ฉันนี่แหละจ้าวนรก [我要做阎罗]บทที่ 397: การต่อสู้เพื่ออำนาจสูงสุด

Now you are reading ฉันนี่แหละจ้าวนรก [我要做阎罗] Chapter บทที่ 397: การต่อสู้เพื่ออำนาจสูงสุด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บท​ที่​ 397: การต่อสู้​เพื่อ​อำนาจ​สูงสุด​

ฉิน​เย่​ฟังอย่าง​ตั้งใจ​ในขณะที่​ตี้ทิง​ยังคง​อธิบาย​ต่อไป​

“อ​รากษส​ตน​นั้น​คง​บอก​เจ้าถึงอันตราย​จาก​การ​เดินทางออก​นอก​อาณาเขต​และ​ปู​ทาง​ไป​สู่พื้น​ที่อื่น​แล้ว​ น่าเสียดาย​ที่​ยมโลก​ขนาดเล็ก​แห่ง​นี้​ไม่มีเงิน​มาก​พอ​ใน​การ​สนับสนุน​สิ่งเหล่านั้น​ได้​ ดังนั้น​…มัน​จึงสมเหตุสมผล​ที่​ยมโลก​จะไม่สามารถ​ควบคุม​เหล่า​ภูตผี​คลุ้มคลั่ง​ใน​ทั่ว​ทั้ง​แผ่นดิน​จีน​ได้​ นับประสาอะไร​กับ​การป้องกัน​การ​เกิด​ของ​พวก​มัน​ จาก​การ​คาดคะเน​ของ​เรา​ใน​ตอนนั้น​ ข้า​เกรง​ว่า​เรา​กำลัง​พูดถึง​ภูตผี​คลุ้มคลั่ง​จำนวน​ไม่น้อยกว่า​ร้อย​ตน​!”

“มัน​เป็น​เพียง​เรื่อง​ของ​ระยะเวลา​เท่านั้น​ก่อนที่​ภูตผี​คลุ้มคลั่ง​เหล่านี้​จะตระหนัก​ได้​ว่า​มัน​ไม่มีเหล่า​นัก​ล่า​ที่​คอย​ควบคุม​พวก​มัน​อีกแล้ว​! เจ้าคิด​ว่า​เจ้าจะสามารถ​พึ่งพา​องค์กร​ใน​แดน​มนุษย์​ให้​ควบคุม​และ​ลด​จำนวน​ของ​พวก​มัน​ได้​อย่างนั้น​หรือ​? ข้า​จะบอก​อะไร​ให้​ ตราบใดที่​ภูตผี​คลุ้มคลั่ง​ตั้งใจ​ที่จะ​ซ่อนตัว​และ​ละเว้น​จาก​การ​หาอาหาร​ได้​ ด้วย​วิธี​การตรวจจับ​ของ​แดน​มนุษย์​ใน​ตอนนี้​ มัน​ไม่มีโอกาส​เลย​ที่​พวกเขา​จะสามารถ​ค้นพบ​วิญญาณ​ร้าย​ที่​ซ่อนตัว​อยู่​ท่ามกลาง​พวกเขา​ได้​! ตอนนี้​โลก​อยู่​ใน​กำมือ​ของ​พวก​มัน​แล้ว​! เจ้าคิด​ว่า​ภูตผี​คลุ้มคลั่ง​สามารถ​วางไข่​ได้​เร็ว​แค่​ไหน​? แล้ว​ความ​แข็งแกร่ง​ของ​พวก​มัน​เพิ่มขึ้น​เร็ว​แค่​ไหน​? ความสนใจ​ของ​พวก​เจ้าทั้ง​หมดกำลัง​จับจ้อง​ไป​ยัง​ราชา​ผี​ทั้ง​สามที่​ยัง​ดำรงอยู่​ใน​โลก​นี้​ แต่​…พวกเขา​กำลัง​ลืม​ว่า​นี่​เป็น​เพียง​ส่วน​ยอด​ของ​ภูเขาน้ำแข็ง​เท่านั้น​ สิ่งที่อยู่​ภายใต้​นั้น​…คือ​กองกำลัง​ที่​แท้จริง​ของ​โลก​ใต้พิภพ​ซึ่งพร้อม​ที่จะ​กำจัด​กองกำลัง​ของ​มนุษย์​ทั้งหมด​!”

ฉิน​เย่​พยักหน้า​เบา​ ๆ ก่อนหน้านี้​เขา​ไม่ได้​พิจารณา​เรื่อง​นี้​อย่าง​ละเอียด​มาก​นัก​ และ​การ​ได้ยิน​เรื่อง​ทั้งหมด​จาก​ปาก​ของ​ตี้ทิง​ก็​ทำให้​เขา​เข้าใจ​อะไร​มากขึ้น​

อสูร​ศักดิ์สิทธิ์​หยุด​พูด​ไป​ครู่หนึ่ง​เพื่อ​พัก​หายใจ​ ก่อน​จะเอ่ย​ต่อ​ “พวกเขา​กำลัง​พูดถึง​วิญญาณ​ระดับสูง​ที่​สติสัมปชัญญะ​ถูก​ปลดล็อก​โดย​สมบูรณ์​ เมื่อ​พวก​มัน​พบ​ว่า​ยมโลก​ยังคง​นิ่งเงียบ​ สิ่งต่อไป​ที่​พวก​มัน​จะทำ​ก็​คือ​ทดสอบ​แดน​มนุษย์​ และ​ทันทีที่​พวก​มัน​รู้​ว่า​ไม่มีสิ่งใด​ที่​สามารถ​ขวางทาง​พวก​มัน​ได้​ พวก​มัน​ก็​จะพุ่ง​เข้าใส่​เหยื่อ​ราวกับ​อินทรี​ที่​ดุร้าย​ และ​ยึด​อาณาเขต​ทั้งหมด​ที่​สามารถ​ยึด​ได้มา​เป็น​ของ​ตนเอง​!”

ฉิน​เย่​ที่​ได้ยิน​เช่นนั้น​ก็​เอ่ย​ขึ้น​ในที่สุด​ “ท่าน​คงจะ​ไม่บอก​เรื่อง​เหล่านี้​กับ​ข้า​ใช่หรือไม่​หาก​ข้า​ไม่สามารถ​ตระหนัก​มัน​ได้​ด้วยตัวเอง​?”

“แน่นอน​” ตี้ทิง​หัวเราะ​เบา​ ๆ “นี่​คือ​เส้นทาง​ที่​จ้าว​นรก​องค์​ที่หนึ่ง​ได้​ก้าวเดิน​ เมือง​เฟิงตู​ถูก​สร้าง​ขึ้น​จาก​ยุคสมัย​ของ​การนองเลือด​ มัน​เป็น​ขั้น​ตอนที่​รุ่งโรจน์​และ​งดงาม​ หาก​เจ้าไม่สามารถ​ตระหนักถึง​สิ่งเหล่านี้​ได้​ด้วยตัวเอง​ เช่นนั้น​มัน​ก็​หมายความว่า​เจ้ายัง​ไม่ฉลาด​มาก​พอ​ ดังนั้น​แทนที่จะ​ต่อสู้​กับ​กลุ่ม​เล็ก​ ๆ ที่​เริ่ม​ก่อตัว​ขึ้น​ ข้า​อยาก​ให้​เจ้ามอง​ตัวเอง​และ​พัฒนา​ต่อไป​มากกว่า​”

“เจ้าคือ​หนึ่ง​ใน​ไม่กี่​คน​ที่​ก้าว​ข้าม​ขีดจำกัด​ระหว่าง​ความ​เป็น​และ​ความตาย​ นี่​คือ​ข้อได้เปรียบ​ของ​เจ้า มัน​อาจจะ​ต้อง​ใช้เวลา​ แต่​ใน​ท้ายที่สุด​เจ้าก็​จะตระหนักถึง​สิ่งเหล่านี้​ได้​ด้วย​ตัว​ของ​ตนเอง​ เมื่อ​ถึงตอนนั้น​ โลก​ก็​คงจะ​เต็มไปด้วย​สงคราม​และ​การต่อสู้​ และ​มณฑล​และ​เมือง​ต่าง ๆ​ ก็​คงจะ​กลายเป็น​ของ​แต่ละ​ฝ่าย​เป็นที่​เรียบร้อย​แล้ว​ แต่​ด้วย​วิธี​นี้​ อันตราย​ที่จะ​เกิดขึ้น​ก็​ยิ่ง​มีมากขึ้น​เรื่อย ๆ​ เช่นกัน​ แต่​ในขณะเดียวกัน​ ข้า​ก็​คงจะ​ฟื้นฟู​เต็ม​ที่แล้ว​ และ​สามารถ​ให้​ความช่วยเหลือ​เจ้าได้​ ด้วย​การ​โจมตี​ใน​ภายหลัง​ เจ้าอาจจะ​เป็น​ฝ่าย​ได้เปรียบ​แทน​”

ตี้ทิง​ปรายตา​มอง​ฉิน​เย่อ​ย่าง​เจ้าเล่ห์​ “น่าเสียดาย​ เพราะ​มัน​ดูเหมือนว่า​ข้า​คง​ไม่สามารถ​หวนคืน​สู่เส้นทาง​อัน​รุ่งโรจน์​ของ​จ้าว​นรก​องค์​แรก​ได้​…”

เงียบ​

ฉิน​เย่​หลุบ​ตาต่ำ​และ​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ “ท่าน​กำลังจะ​บอ​กว่า​ตอนนี้​มีเมือง​ของ​วิญญาณ​อยู่​ใน​แดน​มนุษย์​อย่างนั้น​หรือ​?”

“ถูกต้อง​” ตี้ทิง​หัวเราะ​ออกมา​เบา​ ๆ “หาก​พูด​กัน​ตา​มต​รง.​..ข้า​สามารถ​บอก​เจ้าได้​ด้วยว่า​มัน​มีดินแดน​ของ​วิญญาณ​อยู่​มากกว่า​หนึ่ง​แห่ง​ และ​อย่าง​น้อย​สอง​แห่ง​ใน​นั้น​ก็​มีขนาด​พอ​ ๆ กับ​นคร​หนึ่ง​นคร​”

ระดับ​นคร​อย่างนั้น​หรือ​?!

ฉิน​เย่​อ้าปากค้าง​ และ​รูม่านตา​ของ​เขา​ก็​หด​ตัวเล็ก​ลง​

เร็ว​มาก.​.. ทำไม​มัน​ถึงเร็ว​ขนาด​นี้​?! พวก​มัน​สามารถ​กลายเป็น​เมือง​เต็มตัว​ได้​ใน​เวลา​สั้น​ ๆ แบบนี้​ได้​อย่างไร​? ยมโลก​เพิ่ง​มีขนาด​เท่ากับ​เมือง​หนึ่ง​เมือง​เท่านั้น​!

“เจ้ากำลัง​สงสัย​อยู่​อย่างนั้น​หรือว่า​เหตุใด​พวก​มัน​จึงเร็ว​ขนาด​นั้น​?” ตี้ทิง​หัวเราะ​ “มัน​ก็เพราะว่า​…พวก​มัน​ชิงลงมือ​ก่อน​”

“พวก​มัน​คง​เริ่ม​ดำเนินการ​เรื่อง​ทั้งหมด​มาตั้งแต่​เมื่อ​สิบ​กว่า​ปีก่อน​แล้ว​ และ​นั่น​ก็​เป็น​ช่วงเวลา​ที่​จีน​กำลัง​ตก​อยู่​ใน​สงคราม​ และ​จำนวน​วิญญาณ​ที่​เกิดขึ้น​ใน​ตอนนั้น​ก็​ย่อม​สูงเป็นธรรมดา​ น่าเสียดาย​ ข้า​สามารถ​สัมผัส​ถึงการ​มีอยู่​ของ​พวก​มัน​ได้​เพียง​ราง ๆ​ เท่านั้น​ ข้า​จึงไม่สามารถ​บอก​เจ้าได้​ว่า​พวก​มัน​อยู่​ที่ใด​ พวก​มัน​อยู่​ใน​โลก​ที่​แตกต่าง​ออก​ไป​ และ​ข้า​ก็​ไม่สามารถ​เคลื่อนไหว​ได้​ไกล​เกิน​กว่า​ระยะ​ 10 ไมล์​จาก​จุด​ที่​ตัวเอง​อยู่​ แต่​ข้า​คง​ต้อง​เตือน​เจ้าเลย​ว่า​คู่ต่อสู้​ของ​เจ้าใน​ครั้งนี้​ไม่ใช่ง่าย ๆ​ มัน​ไม่มีปัญหา​อะไร​หาก​จะให้​ข้า​ช่วย​เจ้าใน​เรื่อง​ของ​ศาสตร์​เคลื่อนย้าย​จักรวาล​ แต่​เจ้าไม่กลัว​ว่า​มัน​จะเกินตัว​ไป​หรอก​หรือ​?”

มัน​หัวเราะ​ออกมา​เบา​ ๆ “มัน​ไม่ใช่เรื่อง​ง่าย​เลย​ที่จะ​เกณฑ์​กองกำลัง​กลุ่ม​ใหม่​ขึ้น​มาในขณะที่​มีคน​คอย​ทำลาย​กองกำลัง​หลัก​ของ​ยมโลก​อยู่​”

โดย​ไม่สนใจ​ท่าที​ที่​ค่อนข้าง​เย้ยหยัน​ของ​ตี้ทิง​ ฉิน​เย่​ถามกลับ​ไป​ด้วย​ความ​ตกตะลึง​ “ท่าน​รู้​หรือว่า​มัน​คือ​ผู้ใด​?!”

“ฮ่า ๆๆ… ไม่มีสิ่งใด​เกี่ยวกับ​ยมโลก​ที่​ข้า​ไม่รู้​” ตี้ทิง​หอบ​เบา​ ๆ ขณะที่​หุบ​ยิ้ม​ลง​ “ตั้งแต่​อดีตกาล​ มีคน​ตระกูล​ขง​เพียง​คนเดียว​เท่านั้น​ที่​ถูก​เนรเทศ​จาก​ยมโลก​ให้​มาสู่ลิ​มโบ​! และ​เขา​ก็​เป็น​ผู้​ที่​เหมาะสม​ที่จะ​ได้รับ​ฉายา​ของ​คน​บาป​แห่ง​ขงจื๊อ​มาก​ที่สุด​ด้วย​ ดังนั้น​ ทันทีที่​เจ้าพูดถึง​คน​บาป​แห่ง​ขงจื๊อ​ ข้า​ก็​รู้​ทันที​ว่า​อีก​ฝ่าย​เป็น​ใคร​ การ​ลงโทษ​เดิม​ของ​เขา​มีจุดประสงค์​เพื่อ​ปิดกั้น​โอกาส​ทั้งหมด​ใน​การ​กลับ​ชาติ​ไป​เกิด​ของ​เขา​เท่านั้น​ แต่​ไม่คิด​เลย​ว่า​เขา​จะสามารถ​หลบหนี​ไป​ยัง​แดน​มนุษย์​ได้​…”

มัน​นิ่ง​คิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ก่อน​จะสูด​หายใจเข้า​ช้า ๆ และ​พึมพำ​เบา​ ๆ “ขง​โม่”

ขง​โม่?

ฉิน​เย่​ขมวดคิ้ว​ เขา​พยายาม​อย่าง​ถึงที่สุด​เพื่อ​จะนึก​ว่า​ขง​โม่คือ​ใคร​ แต่​ก็​ยัง​นึกไม่ออก​

ตี้ทิง​เอ่ย​ต่อ​ “พอ​มาลอง​คิดดู​ ขง​โม่และ​หลิว​อวี้​นั้น​มีความ​เกี่ยวโยง​ซึ่งกันและกัน​ หลิว​อวี้​คือ​อดีต​องค์​จักรพรรดิ​ของ​ราชวงศ์​หลิว​สง ใน​ปี​ที่​ 19 ของ​ราชวงศ์​หลิว​สงแห่ง​ราชวงศ์​ใต้​ พระ​ราช​โอ​การ​ได้​ถูก​ป่าวประกาศ​ออกมา​ รับสั่ง​ให้​ห้า​ครัวเรือน​ที่อยู่​ใกล้​กับ​สุสาน​ขงจื๊อ​มาก​ที่สุด​ตัด​เหล่า​ข้า​รับใช้​ของ​พวกเขา​ออกจาก​พันธะ​เชิงนาย​และ​บ่าว​ออก​ และ​กำหนดให้​ข้า​รับใช้​เหล่านั้น​และ​ลูกหลาน​ของ​พวกเขา​ทำหน้าที่​ใน​ฐานะ​ของ​คน​เฝ้าสุสาน​ขงจื๊อ​ตลอดไป​ เดิมที​แล้ว​คนใช้​ของ​ทั้ง​ห้า​ครัวเรือน​นั้น​ไม่ได้​ใช้สกุล​ขง​ แต่​ด้วย​ขนบธรรมเนียม​ใน​สมัย​นั้น​ พวกเขา​จึงเปลี่ยน​นามสกุล​เพื่อให้​ตรง​ตาม​ผู้​เป็น​นาย​ และ​ใช้สกุล​ขง​ใน​ท้ายที่สุด​ ซึ่งหนึ่ง​ใน​คนใช้​เหล่านั้น​ก็​มีนาม​ว่า​ขง​จิง” [1]

“ต่อมา​ ใน​ยุค​ห้า​วงศ์​สิบ​รัฐ​ [2] ทั้งชาติ​ได้​ตก​อยู่​ใน​ความโกลาหล​ พวก​ตระกูล​ขง​ รวมถึง​ตระกูล​ใหญ่​ ๆ และ​ลูกหลาน​ของ​ขงจื๊อ​ และ​แม้แต่​พวก​ผู้ดูแล​สุสาน​ ต่าง​ก็​กระจัดกระจาย​ไป​ยัง​ส่วน​ต่าง ๆ​ ของ​ประเทศ​ มีเพียง​พวก​เชื้อสาย​แท้​เท่านั้น​ที่​ยังคง​อาศัย​อยู่​ที่​นคร​ชฺวี​ฟู่ต่อไป​ ขง​โม่คือ​สายเลือด​ของ​ขง​จิง อาศัย​ผลประโยชน์​จาก​ข้อเท็จจริง​ที่​ตระกูล​ขง​กระจัดกระจาย​ไป​ทั่ว​ทั้ง​ดินแดน​ เขา​มุ่งหน้าตรง​ไป​ที่​นคร​ชฺวี​ฟู่พร้อมกับ​คน​จำนวนมาก​ สังหาร​ทุกคน​ รวมถึง​ขง​กวง​ซื่อ​ ทายาท​สาย​หลัก​รุ่น​ที่​ 41 ของ​ขงจื๊อ​ เขา​แย่งชิง​ดินแดน​ และ​แย่งชิง​ตำแหน่ง​ ประกาศ​ตน​ว่า​เป็น​ทายาท​สาย​ตรง​ของ​ขงจื๊อ​ เหตุการณ์​นี้​ถูก​บันทึก​ลง​ใน​พงศาวดาร​ใน​ฐานะ​ของ​ความโกลาหล​ของ​สายเลือด​ขงจื๊อ​”

“นี่​คือ​การสังหาร​หมู่​ครั้งแรก​ที่​เกิดขึ้น​ใน​ประวัติศาสตร์​ของ​ลัทธิ​ขงจื๊อ​ เมื่อ​ขง​โม่เข้ามา​ที่​โลก​ใต้พิภพ​ เขา​ก็​กลับ​เข้าร่วม​ตระกูล​ขง​อีกครั้ง​ และ​พยายาม​อย่าง​หนัก​จน​ขึ้น​เป็น​ขั้น​ตุลาการ​นรก​ ทว่า​ยิ่ง​เวลา​ผ่าน​ไป​ จำนวน​สาวก​ของ​ลัทธิ​ขงจื๊อ​ใน​ราชสำนัก​ของ​ยมโลก​ก็​เพิ่มขึ้น​เรื่อย ๆ​ ในที่สุด​ ด้วย​ความพยายาม​ของ​คน​ทั้งหมด​ คน​บาป​แห่ง​ขงจื๊อ​ก็​ถูก​ขับไล่​ออกจาก​ตำแหน่ง​และ​เนรเทศ​ไป​ยัง​ลิ​มโบ​ ข้า​ไม่แน่ใจ​ว่า​มัน​ยังมี​คนอื่น​ ๆ ที่​ตระกูล​ขง​ได้​เนรเทศ​ไป​ยัง​ลิ​มโบ​เป็นการ​ส่วนตัว​อีก​หรือไม่​ แต่​ขง​โม่คือ​คนเดียว​ที่​ถูก​บันทึก​ไว้​ใน​บันทึก​อย่าง​เป็นทางการ​ของ​ยมโลก​!”

ฉิน​เย่​รู้สึก​มึนงง​เป็นอย่างมาก​เมื่อ​ตี้ทิง​เอ่ย​จบ​

เรื่อง​แบบนี้​เกิดขึ้น​ได้​อย่างไร​กัน​?!

ขง​โม่นี่​มัน​ปีศาจ​ดี ๆ​ นี่เอง​! เขา​ทำได้​อย่างไร​ ทั้ง ๆ ที่​เป็น​ข้า​รับใช้​ แต่กลับ​สังหาร​ทายาท​สาย​ตรง​ของ​ขงจื๊อ​และ​ประกาศ​ตน​ว่า​เป็น​ทายาท​สาย​ตรง​แทน​?! แค่​การ​เนรเทศ​เขา​ไป​สู่ลิ​มโบ​ก็​ถือว่า​เมตตา​มาก​พอแล้ว​!

ในขณะเดียวกัน​ ระบบ​ตอบสนอง​ความกลัว​ของ​เขา​สั่นเทา​อย่าง​รุนแรง​ – คู่ต่อสู้​ครั้งนี้​…ดุร้าย​และ​ไม่ได้​ไร้​สมอง​เลย​แม้แต่น้อย​!

นี่​เขา​ต้อง​กล้า​มาก​เพียงใด​? การวางแผน​ของ​เขา​จะต้อง​แยบยล​มาก​เพียงใด​กัน​? นี่​คือ​ตระกูล​ขง​นะ​ ที่อยู่อาศัย​ของ​พวกเขา​ย่อม​มีข้า​รับใช้​จำนวนมาก​อยู่แล้ว​ ใน​ยุคสมัย​นั้น​ ข้า​รับใช้​ของ​ตระกูล​ใหญ่​ล้วน​พยายาม​อย่าง​หนัก​เพื่อที่จะ​ได้​ปกป้อง​เจ้านาย​ของ​พวกเขา​ ด้วย​ความ​ที่​ตระกูล​ขง​ที่อยู่​ที่​นคร​ชฺวี​ฟู่เอง​ก็​ถูก​จัด​เป็นหนึ่ง​ใน​เหล่า​ขุนนาง​ระดับ​ต้น​ ๆ คนใช้​ของ​พวกเขา​ก็​ยิ่ง​ทำหน้าที่​อย่าง​จริงจัง​มาก​ขึ้นไป​อีก​ แต่​แม้ว่า​จะมีอุปสรรค​ คนใช้​เพียง​คนเดียว​กลับ​สามารถ​รวบรวม​กลุ่มคน​และ​สังหาร​ทุกคน​ที่​ขวาง​ทางได้​!

และ​ค่อนข้าง​แตกต่าง​จาก​สิ่งที่​ถูก​บันทึก​มาใน​ประวัติศาสตร์​ ฉิน​เย่​ยัง​จำเป็น​จะต้อง​มอง​ถึงแผนการ​อัน​แยบยล​ใน​การลอบสังหาร​เขา​ที่​อีก​ฝ่าย​ก่อ​ขึ้น​อีกด้วย​!

มัน​มีแผนการ​มากมาย​ ไม่ว่า​จะเป็น​กับดัก​ ควัน​ และ​กระจก​ที่​ทำให้​เขา​แทบจะ​ไม่มีช่องว่าง​ใน​การ​หายใจ​ หาก​ไม่ใช่เพราะว่า​เขา​มีเศษตรา​จ้าว​นรก​อยู่ในครอบครอง​ เขา​ก็​คง​อาจจะ​ถูก​บดขยี้​ด้วย​ความ​เจ้าเล่ห์​ของ​ขง​โม่ไป​เสียแล้ว​

“จงอย่า​ประมาท​เหล่า​ผู้​ที่​มาจาก​ยุค​ราชวงศ์​ใน​อดีตกาล​เป็นอันขาด​ ตระกูล​ขง​เคย​เป็นหนึ่ง​ใน​ขุนนาง​ระดับสูง​ของ​ยมโลก​ ตุลาการ​นรก​ใน​ตระกูล​ของ​พวกเขา​…จะต้อง​มีสิทธิ์​ใน​การ​เข้าถึง​วิธีการ​ลับ​และ​ข้อมูล​ลับ​สุดยอด​จำนวน​นับไม่ถ้วน​เป็นแน่​ แม้แต่​ขั้น​ฝู่จวิน​ตน​อื่น​ ๆ ต่าง​ก็​ต้อง​ไตร่ตรอง​อย่าง​ถี่ถ้วน​ก่อนที่จะ​ก้าว​เข้าไป​มีเรื่อง​กับ​พวกเขา​” ตี้ทิง​เอ่ย​ออกมา​ด้วย​ความตื่นเต้น​ขณะที่​มัน​ยังคง​จ้องมอง​ไป​ยัง​ฉิน​เย่อย่าง​ไม่ละสายตา​ “เขา​เคย​ใช้ชีวิต​อยู่​ภายใต้​ระบบ​ของ​ยมโลก​แห่ง​เก่า​ เป็นธรรมดา​ที่​ทันทีที่​เขา​เห็น​เจ้า เขา​จะรู้​ทันที​ว่า​เจ้ามาจาก​ที่ใด​ หาก​จุดประสงค์​ของ​พวก​นั้น​คือ​การ​ประกาศอิสรภาพ​และ​ก่อตั้ง​อาณาจักร​ของ​ตนเอง​ เช่นนั้น​การดำรงอยู่​ของ​ยมโลก​ก็​ย่อม​เป็น​อุปสรรค​ชิ้น​โต​ของ​พวกเขา​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​! ข้า​ยัง​สามารถ​พูด​ได้​อีก​ด้วยว่า​วินาที​ที่​อีก​ฝ่าย​สามารถ​ระบุ​ตำแหน่ง​ที่​แน่นอน​ของ​เจ้าได้​จะกลายเป็น​วินาที​ที่​เจ้าพบ​ว่า​ตนเอง​ตก​อยู่​ภายใต้​แผน​การลอบสังหาร​อย่าง​แท้จริง​ มัน​จะดำเนิน​ไป​เช่นนั้น​เรื่อย ๆ​….จนกระทั่ง​ เจ้าจะเป็น​ฝ่าย​พ่ายแพ้​ไป​ในที่สุด​…”

“นี่​คือ​ชะตากรรม​ มัน​เป็นไปไม่ได้​ที่จะ​หลบหนี​จาก​อำนาจ​แห่ง​โชคชะตา​ อ้อ​ พอ​ลอง​มาคิด​อีกที​ หาก​ขง​โม่คือ​ผู้​ที่​สามารถ​หลบหนี​ไป​ยัง​แดน​มนุษย์​จริง ๆ​ มัน​ก็​มีความเป็นไปได้​ที่หนึ่ง​ใน​สอง​ของ​เมือง​วิญญาณ​อาจจะ​อยู่​ภายใต้การควบคุม​ของ​เขา​ เจ้าหนู​ เจ้าแน่ใจ​หรือว่า​เจ้ายัง​อยาก​จะใช้เคลื่อนย้าย​จักรวาล​ตาม​แผนการ​ดั้งเดิม​ที่​วาง​ไว้​?”

ฉิน​เย่​ที่​ได้ยิน​เช่นนั้น​ก็​อยาก​จะพูด​ออก​ไป​เหลือเกิน​ว่า​ – ขออภัย​ ไม่ล่ะ​… ลาก่อน​

แต่​สุดท้าย​แล้ว​…นี่​คือ​การ​พูดคุย​กัน​อย่าง​เป็นทางการ​ครั้งแรก​กับ​ตี้ทิง​ เขา​จำเป็น​จะต้อง​สร้าง​ความประทับใจ​อัน​ดี​เอาไว้​ นอกจากนี้​…

เขา​หัวเราะ​ออกมา​อย่าง​ขมขื่น​ “ข้า​เอง​ก็​ไม่อยาก​ทำ​เช่นนั้น​ แต่​…”

ฉิน​เย่​ถอนหายใจ​ออกมา​และ​หันไป​มอง​ท้องฟ้า​ที่อยู่​ไกล​ออก​ไป​ “ยมโลก​ได้​ลงนาม​ใน​บันทึก​ความเข้าใจ​ที่จะ​ก่อตั้ง​เส้นทางการค้า​กับ​หลิว​อวี้​และ​คนอื่น​ ๆ เป็นที่​เรียบร้อย​แล้ว​ และ​การค้า​ทั้งหมด​ก็​จะเริ่ม​ขึ้น​ภายใน​อีก​สอง​ปี​ พวกเขา​เป็น​หุ้นส่วน​ทางการค้า​เพียง​กลุ่ม​เดียว​ของ​ยมโลก​ในอนาคต​อัน​ใกล้​นี้​ หาก​เรา​ไม่สามารถ​รักษา​สิ่งนี้​เอาไว้​ได้​ ยมโลก​จะไม่เพียง​เสียหน้า​และ​สูญเสีย​ความเคารพ​จาก​ราชทูต​ทั้ง​ 12 เท่านั้น​ แต่​มัน​ยัง​ทำลาย​โอกาส​ใน​การ​จัดตั้ง​เส้นทางการค้า​อื่น​ ๆ กับ​พวกเขา​ในอนาคต​อีกด้วย​”

“แล้ว​นั่น​หมายความว่า​อย่างไร​?” ตี้ทิง​ฟังเด็กหนุ่ม​พูด​อย่าง​ตั้งใจ​

ฉิน​เย่​ส่ายหน้า​และ​ฝืนยิ้ม​ “ที่​ทำให้​เรื่อง​แย่​กว่า​เดิม​ก็​คือ​ สถานที่​ที่​เรา​เลือก​ใน​การ​ก่อตั้ง​เมืองท่า​สำหรับ​การค้า​ของ​เรา​ตั้งอยู่​ห่าง​จาก​นคร​ชฺวี​ฟู่ไป​เพียง​สามเมือง​เท่านั้น​”

ความ​เงียบ​ที่​ชวน​อึดอัด​เข้า​ปกคลุม​ทั่ว​ทั้ง​สถานที่​อย่าง​กะทันหัน​

ตี้ทิง​จ้องมอง​ฉิน​เย่​ด้วย​ความ​เหลือเชื่อ​ ไม่กี่​วินาที​ต่อมา​ มัน​ก็​หัวเราะ​เบา​ ๆ เอียง​หัว​เล็กน้อย​ และ​ปล่อย​ให้​เกล็ด​สีทอง​บน​ร่าง​ของ​มัน​ลอย​ไป​อยู่​ข้าง ๆ​ ฉิน​เย่​

“เจ้าสามารถ​ใช้งาน​มัน​โดย​เศษตรา​จ้าว​นรก​ที่​มีอยู่​ มัน​สามารถ​ใช้ได้​เพียง​ครั้ง​เดียว​ เคลื่อนย้าย​จักรวาล​ได้​ถูกร่าย​ใส่ไว้​แล้ว​” เมื่อ​เอ่ย​จบ​ หัว​ขนาดใหญ่​ของ​มัน​ฟุบ​ลง​กับ​พื้น​ “หาก​ไม่มีอะไร​แล้ว​ เจ้าก็​ไป​ได้​แล้ว​ ข้า​จะไป​พบ​เจ้าทันทีที่​ข้า​ตื่นขึ้น​อีกครั้ง​ แน่นอน​ ว่า​นั่น​หมายถึง​ในกรณีที่​เจ้าสามารถ​รอดชีวิต​จาก​การปะทะ​กับ​ขง​โม่ได้​…ฮ่า ๆๆๆๆ….”

ฉิน​เย่​ยักไหล่​ จากนั้น​จึงหยิบ​เกล็ด​สีทอง​ที่​ลอย​อยู่​ตรงหน้า​ของ​ตน​เอาไว้​

ทันทีที่​เขา​กำมือ​รอบ​มัน​ พลัง​หยิน​อัน​มหาศาล​ก็​หลั่งไหล​เข้าสู่​ปลายนิ้ว​และ​ตรง​ไป​ที่​หัวใจ​ เขา​อ้า​ปาก​เล็กน้อย​ก่อน​จะคลาย​มือ​อย่าง​รวดเร็ว​ จากนั้น​ หลังจาก​จมอยู่​ใน​ภวังค์​ของ​ความ​ตกตะลึง​อยู่​ครู่หนึ่ง​ เขา​ก็​กลับมา​ได้สติ​อีกครั้ง​

“บท​ทดสอบ​อย่างนั้น​หรือ​?” เขา​จับ​เกล็ด​ตรงหน้า​อีกครั้ง​และ​เปลี่ยนเป็น​กลุ่มก้อน​พลัง​หยิน​ที่​หาย​ไป​จาก​บริเวณ​นั้น​ทันที​ และ​เมื่อ​เขา​เข้าใกล้​ยมโลก​อีกครั้ง​ เด็กหนุ่ม​ก็​หันกลับ​ไป​มอง​ยัง​ตี้ทิง​ที่​หลับใหล​ด้วย​แววตา​ล้ำลึก​ “หาก​ท่าน​บอก​เรื่อง​ทั้งหมด​นี้​กับ​ข้า​เมื่อ​หก​เดือน​ที่แล้ว​ ข้า​ก็​อาจจะ​ยอมแพ้​ไป​แล้ว​ แต่​สำหรับ​ตอนนี้​…”

เขา​เงยหน้า​ไป​มอง​ยัง​ยมโลก​ที่​มืดมิด​ซึ่งลอย​อยู่​เหนือศีรษะ​ อด​ไม่ได้​ที่จะ​นึกถึง​สีหน้า​มีความสุข​ของ​เหล่า​ประชากร​วิญญาณ​ใน​ครั้งแรก​ที่​ได้รับ​คอนเทนเนอร์​สินค้า​ รวมถึง​พื้นที่​ก่อสร้าง​ที่​เจริญ​ขึ้น​เรื่อย ๆ​

“ใน​ฐานะ​มนุษย์​ ข้า​เอง​ก็​เช่นกัน​ มีความรู้สึก​ว่า​มัน​เป็นเรื่อง​ยาก​ที่จะ​ยอม​ปล่อยมือ​ไป​…”

หลังจากที่​เด็กหนุ่ม​หาย​ออก​ไป​จาก​ลิ​มโบ​แล้ว​นี่เอง​ที่​ตี้ทิงยก​ศีรษะ​ของ​มัน​ขึ้น​มาอีกครั้ง​ แต่​ครั้งนี้​ ใน​แววตา​ของ​มัน​กลับ​ไม่ได้​มีแวว​เย้ยหยัน​หลงเหลือ​อยู่เลย​แม้แต่น้อย​

“การ​ได้​เรียนรู้​กลยุทธ์​ของ​ผู้คน​ของ​ยมโลก​แห่ง​เก่า​เอง​ก็​เป็นเรื่อง​ที่​ดี​ เพราะ​ท้ายที่สุด​แล้ว​…เขา​อาจจะ​ไม่ใช่เพียง​คนเดียว​ที่​ถูก​เนรเทศ​มายัง​ลิ​มโบ​ หาก​เจ้าต้องการ​ที่จะ​ฟื้นฟู​ยมโลก​ให้​กลับ​ไป​สู่ยุคสมัย​แห่ง​ความรุ่งโรจน์​อีกครั้ง​ เจ้าก็​ต้อง​ต่อสู้​กับ​เหล่า​ระดับสูง​บาง​กลุ่ม​ของ​ยมโลก​แห่ง​เก่า​ รวมถึง​เหล่า​ราชา​ของ​วิญญาณ​สมัยใหม่​ สำหรับ​ตอนนี้​ เจ้ายัง​เด็ก​และ​ไร้​ประสบการณ์​เกินไป​ หาก​เจ้าไม่สามารถ​ก้าว​ข้าม​อุปสรรค​อย่าง​ขง​โม่และ​พวกพ้อง​ของ​เขา​ได้​ เรา​จะพูดถึง​เรื่อง​อนาคต​ไป​ทำไม​กัน​?”

“ยุค​รณ​รัฐ​ของ​โลก​ใต้พิภพ​ เจ้าคิด​ว่า​มัน​เป็น​เพียง​คำกล่าวอ้าง​อย่างนั้น​หรือ​? ยุค​รณ​รัฐ​ของ​โลก​ใต้พิภพ​นั้น​โหดร้าย​และ​ป่าเถื่อน​มากกว่า​ที่​เจ้าจะสามารถ​จินตนาการ​ได้​ ข้า​หวัง​ว่า​เจ้าจะกลับมา​โดยที่​ยัง​มีชีวิต​และ​ครบ​ 32 แบบ​นั้น​ ข้า​ก็​อาจจะ​ยกระดับ​การประเมิน​ของ​เจ้าให้​สูงขึ้น​ได้​ ไม่เช่นนั้น​…เจ้าจะมีคุณสมบัติ​อะไร​ใน​การ​จะมาออกคำสั่ง​ข้า​?”

ฉิน​เย่​กลับมา​ที่​ยมโลก​เป็นที่​เรียบร้อย​แล้ว​ แต่​ถึงกระนั้น​ เขา​ก็​ยัง​ไม่ได้​เอ่ย​คำสั่ง​อะไร​ออก​ไป​ กลับกัน​ เขา​ตรง​ไป​ที่​โถงประชุม​หลัก​ของ​ยมโลก​และ​เริ่ม​วิเคราะห์​สิ่งที่​ตน​ได้​รู้​มาอย่าง​ละเอียด​

การดำรงอยู่​ของ​ขง​โม่นั้น​เป็นอันตราย​ต่อ​เขา​ใน​ตอนนี้​เป็นอย่างมาก​ และ​โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​ใน​ตอนที่​มัน​อาจ​ไม่ได้​อีก​ฝ่าย​เพียง​คนเดียว​!

เขา​สามารถ​บอก​ได้​เลย​ว่า​วิญญาณ​ใน​มณฑล​เจียงซู​และ​มณฑล​ซาน​ตง​ดูเหมือนว่า​จะกลายเป็น​พันธมิตร​กัน​ นี่​คือ​สัญญาณที่​ชัดเจน​ที่สุด​ว่า​อีกไม่นาน​การ​ก่อตั้ง​อาณาจักร​จะตามมา​ หาก​เขา​ไม่จัดการ​ขั้น​เด็ดขาด​เสีย​ตั้งแต่​ตอนนี้​ เขา​ก็​อาจจะ​ถูก​ปิดล้อม​โดย​กองกำลัง​จำนวนมาก​ในอนาคต​ – กองกำลัง​ที่​เขา​ไม่สามารถ​เอาใจ​หรือ​อ้อนวอน​ได้​

โชคชะตา​ไม่ได้​ต้องการ​ให้​พวกเขา​ร่วมมือ​กัน​

นอกจากนี้​ นคร​ชฺวี​ฟู่และ​เมือง​หวู่​หยาง​ก็​อยู่​ใกล้​กัน​อย่าง​ไม่น่าเชื่อ​ แม้ว่า​พวกเขา​จะเปลี่ยน​ตำแหน่งที่ตั้ง​ของ​เมืองท่า​ แต่​ผลลัพธ์​ที่​ออกมา​ก็​คงจะ​เหมือนกัน​อยู่ดี​ เพราะ​มณฑล​เจียงซู​ก็​ยัง​เป็น​อาณาเขต​ของ​กองกำลัง​พันธมิตร​อยู่ดี​ ราชา​ผี​แห่ง​พิภพ​เปรต​อยู่​ใต้​พวกเขา​ ราชา​ผี​แห่ง​พิภพ​อสูร​อยู่​เหนือ​พวกเขา​ ในขณะที่​ราชา​ผี​แห่ง​พิภพ​เดรัจฉาน​ก็​แทบจะ​อยู่​ติดกัน​ และ​มัน​ก็​ยังมี​พวก​ภูตผี​คลุ้มคลั่ง​ที่​ยัง​ซ่อนตัว​อยู่​ที่​ตระหนักถึง​การ​เงียบ​เฉย​ของ​ยมโลก​และ​เริ่ม​รวบรวม​กองกำลัง​ของ​ตัวเอง​แล้วด้วย​

พวกเขา​กำลังจะ​ทำให้เกิด​ยุค​รณ​รัฐ​ขึ้น​อีกครั้ง​ และ​ช่วงเวลา​แห่ง​ความ​สงบสุข​ก็​จะจางหาย​ไป​อย่าง​รวดเร็ว​!

“เรา​จะต้อง​ส่งกองกำลัง​ของ​เรา​ไป​ที่นั่น​โดยเร็ว​ที่สุด​” ฉิน​เย่​กำมือ​รอบ​เกล็ด​สีทอง​แน่น​ ใน​วินาที​นั้น​ การ​ตระหนักถึง​เรื่อง​เวลา​ทำให้เกิด​ความเร่งด่วน​ขึ้น​ภายในใจ​ของ​เขา​

เขา​จะสามารถ​รวบรวม​กองกำลัง​ของ​ยมโลก​ภายใน​ 150 ปี​ ได้​จริง ๆ​ อย่างนั้น​หรือ​? เขา​จะสามารถ​เปิด​ประตู​ยมโลก​สู่โลก​ใต้พิภพ​ทั้งหมด​และ​เผชิญหน้า​กับ​กองกำลัง​ที่​ทรงอำนาจ​ของ​โลก​ใต้พิภพ​อย่าง​เปิดเผย​อย่างนั้น​หรือ​?

วิกฤต​ใน​ตอนนี้​รุนแรง​เป็นอย่างมาก​ แต่​มัน​ก็​เทียบ​ไม่ได้​เลย​กับ​ตัวตน​อื่น​ ๆ ที่​ยืน​อยู่​บน​เวที​โลก​! เฮดี​ส พญา​ยมราช​ แท​นา​ทอ​สและ​เทพ​แห่ง​ความตาย​ไร้​นาม​ต่าง​ก็​เป็น​กองกำลัง​ที่​แข็งแกร่ง​ที่​กำลัง​ยืน​รอ​อยู่​บน​เวที​เพื่อ​รอ​การ​เปิด​ตัวอย่าง​ยิ่งใหญ่​ของ​เขา​

“ห​ลี่​จีสี่… เร็ว​เข้า​… ข้า​ไม่คิด​ว่า​ตัวเอง​จะมีเวลา​เหลือเฟือ​อีกแล้ว​…”

[1] น่าจะ​ประมาณ​ ค.ศ.​ 382

[3] ตั้งแต่​ช่วง​ ค.ศ.​ 907-979

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด