Sword of horny ดาบแสงพลัง X กับทรชนพันธุ์ระยำ.. 56

Now you are reading Sword of horny ดาบแสงพลัง X กับทรชนพันธุ์ระยำ.. Chapter 56 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

แสงที่ 56 ตัวตนที่เหนือความคาดหมาย..!

เช้าวันรุ่งขึ้น..

ภายในห้องนอนของสตาร์ ภาพที่ปรากฏให้เห็นคือร่างของหญิงสาวทั้งสองที่กำลังนอนหลับอยู่ภายใต้อ้อมแขนของชายหนุ่ม..

แขนทั้งสองข้างของพวกเธอกำลังโอบกอดเข้าเอาไว้อย่างแนบแน่นราวกับกลัวว่าเขาจะหายไป..

[สตาร์]

“อะ..อื้ม..?”ผมที่ค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงีย จากแสงแดดยามเช้าที่ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาภายในห้องนอน..

“อะ..อึก..?!!”

แต่ทันทีที่ลืมตาขึ้น ดวงตาของผมก็พลันต้องเบิกกว้างจากร่างของเอลิเซียกับฮิตเลอร์ที่กำลังนอนอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า จนทำให้โหมด X ของผมถูกปลุกขึ้น..

“ตัวฉันในตอนที่โหมด X ไม่ถูกปลุกจะรู้ไหมนะว่าเวลามันผ่านมาตั้งหกเดือนแล้ว..อ่า~”ผมที่กล่าวออกมา พร้อมกับค่อยๆประคองศรีษะของเอลิเซียกับฮิตเลอร์ให้นอนลงบนหมอน ก่อนจะลุกขึ้นมานั่งบิดขี้เกลียดไปมา

ซึ่งก็อย่างที่รู้กันความทรงจำสุดท้ายในตอนที่โหมด X ถูกปิดก็คงมีแต่ความทรงจำที่ตื่นขึ้นมาในทุกๆเช้า และเจอเอลิเซียกับฮิตเลอร์ที่กำลังนอนอยู่ข้างกายในสภาพที่เปลือยเปล่า

“ฮึก..สรวงสวรรค์..~”เสียงของไอ้จ้อนที่ตื่นขึ้นมารับแสงอาทิตย์ยามเช้า ก็อย่างที่รู้ๆกัน..หลังจากเหตุการณ์เมื่อคืนที่เอลิเซียกับฮิตเลอร์ตัดสินใจที่จะมอบครั้งแรกให้ผม สุดท้ายแล้วพวกเธอก็ได้ตกกลายเป็นของผมอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ 

“อึก..!”

ตุบๆ ๆ..!

แต่แล้วจู่ๆร่างกายของผมก็กระตุกวูบ ภายในชั่วพริบตาความทรงจำมากมายก็ได้ไหลเข้ามาภายในหัว โดยที่ตัวของผมกับไอ้จ้อนก็เตรียมรับมือในทันที..

ซึ่งความทรงจำพวกนี้จะถูกปลุกและปรากฏออกมาก็ต่อเมื่อผมได้ไปมีอะไรกับผู้หญิง โดยที่ความทรงจำดังกล่าวคือตัวตนในโลกเดิมของผมที่ยังคงเป็นปริศนา..

[ไม่..!!!!!!!]

ภาพของผมในวัยเด็กที่ร้องตะโกนออกมา และกำลังดิ้นขัดขืนคุณพ่อที่กำลังเตรียมจะเอาเข็มที่บรรจุตัวอะไรสักอย่างฉีดเข้ามาในตัวของผม

แต่ทว่ามันกลับแปลกที่ภาพความทรงจำทั้งหมดกลับเป็นภาพของบุคคลที่สาม ทั้งๆที่มันควรจะเป็นภาพบุคคลที่หนึ่งที่ต้องเห็นผ่านแววตาของผม..

[สตาร์ อย่าดิ้นสิลูก..ที่พ่อทำแบบนี้ก็เพื่อปกป้องลูกนะ ลูกต้องฉีดเจ้าโปรเจค X นี่เข้าไป ไม่อย่างงั้นพวกมันจะต้องฆ่าลูกแน่ๆ..]

เสียงของคุณพ่อที่กล่าวออกมา เขาได้ถอดเน็กไทมารัดที่ต้นแขนของผมเอาไว้อย่างแนบแน่น ก่อนจะเล็งเข็มฉีดขามาที่ข้อมือของแขนข้างนั้น..

[มะ..ไม่ต้องห่วงนะ เจ้านี่มันถูกทำให้หลับอยู่ มันจะไม่เข้ายึดสมองของลูกอย่างแน่นอน หรือกว่าที่มันจะทำแบบนั้นได้ มันก็คงจะผสานเข้ากับร่างกายของลูกไปแล้ว..]

คุณพ่อของผมที่เอ่ยออกมา แต่ทว่าผมที่เป็นเด็กกลับคิดว่าเขากำลังจะลงโทษผม..

[คะ..คุณพ่อ ฮือออ..ผมกลัว อย่าทำผมเลยนะ ผมจะไม่ดื้ออีกแล้ว..]

[มะ..ไม่เลย ทั้งหมดมันเป็นเพราะพ่อเอง ถ้าพ่อไม่คิดที่จะทำโปรเจคนี้ต่อ ครอบครัวของเราก็ไม่ต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ ฮือ..]

ตู้ม..!!!!

พ่อของผมที่ร้องไห้ออกมา ก่อนที่ทันใดนั้น จู่ๆจะเกิดเสียงระเบิดที่ดังสนั่นขึ้น ภาพความทรงจำที่ผมเห็นคืออาคารขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ภายในป่าลึกจู่ๆก็ถูกเครื่องบินรบทิ้งระเบิดลงมา จนเกิดเป็นการระเบิดอย่างรุนแรงจนอาคารหลังนั้นถล่มลงมา

ท่ามกลางความมืดในช่วงเวลากลางคืน แสงจากแรงระเบิดได้ส่องสว่างวาบไปทั่วบริเวณ..

[ไม่มีเวลาแล้ว..พวกมันมาแล้ว กินนี้เอาไปซะ..!]

พ่อที่หันไปมองยังจุดที่ระเบิดตกลงมา ก่อนจะหันกลับมาเอาชิปขนาดเล็กยัดใส่ปากของผม สีหน้าของเขาดูตื่นตระหนกและกำลังกระวนกระวายใจ..

[มันอาจจะเจ็บแต่อดทนไว้นะลูก..]

[ไม่..! ฮือ..อย่านะ คุณพ่อ..]

[อย่าดิ้นสิ..สตาร์]

ภายในภาพความทรงจำที่ผมกำลังขัดขืนยื้อกระชากถีบร่างของคุณพ่อ เขาพยายามที่จะแท่งเข็มมายังแขนของผม จนกระทั่ง..

ปัง..!!!

[อั่ก..! อ้ากกกกก..!!!]

ทันใดนั้นจู่ๆก็มีเสียงปืนที่ถูกลั่นไก พ่อของผมถูกยิงเข้าที่ไหลขวา ทำให้ร่างของเขาทรุดฮวบลงมาทับผม แต่ทว่า..

[โอ้ย..ฮือออ เจ็บ..!!]

เสียงของผมที่ร้องไห้ออกมา เป็นช่วงจังหวะที่คุณพ่อจะตะเกียดตะกายชันตัวลุกกลับขึ้นมา ก่อนจะได้พบเข้ากับสิ่งที่ไม่คาดคิด..

ภายในภาพความทรงจำในตอนนี้ที่ผมกำลังเห็น เข็มฉีดยาของคุณพ่อกำลังปักอยู่ตรงบริเวณเป้ากางเกงของผมเสียบเข้าไปในไอ้จ้อนอย่างพอดิบพอดี แถมมันยังฉีดของเหลวที่บรรจุตัวอะไรสักอย่างเข้ามา..

[มะ..ไม่นะ..! ไม่ใช่..มันต้องไม่ใช่แบบนี้ แบบนี้แย่แน่ๆ]

ฟุบ..!

คุณพ่อของผมที่ร้องตะโกนออกมาเหมือนกับคนที่กำลังสติแตก ก่อนจะรีบถกกางเกงของผมออก

[ฮือออ อะ..โอ้ย คุณพ่อ มันมีอะไรไม่รู้กำลังขยับอยู่ข้างใน เจ็บ..ผมเจ็บ เอามันออกไป..!]

ผมที่ร้องไห้ออกมา พลางเอามือจับกุมไอ้จ้อนน้อย แต่แล้วในวินาทีนั้น จู่ๆก็มีกองกำลังของชายชุดดำที่ปรากฏตัวออกมาจำนวนนับหลายสิบคน โดยที่ทุกๆคนนั้นถืออาวุธปืนหนักครบมือ แถมยังสวมใส่ชุดเกราะเอาไว้อย่างแน่นหนา..

ซึ่งชายชุดดำทุกๆคนที่เดินออกมากำลังเข้าห้อมล้อมร่างของพ่อและผมเอาไว้ ก่อนจะตะโกนเป็นภาษาต่างชาติที่ผมพอจะจำใจความได้ว่า..

[ด็อกเตอร์เลนิน มันจบแล้ว..ส่งอาวุธทดลองนั่นมาซะ แล้วเราสัญญาว่าจะไว้ชีวิตคุณ..]

[หึๆ ฮ่าๆ เสียใจด้วย..ตอนนี้โปรเจค X ได้ถูกฉีดเข้าสู่ร่างของเด็กคนนี้แล้ว พวกแกจะไม่มีวันได้ครอบครองมันแน่..! ทั้งหมดก็..เพื่อมนุษยชาติ..!]

คุณพ่อของผมที่หัวเราะออกมา ก่อนจะหยิบปืนพกออกมาจากภายในเสื้อและนำมันมาจ่อที่หัวของตัวเอง..

[พ่อรักลูกนะ จงอดทนเอาไว้..อีกไม่นานความช่วยเหลือจะต้องมาถึงอย่างแน่นอน..]

ปัง..!

และนั่นก็คือคำพูดสุดท้ายของคุณพ่อ ก่อนที่เขาจะลั่นไก..ร่างของคุณพ่อได้ตกลงมานอนตายอยู่ต่อหน้าของผม และนั่นก็น่าจะเป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นคนตายไปต่อหน้าต่อตา..

[ไอ้เจ้าด็อกเตอร์นั่นฉีดของพรรค์นั้นให้ลูกของตัวเองเนี่ยนะ ถือว่าฉลาดไม่เลว คงวางแผนไม่ให้เราฆ่าไอ้เจ้าเด็กนี่สินะ..]

[หึ..แต่ถ้าเป็นฉัน ฉันว่าฉันฆ่าเจ้าเด็กนี่ดีกว่า มันก็น่าจะรู้ว่าถ้าทำแบบนี้ ไอ้เจ้าเด็กนี่จะต้องเจออะไร..]

[ฮือ..ฮึกๆ ๆ ๆ]

ท่ามกลางเสียงของชายชุดดำสองคนที่กำลังคุยกัน พวกมันได้เข้ามากระชับพื้นที่ ก่อนจะตรวจสอบศพพ่อของผม..

โดยที่ตัวของผมนั้นก็กำลังนั่งตัวสั่นจากอาการช็อค สถานการณ์ที่เกิดขึ้นมันได้สร้างการกระทบกระเทือนทางจิตใจของผมเป็นอย่างมาก..

[รวบรวมข้อมูลการวิจัยของพวกมันมาให้หมด หึๆ..เบื้องบนคิดไม่ผิดเลยจริงๆที่ยอมปล่อยให้พวกมันแย่งเจ้าสิ่งนี้ไป..]

[ฉันล่ะสงสัยจริงๆ ทำไมเบื้องบนถึงยอมปล่อยเจ้าอาวุธทดลองนี่ให้หลุดไปอยู่ในมือของไอ้เจ้าพวกนี้ แทนที่จะจับตัวของไอ้เจ้านักวิทยาศาสตร์นี่และบีบบังคับให้มันทดลองเจ้าอาวุธทดลองให้เรา..?]

[หึ..แกจะไปรู้อะไร เบื้องบนน่ะทำถูกแล้ว..ยังไงไอ้เจ้านักวิทยาศาสตร์นี่ก็ไม่มีวันที่จะทดลองเจ้าสิ่งนี่ให้เราหรอก และที่สำคัญที่ห้องทดลองขององค์กร แกก็ได้เห็นแล้วหนิว่ามนุษย์ทดลองที่ฉีดเจ้าอาวุธทดลองนี่เข้าไปแล้วผลลัพธ์จะเป็นยังไง..]

[นั่นสินะ..แล้วแกมั่นใจแค่ไหนว่าไอ้เจ้าเด็กนี่จะไม่กลายเป็นสัตว์ประหลาดเหมือนกับมนุษย์ทดลองคนนั้น..?]

[ไม่หรอก..เบื้องบนได้คาดเดาสถานการณ์ตั้งแต่ที่ยอมปล่อยเจ้าอาวุธทดลองนี้ให้ถูกขโมยไปแล้ว ยังไงพวกมันก็จะต้องทำการทดลองหาทางนำเจ้าอาวุธนี่มาเป็นของตัวเอง เพื่อที่จะใช้ตอบโต้กับพวกเรา แล้วก็ดูเหมือนว่าเจ้านักวิทยาศาสตร์นี่จะทำได้สำเร็จจริงๆ

จากการทดลองเบื้องต้น ถ้ามนุษย์สามารถที่จะควบคุมเจ้าอาวุธทดลองนี้ได้ แทนที่จะถูกมันควบคุม ผลลัพธ์ที่ออกมามันจะมีอานุภาพที่ร้ายกาจเสียยิ่งกว่าขีปนาวุธซะอีก..]

[นั่นสิ..ฉันก็ได้รับอนุญาติให้อ่านรายงานของการทดลองนี้มาเหมือนกัน ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ กะอีแค่..]

[ปัง ๆ ๆ ๆ ๆ]

เสียงการสนทนาของชายชุดดำสองคนที่พูดคุยกัน แต่แล้วในช่วงจังหวะที่ผมกำลังจะได้รับรู้ถึงข้อมูลสำคัญ จู่ๆทันใดนั้นก็มีแสงสว่างของกระสุนปืนที่สาดยิงเข้ามา..

[แม่งเอ้ย..ไอ้พวกกองกำลังพิเศษมันมากันแล้วเหรอ..?]

ชายชุดดำที่สบถออกมา ก่อนที่มันจะเอาสันปืนกระแทกเข้ามาที่หน้าของผมจนสลบไป และนั่นก็คือภาพเหตุการณ์สุดท้ายที่ผมได้เห็น..

ฟุบ..!

ภาพเหตุการณ์ที่ตัดมายังอีกเหตุการณ์ สิ่งที่ปรากฏให้เห็นคือผมที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ภายในห้องทดลองกระจกแก้ว แขนและขาทั้งสองข้างถูกสายรัดมัดติดเอาไว้กับเก้าอี้ รวมไปถึงตาและปากเองก็ถูกปิดผนึกเอาไว้

อีกทั้งทั่วทั้งตัวยังมีสายไฟที่แปะระโยงระยาง มิหน่ำซ้ำที่บนหัวยังใส่หมวกเหล็กที่พ่วงด้วยฉนวนไฟฟ้า เพียงมองแค่ตาเปล่าผมก็รู้ได้ในทันทีว่านั่นคือเก้าอี้ไฟฟ้าที่เอาไว้ใช้ทรมานคน..

นอกเหนือจากนี้ยังมีแขนกลที่ห้อยลงมาจากบนเพดานกว่าหลายสิบแขน โดยที่อีกฟากหนึ่งของห้องกระจกในเวลานี้ปรากฏให้เห็นเป็นร่างของนักวิทยาศาสตร์จำนวนหลายคนที่กำลังยืนมองผมอยู่..

[น่าตกใจจริงๆ ไม่คิดว่านักวิทยาศาสตร์คนนั้นจะค้นพบวิธีที่จะผสาน อาวุธทดลอง X เข้ากับร่างกายของมนุษย์ได้จนสำเร็จ โดยที่ไม่ถูกมันควบคุมสมอง]

[นั่นสิ..แต่ก็น่าเสียดายที่พวกเราต้องทำลายอาวุธทดลอง X หมายเลขหนึ่งถึงสี่ไป หวังว่าเจ้าหมายเลขห้านี่จะไม่เกิดข้อผิดพลาดนะ..]

[แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม เมื่อชิประเบิดสร้างเสร็จ เราก็ติดตั้งมันเข้าไปในตัวของหมายเลขห้าก่อนเถอะ ถ้าเกิดว่ามันมีข้อผิดพลาดขึ้นมา เราจะได้ระเบิดทำลายมันได้]

[ใช่..พวกคุณคงจะจำบทเรียนของหมายเลขหนึ่งที่เกิดขึ้นเมื่อ 7 ปีก่อนได้อยู่สินะ ในตอนนั้นห้องทดลองเก่าได้ถูกทำลาย แถมยังมีนักวิทยาศาสตร์เกือบร้อยที่ชีวิตที่ตายในโศกฏนากรรมครั้งนั้น]

[อืม..เจ้าสิ่งนี่อันตรายเกินกว่าที่พวกเราจะคาดคิด ในกรณีที่เกิดข้อผิดพลาดหรือเสียการควบคุมพวกเราจำเป็นที่จะต้องทำลายมัน แต่ถึงอย่างไรหมายเลขห้าก็เป็นตัวทดลองสุดท้ายที่พวกเรามี เราจะเสียมันไปง่ายๆไม่ได้ นี่คือความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่ใกล้จะสมบูรณ์ ถ้าเทียบกับหมายเลขที่ผ่านๆมา..]

เสียงของนักวิทยาศาสตร์ที่พูดคุยกัน สีหน้าของพวกเขากำลังแสดงออกถึงความตื่นเต้นและเป็นกังวลกับการทดลองในครั้งนี้..

[เอาล่ะ..ท่านสุภาพบุรุษทั้งหลาย ผมว่าถึงเวลาที่พวกเราจะทำการทดลองแล้ว อันดับแรกฉีดสารที่ช่วยกระตุ้นอะดรีนาลีนเข้าไปก่อน..]

นักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งที่กล่าวเปิดการทดลอง ก่อนที่หนึ่งในแขนกลจะเคลื่อนตัวลงมาหาผม ลักษณะของแขนกลเหมือนกับแขนของด็อกเตอร์อ็อกโตปุสในสไปเดอร์แมน..

ชิ้ง..!

แขนกลที่เปิดกลไกปรากฏเป็นเข็มเรียวแหลม ก่อนจะเคลื่อนตัวลงมาทิ่มที่แขนของผม พร้อมกับฉีดสารบางอย่างเข้ามา..

ฉึก..!

[โอ้ย..! ฮือออออ..!!!]

ร่างของผมในวัยเด็กที่กระตุกวูบ ก่อนจะร้องไห้ออกมา โดยที่ขนาดของเข็ม แม่งไม่ใช่เข็มฉีดยาธรรมดา แถมยังมีขนาดที่ใหญ่กว่าถึงสามเท่า..

[ต่อไปช็อตกระแสไฟฟ้า เพื่อปลุกการทำงานของอาวุธทดลอง]

เสียงของนักวิทยาศาสตร์ที่กล่าวออกมา ก่อนที่หมวกเหล็กบนหัวของผมจะปล่อยกระแสไฟฟ้าออกมา..

[อ้ากกกกกกกก..!!!]

เสียงของผมที่ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ร่างของผมพลันชักกระตุกไปมา การทดลองดำเนินแบบนี้ไปนานนับสิบนาที ก่อนที่สุดท้ายแล้วนักวิทยาศาสตร์จะปิดการทำงานของกระแสไฟฟ้า..

ฟุบ..

ร่างของผมที่คอห้อยตกลงไป ผ้าปิดตาที่พันรัดอยู่บนใบหน้าค่อยๆที่จะคลายออก ก่อนจะร่วงหลุด ก่อนที่ทันใดนั้น

[$£#¥@¥%£€$¥×¥@%]

เสียงปริศนาที่ดังขึ้นมา มันเป็นภาษาที่ผมไม่อาจจะเข้าใจได้ โดยที่ทิศทางของต้นเสียงมันดังมาจากเป้ากางเกงของผม..

[เอาล่ะทำการตรวจสอบแทรกแซงความทรงจำและเรียนรู้ภาษาของสิ่งมีชีวิต ภาษาไทย.. บนดวงดาว C-87 เป็นสิ่งมีชีวิตที่ถูกระบุและเรียกกันในดาวเคราะดวงนี้ว่ามนุษย์ เท่าที่ตรวจสอบเบื้องต้น ร่างกายของฉันได้ผสานเข้ากับร่างกายของมนุษย์สินะ]

เสียงของอะไรบางสิ่งที่ดังขึ้นมาจากภายในเป้ากางเกงของผมในวัยเด็ก..

[ฮืออออออ เจ็บ..]

[ร่างกายได้รับความเสียหายจากกระแสไฟฟ้าสินะ เอาล่ะ..คงต้องรักษาก่อน ถ้าเจ้านี่ตายเราก็คงจะตายไปด้วย ทำการรักษาเซล์และความเสียหายทั้งหมด..]

เสียงปริศนาที่ยังคงดังออกมา ก่อนที่จู่ๆร่างกายของผมในวัยเด็กจะถูกฟื้นฟู..

[เอาล่ะเรียบร้อย ที่นี้ก็..นี่นายน่ะ..ตั้งสติหน่อย ได้ยินเสียงของฉันไหม..? ฉันอยู่ข้างในจู๋ของนาย..]

และนั่นก็คือคำพูดสุดท้ายที่ดังออกมา ก่อนที่ภาพความทรงจำจะตัดไป พร้อมกับเสียงของเอลิเซียที่ดังอยู่ข้างๆ..

“สตาร์..! สตาร์..!”เสียงของเอลิเซียที่เรียกชื่อของผม ทันทีที่ผมตั้งสติได้ดวงตาของผมก็พลันต้องเบิกกว้างขึ้น..

“หะ..หืม..?”ผมที่ส่งเสียงออกมา..

“นายเป็นอะไร..?”เอลิเซียที่ถามผม สีหน้าของเธอกำลังแสดงออกถึงความเป็นห่วง 

“แล้วฉันเป็นอะไร..?”ผมที่ถามกับเอลิเซีย

“ฉันต่างหากล่ะที่ต้องถามนาย พอฉันกลับมาจากการฝึกก็เห็นว่านายกำลังนอนชักกระตุกไปมาอยู่กลางอากาศ..”เอลิเซียที่กล่าวออกมา พอผมได้ยินก็ถึงกับร้องเสียงหลง

“ห้ะ..? กลางอากาศ..”

“ก็ใช่น่ะสิ ร่างของนายลอยขึ้นมาอยู่เหนือที่นอนลอยแบบลอยอยู่กลางอากาศอ่ะ แถมคอของนายยังหักไปๆมาๆด้วย..”เอลิเซียที่กล่าวออกมา เฮ้ย..เกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย..

“มะ..ไม่เป็นอะไรหรอก เธอไม่ต้องเป็นห่วง..”ผมที่ตอบกลับเอลิเซีย

“แน่ใจนะ..?”เอลิเซียที่ถามซ้ำ เธอดูใจคอไม่ดี..

“แน่ใจ..แล้วฮิตเลอร์ล่ะ..?”

“กำลังทำอาหารเช้าอยู่ พวกฉันพึ่งจะฝึกเสร็จน่ะ..”เอลิเซียที่กล่าวออกมา เดี๋ยวนะ..

“นี่พวกเธอออกไปฝึกกันมาแล้วเหรอ..? ตั้งแต่ที่พวกเธอออกไป เวลามันผ่านมานานแค่ไหนแล้ว..”ผมที่ถามกับเอลิเซีย..

“สามชั่วโมง..”สิ้นคำตอบเอลิเซีย ผมก็พลันต้องหยุดชะงัก ดูเหมือนว่าครั้งนี้มันจะแตกต่างจากครั้งก่อน 

“เธอไปรอข้างนอกก่อนได้ไหม ขอฉันตั้งสติแป็บหนึ่ง..”ผมที่บอกกับเอลิเซีย ร่างกายของผมในตอนนี้เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ

“อะ..อืม ขะ..เข้าใจแล้ว..”เอลิเซียที่ตอบกลับ ก่อนจะเดินออกไป..

“จ้อน..แกเห็นความทรงจำแล้วหรือยัง..?”ผมที่ถามกับไอ้จ้อน พลางยกมือขึ้นมาปิดหน้าของตัวเองอย่างเคร่งเครียด

“อะ..เออ นะ..นี่ฉัน เป็นสิ่งมีชีวิตทดลองเหรอเนี่ย หรือว่าฉันอาจจะเป็นมิกิ ปรสิตเพื่อนรักถล่มโลก..”ไอ้จ้อนที่กล่าวติดตลกออกมา พลางอ้างอิงถึงอนิเมะเรื่องหนึ่งที่พระเอกมีปรสิตฝังอยู่ที่แขนขวา แถมยังเปลี่ยนแขนให้กลายเป็นใบมีดได้

“อย่าพึ่งเล่น..ดูเหมือนว่าภูมิหลังของพวกเราจะไม่ธรรมดาแล้วล่ะสิ นี่มันเข้าขั้นไซไฟเลยนะ ฉันคือลูกของนักวิทยาศาสตร์ที่วิจัยอาวุธทดลอง แถมดูเหมือนว่าแกจะไม่ใช่สิ่งมีชีวิตทดลองธรรมดาด้วย อึก..เรื่องนี้แม่งน่าเหลือเชื่อชะมัด..”ผมที่วิเคราะห์และเรียบเรียงสถานการณ์..

“แถมดูเหมือนว่าฉันจะเป็นตัวอันตรายด้วย อานุภาพร้ายกาจยิ่งกว่าขีปนาวุธซะอีก..”ไอ้จ้อนที่กล่าวเสริม จากความทรงจำที่ได้รับมันก็บอกเอาไว้แบบนั้น แต่ผมก็ไม่เห็นว่าจู๋ที่อยู่ใต้กางเกงของผมมันจะอันตรายกว่าขีปนาวุธตรงไหนเลย..

“แต่นอกจากพูดได้ ฉันก็ไม่เห็นว่าแกจะทำอะไรได้เลยนะ..”ผมที่บอกกับไอ้จ้อน..

“ไม่หรอก..พลังของฉันอาจจะถูกผนึกอยู่ก็ได้..”

“ก็คงงั้น..ความทรงจำของพวกเรามันบิดเบี้ยวจนแทบจะจำอะไรไม่ได้ มันก็เหมือนกับจิ๊กซอว์นั่นแหละ ดูเหมือนว่าต่อจากนี้พวกเราจะต้องหาทางประติดประต่อมัน..”ผมที่บอกกับไอ้จ้อน..

“เห็นด้วย..เพราะฉะนั้นแกก็รีบเสียบเยอะๆ..”ไอ้จ้อนที่เลี้ยวกลับมายังเรื่องหื่นกาม..

“เหอะๆ นี่น่ะเหรออาวุธทดลองที่มีอานุภาพร้ายกาจเท่าขีปนาวุธ แกมันก็แค่ไอ้จู๋หื่นกาม..”ผมที่หัวเราะออกมาอย่างหน่ายๆ..

“เอ้า..ไหงมาบลูลี่กันอ่ะ ถ้าจะโทษก็ต้องไปโทษพ่อของแกที่ดันฉีดฉันเข้ามาอยู่ตรงนี้..”ไอ้จ้อนที่ตะโกนสวนกลับ แต่จะว่าไปแล้วนอกจากใบหน้าของพ่อผม ผมก็จำเรื่องราวที่เกี่ยวกับเขาไม่ได้เลย..

“จริงด้วย..!!”ไอ้จ้อนที่จู่ๆก็ตะโกนดังขึ้น..

“อะไร..?”ผมที่ถามมันด้วยความสงสัย เมื่อเห็นว่ามันเหมือนจะรู้อะไร

“แกลองกัดแขนดูดิ ไม่แน่ว่าฉันอาจจะเป็นปรสิตไททันก็ได้ สถานการณ์ในตอนที่พ่อของแกฉีดฉันเข้าไปมันเหมือนกับในเมะเป๊ะๆเลย แกอาจจะชื่อสตาร์ เยเกอร์ก็ไ..ด้….”

“เฮ้อ..ไปอาบน้ำดีกว่า..”ผมที่ถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยหน่าย เท่าที่จำได้ไอ้จู๋นี่ก็เคยดูอนิเมะมาไม่น้อยเหมือนกัน

“ดะ..เดี๋ยวเซ้ แค่พูดเล่นเฉยๆ ตอนนี้ฉันเหมือนพอจะรู้ความสามารถของตัวเองอย่างหนึ่งแล้ว..”ไอ้จ้อนที่กล่าวออกมา ทำให้ผมพลันต้องหยุดชะงัก..

“หืม..? ความสามารถอะไร..?”ผมที่ถามกับมัน..

“แกยังจำในตอนที่แกสู้กับพลตรีเปเนสจนกระดูกขาละเอียดได้ไหม..”

“เออ..จำได้..”

“นั่นแหละ ฉันว่าฉันอาจจะมีพลังเร่งการรักษา พอตื่นขึ้นมาจู่ๆขาของแกก็ถูกฟื้นฟูจนหาย ทั้งๆที่เวลาผ่านไปแค่วันเดียวเอง แถมในความทรงจำเมื่อกี้ ฉันยังรักษาร่างกายของแกได้ด้วย..”ไอ้จ้อนที่อธิบาย ซึ่งมันก็ทำให้ผมหยุดชะงัก ก่อนจะอึ้งไปชั่วขณะ พอมาลองคิดดูดีๆก็จริงอย่างที่มันพูด

“ไหนแกลองเอามีดมาปาดมือดูดิ..”ไอ้จ้อนที่บอกกับผม พอผมได้ยินก็เดินไปหยิบมีดสั้น ก่อนจะทำการปาดลงไปยังข้อมือในทันที..

ปึด..!

ทันทีที่มีดปาดเข้าสู่ข้อมือเลือดสีแดงก็ไหลทะลักออกมา พอไอ้จ้อนเห็นแบบนั้นมันก็เริ่มทำการรักษาในทันที..

“ฟื้นฟู..!”ไอ้จ้อนที่ตะโกนออกมา แต่ทว่ากลับไม่เกิดอะไรขึ้น..

“อึก..ฮิลลิ่ง..! รักษา..! จงหาย..เวรแล้วไง..!”ไอ้จ้อนที่เริ่มจะใจคอไม่ดี ก่อนที่มันจะพูดแมวๆกับผมว่า..

“เหมือนจะไม่ได้ผลง่ะ..”

“อ้าว..ไอ้สลัดผัก ชิบหายแล้วไง เผลอปาดไปโดนเส้นเลือดใหญ่ด้วย..!”ผมที่กู่ร้องออกมาด้วยความหัวร้อน แต่แล้ว..

“เดี๋ยวนะ..อื้ม รักษาเนื้อเยื้อและทำการซ่อมแซมเซล์ที่ถูกทำลาย เชื่อมต่อเส้นเลือดใหญ่ ตำแหน่งข้อมือ..”เสียงของไอ้จ้อนที่กล่าวออกมา ทันใดนั้นจู่ๆบาดแผลของผมก็ถูกรักษาจนหาย..

“เฮ้ย..ได้ผลว่ะ..!”ผมที่ตะโกนออกมา สิ่งที่เกิดขึ้นถึงกับทำให้ผมตาเหลือกด้วยความตกตะลึง..

“อะ..อึก ความรู้สึกเมื่อกี้แม่งอธิบายไม่ถูกว่ะ เหมือนฉันส่งอะไรสักอย่างไปรักษาแผลของแกเลย..”ไอ้จ้อนที่กล่าวออกมา..

“สตาร์..อาหารเสร็จแล้วนะ..”เสียงของเอลิเซียที่ตะโกนเรียก ทำให้ผมกับไอ้จ้อนต้องละความสนใจจากสิ่งที่เกิดขึ้น..

“เอาไว้ค่อยว่ากัน..!”ผมที่ตอบกลับไอ้จ้อน..

“เยส..! ในที่สุดฉันก็มีประโยชน์แล้ว..”ไอ้จ้อนที่ตะโกนออกมา..

ซึ่งหลังจากนั้นผมก็ออกไปข้างนอกห้องเพื่อกินอาหารเช้ากับเอลิเซียและฮิตเลอร์ ทันทีที่ทั้งสองได้เห็นผม ใบหน้าของพวกเธอก็ขึ้นสี เมื่อต้องนึกย้อนถึงเหตุการณ์อันแสนเร้าร้อนเมื่อคืน..

“นี่..”ผมที่ส่งเสียงเรียกทั้งสองคน ทันทีที่กินอาหารบนจานจนหมด..

“วะ..ว่าไง..?”เอลิเซียกับฮิตเลอร์ที่ขานรับพร้อมกัน ถึงพวกเธอจะกินหมดแล้ว แต่ก็ยังคงนั่งก้มหน้างุด..

“พวกเธอรักฉันไหม..?”

“อะ..อึก ถามอะไรเนี่ย..?”เอลิเซียที่ถึงกับหน้าแดง..

“มะ..เมื่อคืนเราก็บอกไปแล้ว..”ฮิตเลอร์ที่กล่าวออกมา หน้าของเธอแดงจนลามไปถึงหู..

“อ้อ..ไม่รัก..”

“รักสิ..!”เอลิเซียกับฮิตเลอร์ที่กล่าวผสานเสียง เมื่อผมได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มกรุ้มกริ่ม ก่อนจะชันตัวลุกขึ้นยืน

“นี่นายแกล้งพวกเรางั้นเหรอ..?!”เอลิเซียที่จับสังเกตเห็นถลึงตาใส่ผม โดยที่ผมก็ยักคิ้วส่งให้เธอ..

“หนอย..!”เอลิเซียที่แยกเขี้ยวทำท่าจะลุกขึ้นมาจัดการผม..

“ไปข้างนอกกันเถอะ..”ผมที่กล่าวออกมา เมื่อเอลิเซียได้ยินก็หยุดชะงัก..

“หืม..ไปไหน..? หรือว่านายจะสอนอะไรพวกเราอีก..”เอลิเซียที่เอ่ยถามออกมา..

“เปล่า..ก็ตามสัญญาไง ฉันจะแสดงให้เธอเห็นว่าเจมิไนท์ของเธอสามารถที่จะทำอะไรได้บ้าง..”ผมที่บอกกับเอลิเซีย พอเธอได้ยินก็เบิกดวงตากว้างขึ้น ก่อนที่ต่อจากนั้น..

ไม่กี่นาทีต่อมา 

ณ ลานดินระแวกหอพัก..

หลังจากที่ผมพาเอลิเซียกับฮิตเลอร์มายังลานดิน ผมก็ได้ให้เอลิเซียตักน้ำมาถังหนึ่ง ก่อนจะให้เธอเปลี่ยนน้ำดังกล่าวให้กลายเป็นน้ำมัน..

“แล้วไงต่อ..? นายคิดจะทำอะไรกับมัน..”เอลิเซียที่ชันตัวลุกกลับขึ้นมายืน หลังจากที่พึ่งจะจัดการเปลี่ยนน้ำในถังให้กลายเป็นน้ำมัน..

“ฉันเองก็ไม่แน่ใจว่าจะได้ผลไหม คงมีแต่ต้องลองทดสอบดู..”ผมที่กล่าวออกมา ก่อนจะหันไปบอกกับฮิตเลอร์..

“ฮิตเลอร์เธอลองโยนผลึกกักเก็บไฟลงไปในถังนี้ดูหน่อยสิ..”ผมที่หันไปบอกกับฮิตเลอร์ ก่อนที่เธอจะหยิบผลึกสีแดงออกมา พร้อมกับใส่พลังเวทเข้าไปเพื่อเปิดการทำงาน..

ฟุบ..

จ๋อม..!

ผลึกกักเก็บไฟที่ถูกโยนลงไปในถังน้ำมัน แต่ทว่ากลับไม่เกิดปฏิกิริยาอะไรขึ้นเลย..

“เฮ้อ..เสียใจด้วยนะเอลิเซีย ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ผล..”ผมที่ถอนหายใจออกมา ทางด้านของเอลิเซียที่ได้ยินแบบนั้นก็แสดงสีหน้าผิดหวัง แต่แล้ว..

บุ๋งๆ ๆ ๆ

จู่ๆทันใดนั้นก็เกิดปฏิกิริยาขึ้น ผมที่ยืนอยู่พลันดึงแขนของเอลิเซียกับฮิตเลอร์ให้ถอยห่างออกจากถังน้ำมัน จากภาพของฟองอากาศที่กำลังเดือดปุดๆ

ซูม..!!!!!!!!!

และแล้วเปลวเพลิงสีแดงฉานลูกใหญ่ก็ได้พวยพุ่งขึ้นมาจากถัง ก่อนที่สะเก็ดจะไหลหยดลงสู่พื้นกลายเป็นแอ่งเพลิงลุกท้วมไปทั่วทั้งพื้นดิน อีกทั้งมันยังไม่มีท่าทีว่าจะดับลงง่ายๆ 

ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นได้สร้างความตกตะลึงให้แก่เอลิเซียเป็นอย่างมาก จนเธอถึบกับต้องเบิกดวงตากว้างขึ้น..

“หึ..เผาให้ราบเป็นหน้ากลอง..!”เสียงของผมกับไอ้จ้อนที่กล่าวออกมา 

 

 

ไรท์:คอมเม้น..!!!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด