไปชั่วขณะ พลางหันไปมองยังผบ.ร้อยของเมลันเทีย เหมือนกับกำลังลังเลใจ

“ถึงฉันจะคิดว่ามันเป็นอะไรที่เปล่าประโยชน์ก็เถอะ แต่ถ้าเธออยากลองฉันก็ไม่ติดขัดอะไร ยังไงสภาพของมันในตอนนี้ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว..”

“ขอบคุณค่ะ..!”เจมิสที่ทำเคารพซิลเวีย ก่อนที่เธอจะเปลี่ยนท่าทีไปเป็นคนละคน เมื่อหันไปมองยังทิศทางของเหล่าทหาร 

“เฮ้ย..ใครก็ได้ลากคอมันไปโยนเอาไว้ในคอกม้า ส่วนพวกทหารกลุ่มที่ 7 ถึง 10 จงกลับไปยังสมรภูมิเพื่อค้นหาคนเจ็บ แล้วก็จงพาศพของเหล่าทหารกล้าจากเอลเดียกลับมาให้หมด..!”เจมิสที่ตะโกนออกคำสั่ง ซึ่งเหล่าทหารกลุ่มที่ได้รับมอบหมายหน้าที่ก็ต่างพากันส่งเสียงขานรับ..

“รับทราบ..!!!!”

“ในเมื่อเธอสั่งแบบนี้ แสดงว่ารายงานที่บอกคงเป็นความจริงอย่างงั้นสินะ..”ซิลเวียที่กล่าวออกมา..

“นี่ท่านไม่เชื่อดิฉันจริงๆเหรอคะ..?”

“ก็นะ..มันน่าเหลือเชื่อจะตายไป เธอคนเดียวเล่นกวาดล้างทหารเกือบ 60 นาย อีกทั้งยังจับเป็นผบ.ร้อยของข้าศึกกลับมาได้อีก แต่ก็เอาเถอะ.. ยังไงฉันจะรอฟังรายงานจากเธอก็แล้วกัน..”ซิลเวียที่กล่าวทิ้งท้ายเอาไว้ ก่อนจะเดินกลับไปยังเต็นท์..

“ค่ะ..!”

“เฮ้อ..อุ๊บ..!?”เจมิสที่ถอนหายใจออกมา แต่แล้วจู่ๆเธอก็รู้สึกพะอืดพะอมเหมือนจะอ้วก เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ล่าสุดที่พึ่งจะเกิดขึ้น เมื่อชั่วโมงที่แล้ว..

“ทะ..ท่านร้อยตรี..”

ทันใดนั้นจู่ๆกลุ่มของชิออนก็เดินตรงเข้ามาหาเจมิส ภายในกลุ่มประกอบไปด้วบ ฟอร์เน่ มีน่าและเอลซ่า โดยที่สีหน้าของพวกเธอแต่ละคนในตอนนี้ต่างแสดงออกถึงความรู้สึกผิด..

“หืม..? ว่าไง..”เจมิสที่หันไปเอ่ยถาม ซึ่งทั้งสี่นั้นเป็นเพียงทหารไม่กี่คนในที่นี้ที่เธอรู้จักเป็นการส่วนตัว

“สิบตรีสตาร์เค้า..”ชิออนที่กล่าวออกมา สำหรับเธอแล้วไม่ว่าจะเป็นการตายของใครก็ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่น่าเศร้า..

“ยังไม่ตายหรอก ไอ้เวรนั่นมันอยู่นี่..”เจมิสที่พอจะรู้ว่าทั้งสี่จะพูดอะไร เธอก็เลยกล่าวดักเอาไว้ ก่อนจะเดินไปกระชากคอเสื้อของสตาร์ที่นอนพาดอยู่บนเอียนม้าจนล่วงลงมาหัวฟาดพื้น..

“ละ..โล่งอกไปที..”ชิออนที่กล่าวออกมาด้วยความโล่งอก พวกเธอทุกๆคนต้องการที่จะขอบคุณสตาร์ที่ช่วยชีวิตเอาไว้..

“ยังไงก็ช่วยพาไอ้เจ้านี่ไปยังแผนกแพทย์สนามด้วย ถ้ามันฟื้นเมื่อไหร่ พวกเธอรีบมารายงานฉันโดยด่วน ข้อย้ำอีกครั้ง แบบโดยด่วน ชนิดที่มันกำลังเปิดเปลือกตา ฉันต้องไปยืนอยู่ตรงหน้ามันแล้ว..”เจมิสที่ออกคำสั่งกับคนทั้งสี่ ซึ่งพอได้ยินในคำสั่งแปลกๆ แต่ละคนก็ชะงักไป..

“เข้าใจไหม..?!!”เจมิสที่ขึ้นเสียง ถึงกับทำให้ร่างทั้งสี่สะดุ้งเฮือก..

“รับทราบ..!!!!!”

“เข้าใจก็ดีแล้ว รีบพามันไป..”เจมิสที่กล่าวออกมา ก่อนที่เอลซ่า ฟอร์เน่และมีน่าจะช่วยกันหิ้วปลีกร่างของสตาร์ไปยังกระโจมแพทย์

“มีอะไรสิบเอกชิออนที่หน้าฉันมีอะไรติดอยู่หรือไง..?”เจมิสที่เอ่ยถาม จากการที่ชิออนกำลังยืนจ้องหน้าของเธอด้วยท่าทีเลิ่กลั่ก..

“คะ..ค่ะ มะ..มันมีของเหลวแปลกๆติดอยู่ที่มุมปากของท่าน ที่คอก็ด้วย..”ชิออนที่กล่าวออกมาตามตรง เมื่อเจมิสได้ยินก็ถึงกับร่างกระตุกวูบ เธอรีบยกแขนขึ้นมาเช็ดมุมปากและที่ลำคอในทันที

 

“สงสัยคงจะเป็นเลือด เธอไปเถอะ..”เจมิสที่รีบแถออกมา..

“ตะ..แต่ว่าสีของมัน….”

“ไปซะ..! ตอนนี้ฉันอารมณ์ไม่ค่อยดี..”เจมิสที่กัดฟันกล่าวออกมา เมื่อชิออนเห็นเช่นนั้นก็รับทำความเคารพ ก่อนจะเดินสาวเท้าจากไปในทันที 

“กรอด..ไอ้เวรเอ้ย..”เจมิสที่ขบฟันคำรามออกมา สีหน้าของเธอในตอนนี้กำลังแดงก่ำไปด้วยความโกรธที่โครตจะน่ากลัว พร้อมกับความคิดที่แว็บเข้ามา ถ้าเกิดย้อนเวลากลับไปได้ เธอควรจะลงดาบซะตั้งแต่ตอนแรก..

 

 

 

ไรท์:คอมเม้นเยอะๆๆๆ เดี๋ยวเบิ้ลอีก

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด