เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]บทที่ 681 แกมองอะไร

Now you are reading เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] Chapter บทที่ 681 แกมองอะไร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 681 แกมองอะไร?

บทที่ 681 แกมองอะไร?

จังหวะลงมือของนักฆ่านั้นแม่นยำอย่างยิ่ง อวิ๋นอวี้ชิงอยู่ในช่วงที่ทั้งร่างกายและจิตใจของนางได้ผสานแนบแน่นกับซูอันอย่างสมบูรณ์ ในหัวของนางกำลังว่างเปล่า

ดังนั้นเมื่อสัมผัสได้ถึงภัยอันตรายถึงตายที่ใกล้เข้ามา ร่างกายของนางจึงสั่นสะท้าน แต่กลับไม่อาจตอบสนองได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นักฆ่ารู้ว่านางเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะจัดการกับนางก่อน เขามั่นใจว่าหากเป็นการลอบโจมตีเช่นนี้ พลังกระบี่ของเขานั้นเพียงพอแล้วที่จะเสียบทะลุร่างกายของอีกฝ่าย

เมื่อหันหลังให้กับนักฆ่า อวิ๋นอวี้ชิงก็ไร้อำนาจอย่างสมบูรณ์ อย่างไรก็ตามซูอันมองเห็นทุกสิ่งอย่างชัดเจน

เขาเปลี่ยนตำแหน่งกับนางทันทีโดยใช้หลังของเขารับกระบี่ของนักฆ่าแทน

อึก!

กระบี่แทงทะลุทะลวงร่างกายของเขาต่อไปจนถึงร่างของอวิ๋นอวี้ชิง

ใบหน้าขาวราวกับหิมะของนางเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดในทันที แม้ว่าจะยังไม่ชัดเจนว่าเป็นเลือดของซูอันหรือของนางก็ตาม

นักฆ่าตกตะลึง ร่างกายของซูอันแข็งแกร่งเกินความคาดหมายของเขามาก!

เขาวางแผนที่จะฆ่าทั้งสองคนพร้อมกันภายใต้การแทงเพียงครั้งเดียว แต่แรงกระบี่ของเขากลับเพียงพอที่จะเจาะร่างกายของซูอันแค่เท่านั้น

ในที่สุดอวิ๋นอวี้ชิงก็สามารถตอบสนองต่อสิ่งที่เกิดขึ้นได้ นางซัดฝ่ามือใส่ร่างกายของผู้โจมตีอย่างสุดแรง

ระดับการบ่มเพาะของนางทำให้นักฆ่าประหลาดใจ เขากระโดดถอยหลังอย่างรวดเร็วเพื่อหลบเลี่ยงการโจมตีที่รุนแรงนี้

อวิ๋นอวี้ชิงรีบโบกมือไปทางด้านที่เสื้อผ้าของนางวางกองระเกะระกะ ก่อนที่เสื้อผ้าเหล่านั้นจะลอยมาปดปิดร่างกายของนางอย่างน่าอัศจรรย์ ทว่าการเคลื่อนไหวอย่างฉับพลันของนางเมื่อครู่ได้ทำให้จุดนั้นของนางที่ยังคงผสานกับซูอันอยู่บังเกิดความรู้สึกมากขึ้นกว่าเดิมจนนางต้องกัดริมฝีปากเพื่อข่มไม่ให้ส่งเสียงที่น่าอายออกไป

นักฆ่าไม่โจมตีอีกต่อไป เขาถอยไปตั้งหลัก ขณะนี้เขาเข้าใจแล้วว่าพระชายาอู๋แข็งแกร่งเพียงใดจากการโจมตีเมื่อครู่ และไม่กล้าที่จะประมาทอีก

เขามองขาและแขนเรียวยาวที่ขาวผ่องราวหิมะของนาง ซึ่งยังคงเปิดเผยต่อสายตาแม้ว่านางจะรีบเร่งแต่งตัวใหม่ ฉากสวยงามที่เห็นเมื่อครู่นี้ปรากฏขึ้นอีกครั้งในหัวของเขา แม้ว่ามือสังหารจะมองเห็นเพียงด้านหลังของนางเท่านั้น เนื่องจากนางกำลังโอบกอดกับซูอัน แต่กระนั้นภาพดังกล่าวก็เพียงพอที่จะทำให้เลือดลมของเขาสูบฉีด

“ภูตดำ! ใครส่งเจ้ามา!” อวิ๋นอวี้ชิงสังเกตเห็นลักษณะของนักฆ่าและรู้ว่าอีกฝ่ายคือเผ่าพันธุ์ใด นางจ้องมองเขาอย่างเย็นชา แต่เพราะนางยังเชื่อมต่อกับซูอันอย่างแนบแน่นและยังไม่ฟื้นจากสิ่งที่ทำอยู่ก่อนหน้านี้ เสียงของนางจึงออกมาแปลก ๆ เล็กน้อย

นักฆ่าเพิกเฉยต่อคำถามของนาง แต่เสียงของเขากลับกลายเป็นเยาะเย้ย “คนทั้งโลกยกย่องพระชายาอู๋ว่าสวยราวกับเทพธิดาและมีกิริยาอันแสนบริสุทธิ์ ดูเหมือนว่าความงามของเจ้านั้นราวกับเทพธิดาจริง ๆ แต่สำหรับความบริสุทธิ์นั้น…”

เขาหยุดอย่างจงใจ ดวงตาของเขากวาดไปทั่วทั้งสอง เขาเดาะลิ้นของเขา “จิ๊ ๆ ในที่สาธารณะเจ้าทำตัวเยี่ยงผู้สูงศักดิ์ แต่พออยู่ในรโหฐานกลับทำตัวไม่ต่างจากหญิงขายตัว แต่ก็เอาเถอะ ข้าไม่สามารถตำหนิเจ้าได้ ร่างกายชายผู้นี้ค่อนข้างแข็งทน แม้แต่กระบี่ของข้าก็แทบจะไม่ทะลุผ่านเขาเลย ดังนั้นส่วนอื่น ๆ ของเขาก็คงแข็งมากเช่นกัน ไม่น่าแปลกใจที่พระชายาอู๋ตกอยู่ในภวังค์เช่นนี้!”

“ไร้ยางอาย!” อวิ๋นอวี้ชิงระเบิดอารมณ์โกรธ นางลุกขึ้นโจมตีเขาตามสัญชาตญาณ แต่ร่างกายของนางก็สั่นสะท้านทันทีที่เคลื่อนไหว นางขมวดคิ้วแน่น แล้วก็กลับไปนั่งลงตามเดิม

นักฆ่าสบโอกาสในทันที ร่างกายของเขาจางหายไปอย่างรวดเร็ว ทั้งสองมองไม่เห็นเขาอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม เสียงหัวเราะไร้ยางอายของเขาก้องไปทั่วห้อง “ฮ่า ๆ! ทำแบบนี้ลับหลังสามี…ข้าเป็นคนไร้ยางอายหรือเจ้ากันแน่!”

เขาพยายามยั่วยุนางด้วยคำพูดเหล่านี้

น่าเสียดายที่อวิ๋นอวี้ชิงได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยจากถ้อยคำนี้ นางไม่ได้ทำอย่างนี้ลับหลังสามีของนาง เขาเป็นคนที่บังคับให้นางทำ นี่คือเหตุผลที่นางไม่รู้สึกผิดแม้แต่น้อย

ทันใดนั้น ห้องก็ฟุ้งไปด้วยหมอกควันสีม่วง และดวงตาคู่สวยขนาดยักษ์ก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศ แม้ว่าจะเลือนหายไปแล้วในวินาทีที่แล้ว แต่ตอนนี้ภูตดำไม่มีทางหนีพ้นเมื่อเผชิญหน้ากับโลกสีม่วงนี้ เขากรีดร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว “เนตรปีศาจ!”

ภูตดำตอบสนองอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยการหลับตาลงทันที แต่ก็ยังสายเกินไป เขาถูกเนตรปีศาจจับตัวไว้ได้ และตัวนิ่งทื่อ

ลำแสงสีม่วงพุ่งตรงมา ขนทั้งร่างกายของเขาลุกขึ้นชูชัน เนื่องจากสัมผัสได้ถึงภัยคุกคามร้ายแรงถึงชีวิต

ไม่มีประโยชน์ที่จะรั้งรอต่อไป เงาสีดำจำนวนมากแผ่ออกจากร่างกายของเขา และสามารถกำจัดการควบคุมของทักษะเนตรปีศาจได้ในวินาทีสุดท้าย ชายหนุ่มหลบเลี่ยงการโจมตีในทันที

ทว่าเขาก็ยังไม่สามารถหลบเลี่ยงการโจมตีได้อย่างสมบูรณ์ ร่างของเขาถูกแสงสีม่วงพุ่งเข้าใส่ ซึ่งบาดร่างกายของเขาจนโลหิตไหลพุ่งออกมา

ภูตดำตกใจกลัว แม้ว่าพระชายาอู๋จะดูบอบบางและอ่อนแอ แต่แท้จริงนางแข็งแกร่งกว่าที่เขาคิดไว้มาก เขาไม่กล้าอยู่ที่นี่อีกต่อไป เขาจึงรีบโคจรพลังของตนเองก่อนจะเรียกหลุมดำขึ้นมาอีกครั้งแล้วกระโดดเข้าไป

แม้ว่าการลอบสังหารของเขาจะล้มเหลว แต่ก็ได้รู้เรื่องราวอื้อฉาวอันใหญ่หลวงของพระชายาอู๋แล้ว เช่นเดียวกับข้อเท็จจริงที่ว่านางมาจากเผ่าปีศาจ ข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลที่จะก่อให้เกิดประโยชน์มากมายแก่ผู้ที่สนับสนุนเขา

อวิ๋นอวี้ชิงรู้เรื่องนี้เช่นกัน ไม่มีทางที่นางจะปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้น ดังนั้นการโจมตีครั้งที่แล้วซึ่งพลาดไปจึงเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าอย่างรุนแรง

อย่างไรก็ตาม นางไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะหลบเลี่ยงการโจมตีถึงตายของนางได้ ภูตดำนักฆ่าได้หลบหนีเข้าไปในหลุมดำแล้ว เหตุผลที่ภูตดำมีความสามารถในการลอบสังหารได้ดี ก็เนื่องมาจากทักษะลับนี้ พวกเขาสามารถมาและไปโดยไม่ทิ้งร่องรอยใด ๆ

ร่างกายส่วนใหญ่ของภูตดำได้เข้าสู่ประตูมิติแล้ว ตอนนี้ไม่มีทางหยุดเขาได้

ใบหน้าของนางซีดเผือดเมื่อนางจินตนาการว่าภูตดำจะกระจายข่าวเกี่ยวกับทุกสิ่งที่เห็นในวันนี้อย่างไรบ้าง

ก่อนจะเข้าไปในประตูมิติ ภูตดำคนนั้นก็หันมามองนาง ความงามของอวิ๋นอวี้ชิงทำให้เขาประทับใจมาก แค่คิดถึงร่างครึ่งเปลือยของนางก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงอีกครั้ง เขาต้องการเหลือบดูเป็นครั้งสุดท้าย เพราะรู้ว่าเขาจะไม่มีโอกาสอีกแล้ว

ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงหงุดหงิดหนึ่งดังขึ้น “แกมองอะไร?”

เขารู้ว่าตัวเองไม่ควรหยุด เขาไม่ควรเสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียว แต่แรงกระตุ้นที่ไม่อาจต้านทานได้กลับเพิ่มพูนขึ้นภายในตัวเขา เขารู้สึกราวกับว่าเขาต้องตอบคำถามนี้ให้ได้ ไม่เช่นนั้นการดำรงอยู่ทั้งหมดของเขาจะพังทลาย!

ดังนั้นเขาจึงหันกลับมาและตะคอกกลับ “ข้ากำลังมองแกไง ไอ้โง่!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด