Sword of horny ดาบแสงพลัง X กับทรชนพันธุ์ระยำ.. 9

Now you are reading Sword of horny ดาบแสงพลัง X กับทรชนพันธุ์ระยำ.. Chapter 9 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

แสงที่ 9 ได้เวลาล่าเหยื่อ..

ท่ามกลางร่างของเอลซ่าที่กำลังนอนคร่อมอยู่บนร่างของผม ในตอนนี้ผมเริ่มที่จะเข้าใจอะไรขึ้นมาได้บ้างแล้ว ความทรงจำที่ผมเอาชนะเซอร์เคิลได้ จู่ๆก็กลับมา ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ผมกลับจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้..

“แกทำบ้าอะไรของแกวะ..?!”เสียงของเอลซ่าที่ตะค่อกใส่หน้าผม ผมรีบผลักเธอออกอย่างไว ก่อนจะชันตัวลุกขึ้นยืน..

“อะ..เอลซ่า..”เสียงของชิออนที่เอ่ยดังขึ้น ดูเหมือนว่าเธอจะพึ่งได้สติ..

“ชิออน..ทำใจดีๆเอาไว้นะ ยังไงฉันจะช่วยเธอก่อน..”เอลซ่าที่ละความสนใจจากผม พลันวิ่งตรงเข้าไปหาชิออน ซึ่งในระหว่างนั้นผมก็เดินไปหยิบดาบ ก่อนจะทบทวนเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้น

“อย่างนี้นี่เอง..ถึงจะไม่รู้ว่ามันคือพลังอะไร แต่ถ้าเป็นพลังนี้พวกเราต้องรอดแน่ๆ แต่จะว่าไป..นี่แกเป็นซูปเปอร์ฮีโร่ปะ กลางคืนออกท่องราตรีเพื่อผดุงความยุติธรรม พอตื่นขึ้นมาตอนเช้าก็กลับจำอะไรไม่ได้..”ไอ้จ้อนที่กล่าวออกมา และก็ไม่ใช่มันเพียงแค่คนเดียวที่จำได้ว่าก่อนหน้านี้ผมสามารถที่จะเอาชนะเซอร์เคิลได้..

“ไม่หรอก..มันไม่น่าจะใช่พลัง ในครั้งนี้ฉันมั่นใจอยู่อย่างหนึ่ง ดูเหมือนว่าความทรงจำของพวกเรามันจะต้องมีปัญหาแน่ๆ ภาพเหตุการณ์ต่างๆที่พวกเราเห็นทันทีที่อาการนี้โผล่ออกมา นั่นจะต้องเป็นความทรงจำของฉันในโลกก่อนที่ขาดหายไปอย่างแน่นอน เพราะตัวของฉันเองก็เริ่มที่จะเอะใจแล้วว่าทำไมก่อนที่จะถูกส่งมาอยู่ในร่างนี้ ความทรงจำในตอนที่ยังอยู่โลกเดิมมันถึงได้ขาดๆหายๆไป..”

“จะว่าไปแล้วมันก็ใช่แหะ ครั้งสุดเท่าที่จำได้แกก็กลายเป็นนีทที่วันๆเอาแต่เก็บตัวอยู่แต่ภายในห้อง แล้วเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นล่ะ หลังจากช่วงที่แกเรียนจบ พวกเราไปอยู่ที่ไหนกันมา..?”ไอ้จ้อนที่กล่าวออกมา และแล้วความจริง มันก็เริ่มที่จะปรากฏขึ้นเรื่อยๆ 

ผมเรียนจบตอนอายุ 18 ความทรงจำล่าสุดเท่าที่จำได้คือช่วงที่ผมเก็บตัวอยู่แต่บ้านประมาณ 2-3 ปี จนอายุของตัวเองกำลังจะย่างเข้า 30 คำถาม..แล้วช่วงเวลาอีก 8-9 ปีที่เหลือผมไปอยู่ที่ไหนมา ผมไม่มีทางที่จะเป็นนีทตั้งแต่อายุ 18 และใช้ชีวิตมาได้จนถึงอายุ 30 แน่ๆ 

“ไม่แน่ว่าฉันอาจจะเคยเป็นทหารหรืออะไรมาก่อน..”ผมที่ตอบกลับไอ้จ้อน เท่าที่ผมพอจะเดาออก ไม่แน่ว่าในช่วงหลังจากที่ผมเรียนจบไป ผมอาจจะไปสมัครเป็นทหารในกองทัพ ก่อนจะถูกกองทัพไล่ออกจากความผิดปกติของความทรงจำที่ผมเป็นอยู่ในตอนนี้..

“แต่ถึงอย่างงั้นก็เถอะ เท่าที่ฉันสังเกตเห็น ไอ้อาการความจำเสื่อมของแก ไหงแกจะกลับมาจำได้ตอนที่แกจับหน่มน้มตลอดเลยฟะ แต่ก็เอาเถอะ..ถือว่าเป็นลาภมือไป..”ไอ้จ้อนที่กล่าวออกมา ในสถานการณ์แบบนี้มันก็ไม่วายที่จะหื่นกาม สมแล้วที่แกเป็นได้แค่ไอ้จู๋..

“เท่าที่ฉันเข้าใจ ถ้าอาการนี้สงบลงเมื่อไหร่ พวกเราจะต้องหมดสติอีกแน่ๆ และพอได้สติฟื้นขึ้นมา พวกเราจะลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อจากนี้ไป…”ผมที่คาดเดาสถานการณ์ เพราะจากล่าสุดเท่าที่จำได้ก็คือตอนที่ผมจับหน้าอกของเจมิส ก่อนที่หลังจากนั้นพอได้สติผมก็จะลืมเรื่องราวทุกอย่างไป จนกว่าที่อาการนี้จะกลับมาปรากฏหรือถูกปลุกโดยการกระตุ้นอีกครั้ง

“เออนั่นดิ ถ้าจู่ๆอาการแม่งสงบลงนี่เชี้ยเลยนะ..”ไอ้จ้อนที่กล่าวออกมา แต่จะว่าไปแล้ว ทันทีที่อาการนี้กำเริบ นอกจากที่ความทรงจำบางส่วนของผมจะกลับมาแล้ว ผมยังรู้สึกว่าร่างกายมันร้อนเหมือนจะระเบิดออกมาตลอดเวลา อีกทั้งหัวใจของผมยังเต้นเร็วผิดปกติ นี่อาจจะเป็นเพราะอะดรีนาลีนที่กำลังพลุ่งพล่าน เดี๋ยวนะ..อะดรีนาลีนงั้นเหรอ..?

“รู้แล้ว..! อะดรีนาลีนไง..อาการนี่จะถูกปลุกก็ต่อเมื่อฉันตื่นเต้น..”

“หลอนละ..แล้วไอ้ที่แกกำลังจะโดนฟันก่อนหน้านี้ อะดรีนาลีนแกไม่พลุ่งพล่านหรือไง..?”ไอ้จ้อนที่กล่าวออกมา ถึงคำพูดของมันจะฟังดูมีเหตุผลแต่..

“ก็เออดิ..กลัวกับตื่นเต้นมันต่างกันนะเว้ย ฉันก็เหมือนแกนั่นแหละ สิ่งเดียวที่จะทำให้ฉันตื่นเต้นได้ก็มีแต่เรื่องอย่างว่าเท่านั้น..”ผมที่ตอบกลับไอ้จ้อน ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าอะดรีนาลีนของผมจะหลั่งเฉพาะแค่กับเรื่องพวกนี้..

“เอาเถอะช่างมันก่อน ก่อนอื่นพวกเราต้องรีบทำอะไรสักอย่าง ถ้าเทียบตอนนี้กับครั้งที่แล้ว ฉันรู้สึกว่าความสามารถเรื่องการต่อสู้จะเพิ่มขึ้นมาเป็น 5% แล้ว..”

“ห้ะ..? 5% แล้วครั้งก่อนมันกี่เปอร์เซ็นต์กันวะ นี่แกเป็นกัปตันอเมริกาหรือไง..?”ไอ้จ้อนที่กู่ร้องออกมา อย่าว่าแต่มันเลย ผมเองก็อึ้งไม่ต่างจากมันสักเท่าไหร่หรอก ยิ่งพอความรู้สึกมันบอกกับว่าผมเข้าใจความสามารถของตัวเองในตอนนี้เท่าไหร่ มันก็ยิ่งทำให้ผมรู้สึกเริ่มที่จะกลัวตัวเองในช่วงที่เป็นทหาร หรือว่าผมจะเป็นซูปเปอร์โซเยอร์กันนะ

แต่แล้วทันใดนั้น..

ติ๊ง..!

《ชารจ์พลังงาน 10 หน่วย》

ติ๊ง..!

(เงื่อนไขถูกปลดล็อค)

(ระบบเอมพาสทำงาน)

《ข้อมูลเบื้องต้น》

《ชื่อผู้ใช้:สตาร์ลิน》《ชื่อเอมพาส:โปรดระบุ》

《ชนิด/ประเภท:ยุทโธปกรณ์พิเศษ》

《ระดับคริสตัลมานา:☆(ขาว)》

《พลังงานแบตเตอรี่:10/60 หน่วย》

《EXP:10/100》

《ดูเพิ่มเติม..》

เฮ้ย..! อะไรวะเนี่ย ว้าว..~ ระบบแหละ ระบบเว้ย..จู่ๆก็มีหน้าต่างสเตตัสที่โผล่ออกมาภายในหัวของผมในช่วงจังหวะที่ผมกระพริบตา แต่พอลืมตามันก็หายไป ดูเหมือนว่าผมจะเห็นมันก็ต่อเมื่อตอนที่ผมหลับตาลง..

ฟุบ..!!!

ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด ดูเหมือนว่าตอนนี้ผมจะสามารถใช้ไลท์เซเบอร์ได้แล้ว แต่จะใช้ได้มากน้อยแค่ไหนผมเองก็ยังไม่มั่นใจ จากแบตเตอรี่ที่มีเพียงแค่ 10 หน่วย แต่เดี๋ยวนะ..อึก ก่อนหน้านี้มันบอกว่ามันชาร์จพลังงาน แล้วมันชาร์จยังไงวะ..

“เฮ้ย..แกน่ะ มาช่วยหน่อยดิ่..!”เสียงของเอลซ่าที่ตะโกนเรียกผม เธอกำลังลากร่างของฟอร์เน่และมีน่าให้มาหลบอยู่ในที่ปลอดภัยหรือใต้ต้นไม้ต้นเดียวกันกับที่ชิออนกำลังนั่งอยู่..

“เรื่องอะไรล่ะ เมื่อกี้เธอยังจะฆ่าฉันอยู่เลย..”ผมที่ตอบกลับ และก็พอจะเดาออกว่าตัวเองจะตอบไปแบบนั้น 

“นี่แก..!”

ฟุบ..!!!

ทันใดนั้นจู่ๆร่างของทหารจากเมลันเทียนายหนึ่งก็โผล่ออกมาจากที่อีกฟากหนึ่งของต้นไม้ ถ้าผมจำที่ฟอร์เน่รายงานจำนวนของพวกมันมาไม่ผิด รู้สึกว่าก่อนหน้านี้ข้างหน้าจะมีพวกมันอยู่แปดคน สามคนแรกที่ตายไปคงจะถูกส่งให้เข้ามาดูลาดเลา พออีกห้าคนเห็นว่าเพื่อนหายไปนานจึงไม่กล้าที่จะตามเข้ามาโจมตีแบบสุ่มสี่สุ่มห้า..

ฟุบ..!

เคร้ง..!!!

ทหารจากเมลันเทียที่ง้างดาบขึ้นสูง ก่อนจะฟาดฟันลงไปยังร่างของเอลซ่า ซึ่งเธอนั้นก็ไหวตัวทันจึงสามารถยกดาบขึ้นมาตั้งรับเอาไว้ได้ทัน..

“กรอด..!”

“มันมีอยู่ห้าคน บาดเจ็บ สะ..สี่..!”

ฟ้าว.!!!

ฉึก..!!!

ปึก..!

ทหารจากเมลันเทียที่กำลังจะตะโกนบอกเพื่อนของมัน แต่ทันทีที่มันพูดจบ มันก็ถูกดาบที่ผมเหวี่ยงปาออกไปเสียบเข้าที่กลางลำคอจากทางด้านข้างอย่างแม่นยำ ก่อนที่ปลายดาบนั้นจะทะลุปักเข้ากับต้นไม้ 

“อั่ก อะ..อ่อก..”ร่างของทหารเมลันเทียที่ตาเหลือกถล่นสำลักเลือดออกมา มันพยายามที่จะตะเกียดตะกายดึงดาบออกจากลำคออยู่ชั่วอึดใจหนึ่ง แต่สุดท้ายก็สิ้นใจตายไปต่อหน้าต่อตาของเอลซ่าที่กำลังยืนตกตะลึงจนตาค้างอยู่..

“ทหารยศโกลด์หนึ่ง..ตายเพราะการโจมตีพรรค์นี้เนี่ยนะ..?”เอลซ่าที่กล่าวออกมาอย่างอึ้งๆ ถึงผมจะไม่รู้ว่าที่เธอพูดมันหมายความว่ายังไง แต่ทหารที่ผมพึ่งฆ่าจะต้องมีฝีมืออยู่ในระดับหนึ่งแน่ๆ

แต่ถึงยังไงตอนนี้ดูเหมือนว่าไอ้พวกที่เหลือคงจะรู้ถึงข้อมูลของพวกเราแล้ว อีกเดี๋ยวพวกมันก็คงจะแห่กันมา..

“สิบเอกเอลซ่า เธอจงพาทุกๆคนถอยออกไปยังที่ปลอดภัยซะ..”ผมที่ออกคำสั่งกับเอลซ่า เพราะเธอมีเวทเสริมกำลัง คงจะสามารถแบกคนสามคนออกไปพร้อมกันได้..

“นี่แก..อย่ามาออกคำสั่..ง.”

“ฟะ..ฟังที่ท่าน ผบ.หมู่ สั่ง ปะ..เป็นไปอย่างที่ท่านร้อยตรีบอกจริงๆด้วย..”ชิออนที่กล่าวออกมา น้ำเสียงของเธอฟังดูอ่อนแรง จากการเสียเลือดไปเป็นจำนวนมาก..

“หมายความว่ายังไง..?”เอลซ่าที่ดูเหมือนจะไม่เข้าใจกล่าวออกมา..

ฟุบ..!!!

ร่างของผมที่สังเกตเห็นถึงความผิดปกติ พลันพุ่งเข้าไปยังต้นไม้ที่ทุกๆคนยืนอยู่ ซึ่งมันก็เป็นไปอย่างที่ผมคิด จู่ๆร่างของทหารเมลันเทียจำนวนสองนายก็ปรากฏตัวอ้อมออกมาจากที่อีกฟากหนึ่งของต้นไม้ทั้งทางซ้ายและขวามือ..

โดยที่พวกมันทั้งสองดูเหมือนจะแอบฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้น เมื่อมั่นใจว่ามีคนบาดเจ็บตามรายงานที่ได้ยินมาจากทหารที่พึ่งจะตายไป พวกมันจึงลอบเข้ามาโจมตีเอลซ่าที่อยู่ตรงกึ่งกลางพร้อมกัน แต่ทว่ามันกลับเปลี่ยนเป้าหมายโดยฉับพลันเมื่อสังเกตเห็นผม..

ตึก..!!!

ชวิ้ง..!!!!!

ผมที่ดีดตัวพุ่งทะยานพร้อมทั้งกดสวิตซ์เปิดการใช้งานของดาบแสงภายในมือ ก่อนที่จู่ๆจะมีเลเซอร์พลังงานสูงสีแดงที่พวยพุ่งออกมาจากด้ามจับกลายเป็นใบดาบ เป็นช่วงจังหวะเดียวกันกับที่เป้าหมายทั้งสองจะดีดตัวตีคู่เข้ามาหาผม..

หวิ่ง..!!!!!!

ภายในชั่วพริบตา..ในช่วงจังหวะที่ทหารทั้งสองนายได้ทำการง้างดาบหมายจะฟันผม ผมที่ทะยานเข้าไปประชิดร่างของพวกมันก็ได้เหวี่ยงดาบแสงในมือฟันออกไปยังใบดาบของพวกมัน โดยที่การเหวี่ยงดาบของผม มันทำให้เกิดเป็นเสียงเฉพาะตัว

ฉ่า..!!!~

ดาบเลเซอร์ที่เคลื่อนตัวตัดผ่านใบดาบของนายทหารทั้งสอง แต่จะบอกว่ามันเป็นการตัดมันก็ไม่ถูกเสียทีเดียว มันคือการหลอมละลายด้วยพลังงานความร้อนสูงกว่าหลายพันองศา

หวิ่ง..!!!!

ตุบๆ 

ใบดาบไลท์เซเบอร์ที่เคลื่อนตัวต่อเนื่อง ก่อนจะตัดผ่านเข้าสู่ลำตัวของนายทหารทั้งสองนายพร้อมกันในแนวนอนจนแยกขาดออกเป็นสองท่อน โดยที่ผมแทบจะไม่ต้องออกแรง..

“อ้ากกกกกกก..!!!×2″ร่างท่อนบนของนายทหารทั้งสองที่ร้องตะโกนออกมาด้วยความเจ็บปวด แต่ทว่าตรงรอยตัดที่แยกขาดกลับไม่มีเลือดที่ไหลออกมา..

ซึ่งเหตุผลนั้นก็เพราะว่าพลังงานจากใบดาบเลเซอร์ทำให้แผลไหม้ในทันที ไม่ว่าจะเป็นแผลที่สาหัสแค่ไหนก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้นแล้วคนที่ถูกการโจมตีของมันตัดร่างจะต้องเจ็บปวดทุกข์ทรมานกว่าหลายเท่า..

หวิ่ง..!

ติ๊ก..!

ผมที่ควงดาบแสงหนึ่งจังหวะ ก่อนจะกดปุ่มปิดการทำงานของมัน ทำให้ใบดาบเลเซอร์หดและอันตรธานหายไป..

ฟุบ..

ผมที่เดินตรงเข้าไปหาชิออน ก่อนจะนั่งยองๆลงต่อหน้าของเธอ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เอลซ่าได้แต่ยืนช็อคอ้าปากค้าง..

“ก่อนหน้านี้ ผบ.ร้อย บอกอะไรกับเธอ..?”ผมที่เอ่ยถามกับชิออน พลางตบหน้าของเธอเบาๆเพื่อเรียกสติที่กำลังจะดับวูบ..

“ทำอะไรน่ะ เธอบาดเจ็บอยู่น..ะ..”

“หุบปาก..!”ผมที่หันไปกล่าวกับเอลซ่าด้วยน้ำเสียงแข็งๆ ยัยเวรนี่ไม่รู้จักมารยาททางการทหารเหรอ ผู้บังคับบัญชากำลังพูดอยู่อย่างสะเออะแทรกเข้ามา เดี๋ยวๆ นี่ผมจะเปลี่ยนไปทั้งจิตใต้สำนึกไม่ได้..

“อึก..”เอลซ่าที่ผงะ ภายในสายตาของเธอที่เห็นสตาร์ เธอกลับรู้สึกว่าเขาเปลี่ยนกลายเป็นคนละคน..

“ทะ..ท่าน ผบ.ร้อยบอกกับฉันว่า ตัวของท่านนั้นมีพลังลึกลับที่ซ้อนเอาไว้อยู่ พลังลึกลับนั้นแม้แต่ตัวของท่านผบ.ร้อยก็ยังไม่แน่ใจว่ามันใช่พลังของเอมพาสหรือเปล่า แต่สิ่งที่เธอมั่นใจ คือการจะปลดพลังนั้นออกมาจำเป็นที่จะต้องผ่านเงื่อนไขเหมือนกับเอมพาสระดับสอง..”ชิออนที่กล่าวออกมา พอเอลซ่าได้ยินเธอก็อึ้งไปชั่วขณะ และก็ดูเหมือนจะเจมิสจะรู้เรื่องอาการผิดปกติของผม ถึงมันจะเป็นแค่อาการที่ปลดล็อคความสามารถที่แท้จริง แต่มันก็คงจะเป็นประโยชน์สำหรับเธอไม่น้อย นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่เธอลากผมมา..

“แล้ว ผบ.ร้อยได้บอกอะไรกับเธออีกไหม..?”ผมที่ถามกับชิออน ซึ่งเธอก็พยักหน้า..

“ท่านบอกวิธีการที่จะทำให้ท่าน ผบ.หมู่ปลดล็อคเงื่อนไขพลัง..”

“แล้วทำไมเธอถึงไม่ทำ..?”ผมที่ถามกับชิออน แต่ในวินาทีนั้นผมที่นั่งอยู่ก็พลันดีดตัวลุกขึ้นยืนพร้อมกับดึงดาบที่เสียบอยู่บนคอของนายทหารคนที่ตายอยู่คาต้นไม้ออกมาด้วยความเร็ว

ก่อนที่ต่อจากนั้นผมจะใช้ดาบเล่มนี้ขว้างปามันออกไปยังร่างของนายทหารจากเมลันเทียคนสุดท้ายที่กำลังแอบซุ้มมองพวกเราอยู่ อีกทั้งไอ้เจ้านั่นมันกำลังจะใช้เวทโจมตีระยะไกลลอบโจมตีใส่พวกเรา โดยตำแหน่งที่มันอยู่คือต้นไม้ทางขวามือที่อยู่ห่างออกไปประมาณกว่า 10 เมตร..

ชิ้ง..!!!!

ฟ้าว..!!!!!

ฉึก..!!!!!

ดาบที่หมุนตัวควงสว่างด้วยความเร็วพลันปักเข้ายังกลางใบหน้า ก่อนจะทะลุออกที่หลังหัวของเป้าหมาย ทันทีที่มันตายผมก็ย่อตัวลงมาคุยกับชิออนต่อ..

“เมื่อกี้ฉันถามว่าทำไมเธอถึงไม่ทำตามคำสั่ง..?”ผมที่เอ่ยถามกับชิออน..

“อะ..อึก ฉะ..ฉันแค่อาย..”ชิออนที่ตอบกลับ ใบหน้าของเธอกำลังแสดงออกถึงความรู้สึกผิด

“ฉันในตอนปกติจะจดจำอะไรไม่ได้ ก็อย่างที่เห็นว่าฉันจะขี้ขลาดมากแค่ไหน อีกทั้งจะยังไม่รู้ว่าตัวเองมีพลังอะไรซ่อนอยู่ ถ้าเกิดเมื่อกี้ยัยนี่ไม่บังเอิญปลดล็อคเงื่อนไขพลังของฉัน เธอรู้ไหมว่าความอายของเธอจะทำให้พวกเราทุกๆคนตายกันหมด..”ผมที่ต่อว่าชิออน แม้ว่าจะยังอยู่ในสมรภูมิ แต่ก็ควรที่จะสั่งสอน เพราะความผิดพลาดเล็กๆมันจะนำมาซึ่งความตาย การที่ผมต้องมานั่งพูดอะไรแบบนี้ อาจจะเป็นเพราะว่าผมคนก่อนเคยมีประสบการณ์ผ่านเรื่องพวกนี้มาแล้วอย่างโชกโชด..

“ฮึก..ดิฉันต้องขออภัยจริงๆคะ..”ชิออนที่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้กล่าวออกมา..

“จดจำเอาไว้ให้ดี สงครามมันไม่อาจจะเอาชนะได้ด้วยความรู้สึก มันต้องเอาชนะด้วยนักรบ..”

“เยดเข้อย่างคม..!”ไอ้จ้อนที่กล่าวออกมา และก็ดูเหมือนว่าคำคมของผมมันจะไปกระแทกความรู้สึกของชิออนและเอลซ่าเข้าอย่างจัง..

“อะ..อึก เวรแล้วไง..!”ผมที่ชะงักไป พร้อมกับเอามือขึ้นมาจับหัวใจ สิ่งที่สัมผัสได้คืออัตราการเต้นของหัวใจที่กำลังจะกลับมาเป็นปกติ..

“ทะ..ท่าน ผบ.หมู่ เกิดอะไรขึ้น..?”

“ถามได้..ระยะเวลาของพลังมันจะหมดลงแล้วน่ะสิ ถ้าไม่กระตุ้นมันฉันคงจะต้องหมดสติแน่ๆ..”ผมที่บอกกับชิออน ซึ่งเมื่อเธอได้ยินเช่นนั้นก็ชะงักไป

“ยังไงก็รีบถอยออกจากที่นี่กันก่อ..น..”

ฟุบ..!

“เธอทำอะไรน่ะ..?”ผมที่เอ่ยถามต่อชิออน เมื่อจู่ๆเธอก็ปลดกระดุมแหวกเสื้อของตัวเองออก จนเผยให้เห็นชุดชั้นในสีขาวผ้าเรียบ..

“ใช้ฉันเถอะคะ ตอนนี้ฉันไม่เหลือแรงที่จะสู้แล้ว อย่างน้อยๆก็อยากที่จะเป็นประโยชน์สำหรับท่าน..”ชิออนที่กล่าวออกมา เมื่อผมได้ยินเช่นนั้นก็ชะงักไป ถ้าเป็นผมคนเดิม สถานการณ์ในตอนนี้ก็คงจะคิดแล้วคิดอีก แต่ทว่า..

“ทำได้ดีมากทหาร..!”

หมับ..!

“อ๊า..~”ชิออนที่ส่งเสียงครางแปลกๆออกมา

“ย้าฮู้ว..!!!~”เสียงของไอ้จ้อนที่ร้องตะโกนออกมา เมื่อฝ่ามือของผมมันดันไปบังเอิญจับสัมผัสเข้ากับหน้าอกคัพ C ข้างซ้ายของชิออน (บังเอิญนะครับทีมงาน อย่าบินนะครับ)

ซูม..!!!!!~

จู่ๆทันใดนั้นอะดรีนาลีนภายในร่างของผมก็พุ่งกระฉูดออกมา เท่าที่สัมผัสได้คงจะยืดระยะเวลาไปได้อีก 15 นาที..

“อะ..อึก อย่างนี่เองสินะ..”เอลซ่าที่กล่าวออกมา..

ฟุบ..!

หมับ..!!

ทันใดนั้นร่างของเอลซ่าที่นั่งอยู่ก็ได้จับมือของผม ก่อนจะนำพามือข้างนั้นให้ไปจับสัมผัสที่หน้าอกของเธอ..

“ฉันต้องขอโทษจริงๆที่ก่อนหน้านี้ฉันคิดสงสัยนาย แม้ยศของพวกเราจะต่างกัน แต่นายช่วยชีวิตของพวกเราเอาไว้ ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว ได้โปรดขอคำสั่งด้วยค่ะ ท่านผบ.หมู่..!”เอลซ่าที่กล่าวออกมา แก้มขาวๆของเธอกำลังแดงระเรื่อแสดงออกถึงความประหม่าและอับอาย แต่ถ้าต้องทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมแล้ว การเสียสละร่างกายเพียงน้อยนิดก็คงไม่ใช่เรื่องที่แย่..

“หึ..ฉันจะทำเป็นมองไม่เห็นก็แล้วกัน..”ผมที่กล่าวออกมา อะดรีนาลีนภายในร่างกำลังพุ่งทะลักยิ่งกว่าเดิม จาก 15 นาที เพิ่มขึ้นเป็นครึ่งชั่วโมง..

《ชาร์จพลังงาน 10 หน่วย》

《ชาร์จพลังงาน 15 หน่วย》

เฮ้ย..อย่าบอกนะว่าการจับหน่มน้มนอกจากจะปลุกพลังความทรงจำแล้ว มันจะเป็นเงื่อนไขในการชาร์จพลังงานของดาบแสงด้วย เดี๋ยวก่อน..ผมที่กู่ร้องอย่างบ้าคลั่ง แต่ก็เอาเถอะ..ต่อจากนี้ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องที่ว่าแบตจะหมดแล้ว..

“ฉันรักโลกนี้โว้ย..!!!!”ไอ้จ้อนที่กู่ร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง..

“เอาล่ะ..สิบเอกเอลซ่ารับคำสั่ง..”ผมที่กล่าวออกมา 

“ค่ะ..!”

“พาสิบเอกชิออน ฟอร์เน่และมีน่าออกจากสมรภูมิไปหลบอยู่ในที่ปลอดภัย..”ผมที่ออกคำสั่ง เมื่อเอลซ่าได้ยินก็ชะงักไป..

“ละ..แล้วท่านผบ.หมู่ ล่ะคะ..!”เอลซ่าที่เอ่ยถาม..

“ฉันจะไปสนับสนุนที่แนวหน้า ส่วนเธอก็ดูแลทุกคน นี่คือคำสั่งของผู้บังคับบัญชาห้ามสงสัยหรือปฏิเสธเด็ดขาด..”ผมที่เปล่งเสียงกล่าวออกมาอย่างเด็ดขาด..

“รับทราบ..!”เอลซ่าที่ตอบกลับ เมื่อผมได้ยินเช่นนั้นก็เดินไปเอาดาบที่ปักอยู่บนกลางใบหน้าของทหารจากเมลันเทียคนที่ตายล่าสุด ก่อนจะหันไปมองเอลซ่าที่กำลังแบกสหายทั้งสามขึ้นหลังด้วยพลังของเวทเสริมกำลัง..

“ขอให้ท่านรอดกลับมาอย่างปลอดภัย ท่านผบ.หมู่..”เอลซ่าที่หันมาอวยพรผม โดยที่ผมก็พยักหน้ารับ..

“ระบบขอข้อมูลระดับแบตเตอรี่ในตอนนี้ด้วย..”

ติ๊ง..!

《พลังงานแบตเตอรี่:30/60 หน่วย》

“อัตราการลดของระดับแบตเตอรี่ ก่อนหน้านี้ได้เพิ่มมา 25 หน่วย หักลบกับที่เมื่อกี้ฉันเปิดใช้งานไปเพียงแค่ 5 วินาที นี่เล่นลด 1 วิต่อ 1 หน่วยเลยเหรอ ชักไม่ขำซะแล้วสิ..?”ผมที่ตรวจสอบข้อมูล ดูเหมือนว่าถึงต่อให้จะมีแบตเตอรี่เต็ม แต่ผมก็สามารถที่จะใช้มันได้แค่หนึ่งนาที..

“แต่ฉันว่าแกไหวนะ ความรู้สึกมันบอกน่ะ..”ไอ้จ้อนที่กล่าวออกมา..

“หึ..งานหมูๆเลยล่ะ..”ผมที่กระตุกรอยยิ้มออกมาด้วยความมั่นใจ ในตอนนี้ผมเริ่มที่จะรู้วิธีใช้พลังของความทรงจำแล้ว จากครั้งก่อนเพียงแค่นึกถึงวิธีการต่อสู้ ร่างกายและสมองก็เข้าใจมันโดยอัตโนมัติราวกับซึมซับเอาไว้อยู่ก่อนแล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่มีภาพเหตุการณ์ในช่วงที่ฝึกหรือขัดเกลาปรากฏออกมาให้เห็นก็ตาม..

“ถอย..!!!!!”

แต่แล้วทันใดนั้น ร่างของผมที่ยืนอยู่ก็พลันต้องเข้าไปหลบอยู่หลังต้นไม้ เมื่อเห็นว่าจู่ๆก็มีกลุ่มทหารจำนวนมากที่กำลังวิ่งกู่ตรงมาทางนี้..

ซึ่งทันทีที่ผมลองแอบชะโงกหน้าออกไปตรวจสอบ สิ่งที่พบนั่นก็คือกลุ่มทหารจากเอลเดียที่กำลังถอยร่นกลับลงมาจากการปะทะกันในแนวหน้า ดูเหมือนว่ากองกำลังทางปีกขวาจะเสียเปรียบในการสู้รบ จึงถูกสั่งถอนกำลังพลกลับออกมา จะเหลือก็แต่เพียงกองกำลังทางปีกซ้ายที่น่าจะยังคงปะทะอยู่ในแนวหน้า

ฟุบ..!

 

ท่ามกลางกองกำลังทหารจากเอลเดียที่วิ่งผ่านร่างของผมไป ผมที่ยืนอยู่ค่อยๆย่อตัวลงไป พร้อมกับใช้มือปาดเศษดิน ก่อนจะนำมันขึ้นมาปาดบนใบหน้าของตัวเองตามสัญชาติญาณ 

“เอาล่ะ..ได้เวลาล่าเหยื่อกันแล้ว..”

“โครตเท่เลยครับพี่ ผมคือจู๋ของพี่เองครับ..~”เสียงของไอ้จ้อนที่กล่าวออกมา..

 

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด