Sword of horny ดาบแสงพลัง X กับทรชนพันธุ์ระยำ.. 4

Now you are reading Sword of horny ดาบแสงพลัง X กับทรชนพันธุ์ระยำ.. Chapter 4 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

แสงที่ 4 จู่โจมด้วยริมฝีปาก..

“แกมาทำอะไรที่นี่..!?”เจมิสที่เดินมาหยุดพร้อมทั้งเอ่ยถาม แต่ทว่าคนที่เธอถามคือคนที่ยืนอยู่ข้างๆซ้ายมือผม โดยคนๆนั้นเป็นชายหนุ่มผมทองรูปร่างสูงโปร่งมีร่างกายที่กำยำ..

“ผมมาเพื่อรับใช้จักรวรรดิครับ..!!!!”ชายผมทองที่ตอบกลับเสียงดังหนักแน่น..

“อืม..”เจมิสที่กระตุกรอยยิ้มออกมาด้วยความพึ่งพอใจ พร้อมกับทำท่าเหมือนจะหันหลังกลับ..

ผลั๊ว..!!!!!

“อ่อก..!!!!”

แต่ในวินาทีนั้นจู่ๆเจมิสที่ยืนอยู่ก็หมุนตัวกลับมา ก่อนจะยืดขาถีบไปยังหน้าท้องของชายผมทองอย่างรุนแรง จนอีกฝ่ายถึงกับตาเหลือกถล่น..

“จะถามอีกครั้งแกมาทำอะไรที่นี่..?”

“ผะ..ผมมาเพื่อเป็นทหารครั..บ..”

ผลั๊ว..!!!

“อั่ก..!”

เจมิสที่เอ่ยถาม แต่ยังไม่ทันที่ชายผมทองจะได้ให้คำตอบ เธอก็เดินเข้ามาหวดขาเตะอัดซ้ำเข้าไปที่กลางใบหน้าของเป้าหมาย..

“ฉันถามว่าแกมาทำอะไรที่นี่..?!”

“ผะ..ผม ผมมาเพื่อต่อสู้ครั..บ..!”ชายผมที่เอามือกุมจมูกจากเลือดกำเดาที่ไหล ร่างของเขากำลังนั่งคุกเข่าเอามือยันพื้นอยู่

ผลั๊วะ..!!!!

และแล้วทุกอย่างก็ดูเหมือนว่าจะจบลง เมื่อเจมิสพลันก้าวขาซ้ายเข้ามา ก่อนจะหวดขาเตะเสยเข้าไปที่ปลายของของเป้าหมายอย่างรุนแรง จนถึงขั้นทำให้อีกฝ่ายหมดสติ..

“แกไม่ผ่าน..แกยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแกมาที่นี่ทำไม..”เจมิสที่กล่าวออกมา ก่อนจะหันไปมองยังเหล่าทหารตรวจการที่เป็นผู้ควบคุมและส่งตัวทหารเกณฑ์ในวันนี้..

“พามันไปที่ค่ายทหารสามัญ ที่อาคัสไม่ต้องการไอ้เศษสวะนี่..!”เจมิสที่ตวาดเสียง ก่อนที่ทหารตรวจการสองนายจะเดินเข้ามาหิ้วปลีกร่างของชายผมทองที่หมดสติไป..

“ฟู้ว..~”ผมที่หลับตาพ่นลมหายใจออกมาด้วยความโล่งอก แต่ทว่า..

“เฮือก..!”

ทันทีที่ผมลืมตาขึ้น สิ่งที่พบก็ถึงกับทำให้ผมเกือบที่จะผงะหงายหลัง จากร่างของเจมิสที่เข้ามายืนอยู่ต่อหน้าของผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบได้..

“แกมาทำอะไรที่นี่..?”เจมิสที่เอ่ยถาม..

‘เวรแล้ว..!! ค่ายทหารสามัญยินดีต้อนรับ..!’ไอ้จ้อนที่ไม่วายจะปากหมา ทางด้านของผมก็ได้แต่ยืนตัวแข็งทื่อ..

อาการกลัวคนเริ่มที่จะกลับมากำเริบอีกครั้ง ดูเหมือนว่าอาการทางจิตของผมจะไม่ได้หายไป ถ้าขืนปล่อยเอาไว้แบบนี้มีหวังผมต้องซวยแน่ๆ..

“หูหนวกหรือไง..?! ฉันถามว่าแกมาทำอะไรที่นี่..?!”เจมิสที่ตวาดเสียงถามซ้ำอีกครั้ง ในตอนนี้สายตาของผมเริ่มที่จะพร่าเบลอ ผมรู้สึกพะอืดพะอมอย่างบอกไม่ถูก..

“สตาร์..!”

แต่แล้วก่อนที่สติของผมจะดับวูบ จู่ๆเสียงของไอ้จ้อนก็ตะโกนดังขึ้นช่วยปลุกสติของผมให้กลับคืนมา..

“ตั้งสติหน่อย..แกเป็นโอตาคุสงครามไม่ใช่เหรอ..? คำถามแค่นี้แกก็น่าที่จะรู้คำตอบไม่ใช่เหรอ..! แกทำได้..! ฉันเชื่อในตัวแกนะเว้ย..!!”ไอ้จ้อนที่ตะโกนให้กำลังใจผม ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เอ็งน่ะสิ้นหวังก่อนคนแรกเลย 

แต่ก็เอาเถอะ..คำพูดของมันทำให้ผมนึกขึ้นได้ว่าที่นี่ไม่ใช่โลกเดิม ไม่มีเหตุผลที่ผมจะต้องกลัวอีกต่อไป ผมน่ะคือโอตาคุสงคราม เรื่องระบบทหารย่อมรู้ดีอยู่แล้ว..

“แกคงจะหูหนวกจริงๆสินะ..!”เจมิสที่กล่าว พร้อมกับทำท่าจะง้างมือตบหน้าผม..

ฟุบ..!

“ชีวิตของคนกับจู๋ขึ้นอยู่กับนายแล้ว..!!!”ไอ้จ้อนที่ตะโกนออกมา ก่อนที่ผมจะรวบรวบความกล้าทั้งหมดตะโกนออกไปด้วยแววตาที่แน่วแน่ ไหงมันกลายเป็นฉากอิมแพ็คไปได้วะ 

“ผมรักเอลเดียครับ..!!!!”ผมที่ตะโกนออกมาเสียงดังฟังชัด ซึ่งจากคำตอบของผมมันก็ทำให้ฝ่ามือของเจมิสต้องหยุดชะงัก พร้อมกับดวงตาที่เบิกกว้างขึ้นอยู่ชั่วขณะ ก่อนจะหรี่ลงเหลือครึ่งหนึ่ง..

“รักเอลเดียงั้นเหรอ..? อะไรของมันกันนะ..?”เสียงสบถของหนึ่งในทหารเกณฑ์ที่ดังขึ้น โดยที่เอลเดียนั้นก็คือชื่อของประเทศแห่งนี้..

“แกมาทำอะไรที่นี่..?”เจมิสที่ถามผมซ้ำ..

“ผมรักเอลเดีย..!!!!”

ผลั๊วะ..!!!!!

ผมที่ยังคงให้คำตอบเดิม แต่กลับต้องถูกเจมิสต่อยจนหน้าหงาย แต่ถึงอย่างนั้นผมก็รู้อยู่แล้วว่าผลลัพธ์มันจะออกมาเป็นแบบนี้ก็เลยเกรงหน้ารอ..

“แกมาทำอะไรที่นี่..!?”

“ผมรักเอลเดียครับ..!!!!”

ผลั๊วะ..!!!!!

เจมิสที่ถีบท้องของผมอย่างแรง จนผมถึงกับตาเหลือกถล่นด้วยความจุดเสียด ก่อนจะร่วงลงไปนั่งเอามือกุมท้องอยู่ที่พื้น..

ฟุบ..!!!

ผมที่รีบชันตัวลุกกลับขึ้นมายืนอย่างไว ก่อนจะจ้องหน้าของเจมิส ซึ่งอีกฝ่ายที่เห็นปฏิกิริยาตอบสนองของผมก็ดูเหมือนจะอึ้งไปชั่วขณะ..

“แกมาทำอะไรที่นี่..?!!!”

“ผมรักเอลเดียครับ..!!!”

ผลั๊วะ..!!!!

ผมที่ถูกเตะตัดขาจนล้มลง ท่ามกลางสายตาของทหารเกณฑ์คนอื่นๆ ทุกคนต่างจ้องมองมาที่ผม เสียงสบถซุบซิบนินทายังคงดังออกมาให้ได้ยินอยู่ตลอด ก่อนที่ต่อจากนั้นผมจะโดนเจมิสซ้อมอย่างบ้าคลั่ง พร้อมกับคำถามเดิมๆที่ถามซ้ำนับสิบรอบ..

ผลั๊วะ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

“แกมาทำอะไรที่นี่..!!!”

“ผมรักเอลเดียครับ..!!!!”ผมที่ตะโกนให้คำตอบ พลางตะเกียดตะกายลุกขึ้นมานั่ง เพราะด้วยความจุกจึงทำให้ลุกขึ้นยืนไม่ได้

ฟุบ..!!

“เฟรมซอร์ด..!”

เจมิสที่จู่ๆก็กางฝ่ามือไปทางด้านข้าง ทันใดนั้นที่กลางหน้าอกของเธอก็ส่องแสงสว่างเกิดเป็นช่องว่างคล้ายกับมิติ เธอไม่รอช้ารีบใช้ฝ่ามือล้วงเข้าไปในช่องว่างนั้น ก่อนจะดึงนำดาบสีแดงเพลิงเล่มหนึ่งออกมา.. 

ชิ้ง..!!!!

ซูม..!!!!!!!

เจมิสที่ชักดาบออกจากฝัก พร้อมกับง้างมันขึ้นเหนือศรีษะ ทันใดนั้นจู่ๆที่ใบดาบก็มีวงเวทที่ปรากฏตัวออกมา ก่อกำเนิดเป็นเปลวเพลิงสีแดงฉาน..

“แกมาทำอะไรที่นี่..?”เจมิสที่ตวาดถาม พร้อมกับทำท่าเหมือนจะเหวี่ยงดาบราวกับเธอกำลังบ่งบอกว่านี่คือโอกาสสุดท้ายที่ผมจะได้ตอบ..

“ผมรักเอลเดียครับ..!!!!”ผมที่ตัดสินใจเสี่ยงดวง ก่อนจะเปล่งเสียงตะโกนออกไป แต่ทว่า..

ซูม..!!!!

คมดาบที่ถูกปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิงสีแดงฉานพลันถูกเหวี่ยงตรงลงมายังร่างของผมในทันที ภาพที่เห็นมันทำให้หัวใจของผมแทบจะหยุดเต้น..

“ตายห่า..!!!!”ไอ้จ้อนที่กู่ร้องออกมา..

กึก..!!!!!

ในวินาทีแห่งความเป็นความตาย จู่ๆคมดาบของเจมิสก็หยุดชะงักห่างจากใบหน้าของผมเพียงแค่หนึ่งฝ่ามือ แต่ถึงแม้จะหวาดกลัวเพียงใดผมก็ไม่แม้แต่จะหลับตาลง ดวงตาของผมยังคงจ้องมองไปที่ใบหน้าของอีกฝ่ายด้วยความแน่วแน่..

“แกชื่ออะไร..?!”เจมิสที่ชักดาบกลับ พร้อมทั้งเก็บมันเข้าฝัก ก่อนจะเอ่ยถามชื่อของผม..

“สตาร์ครับ..!!!”ผมที่รีบชันตัวลุกขึ้นยืน ก่อนจะตะโกนบอกชื่อ ท่ามกลางเสียงฮือฮาของทหารเกณฑ์ที่เห็นเหตุการณ์..

“หลายปีแล้วที่ฉันไม่ได้เจอคนแบบแก ไม่สิ..ไม่เคยเจอเลยต่างหาก..แกผ่าน และฉันอนุมัติให้แกไม่ต้องเข้ารับการทดสอบในด่านที่สอง..”เจมิสที่กระตุกรอยยิ้มกล่าวออกมา และมันก็ทำให้เหล่าทหารเกณฑ์ส่งเสียงฮือฮาขึ้นอีกครั้ง..

“อะไรนะ ผ่านงั้นเหรอ..ได้ไงวะ..?”

“มันเกี่ยวอะไรกับรักเอลเดียวะ..?”

เสียงของเหล่าทหารเกณฑ์ที่ต่างพากันกล่าวออกมาด้วยความสงสัย ไม่ว่าใครก็ต่างไม่เข้าใจว่าคำตอบของผมมันถูกหรือผิด..

ซึ่งคำตอบของผมนั้นก็ไม่ได้อาจจะเป็นคำตอบที่เจมิสพึ่งพอใจมากที่สุด ผมเพียงแต่แสดงอุดมการณ์ที่แน่วแน่ให้เธอได้เห็น และนั่นก็คือคำตอบของผม 

การที่ผมผ่านการทดสอบของเจมิส นั่นก็เพราะว่าผมได้แสดงอุดมการณ์ของตัวเองให้เธอได้เห็น แม้ว่าผมจะไม่ได้รักเอลเดียจริงๆ แต่คำตอบของผมก็ยังคงเหมือนเดิม ไม่ว่าจะถามซ้ำอีกสักกี่ครั้งหรือตกอยู่ในสถานกาณ์แบบไหน มันก็ยังคงเป็นแบบนั้นไม่เปลี่ยน ต่างจากชายผมทองที่พอโดนซ้อมทีหนึ่งก็พยายามเปลี่ยนและหาคำตอบที่จะทำให้เจมิสพึ่งพอใจไปเรื่อยๆ

นั่นจึงทำให้ชายผมทองสอบตก เพราะการจะเป็นทหาร นอกจากจะต้องมีความอดทนแล้ว ยังจะต้องมีความหนักแน่นและไร้ซึ่งความลังเล ในเมื่อมีอุดมการณ์ก็จงยึดมั่นมันยิ่งชีพ นั่นจึงเรียกว่าทหาร..

“เยดเข้..รอดตายแล้ว..!”ไอ้จ้อนที่กู่ร้องออกมา ส่วนผมก็ได้แต่ยืนเก็บอาการให้ขาไม่สั่น ก่อนหน้านี้ผมไปเอาความกล้าจากไหนมากันนะ..

“ว่าที่ทหารฝึกหัดแห่งอาคัส สตาร์..แกอย่าพึ่งดีใจไป ถึงแกจะผ่านบททดสอบของฉันไปได้ แต่ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าการทดสอบด่านสุดท้าย ขยะที่อ่อนแอที่สุดอย่างแกจะผ่านมันไปได้ยังไง..”

“ครับท่าน..!!”ผมที่ยืดอกตอบกลับเสียงดังฟังชัด นี่ตูข้าแค่ดูจากในสื่อจริงดิ ถ้าไม่บอกนี่นึกว่าตัวเองเคยผ่านการเป็นทหารมาก่อนนะเนี่ย..เดี๋ยวนะ เคยเป็นทหารงั้นเหรอ..?

ผมในตอนนี้กำลังยืนนิ่ง เมื่อจู่ๆก็นึกถึงเรื่องอะไรบางอย่างที่ผิดปกติขึ้นมาได้ ซึ่งเรื่องที่ว่าก็คือ..ผมจำไม่ได้ว่าตัวเองเคยผ่านการเกฑณ์ทหารในโลกก่อนมาแล้วหรือยัง ดูเหมือนว่าอาการทางจิตจะทำให้ความทรงจำตรงส่วนนั้นและหลายๆสวนขาดหายไปเหมือนกับคนความจำเสื่อม..

“หึ..น่าเสียดาย นอกจากเรื่องของพลังแล้ว แกมีคุณสมบัติที่จะเป็นทหารในทุกๆด้าน แต่ก็เอาเถอะ..”เจมิสที่กล่าวติชมผม ก่อนที่เธอจะกวาดสายตามองไปยังเหล่าทหารเกณฑ์..

“พวกที่แอบส่งเสียงซุบซิบเหมือนกับแมลงในระหว่างที่ฉันกำลังพูดเมื่อกี้ พวกแกสอบตก ฉันหวังว่าทหารตรวจการสี่ห้าคนที่อยู่ที่นี่จะเห็นนะว่ามีคนไหนบ้างนะ..”เจมิสที่กล่าวออกมา ก่อนที่ทหารตรวจการจะเดินเข้ามาล็อคตัวของพวกที่แอบซุบซิบ..

“เดี๋ยวสิครับ..ผมยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะ..”

“ได้โปรดเถอะครับ..!”

“ดะ..เดี๋ยวสิคะ มะ..ไม่นะ..”

เสียงตะโกนของเหล่าทหารเกณฑ์บางส่วนที่ถูกกลุ่มของทหารตรวจการควบคุมตัวไป

“ไอ้พวกที่เหลือเตรียมตัวเข้าสู่ด้านการทดสอบที่สอง ส่วนแกตามฉันมา..”เจมิสที่ตะโกนออกคำสั่ง ก่อนที่เธอจะหันมาบอกกับผม..

“ครับท่าน..!!!”ผมที่ตะโกนขานรับ แต่ภายใจกำลังอิหยังวะ..? ก่อนที่สุดท้ายเจมิสจะเดินนำออกไป โดยที่ผมก็เดินตามเธอไป

หลังจากนั้นเจมิสก็เดินนำทางผมผ่านเข้ามาภายในอาคารแห่งหนึ่ง ก่อนจะพาเข้ามาภายในห้องที่ดูเหมือนจะเป็นห้องส่วนตัวของเธอ..

“ปิดประตูด้วย..”

“ครับท่าน..!”ผมที่ขานรับเจมิส พร้อมทั้งหันกลับไปปิดประตู เป็นช่วงจังหวะที่เธอจะเดินไปหยุดอยู่ที่กลางห้อง..

“…”ผมที่ไม่ได้พูดอะไรและยังคงยืนแถวตรงอยู่อย่างนั้น แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อจู่ๆ..

ฟุบ..!

“อุ๊บ..!!!”

ผมที่เบิกดวงตากว้างโต ร่างทั้งร่างพลันแข็งทื่อไปในทันที เมื่อจู่ๆเจมิสที่ยืนอยู่ก็หันหลังกลับ ก่อนจะพุ่งเข้ามาจู่โจมจูบปากของผม..

“เฮ้ย..!!! อะไรวะ..?! อู้ว..~”ไอ้จ้อนที่ร้องตะโกนออกมา ก่อนที่มันจะส่งเสียงครางแปลกๆ..

“อุ๊บ..~”ผมที่ยังคงช็อคค้าง สิ่งที่สัมผัสได้คือริมฝีปากของเจมิสที่กำลังเข้าบดขยี้ริมฝีปากของผม เธอสอดแทรกลิ้นเข้ามาพัวพันอย่างดูดดื่ม นี่คือจูบไม่ผิดแน่ แต่ทำไมกันล่ะ..?

“สตาร์ เอ้ย..ลาบลอย แล้วเพื่อน..อู้ว อ๊าว..~”ไอ้จ้อนที่ส่งเสียงร้องครางออกมา มันกำลังพองขยายตัวขึ้น ผมในตอนนี้แทบจะประคองสติเอาไว้ไม่อยู่ เจมิสที่ยืนอยู่พลันค่อยๆสอดมือผ่านลำตัวของผมขึ้นมาอย่างช้าๆ ก่อนที่เธอใช้มือทั้งสองข้างแตะวางลงบนบ่าของผม..

ผลัก..!!!!

“อ่อก..!!!!”

แต่แล้วภายในชั่วพริบตา ทุกสิ่งทุกอย่างก็ต้องพังทลายลง เมื่อเจมิสที่กำลังจูบกับผมอยู่ก็ทำการถอยหลังไปหนึ่งจังหวะ ก่อนจะกระทุ้งแทงเข่าอัดเข้ามายังกลางหน้าท้องของผมอย่างรุนแรง จนผมถึงกับร่วงลงไปกองอยู่ที่พื้น

“ถ้าแกเอาเรื่องนี้ไปบอกใคร ฉันฆ่าแกแน่..เตรียมตัวให้พร้อมฉันจะพาแกไปยังด่านการทดสอบที่สาม..”เจมิสที่กล่าวกับผมด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือก ทำเอาผมถึงกับหน้าถอดสี นี่มันเรื่องอะไรกันแน่วะ..?

“อะ..อ้าว เดี๋ยวๆ เชี้ยอะไรวะเนี่ย..?”ไอ้จ้อนที่ร้องออกมาอย่างเซงๆ

“ว่าที่ทหารฝึกหัดสตาร์ได้ยินคำสั่งของฉันหรือเปล่า..?”เจมิสที่กล่าวถามต่อผม..

“ครับท่าน..!”ผมที่ชันตัวลุกขึ้นยืน ก่อนจะตะโกนขานรับ..

“แกสงสัยในสิ่งที่เกิดขึ้นภายในห้องนี้หรือเปล่า..?”เจมิสที่แสดงสีหน้าเป็นกังวลเอ่ยถามผม..

“ผมไม่ทราบว่าท่านกำลังพูดถึงเรื่องอะไร..!”ผมที่ตอบกลับ โดยไม่แม้แต่จะหยุดคิด..

“หืม..นี่แก..?!”เจมิสที่หรี่ตาลงครึ่งหนึ่ง ดูเหมือนว่าเธอจะรู้ว่าผมพยายามแสร้งทำเป็นไม่สนใจและแกล้งลืมๆมันไป

ตุบๆ..

“เยี่ยมมาก ว่าที่ทหารฝึกหัดสตาร์ ถ้างั้นก็ตามฉันมา..”เจมิสที่ตบบ่าของผม ก่อนที่เธอจะเดินนำออกไป ในระหว่างที่เดินผมก็รู้สึกเหมือนว่าเธอจะสบถชื่อของใครบางคนออกมา..

“ยัยเซร่านะยัยเซร่า ฉันอุตส่าห์บอกให้ตามมาแท้ๆ เกือบตายแล้วไหมล่ะ..”

‘อะไรอ่ะ มาหลอกให้อยากแล้วก็จากไปเฉยเลย ถึงจะเป็นแค่จู๋แต่ก็มีความรู้สึกนะเว้ย..”ไอ้จ้อนที่พูดออกมาอย่างเศร้าๆ..

[ผ่านเงื่อนไขแรก ดำเนินการปลุกพลังเสร็จสิ้น ระบบจะเข้าสู่การปลดล็อคเงื่อนไขที่สอง เมื่อท่านเรียกเอมพาสออกมาและสะสมพลังงาน ระบบจะเปิดการทำงานอย่างเต็มรูปแบบ..]

“หะ..หืม..?!”ร่างของผมที่กำลังเดินตามเจมิสพลันหยุดชะงักไป จากเสียงที่ดังอยู่ภายในหัวเมื่อครู่..

‘ไอ้จ้อนเมื่อกี้แกได้ยินไหม..?’ผมที่ถามกับไอ้จ้อนเพื่อยืนยันว่าตัวเองไม่ได้หูฝาด..

“ได้ยินดิ..จู่ๆยัยนั่นก็เทเราเฉยเลย..”ไอ้จ้อนที่ตอบกลับ เดี๋ยวๆมันคนละเรื่องโว้ย..

‘ไม่ใช่เรื่องนั้นโว้ย เหมือนว่าเอมพาสของพวกเราจะถูกปลุกขึ้นมาแล้ว..’ผมที่บอกกับไอ้จ้อน..

“อะไรนะ..? แกหูฝาดเปล่า ฉันไม่เห็นจะได้ยินอะไรเลย..”ไอ้จ้อนที่กล่าวออกมา ไม่แน่ว่ามันอาจจะไม่ได้ยินจริงๆก็ได้..

‘เอมพาส..’ผมที่ครุ่นคิดพลันลองปลดปล่อยมันออกมา แต่ก็ยังคงไม่เกิดปฏิกิริยาใดๆ ถึงจะปลุกได้แต่ถ้าไม่รู้วิธีเอาออกมาใช้ แม่งก็ไร้ความหมาย แต่ก็เอาเถอะเอาไว้ค่อยถามผู้รู้ทีหลังก็ได้..

ไม่กี่นาทีต่อมา..

หลังจากที่ผมเดินตามเจมิสมา ในท้ายที่สุดผมก็มาถึงยังสถานที่ทดสอบด่านที่สามหรือด้านสุดท้าย

โดยทันทีที่มาถึงภาพแรกที่เห็นนั่นก็คือเวทีขนาดใหญ่รูปทรงสี่เหลี่ยมที่มีเชือกคาดเอาไว้ทั้งสี่ด้านให้ความรู้สึกเหมือนกับเวทีมวย..

โดยที่ข้างบนเวทีในตอนนี้มีร่างของทหารเกณฑ์จำนวนสามคนที่กำลังเข้าจู่โจมชายวัยกลางคนร่างกายสูงโปร่งในชุดลำลองของทหาร..

ผลักๆ ๆ ๆ..!!!!!!

ชายวัยกลางคนที่ปล่อยหมัดแย็บเข้าใส่หน้าของทหารเกณฑ์ทั้งสามนาย แม้ว่าสองในนั้นจะเป็นผู้หญิง แต่พี่แกก็แย็บซะหน้าหงายจนร่วงลงไปสลบเหมือด..

“พวกแกสอบตก..เพราะฉะนั้น ส่งไปที่แผนกสู้รบ ส่วนจะเป็นกองทัพไหน แน่นอนว่าทัพเอทารอสของฉันไม่รับขยะอย่างของพวกแกแน่ เพราะงั้นส่งไปที่ทัพทารอนละกัน..”ชายวัยลงกลางคนในชุดลำลองที่กล่าวออกมา ก่อนที่ทหารตรวจการจะมาหิ้วปลีกร่างของทหารเกณฑ์ที่หมดสติลงไป

“อะไรกันร้อยตรีเซอร์เคิล คิดจะโยนขยะมากองทัพของฉันงั้นเหรอ..? ดูเหมือนว่านายกำลังดูถูกทัพทารอนมากเกินไปนะ อยากให้ฉันรายงานเรื่องนี้ให้ท่านพันตรีทราบไหม..?”เจมิสที่กล่าวออกมา เมื่อชายที่ชื่อเซอร์เคิลได้ยินก็หันมามอง ก่อนที่เขาจะกระตุกรอยยิ้ม พร้อมกับวางแขนพาดเชือกเอาไว้..

“หืม..ไม่ยักจะจำได้ว่าร้อยตรีเจมิสแห่งทัพทารอนจะกลายเป็นพวกขี้ฟ้องไปซะแล้ว..”เซอร์เคิลที่จงใจจะกวนประสาทกล่าวออกมา แต่ทางด้านของเจมิสก็ดูเหมือนจะรู้ทันและไม่ได้คล้อยตาม

“เจ้านั่นน่ะเหรอ..? ทหารเกณฑ์ที่ผ่านบททดสอบของเธอ แต่จะว่าไปแล้วก่อนหน้านี้ฉันได้ยินมาว่าเธอใช้เอมพาสด้วยไม่ใช่เหรอ..? แต่เอ๋..แล้วเธอจัดการกับเงื่อนไขของมันยังไงกันนะ..เท่าที่ฉันเห็นจ่าสิบโทเซร่าก็ไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วย หรือว่าเธอจะใช้เจ้าเด็ก..”

ซูม..!!!!

ในขณะที่เซอร์เคิลกำลังกล่าว จู่ๆเจมิสก็ปลดปล่อยออร่าพลังสีแดงออกมา..

“โอ๊ะโอ้..ดูเหมือนว่าฉันจะเดาถูกสินะ แล้วไงล่ะเธอจะฆ่าฉันทิ้งแล้วจูบศพฉันงั้นเหรอ..?”เซอร์เคิลที่กล่าวออกมา เดี๋ยวนะ..สิ่งที่เขาพูดมันหมายความว่ายังไงกัน

“หุบปากของนายซะ ก่อนที่ฉันจะทนไม่ไหว..!”เจมิสที่กัดฟันกล่าวออกมา สีหน้าของเธอดูเดือดดาลเป็นอย่างมาก…

“ก็ได้ๆ วันนี้ฉันได้รับคำสั่งให้มาตรวจสอบทหารเกณฑ์ สู้กับเธอไปก็มีแต่เปลืองแรงเปล่าๆ..”เซอร์เคิลที่กล่าวออกมา พลางโบกมืออย่างหน่ายๆ จึงทำให้ออร่าพลังของเจมิสค่อยๆจางหายไป

“ถ้างั้น..ฉันขอถามหน่อย เธอคิดจะเอาไอ้เจ้าหนอนแมลงที่ไม่มีคริสตัลมานาตรงนั้นเข้ามายังอาคัสจริงดิ ฉันว่าส่งมันไปที่ค่ายทหารสามัญยังง่ายกว่า เอาเข้ามานอกจากจะทำอะไรไม่ได้แล้ว มันจะทำให้ทหารนายอื่นกังขาการคุมสอบของพวกเราได้อีกด้วย..”เซอร์เคิลที่กล่าวออกมา ก่อนที่มันจะสร้างเสียงฮือฮาให้แก่เหล่าทหารเกณฑ์ทุกๆคน

“แล้วใครบอกกันล่ะว่าฉันจะรับมันเข้ามาง่ายๆ ถ้ามันผ่านบททดสอบนี้ได้ มันถึงจะคู่ควรกับการเป็นพลทหารฝึกหัดของอาคัส แต่ถ้าเกิดไม่ผ่านฉันนี่แหละจะเป็นคนเตะส่งมันไปที่ค่ายทหารสามัญด้วยตัวเอง..”เจมิสที่กล่าวออกมา ท่ามกลางร่างของผมที่ได้ยืนหน้าเสีย..

“หึ..ถึงจะน่าหงุดหงิดแต่เอาตามนั้นก็ได้ เฮ้ย..แกน่ะขึ้นมาบนเวทีสิ..”เซอร์เคิลที่กล่าวออกมา ก่อนจะหันมาตะโกนเรียกผมให้ขึ้นไปบนเวทีมวย..

“อะ..อึก ด่านสามต้องสู้อย่างงั้นเหรอ..? เชี้ยแล้วไง..!!”ไอ้จ้อนที่กู่ร้องออกมา สู้งั้นเหรอ..? อย่าว่าแต่สู้เลย คนอย่างผมสู้คนเป็นที่เล่า..

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด