เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 759 ทะเลาะเบาะแว้ง + 760 มีเสน่ห์ไม่มากไปกว่าข้า

Now you are reading เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า Chapter 759 ทะเลาะเบาะแว้ง + 760 มีเสน่ห์ไม่มากไปกว่าข้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 759 ทะเลาะเบาะแว้ง + ตอนที่ 760 มีเสน่ห์ไม่มากไปกว่าข้า
ตอนที่ 759 ทะเลาะเบาะแว้ง

“หากไม่ตะโกนเรียกเยี่ยจิงคนงามไหนเลยจะได้ยิน หากไม่ตะโกนเจ้าช่วยข้าออกไปได้หรือ?” เหล่าไป๋กล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ หันมาถลึงมองอสูรกลืนเมฆาข้างๆ กัน

“คนมากันแล้วยังจะตะโกนอีก เจ้าไม่อายแต่ข้าอาย!”

“เจ้าก้อนเนื้อน้อยจะมีอะไรให้น่าอายกัน?”

“เจ้าก้อนเนื้อน้อยอะไร? เจ้าอยากหาเรื่องหรือไร?”

“มาก็มาสิ ใครจะกลัวเจ้า?”

เยี่ยจิงตาค้าง นักเรียนสิบคนที่ออกตามหามาด้วยกันก็เช่นกัน เมื่อพวกเขาเปิดค่ายกล สิ่งที่เห็นคือม้าประหลาดเหล่าไป๋กับสัตว์เลี้ยงนามอสูรกลืนเมฆากำลังทะเลาะกันตรงนั้น…

อืม ฟังไม่ผิดและมองไม่พลาด ทะเลาะ สัตว์อสูรสองตัวกำลังทะเลาะกัน ไม่มีใครอื่นอีกแล้ว

พวกเขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าสัตว์อสูรที่ไม่ใช่สัตว์เทวะจะพูดภาษามนุษย์ได้ด้วย หนำซ้ำยังเจอครั้งเดียวสองตัว นี่มันเรื่องอะไรกันแน่? อย่าบอกพวกเขาเชียวว่าเหล่าไป๋ที่หื่นกามเป็นนิสัยตัวนี้เป็นสัตว์เทวะ ซ้อมพวกเขาให้ตายยังไม่เชื่อเลย

อย่าบอกนะว่าเจ้าก้อนเนื้อเล็กนั่นเป็นสัตว์เทวะ อย่างมากก็เป็นแค่สัตว์เลี้ยง แต่ทำไมถึงพูดได้ล่ะ?

เหล่าไป๋กำลังถลึงตาแหกปากทะเลาะกับอสูรกลืนเมฆา จู่ๆ เห็นมันเงียบลงแล้วหันหัวมองไปด้านหน้า จึงหันหน้าตามไป เมื่อเห็นเยี่ยจิงคนงามปรากฏตัวเบื้องหน้า ดวงตาก็เป็นประกายในทันใด

“เยี่ยจิงคนงาม เจ้ามาช่วยข้าแล้ว”

สิ้นเสียงประหลาดใจระคนยินดี มันก็โผไปทางนางทันควัน เยี่ยจิงตกใจจนต้องรีบใช้สองแขนขวางหน้ามันที่พุ่งเข้ามาไว้พลางถามว่า “เหล่าไป๋ ทะ ทำไมพวกเจ้าถึงพูดได้?”

นางไปอาศรมนั้นไม่ใช่แค่รอบสองรอบ ยังไม่ได้ยินเหล่าไป๋พูดเลย!

เหล่าไป๋ได้ยินเช่นนี้ก็ตกใจ ยามนี้ถึงค่อยนึกถึงคำเตือนนายท่าน และอดไม่ได้ที่จะฉีกยิ้ม “วันนั้นข้ากินของผิดไปโดยไม่ระวัง ถึงพูดได้แล้ว”

แย่ละ นายท่านคงไม่ทำให้มันพูดไม่ได้ตลอดไปจริงๆ หรอกใช่ไหม?

นึกถึงตรงนี้ ความเบิกบานที่ได้รับความช่วยเหลือก็หายไปทันใด มันคลอเคลียข้างกายเยี่ยจิง บอกว่า “เยี่ยจิงคนงาม นายท่านไม่ให้ข้าพูด ซ้ำยังใช้เชือกผ้ามัดปากข้าไว้ กลัวว่าข้าจะทำให้คนตกใจ ตอนนี้พวกเจ้าได้ยินแล้ว กลับไปเจ้าช่วยขอร้องนางหน่อยได้หรือไม่ จริงด้วย นายท่านคงไม่เป็นไรกระมัง?”

เยี่ยจิงจ้องมองเหล่าไป๋ มองไม่ออกว่ามีอะไรแปลกไป นางนึกประหลาดใจ แต่ยังคงกล่าวว่า “เจ้าวางใจเถอะ นางไม่เป็นไร แต่ได้รับบาดเจ็บตอนนี้พักฟื้นอยู่ในอาศรม พอเห็นพวกเจ้าหายไป ถึงให้พวกเราออกมาตามหา”

“ได้รับบาดเจ็บ? เช่นนั้นพวกเราต้องกลับไปเร็วหน่อย” เหล่าไป๋ได้ยินก็เครียดขึ้นมา “ใบหน้าไม่บาดเจ็บใช่หรือไม่?”

ทุกคนได้ยินเช่นนี้มุมปากก็กระตุก ไม่รู้จริงๆ ว่าเหล่าไป๋ตัวนี้เป็นห่วงว่านายจะบาดเจ็บ หรือเป็นห่วงว่าจะบาดเจ็บโดนใบหน้า?

เยี่ยจิงยิ้ม “กลับไปเห็นเจ้าก็รู้เอง” นางบอกนักเรียนด้านหลังว่า “พวกเจ้าตะโกนบอกพวกเขาทีว่าหาเจอแล้ว”

“ได้” พวกนักเรียนขานรับ แจ้งบอกกลุ่มกวนสีหลิ่น จากนั้นมุ่งไปยังสำนักศึกษาพร้อมกัน

ทว่าเมื่อกลับถึงสำนักศึกษา ข่าวว่าสองสัตว์อสูรพูดได้ก็แพร่ไปในสำนักศึกษาอย่างรวดเร็ว เพียงชั่วครู่เหล่าไป๋กับอสูรกลืนเมฆาก็แทบจะกลายเป็นขวัญใจตัวใหม่ของสำนักศึกษา แต่ละคนต่างไปยังอาศรมของเฟิ่งจิ่วบนยอดเขาสำนักยาเซียนเป็นพิเศษเพื่อดูเสียหน่อยว่าสองสัตว์อสูรมีอะไรแตกต่างกันแน่…

เทียบกับความอยากรู้อยากเห็นของทุกคนแล้ว เนี่ยเถิงกลับรู้อยู่แก่ใจ

เขาไม่รู้ว่าม้าประหลาดตัวนั้นอยู่ระดับใด แต่เขารู้จักเจ้าก้อนเนื้อน้อยนั่น ตอนแรกวิญญาณต้นของผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณคนหนึ่งถูกมันกลืนกินไป เช่นนั้นคงเป็นสัตว์เทวะ ใช่สัตว์เลี้ยงตัวน้อยอะไรเสียที่ไหน?

เขาเห็นเหล่านักเรียนไปเยี่ยมเฟิ่งจิ่ว ตนเองกลับได้แต่มองอยู่ไกลๆ…

………………………………………………….

ตอนที่ 760 มีเสน่ห์ไม่มากไปกว่าข้า

เขารู้ว่าตนเองไม่ได้รับการต้อนรับ ต่อให้ไปก็ไม่ได้พบนาง

หลายวันนี้คนที่มีชีวิตชีวาที่สุดเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเหล่าไป๋ นักเรียนหญิงที่เข้ามาเยี่ยมพวกนั้นแต่ละคนแทบจะโดนมันเอาเปรียบเสียหมด โดยเฉพาะปากมัน คำพูดที่เอ่ยออกมาหยอกเย้าเสียจนนักเรียนหญิงแต่ละคนต่างจิตใจเบิกบาน แม้รู้ว่ามันมาคลอเคลียในอ้อมแขนพวกนางยังไม่คิดถือสา

ถึงอย่างไรในสายตาทุกคนมันก็เป็นเพียงสัตว์ตัวหนึ่ง ม้าตัวหนึ่ง โดนมันเอาเปรียบนิดหน่อยก็ไม่เป็นอะไร

พักฟื้นผ่านไปสองสามวัน ประกอบกับมียาของตัวเองรักษา บาดแผลบนร่างเฟิ่งจิ่วจึงค่อยๆ ดีขึ้น

วันนี้เธอสวมชุดสีฟ้าของสำนักยาเซียนเดินออกจากอาศรมมา ก็ได้ยินเหล่าไป๋คุยโม้กับพวกนักเรียนหญิงสำนักพลังวิญญาณอย่างไพเราะน่าฟังอยู่ตรงนั้น เห็นภาพเช่นนั้นก็ยิ้มๆ ไม่ได้เดินเข้าไปแต่ยืนมองพิงตรงประตูอาศรม

“ศิษย์พี่เฉิน ข้าว่าท่านสวยกว่าเมื่อวานนิดหน่อยนะ”

“ศิษย์พี่หวัง สีหน้าท่านวันนี้ดีกว่าเมื่อวานอีก ผิวนุ่มเสียจนเหมือนปุยนุ่นเลย”

“ศิษย์พี่หลี่ กายท่านหอมนัก! นี่เป็นกลิ่นหญิงสาวตามธรรมชาติ ช่างหอมจริงๆ”

นักเรียนหญิงพวกนั้นได้ยินคำพูดเหล่าไป๋ แต่ละคนปิดปากหัวเราะเบาๆ “เหล่าไป๋ ทำไมเจ้าถึงบ้ากามเพียงนี้? ปากเจ้านี้แม้แต่คุณชายเจ้าสำราญยังเทียบไม่ได้เลย”

“ใช่ หากเจ้าจะอ้อน นกบนต้นไม้เจ้ายังอ้อนลงมาได้เลย”

“เรียนมาจากนายเจ้าใช่หรือเปล่า? เจ้าดูสิ เยี่ยจิงสาวงามอันดับหนึ่งของสำนักศึกษาเราเดินใกล้เขามาก ภายในสำนักศึกษามีคนตามเกี้ยวนางไม่น้อยแต่นางไม่สนใจ ดันมาถูกใจนายเจ้า”

“ไม่หรอก นี่เป็นพรสวรรค์พิเศษจากฟ้า” เหล่าไป๋ฉีกยิ้มกว้าง “อีกอย่างนายท่านงดงามไม่ธรรมดา หล่อเหลาคมคาย ดอกไม้เห็นยังแย้มบาน ม้าเห็นต้องเข้ามามุง เยี่ยจิงคนงามนั่นตาดีนัก”

ผู้หญิงพวกนั้นได้ยินเช่นนี้ก็ปิดปากหัวเราะ

อสูรกลืนเมฆาที่นอนข้างๆ ชำเลืองมองเหล่าไป๋อย่างรังเกียจก่อนหันหน้าไปอีกด้าน เพราะไม่ชอบให้ใครแตะต้อง คนพวกนั้นอยากจะแตะ มันยังทำให้กลัวจนต้องถอยไป แต่เหล่าไป๋ม้าหื่นนั่นกลับพุ่งหานักเรียนหญิงตรงหน้าไม่หยุดหย่อน น่าขายหน้าจริงๆ

มันหันไปก็เห็นนายท่านยืนพิงอาศรมยิ้มมองมาทางนี้ จึงลุกขึ้นวิ่งไปทางนางทันที

เหล่าไป๋กับพวกนักเรียนหญิงเห็นดังนั้นต่างหันกลับไปมอง เห็นว่าเฟิ่งจิ่วยืนอยู่ตรงนั้น นักเรียนแต่ละคนจึงลุกขึ้นยืนอย่างเขินอาย

“เฟิ่งจิ่ว วันนี้ร่างกายเจ้าดีขึ้นบ้างหรือยัง?”

“ลงจากเตียงมาเดินได้ คงดีขึ้นแล้วกระมัง?”

เฟิ่งจิ่วพยักหน้า ยิ้มเอ่ยว่า “มีสาวงามมาเยี่ยมข้าทุกวัน ข้าจะไม่สบายยังยากเลย!” พูดจบก็ยิ้มเดินมานั่งลงตรงโต๊ะหิน แล้วเลิกคิ้วเบาๆ มองพวกนาง “พวกเรามาคุยเล่นกันหน่อยไหม?”

พวกนางถูกสายตามีรอยยิ้มนั้นจ้องมอง ก็อดรู้สึกเหนียมอายไม่ได้ รีบบอกว่า “ไม่ๆ พวกเราออกมานานมากแล้ว ต้องกลับไปก่อน ครั้งหน้าแล้วกันนะ! ครั้งหน้าค่อยมาดูเจ้าอีก”

“เช่นนั้นก็ดี เหล่าไป๋ ไปส่งศิษย์คนงามทั้งหลายหน่อย” เธอให้สัญญาณไปทางเหล่าไป๋ข้างๆ

“ยกให้ข้าจัดการเถอะขอรับ!” เหล่าไป๋ฉีกยิ้มกว้างก่อนจะเข้าไปใกล้หนึ่งคนในนั้น “ศิษย์พี่เฉิน ให้ข้าเดินไปเป็นเพื่อนท่านดีไหม?”

“ไม่ต้องๆ พวกเราเดินไปกันเองก็ได้” ใบหน้าพวกนางแดงเล็กน้อย รีบร้อนโบกมือพลางเร่งฝีเท้าออกไป

เหล่าไป๋เห็นว่าแม้แต่มันยังไม่ต้องไปส่ง จึงเดินกลับมาข้างกายเฟิ่งจิ่ว กล่าวว่า “นายท่าน เสน่ห์ท่านไม่ได้มากไปกว่าข้าเลย ดูสิ ท่านออกมาก็ทำให้คนตกใจวิ่งหนีไปแล้ว”

………………………………………………….

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *