Sword of horny ดาบแสงพลัง X กับทรชนพันธุ์ระยำ.. 31

Now you are reading Sword of horny ดาบแสงพลัง X กับทรชนพันธุ์ระยำ.. Chapter 31 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

แสงที่ 31 พิธีประดับยศ (2)

ตุบๆ ๆ

ท่ามกลางสายตาของเหล่าบรรดาทหารนับพันนาย ร่างของเจมิสในชุดยูนิฟอร์มแบบเต็มยศกำลังเดินขึ้นไปบนเวที ก่อนที่เธอจะเดินไปหยุดทำความเคารพต่อหน้าของนายพลทั้งสาม..

“เออคือ..คุณเมเทโอครับ แล้วท่านร้อยเอกซิลเวียไม่ได้รับการเลื่อนขั้นเหรอครับ..”ผมที่เอนตัวไปกระซิบถามกับเมเทโอ 

“ได้สิ..แต่ยัยนั่นได้รับการแต่งตั้งแค่ในนามยศว่าที่ก็เลยยังไม่ได้ขึ้นไปประดับ..”

“หืม..? ว่าที่พันตรีเหรอครับ..?”

“ใช่..ถ้าเกิดยัยนั่นสร้างผลงานอีกแค่ครั้งเดียว ครั้งต่อไปก็จะได้เลื่อนขั้นเป็นยศพันตรี..”เมเทโอที่บอกกับผม ซึ่งก็ดูเหมือนว่าก่อนที่ผมจะมาถึง กองร้อยชายแดนเมื่อหนึ่งปีก่อนจะขึ้นไปประดับยศกันหมดแล้ว..

“เมเทโอ เจ้าเด็กนี่เหรอ..? ที่กำลังเป็นที่พูดถึง..?”

ทันใดนั้นจู่ๆก็มีเสียงของใครบางคนที่เอ่ยดังขึ้น ทิศทางของเสียงนั้นมันดังมาจากทางด้านหลังของพวกเรา ทันทีที่ผมหันไปมองก็พบเข้ากับผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง..

ซึ่งผู้หญิงคนนี้เธอมีเส้นผมและดวงตาเป็นสีเขียว อีกทั้งยังไว้ผมทรงทวินเทลด้วย ส่วนเรื่องขนาดหน้าอก อะ..เอิ่ม ดูเหมือนจะคัพ A ไม่ผ่านโปร

“พันตรีแอนนี่..? ไหงเธอถึงมาอยู่ที่นี่..?”

“อ้าว..ทำไมจะมาอยู่ไม่ได้ ฉันเองก็อยู่หน่วยเดียวกับนายนะ ถึงหน่วยของฉันจะไม่ได้สร้างผลงานในปีนี้ แต่ก็ถูกเชิญมาด้วยเหมือนกัน..”แอนนี่ที่ตอบกลับด้วยสีหน้ามุ่ยๆ..

“เออๆ ยังไงก็เงียบก่อน ท่านพลตรีเจมิไนท์กำลังจะประกาศ..”เมเทโอที่กล่าวออกมา ก่อนจะหันกลับไปมองบนเวที..

“ร้อยตรีเจมิส ราเทียร์ จากผลงานที่เธอได้สร้างเอาไว้ในภารกิจปกป้องชายแดนใต้ ด้วยความสำเร็จที่เธอสามารถเอาชนะข้าศึกที่บุกเข้ามาภายในอาณาเขตของเอลเดีย

แม้ว่าก่อนหน้านี้พวกเราจะเสียป้อมปราการหลักไป แต่เธอก็สามารถที่จะนำกองกำลังทหารบุกยึดป้อมปราการกลับคืนมาได้ 

ซึ่งด้วยความสำเร็จนี้ ท่านพลเอกได้เล็งเห็นถึงความสามารถในการควบคุมกองกำลังทหารของเธอ ท่านจึงมีคำสั่งเลื่อนยศลงมา..”เจมิไนท์ที่กล่าวออกมา ก่อนที่เขาจะหยิบเข็มกลัดรูปดาวสีม่วงออกมาสองดวง..

“ร้อยตรีเจมิส ราเทียร์..”

“ค่ะ..!”

“นับจากวันนี้ฉันขอแต่งตั้งและประดับยศให้เธอขึ้นกลายเป็นร้อยโท เธอจะรับเกียรติยศนี้หรือไม่..?”เจมิไนท์ที่ประกาศ ก่อนจะเอ่ยถาม..

“ค่ะ..!”เจมิสที่ตอบกลับเสียงดังฟังชัด แต่จะว่าไปแล้ว ไหงผมถึงรู้สึกว่าคนทั้งสองดูคล้ายๆกันยังไงก็ไม่รู้..

ซึ่งหลังจากที่สิ้นเสียงของเจมิส พลตรีเจมิไนท์ก็ได้นำเข็มกลัดรูปดาวสีม่วงในมือไปประดับติดเอาให้เธอตรงบริเวณอินธนูที่ไหล่ทั้งสองข้าง..

ฟุบ..!

ทันทีที่ติดยศเสร็จ เจมิไนท์ก็ก้าวถอยหลัง เป็นช่วงจังหวะเดียวกันกับที่เจมิสจะยกแขนขึ้นมาทำความเคารพเขา ก่อนที่เธอจะเดินลงมาจากบนเวที..

แปะๆ ๆ ๆ ๆ

เสียงปรบมือของเหล่าบรรดาทหารภายในหอประชุมที่ดังขึ้น ท่ามกลางร่างของเจมิสที่เดินกลับมานั่งยังเก้าอี้ของตัวเอง..

“ยะ..ยินดีด้วยนะครับ ท่านร้อยตรี เอ้ย..ท่านร้อยโท..”ผมที่กล่าวคำยินดีกับเจมิส และใช้โอกาสนี้ทักทายเธอ..

“อะ..อืม..”เจมิสที่ตอบกลับ แต่แล้วเธอกลับหันหน้าไปทางอื่น อ้าว..อิหยังวะ..?

“เย็นชากว่าเดิมอีก ฮึก..”เสียงไอ้จ้อนที่กล่าวออกมา พร้อมกับเสียงสะอื้น..

“อันดับต่อไป..ฉันจะขอประกาศรายชื่อของทหารคนสุดท้ายที่จะได้ขึ้นมาประดับรับเกียรติยศ..”เสียงของเจมิไนท์ที่กล่าวดังออกมา ซึ่งมันก็ได้สร้างเสียงฮือฮาให้แก่เหล่าทหาร..

“หืม.. ยังมีใครอีกเหรอ..? ทหารในหน่วยที่สามหรือหน่วยอื่นๆก็ติดยศกันไปหมดแล้ว ส่วนท่านร้อยเอกหรือพันตรีทั้งหลายก็ยังไม่น่าที่จะได้ประดับยศหนิ..”

“นั่นสิ..ยังเหลือใครอีก..?”

เสียงของเหล่าทหารที่ต่างพากันกล่าวดังออกมา เป็นช่วงจังหวะเดียวกันกับที่เจมิไนท์จะคลี่แผ่นกระดาษในมือ..

“นี่คือคำสั่งโดยตรงที่ฉันได้รับมาจากท่านพลเอก พลทหารฝึกหัดขั้นที่ 1 สตาร์ จงขึ้นมาบนเวที..”สิ้นเสียงของเจมิไนท์ เหล่าทหารหน่วยอื่นๆที่ได้ยินก็ถึงกับตาเหลือก เมื่อได้ยินว่าคนที่ถูกเรียกตัวขึ้นมาคือพลทหารฝึกหัด อีกทั้งยังเป็นแค่พลทหารฝึกหัดขั้นที่ 1

ตามปกติแล้วพิธีประดับยศที่ถูกจัดขึ้นที่นี่ อย่างต่ำจะมีเพียงแค่ทหารยศสิบตรีไปจนถึงยศนายพันเท่านั้นที่จะได้ประดับยศ แต่ตอนนี้กลับมีการเรียกพลทหารฝึกหัดขึ้นไป ไม่แปลกที่เหล่าทหารส่วนใหญ่ที่ยังไม่รู้ถึงวีรกรรมของสตาร์จะส่งเสียงฮือฮาขึ้นมา..

“หะ..ห้ะ..?!”ผมที่ถึงกับสตั๊นไปชั่วขณะ ถึงผมอาจจะสร้างผลงานเอาไว้ แต่ก็ไม่คิดว่าตัวเองจะได้ประดับยศกับเขาด้วย..

“เป็นอย่างที่แกในโหมด X บอกจริงๆ เอาเถอะ..ยังไงก็เปิดโหมดเลย..”ไอ้จ้อนที่บอกกับผม..

‘เปิด..? ทำไมต้องเปิดด้วยล่ะ..?’ผมที่เอ่ยถามไอ้จ้อน กะอีแค่ขึ้นไปติดยศแค่นี้เอง..

“เอาเถอะน่า..ฉันวางแผนกับแกในโหมด X เอาไว้แล้ว ดูเหมือนว่าเจ้านั่นมันมีแผนจะทำอะไรสักอย่าง..”ไอ้จ้อนที่บอกกับผม มันจึงทำให้คลายความสงสัยลงในทันที..

“รีบๆขึ้นไปสิ..แกนั่งงงอะไรอยู่..?”เมเทโอที่หันมากระซิบบอกผม..

“อะ..อึก ขอเวลาสักสิบวินาทีครับ..”ผมที่บอกกับเมเทโอ โดยที่ทางด้านของเจมิสก็หันกลับมามองผม..

ฟุบ..!

ผมที่โน้มตัวลงไปเอาฝ่ามือทั้งสองข้างผสานปิดหน้า พลางตั้งสมาธิ แม้ว่าภายในจะตื่นเต้นมากแค่ไหนก็ตาม..

‘ตอนนี้แหละ..’

“Doujin ของอาจารย์ Makasek นักเรียนสาวตัวร้ายกับคุณลุงอ้วนภารโรง..”ไอ้จ้อนที่กล่าวออกมา รอบนี้มันเปลี่ยนเป็นโดจิน ซึ่งเมื่อผมได้ยินเช่นนั้นภาพของโดจินก็แว็บเข้ามาภายในหัว ก่อนที่โหมด X จะถูกปลุก..

ฟุบ..!

ผมที่เลื่อนฝ่ามือขึ้นมาเสยผม พร้อมกับแสยะรอยยิ้ม ก่อนจะชันตัวลุกขึ้นยืน..

“นะ..นี่แก..”เจมิสที่อึ้งไปชั่วขณะ เธอดูเหมือนจะสังเกตเห็นที่จู่ๆบุคลิกของผมก็เปลี่ยนไป

ฟุบ..

ผมที่ก้าวเดินอ้อมขึ้นไปบนเวที อันที่จริงก็รู้อยู่แล้วล่ะว่าเรื่องมันจะลงเอยแบบนี้ ซึ่งผมก็ได้เตรียมแผนที่จะรับมือเอาไว้ ได้เวลาเก็บแต้มความประทับใจแล้ว..

ฟุบ..!

ผมที่เดินมาหยุดอยู่ต่อหน้าของเจมิไนท์ พร้อมกับยกมือขึ้นมาทำความเคารพ สายตาของผมกำลังจ้องมองเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่าย ผสานกับรอยยิ้มที่ผมกระตุกขึ้นมา..

‘ไอ้เจ้าเด็กนี่ ตั้งแต่ที่เดินเข้ามาในหอประชุม มันก็ทำตัวประหม่าไม่กล้าที่จะสบตาฉัน แต่ทำไมจู่ๆมันถึงได้เปลี่ยนไปกันนะ..’เจมิไนท์ที่ครุ่นคิดด้วยความประหลาดใจ ทางด้านของอาทิสกับเทรนเองก็สังเกตเห็นถึงความผิดปกตินี้..

“ทหารฝึกหัดขั้นที่ 1 สตาร์ จากผลงานที่แกได้สร้างเอาไว้ในภารกิจปกป้องชายแดนใต้ มันถือว่าเป็นความสำเร็จสูงสุดของทัพทารอนในปีนี้

แกที่สามารถบุกสังหารกองร้อยของข้าศึกด้วยตัวเพียงคนเดียว อีกทั้งยังสามารถจับผบ.ร้อยของข้าศึกมาได้นั่นถือว่าเป็นความสำเร็จที่เกินความคาดหมาย แต่สิ่งที่นับว่าเป็นความสำเร็จสูงสุดคือการที่แกสามารถที่จะรีดเค้นข้อมูลมาจากผบ.ร้อยของเมลันเทีย จนได้มาซึ่งข้อมูลสำคัญ

ซึ่งข้อมูลนั้นมันถือว่าเป็นภัยอันตรายต่อทางจักรวรรดิ จากการที่ทัพฝ่ายศัตรูกำลังวางแผนแทรกซึมและกระจายกำลังเข้ามาในเอลเดีย เพื่อที่จะบุกยึดศูนย์บัญชาการทางทิศต่างๆ

ซึ่งหลังจากที่ผู้บังคับบัญชาระดับสูงได้รับรู้ถึงเรื่องนี้ ท่านก็ต่างตระหนักได้ว่าพวกเรานั้นประมาทศัตรูจนเกินไป จนทำให้ภารกิจระดับเล็กๆอาจจะนำพามาซึ่งปัญหาใหญ่

ตอนแรกฉันคิดว่าพวกเราอาจจะต้องเสียศูนย์บัญชาการหลักที่สองไปแล้ว จากการที่เหล่าทัพทารอนไม่อาจที่จะส่งกองกำลังสนับสนุนไปช่วยได้ เพราะปัญหาขาดแคลนกำลังคน จนท่านพลเอกต้องแบกหน้าไปขอยืมกำลังทหารจากกองทัพเอทารอส แลกกับการที่จะต้องสูญเสียเมืองโรเซ่ที่เป็นหนึ่งในทรัพยากรหลักของพวกเราไป..”เจมิไนท์ที่กล่าวบรรยายลากยาวออกมา เขาพยายามที่จะเปิดเผยข้อมูลลับนี้ให้แก่เหล่าทหารภายในหน่วยที่สองและสามที่ยังไม่รู้ให้ได้รับรู้..

“อะไรกันมีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ..?”

“อะ..อึกนั่นสิ เท่าที่ได้ยินมา ฉันได้ยินมาแค่กองร้อยของหน่วยที่สามสามารถพลิกสถานการณ์ป้องกันการรุกรานได้เท่านั้น ไม่ยักจะรู้ว่ามีข้อมูลนี้อยู่ด้วย..”

เสียงของเหล่าทหารที่กล่าวออกมา ทุกๆคนต่างจดจ่อไปที่เจมิไนท์และสตาร์เป็นสายตาเดียวกัน..

“จากสถานการณ์อันแสนกดดันถึงขั้นทำให้ท่านพลเอกไม่มีทางเลือก จึงต้องขอยืมพลังจากเอทารอส ฉันคงไม่ต้องบอกนะว่ามันถือว่าเป็นความอัปยศของทารอนมากแค่ไหน..

แต่ถึงอย่างนั้นแก..ก็สามารถที่จะกู้สถานการณ์กลับคืนมาได้ ทันทีที่แกได้รู้ถึงข้อมูลนั้น แกกลับวางแผนตอบโต้ยึดป้อมปราการกลับคืนมาได้จนสำเร็จ แทนที่จะปล่อยให้กองกำลังของข้าศึกต้องบุกเข้ามายังศูนย์บัญชาการ หรือรอจนกว่าที่กองกำลังสนับสนุนจะมาถึง

การตัดสินใจและแผนการที่เฉียบขาดในครั้งนั้น ฉันและท่านพลเอก รวมไปถึงพลตรีทั้งสองที่นั่งอยู่ในตอนนี้ก็ต่างรู้สึกทึ่งในความสามารถของแก

แต่สิ่งที่ทำให้พวกเราทึ่งยิ่งกว่าคือการที่แกสามารถกวาดล้างกองกำลังนับร้อยด้วยตัวเพียงคนเดียว อีกทั้งยังเด็ดหัวผบ.ร้อยคนที่สอง และผู้บัญชาการของเมลันเทียได้..”

“อะ..อะไรนะ..?!!”

“ฮะ..เฮ้ย คะ..คนๆเดียวเนี่ยนะจะกวาดล้างทหารได้ทั้งกองร้อย แถมยังสังหารผบ.ร้อยและผู้บัญชาการได้ เรื่องแบบนี้ใครมันจะเชื่อวะ..”

“นั่นสิ..ฉันก็ไม่เชื่อเหมือนกัน..”

ทันทีที่เจมิไนท์ประกาศความจริงออกมา เหล่าทหารที่นั่งอยู่ก็ต่างส่งเสียงฮือฮาขึ้น แน่นอนว่าทหารหน่วยอื่นไม่มีใครที่จะปักใจเชื่อเรื่องนี้ได้เลยสักคน แม้แต่พลตรีทั้งสองก็แอบรู้สึกเคลือบแคลงใจอยู่เหมือนกัน

“แกรู้หรือเปล่าว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่มีทางที่จะเป็นไปได้เลยสักนิด ถ้าไม่ติดว่าทหารทั้งกองร้อยของหน่วยที่สามต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกัน ประกอบกับศพของข้าศึกที่ใช้เป็นหลักฐาน รายงานนี้แม้แต่เด็กก็คงจะไม่มีทางเชื่อ

แต่ถึงอย่างนั้นก็ใช่เพียงแค่เหตุการณ์นี้เหตุการณ์เดียว มันยังมีวีรกรรมอื่นๆของแกอีก จนมันทำให้ท่านพลเอกที่ได้รับฟังเรื่องราวทั้งหมดก็เลือกที่จะเชื่อว่าความสำเร็จของภารกิจชายแดนใต้เป็นฝีมือของแกจริงๆ..”สิ้นคำพูดของเจมิไนท์ เหล่าทหารที่ไม่เชื่อในตอนแรกก็เริ่มที่จะเกิดความลังใจ บางคนเริ่มที่จะเชื่อขึ้นมาบ้างนิดหน่อย จากการที่เจมิไนท์เอาพลเอกมาอ้าง..

 

“ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมาตั้งต้นจนถึงตอนนี้..ฉันก็อยากจะขอสรุป พลทหารฝึกหัดขั้นที่ 1 สตาร์..”เจมิไนท์ที่เปล่งเสียงประกาศ..

“ครับ..!!!”ผมที่ขานรับ..โชคดีที่เขาพูดค่อนข้างไว จึงทำให้ผมเหลือเวลาอีก 2 นาที

“นับจากวันนี้ฉันจะขอแต่งตั้งและประดับยศให้แกเป็นจ่าสิบเอก อีกทั้งยังจะมอบเหรียญกล้าหาญแห่งทารอนให้ แต่ทั้งหมดที่กล่าวมา หลังจากจบหลักสูตรที่สถาบันอาคัส แกจำเป็นที่จะต้องเข้าหน่วยพยัคฆ์คลั่ง ไม่สำคัญว่าจะเป็นหน่วยที่เท่าไหร่ สิ่งที่เกิดขึ้นคือการตัดสินใจของท่านพลเอก..”เจมิไนท์ที่ประกาศ พร้อมทั้งหยิบอินทรูที่ประดับดาวสีฟ้าจำนวนห้าดวงทั้งสองอันออกมาแสดง อีกทั้งยังมีเข็มกลัดรูปหัวพยัคฆ์ที่คาดว่าน่าจะเป็นเหรียญกล้าหาญ..

“อะไรนะ..!!!? เลื่อนที่เดียว 6 ขั้นเลยเหรอ..?!”

“ฮะ..เฮ้ย ในประวัติศาสตร์ของกองทัพ เต็มที่ก็แค่ 3 ขั้นเองนะ แต่นี่เล่นทีเดียว 6 ขั้นเลยเหรอ..?”

“เรื่องนั้นไม่สำคัญเท่าไหร่หรอก ตะ..แต่ประเด็นมันอยู่ที่เหรียญกล้าหาญเว้ย เหรียญนั้นใช่ว่าใครจะได้มันมาง่ายๆนะ ยิ่งกองทัพทารอนของเรายิ่งไม่ต้องพูดถึง..”

เสียงฮือฮาของเหล่าทหารที่ดังขึ้นอีกครั้ง ทุกๆคนต่างพากันตกตะลึงกับสิ่งที่เจมิไนท์ประกาศออกมา สำหรับเหรียญกล้าหาญของกองทัพทารอนแล้ว มันคือวัตถุล้ำค่าที่แสดงถึงเกียรติยศสูงสุด ใช่ว่าใครจะสามารถได้มาง่ายๆ..

“แกจะรับเกียรติยศนี้หรือไม่..?”เจมิไนท์ที่เอ่ยถาม โดยที่ทหารส่วนใหญ่ก็ต่างสบถออกมาเบาๆ ว่าถ้าไม่รับก็โง่เต็มทีแล้ว..

“ผมขอ..”ผมที่กล่าวโดยจงใจหยุดเว้นวรรคเอาไว้ แต่ก็ดูเหมือนว่ารอบข้างจะไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เพราะคิดว่ายังไงผมก็ต้องตอบตกลง..

“ผมขอไม่รับครับ..”

“ห้ะ..!!!!!?”

ฟุบ..!!!

เสียงของเหล่าทหารที่ต่างพากันตะโกนออกมา ส่วนทางด้านของเมเทโอกับเจมิสก็ถึงกับชันตัวลุกขึ้นยืน..

“…”เจมิไนท์ที่ดูเหมือนจะอึ้งจากคำตอบของผม รวมไปถึงพลตรีทั้งสองที่นั่งอยู่ คนทั้งสามต่างพากันเบิกดวงตากว้างขึ้น..

“นะ..นี่แก รู้ตัวหรือเปล่าว่าพูดอะไรออกมา ละ..ลองคิดดูดีๆนะ โอกาสแบบนี้น่..ะ..”

“ท่านถามผมไม่ใช่เหรอว่าจะรับเกียรติยศนี้หรือไม่ ในเมื่อถามก็แสดงว่าผมสามารถที่จะปฏิเสธไม่รับได้..”ผมที่กล่าวออกมา และมันก็ยิ่งตอกย้ำทำให้เหล่าทหารต่างพากันตาเหลือกอ้าปากค้าง..

“นะ..นั่นไม่ใช่ประเด็น แกรู้ไหมว่าเกียรติยศนี้ใช่ว่าใครก็จะสามารถได้รับมัน ยิ่งเหรียญกล้าหาญยิ่งไม่ต้องพูดถึง ชีวิตนี้แกอาจจะไม่มีโอกาสนี้อีกแล้ว การที่แกปฏิเสธหรือว่าแกมีหน่วยอื่นที่อยากจะเข้าอยู่..?”เจมิไนท์ที่กล่าวอธิบาย คำพูดของเขามันได้ทำให้เหล่าทหารต่างต้องพากันตกตะลึงอย่างหนัก เพราะไม่คิดว่าเขาจะพยายามพูดเกลี่ยกล่อมสตาร์ อีกทั้งสีหน้าของเขายังดูเป็นกังวลราวกับถูกใครบางคนกำชับมาว่าจะต้องเอาคนผู้นี้เข้าร่วมหน่วยพยัคฆ์คลั่งให้ได้..

“เปล่าครับ..ผมก็คิดเอาไว้แล้วว่าจะเข้าหน่วยพยัคฆ์คลั่ง แต่เรื่องเกียรติยศนั้นผมไม่สามารถที่จะรับเอาไว้ได้จริงๆ..”ผมที่บอกกับเจมิไนท์ พอเขาได้ยินก็ดูเหมือนว่าจะโล่งใจขึ้น รวมไปถึงเจมิสกับเมเทโอที่ทรุดตัวกลับลงไปนั่งตามเดิม ทุกๆคนคงกลัวว่าผมจะไปเข้าหน่วยอื่น

“ไม่สามารถที่จะรับเอาไว้ได้..? ช่วยบอกเหตุผลหน่อยจะได้ไหม..?”เจมิไนท์ที่ขอเหตุผล ซึ่งพอทุกๆคนได้ยินก็ต่างจ้องมองมา เพื่อที่จะรอฟังคำตอบ..

“ก็ตามที่ผมกล่าวเลยครับ ผมไม่ควรที่จะได้รับเกียรติยศนี้..”ผมที่ตอบกลับ ซึ่งเจมิไนท์ก็ขมวดคิ้วแน่น ก่อนจะเอ่ยถาม..

“ถ้าแกไม่สมควรที่จะได้รับ แล้วแกคิดว่าใครที่สมควรจะได้..?”

“อะ..ไอ้เจ้าบ้านั่น..”เจมิสที่กล่าวออกมา เธอกำลังคิดไปเองว่าสตาร์จะยกความดีความชอบให้เธอไม่ก็ซิลเวีย

แต่การที่ชายหนุ่มคิดจะมาประจบประแจงในสถานการณ์แบบนี้ เจมิไนท์รวมไปถึงพลตรีทั้งสองจะต้องดูออก และคงจะรู้สึกไม่พอใจมากแน่ๆ ถ้าเกิดเขาทำแบบนั้น..

“อยะ..อย่านะ รับเกียรติยศนั้นไปซ..ะ..”

“จ่าสิบตรีโลแกน สิบเอกเดล สิบโทอิ๊ก สิบเอกแจ็ค สิบโทเรน่า….”ผมที่เริ่มกล่าวไล่ชื่อออกมา ซึ่งพอเจมิไนท์และทุกๆคนได้ยินก็ต่างพากันงุนงง..

แต่ทว่าเจมิส ซิลเวียและเมเทโอ โดยเฉพาะเหล่าทหารที่เคยร่วมทำภารกิจกับผมต่างต้องพากันเบิกดวงตากว้างขึ้น ก่อนที่แต่ละคนจะค่อยๆก้มหน้าลงไป

“แกคิดจะเล่นตลกอะไรของแก..?”เจมิไนท์ที่ชักสีหน้าไม่พอใจ แต่ผมก็ยังคงกล่าวไล่รายชื่อโดยไม่สนเสียงของเขา..

 

“จ่าสิบตรีฟอรัส จ่าสิบตรีคริกเนท..”

“นี่แก..!”

“ฮึก..!”

ในจังหวะที่เลอัสกำลังจะตะค่อกเสียงใส่ผม จู่ๆเขาก็ต้องหยุดชะงักจากเสียงสะอื้นของกองร้อยที่ร่วมปฏิบัติภารกิจชายแดนใต้เมื่อหนึ่งปีก่อน บางคนร้องไห้ออกมา บางคนได้แต่นั่งก้มหน้าข่มความรู้สึกที่แสนเจ็บปวดเอาไว้ เมื่อต้องได้ยินรายชื่อของทหารที่ผมเอ่ยขึ้น..

“สิบตรีซีส และสุดท้ายจ่าสิบเอกดีอัส..”ผมที่กล่าวรายชื่อของเหล่าทหารนับสี่สิบกว่านาย ตั้งแต่คนแรกจนมาถึงคนสุดท้ายแบบไม่มีสะดุด โดยมีไอ้จ้อนที่คอยช่วยลีดรายชื่อให้

“ทหารทุกนายที่ผมกล่าวมาคือเหล่าทหารที่สละชีวิตในสมภูมิบนเนินที่ราบสูง ถ้าท่านถามว่าเกียรติยศที่ผมได้รับควรจะให้ใคร ท่านจงมอบให้พวกเขา..”สิ้นคำพูดของผม ดวงตาของเจมิไนท์ก็เบิกกว้างขึ้นเขาผงะถอยหลังไปก้าวหนึ่ง โดยที่พลตรีทั้งสองและเหล่าทหารที่อยู่ภายในหอประชุมก็ต่างพากันตกตะลึง..

“ท่านและหลายๆคนในที่นี้อาจจะสงสัย ว่าถ้าเกิดมอบเกียรติยศให้กับคนที่ตายไปมันจะไปมีค่าอะไร สู้ให้คนที่ยังมีชีวิตอยู่ไม่ดีกว่าเหรอ

ซึ่งผมก็อยากจะบอกให้ทุกๆคนได้รับรู้เอาไว้ ทหารทุกๆนายที่ผมกล่าวชื่อมา แม้ว่าจะร่วมทำภารกิจด้วยกัน แต่บางคนผมไม่เคยรู้จักหรือเคยเจอหน้าของพวกเขาเลยด้วยซ้ำ ครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่ผมเจอคือร่างอันไร้วิญญาณที่นอนอยู่..

สิ่งที่ผมพอจะตอบแทนพวกเขาได้คือจดจำชื่อของพวกเขาเอาไว้ แม้ว่าผมจะไม่รู้จักพวกเขาก็ตาม แล้วท่านล่ะ..เคยจดจำชื่อของทหารภายใต้สังกัดที่เสียสละชีวิตเพื่อจักรวรรดิหรือประเทศชาติได้บ้างหรือเปล่า..? 

เหตุผลที่พวกเขาเสียสละเพียงแค่ต้องการที่จะให้ประเทศชาติได้รับรู้และจดจำชื่อของพวกเราเอาไว้ เกียรติยศที่พวกเขาได้มันจะถูกสลักจารึกลงไปบนป้ายหลุมศพ ถึงความกล้าหาญและเสียสละ นั่นแหละคือสิ่งที่เรียกว่าทหารสำหรับผม..!!!”สิ้นคำพูดของสตาร์ที่เปล่งดังออกมา จนก้องกังวาลไปทั่วทั้งหอประชุม เสียงนั้นกลับไม่ได้ดังอยู่ภายในหูของเหล่าทหาร แต่มันกลับก้องดังอยู่ภายในอก

เจมิส ซิลเวีย เมเทโอ รวมไปถึงเหล่าทหารต่างได้แต่นั่งตัวสั่น จากความรู้สึกประหลาดที่ถาโถมเข้ามาภายในใจ

“อึก..เข้าใจแล้ว..”เจมิไนท์ที่ก้มหน้าลง พร้อมกับกำหมัดแน่น คำพูดของสตาร์ที่กล่าวออกมา มันได้ทำให้ความรู้สึกของทุกๆคนที่อยู่ในที่นี่ ต่างจุกแน่นอยู่ภายในอก ไม่เว้นแม้กระทั่งพลตรีอย่างอาทิสและเทรนที่นั่งอยู่..

“ถ้าตอนนี้แกไม่ต้องการเกียรติยศ แล้วแกต้องการอะไร..?”เจมิไนท์ที่เอ่ยถาม ซึ่งพอสตาร์ได้ยินก็กระตุกรอยยิ้ม ก่อนจะให้คำตอบสุดคมกระแทกใจที่ถึงกับทำให้เหล่าทหารทั้งหอประชุมต่างต้องพากันตกตะลึงจนถึงขั้นลุกขึ้นยืน..

 

“เหมือนกับพวกเขาและทหารทุกๆนายที่อยู่ที่นี่ บางครั้ง..ทหารที่หลั่งเลือดเสียสละต่างต้องการ ให้ชาติรักเรา อย่างที่เรารักชาติ..”

 

“โอ้ย..! คำพูดบาดใจจู๋ อย่างคมเลยครับพี่..!!”เสียงของไอ้จ้อนที่ตะโกนดังขึ้น..

 

 

 

ไรท์:ค้อม เม้น..!!! ค้อม เม้..น..!!! คอมเม้นฮ่า..~!!!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด