Sword of horny ดาบแสงพลัง X กับทรชนพันธุ์ระยำ.. 45

Now you are reading Sword of horny ดาบแสงพลัง X กับทรชนพันธุ์ระยำ.. Chapter 45 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

แสงที่ 45 ประลองกับปราชญ์อินทรี (1)

ท่ามกลางร่างของเหล่านักเรียนที่ยืนอยู่ ทุกๆคนต่างหันไปให้ความสนใจที่เอลิเซียและฮิตเลอร์..

“ดะ..เดี๋ยวนะ นั่นมันสองเทพธิดาที่สามารถเอาชนะผู้คุมสอบได้เมื่อเช้าหนิ แถมยังได้รับคำชื่นชมจากท่านพลโทเมอรัสด้วย เหตุการณ์เมื่อเช้ามันดังไปทั่วทั้งแผนกเลยนะ อาจารย์คนไหนก็ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าต่อจากนี้พวกเธอจะกลายเป็นอัจริยะที่ถูกจับตามอง..”

“สองเทพธิดาบ้านแกสิ เท่าที่ฉันได้ยินมา เห็นว่าอีกคนมันเป็นผู้ชายเว้ย..”

“เชี้ย..เอาจริงดิ..?!”

 

“ไม่จริงงงงง..!!”

“เรื่องพวกนั้นช่างมันก่อนเถอะ แต่เมื่อกี้สองคนนั้นตะโกนเชียร์เจ้านั่นไม่ใช่เหรอ..?”

“อ้าว..ไม่ใช่ว่าเจ้านั่นมันถูกทิ้งหรอกเหรอ..?”

เหล่านักเรียนที่ต่างพากันส่งเสียงฮือฮาพูดคุยกัน โดยที่หนึ่งในนั้นคือกลุ่มที่พึ่งจะนินทาสตาร์ไปเมื่อสักครู่..

“สตาร์งั้นเหรอ..? เดี๋ยวนะ หรือว่าจะเป็น..!”เมอรัสที่หยุดชะงักไป เขาครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะ ก่อนจะชันตัวลุกขึ้นยืนในทันทีที่นึกออก พร้อมกับเดินตรงเข้าไปหาสตาร์..

[สตาร์]

“นี่ครับ..”ผมที่หยิบบัตรสอบและเตรียมที่จะยื่นมันส่งให้กับพันตรีหรือผู้ที่กำลังจะทำการทดสอบผม..

ฟุบ..

หมับ..

ในช่วงจังหวะที่พันตรีกำลังจะเอื้อมมือมารับบัตรของผม จู่ๆเมอรัสที่เดินเข้ามาก็ได้เอื้อมมือมาแตะลงที่บ่าของเขา..

“หะ..หืม..? ทะ..ท่านพลโทเมอรัส..”พันตรีที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นๆ เขาดูประหม่าจนวางตัวไม่ถูก..

“พันตรีริคกี้ เธอเองก็ทดสอบมาตั้งแต่เช้าแล้ว ไปพักผ่อนเถอะ..”

“อะ..เออคือผมชื่อริคโก้ครับ แต่ไม่เป็นไรครับ แค่นี้สบายมาก..ผมยังไหว..”พันตรีริคโก้ที่ตอบกลับเมอรัส เขาดีใจจนตัวสั่นที่เสาหลักผู้นี้กำลังเป็นห่วงเขา แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่ ขนาดชื่อของตนอีกฝ่ายยังจำผิดเลย

“ฉันบอกให้ไปก็ไปเถอะ..”เมอรัสที่กล่าวออกมา ถึงสีหน้าที่แสดงออกจะดูปกติ แต่ผมกลับสังเกตเห็นว่าฝ่ามือที่กำลังใช้จับบ่าของพันตรีริคโก้กำลังออกแรงบีบมันอยู่..

“อะ..อึก คะ..ครับ..”พันตรีริคโก้ที่พยักหน้า ก่อนจะชันตัวลุกออกจากที่นั่งและเดินปลีกตัวออกไปในทันที..

ฟุบ..

เมอรัสที่หันไปมองตามหลังของริคโก้ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเดินไปไกลแล้ว เขาก็ใช้มือจับเลื่อนเก้าอี้และทำท่าเหมือนเตรียมที่จะนั่ง..

“ขออนุญาตินะครับ..”

“อะ..อึก..”

แต่แล้วทันทีที่เมอรัสหันหน้ากลับมา ร่างของเขาก็ต้องชะงักไป จากการที่ผมในตอนนี้ได้แอบชิ่งและวาปมาอยู่ยังโต๊ะสอบหมายเลขที่ 7 

ซึ่งเมื่อเมอรัสเห็นเช่นนั้นก็ค่อยๆยืดตัวกลับขึ้นมา ก่อนที่พี่แกจะเดินตรงตามผมมา..

“ขอบัตรสอบด้วย..”เสียงกล่าวของผู้คุมสอบจากโต๊ะที่นั่งหมายเลข 7 เป็นช่วงจังหวะเดียวกันกับที่เมอรัสจะเดินตามมาถึง..

“ผมเปลี่ยนใจแล้วขอไปโต๊ะสอบที่ 5 ดีกว่า..”ผมที่กล่าวออกมา ก่อนจะลุกพรวดและเดินหนีไปยังโต๊ะหมายเลขที่ 5 ในทันที..

ซึ่งพอเมอรัสเห็นเช่นนั้นก็ค่อยๆหรี่ตาลง เขาดูเหมือนจะรู้แล้วว่าผมกำลังหนีเขา อีกส่วนหนึ่งผมก็แค่อยากจะทดสอบให้มั่นใจก็เท่านั้น..

และแล้วมหากาฬหนังอินเดียก็เริ่มต้นขึ้น ทันทีที่เมอรัสเดินตามผมมา ผมก็รีบชิ่งหนีไปยังโต๊ะหมายเลขที่ 3 พอเขาตามมาอีก ผมก็หนีไปยังโต๊ะหมายเลขที่ 1 จนทำให้ใบหน้าของพลโทผู้นี้เริ่มที่จะขึ้นสี..

“ผู้คุมสอบหมายเลขคี่ทั้งหมดจงฟัง..!”เมอรัสที่แผดเสียงตะโกนออกมา ส่งผลทำให้ผู้คุมสอบหมายเลขคี่ต่างพากันหันมามอง..

“พวกแกทุกคนจงไปพักให้หมด นี่คือคำสั่ง..!”เมอรัสที่ตะโกนออกคำสั่งออกมา ส่งผลทำให้ผู้คุมสอบทุกๆคนต่างพากันงุนงง 

“ครับ..!!!/ค่ะ..!!!”ผู้คุมสอบหมายเลขคี่ที่ชันตัวลุกขึ้นยืนทำวันทยาหัตถ์ ไม่ว่าจะเป็นผู้คุมสอบจากเหล่าทัพไหนก็ต่างให้ความเคารพเมอรัส แม้จะงงแต่ก็ทำตามคำสั่งโดยไม่มีข้อโต้แย้ง..

ท่ามกลางความงุนงงของทุกๆสายตา เหล่าบรรดานักเรียนที่ยืนรอสอบอยู่เริ่มที่จะส่งเสียงซุบซิบนินทาจากสถานการณ์แปลกๆที่กำลังเกิดขึ้น..

“เกิดอะไรขึ้น..?”

“นั่นสิ..ทำไมจู่ๆท่านพลโทถึงสั่งให้ผู้คุมสอบไปพักกันล่ะ..?”

“แล้วคราวนี้พวกเราจะสอบยังไง..?”

“ไม่หรอกน่า..ท่านพลโทคงจะเป็นห่วงอาจารย์ผู้คุมสอบ เอาไว้อีกเดี๋ยวการสอบก็คงจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง..”

“อย่างนี้นี่เอง ถ้างั้นพวกเราก็แยกย้ายกันไปหาอะไรกินข้ามเวลากันเถอะ..”

เสียงพูดคุยของเหล่าบรรดานักเรียนที่ดังขึ้น ก่อนที่สุดท้ายแล้วกลุ่มนักเรียนที่ได้เลขคี่จะแยกย้ายกันออกไป ส่วนกลุ่มนักเรียนที่ได้เลขคู่ก็ต่างกลับมาทบทวนกลยุทธ์กันต่อ..

“แล้วพวกผมล่ะครับ..?”เสียงเอ่ยถามของทหารยศพันตรีจากโต๊ะสอบหมายเลขที่ 10 หรือหมายเลขคู่

“เดี๋ยวรอผู้คุมสอบเลขคี่กลับมาก่อน พวกแกค่อยสลับกันไป..”เมอรัสที่แสร้งทำเป็นกล่าวออกมา ก่อนที่เขาจะหันมามองผมที่กำลังนั่งอยู่บนโต๊ะสอบหมายเลขที่ 1

‘เล่นไม้นี้เลยเหรอะ..?’ผมที่คิดอยู่ภายใจและรู้สึกอึ้งนิดหน่อย..

ฟุบ..

“นั่งอยู่ตรงนั้นแหละ..”

ผมที่ทำท่าจะลุกออกจากที่นั่ง แต่ก็ต้องถูกเมอรัสที่กล่าวรั้งเอาไว้ เมื่อเห็นแบบนั้นผมจึงจำใจกลับลงมานั่งตามเดิม..

“ทำไมแกถึงหนีฉันล่ะ..?”เมอรัสที่เอ่ยถาม พร้อมกับทรุดตัวลงนั่ง..

“แล้วทำไมท่านถึงตามผมล่ะ..?”ผมที่ถามกลับ ซึ่งมันก็ทำให้เมอรัสเบิกดวงตากว้างขึ้นอยู่นิดหน่อย

“ฉันก็แค่สนใจในตัวของแกก็เท่านั้น ถ้าฉันเดาไม่ผิดแกคงเป็นคนที่สอนกลยุทธ์ให้กับนักเรียนหญิงสองคนนั้นสินะ..”เมอรัสที่เอ่ยถามกับผม ซึ่งมันก็ทำให้ผมรู้สึกทึ่งนิดหน่อย ดูเหมือนว่าชายคนนี้จะไม่ธรรมดาจริงๆ ทั้งๆที่ฮิตเลอร์กับเอลิเซียแค่ตะโกนเรียกผม แต่เขากลับอ่านเกมไปไกลและคาดเดาได้อย่างแม่นยำ..

“ท่านรู้ได้ยังไง..?”ผมที่ถามกลับเมอรัส..

“หึ..ก็แค่เดา ฉันน่ะได้ยินมาจากพันตรีสไปร์สหมดแล้วว่าแกสามารถที่จะเอาชนะเธอได้ แต่ก็เอาเถอะ..จะขอเข้าเรื่องเลยก็แล้วกัน ฉันต้องการที่จะประลองกับแกสักเกม..”เมอรัสที่กล่าวออกมา ก่อนจะเปิดประเด็น และมันก็เป็นไปอย่างที่ผมได้คาดการณ์เอาไว้..

“ขอปฏิเสธครับ..”ผมที่ตอบกลับทันควัน ซึ่งมันก็ทำให้เมอรัสพลันต้องหยุดชะงัก ก่อนจะชักสีหน้า..

“นี่..แก รู้หรือเปล่าว่ากำลังปฏิเสธใคร ฉันคือพลโ..ท..?”

“ผมรู้ว่าท่านคือใคร แต่ผมก็แค่คาดไม่ถึงว่าท่านจะใช้อำนาจกดขี่พลทหารตัวเล็กๆอย่างผมก็เท่านั้น นี่คือวิธีปฏิบัติของกองทัพเอทารอสอย่างงั้นเหรอ..?”ผมที่กล่าวออกมา พอเมอรัสได้ยินก็ยิ่งอึ้ง แน่นอนว่าสีหน้าของเขาดูไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่ถึงอย่างนั้น..

“หึๆ กะแล้วเชียวว่าแกมันพิเศษ แต่จงคิดดูให้ดีๆ ถ้าแกทำให้ฉันพอใจ แกจะสามารถจบหลักสูตรได้ในทันที..”เมอรัสที่ยื่นข้อเสนอกับผม..

“อื้ม..ผมคิดว่ารางวัลตอบแทนมันน้อยหน่อยไป..”ผมที่กล่าวออกมา ก่อนจะหันไปมองยังฮิตเลอร์และเอลิเซีย ซึ่งพอเมอรัสได้เห็นสายตาของผม อีกฝ่ายก็พลันหันไปมองตามในทันที..

‘อึก..ไอ้เด็กนี่ คิดจะต่อรองกับเราอย่างงั้นเหรอ..?’เมอรัสที่ชะงักไป ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าจะมองข้ามชายหนุ่มตรงหน้าไปไม่ได้..

“หึ..ถ้าแกทำให้ฉันพอใจได้ ฉันจะเพิ่มข้อเสนอให้สองคนนั้นจบหลักสูตรด้วย คราวนี้แกคิดว่าไง..?”เมอรัสที่กล่าวกับผม หึ..ตะกี้ตาลุงนี้คงจะคิดในใจประมาณว่า ไอ้เด็กนี่ คิดจะต่อรองกับเราอย่างงั้นเหรอ แหง่ๆ..

“ตกลงครับ..แต่ถึงอย่างงั้นเพื่อไม่ให้ท่านพลโทต้องเป็นเสียเปรียบอยู่ฝ่ายเดียว ผมก็อยากจะเพิ่มข้อเสนอทางฝ่ายผมไปด้วย ถ้าเกิดท่านสามารถเอาชนะผมได้ ผมจะยอมเป็นผู้สืบทอดให้ท่าน คิดว่าข้อเสนอนี้เป็นไง..?”ผมที่กล่าวกับเมอรัส เมื่ออีกฝ่ายได้ยินก็ต้องเบิกดวงตากว้างขึ้นอีกครั้ง ผสานกับใบหน้าที่แดงก่ำ..

 

ซึ่งผมก็พอจะเดาได้การที่เมอรัสมารอผมที่นี่ก็เพื่อที่จะทดสอบฝีมือของผม และถ้าผ่านเขาก็คงจะเลือกให้ผมไปเป็นผู้สืบทอดของเขา

“นี่แก..! กำลังดูถูกฉันอยู่อย่างงั้นเหรอ..?”

“ดูเหมือนว่าข้อเสนอนี้จะทำให้ท่านไม่พอใจสินะครับ ถ้างั้นผมจะเพิ่มทางเลือกให้อีก..ถ้าเกิดผมแพ้ท่าน ผมจะลาออกจากอาคัสและไปที่ค่ายทหารสามัญในทันที..”สิ้นคำพูดของผม เมอรัสที่นั่งอยู่ก็ต้องอึ้งไป..

“กะ..แก..อึก..”เมอรัสที่กำลังกล่าวแต่แล้วเขาก็ต้องสะอึก จากแววตาอันแสนเยือกเย็นที่ผมแสดงออกมา..

“หะ..หึ แล้วอย่ามาเสียใจทีหลังก็แล้วกัน ฉันตกลงรับข้อเสนอนี้..”เมอรัสที่กล่าวกับผม ก่อนที่พวกเราสองคนจะหยิบหมากขึ้นมาวางบนกระดาน..

“แล้วกฏล่ะครับ..?”ผมที่เอ่ยถามต่อเมอรัส..

“กฏ..? หมายความว่ายังไง ก็เล่นแบบปกติ..”เมอรัสที่ขมวดคิ้วกล่าวออกมา..

“ถ้าอย่างงั้นเรามาเล่นกันสักสามเกม ถ้าผมเอาชนะท่านได้หนึ่งในสามก็ถือว่าผมเป็นฝ่ายชนะ ตกลงไหมครับ..”ผมที่กล่าวกับเมอรัส พออีกฝ่ายได้ยินก็ขมวดคิ้วแน่น..

“หึ..ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่านั่นคือความมั่นใจหรือแกแค่เป็นคนโง่ที่ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเผชิญอยู่กับอะไร แต่ก็เอาสิ..ถ้าเกิดแกสามารถเอาชนะฉันได้จริงๆ ฉันหนึ่งในเก้าอินทรีก็จะยอมรับความพ่ายแพ้..”เมอรัสที่กล่าวกับผม รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าของเขากำลังแสดงถึงความเยือกเย็น..

“ถ้าอย่างงั้นผมขอเริ่มก่อนนะครับ..”ผมที่ตอบกลับ พร้อมกับเปิดฉากเดินเปิดเบี้ยตัวที่ห้า โดยที่เมอรัสก็จ้องมองอยู่ชั่วขณะ ก่อนจะเดินหมากของตัวเอง..

ฟุบ..

ผมที่เดินหมากสวนกลับอย่างฉับไว เมื่อเมอรัสได้เห็นก็ขมวดคิ้วแน่น ก่อนจะทำการเดินหมากตัวม้าออกจากช่อง..

ฟุบ..

ผมที่เดินหมากอย่างต่อเนื่องโดยแทบจะไม่ได้หยุดคิด พอเมอรัสได้เห็นรูปแบบการเดินหมากของผม เขาก็กระตุกรอยยิ้มออกมา ก่อนจะเริ่มทำการทดสอบผม..

“อึก..ยะ..แย่แล้ว ทำไมหมอนั่นถึงไปสอบกับท่านพลโทกันได้ล่ะ..?”เอลิเซียที่กล่าวออกมาด้วยใบหน้าที่ซีดเสีย..

“คะ..คุณสตาร์ มะ..ไม่นะ..”ฮิตเลอร์ที่กล่าวออกมาด้วยสีหน้าที่วิตกกังวล แต่ถึงอย่างไรหญิงสาวทั้งสองก็ทำได้เพียงแค่ภาวนาขอให้สตาร์เป็นฝ่ายชนะ..

“สำหรับแกแล้ว แกคิดว่านอกจากกลยุทธ์อะไรคือปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ได้รับชัยชนะในศึกสมรภูมิ..?”เมอรัสที่เปิดประเด็นเอ่ยถามผม ก่อนจะชะลอการเดินหมาก การที่เขาทำแบบนั้นแสดงว่าเขามั่นใจแล้วว่าตัวเองจะชนะในเกมนี้..

“แล้วสำหรับท่าน..ท่านคิดว่าอะไรคือปัจจัยล่ะครับ..?”ผมที่เอ่ยถามคำถามของเมอรัสกลับ..

“หืม..? ฉันถามแกอยู่นะ..”เมอรัสที่หรี่ตาเอ่ยกล่าวออกมา พลางเดินหมากลง..

“แต่ผมอยากรู้ในมุมมองของท่านก่อน..”ผมที่กล่าวออกมา ก่อนจะทำการเดินหมาก..

“หืม..? น่าสนใจดีหนิ..”เมอรัสที่เบิกดวงตากว้างขึ้น เขาค่อยๆคลี่รอยยิ้มออกมา พร้อมกับเดินหมากมาสกัดผม..

“สำหรับฉันแล้ว..ปัจจัยสำคัญที่รองจากกลยุทธ์คือกำลังพลที่มีศักยภาพ ซึ่งถ้าเกิดได้กำลังพลดังกล่าวมา มันจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของกลยุทธ์..”

“อย่างงั้นเองสินะครับ..”

“แล้วแกล่ะ..? คงจะไม่ได้คิดเหมือนกับฉันหรอกนะ ไม่อย่างงั้นฉันคงรู้สึกผิดหวังแย่เลย..”เมอรัสที่กล่าวออกมา เขาดูค่อนข้างที่จะคาดหวังในตัวของผม ลำพังเพียงแค่รูปแบบกลยุทธ์บนกระดานในตอนนี้ มันก็ทำให้เขามองผมด้วยสายตาที่เหมือนกำลังปรารถนาอะไรบางอย่าง..

“แน่นอนครับ..”ผมที่กล่าวออกมา เมื่อเมอรัสได้ยินก็เหมือนจะถอนหายใจ แต่ทว่าผมแค่หยุดเว้นวรรคเอาไว้ “ว่าผมไม่ได้คิดแบบเดียวกันกับท่าน..”

“หืม..แล้วในมุมมองของแกมันคืออะไรกันล่ะ..?”

“สำหรับผมแล้ว..สิ่งที่สำคัญรองจากกลยุทธ์คือผู้ที่ใช้กลยุทธ์ ถึงต่อให้จะมีกองกำลังที่แข็งแกร่งสักแค่ไหน หรือมีกลยุทธ์ที่ดีสักเท่าไหร่ แต่ถ้าเกิดมีผู้นำที่ไม่มีความสามารถ มันก็เหมือนกับการส่งกองกำลังทหารให้ไปตายอย่างไร้ค่า

ท่านอย่าลืมสิครับ..กลยุทธ์คือสิ่งที่ไม่ตายตัว เพราะมันสามารถที่จะพลิกแพลงและแก้ไขได้ตลอดเวลาตามสถานการณ์ ซึ่งถ้าเกิดผู้นำหรือผู้ที่ใช้กลยุทธ์ไม่อาจที่จะรับมือกับการพลิกแพลงกลยุทธ์ของศัตรูได้แล้ว 

ผลลัพธ์ที่ออกมามันจะเป็นยังไงท่านก็น่าจะรู้ดี และที่สำคัญอย่านึกว่าผมจะตามท่านไม่ท่าน ท่านเองก็รู้คำตอบนี้ดีอยู่แล้ว ใช่ไหมล่ะครับ..?”สิ้นคำพูดของผมดวงตาของเมอรัสก็เบิกกว้างขึ้น พร้อมกับรอยยิ้มที่ถูกกระตุกออกมา

 

โดยคำตอบที่เมอรัสให้ผมในตอนแรก นั่นเป็นเพียงแค่คำตอบที่เอาไว้ใช้ลองเชิงผมก็เท่านั้น ส่วนคำตอบจริงๆ ก็คือคำตอบที่ผมพึ่งจะให้เขาไป

“ยอดเยี่ยม..ยอดเยี่ยมจริงๆ แกเป็นคนแรกเลยที่สามารถตอบคำถามนี้ได้..”เมอรัสที่บอกกับผม เอาจริงดิ..? จะโง่ก็ให้มันมีลิมิตหน่อย นี่ไม่มีใครตอบได้เลยจริงดิ..?

“เรื่องจริงเหรอครับ..? ทั้งอาคัสไม่มีใครที่คิดได้เลยหรือยังไงกัน ชักจะรู้สึกท้อใจขึ้นมาแล้วสิ เมื่อรู้ว่าพอจบไปผมจะต้องเอาชีวิตไปฝากเอาไว้กับคนพวกนี้..”ผมที่กล่าวออกมา พร้อมกับสบถบ่น และพอเมอรัสได้ยินก็ถึงกับ..

“อุ๊บ ฮ่า ๆ ๆ ก็ไม่เชิงหรอก..ฉันหมายถึงคนที่มาขอฝากตัวเป็นผู้สืบทอดของฉันแค่เท่านั้น คนที่มีมุมมองแบบฉันกับแกก็ยังมีอยู่..”เมอรัสที่ส่งเสียงหัวเราะออกมา ทำเอาผู้คุมสอบและนักเรียนจากโต๊ะอื่นๆต่างพากันหันมามองพวกเรา..

“เมื่อกี้..มีนักเรียนคนหนึ่งมาขอฝากตัวเป็นผู้สืบทอดของฉัน เท่าที่ฉันได้ยินมาไม่ผิดเห็นว่าเธอเป็นหัวกระทิของชั้นเรียนขั้นที่สามด้วย แล้วแกรู้ไหมว่าคำตอบของถามเมื่อสักครู่ที่เด็กนักเรียนคนนั้นให้ฉันมันคืออะไร..?”เมอรัสที่เอ่ยถามผม พลางเดินหมากบนกระดาน ถึงแม้ว่าเขาจะชวนคุย แต่สถานการณ์บนเกมกระดานในตอนนี้เริ่มที่จะตึงเครียด..

“เธอตอบแบบไหนเหรอครับ..?”

“ก็ตอบแบบที่ฉันตอบแกไปในตอนแรกยังไงล่ะ และพอฉันบอกมุมมองของฉันไป มันก็ทำให้เธอคนนั้นดูเหมือนจะอึ้ง ก่อนที่กลยุทธ์ของเธอจะถูกฉันทำลายจนย่อยยับ..”

“อย่างงั้นเองสินะครับ..”

ตึก..!

ผมที่กล่าวออกมา พร้อมกับวางหมากลงบนกระดาน ส่งผลทำให้ดวงตาของเมอรัสต้องเบิกกว้างขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับสีหน้าที่เริ่มจะตึงเครียด..

“ผมแพ้แล้วล่ะ..ท่านน่าจะดูออกสินะ..”

“อืม..ถ้าขืนเล่นต่อไป แกก็แพ้จริงๆนั่นแหละ แต่ทว่าเกมนี้มันก็ทำให้ฉันได้รู้ถึงความสามารถของแก การเดินหมากอันแสนรวดเร็วที่ดูเหมือนจะไม่ได้หยุดคิด ไม่ใช่เพราะว่าแกประมาทหรือเดินมั่วๆ หากแต่แกอ่านรูปแบบเกมเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว ไม่ว่าจะคิดเร็วหรือคิดช้า ผลลัพธ์ก็คงจะออกมาเป็นแบบนี้ ฉันพูดถูกใช่ไหม..”

“ถูกอย่างที่ท่านว่านั่นแหละ ตั้งแต่ที่เกมได้เริ่มต้นขึ้น ผมก็ได้อ่านกลยุทธ์ล่วงหน้าและรูปแบบที่จะออกมาเอาไว้หมดแล้ว ซึ่งผลลัพธ์นี้ก็คือรูปแบบที่ผมเลือกและตั้งใจจะให้มันออกมา..”

“ทำไมกันล่ะ..?”

“เพราะรูปแบบนี้ มันไม่ใช่การแพ้อย่างราบคาบ ถ้าเกิดนี่เป็นสมรภูมิจริงๆ ผมสามารถตัดกำลังพลของท่านไปได้เยอะ..”สิ้นคำพูดของผม เมอรัสก็ถึงกับอึ้งไปในทันที..

“ก็ถูกอย่างที่แกพูด ขนาดฉันใช้กลยุทธ์โต้ตอบที่น่าจะแก้ไขรูปเกมได้ แต่สุดท้ายก็ถูกแกบีบบังคับให้ต้องสูญเสียหมาก นี่แก..จงใจจะแพ้ตั้งแต่ทีแรกแล้วอย่างงั้นเหรอ..?”เมอรัสที่เอ่ยถามกับผม ดูเหมือนว่าเขาจะรู้ตัวแล้ว..

“….”ผมที่ไม่ได้ตอบกลับอะไร เพียงแค่ฉีกรอยยิ้มออกมา ซึ่งเมื่อเมอรัสเห็นแบบนั้นก็ดูเหมือนจะทึ่งในตัวของผมยิ่งขึ้นไปอีก จนทำให้เขาค่อยๆก้มหน้าลงไป.

“ออกจากทารอนและย้ายมาอยู่ที่เอทารอส แกน่ะ..จงมาเป็นผู้สืบทอดของฉันซะ ไม่ใช่เพียงแค่ตำแหน่งว่าที่ แต่ฉันขอเลือกแกให้มาเป็นผู้สืบทอด..”เมอรัสที่กล่าวออกมา สีหน้าของเขาดูจริงจังเป็นอย่างมาก..

“เดี๋ยวก่อนสิครับ ผมยังไม่ได้แพ้สักหน่อย ผมยังเหลือโอกาสอีกตั้งสองเกมนะครับ..”ผมที่บอกกับเมอรัส พอเขาได้ยินก็ถึงกัยชะงัก..

“นี่แก..ฉันอุตส่าห์มอบโอกาสที่แกไม่สามารถหาได้ที่ไหนให้นะ แกลองคิดดูให้ดีๆก่อนเถอะ..”

“นี่..ท่านพลโท ท่านคิดว่าท่านเป็นเสาหลักเพียงคนเดียวที่ยื่นข้อเสนอนี้ให้กับผมเหรอครับ..?”ผมที่เงยหน้าขึ้นมากล่าวกับเมอรัส ส่งผลทำให้อีกฝ่ายต้องหยุดชะงักไปด้วยความตกตะลึง..

“นะ..นี่อย่าบอกนะว่า..”

“ผมก็บอกไปแล้วไงว่าถ้าเกิดผมแพ้ ผมจะยอมเป็นผู้สืบทอดของท่าน หรือไม่ก็ถูกส่งไปที่ค่ายทหารสามัญ..”ผมที่เบี่ยงประเด็นบอกกับเมอรัส พลางตั้งกระดานวางหมากใหม่..

“อะ..อึก แกนี่มันเหนือกว่าที่ฉันคาดเอาไว้ซะอีก ได้..แกเตรียมตัวถูกฉันบดขยี้ให้ดี และหลังจากที่ฉันได้แกมาเป็นผู้สืบทอด สิ่งแรกที่ฉันจะดัดคือนิสัยหยิ่งทะนงนั่น..!”เมอรัสที่กล่าวออกมา พร้อมกับเอื้อมมือไปหยิบเบี้ยเตรียมที่จะเริ่มเกม..

“ครับ..แต่ผมขอเตือนเอาไว้ก่อนเลย ว่าตานี้..ผมเอาจริง..”ผมที่บอกกับเมอรัส พร้อมกับเปิดเบี้ย..

ตึก..!

“หึ..ถ้าอย่างงั้นขอดูฝีมือที่แท้จริงของแกหน่อยเถอะ..”เมอรัสที่กระตุกรอยยิ้ม ก่อนจะเปิดเบี้ยอีกตัว แต่ทว่าหมากตัวต่อไปที่ผมกำลังจะเดิน มันก็ได้ทำให้อีกฝ่ายถึงกับต้องอึ้งไป..

ตึก..!

“เดินคิงงั้นเหรอ..?”

“ถ้าแม้แต่คิงยังไม่เดิน แล้วหมากตัวอื่นจะกล้าเดินตามได้ยังไงกันล่ะครับ..?”

“เยดเข้..~ อย่างหล่อเลยอ่ะ..”เสียงของไอ้จ้อนที่กล่าวออกมา เดี๋ยวนี่แกยังมีชีวิตอยู่เหรอเนี่ย..?

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด