เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 863 สอนข้าทำของปลอม + 864 คนที่ปล้นของ

Now you are reading เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า Chapter 863 สอนข้าทำของปลอม + 864 คนที่ปล้นของ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 863 สอนข้าทำของปลอม + ตอนที่ 864 คนที่ปล้นของ

ตอนที่ 863 สอนข้าทำของปลอม

ทว่าผู้ฝึกตนคนนี้ที่ใบหน้ามีความเขินอายบางส่วน ยามนี้กลับคลำหาโสมชิ้นหนึ่งออกมาจากในถุงฟ้าดิน

“คุณชาย นี่คือโสมภูเขาโบราณ เป็นพันธุ์แท้จากป่าและมีอายุ ท่านดูเนื้อสัมผัส ลายเส้นและกลิ่นโสมนี้ก็รู้ว่าเป็นของดี หากคุณชายไม่ยอมให้ยืมไม่เป็นไร ข้าจะขายยาทิพย์นี้ให้คุณชายแล้วกัน! ของดีๆ เช่นนี้หากซื้อไป เหรียญเงินหนึ่งหมื่นยังซื้อไม่ได้ คุณชายมีวาสนากับข้า จะขายให้คุณชายห้าพันแล้วกัน!”

เฟิ่งจิ่วเหลือบมองโสมนั้น เอ่ยเหมือนยิ้มแต่ไม่ยิ้ม “ไม่ต้องหรอก ของเช่นนี้ข้าไม่ต้องการ เจ้ามีของเช่นนี้ ถือออกไปขายก็เป็นเงิน จะขาดเงินได้อย่างไร”

“เห็นคุณชายใจกว้าง ไม่ขาดเงินแค่นี้ไม่ใช่หรือ? หนำซ้ำข้าไม่อยากสร้างปัญหาเกินไป” เขายิ้มเอ่ยอย่างหน้าด้าน

“เช่นนี้เอง?” เธอลูบๆ คาง ถามว่า “ชิ้นนี้ยังน้อยไป เจ้ามีอีกหรือไม่? หรือว่าอื่นๆ?”

ผู้ฝึกตนคนนั้นได้ยินคำพูดนี้ ดวงตาเป็นประกาย “มีๆๆ ข้ายังมีอีกไม่น้อย พวกเราหาที่นั่งคุยกันเสียหน่อยไม่ดีกว่าหรือ?”

“นั่งคุยเสียเวลาเกินไป เช่นนี้แล้วกัน! ตรอกข้างหน้าไม่มีคน พวกเราไปคุยกันตรงนั้นไหม?” เธอมองไปยังตรอกด้านหน้า พลางให้สัญญาณ

“ได้ๆๆ เชิญคุณชายขอรับ เชิญ” เขารีบร้อนทำท่ามือเชื้อเชิญ แล้วเดินไปยังตรอกนั้นพร้อมกับเขา

เฟิ่งจิ่วสาวก้าวเดินไปในตรอก เหลิ่งซวงกับเหลิ่งหวาตามมาด้านหลัง สองคนพี่น้องไม่รู้ว่านางจะมาไม้ไหนอีก? หลังมองหน้ากันก็ตามไปเงียบๆ

มาถึงภายในตรอก ชายคนนั้นล้วงสมุนไพรล้ำค่ายี่สิบกว่าต้นออกมาจากในถุงฟ้าดิน ในนั้นมีโสมภูเขาโบราณหลายชิ้น เขาวางเรียงบนพื้น มองไปยังเฟิ่งจิ่ว “คุณชายลองดู ชอบชนิดไหนบอกได้ไม่ต้องเกรงใจ ข้าจะคิดให้ท่านในราคาที่ถูกที่สุด”

“แม้แต่นี่ก็ยังมี?”

เฟิ่งจิ่วนั่งย่อบนพื้น หยิบสมุนไพรต้นหนึ่งในนั้นขึ้นมายิ้มๆ แล้ววางลง ก่อนจะหยิบอีกต้นหนึ่งขึ้นมาดู สุดท้ายหลังดูสมุนไพรทุกต้นเสร็จก็ยิ้มถามว่า “เจ้าคิดค่าปิดปากเท่าไร?”

ผู้ฝึกตนคนนั้นได้ยินก็อึ้งไปพักหนึ่ง ถามว่า “อะ อะไรนะ?”

“ขายยาทิพย์ปลอมมีโทษหนัก เจ้าใจกล้าไม่น้อยเลย!” เธอชายตามองผู้ฝึกตน “ว่ามาเถอะ! คิดค่าปิดปากเท่าไร? หากไม่มีผลประโยชน์สักนิดล่ะก็ เหอะๆ…”

ชายผู้ฝึกตนได้ยินคำพูดนี้ก็ตกใจ รู้ว่าเจอผู้เชี่ยวชาญเสียแล้ว จึงเก็บสี่มุมผ้าที่ปูไว้บนพื้นในทันที หลังม้วนเก็บข้าวของก็คิดจะไป “ยาทิพย์ปลอมอะไรกัน? ท่านไม่ซื้อก็แล้วไป ไม่จำเป็นต้องใส่ร้ายข้าเช่นนี้”

ทว่าเมื่อเก็บข้าวของเตรียมหนี กลับเห็นว่าถูกชายหญิงสองคนนั้นขวางไว้ เขาหันกลับไปถลึงมองหนุ่มน้อยชุดแดงทันควัน “ท่านคิดจะทำอะไรกันแน่?”

“ค่าปิดปาก” ดวงตาเธอฉายแววเล็กน้อย หรี่ตายิ้มพลางเอ่ย

“ข้าไม่มีเงิน”

“เห็นข้าเหมือนคนขาดเงินหรือ?” เธอเหลือบมองเขาอย่างดูแคลน

“เช่นนั้นท่านต้องการค่าปิดปากอะไร?” เขาขมวดคิ้วเอ่ยถาม

“ยาทิพย์ปลอมนี้ทำได้สมจริงมาก ทำอย่างไร? สอนข้าหน่อย”

คำพูดนี้กล่าวออกไป ก็แลกมาด้วยดวงตาชายผู้ฝึกตนที่เบิกกว้างอย่างเหลือเชื่อ กราดมองเขา “จะ เจ้าฝันไปเถอะ!”

เธอได้ยินเช่นนี้ก็เลิกคิ้วขึ้น “พูดเช่นนี้ หรือเจ้าอยากให้ข้ารายงานเรื่องที่เจ้าขายยาทิพย์ปลอมออกไป? ถึงเวลานั้น ความไม่ผิดไม่ใช่แค่ราชวงศ์ แม้แต่สมาคมนักปรุงยาเดาว่าคงไม่ปล่อยเจ้าไปง่ายๆ”

ชายผู้ฝึกตนสีหน้าขาวซีด แน่นอนว่ารู้ถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้ แต่นึกไม่ถึงว่านำของออกมาขาย เห็นเป็นคนเชือดง่ายหลอกง่าย ใครจะรู้ว่าคนคนนี้กลับเจ้าเล่ห์ปานจิ้งจอก

………………………………………………….

ตอนที่ 864 คนที่ปล้นของ

“เจ้าดูไม่เหมือนคนขาดเงิน จะเรียนทำของปลอมไปทำไม?” เขาถามอย่างไม่เข้าใจ

“เจ้าแค่ต้องรับผิดชอบสอน ไม่จำเป็นต้องรู้”

“แต่ทำของปลอมซับซ้อนมาก ไม่ใช่ว่าพูดสองสามประโยคก็เข้าใจ” เขามีสีหน้าลำบากใจ “หนำซ้ำข้ายังไม่มีเวลามาสอนเจ้าตลอด”

เฟิ่งจิ่วเลิกคิ้วขึ้น กล่าวว่า “เจ้าแค่ต้องทำให้ข้าดูครั้งเดียวเป็นพอ”

ชายผู้ฝึกตนเห็นว่าถอนตัวไม่ได้แล้ว ก็ถอนหายใจในทันที หยิบสมุนไพรต้นหนึ่งออกมาจากในถุงอย่างยอมรับชะตากรรม พลางบอกว่า “เช่นนั้นเจ้าดู ข้าจะทำแค่ครั้งเดียว เรียนได้ไม่ได้นั่นเป็นเรื่องของเจ้า จะรั้งข้าไว้ไม่ปล่อยไม่ได้”

เสียงชะงักไป พร้อมเอ่ยว่า “ของปลอมนี้เป็นยาทิพย์เช่นกัน คนกินได้ไม่ตาย สรรพคุณจะไม่ค่อยเหมือน เจ้าดูโสมภูเขาโบราณชิ้นนี้ แค่ใช้หัวไชเท้าขาวมาทำ เช่นนี้ก่อน…”

เพราะในถุงฟ้าดินเขามีของหลายอย่างจึงทำได้สะดวก อธิบายให้เฟิ่งจิ่วฟังพลางขยับมือทำไป แค่ครึ่งชั่วยามกว่า โสมภูเขาโบราณชิ้นหนึ่งก็ทำเสร็จ

“เพื่อให้สมจริงจะป้ายโคลนด้านบนอีกหน่อยยังได้ ส่วนสมุนไพรอื่นๆ ต้องเลือกใช้สิ่งที่คล้ายกัน เช่นนี้ถึงทำได้สะดวก”

“โสมภูเขาโบราณนั้นข้ารู้แล้ว อย่างอื่นเล่า?” เธอถามไถ่ แล้วรับโสมภูเขาโบราณปลอมมาดู คนที่พื้นฐานไม่เชี่ยวชาญยังโดนหลอกกันได้ง่ายมากจริงๆ

เธอเคยเห็นทำของปลอมมาไม่น้อย แต่คนคนนี้ทำได้สมจริงที่สุด เรียนงานฝีมือเช่นนี้ไว้ ไม่แน่ว่าวันใดยังมีประโยชน์

คนคนนั้นได้ยินคำพูดนี้ ก็กอดยาทิพย์ปลอมห่อนั้นถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว จ้องมองเฟิ่งจิ่วด้วยความระแวดระวัง “เจ้าเพิ่งบอกว่าทำแค่ครั้งเดียว”

“ใช่สิ!” เธอพยักหน้า ยิ้มราวกับจิ้งจอกตัวหนึ่ง “แต่โสมภูเขาโบราณข้าดูเข้าใจแล้ว แต่อย่างอื่นยังไม่เข้าใจเลย! หนำซ้ำของเช่นนี้ เจ้าคงจะมีตำราด้วยกระมัง?”

“จะ เจ้าอย่าหวังว่าจะได้ตำราข้า!” สิ้นเสียงเขา ก็เห็นหนุ่มน้อยชุดแดงพลันมายังเบื้องหน้า

“แต่เจ้ามาหาเรื่องข้า ของเล็กน้อยเช่นนี้คิดจะไล่ข้าไป? ไหนเลยจะง่ายดายเพียงนั้น!”

เห็นรอยยิ้มแปลกๆ จากหนุ่มน้อย หนังศีรษะเขาด้านชา ในใจเสียใจไม่สิ้นสุด หากรู้ตั้งแต่แรกว่าหนุ่มน้อยยากจะหาเรื่องเช่นนี้คงไม่เข้าไปใกล้

“เจ้าจะหยิบเอง? หรือให้ข้าลงมือ?” เฟิ่งจิ่วเอ่ยถาม ไม่มีความละอายใจที่ปล้นของคนอื่นแม้แต่น้อย

ตลอดมาใครทำเช่นไรกับเธอ ก็จะทำเช่นนั้นกับเขา เขากล้าถือยาทิพย์ปลอมมาหลอกเธอ คิดจะเอาเปรียบเธอ แน่นอนว่าต้องทำให้เขาเลือดออกเสียหน่อย

“เจ้าจำไว้เถอะ!” เขากัดฟันกรอด แล้วหยิบตำราออกมาให้เฟิ่งจิ่ว

เฟิ่งจิ่วรับมาอ่านสักพัก ก่อนจะพยักหน้า “อืม ไม่เลว บันทึกได้ชัดเจนกว่าที่เจ้าพูดเสียอีก ได้ อย่าหาว่าข้าเอาเปรียบเจ้า เหลิ่งหวา ให้เหรียญเงินเขาร้อนหนึ่งถือว่าข้าซื้องานฝีมือชิ้นนี้”

“ขอรับ” เหลิ่งหวาขานรับ พร้อมหยิบเหรียญเงินร้อยหนึ่งให้คนคนนั้น

มุมปากคนคนนั้นกระตุก เหรียญเงินร้อยหนึ่ง? นั่นเป็นความสามารถใช้ทำมาหากิน นึกไม่ถึงว่าจะราคาแค่หนึ่งร้อยเหรียญเงิน? เขากัดฟันกรอดและรับเงินมา ไม่เก็บก็เสียไปเปล่าๆ แม้จะน้อยยังดีกว่าไม่มี

ชายผู้ฝึกตนที่หยิบเหรียญเงินไปเก็บข้าวของในทันที แล้วหนีไปอย่างไร้ร่องรอยด้วยความรวดเร็ว คล้ายกลัวว่าเฟิ่งจิ่วจะเกิดความคิดชั่ววูบมาเอาอะไรจากเขาไปอีก

“นายท่าน สมุนไพรปลอมเช่นนี้ใช้ไม่ได้ จะเรียนไปทำไมขอรับ” เหลิ่งหวาถามอย่างไม่เข้าใจ

“ใครจะรู้เล่า! ภายหน้าอาจมีวันไหนจำเป็นจริงๆ ก็ยังไม่แน่” เธอยิ้มกล่าว เก็บตำราไปและก้าวมุ่งไปยังโรงเตี๊ยมอันดับหนึ่ง

………………………………………………….

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *