ฉันนี่แหละจ้าวนรก [我要做阎罗]บทที่ 420: การต่อสู้ที่เมืองเจียงอิน (3)

Now you are reading ฉันนี่แหละจ้าวนรก [我要做阎罗] Chapter บทที่ 420: การต่อสู้ที่เมืองเจียงอิน (3) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บท​ที่​ 420: การต่อสู้​ที่​เมือง​เจียง​อิน​ (3)

เหล่า​ทหาร​ของ​กลุ่ม​พันธมิตร​ได้รับ​การ​ต้อนรับ​โดย​กำแพง​โล่​ที่​มีหอก​ยื่น​ออกมา​ไม่ต่าง​อะไร​กับ​ฟัน​ของ​หมาป่า​

อย่างไรก็ตาม​ แววตา​ของ​พวกเขา​ไม่ฉายแวว​ถึงความหวาดกลัว​เลย​แม้แต่น้อย​

แม้แต่​กระต่าย​ตัว​จ้อย​ก็​ฮึกเหิม​ดั่ง​ราชสีห์​เมื่อ​อยู่​ใน​สภาพแวดล้อม​ที่​ถูกต้อง​ วิญญาณ​จำนวน​นับไม่ถ้วน​จับจ้อง​ไป​ยัง​คู่ต่อสู้​ ฉากหลัง​เป็น​เปลวไฟ​นรก​ แต่​ถึงกระนั้น​ พวกเขา​กลับ​ไม่ก้าว​ถอยหลัง​ไป​เลย​แม้แต่​ก้าว​เดียว​ สิ่งเดียว​ที่อยู่​ภายใน​หัว​ของ​พวกเขา​ตอนนี้​ก็​คือ​สังหาร​และ​ทำลาย​อีก​ฝ่าย​ให้​สิ้นซาก​

แนวหน้า​ปะทะ​กัน​อย่าง​รุนแรง​ และ​ขั้น​ยมทูต​ขาว​ดำ​ทั้ง​เจ็ด​ก็​พุ่งตัว​เข้าหา​กองกำลัง​ของ​ยมโลก​โดยตรง​ เปลวไฟ​นรก​ลุกโชน​ขึ้น​บน​ฟ้าใน​ทุก​จุด​ที่​พวกเขา​เคลื่อนตัว​ผ่าน​ และ​ภายใน​ชั่วพริบตา​ยมโลก​ก็​สูญเสีย​ทหาร​ไป​กว่า​พัน​นาย​ หยาง​เหยียน​เจาค่อนข้าง​ประหลาดใจ​เมื่อ​เห็น​ว่า​กองกำลัง​ของ​ยมโลก​กำลัง​ต่อสู้​กับ​ขั้น​ยมทูต​ขาว​ดำ​ทั้ง​เจ็ด​ เขา​ขมวดคิ้ว​เข้าหา​กัน​ “ยมทูต​ขาว​ดำ​? นี่​อีก​ฝ่าย​เปิดเผย​ไพ่ตาย​ของ​ตัวเอง​แล้ว​หรือ​? แถมยมทูต​ขาว​ดำ​พวก​นั้น​ยังมี​ไม่ผู้​ที่​คอย​คุ้มกัน​ให้​อีกด้วย​? พวกเขา​พุ่ง​เข้าใส่​กองกำลัง​ของ​เรา​โดย​ไม่คำนึง​ถึงชีวิต​ของ​ตัวเอง​เลย​แม้แต่น้อย​? นี่​พวกเขา​เสียสติ​ไป​แล้ว​หรือ​อย่างไร​??”

มู่กุ้ย​อิง​เอง​ก็​เอ่ย​ขึ้น​จาก​ด้านหลัง​ “นี่​พวกเขา​รู้​หรือไม่​ว่า​ยุทธวิธี​ทางทหาร​คือ​อะไร​? ทันทีที่​เรา​ทำลาย​ความ​ฮึกเหิม​ของ​พวกเขา​ซะ ความมุ่งมั่น​ทั้งหมด​ของ​เหล่า​ทหาร​วิญญาณ​ก็​จะลดลง​ และ​พวกเขา​ก็​จะไม่สามารถ​รวบรวม​แรงใจ​ที่จะ​ต่อสู้​ได้​อีกต่อไป​”

กองกำลัง​ของ​ยมโลก​ล่าถอย​เล็กน้อย​ แต่​หยาง​เหยียน​เจาก็​ไม่ได้​ตื่น​ตระหนัก​แต่อย่างใด​ เขา​มอง​ไป​ยัง​เหล่า​ผู้​ที่​ยืน​อยู่​เบื้องหน้า​ของ​ตน​ “ผู้ใด​จะออก​ไป​?”

“ข้า​เอง​” หนึ่ง​ใน​แม่ทัพ​หญิง​รีบ​ตอบ​ขึ้น​ทันที​ “พวก​นั้น​กล้า​ดี​อย่างไร​ถึงพุ่ง​เข้า​ปะทะ​กับ​กองกำลัง​ของ​ยมโลก​โดย​ปราศจาก​ซึ่งความกลัว​? พวก​วิญญาณ​ที่​ถือกำเนิด​ขึ้น​ใน​ช่วง​ร้อย​ปี​ที่ผ่านมา​ไม่รู้​อะไร​เกี่ยวกับ​เรา​เลย​แม้แต่น้อย​…”

สิ้นสุด​เสียงพูด​ นาง​ก็​เปลี่ยน​ร่าง​เป็น​กระแสลม​ที่​พุ่ง​เข้าสู่​สนามรบ​ทันที​

ทาง​ด้าน​ตะวันตก​ของ​สนามรบ​ “ฮ่าๆๆๆๆ…” หญิง​วัยกลางคน​ร่าง​อ้วน​ที่​สวม​ชุด​พี่เลี้ยง​พุ่ง​เข้าหา​กองกำลัง​ของ​ยมโลก​ ทิ้ง​ไว้​เพียง​กลุ่ม​ควัน​และ​ฝุ่น​ใน​จุด​ที่​นาง​เคลื่อนตัว​ผ่าน​ เหล่า​ทหาร​ของ​กลุ่ท​พันธมิตร​ร้อง​ตะโกน​ออกมา​สุดเสียง​ขณะที่​มุ่งหน้า​ตาม​นาง​ไป​ติด ๆ​ ล้อมรอบ​ร่าง​ขนาดใหญ่​ของ​นาง​และ​ปะทะ​เข้ากับ​ค่าย​กล​เกาะ​ของ​ยมโลก​

นาง​ดู​ไม่ต่าง​อะไร​กับ​แทงค์​ฝีมือดี​ที่​พุ่ง​เข้าสู่​กองกำลัง​ของ​ยมโลก​และ​สังหาร​ทหาร​วิญญาณ​ทุก​นาย​ที่อยู่​ตรงหน้า​ ภายใน​ไม่กี่​วินาที​ นาง​สามารถ​สร้าง​ช่องว่าง​ขนาดใหญ่​ขึ้น​ใน​กองกำลัง​ทางตะวันตก​ของ​ยมโลก​ขึ้น​ได้​ และ​เหล่า​ทหาร​ของ​กลุ่ม​พันธมิตร​ก็​รีบ​พุ่งตัว​เข้าไป​แทรก​ทันที​

หญิง​วัยกลางคน​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​ฟ้า ก่อน​จะคำราม​ออกมา​เสียงดัง​ “เร็ว​เข้า​! รีบ​เข้าไป​และ​สังหาร​ศัตรู​ทั้งหมด​เสีย​! ผู้ใด​ก็​ตามที่​คิด​จะถอย​หนี​จะต้อง​ตาย​! หรือ​พวก​เจ้าจะรอ​ให้​ท่าน​ซาลงโทษ​พวก​เจ้าด้วย​ขี้ผึ้ง​น้ำมัน​มนุษย์​?!!”

การ​ลงโทษ​ย่อม​เป็น​แรงกระตุ้น​ที่​ดี​ที่สุด​!

พวก​นาง​มีโอกาส​แค่​ครั้ง​เดียว​เท่านั้น​ หาก​ซาเซียง​จู่ทนไม่ไหว​ และ​ขั้น​ตุลาการ​นรก​ที่อยู่​บน​ฟ้าเปลี่ยน​มาสนใจ​พวก​นาง​… นาง​ไม่อยาก​จะคิด​เลย​ว่า​จะเกิด​อะไร​ขึ้น​…

“บุก​!!!” เหล่า​ทหาร​วิญญาณ​ที่อยู่​ด้านหลัง​ของ​นาง​พุ่งตัว​ไป​ด้านหน้า​ราวกับ​คลื่น​ที่​ถาโถม ธงของ​ซาเซียง​จู่พริ้ว​ไหว​อยู่​กลางอากาศ​ ทันใดนั้น​ขณะที่​หญิง​วัยกลางคน​ร่าง​อ้วน​กำลังจะ​พุ่งตัว​เข้าไป​ตาม​ทหาร​ของ​กลุ่ม​พันธมิตร​ก็​ต้อง​หยุดชะงัก​ก่อน​จะหันไป​มอง​ที่​ขา​ของ​ตนเอง​

ด้วย​เหตุผล​ที่​แปลกประหลาด​บางประการ​ นาง​พบ​ว่า​ขา​ข้าง​หนึ่ง​ของ​ตนเอง​กำลัง​ถูก​รัด​ไว้​ด้วย​โซ่เงิน​เส้น​ยาว​

“นี่​มัน​อะไร​กัน​?” นาง​กระพริบตา​ปริบ​อย่าง​มึนงง​ขณะที่​มอง​ไป​ยัง​จุดกึ่งกลาง​ของ​กองกำลัง​ยมโลก​

และ​ทันทีที่​ทำ​เช่นนั้น​ พลัง​หยิน​ขั้น​ยมทูต​ขาว​ดำ​ที่​รุนแรง​กว่า​ก็​ปะทุ​ออก​มาจาก​กลาง​กลุ่ม​กองกำลัง​ของ​ยมโลก​ เห็นได้ชัด​เลย​ว่า​บุคคล​ลึกลับ​ผู้​นี้​กำลัง​เปิดเผย​การดำรงอยู่​ของ​ตน​ให้​กับ​ยมทูต​ขาว​ดำ​ของ​กลุ่ม​พันธมิตร​ได้​รับรู้​

กลุ่ม​ทหาร​แนว​หน้าที่​พุ่งตัว​เข้าไป​ต่าง​แน่นิ่ง​ไป​ด้วย​ความ​ตกตะลึง​ ในขณะเดียวกัน​ หญิง​วัยกลางคน​ก็​กรีดร้อง​ออกมา​อย่าง​โหยหวน​เมื่อ​พบ​ว่า​จู่ๆตัวเอง​ก็​ถูกลาก​ลงมา​ด้านล่าง​โดย​โซ่ที่​รัด​ที่อยู่​ที่​บริเวณ​น่อง​ของ​ตนเอง​!

ตุบ​ ครืด​ดด…​ ร่าง​ของ​นาง​ตกลง​กับ​พื้น​อย่าง​แรง​และ​ถูกลาก​ไป​ตาม​ทาง​ ไม่สามารถ​ทำ​อะไร​ได้​แม้แต่น้อย​ เหตุใด​โซ่เหล็กเส้น​บาง​ถึงได้​แข็งแรง​ขนาด​นี้​?! ที่​ปลาย​อีก​ด้าน​หนึ่ง​ของ​โซ่คือ​อะไร​กัน​?

“นี่​มัน​…เป็นไปได้​อย่างไร​?!” นาง​ถูกลาก​ไป​เร็ว​ขึ้น​ เร็ว​ขึ้น​เรื่อย ๆ​ เหล่า​ทหาร​วิญญาณ​ที่​ยืน​ขวางทาง​ต่าง​กระเด็น​ออก​ไป​ ในขณะที่​เศษฝุ่น​และ​ดิน​กระจัดกระจาย​คละคลุ้ง​ไป​ทั่ว​ หญิง​วัยกลางคน​พยายาม​มองหา​แหล่งที่มา​ของ​โซ่ดังกล่าว​ แต่​ทันทีที่​นาง​ทำ​เช่นนั้น​ ใบหน้า​ของ​นาง​ก็​กระแทก​ลง​กับ​พื้น​อย่าง​รวดเร็ว​ และ​นาง​ก็​เด้ง​ตัว​ขึ้น​มาพร้อมกับ​ดิน​จำนวนมาก​ที่​ติด​อยู่​ใน​ปาก​

ไม่สามารถ​มองหา​ผู้​ที่​ยืน​อยู่​ปลาย​สุด​ของ​โซ่ได้​เลย​สักนิด​

ความรู้สึก​หวาดกลัว​ภายในใจ​มีแต่​จะเพิ่มขึ้น​เรื่อย ๆ​ เพราะ​ไม่นาน​นาง​ก็​พบ​ว่า​สหาย​ขั้น​ยมทูต​ขาว​ดำ​ทั้ง​หก​ของ​นาง​เอง​ก็​ถูกลาก​ไป​ยัง​ตำแหน่ง​เดียวกัน​! ตำแหน่ง​เจ็ด​ตำแหน่ง​ภายใน​สนามรบ​ตลบ​ไป​ด้วย​ฝุ่น​ควัน​ขณะที่​เหล่า​ขั้น​ยมทูต​ขาว​ดำ​ถูกลาก​ไป​ยัง​ตำแหน่ง​เดียวกัน​โดยที่​ไม่เต็มใจ​

มัน​แทบจะ​เหมือนกับ​แมงมุมยักษ์​ที่​พยายาม​ลาก​เหยื่อ​ทั้งหมด​เข้า​ไปหา​ตนเอง​ไม่มีผิด​

“ยมทูต​อีก​ตน​อย่างนั้น​หรือ​?!” วิญญาณ​ผู้หญิง​ไร้​หน้า​กรีดร้อง​ออกมา​ด้วย​ความหวาดกลัว​ขณะที่​นาง​จ้องมอง​สายโซ่​ที่​รัด​แน่น​อยู่​รอบ​ลำคอ​ของ​ตนเอง​ เส้น​ผม​ของ​นาง​เจาะแน่น​ลง​ไป​บน​พื้น​ พยายาม​ที่จะ​ยึด​ร่าง​ของ​ตนเอง​ไว้​กับ​พื้น​และ​ต้านทาน​แรง​ดึง​ของ​โซ่ แต่​มัน​ก็​เปล่าประโยชน์​

ตอนนี้​พวก​นาง​รู้สึก​สิ้นหวัง​เป็นอย่างมาก​ ไม่ต่าง​อะไร​ไป​กับ​คันไถ​ของ​ชาวนา​ที่​ถูกลาก​ไป​ตาม​สนามรบ​ ไม่กี่​วินาที​ต่อมา​ วิญญาณ​ไร้​หน้า​ก็​กรีดร้อง​ออกมา​อย่าง​ตกใจ​อีกครั้ง​เมื่อ​นาง​พบ​ว่า​ร่าง​ของ​นาง​ถูก​ดึก​ขึ้นไป​ใน​อากาศ​

ตู้​ม ตู้​ม ตู้​ม… ทั้งหมด​นี้​เกิดขึ้น​ใน​ระยะเวลา​เพียง​ไม่ถึงสิบ​วินาที​ เหล่า​ทหาร​ของ​กลุ่ม​พันธมิตร​ต่าง​เงยหน้า​มอง​ภาพ​ที่​เกิดขึ้น​ด้วย​ความ​หวั่น​สะพรึง​ แม่ทัพ​ขั้น​ยมทูต​ขาว​ดำ​ของ​พวกเขา​ทั้งหมด​ได้​หาย​ไป​อย่าง​รวดเร็ว​ดั่ง​เช่น​ตอนที่​ปรากฏตัว​ขึ้น​ สิ่งเดียว​ที่​เหลืออยู่​มีเพียง​รอย​ลาก​เจ็ด​รอย​ซึ่งมาบรรจบ​กัน​ ณ จุด​ ๆ หนึ่ง​ของ​กองกำลัง​ของ​ยมโลก​เท่านั้น​

สิ่งใด​กันที่​สามารถ​ลาก​แม่ทัพ​ทั้ง​เจ็ด​ไป​ได้​?

กราฟ​แสดง​ขวัญ​กำลังใจ​ของ​พวกเขา​เปลี่ยนไป​อย่าง​รวดเร็ว​ เหล่า​ทหาร​วิญญาณ​มองหน้า​กันและกัน​อย่าง​กระอักกระอ่วน​ ไม่รู้​ว่า​ตน​ควรจะ​ทำ​สิ่งใด​ ไม่มีใคร​พุ่งตัว​เข้าหา​ศัตรู​ต่อ​เลย​แม้แต่​คนเดียว​

……………………………………………………..

แค่​ก​ ๆ! วิญญาณ​ผู้หญิง​ไร้​หน้า​พ่น​ศษดิน​ที่อยู่​ใน​ปาก​ออกมา​และ​ลุกขึ้น​ยืน​อย่าง​รวดเร็ว​ ยมทูต​ขาว​ดำ​อีก​หก​ตนเอง​ก็​อยู่​ใกล้​ ๆ นาง​เช่นกัน​ ทั้งหมด​ค่อย ๆ​ ลุกขึ้น​ยืน​

สิ่งแรก​ที่​ทั้ง​เจ็ด​เห็น​ก็​คือ​พวก​นาง​กลับมา​อยู่​ท่ามกลาง​วงล้อม​ของ​เหล่า​ทหาร​อีกครั้ง​

นี่​คือ​การ​ตี​วงล้อม​ของ​เหล่า​ทหาร​วิญญาณ​ของ​ยมโลก​ เส้นรอบวง​ของ​วงล้อม​นี้​นี่​จะประมาณ​ 300 – 400 เมตร​ และ​กำแพง​เกาะ​ที่​มีหอก​สอดแทรก​อยู่​ก็​กระจาย​ตัว​อยู่​โดยรอบ​ นอกจากนี้​ พวก​นาง​ยัง​เห็น​ลูกดอก​หน้าไม้​ของ​หน้าไม้​ศักดิ​สิทธิ์​เปลวไฟ​แห่ง​กรรม​เล็ก​มาก​ที่​ตน​อีกด้วย​ จำนวน​ของ​มัน​นั้น​มาก​พอ​ ๆ กับ​ดวงดาว​ที่อยู่​บน​ท้องฟ้า​…

ไร้​ซึ่งเสียงพูด​ใด​ ๆ

มัน​คือ​ความสงบ​ก่อนที่จะ​เกิด​พายุ​

หาก​พูด​กัน​ตาม​ความจริง​ มัน​แทบจะ​เหมือนกับ​ว่า​ดินแดน​แห่ง​นี้​คือ​สุสาน​สำหรับ​เหล่า​วิญญาณ​ – สำหรับ​พวก​นาง​

แต่​ตอนนี้​…เรื่อง​พวก​นี้​มัน​ไม่สำคัญ​เลย​สักนิด​

สิ่งที่​สำคัญ​กว่า​ก็​คือ​ข้อเท็จจริง​ที่ว่า​มีวิญญาณ​เพียง​ตน​เดียว​เท่านั้น​ที่​กำลัง​ยืน​อยู่​เบื้องหน้า​ของ​พวก​นางใน​ตอนนี้​

อีก​ฝ่าย​เป็น​ผู้หญิง​ แต่งกาย​ด้วย​ชุด​นักรบ​ของ​ชน​เผ่า​โบราณ​ ผมเผ้า​ถูก​มัด​เป็น​เปีย​เอาไว้​อย่าง​เรียบร้อย​ จมูกโด่ง​เป็น​สัน​ แววตา​ล้ำลึก​ และ​ร่าง​สูงโปร่ง​ พร้อมกับ​แบก​ดาบ​สอง​เล่ม​ไว้​บน​หลัง​

“เจ้าเป็น​ใคร​?” ยมทูต​ขาว​ดำ​ทั้ง​เจ็ด​ของ​กองกำลัง​พันธมิตร​ได้​ทำงาน​ร่วมกัน​มาเป็น​ระยะเวลา​หนึ่ง​แล้ว​ และ​พวกเขา​ก็​ยืน​เอา​หลัง​ชน​หลัง​เป็น​วงกลม​ขณะที่​เผชิญหน้า​กับ​ผู้หญิง​ที่​กำลัง​มอง​ลงมา​ อย่างไรก็ตาม​ สาว​ชน​เผ่า​ผู้​นี้​กลับ​เมินเฉย​ต่อ​ความหวาดระแวง​ของ​พวกเขา​ขณะที่​นาง​ค่อย ๆ​ ดึง​ดาบ​ที่อยู่​ด้านหลัง​ของ​ตน​ออกมา​อย่าง​ช้า ๆ

ด้วย​เหตุผล​บางประการ​ นาง​ดู​ไม่ต่าง​อะไร​กับ​ดอก​ปี่​อั้น​สีแดง​ที่​ค่อย ๆ​ เบ่งบาน​ออก​เลย​แม้แต่น้อย​

“ข้า​แปลกใจ​จริง ๆ​ ที่​กองกำลัง​เช่นนี้​ยัง​สามารถ​รวบรวม​ความกล้า​ที่จะ​ตอบโต้​พวกเรา​ได้​” หญิง​ชน​เผ่า​ถือ​ดาบ​ไว้​ตรงหน้า​และ​เริ่ม​วิเคราะห์​ลักษณะ​ของ​คู่ต่อสู้​จาก​เงาสะท้อน​บน​ดาบ​

“พวก​เจ้าเอง​สินะ​…” สายลม​เย็นยะเยือก​พัดผ่าน​ ส่งผล​ให้​ผม​ของ​นาง​ปลิว​ไป​ตาม​แรงลม​เบา​ ๆ นาง​ยังคง​เอ่ย​ต่อ​เสียง​เรียบ​ “ข้า​คิด​ว่า​เรา​คง​สามารถ​จบ​การต่อสู้​นี้​ได้​ใน​ทันทีที่​ข้า​สังหาร​พวก​เจ้าทั้งหมด​ลง​ และ​ข้า​ด้วย​ขอ​สารภาพ​เลย​ว่า​ หลังจากที่​ได้​เดินทาง​มากับ​ทัพ​หลวง​ของ​ยมโลก​เป็น​ระยะเวลา​หนึ่ง​ พวก​เจ้านั้น​น่าเบื่อ​ที่สุด​”

“แค่​เจ้าน่ะ​หรือ​?” หญิง​วัยกลางคน​ร่าง​อ้วน​กัดฟัน​และ​แค่น​หัวเราะ​ “วิญญาณ​ขั้น​ยมทูต​ขาว​ดำ​ระดับ​ต้นกล้า​มาท้า​สู้กับ​ขั้น​ยมทูต​ขาว​ดำ​ทั้ง​เจ็ด​เพียง​ตัว​ลำพัง​อย่างนั้น​หรือ​?”

หญิง​ชน​เผ่า​ที่​ได้ยิน​เช่นนั้น​ก็​หัวเราะ​ออกมา​เสียงดัง​ นาง​ชูแขน​ขึ้น​ และ​ทันใดนั้น​ แขน​สามสิบ​ข้าง​ที่​ถือ​ดาบ​ก็​ยื่น​ออกมา​จากด้านหลัง​ของ​นาง​!

พลัง​หยิน​ปะทุ​ออกมา​จาก​ร่าง​และ​ไหล​ออกจาก​ทวาร​ทั้ง​เจ็ด​ของ​นาง​อีกครั้ง​ ส่งผล​ให้​นาง​ดู​ไม่ต่าง​อะไร​กับ​อสูร​ที่​ดุร้าย​เลย​แม้แต่น้อย​ พลัง​หยิน​ของ​นาง​ไม่ได้​แข็งแกร่ง​มาก​นัก​ แต่​ยมทูต​ขาว​ดำ​ทั้ง​เจ็ด​ของ​กลุ่ม​พันธมิตร​กลับ​กรีดร้อง​ออกมา​และ​ถอยห่าง​ออก​ไป​หลาย​สิบ​เมตร​ทันที​

สิ่งนั้น​อีกแล้ว​!

แรงกดดัน​ที่​ยาก​จะหายใจ​นั่น​อีกแล้ว​ พวก​นาง​ไม่รู้​แน่ชัด​ว่า​มัน​คือ​อะไร​กัน​แน่​ แต่​พวก​นาง​ก็​สามารถ​บอก​ได้​ว่า​มัน​เป็น​ความรู้สึก​ที่​สร้าง​ความหวาดกลัว​ขึ้น​ภายในใจ​ของ​พวก​นาง​ได้​เป็น​อย่าง​ดี​ ทั้ง​เจ็ด​รู้สึก​ราวกับว่า​ตน​เป็น​เพียง​กระต่าย​ที่​กำลัง​เผชิญหน้า​อยู่​กับ​สิงโต​ที่​ตุ​ร้าย​ไม่มีผิด​

ร่าง​ตรงหน้า​ให้​ความรู้สึก​ราวกับว่า​เป็น​นัก​ล่า​โดยธรรมชาติ​ของ​พวกเขา​! นาง​แผ่รัศมี​ของ​ผู้​ที่​ยืน​อยู่​บน​จุดสูงสุด​ของ​ห่วง​โซ่อาหาร​ออกมา​!

“หึ​ ท้าทาย​ข้า​อย่างนั้น​หรือ​?” ร่าง​ของ​หญิง​ชน​เผ่า​ค่อย ๆ​ เลือนลาง​ขึ้น​เนื่องจาก​พลัง​หยิน​ที่​ยังคง​หลั่งไหล​ออกมา​ แต่​ถึงกระนั้น​ ดวงตา​สีแดงเข้ม​ของ​นาง​ยัง​มอง​ไป​ยัง​คน​ทั้ง​เจ็ด​ “พวก​เจ้าไม่คิด​หรือว่า​ตัวเอง​กำลัง​เข้าใจ​อะไร​ผิด​ไป​?”

“วิญญาณ​ร้าย​ที่​ถือกำเนิด​ขึ้น​ใน​ช่วง​ร้อย​ปี​ที่ผ่านมา​นั้น​ไม่รู้​อะไร​เลย​แม้แต่น้อย​…”

“ข้า​ฮูเหยียน​ชื่อ​จิน​ ยมทูต​ของ​ตระกูล​หยาง​ อย่าง​น้อย​พวก​เจ้าก็​ควรจะ​จำชื่อ​ของ​ยมทูต​ที่​มอบ​ความตาย​ให้​กับ​ตนเอง​ได้​นะ​”

เมื่อ​เอ่ย​จบ​ นาง​ก็​พุ่ง​ผ่าน​อากาศ​ราวกับ​สายฟ้า​ และ​มิติ​ทั้งหมด​ก็​มืด​หม่น​ลง​ทันที​

เหล่า​ทหาร​วิญญาณ​ที่อยู่​โดยรอบ​ต่าง​อ้าปากค้าง​ พวกเขา​เห็น​เหตุการณ์​ทั้งหมด​ เงาขนาดใหญ่​ที่​ปรากฏตัว​ขึ้น​อย่าง​กระทันหัน​และ​เปลี่ยนเป็น​ลูกบอล​สีดำ​ที่​กลืน​กิน​ขั้น​ยมทูต​ขาว​ดำ​ทั้ง​เจ็ด​ของ​กลุ่ม​พันธมิตร​เข้าไป​ และ​ใน​เสี้ยว​วินาที​ต่อมา​ ร่าง​เงาดังกล่าว​ก็​ปรากฏ​มือขึ้น​อีก​ 30 ข้าง​ ทั้งหมด​ล้วน​เชื่อมต่อ​กับ​ร่าง​จน​ดู​ไม่ต่าง​อะไร​กับ​รากษส​ที่​ไร้​ซึ่งความเมตตา​เลย​แม้แต่น้อย​!

“วิญญาณ​ร้าย​จงพินาศ​ เมือง​เฟิงตู​จงเจริญ​”

พรึ่บ​!

ใบ​มีด​แสงจำนวน​นับไม่ถ้วน​ปรากฏ​ขึ้น​ด้านใน​ลูก​บอก​สีดำ​ ราวกับ​กลุ่ม​ดาว​บน​ท้องฟ้า​ การ​จู่โจมทั้งหมด​ทิ้ง​เพียง​ร่องรอย​ที่​น่าสะพรึงกลัว​เอาไว้​ มือ​ทั้ง​ 30 ข้าง​เคลื่อนที่​ไป​ใน​อากาศ​อย่าง​สง่างาม ตวัด​เป็น​องศา​ที่​สมบูรณ์แบบ​ เรียก​เสียง​กรีดร้อง​ที่​น่าสังเวช​เจ็ด​เสียง​ให้​ดัง​ขึ้น​จาก​ภายใน​ได้​เป็น​อย่าง​ดี​

“ซ่ากก​กก​!!!” “อ๊ากกก!!​ นะ​ นี่​มัน​…ปะ​ เป็นไปไม่ได้​!!” “นี่​มัน​บ้า​อะไร​กัน​?! เหตุใด​ท่าน​ซาถึงไม่เคย​บอก​เรา​เกี่ยวกับ​เรื่อง​นี้​มาก่อน​?!” “เป็นไปไม่ได้​…นาง​ไม่มีทาง​เป็น​วิญญาณ​ขั้น​ยมทูต​ขาว​ดำ​ระดับ​ต้น​!!”

ฉึก​ ฉึก​ ฉึก​ ฉึก​… มัน​มีรูปแบบ​ใน​การ​โจมตี​ที่​ดูเหมือนว่า​จะไร้​แบบแผน​นี้​ และ​หลังจาก​ผ่าน​ไป​ประมาณ​ 15 วินาที​ ลูกบอล​สีดำ​สนิท​ก็​ระเบิด​ออก​ และ​ฮูเหยียน​ชื่อ​จิน​ก็​ก้าว​ออกมา​ด้วย​ร่าง​วิญญาณ​ของ​นาง​โดย​มีลูกไฟ​นรก​เจ็ด​ดวง​ลอย​อยู่​รอบ​ ๆ

สายลม​ที่​พัดผ่าน​มาเบา​ ๆ ได้​ดับ​เปลวไฟ​ทั้งหมด​ไป​

ไม่มีการต่อสู้​

ไม่มีการขัดขืน​

ทั้ง​เจ็ด​ไม่ใช่คู่ต่อสู้​ของ​นาง​เลย​แม้แต่น้อย​

มัน​คือ​การสังหาร​เพียง​ฝ่าย​เดียว​!

เหล่า​วิญญาณ​ที่อยู่​โดยรอบ​แน่นิ่ง​ไป​ครู่หนึ่ง​ก่อนที่จะ​สามารถ​รวบรวม​สติ​ของ​ตนเอง​ได้​ในที่สุด​ “ชนะ​…ชนะ​แล้ว​!!!”

“ชนะ​แล้ว​!!” “ท่าน​ชื่อ​จิน​ชนะ​แล้ว​!!” “ท่าน​ชื่อ​จิน​ผู้​เกรียงไกร​!! ชนะ​แล้ว​!!”

เสียง​ตะโกน​แห่ง​ความตื่นเต้น​ที่​สามารถ​สังหาร​ขั้น​ยมทูต​ขาว​ดำ​ทั้ง​เจ็ด​ของ​กลุ่ม​พันธมิตร​ได้​ใน​พริบตา​สร้าง​ความมั่นใจ​ให้​กับ​กองกำลัง​ของ​ยมโลก​ได้​เป็น​อย่าง​ดี​ นี่​คือ​ความสำเร็จ​ที่​ยิ่งใหญ่​ของ​แม่ทัพ​ของ​พวกเขา​! ทหาร​ฝ่าย​ศัตรู​ไม่มีทาง​เทียบ​กับ​พวกเขา​ได้​ไม่ว่า​จะพยายาม​อย่างไร​!

“ท่าน​ชื่อ​จิน​จงเจริญ​!!” “ชัยชนะ​เป็น​ของ​เรา​!” เสียงคำราม​ของ​ชัยชนะ​ดัง​กึกก้อง​และ​แพร่กระจาย​ไป​อย่าง​รวดเร็ว​ ภายใน​ไม่กี่​วินาที​ มัน​ก็​แพร่สะพัด​ไป​ทั่ว​ทั้ง​กองทัพ​ เสียงร้อง​ที่​ดังสนั่น​ทำให้​กองกำลัง​แนวหน้า​ของ​ยมโลก​เต็มไปด้วย​ความ​มุ่น​มั่น​อีกครั้ง​ หลังจากนั้น​ไม่นาน​ นายทหาร​ผู้​หนึ่ง​ก็​กระโจน​ไป​ข้างหน้า​พร้อมกับ​หอก​ใน​มือ​ของ​ตน​และ​ตะโกน​สุดเสียง​ “พวกเรา​…บุก​!!!!!”

“ย๊ากกกกก!!!”​ พร้อมกัน​นั้น​ กองกำลัง​ทหาร​กว่า​หมื่น​นาย​ก็​กระชับ​มือ​ที่​ถือ​โล่​และ​หอก​ของ​ตน​ พุ่ง​เข้าหา​ศัตรู​พร้อมกับ​การ​โจมตี​สุดท้าย​ของ​ตน​

“กระจาย​คำสั่ง​” ฮูเหยียน​ชื่อ​จิน​เก็บ​ดาบ​ของ​ตน​และ​เอ่ย​ด้วย​น้ำเสียง​เย็นยะเยือก​ “ยมทูต​ขาว​ดำ​ทั้ง​เจ็ด​ได้​ถูก​สังหาร​แล้ว​ พวกเรา​จะไว้ชีวิต​เฉพาะ​ผู้​ที่​ยอมจำนน​เท่านั้น​”

“รับทราบ​!!”

ทหาร​กล้า​แทบ​ทุก​นาย​ตอบรับ​เป็น​เสียง​เดียวกัน​ พวกเขา​ส่วนใหญ่​ต่าง​เป็น​ทหาร​ที่​รับใช้​หยาง​จีเย่​มานาน​ และ​พวกเขา​ทั้งหมด​ก็​สามารถ​อ่าน​กระแส​ของ​การต่อสู้​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​ ดังนั้น​พวกเขา​จึงสามารถ​บอก​ได้​ทันที​ว่า​มัน​ถึงเวลา​ที่จะ​จบเรื่อง​ทั้งหมด​นี้​แล้ว​

“บุ​กก​กก​!!!!” ทั้ง​สนามรบ​สั่นสะเทือน​ด้วย​เสียง​ตะโกน​ของ​พวกเขา​ “ยมทูต​ขาว​ดำ​ทั้ง​เจ็ด​ได้​ถูก​สังหาร​ไป​แล้ว​ ชัยชนะ​เป็น​ของ​ยมโลก​! ไว้ชีวิต​เฉพาะ​ผู้​ที่​ยอมจำนน​เท่านั้น​!”

คำพูด​เหล่านี้​เปรียบเสมือน​กับ​แรงกระตุ้น​สำหรับ​กองกำลัง​ของ​ยมโลก​ ในขณะที่​อีก​ด้าน​หนึ่ง​ เหล่า​ทหาร​วิญญาณ​ของ​กลุ่ม​พันธมิตร​แห่ง​ความมืด​ต่าง​มองหน้า​กัน​อย่าง​เหลือเชื่อ​ ถึงแม้ว่า​กองกำลัง​ของ​ยมโลก​จะอยู่​ห่าง​จาก​พวกเขา​อีก​ไม่ถึง 30 เมตร​ แต่​พวกเขา​ก็​ยัง​ไม่รู้​ว่า​ตน​ควร​ตอบสนอง​ต่อ​สถานการณ์​นี้​อย่างไร​ดี​

พวกเรา​… แพ้​อย่างนั้น​หรือ​?

แม่ทัพ​ขั้น​ยมทูต​ขาว​ดำ​ของ​เรา​ถูก​กำจัด​แล้ว​อย่างนั้น​หรือ​?

ไม่ใช่ว่า​เมื่อครู่นี้​พวกเขา​ยัง​พุ่ง​เข้าหา​กองกำลัง​ของ​ศัตรู​อย่าง​กล้าหาญ​อยู่เลย​หรือ​อย่างไร​? เหตุใด​จึงถูก​กำจัด​ใน​ระยะเวลา​อัน​สั้น​แบบนี้​?

“เรา​ไม่มีทาง​ชนะ​…” หนึ่ง​ใน​ทหาร​วิญญาณ​ของ​กลุ่ม​พันธมิตร​ตัว​สั่นเทา​ขณะที่​เขา​จ้องมอง​ศัตรู​ที่​กำลัง​พุ่ง​เข้ามา​ “ทัพ​หลวง​ของ​ยม​โล​ก.​.. พวกเรา​….”

ฉึก​!

หอก​เล่ม​หนึ่ง​แทง​ทะลุ​อก​ของ​เขา​ก่อนที่​เขา​จะเอ่ย​จบ​ แววตา​ของ​เขา​หม่น​ลง​ ก่อนที่​ร่าง​จะลุกโชน​ด้วย​เปลวไฟ​นรก​อย่าง​รวดเร็ว​ เหล่า​ทหาร​ที่อยู่​ด้านหลัง​ต่าง​โยน​อาวุธ​ของ​ตน​ลง​กับ​พื้น​และ​ร้อง​ตะโกน​เสียงดัง​ “ข้า​ยอม​! ยอมแพ้​แล้ว​!!”

ทีละ​ตน​ ๆ ในไม่ช้า​ จำนวน​ทหาร​วิญญาณ​ที่​คุกเข่า​ยอม​จำนวน​ก็​แพร่กระจาย​ไป​ทั่ว​ทั้ง​กองทัพ​!

ใน​ชั่วพริบตาเดียว​ ทั่ว​ทั้ง​สนามรบ​ก็​เต็มไปด้วย​เหล่า​ทหาร​วิญญาณ​ที่​คุกเข่า​ยอมจำนน​ลง​กับ​พื้น​

กำลังใจ​ของ​กองกำลัง​กลุ่ม​พันธมิตร​พลัง​ทลาย​ลง​โดย​สมบูรณ์​

แรงใจ​ที่​พุ่ง​สูงขึ้น​จาก​การ​ปรากฏตัว​ของ​เหล่า​แม่ทัพ​ขั้น​ยมทูต​ขาว​ดำ​ทั้ง​เจ็ด​ของ​พวกเขา​สลาย​หาย​ไป​พร้อมกับ​ความตาย​ของ​คน​ทั้งหมด​ บน​ท้องฟ้า​ ซาเซียง​จู่ที่​ได้ยิน​เสียง​ตะโกน​ยอมจำนน​ดังก้อง​ไป​ทั่ว​ทั้ง​สนามรบ​ก็​มีสีหน้า​ซีดเผือด​

เป็นไปได้​อย่างไร​… ยมทูต​ขาว​ดำ​เจ็ด​ตน​! เหล่า​แม่ทัพ​ที่​ติดตาม​เขา​มามากกว่า​สิบ​ปี​!

เขา​อยาก​จะปฏิเสธ​ทุกอย่าง​ แต่​ไม่ว่า​จะทำ​อย่างไร​ เขา​ก็​ไม่สามารถ​ตรวจ​จับได้​ถึงการดำรงอยู่​ของ​ยมทูต​ขาว​ดำ​ทั้ง​เจ็ด​ได้​เลย​ ทั้งหมด​ที่​เขา​บอก​ได้​มีเพียงแค่​ว่า​สถานการณ์​ด้านล่าง​พลิก​กลับมา​เลวร้าย​ลง​อย่าง​รวดเร็ว​ การต่อสู้​ที่​ดู​สูสีกัน​ของ​ทั้งสองฝ่าย​กลับ​จบ​ลง​อย่าง​รวดเร็ว​พร้อมกับ​ขวัญ​กำลังใจ​ของ​กองกำลัง​ของ​เขา​

“เจ้าคิด​ว่า​นี่​เป็น​เพราะ​ความบังเอิญ​อย่างนั้น​หรือ​?” กระแส​น้ำวน​พลัง​หยิน​ที่​รุนแรง​ยังคง​หมุน​วน​ตรงหน้า​ของ​ซาเซียง​จู่ ฉิน​เย่​หัวเราะ​ออก​มาจาก​ด้านใน​ “เจ้าไม่จำเป็น​จะต้อง​รู้สึก​แย่​กับ​เรื่อง​นี้​ ข้า​สามารถ​บอก​เจ้าได้​ว่า​เหตุใด​ขง​โม่จึงหวาดกลัว​เป็นอย่างมาก​เมื่อ​เขา​ตรวจ​จับได้​ถึงการ​ปรากฏตัว​ของ​พวกเรา​ กลัว​จน​ทำให้​เขา​ต้อง​ระดม​กองกำลัง​ทั้งหมด​เพื่อ​จัดการ​วิญญาณ​เพียง​ตน​เดียว​”

ตู้​ม!

ปาก​การ​แห่ง​การ​พิพากษา​ก็​ตัว​ขึ้น​กลางอากาศ​ ครั้งนี้​ มัน​รวบรวม​พลัง​หยิน​มากกว่า​ครั้ง​ก่อนหน้า​มาก​ และ​พวกเขา​ก็​มองเห็น​แม้กระทั่ง​ร่าง​เงาอัน​เลือนลาง​ของ​จงขุย​ที่​ปรากฏ​ขึ้น​ใน​กลุ่มก้อน​พลัง​หยิน​ที่​ก่อตัว​ขึ้น​รอบ​ปาก​การ​แห่ง​การ​พิพากษา​อีกด้วย​

และ​จากนั้น​ เขา​ก็​จิ้มมัน​ลง​ไป​ที่​พื้น​ที่ว่าง​ตรงหน้า​อย่าง​แผ่วเบา​ ทั่ว​ทั้ง​ท้องฟ้า​พลัน​สั่น​ไหว​อย่าง​รุนแรง​

“มัน​ก็เพราะว่า​ยมทูต​นั้น​มีความสามารถ​ที่จะ​สังหาร​วิญญาณ​ร้าย​ที่อยู่​ระดับ​ขั้น​พลัง​เดียวกัน​กับ​ตน​ได้​อย่างไรเล่า​! อย่าง​ที่​ข้า​เคย​พูด​เอาไว้​ก่อนหน้านี้​ พวก​วิญญาณ​ที่​ถือกำเนิด​ขึ้น​ใน​ช่วง​ร้อย​ปี​ที่ผ่านมา​นั้น​ไม่รู้​อะไร​เลย​แม้แต่​นิดเดียว​”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด