เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]บทที่ 92 ข้าได้ลองด้วยตัวเองแล้ว! (ปลาย)

Now you are reading เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] Chapter บทที่ 92 ข้าได้ลองด้วยตัวเองแล้ว! (ปลาย) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 92 ข้าได้ลองด้วยตัวเองแล้ว! (ปลาย)

ผู้คนที่อยู่รอบ ๆ เริ่มตะโกนโห่ไล่เช่นกัน

“ใช่ ไสหัวออกไปจากตระกูลฉู่ซะหากไม่กล้ารับคำท้า!”

“ขยะอย่างเจ้าจะคู่ควรกับคุณหนูใหญ่ตระกูลฉู่ ได้ยังไง!”

“เจ้าไม่ใช่ลูกผู้ชาย!”

“เจ้าไม่ใช่ลูกผู้ชาย!”

“เจ้าไม่ใช่ลูกผู้ชาย!”

ฝูงชนเริ่มตะโกนด่าทุกรูปแบบ แต่เมื่อถึงจุดหนึ่ง ทุกคนก็เริ่มพูดเป็นคำเดียวกัน ราวกับว่าพวกเขาเริ่มเบื่อที่จะคิดคำด่าใหม่ ๆ

ซูอัน อดไม่ได้ที่จะรู้สึกมีความสุขกับสิ่งนี้ นักศึกษาเหล่านี้น่าเอ็นดูจริง ๆ แม้จะไม่รู้จักกัน แต่พวกเขาก็ให้คะแนนความโกรธแก่ข้ามากมายโดยที่ข้าไม่จำเป็นต้องเปลืองแรงยั่วยุอะไรเลย!

“ไอ้พวกน่าขยะแขยง! เขาเป็นผู้ชายมากกว่าพวกเจ้าซะอีก!”

ในตอนนั้นเองที่ร่างสีแดงวิ่งเข้ามายืนปกป้อง ซูอัน จากฝูงชน

ซูอัน รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นว่าคนที่วิ่งมาปกป้องเขานั้นคือ ฉู่ฮวนเจา!

เขาไม่คิดว่านางจะยืนหยัดเพื่อเขาถึงขนาดนี้ ดูเหมือนว่าการยอมโดนเฆี่ยนตีเมื่อวันก่อนจะไม่ได้ไร้ประโยชน์ซะทีเดียว

ผู้คนทั้งหลายต่างก็รู้จัก ฉู่ฮวนเจา เช่นกันเพราะนางเป็นหนึ่งในคนดังของสถาบัน นอกจากเรื่องที่ว่านางคือน้องสาวของ ฉู่ชูเหยียน นางยังอยู่ในอันดับที่เก้าของสิบสุดยอดสาวงามอีกต่างหาก และด้วยเอกลักษณ์ของแส้คร่ำครวญที่นางพกไปด้วยทุกที่ มันคงจะยากที่ใครจะไม่รู้จักนาง

เมื่อเห็น ฉู่ฮวนเจา ก้าวออกมาปกป้อง ซูอัน เย่เฉินเหลียง ขมวดคิ้ว “คุณหนูรองตระกูลฉู่ เป็นเพราะอะไรท่านถึงได้กล้ายืนยันหนักแน่นขนาดนี้

ว่าเขาเป็นลูกผู้ชายกว่าพวกข้าทั้งหมด?”

ฉู่ฮวนเจา เชิดคางขึ้นพร้อมกับตอบกลับด้วยสีหน้าภาคภูมิใจทันที “แน่นอนว่าข้าต้องรู้เพราะข้าลองด้วยตัวเองมาแล้ว!”

คำพูดนี้ทำให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ในหมู่ฝูงชนทันที เว่ยสั่ว

เบิกตากว้างพร้อมกับแอบยกนิ้วให้ ซูอัน

นับจากนี้ข้าจะขอเรียกว่าท่านว่า‘พี่ใหญ่’และขอติดตามท่านตลอดไป ข้าขอเพียงสิ่งเดียวตอบแทนเท่านั้นคือโปรกท่านช่วยสอนวิธีการมัดใจสาวงามให้ข้าด้วย!

แม้แต่ เซี่ยซิว ที่กำลังดูเหตุการณ์อยู่อย่างสนุกสนานก็ยังสำลักเมล็ดแตงโมจนไออย่างรุนแรง

ในเวลานี้ ดวงตาของทุกคนเต็มเปี่ยมไปด้วยความเดือดดาล

“ไอ้ปีศาจร้าย!”

“เจ้ากล้าล่วงเกินเด็กสาวตัวเล็ก ๆ แบบนี้ได้ยังไง!”

“ไอ้คนบ้ากามกินทั้งพี่ทั้งน้อง!!!”

“ข้าเคยได้ยินข่าวลือมาว่าไอ้คนผู้นี้ปีนขึ้นเตียงน้องภรรยาในคืนวันแต่งงานของเขา ที่แท้มันก็เป็นเรื่องจริงเหรอเนี่ย!!”

“ดูสินางดูไม่มีท่าทีโกรธเขาเลยสักนิด ข่าวลือนั่นต้องเป้นเรื่องจริงแน่นอน!”

“ให้ตายสิ ลีลาบนเตียงของไอ้สารเลวนี่มันคงจะต้องเด็ดมากแน่ ๆ

ไม่งั้นพี่น้องตระกูลฉู่จะเสร็จมันแบบนี้ได้ยังไง!!”

“โธ่สวรรค์ทำไมข้าไม่โชคดีแบบนี้บ้าง!”

ซูอัน เกือบจะหัวเราะออกมาดัง ๆ เมื่อเห็นอัตราคะแนนความโกรธที่เพิ่มเข้ามาอย่างทวีคูณ!

ตรงกันข้ามกับเหล่าผู้ชายที่กำลังโกรธเคืองและอิจฉา ผู้หญิงที่อยู่รอบ ๆ เบิกตากว้าง และทัศนคติของพวกเขาที่มีต่อ ซูอัน ก็กลายเป็นเปลี่ยนไป

โดยไม่รู้ตัว

“ผู้ชายที่สามารถเอาชนะคู่พี่น้องตระกูลฉู่ได้พร้อม ๆ กัน ย่อมมีจุดแข็งของตัวเองแน่นอนใช่ไหม?”

“อาจเป็นเพราะหน้าตาดีก็ได้?”

“เจ้าไม่คิดว่าการกระทำของเขาเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจงั้นเหรอ?”

“แต่จะว่าไปแล้วเขาก็หล่อมากจริง ๆ ~”

เมื่อได้ยินเสียงฮือฮาลักษณะนี้ ฉู่ฮวนเจา ก็รู้ตัวว่าคำพูดของนาง

มันทำให้ผู้คนเข้าใจผิดไปกันใหญ่ นางรีบพยายามอธิบายคำพูดของนางทันที “ข้าไม่ได้หมายความแบบนั้น! ข้าหมายถึงว่าก่อนหน้านี้เขาสามารถรับการโจมตีจากแส้คร่ำครวญของข้าได้ถึง 7 ครั้งโดยไม่แม้แต่จะตะโกนร้อง

ออกมาสักครึ่งคำต่างหาก! นั่นคือเหตุผลที่ข้าบอกว่าเขาเป็นลูกผู้ชายมากกว่าใคร ๆ ในพวกเจ้า!”

หลังจากพูดคำที่ต้องการจะพูดจบแล้ว นางก็หันไปหา ซูอัน ด้วยใบหน้าแดงก่ำ “ทั้งหมดเป็นความผิดของเจ้า!”

ท่านยั่วยุ ฉู่ฮวนเจา สำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +33!

รอยยิ้มบนใบหน้าของ ซูอัน นั้นสดใสยิ่งขึ้น

ในทางกลับกัน เย่เฉินเหลียง เยาะเย้ยอย่างเย็นชาเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น “นั่นเป็นไปไม่ได้ ถ้าท่านต้องการจะปกป้องเขาท่านก็ควร

จะหาข้ออ้างที่มันดูน่าเชื่อถือกว่านี้สักหน่อย ใครบ้างที่ไม่รู้ว่า แส้คร่ำครวญ ของท่านมีผลทำให้ความเจ็บปวดที่ได้รับเพิ่มขึ้นอีกถึงสิบเท่า? มันไม่มีทางที่เขาหรือใครคนไหนจะทนได้ถึง 7 ครั้งโดยที่ไม่ร้องสักแอะ!”

“เจ้าคิดว่าข้าโกหกเจ้างั้นเหรอ?” ฉู่ฮวนเจา จ้องมองที่ เย่เฉินเหลียง

เย่เฉินเหลียง พ่นลมหายใจ “ท่านรู้ตัวเองดีว่ากำลังโกหกอยู่รึเปล่า หรือไม่ท่านลองถามฝูงชนดูก็ได้ว่ามีใครเชื่อไหมว่ามันเป็นไปได้?”

“มันเป็นไปไม่ได้แน่นอน พวกเราไม่เชื่อ!”

ผู้คนที่อยู่รอบ ๆ ต่างตอบกลับแทบจะพร้อม ๆ กันซึ่งในนั้นรวมไปถึง เว่ยสั่ว ด้วย

อันที่จริงมีหลายคนในบรรดาคนที่ตอบเคยต้องทนทุกข์ทรมานจากการโดนแส้คร่ำครวญมาแล้ว ซึ่งพวกเขารู้ได้เป็นอย่างดีว่าความเจ็บปวดจากการโดนแส้คร่ำครวญฟาดมันมากมายขนาดไหน ดังนั้นมันจึงไม่มีใครเชื่อว่าจะมีใครสักคนที่สามารถทนรับแส้ได้ถึง 7 ครั้งโดยไม่ส่งเสียงร้อง

ฉู่ฮวนเจา เริ่มหมดความอดทน “ข้าคุณหนูรองแห่งตระกูลฉู่! พวกเจ้าคิดว่าข้าเป็นคนที่ชอบพูดปดเป็นนิสัยรึไง?”

“ใครจะรู้? ครั้งนี้ท่านอาจยอมโกหกเพื่อปกป้องเขาก็ได้ใครจะรู้?

ไม่มีทางที่พวกเราจะเชื่อคำพูดของท่านเว้นแต่…” เย่เฉินเหลียง หันไปมอง

ซูอัน ด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “เว้นแต่ท่านจะพิสูจน์ให้เราเห็นกับตาตอนนี้ โดยการลงแส้เขาต่อหน้าพวกเรา!”

“ได้!” ฉู่ฮวนเจา ตะโกนกลับจากนั้นนางดึงแส้ที่เหน็บอยู่ตรงเอวของนางออกมาและเริ่มเดินไปหา ซูอัน

ซูอัน สะดุ้งด้วยความตกใจ เป็นเรื่องปกติที่คนหน้าอกใหญ่มักจะมีสมองเล็ก แต่เด็กสาวคนนี้ไม่มีหน้าอกเลย ไหงนางกลายเป็นคนโง่ขนาดนี้ไปได้?

“ใจเย็น ๆ เดี๋ยวก่อน!” ซูอัน รีบพูดปรามนางทันที เขาไม่ยอมโดนนางลงแส้แบบนี้แน่นอนและเขาจะไม่ยอมใช้ เส้นใยสุขสันต์ ที่เหลืออยู่อีกเพียงแค่ครั้งเดียวกับการโดนลงแส้โง่ ๆ แบบนี้เช่นกัน

“ทั้งหมดเป็นมันเพราะเจ้า ไม่งั้นข้าคงไม่ต้องมายืนอับอายต่อหน้าผู้คนมากมายแบบนี้ มา! มาให้ข้าฟาดเจ้าด้วยแส้ของข้าสักครั้งเพื่อแสดงให้ทุกคนเห็นว่าข้าไม่ได้โกหก!” ฉู่ฮวนเจา ตะโกนขึ้นด้วยสีหน้าไม่ยินยอม

ซูอัน ส่ายหัวและพูดขึ้นอย่างรวดเร็วว่า “นี่เจ้าไม่รู้สึกว่าตัวโง่เง่าบ้างเหรอที่ยอมให้ใครที่ไหนก็ไม่รู้มาบงการให้เจ้าทำนู่นทำนี่ตามใจของพวกเขา? นี่มันเกือบจะเหมือนว่าพวกเขาปฏิบัติต่อเจ้าไม่ต่างอะไรกับข้ารับใช้!”

“เอ่อ…เจ้าพูดถูกเหมือนกันแหะ” ฉู่ฮวนเจา พยักหน้าเห็นด้วย “ถ้างั้นข้าควรทำยังไงดี?”

ซูอัน หัวเราะและตอบกลับ “เจ้าจะไปใส่ใจกับพวกนี้ไปทำไม? แม้แต่ข้าเองยังไม่เสียเวลารับท้าการประลองของไอ้ปัญญาอ่อนนั่นเลย ไม่แน่ใจว่าเจ้าเคยได้ยินคำพูดนี้ไหมที่พูดว่า ‘อย่าปล่อยให้คนปัญญาอ่อนดึงเจ้าลงไปอยู่ระดับกับเขา’?

“เจ้าหมายถึงใครที่เป็นคนปัญญาอ่อน?” เย่เฉินเหลียง กลับมาโมโห

อยู่ในระดับเดิมอีกแล้วแค่เพียงฟังซูอันพูดเพียงประโยคเดียว

“ใครถามคนนั้นก็น่าจะเป็นนั่นแหละ!” ซูอัน ยักไหล่ขณะที่เขาตอบ

เย่เฉินเหลียง ด้วยสีหน้าเห็นอกเห็นใจ

ท่านยั่วยุ เย่เฉินเหลียง สำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +99!

“ตอนนี้ข้าเข้าใจแล้วที่ผู้คนเคยบอกกันว่า น้องภรรยานั้นคือรักแท้

นับจากต่อไปข้าคงจะต้องแต่งงานกับหญิงสาวที่มีน้องสาวเท่านั้น เอ๊ะไม่สิ ๆ มันก็ยังไม่แน่นอนอีกว่าครอบครัวภรรยาของข้าจะใจกว้างเหมือนกับตระกูลฉู่ หรือเปล่าที่เสนอลูกสาวทั้งสองคนให้กับลูกเขยแค่คนเดียว!” เย่เฉินเหลียง

เริ่มโต้กลับ

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *