Sword of horny ดาบแสงพลัง X กับทรชนพันธุ์ระยำ.. 73

Now you are reading Sword of horny ดาบแสงพลัง X กับทรชนพันธุ์ระยำ.. Chapter 73 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

แสงที่ 73 ภารกิจเสร็จสิ้นเอลเดียได้รับชัยชนะ

1 ชั่วโมงต่อมา..

400 เมตร ห่างจากฐานที่มั่นจุดที่ 56 ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้..

หลังจากที่ผมจัดการกวาดล้างกองกำลังหน่วยที่สามของไอ้พวกโนโทเปียจนย่อยยับ ตั้งแต่วินาทีนั้นสายตาที่พวกทหารมองมาที่ผมก็แปรเปลี่ยนไป ไม่เว้นแม้กระทั่งลิลิธ ยูริสและเรน..

ซึ่งมันก็คงจะไม่แปลกหรอก ถึงทุกๆคนจะรู้อยู่แล้วว่าผมสามารถกวาดล้างกองกำลังทหารของโนโทเปียได้ด้วยตัวเพียงคนเดียว 

แต่การที่ทุกๆคนได้มาเห็นด้วยตาของตัวเองชนิดที่แทบจะเกาะติดจอ มันก็ได้ตอกย้ำและสร้างความตกตะลึงให้แก่พวกเขา มิหน่ำซ้ำวิธีที่ผมใช้ยังเป็นการบุกเดี่ยวทะลวงเข้าไปบวกแบบโต้งๆ โดยที่ไม่ได้ใช้แผนหรือกลยุทธ์ใดๆ ไม่แปลกที่สายตาเหล่านั้นจะมองมาที่ผมเหมือนกับกำลังมองปีศาจ..

เฟี้ยวๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

ตู้มๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

“อ้ากกกกกกก..!!!”

“ต้านมันเอาไว้..!!!!”

เสียงระเบิดของกระสุนแรงดันเวท ภาพที่ปรากฏให้เห็นคือกองกำลังของเอลเดียที่กำลังเข้าปิดล้อมกองกำลังของโนโทเปียจากทุกทิศทาง..

โดยหลังจากที่ผมโชว์ขิงด้วยการกวาดล้างกองกำลังหน่วยที่สามจนเสร็จ ผมก็ได้เคลื่อนพลมาโจมตีกองกำลังหน่วยที่หนึ่งต่อ..

ซึ่งการบุกจู่โจมในครั้งนี้ ผมก็ได้เปลี่ยนวิธีการจากการบุกเดี่ยวเข้าไปบวกมาเป็นการวางกลยุทธ์ให้พวกทหารได้มีบท แต่จุดประสงค์ที่แท้จริงก็แค่อยากจะโชว์ศักยภาพทางด้านการบัญชาการให้ยูริสกับลิลิธได้เห็นเป็นบุญตาก็เท่านั้น

ส่วนกลยุทธ์ที่ผมใช้นั่นก็คือกลยุทธ์ปิดกล่องที่เคยให้กองร้อยของซิลเวียใช้ในภารกิจชายแดนใต้ ถึงครั้งก่อนจะไม่มีโอกาสได้ใช้ แต่ทว่าในครั้งนี้ก็ได้ลองใช้จริงๆ..

ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมานั่นก็ทำให้กองกำลังของโนโทเปียถูกบดขยี้จนเละเป็นขี้ ลำพังแค่กลยุทธ์จู่โจมสายฟ้าแล็บพวกมันก็ตั้งตัวไม่ทันอยู่แล้ว ไหนจะต้องมาโดนปิดกล่องอีก แถมด้วยกำลังพลของเอลเดียที่เยอะกว่าถึงสามเท่า จึงทำให้ฝ่ายเราไม่มีใครที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการปะทะในครั้งนี้เลย..

“อ้ากกกกกกก..!”

“มะ..ไม่จริง ทะ..ทำไมกัน..?”

ท่ามกลางเสียงโอดครวญของพวกทหารจากโนโทเปีย ภาพที่ปรากฏคือร่างของทหารบางส่วนที่ตะเกียดตะกายอยู่กับพื้น โดยมีกองกำลังจากเอลเดียที่เดินเข้ามาปิดล้อมพื้นที่เอาไว้..

“อะ..อึก สุดยอด..กลยุทธ์จู่โจมที่เรียกว่าสายฟ้าแล็บของท่านผู้บัญชาการสุดยอดจริงๆ..”ยูริสที่หันมากล่าวกับผมอย่างอึ้งๆ โดยที่ผมในตอนนี้ก็กำลังยืนกอดอกจ้องมองไปยังผลงานของตัวเอง..

“ก็ถือว่าทำได้ดีในระดับหนึ่ง..”ผมที่กล่าวออกมา ใจจริงอยากจะให้จู่โจมเร็วกว่านี้อีกสักนิด ชนิดที่แบบกราดยิงให้ไอ้พวกศัตรูต้องตกตายไปเลยโดยที่ไม่แม้แต่จะตั้งตัวหรือโต้ตอบได้..

“อึก..”ลิลิธที่ได้แต่ยืนกลืนน้ำลาย สีหน้าของเธอแสดงออกให้เห็นอย่างชัดเจนว่ากำลังตกตะลึงและอึ้งอยู่มากแค่ไหน..

“หยุดอย่าขยับ..!”เสียงตะโกนของทหารจากเอลเดียจำนวนห้านายที่เดินเข้าไปรายล้อมผู้บัญชาการของกองกำลังหน่วยที่ 1 เอาไว้ ก่อนจะกางฝ่ามือจ่อลงไปยังร่างของเป้าหมายที่กำลังนอนหงายหน้าอยู่กับพื้น อีกทั้งทหารทั้งห้านายยังเตรียมพร้อมที่จะยิงกระสุนแรงดันเวท

โดยที่ก่อนหน้านี้ผู้บัญชาการของโนโทเปียได้ถูกกระสุนกราดยิงจนได้รับบาดเจ็บตกจากหลังม้า..

“กรอด..ไอ้พวกสวะเอลเดีย..!”เสียงกัดฟันของผู้บัญชาการกองกำลังหน่วยที่หนึ่ง ก่อนที่จู่ๆมันจะ..

“หึ..! พวกแกต้องตาย..!”

ภายในชั่วพริบตาจู่ๆผู้บัญชาการของโนโทเปียก็แสยะรอยยิ้ม ก่อนจะหยิบนำเข็มฉีดยาออกมาเตรียมที่จะฉีดเข้าไปยังหัวใจ..

หมับ..!

แต่ยังไม่ทันที่เข็มฉีดยาจะได้ปักลงไป ผมที่พอจะเดาสถานการณ์ออกก็ได้แทรกตัวผ่านทหารทั้งห้านายลอบเข้ามาจับรั้งฝ่ามือของมันเอาไว้ ก่อนจะพยายามแย่งเข็มฉีดยามา..

“ปล่อยนะโว้ย..!”ไอ้ผู้บัญชาการที่จับเข็มฉีดยาเอาไว้อย่างแนบแน่น มันไม่ยอมที่จะปล่อย นี่คงเป็นแรงเฮือกสุดท้ายก่อนที่มันจะตาย..

“ปล่อย.. แล้วฉันสัญญาว่าจะส่งแกไปอยู่กับพวกเพื่อนๆของแกแบบไม่ทรมาน..”ผมที่บอกกับไอ้ผู้บัญชาการพอมันได้ยินก็หยุดชะงัก พร้อมกับเบิกดวงตากว้างขึ้น..

“พะ..พวกเพื่อนๆ นะ..นี่อย่าบอกนะว่า..”

“เออ..กองกำลังของแกถูกฉันกวาดล้างหมดแล้ว รวมไปถึงผู้บัญชาการเลกซัสอะไรของแกนั่นก็ด้วย..”ผมที่กล่าวออกมา เมื่อไอ้ผู้บัญชาการของโนโทเปียได้ยินก็ถึงกับหน้าเสีย..

“ไม่จริง..ไม่มีทาง..!”ไอ้ผู้บัญชาการที่กล่าวออกมาอย่างรับไม่ได้ เมื่อผมเห็นว่ามันเผลอก็ทำการกระชากเข็มฉีดยามาจากมันมาในทันที ก่อนจะแหงนหน้าขึ้นไปออกคำสั่งกับพวกทหาร..

“เป่าหัวมันซะ..”

“รับทราบ..”เหล่าทหารที่ขานรับ เมื่อไอ้ผู้บัญชาการได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับหน้าเสีย ก่อนจะตะโกนแหกปากออกมา..

“ไอ้พวกสวะเอลเดี..ย..!”

เฟี้ยวๆๆๆๆ.!!!

แผละ..!!!

และนั่นก็คือเสียงสุดท้ายที่ตะโกนดังออกมา ก่อนที่หัวของมันจะถูกเป่าจนแหลกกระจุย..

“เอาล่ะ..ต่อไปก็..”ผมที่ชันตัวลุกขึ้นยืน ก่อนจะหันกลับไปออกคำสั่งกับพวกทหาร..

“จับเป็นมาให้ฉัน 10 คน ส่วนพวกที่เหลือฆ่าทิ้งให้หมด. ..!!”

“รับทราบ..!”เสียงของทหารที่ขานรับ ก่อนที่หลังจากนั้นจะมีเชลย 10 คนของโนโทเปียที่ถูกจับมา โดยที่ทั้งสิบคนไม่ได้อยู่ในสภาพที่จะสามารถต่อสู้ได้..

“ไอ้พวกสวะเอลเดีย..!!”เสียงตะโกนของเชลยที่ตวาดออกมา พวกมันทั้งสิบกำลังนั่งคุกเข่าเรียงแถวหน้ากระดานอยู่ต่อหน้าของผม แต่ละคนถูกเชือกมัดแขนเอามือไขว้หลังเอาไว้ ท่ามกลางทหารจากเอลเดียนับสองร้อยชีวิตที่มายืนรายล้อมและมุงดู..

“เอาตัวของพวกมันทุกคนไปตัดแขนตัดขาและพากลับไปยังฐานที่มั่น..”ผมที่หันไปออกคำสั่งกับลิลิธ

“รับทราบ..!”ลิลิธที่ยกฝ่ามือขึ้นมาทำวันทยาหัตถ์ ก่อนจะให้ทหารควบคุมตัวของพวกเชลยไป..

“สุดท้ายแล้ว..ทหารทุกๆนายที่อยู่ที่นี่ ฉันจะขอประกาศให้รู้โดยทั่วกัน พวกเราสามารถปกป้องฐานที่มั่นเอาไว้ได้ ภารกิจ..เสร็จสิ้น..!!”ผมที่ประกาศออกมา พอพวกทหารได้ยินก็หยุดชะงักไปชั่วขณะ แต่ละคนต่างหันมามองหน้าของกันและกัน ก่อนที่ต่อจากนั้น..

“เฮ..!!!!!!!!!”เสียงเฮของเหล่าบรรดาทหารที่กู่ร้องดังออกมาด้วยความดีใจ ทุกๆคนต่างกระโดดสวมกอด โดยไม่สนว่าอีกฝ่ายจะอยู่ที่เหล่าทัพไหน..

พรึ้บ..!

ลิลิธ ยูริสและเรนที่ยกฝ่ามือขึ้นมาทำวันทยาหัตถ์ผม แววตาที่ทั้งสามคนมองมาเต็มไปด้วยความเคารพนับถือ..

“เอาล่ะ..เงียบ..”ผมที่เปล่งเสียงกล่าวออกมา ทำให้เสียงเฮของเหล่าทหารค่อยๆเงียบซาลง..

“ถึงภารกิจจะเสร็จสิ้นแล้ว แต่มันยังไม่เสร็จแบบสมบูรณ์..”ผมที่กล่าวออกมา พอเหล่าทหารได้ยินแบบนั้นก็กลับมาแสดงสีหน้างุนงงและเคร่งเครียด..

“ฉันต้องการอาสาสมัคร 100 นาย จงตัดหัวของไอ้พวกโนโทเปียที่ตายในศึกครั้งนี้และนำหัวทุกหัวพร้อมด้วยร่างของพวกมันไปเสียบแสดงตลอดแนวตะเข็บชายแดนของเอลเดียจุดที่ 56 จงแสดงให้พวกมันได้เห็นถึงแสนยานุภาพของเอลเดีย ทำให้พวกมันหวาดกลัว ทำให้พวกมันได้เห็นว่าถ้าลุกล้ำเข้ามาในจักรวรรดิของพวกเรา พวกมันจะต้องพบเจอกับจุดจบเช่นไร..!”ผมที่เปล่งเสียงตะโกนออกมา สิ่งที่ผมประกาศลั่นทำให้ดวงตาของทหารทุกๆนายต่างพากันเบิกกว้างขึ้น ไม่ว่าใครก็ต่างอึ้งกับสิ่งที่ผมสั่งให้ไปทำ..

“ผมขอเป็นอาสาสมัคร..!!!”

“ผมด้วย..!!!”

“ดิฉันด้วยคะ..!!!”

เหล่าทหารทั้งชายและหญิงที่ต่างพากันยกมือขึ้น พร้อมกับอาสาที่จะรับทำหน้าที่นี้..

“ถ้าทำสิ่งที่ฉันมอบหมายเสร็จเมื่อไหร่ ก็ถือว่าภารกิจนี้เสร็จสมบูรณ์..”

“รับทราบ..!!!!!!!”

“ถ้าเช่นนั้นพวกที่เหลือกลับไปที่ศูนย์บัญชาการ คืนนี้พวกเราจะเลี้ยงฉลองแด่ชัยชนะ..!!!!”

“เฮ..!!!!!!!!!!!”เสียงเฮที่ดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ ก่อนที่เหล่าทหารบางส่วนจะรีบไปจัดการสิ่งที่ผมได้มอบหมายเอาไว้..

“ร้อยเอกลิลิธ..สั่งให้ทหารสามนายไปนำปลอกแขนผู้บัญชาการทั้งสี่หน่วยของไอ้พวกโนโทเปียมา อ้อ..แล้วก็หากล่องมาให้ฉันอีกสักสามใบด้วยนะ ขอแบบใบใหญ่ๆเท่าโลงศพใบหนึ่ง..”ผมที่หันไปบอกกับลิลิธ 

“รับทราบ..! ว่าแต่ท่านผู้บัญชาการจะเอาของพวกนั้นไปทำอะไรเหรอคะ..?”ลิลิธที่เอ่ยถาม ทำให้ผมพลันหันไปจ้องหน้าของเธอ..

“อึก..ลิลิธ เธอจะสงสัยทำไมเนี่ย..”ยูริสที่กำลังยื่นหน้าเข้าไปต่อว่าลิลิธ ถึงกับทำให้อีกฝ่ายหน้าเสีย..

“ขะ..ขอโทษด้วยคะ ฉันไม่อยากรู้แล้ว..”

“หึ..ฉันก็แค่จะส่งของขวัญไปให้ท่านพลเอกสักหน่อยน่ะ..”ผมที่กระตุกรอยยิ้มกล่าวออกมา เมื่อลิลิธ ยูริสและเรนได้ยินก็ต่างพากันขมวดคิ้วด้วยความสงสัย..

3 ชั่วโมงต่อมา..

หลังจากที่ภารกิจกวาดล้างเสร็จสิ้น ผมก็ได้ให้ยูริสกับลิลิธจัดงานเลี้ยงฉลองให้กับพวกทหารที่เหนื่อยล้าจากภารกิจ งานเลี้ยงถูกจัดขึ้นเต็มไปด้วยความครื้นเครง..

“เอ้าชน..! เฮ..!!!!!!!!!”

แกร๊งๆ ๆ ๆ

เสียงเฮของทหารที่ดังออกมา ตามปกติแล้วเหล้าหมักหรือเบียร์จะไม่อนุญาติให้เอาออกมากิน แต่ในวันนี้มันถือว่าเป็นวันพิเศษ..

“อึก ๆ ๆ เห๋..ใช้ได้เลยแฮะ…!”ผมที่จัดการซดเบียร์ไปหนึ่งแก้ว ซึ่งรสชาติก็ถือว่าไม่เลว ถึงแม้เบียร์จะต้องดื่มแบบเย็นๆก็เถอะ..

“ในเมืองมีเบียร์ที่เกรดดีกว่านี้อีกนะคะ..”ลิลิธที่บอกกับผม โดยที่ในตอนนี้ผมกับเธอกำลังนั่งดื่มอยู่ที่กองไฟตรงบริเวณหน้ากระโจม อีกทั้งยังมีเรนที่มานั่งดื่มเป็นเพื่อนด้วย

ซึ่งช่วงเวลาในตอนนี้เป็นเวลากลางคืน ตั้งแต่ที่ผมใช้เวลาในการเดินทางมาจนถึงฐานที่มั่นตอน 7 โมงเช้า จวบจนทำภารกิจเสร็จ เวลาก็ผ่านมาแล้วเกือบถึงหนึ่งวันเต็มๆ

“งั้นเหรอ..? จริงสิ..ไม่แน่ว่าพรุ่งนี้ฉันอาจจะถูกส่งตัวกลับไปที่ศูนย์บัญชาการ ยังไงฉันก็ได้เขียนกลยุทธ์ต่างๆที่เหมาะสมกับภูมิศาสตร์ของฐานที่มั่นแห่งนี้เอาไว้ให้เธอแล้ว เอาไปสิ..”ผมที่หยิบสมุดพกออกมายื่นส่งให้กับลิลิธ โดยที่เธอก็รีบประคองมือรับมันไปด้วยแววตาที่เปล่งประกาย..

“ขะ..ขอบคุณนะคะ..”

“หืม..ฉันไม่ได้บอกสักหน่อยว่าจะให้ฟรีๆ ยังไงงานเลี้ยงจบเธอต้องมาช่วยแก้เงื่อนไขเอมพาสให้ฉันด้วย..”

“จริงด้วย..! แล้วเงื่อนไขเอมพาสของท่านผู้บัญชาการล่ะคะ..? ฉันว่าพวกเรารีบแก้มันตอนนี้เลยเถอะ ขืนปล่อยเอาไว้ฉันกลัวว่าท่านจะ..”ลิลิธที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นตระหนก เธอดูเป็นห่วงผม โดยไม่สนว่าสิ่งที่ต้องทำมันจะเป็นเรื่องที่น่าอาย ก็อย่างว่าแหละนะ..มีครั้งแรกย่อมมีครั้งที่สอง..

“ไม่ต้องรีบหรอก ฉันน่ะต่างจากคนอื่น ฉันสามารถยื้อระยะเวลาที่เงื่อนไขจะแสดงได้นานกว่าปกติ..”ผมที่บอกกับลิลิธ ก่อนที่เธอจะคลายความกังวลลง..

“เงื่อนไขของท่านผู้บัญชาการแบบคู่เหรอคะ..?”เรนที่จู่ๆก็เปิดประเด็นเอ่ยถามผม..

“อาห้ะ..”ผมที่ตอบกลับ พร้อมกับยื่นแก้วไปให้ลิลิธรินเบียร์..

“ถ้าไม่รังเกียจ..ฉันเองก็อยากจะช่วยแก้เงื่อนไขเอมพาสให้ท่านนะคะ ฉันเองก็อยากจะทำตัวให้เป็นประโยชน์เหมือนกัน ถ้าไม่ได้ท่านภารกิจในครั้งนี้ก็คงที่จะ..”เรนที่กล่าวออกมา เธอเสนอตัวที่จะช่วยผม..

“อู้วววววว ปฏิเสธความหวังดีของคนอื่นมันบาปนะเพื่อน..”ไอ้จ้อนที่เสนอหน้าขึ้นมา..

“ฮะ..ฮ้า..”ลิลิธที่ยกฝ่ามือขึ้นมาจับแก้มของตัวเอง เธอหน้าเหว๋อไปชั่วขณะ ก่อนจะเขินจนหน้าแดงเมื่อได้ยินคำพูดของเรน

“ไม่เป็นไรหรอก..เธอยังบาดเจ็บอยู่ เดี๋ยวแผลจะฉีกเอา..”ผมที่บอกกับเรน ซึ่งบาดแผลเป็นบาดแผลที่เกิดจากการถูกมีดเล่มใหญ่ของไอ้เจ้าหมาป่าตัวสีดำฟันปาดลงมายังกลางร่าง ถ้าเกิดว่ามันฟันลึกกว่านี้ ท้องของเธอก็คงจะถูกผ่าเปิดออกมาแล้ว..

“อะ..อึก กะ..ก็ได้ค่ะ..”เรนที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ ถึงเธอจะไม่รู้ว่าเงื่อนไขเอมพาสของผมคืออะไร แต่จากคำพูดของผม เธอก็น่าจะบอกเดาได้ว่ามันจะต้องเป็นเงื่อนไขที่กระทบกับบาดแผลของเธออย่างแน่นอน มันจึงทำให้เธอรู้สึกเสียดายที่ไม่สามารถทำประโยชน์ให้กับผมได้..

“ท่านผู้บัญชาการ ขอผมนั่งดื่มด้วยคนจะได้ไหมครับ..?”เสียงของยูริสที่กล่าวดังขึ้นมา พร้อมกับร่างของเขาที่เดินเข้ามาใกล้..

“ตามสบายเลย..”ผมที่บอกกับยูริส ก่อนที่เขาจะทรุดตัวลงนั่ง 

ซึ่งหลังจากนั้นพวกเราก็นั่งดื่มพลางพูดคุยอะไรกันไปเรื่อยเปื่อย แต่ส่วนใหญ่ผมจะถูกยูริสกับลิลิธชวนคุยเกี่ยวกับเรื่องของกลยุทธ์ จนกระทั่งสุดท้ายแล้ว งานเลี้ยงจะจบลง โดยที่ผมกับลิลิธก็ได้กลับไปที่กระโจม..

“ท่านผู้บัญชาการ ไม่ต้องประคองหรอก ฉันยังเดินไหว..~”เสียงของลิลิธที่เอ่ยดังขึ้น ผมในตอนนี้กำลังประคองร่างของเธอเข้ามาภายในกระโจม..

อันที่จริงลิลิธเป็นผู้หญิงที่คอโครตจะแข็ง เธอดื่มเบียร์หมดไปเป็นลังกลับดูเหมือนไม่ได้เมาอะไรมาก..

“ก็ได้..”ผมที่ปล่อยร่างของลิลิธเป็นอิสระ แต่แล้ว..

ฟุบ..!

ทันใดนั้นเองจู่ๆผมก็ถูกลิลิธที่เข้ามาจู่โจมด้วยริมฝีปาก เธอพลันยื่นใบหน้าเข้ามาจูบผม พร้อมกับสอดแทรกลิ้นเข้ามาพัวพันอย่างดูดดื่ม อีกทั้งยังออกแรงผลักดันร่างของผมไปยังเตียงนอน ก่อนจะกดให้ร่างของผมนั้นนอนลง..

ฟุบ..!

ผมที่เอนตัวลงนอนบนเตียง ในระหว่างนั้นริมฝีปากของพวกเราทั้งสองก็ยังคงสอดผสาน ลิลิธพลันขึ้นมาคร่อมอยู่บนเอวของผม ก่อนจะบดขยี้โถมริมฝีปากลงมา..

“ท่านผู้บัญชาการ มะ..เหมือนว่าฉันจะตกหลุมรักท่านเข้าแล้วค่ะ..”ลิลิธที่ถอนริมฝีปาก พร้อมกับเอนตัวลุกขึ้นมานั่ง เธอที่กำลังนั่งคร่อมอยู่บนเอวของผมได้นำฝ่ามือทั้งสองข้างมาผสานวางลงที่บนหน้าท้องของผม อีกทั้งเธอยังใช้ฝ่ามือนั้นเลื่อนถกชายเสื้อของผมขึ้น..

“หืม..? ฉันว่าเธอเมาแล้วนะ..”ผมที่บอกกับลิลิธ..

“ฉันไม่ได้เมานะคะ ฉะ..ฉันน่ะตกหลุมรักท่านแล้วจริงๆ ถะ..ถ้าไม่ติดว่าตอนนี้ฉันยังไม่พร้อม คะ..คืนนี้ฉันก็อยากที่จะ..”ลิลิธที่กล่าวออกมา ใบหน้าของเธอกำลังแดงก่ำ ผสานกับเสียงลมหายใจที่ดังออกมาอย่างถี่แรงจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์..

“เอาไว้ครั้งหน้าละกัน คืนนี้เอาเท่าที่ทำได้เถอะ..”ผมที่บอกกับลิลิธ โดยที่เธอก็ก้มหน้า ก่อนจะผงกหัวเบาๆด้วยความเขินอาย ก่อนที่สุดท้ายแล้ว ในค่ำคืนนี้ผมกับเธอจะใช้เวลาอยู่ด้วยกัน..

“ผ่าเลย ผ่าเลย..!”เสียงของไอ้จ้อนที่ตะโกนเชียร์..

‘ไม่โว้ย..!’

1 วันต่อมา..

ณ เมืองไรอา ศูนย์บัญชาการสูงสุดของหน่วยพยัคฆ์..

หลังจากวันที่สตาร์ถูกส่งตัวไปทำภารกิจ ช่วงเวลาก็ล่วงเลยผ่านพ้นมานานถึง 1 วันเต็มๆ 

แต่ทว่าทางด้านของลูเซียนกลับไม่ได้รับรายงานความคืบหน้าใดๆจากภารกิจ มันจึงทำให้เธอต้องเรียกพลตรีทั้งสามมาประชุมเพื่อหารือกันอีกครั้ง..

ภายในห้องประชุม..ภาพที่ปรากฏอยู่ในตอนนี้คือร่างของลูเซียน อาทิส เทรนและเจมิไนท์ที่กำลังนั่งอยู่ โดยที่สีหน้าของแต่ละคนเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด..

“นี่มันก็ 36 ชั่วโมงแล้วที่เราขาดการติดต่อจากฐานที่มั่นจุดที่ 56 ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้พวกเราพึ่งจะได้รับรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่องภายในระยะเวลาไม่เกิน 12 ชั่วโมง..”เทรนที่เปิดประเด็นกล่าวออกมา 

ซึ่งตลอดกว่าหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา พลตรีทั้งสามก็อยู่ที่ศูนย์บัญชาการแห่งนี้และคอยถ่ายทอดกระจายคำสั่งไปยังภารกิจต่างๆ โดยไม่ได้กลับไปยังศูนย์บัญชาการที่ตัวเองประจำการอยู่..

“เวร..”ลูเซียนที่สบถออกมาเบาๆ เธอถึงกับเอามือกุมขมับด้วยความเคร่งเครียด..

“ท่านพลเอก..ไม่แน่ว่าตอนนี้ฐานที่มั่นจุดที่ 56 อาจที่จะ..”อาทิสที่เปิดประเด็นขึ้นมาตรงๆ โดยไม่คิดที่จะอ้อมค้อม..

“ฉันรู้แล้วน่า..! เวรเอ้ย.. ฉันนะฉัน..คิดบ้าอะไรอยู่กันนะ ถึงได้ส่งไอ้เจ้าเด็กนั่นไป..”ลูเซียนที่ตวาดออกมา พร้อมกับทุบกำปั้นลงบนโต๊ะ เธอกร่นด่าตัวเองด้วยความเจ็บใจ โดยที่ทางด้านของเจมิไนท์ก็เอาแต่นั่งเงียบพูดอะไรไม่ออก

“ถ้าเกิดศัตรูบุกไปที่ศูนย์บัญชาการชายแดนที่สองทางทิศตะวันตก ความผิดพลาดนี้ฉันกับไอ้เจ้าโซเซ็ทคงจะต้องรับผิดชอบ..”ลูเซียนที่กล่าวออกมา พลางอ้างอิงถึงพลเอกแห่งหน่วยกระทิงสลาตัน โดยที่เธอกับอีกฝ่ายจะต้องรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 

ซึ่งการรับผิดชอบที่ว่าลูเซียนอาจจะถูกจอมพลแห่งทารอนเรียกตัวให้ไปเข้าพบ หลังจากนั้นอีกฝ่ายจะลงโทษเธอแบบไหนก็คงจะไม่มีใครรู้

“อึก..”พลตรีทั้งสามที่ได้แต่กลืนน้ำลายด้วยความกดดัน..

“แม่งเอ้ยยยย..!!”ลูเซียนที่กู่ร้องออกมาด้วยความหัวร้อน แต่แล้วทันใดนั้น..

ก็อกๆ ๆ

“ใครวะ..!?”ลูเซียนที่ตวาดถามออกมาด้วยความหัวร้อน จากเสียงเคาะประตูที่ดังขึ้น..

“อะ..เออคือ กระผมจ่าสิบเอกดิ๊กครับ..”เสียงของดิ๊กที่เอ่ยดังมาจากที่อีกฟากหนึ่งของประตู..

“เข้ามา..!”

แอ๊ด..

ทันทีที่ลูเซียนอนุญาติ ดิ๊กก็เปิดประตูเดินเข้ามาภายในห้อง ก่อนที่เขาจะทำเคารพทุกๆคน..

“มีอะไรก็รีบว่ามาจ่าสิบเอกดิ๊ก..”เทรนที่บอกกับดิ๊ก โดยที่ดิ๊กนั้นคือทหารภายใต้บังคับบัญชาคนสนิทที่อยู่กับเขาแทบจะตลอดเวลา..

“จะ..เจ้าอาชาทมิฬมันมายืนอยู่ที่หน้าศูนย์บัญชาการได้ชั่วโมงกว่าแล้วครับ..”ดิ๊กที่กล่าวรายงานออกมา

“ห้ะ..?”เทรนที่ร้องเสียงหลงออกมา ส่วนทางด้านของลูเซียนก็โกรธจนตัวสั่น จากเรื่องรายงานที่ดูไร้สาระ..

“ไสหัวไปซะ..”ลูเซียนที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก ส่วนทางด้านของเทรนก็รีบสะบัดมือส่งสัญญาณให้ดิ๊กเดินออกไป

“อะ..อึก ตะ..แต่ว่าท่านครับ ผมว่าท่านควรจะลงไปดูสักหน่อ..ย..”

ปัง..!!!!!

“นี่แก..!!!”

ในขณะที่ดิ๊กกำลังพูด ลูเซียนที่หมดความอดทนก็ได้ทุบกำปั้นลงบนโต๊ะเสียงดังลั่น ส่งผลทำให้เขาถึงกับต้องผงะหน้าเสีย..

“ดิ๊ก..ออกไป แกอยากตายหรือไง..?”เทรนที่หันหน้าไปกระซิบบอกกับดิ๊กด้วยสีหน้าที่แสดงออกถึงความตื่นตระหนก..

“คะ..ครับ..”

“เฮ้ย..จับมันไว้..!!!”

ในขณะที่ดิ๊กกำลังจะเดินออกไป จู่ๆก็มีเสียงของทหารที่ตะโกนโวยวายดังมาจากทางด้านนอก ก่อนที่ทันใดนั้น..

ตู้ม..!!!!!!

ท่ามกลางร่างของลูเซียนและพลตรีทั้งสามที่นั่งอยู่ จู่ๆประตูของห้องประชุมก็ถูกพัง พร้อมกับการปรากฏตัวของเวเดอร์ที่กระโจนตัวเข้ามา ทำเอาทุกๆคนได้แต่นั่งหน้าเหว๋อ..

“ฮี๋..!”เวเดอร์ที่ส่งเสียงร้องพร้อมกับก้าวเดินเข้ามาคายจดหมายที่คาบติดมาด้วยลงบนโต๊ะ ก่อนที่มันจะสะบัดตัวและเดินออกไป..

“อะ..อึก..”ลูเซียนที่ได้แต่จ้องมองตามบั้นท้ายของไอ้เจ้าเวเดอร์อย่างอึ้งๆ เป็นช่วงจังหวะเดียวกันกับที่เทรนจะหยิบจดหมายที่วางอยู่ขึ้นมา..

“นะ..นี่มัน ตะ..ตราประทับฐานที่มั่นจุดที่ 56..”เทรนที่เบิกดวงตากว้างขึ้น จากตราประทับสีแดงที่ปั้มอยู่บนจดหมาย ก่อนที่เขาจะหันหน้าไปมองลูเซียน..

“เอามานี่..”ลูเซียนที่เอื้อมมือออกไปคว้าจดหมายมาจากในมือของเทรนพร้อมกับเปิดอ่านสิ่งที่อยู่ข้างใน..

ฟุบ..!

“อะ..อึก..!”

ทันทีที่ลูเซียนคลี่เปิดจดหมายและอ่านข้อความที่อยู่ข้างใน เพียงแค่ข้อความแรกที่เธอเห็นมันก็ทำให้ดวงตาของเธอพลันต้องเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกตะลึง จากข้อความที่ถูกระบุเอาไว้ว่า

[ภารกิจเสร็จสิ้น เอลเดียได้รับชัยชนะ]

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด