Sword of horny ดาบแสงพลัง X กับทรชนพันธุ์ระยำ.. 35

Now you are reading Sword of horny ดาบแสงพลัง X กับทรชนพันธุ์ระยำ.. Chapter 35 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

แสงที่ 35 ความทรงจำอีกส่วนหนึ่ง

 

“ผลตรวจวัดเป็นยังไงบ้างครับ..?”

“อะ..อึก ฉันเองก็ไม่รู้ ในประวัติศาสตร์ไม่เคยมีพลทหารฝึกหัดคนไหนเคยทำลายหุ่นเหล็กนี่มาก่อน เต็มที่ก็แค่สร้างรอยขีดขวน สกิลที่แกใช้มันเป็นแค่สกิลระดับ 1 ดาวเขียวแน่เหรอ..? เท่าที่ฉันเห็นอานุภาพของมันน่าจะถูกจัดอยู่ในเวทมนตร์ระดับ 5 ไปแล้วด้วยซ้ำ..”สไปร์สที่กล่าวกับผมอย่างอึ้งๆ ในที่สุดผมก็เป็นคนแรกที่สร้างประวัติศาสตร์สักที..

“ก็อย่างที่อาจารย์เห็นเลยครับ..”ผมที่ตอบกลับสไปร์ส พอเธอได้ยินก็พลันยกฝ่ามือขึ้นมากุมขมับ..

“เฮ้อ..เหลือเชื่อชะมัด เอาเถอะ..ฉันจะตีเป็นว่ามันคือเวทมนตร์ระดับ 5 แล้วสกิลนี้ใช้มานาเยอะไหม..?”

“ทั้งหมดที่มีครับ..”ผมที่ตอบกลับ แน่นอนว่าตอแหล..

“อึก..แบบนี้เองสินะ ไม่แปลกที่มันจะมีอานุภาพสูง แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ มันก็ยังน่าเหลือเชื่อเกินไปที่มันจะเป็นแค่สกิลระดับ 1 ดาวเขียวเพราะเวทมนตร์ระดับ 5 อย่างต่ำที่สุดจะต้องเป็นสกิลของเอมพาสระดับ 1 ดาวม่วง..”สไปร์สที่กล่าวออกมา โดยที่ระดับสกิลก็จะควบคู่ไปกับระดับของคริสตัลมานา ประกอบไปด้วยดาวขาว,เขียว,ฟ้า,ม่วง,แดง 

“เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะครับ แล้วการทดสอบนี้มันจะมีผลอะไรหรือเปล่า..?”

“ใช่..ถ้าเธอทำคะแนนได้ในระดับที่น่าพอใจ เธอก็จะได้สิทธิ์เลือกห้องเรียน โดยที่ห้องเรียนจะประกอบไปด้วยห้อง A,B,C,D,F

ในชั้นเรียนของพลทหารฝึกหัดขั้นที่หนึ่ง แต่ละห้องปัจจุบันจะมีนักเรียนอยู่ด้วยกันห้องละประมาณ 50 ถึง 60 คน

ส่วนชั้นเรียนของพลทหารฝึกหัดขั้นที่สอง ตอนนี้จะมีเพียงแค่ 4 ห้องเท่านั้นที่เปิดใช้ A,B,C,D ตกอยู่ที่ห้องละ 40 คน

และชั้นเรียนสุดท้ายอย่างชั้นเรียนของพลทหารฝึกหัดขั้นที่สาม ตอนนี้มีนักเรียนที่กำลังจะจบหลักสูตรรอจำแนกคัดเลือกหน่วยอยู่เพียงแค่ 2 ห้อง นั่นก็คือห้อง A กับห้อง B มีนักเรียนอยู่ด้วยกันห้องละ 50 คน

ในแต่ละปีที่ผ่านมาจะมีนักเรียนที่จบหลักสูตรปีละประมาณ 100 คน ส่วนใหญ่จะเป็นกองทัพของเอทารอสและคีทารัส โดยที่กองทัพทารอนของพวกเรามีนักเรียนที่จบการศึกษาแค่ปีละ 20 ถึง 30 คน..”สไปร์สที่อธิบายอย่างละเอียด เท่าที่ผมฟังดูเหมือนว่าอัตราการจบหลักสูตรของนักเรียนในชั้นปีสุดท้ายจะค่อนข้างน้อย ไม่แปลกที่ทำไมกองทัพทารอนถึงประสบปัญหาคาดแคลนกำลังพล..

แต่ถึงอย่างไรอาคัสก็ยังมีกองกำลังทหารจากค่ายสามัญที่มาทดแทนอยู่ ถึงแม้พวกทหารเหล่านั้นจะเป็นทหารที่มีศักยภาพต่ำกว่าทหารของอาคัสก็ตาม..

“แล้วจากการทดสอบ ผมจะได้อยู่ที่ห้องไหน..?”

“แน่นอนว่าห้อง A แต่ถ้าแกอยากจะอยู่ห้องอื่นก็สามารถที่จะเลือกได้..”สไปร์สที่บอกกับผม..

“เงื่อนไขเค้าล่ะ..?”

‘หุบปาก..ไม่เห็นอ้อว่ากำลังคุยเรื่องข้อมูลอยู่..สักแต่จะหงี่อ่ะแกอ่ะ..’ผมที่ด่าไอ้จ้อนไปหนึ่งสเต็ป เมื่อจู่ๆมันก็โพลงขึ้น..

“แต่จะว่าไปปีนี้ฉันได้รับเลือกให้เป็นอาจารย์สอนที่ห้อง D แกสนใจไปอยู่ที่ห้องฉันไหมล่ะ..?”สไปร์สที่เอ่ยปากชักชวนผม ถึงคำชวนของเธอมันดูเหมือนจะไม่คาดหวังอะไรมาก แต่แววตาที่แสดงออกมันกลับไม่เป็นแบบนั้น ผู้หญิงคนนี้ดูเป็นคนที่มีชั้นเชิง..

“แผนกไหนครับ..?”

“ยุทธวิธี..”

“เอาแบบนั้นก็ได้ครับ..”ผมที่ตอบกลับ ซึ่งสไปร์สก็ดูเหมือนว่าจะออกอาการดีใจอยู่นิดหน่อย ถ้าเดาไม่ผิดถ้าเธอสามารถผลักดันให้นักเรียนในห้อง D เลื่อนขั้นได้ เธอก็จะได้สร้างผลงานไปด้วย

“แล้วแผนกสู้รบล่ะครับ ผมสามารถเลือกห้องได้เหมือนกันใช่ไหม..?”

“แกคงไม่จำเป็นที่จะต้องเข้าเรียน เพราะแผนกสู้รบสำหรับนักเรียนที่ถือครองเอมพาสระดับ 2 จะไม่มีห้องสำหรับการเรียนการสอน ยกเว้นแต่นักเรียนที่ถือครองเอมพาสระดับ 1..”

“อ้าวทำไมล่ะครับ..?”

“ก็เพราะเอมพาสระดับสองจะมีสกิลเวทมนตร์เฉพาะที่ไม่สามารถสอนกันเองได้ แตกต่างจากเอมพาสระดับหนึ่ง ซึ่งสามารถที่จะเรียนสกิลและทำความเข้าใจเกี่ยวกับวงจรเวทมตร์ หรือจะพูดให้เข้าใจง่ายๆผู้ที่ถือครองเอมพาสระดับหนึ่งจะใช้สกิลเวทมนตร์เหมือนๆกัน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีนักเรียนพิเศษอยู่..”

“นักเรียนพิเศษ..?”

“นักเรียนพิเศษที่ว่าก็คือนักเรียนที่ถือครองเอมพาสระดับ 2 แต่กลับสามารถเรียนสกิลของเอมพาสระดับ 1 ได้ นักเรียกที่ว่านั้นมีไม่มากนักหรอก และส่วนใหญ่นักเรียนพิเศษพวกนั้นก็ไม่ค่อยให้ความสนใจกับสกิลของเอมพาสระดับ 1 สักเท่าไหร่ เพราะว่าสกิลเอมพาสระดับ 2 มันมีอานุภาพที่รุนแรงกว่า..”สไปร์สที่กล่าวออกมา

“ฉันเองก็เป็นผู้ถือครองเอมพาสระดับ 2 ที่สามารถใช้สกิลของเอมพาสระดับ 1 ได้ แต่ฉันก็เรียนมาแค่เวทเสริมกำลังกับเวทบาเรียเท่านั้น ส่วนกระสุนเวทมนตร์ก็พอใช้ได้นิดหน่อย..”สไปร์สที่กล่าวออกมา ก่อนจะเปิดวงจรยิงกระสุนเวทมนตร์โชว์..

“เปิดวงจร..สกิลเวทมนตร์ระดับ 2 กระสุนแรงดันเวท..!”

เฟี้ยว..!

ตึง..!

สไปร์สที่บรรจุกระสุน ก่อนจะยิงกระสุนเวทมนตร์ใส่หุ่นเหล็ก แต่ทว่ากลับยิงไม่โดน กระสุนที่พุ่งทะยานได้พุ่งเฉี่ยวเป้าหมายไป..

“ก็ประมาณนี้..กึก..!”สไปร์ทที่กล่าวออกมา พร้อมกับยกมือขึ้นมากัดเล็บของตัวเอง..

“นั่นคือเงื่อนไขเอมพาสของอาจารย์เหรอครับ..?”ผมที่เอ่ยถามสไปร์ส..

“ใช่..”สไปร์สที่ตอบกลับ..

“ถ้าไม่มีอะไรแล้วเดี๋ยวฉันจะพาแกไปส่งที่ห้องเรียน เรียน และอีกสักครึ่งปีแกก็ค่อยไปทำการทดสอบเลื่อนขั้นเอาก็แล้วกัน..”สไปร์สที่บอกกับผม..

“ครั..บ อั่ก..!”

ตุบ..!

และแล้วการแสดงละครแห่งตัณหาของผมก็เปิดม่านขึ้น เมื่อร่างที่ยืนอยู่จู่ๆก็ทรุดล่วงไปลงเอามือจิกกุมหน้าอก พร้อมกับปั้นสีหน้าให้ดูทุกข์ทรมานมากที่สุด..

“หึๆ เริ่มแล้วสินะ..”เสียงของไอ้จ้อนที่หัวเราะอยู่ภายในลำตัว..

“แกเป็นอะไร..?”สไปร์สที่ย่อตัวลงมาดูอาการของผม..

“งะ..เงื่อนไขเอมพาส..”

“อะไรนะ..? ไม่ใช่ว่าเมื่อกี้แกทำมันไปแล้วเหรอ..?”สไปร์สที่เอ่ยถามผม..

“นั่นมันเงื่อนไขก่อนใช้ มันยังมีเงื่อนไขหลังใช้อยู่..”ผมที่ตอบกลับ พลางหลับตาลงและจิกหน้าอกแน่นยิ่งขึ้นกว่าเดิม..

“แล้วเงื่อนไขหลังใช้มันคืออะไร..?”สไปร์สที่เอ่ยถามผม เธอดูร้อนรนเป็นอย่างมาก..

“ซะ..เซ็กซ์..”

“ห้ะ..!!?”

ทันทีที่สไปร์สได้ยินคำตอบของผม เธอก็ถึงกับร้องเสียงหลง สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เธอต้องหน้าเสียไปในทันที..

“แล้วทำไมแกถึงไม่บอกตั้งแต่ตอนแรกวะ..?!!”สไปร์สที่ตะโกนออกมาด้วยความหัวร้อน ปกติแล้วเธอจะถามกับเหล่านักเรียนก่อนทดสอบอยู่เสมอ แต่ทว่าครั้งนี้เธอกลับทำพลาดไป..

“คะ..คนที่จะแก้เงื่อนไขเอมพาสของผม ตอนนี้เธอไม่อยู่..อะ..อาจารย์ช่วยทำอะไรสักอย่างสิ ผะ..ผมรู้สึกร้อนที่ข้างในอก..”ผมที่บอกกับสไปร์ส พอเธอได้ยินก็ต้องหน้าเสียหนักเสียยิ่งกว่าเก่า..

“เฮ้ยๆ แกไม่คิดว่ามันจะมากไปหน่อยเหรอ..? พึ่งเจอหน้ากันไม่ถึงยี่สิบนาทีหล่อนคงจะยอมมีอะไรกับแกหรอก แผนรอบนี้ฉันว่าไม่ผ่านว่ะ มีหวังถูกปล่อยให้นอนชักดิ้นชักงอตายแหงแซะ และถ้าเกิดถูกจับได้มีหวังโดนกระทืบซ้ำอีก ลดลงมาแค่สำเร็จความใคร่ก็พอแล้วมั้ง..”ไอ้จ้อนที่กล่าวกับผม..

‘หึ..สถานการณ์ของยัยนี่มันต่างจากที่ผ่านๆมาเว้ย เดี๋ยวแกคอยดูเถอะ..’ผมที่บอกกับไอ้จ้อน..

“ฉันคิดว่าเงื่อนไขนี้มันเกินไป จะให้ฉันไปมีอะไรกับแ..ก…”

“อึก..!”

ในขณะที่สไปร์สกำลังกล่าว ผมที่นั่งอยู่ก็พลันลงไปนอนดิ้นทุรนทุรายกับพื้น..

“อะ..อาจารย์บอกว่าจะช่วยผม ผมก็เลยใช้มัน งะ..เงื่อนไขของผม มะ..มีเวลาแค่ 5 นาทีเท่านั้น อั่ก..!”ผมที่พยายามทำเป็นทรมานเปล่งพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แสดงออกถึงความเจ็บปวดทรมาน เมื่อสไปร์สเห็นแบบนั้นสีหน้าของเธอก็ทวีคูณความบิดเบี้ยวยิ่งขึ้น อีกทั้งดวงตาที่กำลังจ้องมองลงมายังร่างของผมยังกลอกไปมาเหมือนกับกำลังลังเลใจ..

“เวรเอ้ย..!!”สไปร์สที่ชันตัวลุก ก่อนจะหันหลังวิ่งตรงไปยังประตูทางออก..

“เห็นไหม โถ่..เอ้ย อดเลย ได้คืบจะเอาศอก แม่ง..!~”ไอ้จ้อนที่สบถออกมาด้วยความหัวเสีย หึ..แกต่างหากที่ไม่รู้อะไรเอาซะเลย..

แกร๊ก..!

เสียงล็อคประตูที่ดังขึ้น เมื่อผมเงยหน้ามองออกไปก็พบว่าสไปร์สกำลังล็อคประตูโรงฝึกอยู่ อีกทั้งเธอยังลากตู้ที่อยู่แถวนั้นมาบังประตูเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้คนข้างนอกเปิดเข้ามาได้ง่ายๆ ก่อนจะรีบวิ่งตรงกลับมาหาผม..

“ฮะ..เฮ้ย ได้ไง..?”

‘หึ..ยัยนั่นน่ะจริงๆสามารถปล่อยให้พวกเราตายก็ได้นะ แถมยังไม่เกิดผลกระทบอะไรกับเธอด้วย ตั้งแต่ที่ฉันจัดการฆ่าไอ้เวรตัวเมื่อกี้ มันก็ทำให้ฉันรู้ว่าในอาคัสถึงต่อให้จะมีนักเรียนจะตายไปสักคนกี่คนก็ไม่มีคนสนหรอก

แต่เท่าที่ฉันเห็นเธอคนนี้ไม่ใช่คนแบบนั้น เธอน่าจะเป็นคนที่มีความรับผิดชอบ เธอคงไม่ยอมปล่อยให้พวกเราตายเพราะความผิดพลาดของตัวเองแน่ และอีกส่วนหนึ่งพวกเรามีค่าพอให้เธอช่วย..’ผมที่อธิบายกับไอ้จ้อน 

“แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ..มันไม่เร็วไปหน่อยเหรอ..? สตาร์คนที่ฉันเคยรู้จักช้าๆได้พร้าเล่มงามมันหายไปไหนแล้ว..”ไอ้จ้อนที่กล่าวออกมา ซึ่งถ้ามองในมุมของไอ้จ้อน มันก็เร็วเกินไปจริงๆชนิดว่าแบบปุบปับ..

“ไอ้จ้อน..เรื่องที่เกิดขึ้นในคุกแกยังจำได้ใช่ไหม..? ยิ่งพลังของพวกเราเลื่อนระดับ มันก็ยิ่งอัพระดับได้ยากขึ้น ถ้าจะให้มาคอยนั่งจับนมผู้หญิงวันละคนสองคน ฉันก็เองก็คงไม่เอาด้วยคนหรอก พวกเราจำเป็นที่จะต้องแข็งแกร่งขึ้นให้เร็วที่สุด

แต่ถึงอย่างนั้นสิ่งที่ฉันอยากจะได้ไม่ใช่การเลื่อนระดับดาวของคริสตัลมานา แต่เป็นความทรงจำที่ขาดหายไปต่างหาก..

ซึ่งคนอย่างฉันมันก็ไม่เกี่ยงอยู่แล้วว่าจะต้องใช้วิธีไหน ถ้าคิดจะอยู่ในโลกที่แสนจะโหดร้ายใบนี้ แกจำเป็นที่จะต้องระยำยิ่งกว่า อีกอย่างหนึ่งถ้าเกิดเป็นยัยนี่ ฉันเองก็คงไม่รู้สึกผิดอะไรมากถ้าจะต้องหลอก เพราะว่าเธอเองก็เป็นคนที่มีประสบการณ์อยู่แล้วเหมือนกัน..”ผมที่อธิบายให้ไอ้จ้อนได้ฟัง..

“อ้าว..หล่อนไม่ซิงเหรอ..?”

“แกจะให้ทุกคนบนโลกซิงหรือไงวะ สรุปจะเอาไม่เอา..?”ผมที่กล่าวกับไอ้จ้อน และเริ่มที่จะรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา..

“เอาดิ..!”

“เออก็แค่นั้น..”ผมที่ตอบกลับ เป็นช่วงจังหวะเดียวกันกับที่สไปร์สจะเดินเข้ามาจับขาของผมและลากพาไปยังห้องเคาน์เตอร์..

ครืด..!!!!

สไปร์สที่ลากผมด้วยความรวดเร็ว ทันทีที่เข้ามาถึงห้องเคาน์เตอร์ เธอก็จัดการปลดถอดกางเกงของผมออกมาจนท่อนล่างเหลือกางเกงในแค่ตัวเดียว โดยผมในตอนนี้ก็แสดงทำเป็นว่าสติกำลังจะเลือนลางลง..

พรึ้บ..!

“อึก..!”

ทันทีที่สไปร์สเลื่อนถอดกางเกงของผมออก เธอก็ต้องตกตะลึงไปชั่วขณะ จากสิ่งที่ตุงอยู่ภายใต้กางเกงใน..

“อู้วววววว.~!!!”ไอ้จ้อนที่ร้องออกมา..

“ตั้งสติเอาไว้..”

แปะๆ 

สไปร์สที่ส่ายหน้าไปมาเพื่อสลัดความฟุ้งซ่าน พลางใช้มือตบหน้าของผมเบาๆ เพื่อเรียกสติ ก่อนที่ผมจะค่อยๆแสร้งทำเป็นเปิดเปลือกตาขึ้นมา..

“อะ..อาจารย์..”

“ตั้งสติเอาไว้ฉันจะช่วยเดี๋ยวนี้แหละ..”สไปร์สที่บอกกับผม พร้อมกับปลดเข็มขัดของตัวเองออก มือของเธอชะงักกว่าหลายครั้งจากความลังเล..

“สไปร์ส..เธอกำลังทำบ้าอะไรอยู่ นี่มันนักเรียนนะ..แถมยังเป็นคนที่พึ่งจะเจอกันได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ..”สไปร์สที่สบถถามกับตัวเองเบาๆ..

“อั่ก..! อะ..อาจารย์..”ผมที่แสร้งทำเป็นร่างกระตุกอีกครั้ง..

“เวรเอ้ย ฉันนี่แม่งโง่บรมเลย..!”สิ้นเสียงสบถสุดท้ายของสไปร์ส เธอก็ทำการปลดเข็มขัดของตัวเองออก ก่อนจะดึงกางเกงลง..

“อู้วววววววววว สีขาวลายลูกไม้อีกแล้ว สุดยอดไปเลยพี่บ่าว..~”

《ชาร์จพลังงาน X ฟอร์ส 400 หน่วย》

หลังจากนั้นไม่นาน สไปร์สก็ได้จัดการช่วยคลายเงื่อนไขเอมพาสให้แก่ผม ทันทีที่เสร็จกิจเธอก็รีบสวมกางเกงในทันที..

“อะ..อึก รอดตายแล้ว..”ผมที่นอนหงายหน้าอยู่แสร้งทำเป็นเอนตัวลุกกลับขึ้นมา แต่ทว่า..

“อึก..!!!”

ในช่วงจังหวะที่ผมกำลังลุกจู่ๆอะดรีนาลีนภายในร่างก็ระเบิดออกมา พร้อมกับความทรงจำในโลกก่อนที่ไหลเข้ามาภายในหัว..

ซึ่งภาพที่ไหลเข้ามาภายในหัวของผมคือตัวของผมในวัยเด็กตอน 5 อายุห้าขวบที่กำลังนั่งอยู่ภายในป่ากับใครบางคน..

[ฮึก..สตาร์พ่อจำเป็นลูก เจ้าสิ่งนี้จะช่วยทำให้ลูกกลายเป็นสุดยอดมนุษย์ จงควบคุมมันให้ได้..]

เสียงร้องไห้ที่ดังออกมา นั่นมันคุณพ่อของผมหนิ เดี๋ยวนะ..ทำไมคุณพ่อถึงอยู่ในชุดกาวน์กันล่ะ แถมเขากำลังจะทำอะไรบางอย่างกับผม..

[คะ..คุณพ่อจะทำอะไร..?!]

เสียงของตัวผมที่ร้องออกมา และกำลังออกแรงดิ้นขัดขืนคุณพ่อ โดยที่ภายในมือของเขากำลังถือเข็มฉีดยาเอาไว้ ซึ่งข้างในมันมีตัวอะไรไม่รู้ที่ขยับอยู่..

[หลังจากฉีดเจ้านี่เข้าไปความทรงจำของลูกจะผิดปกติ แต่มันจะค่อยๆดีขึ้น ยกโทษให้พ่อด้วย..]

[มะ..ไม่..!!!!!]

ตึง..

ยังไม่ทันที่ผมจะได้รู้อะไร จู่ๆภาพความทรงจำก็ตัดไป เหตุการณ์ใหม่ที่แทรกเข้ามาคือภาพของผมตอนที่เป็นทหารกำลังนั่งเล่นหมากรุกสากลอยู่กับชายชราผู้หนึ่ง..

[เธอยังใจร้อนและเธอก็ใช้หมากเปลืองเกินไป ไม่สมกับเป็นเธอเลย พันตรีสตาร์ลิน..]

[ท่านแค่เล่นเก่งเกินไปต่างหากล่ะครับ และผมก็ไม่เข้าใจว่าการมานั่งเล่นหมากรุกแบบนี้มันเกี่ยวอะไรกับการศึกษายุทธวิธีทางการทหาร เมื่อไหร่ท่านจะสอนผมจริงๆจังๆสักที..]

เสียงสนทนาระหว่างผมกับชายชรา เมื่อผมเพ็งมองไปยังใบหน้าของชายคนดังกล่าว มันก็ทำให้ผมนึกออกว่าเขาเป็นใคร..

โดยที่ชายชราคนนี้คือคนๆเดียวกันกับที่ผมได้เห็นในความทรงจำครั้งแรก เขานั้นคือจอมพลที่ตัวของผมในอดีตเคยสังกัดอยู่..

[หึ..ฉันก็กำลังสอนเธออยู่นี่ไง เกมหมากรุกมันก็คือเกมสงคราม ถ้าเธอเข้าใจมัน เธอก็จะเข้าใจในยุทธวิธีการ ไม่ว่าจะเป็นในเกมหรือชีวิตจริง การจะเดินหมากจำเป็นที่จะอ่านใจคู่ต่อสู้อยู่เสมอ ทุกๆตัวหมากที่เสียไป มันจะเกิดผลกระทบที่ตามมาอยู่เสมอ จงจำเอาไว้ให้ดีเสียล่ะ..]

ชายชราที่อธิบาย โดยที่คำพูดของเขามันก็ทำให้ผมในช่วงเวลานั้นเข้าใจอะไรบางอย่างได้ ผมเริ่มที่จะฝึกฝนและเล่นหมากรุกกับท่านจอมพลอย่างจริงจัง ในทุกๆวันผมจะมาเล่นหมากรุกกับเขา รู้สึกตัวอีกทีผมก็เล่นกับเขามาเป็นร้อยๆเกม จนกระทั่งผมสามารถที่จะเอาชนะเขาได้จนสำเร็จ..

[คิดไม่ถึงว่าคนอย่างฉันจะพ่ายแพ้ ถ้าเป็นคนปกติคงจะต้องเล่นกับฉันเป็นแสนๆเกม จึงจะสามารถเอาชนะฉันได้ แต่กับเธอที่มีเจ้าสิ่งนั้นอยู่ จึงทำให้เล่นไปแค่ร้อยเกมก็สามารถที่จะเอาชนะฉันได้แล้ว]

[ไม่หรอกครับ..ผมไม่ได้ใช้โปรเจค X ผมเล่นกับท่านอย่างตรงไปตรงมา ผมแค่พยายามศึกษาและอ่านใจของท่านก็เท่านั้น ไม่เชื่อถามไอ้เอ็กซ์ได้..]

[ช่าย..~ ผมไม่ได้ช่วยไอ้ระยำนี่เลยนะ]

[หึ..งั้นเหรอ..? แต่จะว่าไป เอ็กซ์..เธอไม่สนใจจะไปอยู่กับคนอื่นบ้างเหรอ..? หลังจากที่พันตรีปลดประจำการไปแล้ว ด้วยพลังของเธอน่..ะ..]

[ไม่ล่ะครับ ผมก็อยากจะไปใช้ชีวิตแบบจู๋ธรรมดาทั่วๆไปบ้าง อีกส่วนหนึ่งไอ้ระยำนี่ก็เป็นครอบครัวของผมเพียงคนเดียว อยู่กับมันมาตั้งแต่เด็กแล้วด้วย]

เฮ้ย..นะ..นี่มันอะไรกัน ทำไมไอ้จ้อนถึงคุยกับคนอื่นได้ด้วยล่ะ..

[หึ..อย่างงั้นเองสินะ แต่ก็เอาเถอะ ถ้าเธอเอาชนะฉันได้ ในโลกนี้ก็ไม่มีใครที่จะเอาชนะเธอได้แล้ว ถ้างั้นฉันจะสอนยุทธวิธีไร้พ่ายที่มีเฉพาะเธอเท่านั้นที่จะใช้ได้ให้ ถ้าเกิดใช้ยุทธวิธีนี้ โดยมีเธอเป็นคิงแล้วล่ะก็ ถึงต่อให้เอานักวางกลยุทธ์ชั้นยอดมาก็ไม่มีทางที่จะเอาชนะเธอได้ จงดูให้ดี..!]

แต๊ก..!

จอมพลที่บอกกับผม ก่อนที่เขาจะเริ่มเดินหมาก ทันทีที่เขาเปิดเบี้ยและผมเดินเบี้ย จู่ๆเขาก็เดินคิงออกมา..

[เดินคิงงั้นเหรอครับ..?]

[หึ..ถ้าแม้แต่คิงยังไม่เดิน แล้วหมากตัวอื่นจะกล้าเดินตามได้ยังไงกันล่ะ..?]

ฟุบ..!

“แฮกๆ..!”ผมที่ได้สติกลับคืนมา และนั่นก็คือภาพความทรงจำสุดท้ายที่ได้เห็น นี่มันเรื่องอะไรกันแน่..?

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด