เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]บทที่ 842 ดูดดื่มเต็มแรง

Now you are reading เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] Chapter บทที่ 842 ดูดดื่มเต็มแรง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 842 ดูดดื่มเต็มแรง

บทที่ 842 ดูดดื่มเต็มแรง

ซูอันยังไม่คิดจะยอมแพ้ เขาเกลี้ยกล่อมอีกฝ่ายแทน “ถ้าเราไม่ลากเจ้าออกจากมิติลับ เจ้าอาจถูกผู้แนะเต๋าของนิกายตะวันตกฆ่าไปแล้ว เจ้าควรจะขอบคุณพวกเรามากกว่าไม่ใช่เหรอ?”

เพ่ยเหมียนหมานยังอยู่ในอาการงุนงง นางไม่รู้ว่าซูอันและแม่ชียุงกำลังคุยเรื่องอะไรกัน

แม่ชียุงรู้สึกประหลาดใจ “เจ้ารู้เรื่องผู้แนะเต๋าได้อย่างไร?”

ซูอันก็ตกใจไม่แพ้กัน มีผู้แนะเต๋าอยู่จริง ๆ! “ตอนนี้ระดับการบ่มเพาะของเจ้าอยู่ที่เท่าไร?” เขาถามอย่างรวดเร็ว

บางทีอาจเป็นเพราะเขาดูเหมือนจะรู้จักเกี่ยวกับโลกที่นางเคยถูกส่งไป แม่ชียุงจึงยอมพูดจาด้วย “พูดตามตรง ข้าควรจะขอบคุณเจ้า มิติลับนี้ได้ให้ผลประโยชน์มากมายแก่ข้า นอกจากประโยชน์ในเรื่องความแข็งแกร่งที่เพิ่มพูนแล้ว ข้ายังได้มีประสบการณ์ท่องไปในอีกโลกที่แตกต่างจากโลกกันดารนี้อย่างสิ้นเชิง ข้าได้รู้ว่าผู้บ่มเพาะสามารถกลายเป็นเซียนอมตะได้จริง! ตอนนี้ในมุมของข้า เหล่าผู้บ่มเพาะของโลกนี้มันไม่ต่างอะไรจากกบผู้โง่เขลาที่นั่งอยู่ก้นบ่อ”

นางพูดทั้งหมดนี้ด้วยน้ำเสียงเนิบช้า ฟังดูเหมือนบัญฑิตคงแก่เรียนที่มีชื่อเสียง เป็นเรื่องง่ายที่จะจินตนาการว่าหลังจากช่วงเวลาแห่งความพยายาม นางก็จะกลายเป็นหนึ่งในผู้บ่มเพาะอันดับต้น ๆ ของโลกอย่างแน่นอน

ซูอันสาปแช่ง เจ้าคือตัวเอกหรือข้ากันแน่! ถ้าข้าถูกส่งไปที่โลกที่เจ้าไป ข้าก็คงได้สมบัติล้ำค่ามาครอบครองเช่นกัน…!

อย่างไรก็ตาม ชายหนุ่มก็ไม่ได้มั่นใจในเรื่องราวของนางอย่างเต็มที่ โลกของแม่ชียุงอาจไม่มีอยู่จริง แม้อู่เกิงคือผู้สร้างเมืองอินซวีด้วยตัวเองทั้งหมด หรือต่อให้จักรพรรดิซางองค์สุดท้ายนี้จะทรงอิทธิฤทธิ์มาก แต่ก็คงไม่มากพอที่จะสร้างโลกตามแบบเรื่อง ‘เทพประยุทธ์พิชิตฟ้า’

หรือต่อให้อู่เกิงมีความสามารถมากจนสร้างโลกจำลองแบบนั้นขึ้นมาได้จริง ว่าแต่อู่เกิงรู้จัก ‘เทพประยุทธ์พิชิตฟ้า’ ได้อย่างไร? เขาเคยดูหนังหรืออ่านวรรณกรรมเรื่องนี้เหรอ? หรือว่าจริง ๆ แล้ว ‘เทพประยุทธ์พิชิตฟ้า’ คือโลกที่มีอยู่จริงและอู่เกิงเคยเห็นมาก่อน เขาจึงสร้างเลียนแบบ?

แม่ชียุงกล่าวต่อว่า “สิ่งที่เจ้าพูดก็ถูกเช่นกัน ถ้าเจ้าไม่ดึงข้าออกมา ข้าอาจตายอยู่ในนั้น…”

นางหน้าแดง นางถูกผู้แนะเต๋าจับกุมไม่นานหลังจากที่นางเข้าสู่โลกมิติลับนั้น และนางก็ถูกคุมขังเป็นเวลานาน ต่อมานางก็สามารถหลบหนีออกมาได้และพยายามดูดซับดอกบัวทองคำสิบสองช่อชั้นต่อไป

อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้นนางสามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของผู้แนะเต๋าที่เริ่มใกล้เข้ามา นางตัดสินใจเสี่ยงดูดซับดอกบัวทองคำนั้นต่อไปแม้ว่านางรู้ว่าผู้แนะเต๋าจะฆ่านางเพื่อแก้แค้น

ซูอันพยักหน้า “แน่นอนว่าข้าได้ช่วยเหลือเจ้าและเจ้าเป็นหนี้บุญคุณข้า ทว่าข้าจะไม่ขอสิ่งใดตอบแทนจากเจ้า นอกจากขอให้เราต่างแยกย้ายกันไปแต่โดยดี แล้วพบกันใหม่หากโชคชะตาจะนำพา”

เขากำลังจะพาเพ่ยเหมียนหมานจากไป แต่แล้วแม่ชียุงพุ่งเข้ามาขวางทางพวกเขาไว้ “เจ้าต้องการที่จะจากไปอย่างนั้นเหรอ? ฝันไปเถอะ! มอบวิชาวัฏจักรหงส์อมตะมา แล้วข้าจะพิจารณาให้เจ้าสองคนตายอย่างสบาย ๆ!”

ซูอันพูดไม่ออก “เจ้าเคยสัมผัสโลกของเหล่าเทพและพระยูไล ได้ดูดซับบัวทองคำสิบสองช่อชั้น แต่เจ้ายังต้องการวิชาที่ไม่อาจให้ความเป็นอมตะแก่เจ้าได้ด้วยซ้ำ? เจ้าล้อข้าเล่นหรือเปล่า?”

แม่ชียุงรู้สึกอับอายเช่นกัน นางพ่นลมหายใจและพูดว่า “เป็นเพราะประสบการณ์ของข้าในโลกนั้นทำให้ข้าปรารถนาความเป็นอมตะมากขึ้น! ถ้าข้าสามารถดูดซับบัวทองคำทั้งสิบสองชั้นได้อย่างสมบูรณ์ ข้าอาจไม่ต้องการวิชาวัฏจักรหงส์อมตะของเจ้า น่าเสียดายที่ข้าไม่สามารถทำได้ ดังนั้นเจ้าต้องมอบมันมาให้ข้า!”

เมื่อคำพูดออกจากปากของนาง มือของนางก็เอื้อมมาหาซูอันพยายามจะคว้าเขาไว้ นางรวดเร็วกว่าครั้งล่าสุดที่พวกเขาเผชิญหน้ากันมาก ความแข็งแกร่งของนางเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดหลังจากออกมาจากมิติลับ

แน่นอนว่าระดับการบ่มเพาะของซูอันก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน เขาใช้วิชาร่างก้าวทานตะวันอย่างรวดเร็ว แยกร่างออกเป็นสามร่างและพุ่งหนีไปในทิศทางที่ต่างกัน

แม่ชียุงเย้ยหยัน “ลูกไม้ตื้น ๆ นี่อีกแล้ว!”

แสงสีทองปรากฏขึ้นในดวงตาของนาง

“ข้าพบเจ้าแล้ว!

นางไม่สนใจร่างเงา และพุ่งตรงไปที่ร่างจริงของเขา

ซูอันตอบสนองอย่างรวดเร็วโดยยกกระบี่ไท่เอ๋อร์ป้องกันการโจมตีของนาง

แม่ชียุงจ้องมาที่กระบี่ไท่เอ๋อร์ “กระบี่ของเจ้าเป็นกระบี่ดีนี่ ถ้าเจ้าไม่ว่าอะไร ข้าจะขอรับมันไปหลังจากที่เจ้าตายไปแล้ว!”

หลังจากเผชิญหน้ากันมาหลายครั้ง นางชื่นชมความทนทานและความคมของกระบี่ไท่เอ๋อร์เป็นอย่างมาก

นางมั่นใจว่าสามารถจัดการซูอันลงได้ภายในสามกระบวนท่า เนื่องจากความสามารถที่เพิ่มพูนขึ้นระหว่างที่นางอยู่ในมิติลับ

ทันใดนั้น จู่ ๆ กุหลาบสีดำดอกมหึมาก็ผลิบานคั่นกลางระหว่างพวกเขา แม่ชียุงขมวดคิ้ว นางสัมผัสได้ถึงพลังทำลายล้างของเปลวไฟสีดำที่ลุกโหมรอบดอกกุหลาบและระมัดระวังไม่ให้สัมผัสไปถูกมันเข้า

นางยกฝ่ามือขึ้นซัด ส่งผลให้ดอกกุหลาบสีดำแตกสลายเป็นชิ้น ๆ

นางมองไปที่เพ่ยเหมียนหมาน “ความแข็งแกร่งของเจ้ากับข้ามันยังห่างไกลเกินกว่าที่เจ้าจะทำอะไรข้าได้”

ขณะที่พูด ดวงตาของนางจับจ้องไปที่หน้าอกของเพ่ยเหมียนหมานโดยไม่รู้ตัวเป็นเวลาสองสามวินาที แรงปะทะจากฝ่ามือของนางทำให้เพ่ยเหมียนหมานล่าถอยออกไปหลายก้าว หน้าอกของเพ่ยเหมียนหมานกระเพื่อมตามจังหวะของแต่ละก้าวถอยอย่างน่ามอง

แม่ชียุงมองสลับกลับมาที่หน้าอกของนาง แววตาขุ่นเคืองปรากฏขึ้น

ฮึ่ม! รอก่อนเถอะ! ข้าจะดูดนมแกให้แบนเลย!

เพ่ยเหมียนหมานยังคงความสงบของนางไว้ “อย่างนั้นเหรอ?”

รูปปั้นนกฮูกตัวเล็กปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของนางแล้วเริ่มขยายใหญ่อย่างรวดเร็ว

นกฮูกตัวใหญ่บินโฉบไปรอบ ๆ ปกคลุมไปทั่วบริเวณด้วยความมืดมิด

ความมืดนี้แปลกมาก โดยทั่วไปแล้วผู้บ่มเพาะยังคงสามารถมองเห็นได้แม้ในเวลากลางคืน อย่างไรก็ตามความมืดนี้ดูเหมือนจะกลืนกินแสงสว่างทั้งหมด และแม้แต่ผู้บ่มเพาะก็ไม่ต่างอะไรกับคนตาบอด…

ซูอันตระหนักว่าเกิดอะไรขึ้น เพ่ยเหมียนหมานเคยอธิบายว่าสิ่งนี้เป็นหนึ่งในความสามารถของรูปปั้นนกฮูกซึ่งสามารถสร้างเขตแดนแห่งความมืดได้ ไม่มีใครสามารถมองเห็นได้ภายในเขตแดนนี้ แต่สำหรับเพ่ยเหมียนหมานจะมองเห็นทุกอย่างได้ชัดเจนไม่ต่างจากเวลากลางวัน

เขารีบหลบไปด้านข้างเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีจากแม่ชียุง โดยคาดเดาการเคลื่อนไหวจากตำแหน่งสุดท้ายของนาง เขาไม่สามารถทำอะไรได้มากไปกว่าการวางใจเพ่ยเหมียนหมานในตอนนี้

ทันใดนั้น เสียงหัวเราะของแม่ชียุงก็ดังก้องไปทั่วความมืด “ฮ่า ๆๆๆ! สาวน้อย เจ้านี่มันโตแต่หน้าอกจริง ๆ! เจ้าลืมไปหรืออย่างไรว่ายุงจะแกร่งขึ้นในเวลากลางคืน?”

ทันทีที่คำพูดออกจากปากของนาง เพ่ยเหมียนหมานก็ส่งเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดและความมืดก็ค่อย ๆ หายไป

ซูอันรู้ว่าสิ่งต่าง ๆ ได้เปลี่ยนไปในทางที่แย่ลง เขากำลังจะเคลื่อนไหวแต่กลับรู้สึกว่ามีมือมาจับที่ไหล่ของตัวเอง ตามด้วยเสียงเย้ยของแม่ชียุง “เจ้านี่มันจับตัวยากจริง ๆ เอาเป็นว่าข้าไม่คุยกับเจ้าแล้วจะดีกว่า ข้าจะดูดแก่นแท้โลหิตของเจ้าทั้งหมดแล้วจากนั้นค่อยอ่านความทรงจำของเจ้าเอาทีหลังก็ได้!”

หลังจากพูดจบประโยค ภายในพริบตาแม่ชียุงเปลี่ยนตำแหน่งเป็นยืนอยู่ตรงหน้าซูอัน แนบหน้าอกเข้ามาใกล้ชิดกับเขาราวกับเป็นคนรัก

ริมฝีปากของนางเคลื่อนไปที่คอของเขาคล้ายกำลังเล้าโลม แต่จากนั้นนางกัดคอเขาเต็มแรง!

ซูอันรู้สึกได้ถึงคลื่นของความอ่อนแอแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย ในขณะเดียวกันชายหนุ่มก็สัมผัสได้ว่าแก่นแท้โลหิตของเขากำลังหลั่งไหลออกไปทางปากของนาง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด