Sword of horny ดาบแสงพลัง X กับทรชนพันธุ์ระยำ.. 52

Now you are reading Sword of horny ดาบแสงพลัง X กับทรชนพันธุ์ระยำ.. Chapter 52 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

แสงที่ 52 การฝึกสุดโหดของสตาร์ (1)

เช้าวันรุ่งขึ้น..

ภายในห้องนอนของสตาร์ ภาพที่ปรากฏให้เห็นคือร่างของเอลิเซียกับฮิตเลอร์ที่กำลังนอนหนุนอยู่ภายใต้อ้อมแขนของชายหนุ่ม ตลอดทั้งคืนคนทั้งสามแทบจะไม่ได้พลิกตัวหรือเปลี่ยนท่าเลย เขาและพวกเธอยังคงนอนอยู่ในท่านี้..

แต่สิ่งที่แตกต่างไปจากเดิม นั่นก็เห็นจะเป็นแขนของเอลิเซียและฮิตเลอร์ที่กำลังโอบกอดชายหนุ่ม อีกทั้งขาของพวกเธอยังก่ายทับอยู่บนเอวของเขา..

[ชาร์จพลังงาน X ฟอรส์ 70 หน่วย]

[สตาร์]

เสียงของระบบที่ดังขึ้น จึงทำให้ผมค่อยๆที่จะลืมตาขึ้นมา ก่อนจะตั้งสติ อึก..อะไรวะเนี่ย..

 

ทันทีที่ผมลืมตาขึ้นมา ผมก็ต้องเบิกดวงตากว้างขึ้น จากตัวเองที่อยู่ในสภาพเปลือยเปล่า อีกทั้งข้างๆกายยังมีร่างของเอลิเซียกับฮิตเลอร์ที่กำลังนอนกอดแขนของผมเอาไว้คนละข้าง

 

“อึก..!”ผมที่กลืนน้ำลายลงคอ จู่ๆอะดรีนาลีนภายในร่างของผมก็พุ่งสูงขึ้น ก่อนที่โหมด X จะถูกปลุก..

 

‘หืม..ได้ผลจริงๆด้วยแฮะ..แต่ทำไมมันถึงน้อยจัง..’ผมที่ครุ่นคิดด้วยความสงสัย เมื่อโหมด X ถูกปลุกผมก็มุ่งความสนใจไปที่พลัง X ฟอร์สที่ได้รับ ตอนแรกก็นึกว่ามันจะได้เยอะกว่านี้..

[เปิดหน้าต่างสเตตัส]

《ข้อมูลเบื้องต้น》

《ชื่อผู้ใช้:สตาร์ลิน》《ชื่อเอมพาส:X เซเบอร์》

《ชนิด/ประเภท:ยุทโธปกรณ์พิเศษ》

《ระดับคริสตัลมานา:☆☆(เขียว)》

《พลังงาน X ฟอร์ส:1,000/1,000 หน่วย》

《EXP:130/2,000》

《ดูเพิ่มเติม..》

สเตตัสที่ถูกเปิดขึ้นมา ถ้าผมจำไม่ผิดดูเหมือนว่าเมื่อวานมันจะเลื่อนระดับขึ้นมาเป็น ☆☆ เขียวแล้ว และก็น่าจะได้สกิลใหม่มา 

“อื้อ..ไปเรียน~”เสียงครางของเอลิเซียที่ดังออกมา เธอค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ 

“จริงสิ..เราจบหลักสูตรแล้วหนิ ถ้างั้นก็แปลว่าตั้งแต่วันนี้ก็ไม่ต้องไปเรียน นอนต่อไ..ด้ เดี๋ยวนะ..”เอลิเซียที่พึมพำกับตัวเอง แต่ทันทีที่สมองของเธอประมวลผลถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเธอก็พลันต้องลืมตาตื่นขึ้น ก่อนจะได้พบเข้ากับสตาร์ที่กำลังนอนหันหน้ามาทางเธอ..

“อึก..”เอลิเซียที่กลืนน้ำลาย ก่อนจะค่อยๆเอื้อมมือไปเสยผมที่ปรกตาของสตาร์ขึ้น จนกระทั่ง..

“…”ดวงตาของเอลิเซียที่เบิกกว้าง จากดวงตาคู่สีแดงของสตาร์ที่กำลังเบิกลืมอยู่ เธอพลันกลอกสายตาไปมาอย่างเลิ่กลั่กจากอาการเขินอาย..

ฟุบ..

ผมที่พลิกสลับขึ้นไปคร่อมอยู่บนร่างของเอลิเซีย พร้อมกับโน้มใบหน้าลงไปเตรียมที่จะประกบจูบริมฝีปากของเธอ

“ดะ..เดี๋ยว อุ๊บ..”เอลิเซียที่กำลังจะพูด แต่ก็ไม่ทันแล้ว ทันทีที่ริมฝีปากของผมจูบประทับลงไป มันก็เริ่มที่จะบดขยี้ พร้อมกับสอดแทรกลิ้นเข้าไปพัวพัน..

ถึงแม้ว่าเอลิเซียจะออกแรงผลักดันหน้าอกของผม แต่ถ้าเทียบกับที่ผ่านๆมาดูเหมือนว่าตอนนี้เธอจะเริ่มทำใจได้ จนแทบจะไม่ได้ขัดขืนเหมือนอย่างที่เคย จากการที่ในตอนนี้ลิ้นของพวกเราที่เข้าสอดแทรกกำลังเริ่มที่จะพัวพันกัน ส่วนผมที่กำลังคร่อมร่างของเธออยู่ก็ได้กระชับอ้อมกอด

ผลักๆ ๆ

“อื้อ..สตาร์อย่าสะกิดเซ้..~”เสียงของจ้อนที่เอ่ยดังขึ้นมา จากการที่ถูกเข่าของใครบางคนแตะชนเข้ามาที่ลำตัว..

ผลัก..

“เฮ..คนจะหลับจะนอน อย่าให้ต้องผงาดในตอนเช้านะ หะ..หืม อู้วววว ฟินแต่เช้าเลย..”ไอ้จ้อนที่กล่าว ก่อนจะขยับดุ๊กดิ๊กไปมา แต่เมื่อมันตั้งสติได้ มันก็ส่งเสียงร้องออกมา..

ซึ่งตั้งแต่ที่ไอ้จ้อนมีสมองเป็นของตัวเอง มันก็สามารถที่จะนอนหลับและตื่นได้ แต่ในกรณีที่ผมหมดสติ ถึงมันจะไม่ได้หมดสติไปด้วย แต่มันก็จะมองไม่เห็นหรือได้ยินเสียงอะไร เพราะมันยังต้องใช้ประสาทสัมผัสของสมองหลักอยู่

ฟุบ..

ผมที่ถอนริมฝีปากออก พลางจ้องมองไปที่ใบหน้าของเอลิเซีย ซึ่งเมื่อเธอตั้งสติได้ ใบหน้าของเธอก็แดงก่ำ และเตรียมที่จะต่อว่าผม ..

“นะ..นาย..”

“ฟ่อด..”

ยังไม่ทันที่เอลิเซียได้พูดอะไร ผมก็ได้โน้มตัวลงไปหอมแก้มเธอหนึ่งฟอด ก่อนจะเอนตัวลุกกลับขึ้นมา..

“ฮะ..ฮึก..อะ..อื้อ..”เอลิเซียที่ถึงกับเสียอาการเธอได้แต่นอนหน้าแดงส่งเสียงร้องอยู่ภายในลำคอ ก่อนจะยกมือขึ้นมาปิดหน้า..

“ฮึม..!”

แต่แล้วทันใดก็มีเสียงของใครบางคนที่ดังขึ้นมาจากทางด้านข้างฝั่งซ้าย เมื่อผมหันไปมองก็พบเข้ากับฮิตเลอร์ที่กำลังนั่งจ้องผมตาเขม็ง สีหน้าของเธอแสดงออกถึงความไม่พอใจ..

โดยที่ฮิตเลอร์ในตอนนี้กำลังใช้ผ้าขนหนูคลุมปิดร่างกายข้างหน้าเอาไว้ แต่ก็ไม่ได้คลุมรัดทั้งตัว เมื่อผมเห็นแบบนั้นจึงเขยิบเข้าไปหาเธอ ก่อนจะจัดการประกบจูบริมฝีปาก 

“อะ..อึก..”ฮิตเลอร์ที่เบิกดวงตากว้างขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่จะเธอจะหลับตาพริ้ม 

“อ้าม..~”ผมที่บรรจงจูบแลกลิ้นกับฮิตเลอร์อย่างดูดดื่มอยู่ชั่วขณะ ก่อนจะค่อยๆถอนริมฝีปากออกมา และเคลื่อนใบหน้าไปจูบที่หน้าผากของเธอเบาๆ ส่งผลทำให้เจ้าตัวถึงกับเสียอาการทำอะไรไม่ถูก..

“ไปอาบน้ำก่อนนะ..”ผมที่บอกกับทั้งสอง พลางเขยิบตัวลุกออกจากเตียง..

ซึ่งก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป ผมก็ได้หันไปมองเอลิเซียกับฮิตเลอร์ และก็พบว่าพวกเธอกำลังนั่งสำรวจร่างกายของตัวเองอยู่ เมื่อพบว่าทุกอย่างยังคงปกติ ทั้งสองก็ต่างพากันถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

“เปลี่ยนใจกระโดดใส่ตอนนี้ยังทันนะ..”ไอ้จ้อนที่เสนอ ถึงผมจะอยากแต่ก็ไม่ดีกว่า ตั้งแต่ที่ได้รู้จักกับสองคนนี้ มันก็ทำให้ผมไม่อยากที่จะทำลายความรู้สึกของพวกเธอ ถ้าคนมันจะยอมเดี๋ยวก็ยอมเองแหละ..

1 ชั่วโมงต่อมา..

หลังจากที่ผมและทั้งสองสาวไปอาบน้ำจัดแจงตัวเองจนเสร็จ พวกเราก็ได้มากินอาหารเช้ากัน ซึ่งก็แน่นอนว่าคนที่ทำนั้นคือฮิตเลอร์ อาหารเช้าวันนี้เป็นไข่ดาวกับไส้กรอก..

ซึ่งถ้าสงสัยว่าวัตถุดิบที่ซื้อมาจะเอาไปเก็บไว้ที่ไหน แน่นอนว่ามันมีอุปกรณ์ตู้เวทมนตร์ที่เอาใช้กักเก็บความเย็นอยู่ แต่อันที่จริงแล้วมันก็เป็นเพียงแค่ตู้ธรรมดา หัวใจหลักสำคัญจริงๆของมันก็คือผลึกที่ชื่อว่าผลึกกักเก็บเวทมนตร์ที่เอาไว้ใช้กักเก็บเวทน้ำแข็งเอาไว้..

ซึ่งนี่ก็คือนวัตกรรมของโลกนี้ สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นไฟที่ใช้หุ้งต้ม หรือแสงสว่างจากตะเกียงก็ล้วนแล้วมาจากผลึกกักเก็บเวทมนตร์..

“….”

ท่ามกลางบรรยากาศบนโต๊ะอาหาร ทุกๆคนในตอนนี้ต่างพากันเงียบกริบไม่พูดอะไรออกมาเลยสักคำ เอลิเซียกับฮิตเลอร์ยังคงนั่งก้มหน้านิ่ง แม้ว่าพวกเธอจะกินอาหารจนหมดแล้วก็ตาม..

แกร๊ก..

ผมที่วางมีดกับส้อมลงบนจาน ซึ่งมันก็ทำให้ทั้งสองคนถึงกับร่างกระตุกสะดุ้งเฮือก..

“ฉันตัดสินใจได้แล้ว ในระหว่าง 6 เดือนนี้ ฉันจะฝึกพวกเธอสองคน..”ผมที่กล่าวออกมา ส่งผลทำให้ทั้งสองคนเงยหน้าขึ้นมามองผม..

“ฝึก..? กลยุทธ์เหรอ..”ฮิตเลอร์ที่เอ่ยถามผม..

“เปล่า..ฝึกต่อสู้ต่างหาก ฉันเองก็อดห่วงไม่ได้ ถึงต่อให้พวกเธอจะวางกลยุทธ์ได้ดีแค่ไหน แต่ถ้าเกิดถูกส่งไปที่สมรภูมิด้วยสภาพแบบนี้มีหวังถูกฆ่าตายแหงๆ..”ผมที่อธิบายออกมา..

“เรื่องนั้นพวกเราก็คิดเอาไว้แล้ว อีกสี่วันโรงฝึกจะเปิด พวกเราก็กะว่าจะไปฝึกฝนกันอยู่ ปีที่แล้วพวกเราก็แบ่งเวลาไปซ้อมสกิลกระสุนแรงดันเวทกันอยู่บ่อยๆด้วย เห็นแบบนี้คริสตัลมานาของฉันก็อยู่ในระดับ 4 ดาวเขียวเชียวนะ..”เอลิเซียที่กล่าวออกมา ถ้าเกิดผมจำไม่ผิด ผู้ที่เลื่อนระดับเอมพาสขึ้นมาจนถึงระดับดาวเขียวก็จะสามารถใช้สกิลกระสุนแรงดันเวทได้แล้ว 

นอกเหนือจากนี้ผู้ที่ถือครองเอมพาสระดับดาวเขียวก็จะสามารถใช้เวททั่วไปได้ ไม่ว่าจะเป็นเวทบาเรีย เวทเสริมกำลัง ส่วนในเรื่องระดับความแรงหรือประสิทธิภาพของเวทมนตร์ก็คงจะขึ้นอยู่กับระดับดาว  ยิ่งดาวสูงก็ยิ่งมีประสิทธิภาพมาก..

“แล้วเอมพาสของเธอเป็นชนิดไหนล่ะ..?”ผมที่ถามกับเอลิเซีย

“กักเก็บน่ะ แถมฉันยังเกิดมาพร้อมกับเจมิไนท์ด้วย..”เอลิเซียที่กล่าวออกมา..

“จริงสิ..เจมิไนท์นี่มันคืออะไร..?”ผมที่เอ่ยถามต่อเอลิเซีย ซึ่งเธอก็กระพริบทำตาปริบๆ

“นี่นายไม่รู้จริงดิ..?”

“รู้แล้วจะถามไหมล่ะ..?”

“เจมิไนท์คือพลังที่เกิดมาจากคริสตัลมานาเหมือนกับเอมพาส แต่สิ่งที่แตกต่างกันคือเจมิไนท์ไม่ต้องใช้มานาในการปลดปล่อย มันคือพลังพิเศษที่หาได้ยากในหนึ่งล้านคนจะพบเจอได้สักคน..

โดยที่เจมิไนท์นั้นจะมีความสามารถที่แตกต่างกันออกไป ยกตัวอย่างเช่นพลโทเครเซอร์ เจมิไนท์ของเขาคือการฟื้นฟูสภาพร่างกายด้วยความเร็ว ส่วนพลโทเมอรัสเจมิไนท์ของเขาคือการสร้างอาณาเขตอำพราง

ส่วนเจมิไนท์แบบอื่นๆที่ฉันเคยเห็นมา บางคนสามารถที่จะสะกดจิตคนอื่นได้ บางคนก็สามารถเปลี่ยนวัตถุจากกระดาษให้กลายเป็นเหล็ก บางคนมีเจมิไนท์ที่เอาไว้ใช้สื่อสารกับสัตว์..

ซึ่งพลังของเจมิไนท์นั้นมันคือพลังที่ยากเกินจะหยั่งถึง มันสามารถที่จะส่งต่อให้กับใครก็ได้ ในปัจจุบันมีเด็กจำนวนหนึ่งที่เกิดมาพร้อมกับเจมิไนท์ โดยที่บุคลากรเหล่านั้นถูกจัดให้อยู่ในหมวดพิเศษ

และถึงแม้ว่าใครจะเกิดมาโดยไร้ซึ่งเอมพาส แต่ถ้าถือครองเจมิไนท์ คนๆนั้นก็จะถูกปฏิบัติเป็นอย่างดี ส่วนอีกเรื่องที่เจมิไนท์แตกต่างจากเอมพาส คือเจมิไนท์ไม่สามารถเลื่อนระดับได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็สามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้ขอเพียงแค่ใช้มันบ่อยๆจนคล่อง..

และสุดท้ายถึงเจมิไนท์อาจจะไม่ได้มีเงื่อนไขเหมือนกับเอมพาส แต่ถ้าเกิดใช้งานมันจะเกิดผลกระทบที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละคน..”สิ้นคำอธิบายของเอลิเซียผมนั้นก็เข้าใจได้ในทันที ถ้าจะให้นิยามความหมายของเจมิไนท์ มันก็คือพลังพิเศษเหมือนกับพลังที่พวกซุปเปอร์ฮีโร่มี อารมณ์คล้ายๆกับอัตลักษณ์ในฮีโร่อาคาเดเมีย ถึงความสามารถอาจจะไม่ได้เวอร์วังอะไรขนาดนั้น แต่ก็ถือว่าเป็นพลังที่มองข้ามไปไม่ได้

“แล้วเจมิไนท์ของเธอมีความสามารถอะไร..?”ผมที่ถามกับเอลิเซีย..

“เจมิไนท์ของฉันมันไร้ประโยชน์น่ะ..”เอลิเซียที่กล่าวออกมา สีหน้าของเธอแลดูเศร้าหมองไปในทันที..

ฟุบ..!

จ๋อม..~

เอลิเซียที่จุ่มมือลงไปในแก้วน้ำ ก่อนที่ทันใดนั้นน้ำภายในแก้วจะกลายสภาพไปเป็นของเหลวสีดำ..

“ก็อย่างที่เห็น..ความสามารถของมันคือการเปลี่ยนน้ำให้กลายเป็นของเหลวนี่ ไม่ได้มีความพิเศษอะไรเลยสักนิด ..”เอลิเซียที่กล่าวออกมา พอผมได้ยินแบบนั้นก็ยกแก้วน้ำที่บรรจุของเหลวปริศนาเอาไว้ขึ้นมาดม..

“ฟุดๆ หะ..หืม อึก..”ผมที่ถึงกับเบิกดวงตากว้างขึ้น ถึงจะดูแตกต่างไปจากของที่ผมเจอในโลกเดิม แต่กลิ่นนี้มันไม่ผิดแน่ ไอ้เจ้าของเหลวนี้คือน้ำมันดิบ..

“เธอ.. ไม่สิ..คนรอบตัวของเธอที่ได้เห็นน่ะ รู้หรือเปล่าว่าเจ้านี่มันคืออะไร..?”ผมที่ถามกับเอลิเซีย ถ้าอยู่ที่โลกเก่าเธอคงจะรวยไปแล้ว แต่ถึงอย่างไรน้ำมันในโลกนี้ก็คงจะยังไม่มีประโยชน์อะไรมาก จากวิทยาการที่ยังไม่ล้ำหน้า เผลอๆยุคสมัยของเครื่องจักรก็อาจจะไม่เกิดขึ้น ตราบใดที่ยังมีเวทมนต์..

“ไม่..ไม่มีใครรู้ว่ามันคืออะไร นอกจากจะเป็นของเหลวลื่นๆที่มีกลิ่นแปลกๆ มันก็ไม่สามารถทำอะไรได้..”เอลิเซียที่กล่าวออกมา..

“เคยลองเอาไฟมาจุ่มมันหรือยัง..?”ผมที่ถามกับเอลิเซีย ประโยชน์เดียวที่พอจะนึกออกก็คงมีแต่เรื่องนี้..

“ยัง..นายรู้อะไรเหรอ..?”เอลิเซียที่ถามผม..

“เอาไว้ค่อยว่ากันทีหลัง คำถามต่อไป..เธอสามารถเปลี่ยนน้ำให้กลายเป็นไอของเหลวนี้ได้ในปริมาณเท่าไหร่..?”

“ครั้งแรกที่เจมิไนท์ของฉันตื่น ฉันสามารถเปลี่ยนทั้งทะเลสาปให้กลายเป็นของเหลวนี่ได้ แต่พอเวลาผ่านไปหนึ่งเดือนมันก็จะกลายสภาพกลับมาเป็นเหมือนเดิม..”เอลิเซียที่กล่าวออกมา เฮ้ย..บ่อน้ำมันเคลื่อนที่เหรอเนี่ย..

“ฉันอาจจะพอรู้ว่าเจ้านี่มีประโยชน์อะไร และถ้าเกิดมันเป็นไปอย่างที่ฉันคิดจริงๆล่ะก็ บอกเลยว่าเจมิไนท์ของเธอสามารถสร้างหายนะในสมรภูมิที่อยู่ติดกับแหล่งน้ำได้ ยิ่งถ้าเกิดมีฝนตกด้วยแล้วล่ะก็..บอกเลยว่าอร่อย..”ผมที่กล่าวออกมา ที่เหลือก็แค่รอพิสูจน์ว่ามันจะใช่น้ำมันดิบจริงๆไหม และที่สำคัญต้องดูด้วยว่ามันติดไฟได้ง่ายหรือเปล่า เพราะเท่าที่รู้มาคุณสมบัติของน้ำมันดิบมันจะมีส่วนที่ติดไฟได้ง่ายและจะมีบางส่วนที่ติดไฟไม่ได้เลย แต่ถ้าเกิดมันติดไฟได้เมื่อไหร่ล่ะก็ การจะดับมันก็คงจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ..

“นายพูดจริงๆเหรอ..? นายไม่ได้กำลังจะหลอกฉันใช่ไหม..?”เอลิเซียที่ชันตัวลุกพรวดขึ้น สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความหวัง..

“เอาไว้ค่อยว่ากัน..แล้วของเธอล่ะ ฮิตเลอร์..เธอมีความสามารถอะไรหรือเปล่า..?”ผมที่หันไปถามฮิตเลอร์..

“ระ..เราถือครองเอมพาสชนิดยุทโธปกรณ์ ตอนนี้อยู่ในระดับ 1 ดาวเขียว..”ฮิตเลอร์ที่กล่าวออกมา..

“ห้ะ..? เธอถือครองเอมพาสชนิดยุทโธปกรณ์เหรอ..? ทำไมฉันถึงไม่เคยรู้เลยล่ะ เท่าที่ฉันเคยเห็น..เธอก็ใช้แต่เวทมนตร์ของเอมพาสชนิดกักเก็บมาโดยตลอด..”เอลิเซียที่ร้องเสียงหลงออกมา ดูเหมือนว่าเธอเองก็ยังไม่รู้ นี่คบกันมาตั้งหนึ่งปีจริงปะเนี่ย..?

“ขะ..ขอโทษที่ไม่ได้บอก เราแค่ไม่อยากเอามันออกมาใช้น่ะ เพราะเงื่อนไขเอมพาสของเรามัน..”ฮิตเลอร์ที่กล่าวออกมา ก่อนที่เธอจะก้มหน้าหลบสายตาของพวกเรา แก้มขาวๆของเธอมันกำลังแดงก่ำ..

“มัน..?”ผมกับเอลิเซียที่เอ่ยกล่าว..

“มะ..มันน่าอาย..!”ฮิตเลอร์ที่พูดออกมาเบาๆ พร้อมกับมุดหน้าลงต่ำ

“น่าอาย..? น่าอายยังไง..?”ผมที่เอ่ยถาม พอฮิตเลอร์ได้ยินก็ถึงสะอึก เธอกลอกสายตาไปมาด้วยความเลิ่กลั่ก..

“บอกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ..!”เอลิเซียที่ยกแขนขึ้นมากอดอก เธอดูไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมากที่ฮิตเลอร์ปิดบังความลับนี้เอาไว้..

“อะ..อึก มะ..มัน มัน..”

“ทีฉัน..ฉันยังยอมบอกเลย เอาเถอะเอลิเซีย ฮิตเลอร์ไม่ไว้ใจพวกเราว่ะ..”ผมที่แสร้งหันไปบอกกับเอลิเซีย..

“นั่นสิ..ไม่บอกก็ไม่บอก..”เอลิเซียที่กล่าวออกมาด้วยอีกเสียง..

“อะ..อมน่ะ..มะ..มันต้องอมแล้วก็ดูด..”ฮิตเลอร์ที่กล่าวออกราวกับเสียงกระซิบ..

“ห้ะ..? พูดให้มันดังๆหน่อย..”ผมที่ได้ยินแต่ก็แสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน ไอ้ที่ว่าต้องอมแล้วดูดนี่มันต้องอมอะไร..

“อู้ว..!”

‘ไม่ใช่มึง หดกลับไปเดี๋ยวนี่..!’ผมที่ไล่ไอ้จ้อน ก่อนที่มันจะหดตัวกลับไป พอมันได้ยินอะไรอมๆดูดๆนี่ชูชันขึ้นมาเลยนะ

“มันต้องอมแล้วก็ดูด..!”ฮิตเลอร์ที่ตะโกนออกมา เธออายจนต้องใช้มือจิกกางเกงเอาไว้..

“แล้วไอ้ที่ว่าอมต้องอมอะไร..?”ผมที่เอ่ยถาม..

“อะ..อึก อะ..อมตรงไหนก็ได้ ตะ..แต่ปกติจะอมนิ้ว..”ฮิตเลอร์ที่ตอบกลับ ถ้าใส่เอฟเฟคให้เธอได้ตอนนี้เธอก็คงอายจนควันออกหัวไปแล้วมั้ง..

“จะว่าไปมันก็ฟังดูแปลกๆอยู่เหมือนกันแฮะ..”เอลิเซียที่กล่าวออกมา ถ้าคิดไปในทางแบบนั้นมันก็แปลกอยู่แล้ว เอ๊ะ..นี่เธอคิดเหรอะ..?

“หืม..? เงื่อนไขก็ดูง่ายดีหนิ ดูดนิ้วทั้งวันก็สามารถเลื่อนระดับคริสตัลมานาได้แล้ว ขี้โกงชะมัด..”ผมที่กล่าวออกมา ก็ไม่เห็นจะน่าอายตรงไหน..

“ตะ..แต่ว่าเงื่อนไขของเรา มะ..มันเป็นแบบคู่..”สิ้นคำพูดของฮิตเลอร์ ผมกับเอลิเซียก็ชะงักไปชั่วขณะ..

หมับ..!

“แล้วก่อนหน้านี้เธอไปดูดนิ้วของใครมา..?”เอลิเซียที่เอื้อมมือไปจับแก้มของฮิตเลอร์ ก่อนจะจับให้หันมาหา..

“ท่านพันโทเอมิลี่..”ฮิตเลอร์ที่กล่าวออกมา..

“ใครฟะ..? ผู้หญิงหรือผู้ชาย..!”เสียงของไอ้จ้อนที่กู่ร้องออกมาด้วยความสงสัย อีกทั้งยังแสดงท่าทีหึงห่วงอย่างออกนอกหน้า..

“นี่..เธอรู้จักกับท่านพันโทเอมิลี่ด้วยเหรอ..?”เอลิเซียที่กล่าวออกมาอย่างอึ้งๆ..

“ชะ..ใช่ เธอคือแม่บุญธรรมของเรา ระ..เราน่ะได้เธอช่วยชีวิตเอาไว้ หลังจากที่กองกำลังของทารอนบุกทลายค่ายเชลยเมื่อหลายสิบปีก่อน..”ฮิตเลอร์ที่อธิบาย..

“ฟู้ว..~ ผู้หญิงสินะ..”ไอ้จ้อนที่พ่นลมออกมาด้วยความโล่งอก 

“เหลือเชื่อ..พยัคฆ์อัสนีคนนั้นเนี่ยนะ เป็นแม่บุญธรรมของเธอ..”เอลิเซียที่กล่าวออกมา ดูเหมือนว่าแม่บุญธรรมของฮิตเลอร์จะเป็นคนดัง..

“เอาเถอะ..กลับมาที่เรื่องของพวกเรากันต่อ เดี๋ยวต่อจากนี้ฉันกับเอลิเซียจะช่วยเรื่องการเลื่อนระดับคริสตัลมานาของเธอเอง มันไม่ใช่เรื่องที่น่าอายหรอกนะ ยังไงตอนนี้พวกเราก็ข้ามเส้นเกินกว่าที่จะมาอายกันแล้ว อีกอย่างหนึ่งการที่เธอจูบกับฉัน มันก็คงจะตรงกับเงื่อนไขของเธอด้วย ใช่ไหม..?”ผมที่กล่าวออกมา ในตอนที่แลกลิ้นมันก็ต้องอมต้องดูดนั่นแหละ..

“อะ..อื้ม..”ฮิตเลอร์ที่ตอบกลับ เธอผงกเบาๆด้วยความเขินอาย..

“ถึงจะไม่สบอารมณ์ ตะ..แต่เอาตามนั้นก็ได้..”เอลิเซียเองที่ก็เขินกล่าวออกมาอย่างซึนๆ..

“ถ้าอย่างงั้นฉันจะขอกลับมาที่เรื่องการฝึก นับต่อจากนี้ไปอีก 6 เดือน พวกเธอจะต้องฝึกฝนร่างกายกับฉัน การฝึกที่ว่าไม่ใช่การฝึกฝนเวทมนตร์ แต่เป็นการฝึกทักษะการต่อสู้ด้วยมือเปล่าและทักษะการลอบสังหาร..”ผมที่บอกกับฮิตเลอร์และเอลิเซีย พอพวกเธอได้ยินก็เบิกดวงตากว้างขึ้น

“ทักษะการต่อสู้ด้วยมือเปล่ากับการลอบสังหาร..?”เอลิเซียกับฮิตเลอร์ที่กล่าวทวน..

“ใช่..บอกเลยว่าฝึกโหดชนิดแทบลากเลือดเลยล่ะ..หึ..!”ผมที่กล่าว พร้อมกับแสยะรอยยิ้มร่า..

 

 

ไรท์:เบิ้ลๆ ..~ คอมเม้นด้วย..!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด