เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 1733 บิดากวนรอเจ้านานแล้ว / 1734 ประกายดาบเงากระบี่ฟันร่างผู้แข็งแกร่ง

Now you are reading เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า Chapter 1733 บิดากวนรอเจ้านานแล้ว / 1734 ประกายดาบเงากระบี่ฟันร่างผู้แข็งแกร่ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1733 บิดากวนรอเจ้านานแล้ว / ตอนที่ 1734 ประกายดาบเงากระบี่ฟันร่างผู้แข็งแกร่ง

ตอนที่ 1733 บิดากวนรอเจ้านานแล้ว

“ซี๊ด! อ๊าก!”

เสียงกรีดร้องอย่างโหยหวนดังขึ้น ได้ยินเสียงคนล้มรางๆ ทว่า การต่อสู้ยังไม่จบ องครักษ์เฟิ่งคนอื่นอยู่รอบๆ ไม่ผ่อนการเฝ้าระวัง พวกเขารู้ว่าเหตุผลที่หัวหน้าไม่ให้พวกเขาลงมือ แต่เลือกที่จะลงมือด้วยตนเองก็เพราะต้องการลดอัตราการตายของพวกเขา เพราะอย่างไรพลังของพวกเขาสู้กับผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังนั้นได้ แต่สู้กับผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณกลับยังถือว่าอ่อนแอไป

การฝึกฝนในครึ่งปีที่ผ่านมา ทำให้พลังของพวกหลัวอวี่พัฒนาขึ้นมาก กระทั่งไม่กลัวที่จะต้องสู้กับผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณอีกแล้ว รวมตู้ฝานด้วย ทั้งห้าคนรวมพลังกัน ศัตรูสองคนที่เหลือถูกสังหารอย่างรวดเร็ว

เพียงแต่ แม้จะเป็นอย่างนั้น พวกเขาก็ยังได้รับบาดเจ็บบ้าง ถึงไม่ได้ร้ายแรง แต่หลังจบการสู้ ลมปราณก็แปรปรวนอยู่บ้าง

“ถอย!” ภายใต้คำสั่ง องครักษ์เฟิ่งรีบถอยกลับ แล้วรีบมุ่งหน้าไปช่วยอีกฝั่ง

หลังจากที่พวกเขาจากไปเป็นเวลาประมาณครึ่งก้านธูป อาวุโสเหยียนมาถึงที่นี่ เห็นศพบนพื้น สีหน้าเคร่งเครียดทันที กำหมัดแน่น เส้นเอ็นนูนชัด!

“องครักษ์เฟิ่ง! พวกองครักษ์เฟิ่งตัวดี! มีกันเพียงไม่กี่สิบคน กลับกล้าต่อกรกับคนนับร้อยของข้า! ข้าอยากรู้นัก เจอกับผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหินเช่นข้าแล้ว พวกเจ้าจะยังยืดอกอย่างไร้ความเกรงกลัวได้อีกหรือไม่! เหอะ!”

เขาแค่นเสียงแล้วสะบัดมือ รวบรวมพลังลอยตัวขึ้น ครั้นอยู่เหนืออากาศ ก็เห็นว่าด้านล่างถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควัน การมองเห็นไม่ค่อยชัดเจน มีเพียงต้องใช้ดวงจิตกวาดสำรวจเท่านั้น จึงจะมองเห็นทุกอย่างเบื้องล่าง

เขาใช้ดวงจิตกวาดสำรวจไปที่อีกฝั่งหนึ่ง ก็เห็นว่าฝั่งนั้นกำลังสู้กัน ทั้งยังมีเสียงของสัตว์ร้ายดังมาด้วย คิดดูแล้ว ต้องเป็นพวกนั้นพาสัตว์คู่พันธสัญญามาด้วยแน่ๆ

ด้วยเหตุนี้ เขารีบลงไปข้างล่าง คนยังไม่ถึง แรงกดดันก็ปกคลุมลงไปก่อน “เจ้าแซ่กวนอยู่ที่ใด! แน่จริงก็ออกมาสู้กับข้า!”

เสียงที่แฝงไว้ด้วยแรงกดดันดังลงไปเบื้องล่าง กระจายไปทั่วภูเขาทั้งลูก แรงกดดันของผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหินแผ่กระจายลงไป ทำให้กลุ่มคนที่อยู่ข้างล่างลมปราณแปรปรวน

“ฮ่าๆๆๆ! ตาแก่เอ๋ย! บิดากวนของเจ้ารออยู่นานแล้ว!”

ท่ามกลางหมอกควัน ไม่เห็นตัวคน ทว่าเสียงหัวเราะกลับดังก้องไปทั่วบริเวณ เสียงหัวเราะสะเทือนแก้วหูนั้นแฝงไว้ด้วยกลิ่นอายพลังเร้นลับอันแข็งแกร่ง ไม่ได้ด้อยไปกว่าอาวุโสเหยียนเลย

ตอนที่สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังเร้นลับอันแข็งแกร่งขุมนั้น อาวุโสเหยียนสะท้านไปทั้งใจ เบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ จ้องชายหนุ่มร่างกายกำยำล่ำสันที่ยืนผึ่งผายอยู่กลางอากาศ “จะ เจ้าเป็นเทพนักรบงั้นหรือ!”

ผู้ฝึกพลังเร้นลับฝึกตนเองจนถึงระดับเทพนักรบ แม้จะเป็นในแปดจักรวรรดิใหญ่ก็ยังพบเจอได้น้อยมาก แต่คนคนนี้ ได้ยินมาว่าเป็นคนจากแคว้นระดับล่าง แล้วเขาฝึกตนจนถึงระดับเทพนักรบได้อย่างไรกัน?

ความตกตะลึงพรึงเพริดในใจปะทะกัน รู้สึกเพียงคลื่นพายุลูกใหญ่ซัดสาดในใจเขา เขาที่ตอนแรกยังพูดด้วยความมั่นใจว่าจะบั่นหัวศัตรูไปถวายผู้ครองแคว้น ยามนี้กลับอดรู้สึกตึงเครียดไม่ได้

เทพนักรบ! เขาอยู่มาจนอายุปูนนี้แล้ว ยังไม่เคยสู้กับเทพนักรบสักครั้ง เพราะเดิมทีผู้ฝึกพลังเร้นลับก็มีพัฒนาการช้าอยู่แล้ว หากต้องการฝึกจนถึงระดับเทพนักรบ เช่นนั้นก็ต้องเป็นตัวประหลาดที่มีอายุหลายร้อยปีจึงจะเป็นไปได้

ทว่า ชายที่ชื่อกวนสีหลิ่นนี่ เหมือนจะอายุเพียงยี่สิบกว่าปีเท่านั้น อายุน้อยขนาดนี้ก็กลายเป็นเทพนักรบแล้ว แล้วเขาจะไม่ตะลึงได้อย่างไรกัน?

นาทีนี้ เขาเริ่มลังเล และเริ่มขาดความมั่นใจ

เขาเป็นเซียนเหิน คงต่อกรกับเทพนักรบได้อยู่กระมัง? ผู้ฝึกพลังเร้นลับนั้นฝึกทักษะวรยุทธ์และพละกำลัง แต่เขากลับฝึกพลังวิญญาณและธาตุทั้งห้า นี่หากสู้กันขึ้นมาจริงๆ ใครจะเป็นผู้ชนะกัน?

………………………………….

ตอนที่ 1734 ประกายดาบเงากระบี่ฟันร่างผู้แข็งแกร่ง

ในขณะที่อาวุโสเหยียนกำลังตกตะลึงกับระดับวรยุทธ์ของกวนสีหลิ่น เห็นเพียงกวนสีหลิ่นที่ลอยตัวอยู่กลางอากาศถือดาบเล่มใหญ่ตวัดฟัน เอากลิ่นอายพลังเร้นลับอันแข็งแกร่งจู่โจมเข้ามาอย่างรวดเร็วจนแทบไม่ทันตั้งตัว ดาบเล่มใหญ่อันคมกริบและเยือกเย็นฟันผ่านอากาศ เสียงกระแสพลังดังสวบสาบตามมา ไปถึงที่ใด ดาบลมน่าพรั่นพรึงดุจเสียงร้องของวิญญาณ

เพียงพริบตาเดียว ก็เห็นดาบเล่มนั้นฟาดฟันเข้ามาที่เขาพร้อมกับไอสังหารอันน่าหวาดเกรง อาวุโสเหยียนรีบดึงสติแล้วหลบการโจมตีของเขา ขณะเดียวก็สะบัดแขนเสื้อ กลิ่นอายพลังวิญญาณที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าขุมหนึ่งพุ่งออกจากแขนเสื้อ รุนแรงเกรี้ยวกราดดุจคมดาบรูปจันทร์เสี้ยว

“ชิ้ง!”

กระแสพลังวิญญาณฟาดฟันผ่านอากาศพุ่งไปทางกวนสีหลิ่น กวนสีหลิ่นยกดาบเล่มใหญ่ในมือขึ้นต้านรับ พลังดาบของเขาปะทะกับกระแสพลังขุมนั้นแล้วสลายหายไป ทั้งสองผลัดรับผลัดสู้ ดูเหมือนจะสูสีกัน ทว่า หลังจากสู้กันนานไป กลิ่นอายพลังวิญญาณของอาวุโสเหยียนถูกใช้ไปมาก ลมปราณของเขาเริ่มไม่มั่นคง ความเร็วในการโจมตีก็เริ่มช้าลงอย่างไม่รู้ตัว

เมื่อสังเกตเห็น กวนสีหลิ่นแค่นเสียง เขาพุ่งเข้าไปอย่างดุดันราวกับราชสีห์วิ่งลงจากเขา ดาบใหญ่ในมือเงื้อฟันลงไป พร้อมกับเสียงคำรามอันเกรี้ยวกราด

“ตาแก่ วันนี้ชีวิตของเจ้าต้องเป็นของข้า!”

เสียงสะเทือนแก้วหูแฝงไว้ด้วยพละกำลังดังก้อง อาวุโสเหยียนรู้สึกเพียงแก้วหูสั่นสะเทือน เลือดลมในร่างป่วนพล่าน เลือดตีขึ้นลำคอใกล้จะกระอักออกมา แต่เขากลับฝืนกลืนมันลงไป

เห็นกวนสีหลิ่นตวัดดาบใหญ่พุ่งมาทางเขา ในเสี้ยวนาทีที่ไม่อาจหลบพ้น เขาหยิบกระบี่ยาวออกมา ถ่ายเทกลิ่นอายพลังวิญญาณเข้าไปแล้วพุ่งเข้าไปปะทะ

“เกร๊ง! ซี๊ด!”

ดาบกระบี่กระทบกัน เสียงเหล็กกระแทกกันดังขึ้น การเสียดสีทำให้เกิดสะเก็ดไฟรวมถึงเสียงของกระแสพลังดังหึ่งๆ พลังเร้นลับและพลังวิญญาณของทั้งสองกำลังต่อสู้กัน กลายเป็นกระแสอากาศที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าห่อหุ้มคุ้มกันร่างกายของพวกเขา

“แกร๊ก!”

ขณะที่ดาบและกระบี่ดวลพลังกัน ทันใดนั้นเสียงแตกร้าวก็ดังขึ้น เหมือนเสียงเวลาที่อาวุธใกล้จะหัก ได้ยินเสียงนั้น อาวุโสเหยียนตะลึง โดยเฉพาะเมื่อเห็นรอยร้าวบนกระบี่ยาวในมือ ก็ยิ่งตื่นตะลึงพรึงเพริด

“บึ้ม!”

หลังจากเสียงแกร๊ก ขณะที่อาวุโสเหยียนกำลังสับสน เสียงบึ้มดังขึ้น กระบี่ยาวในมือเขาถูกฟันหัก ปลายกระบี่ลอยออกไป

“พลั่ก!”

เมื่อไม่มีกระบี่ยาวคอยขวาง กระแสพลังขุมนั้นปะทะร่างของเขา ได้ยินเพียงเสียงพลั่ก อาวุโสเหยียนกระอักเลือด ร่างกายถูกกระแทกปลิวออกไปอย่างแรง ร่วงตกลงกลางอากาศ

“อ๊าก!”

อาวุโสเหยียนตกใจ ขณะที่ร่วงตกลงไป ก็คิดจะหนี!

ทว่า กวนสีหลิ่นไม่เปิดโอกาสให้เขาหนี เขาควงดาบไล่ตามไป แล้วตวัดฟันไปที่แผ่นหลังของอาวุโสเหยียนเต็มแรง

“ชิ้ง!”

“ฉึก!”

ดาบนั้นตวัดลงบนร่างของอาวุโสเหยียน เดิมนึกว่าสามารถปลิดชีพของเขา ใครจะรู้หลังถูกฟัน ประกายแสงเส้นหนึ่งกลับสะท้อนออกมา คล้ายมีวิชารักษาชีวิตอยู่กับตัว

เมื่อเพ่งมอง เสื้อด้านหลังของอาวุโสเหยียนขาดวิ่น แต่แผ่นหลังเขากลับไม่มีเลือดสักหยด เห็นอย่างนั้น กวนสีหลิ่นควงดาบไล่ตามไปอีกครั้ง

“เจ้าหนีไม่รอดหรอก! ยอมตายเสียดีๆ!”

สิ้นเสียง เขาถ่ายเทพลังเร้นลับทั้งหมดลงในดาบใหญ่ เห็นเพียงดาบเล่มใหญ่มีประกายแสงแข็งแกร่งเยือกเย็นสะท้อนออกมา พริบตาเดียว ดาบในมือราวกับมีขนาดใหญ่ขึ้นมาหนึ่งเท่า ครั้นตวัดดาบใส่ร่างอาวุโสเหยียน ก็ราวกับมีเงาดาบอันทรงพลังเส้นหนึ่งพุ่งออกไป…

………………………………….

————————

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด