เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 491 ชาติกำเนิดไม่ธรรมดา + 492 พาใครไปด้วย?

Now you are reading เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า Chapter 491 ชาติกำเนิดไม่ธรรมดา + 492 พาใครไปด้วย? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 491 ชาติกำเนิดไม่ธรรมดา

“แม่เจ้ามีนามว่าซั่งกวนหวั่นหรง พ่อพบนางตอนออกไปฝึกวิชา ตอนนั้นพ่อรับภารกิจทหารรับจ้างจึงได้พบนางที่มาเก็บยา คนที่ติดตามนางถูกสังหารไป ส่วนตัวเองยังได้รับบาดเจ็บสาหัส พ่อพานางไปซ่อนตัวจากคนพวกนั้นที่ตามลอบฆ่า เจ้าไม่รู้หรอก! แม่เจ้าเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุ และเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุที่มีพรสวรรค์มากล้น…”

เฟิ่งจิ่วฟังอยู่เงียบๆ ฟังพ่อเล่าถึงอดีตที่ได้พบเจอ รู้จัก และรักกับแม่อย่างละเอียด ฟังเขาเล่าถึงอุปสรรคที่ทั้งสองประสบพบเจอในช่วงเวลานั้น เล่าว่าระหว่างทางที่แม่อุ้มท้องเธอ ขณะกำลังตามเขากลับแคว้นแสงสุริยันก็ถูกตระกูลนางหาตัวพบ

“ถูกคนจากตระกูลท่านแม่กีดกัน? แล้วหลังจากนั้นล่ะเจ้าคะ?” เธอหวั่นใจเล็กน้อย ฟังจากความทรงจำของพ่อเธอราวกับเห็นภาพสุดระทึกตอนนั้นได้

ตระกูลสูงศักดิ์ คุณหนูใหญ่ที่กำลังหนีออกจากบ้าน หนำซ้ำยังเป็นคุณหนูใหญ่ที่ตั้งครรภ์ลูกสาวทั้งที่ไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ใหญ่ในตระกูล ถูกตระกูลและพ่อนางไล่ตามจนทัน ผลที่ตามมานั้น เธอไม่กล้าจินตนาการจริงๆ

“พ่อนางต้องการฆ่าพ่อ และยังต้องการฆ่าเจ้าที่ใกล้จะเกิด นางจึงใช้ความตายข่มขู่ บอกว่าหากพ่อกับลูกใครมีอันเป็นไป นางจะไม่ใช้ชีวิตอย่างเดียวดายแน่นอน จากนั้นพ่อนางถึงยอมถอยหนึ่งก้าว ให้นางคลอดลูกและให้พ่อพาลูกจากไปโดยไม่อนุญาตให้พบหน้านางอีกตลอดกาล ส่วนนางโดนจับกลับไป ที่พ่อจำไม่ได้เป็นจึงเพราะพ่อนางปิดผนึกความทรงจำเอาไว้ ปิดผนึกความทรงจำทั้งหมดที่เกี่ยวกับนาง ครั้งนั้นถึงค่อยคลายออกเพราะความผิดพลาด”

“แม้หลายปีนี้พ่อจะจำแม่และเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับนางไม่ได้ แต่ในใจพ่อรู้มาตลอด ในใจมีคนคนหนึ่ง คนที่ไม่ควรลืมแต่กลับถูกลืม หากความผิดพลาดครั้งนั้นไม่ทำลายผนึกที่ปิดไว้ พ่อก็ไม่รู้จริงๆ ว่านางจะถูกพ่อลืม ไม่ถูกนึกถึงไปตลอดเลยหรือไม่”

เล่าถึงตรงนี้ เสียงเขาสั่นเครือเล็กน้อย คิดจนตายก็จำไม่ได้ว่าคนที่เขารักเป็นใคร จำทุกอย่างเกี่ยวกับนางไม่ได้ หัวใจยิ่งสั่นสะท้านอย่างไม่อาจห้าม…

แววตาหม่นหมองของเฟิ่งจิ่วสั่นไหวเล็กน้อย เอ่ยถามว่า “ท่านพ่อ ท่านยังไม่ได้บอกข้าเลย ท่านแม่เป็นคนแคว้นใด?”

“นางเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลซั่งกวนแห่งแคว้นสวรรค์บันดาล แคว้นรุ่งเรืองระดับหนึ่งในแดนตะวันออก”

กล่าวจบเฟิ่งเซียวมองนาง เอ่ยด้วยท่าทีเคร่งขรึมจริงจัง “เสี่ยวจิ่ว พ่อรู้ว่าลูกโดดเด่นยิ่งนัก แต่แคว้นรุ่งเรืองระดับหนึ่งเช่นนั้น สำหรับแคว้นเล็กระดับเก้าอย่างเรายังสูงเกินจะอาจเอื้อม ผู้แข็งแกร่งที่นั่นมีมากดั่งป่าไม้ แม้เป็นตระกูลเล็กๆ จากแคว้นรุ่งเรืองระดับหนึ่ง ความสามารถเราในตอนนี้ก็ไม่มีทางสู้ได้ ลูกต้องรู้ไว้ว่าในแดนตะวันออกมีแคว้นเล็กระดับเก้านับพัน แต่แคว้นรุ่งเรืองระดับหนึ่งทั่วแดนตะวันออกยังมีแค่สิบ ความแข็งแกร่งนั้นแม้แต่แคว้นเหินเวหาแคว้นระดับหกร้อยแคว้นยังเทียบไม่ได้เลย”

“ลูกต้องรับปากพ่อ เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในใจ ลูกรู้ว่าแม่คือซั่งกวนหวั่นหรง นางมาจากไหน และยังมีชีวิตอยู่ก็พอ หากคนตระกูลนางรู้ว่าผนึกที่ปิดไว้ถูกทำลายจนพ่อจำเรื่องทั้งหมดได้ สิ่งที่รอเราอยู่เกรงว่าจะเป็นการสังหารโดยไม่ลังเลสักนิด เพราะพวกเขาไม่ยอมให้คนจากแคว้นเล็กระดับเก้าอย่างเราไปทำให้ชื่อเสียงของพวกเขาตระกูลสูงศักดิ์แห่งแคว้นรุ่งเรืองต้องแปดเปื้อน ไม่ยอมให้ใครรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างคุณหนูใหญ่ตระกูลซั่งกวนกับเรา และยิ่งไม่ยอมให้คนตระกูลพวกเขามาเกลือกกลั้วสัมพันธ์กับเราด้วย”

ได้ยินคำพูดนี้ หัวใจเฟิ่งจิ่วสั่นไหวเล็กน้อย เห็นเขากังวลใจจึงเผยรอยยิ้มออกมา “ท่านพ่อโปรดวางใจ ลูกทราบแล้วเจ้าค่ะ”

………………………………………………….

ตอนที่ 492 พาใครไปด้วย?

ใช่ เฟิ่งจิ่วรู้แล้ว รู้ว่าต้องทำอย่างไร รู้ว่าแม่บังเกิดเกล้ายังมีชีวิตอยู่ และรู้ว่านางเป็นคนอย่างไร เช่นนั้นเธอจึงรู้ว่าควรทำอย่างไรแล้ว

ในดวงตายิ้มแย้มของมีประกายจางวาบผ่าน ปลอบโยนพ่อเธอด้วยรอยยิ้ม แล้วเปลี่ยนหัวข้อสนทนา บอกว่า “ท่านพ่อ อันที่จริงลูกเข้ามาวันนี้เพราะมีเรื่องต้องบอกท่านพ่อเจ้าค่ะ”

เฟิ่งเซียวจัดการอารมณ์ ถามว่า “เรื่องอะไรรึ?”

“ช่วงนี้วรยุทธ์ลูกถึงจุดคอขวด ตลอดมาไม่อาจบรรลุได้ ภายหลังหลิงโม่หานบอกว่าช่วงนี้ลูกไม่ต้องรีบบรรลุขั้นวรยุทธ์ และบอกว่าสิ่งที่ลูกขาดคือจุดประสาน ดังนั้นจึงต้องออกไปฝึกฝนวิชา เขาว่าจะไปด้วยกันกับลูก จะได้คอยชี้แนะอยู่ข้างๆ เช่นนั้นวันนี้พวกเราจึงเข้ามาบอกเรื่องนี้กับท่านเจ้าค่ะ”

เสียงเธอชะงักไป แล้วนึกอะไรบางอย่างได้ “โอ้ จริงสิ ตอนพวกเราออกมายังพบพี่สีหลิ่นด้วย ระหว่างทางเขาบอกลูกว่าตอนนี้ตลาดมืดให้โอกาสเขาออกไปได้แล้ว มีกลุ่มทหารรับจ้างให้เขาไปเข้าร่วม เขาคิดว่าไม่ช้าก็เร็วต้องไปจากที่นี่ จึงจะออกไปฝึกฝนวิชาก่อน ถึงเวลาค่อยอาศัยพละกำลังเข้าไปฝึกบำเพ็ญในสำนักศึกษาเจ้าค่ะ”

ได้ยินเช่นนี้แล้วเฟิ่งเซียวพยักหน้า “นี่เป็นเรื่องดี พรสวรรค์ของสีหลิ่นไม่ได้ด้อย ขอแค่แสดงฝีมือดีๆ ความสำเร็จในอนาคตต้องไม่ธรรมดาเป็นแน่ มีโอกาสเข้าร่วมกลุ่มทหารรับจ้างเช่นนี้ไม่เลวเลย พ่อเห็นด้วย แต่ลูกกับโม่หาน…”

เขามองนาง เห็นท่าทางนางไม่คิดอะไรมากนัก จึงถอนใจอย่างอดไม่ได้ “ลูกคิดว่ายังไง? พ่อว่าเขาไม่เลวเลยจริงๆ ไม่ว่าความสามารถหรือบุคลิกล้วนโดดเด่นเป็นที่สุด สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือพ่อมองออกว่าเขาจริงใจกับลูก”

“ท่านพ่อ เรื่องลูกท่านไม่ต้องกังวล ลูกจะตัดสินใจเองเจ้าค่ะ” เธอกอดแขนเขาพลางเขย่าเบาๆ ร่างกายเอนพิงไหล่ บอกว่า “ท่านพ่อ ลูกไปครั้งนี้ไม่รู้ว่านานแค่ไหนจะกลับมา แต่ท่านไม่ต้องเป็นห่วงไป ลูกจะดูแลตัวเองดีๆ หากมีโอกาสจะถามหาข่าวคราวท่านปู่เสียหน่อย ดังนั้นท่านก็ไม่ต้องกังวลเรื่องท่านปู่ ขอแค่มีข่าวลูกจะส่งกลับมา ลูกไม่อยู่ข้างกาย ท่านต้องดูแลตัวเองดีๆ รอพวกเรากลับมานะเจ้าคะ”

ได้ยินคำพูดนี้ เฟิ่งเซียวเผยรอยยิ้มปลาบปลื้มออกมา ตบมือนางเบาๆ และกล่าวว่า “ดีๆๆ พ่อรู้แล้ว เจ้าอยู่ข้างนอกดูแลตัวเองดีๆ ก็พอ พ่อจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงเจ้า”

“ลูกทิ้งผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังทั้งสี่ไว้ให้ท่านเรียกใช้ นอกจากนั้นข้ายังกำชับองครักษ์อย่างดี พวกหลัวอวี่ก็อยู่ด้วย ท่านพ่อมีเรื่องอะไรใช้พวกเขาไปทำได้ ลูกจะพาเหลิ่งซวงไป ส่วนเหลิ่งหวาให้อยู่นี่คอยดูแลท่านแล้วกัน!”

“ไม่พาพวกหลัวอวี่ไป?” เขาแปลกใจนิดหน่อย นึกว่านางจะพาพวกหลัวอวี่ไปฝึกวิชาด้วยกัน

เธอบอกอย่างยิ้มแย้มว่า “ให้พวกเขาอยู่ที่นี่แหละ พวกเขาคุ้นเคยกับการควบคุมองครักษ์ หนำซ้ำพาพวกเขาแปดคนไปจะวุ่นวายเกิน”

“เจ้านี่นะ!”

เฟิ่งเซียวส่ายหน้าอย่างจนปัญญา แววตารักใคร่หยุดลงบนร่างนาง กล่าวยิ้มๆ ว่า “ไม่พาพวกเขาไปก็ได้ แต่พาเด็กเหลิ่งหวาคนนั้นไปด้วยเถอะ! เขาใส่ใจรู้จักดูแลคน หนำซ้ำร่างกายเขาลูกก็รักษาจนหายดีนานแล้ว แม้ไม่มีพลังเร้นลับในร่างแต่ก็รำไทเก๊กได้ไม่เลว อีกทั้งยังเป็นพี่น้องกับเหลิ่งซวง สองคนนี้มีความเอาใจใส่เหมือนๆ กัน ติดตามข้างกายลูกไปพ่อยิ่งวางใจ”

………………………………………………….

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 491 ชาติกำเนิดไม่ธรรมดา + 492 พาใครไปด้วย?

Now you are reading เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า Chapter 491 ชาติกำเนิดไม่ธรรมดา + 492 พาใครไปด้วย? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 491 ชาติกำเนิดไม่ธรรมดา

“แม่เจ้ามีนามว่าซั่งกวนหวั่นหรง พ่อพบนางตอนออกไปฝึกวิชา ตอนนั้นพ่อรับภารกิจทหารรับจ้างจึงได้พบนางที่มาเก็บยา คนที่ติดตามนางถูกสังหารไป ส่วนตัวเองยังได้รับบาดเจ็บสาหัส พ่อพานางไปซ่อนตัวจากคนพวกนั้นที่ตามลอบฆ่า เจ้าไม่รู้หรอก! แม่เจ้าเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุ และเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุที่มีพรสวรรค์มากล้น…”

เฟิ่งจิ่วฟังอยู่เงียบๆ ฟังพ่อเล่าถึงอดีตที่ได้พบเจอ รู้จัก และรักกับแม่อย่างละเอียด ฟังเขาเล่าถึงอุปสรรคที่ทั้งสองประสบพบเจอในช่วงเวลานั้น เล่าว่าระหว่างทางที่แม่อุ้มท้องเธอ ขณะกำลังตามเขากลับแคว้นแสงสุริยันก็ถูกตระกูลนางหาตัวพบ

“ถูกคนจากตระกูลท่านแม่กีดกัน? แล้วหลังจากนั้นล่ะเจ้าคะ?” เธอหวั่นใจเล็กน้อย ฟังจากความทรงจำของพ่อเธอราวกับเห็นภาพสุดระทึกตอนนั้นได้

ตระกูลสูงศักดิ์ คุณหนูใหญ่ที่กำลังหนีออกจากบ้าน หนำซ้ำยังเป็นคุณหนูใหญ่ที่ตั้งครรภ์ลูกสาวทั้งที่ไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ใหญ่ในตระกูล ถูกตระกูลและพ่อนางไล่ตามจนทัน ผลที่ตามมานั้น เธอไม่กล้าจินตนาการจริงๆ

“พ่อนางต้องการฆ่าพ่อ และยังต้องการฆ่าเจ้าที่ใกล้จะเกิด นางจึงใช้ความตายข่มขู่ บอกว่าหากพ่อกับลูกใครมีอันเป็นไป นางจะไม่ใช้ชีวิตอย่างเดียวดายแน่นอน จากนั้นพ่อนางถึงยอมถอยหนึ่งก้าว ให้นางคลอดลูกและให้พ่อพาลูกจากไปโดยไม่อนุญาตให้พบหน้านางอีกตลอดกาล ส่วนนางโดนจับกลับไป ที่พ่อจำไม่ได้เป็นจึงเพราะพ่อนางปิดผนึกความทรงจำเอาไว้ ปิดผนึกความทรงจำทั้งหมดที่เกี่ยวกับนาง ครั้งนั้นถึงค่อยคลายออกเพราะความผิดพลาด”

“แม้หลายปีนี้พ่อจะจำแม่และเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับนางไม่ได้ แต่ในใจพ่อรู้มาตลอด ในใจมีคนคนหนึ่ง คนที่ไม่ควรลืมแต่กลับถูกลืม หากความผิดพลาดครั้งนั้นไม่ทำลายผนึกที่ปิดไว้ พ่อก็ไม่รู้จริงๆ ว่านางจะถูกพ่อลืม ไม่ถูกนึกถึงไปตลอดเลยหรือไม่”

เล่าถึงตรงนี้ เสียงเขาสั่นเครือเล็กน้อย คิดจนตายก็จำไม่ได้ว่าคนที่เขารักเป็นใคร จำทุกอย่างเกี่ยวกับนางไม่ได้ หัวใจยิ่งสั่นสะท้านอย่างไม่อาจห้าม…

แววตาหม่นหมองของเฟิ่งจิ่วสั่นไหวเล็กน้อย เอ่ยถามว่า “ท่านพ่อ ท่านยังไม่ได้บอกข้าเลย ท่านแม่เป็นคนแคว้นใด?”

“นางเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลซั่งกวนแห่งแคว้นสวรรค์บันดาล แคว้นรุ่งเรืองระดับหนึ่งในแดนตะวันออก”

กล่าวจบเฟิ่งเซียวมองนาง เอ่ยด้วยท่าทีเคร่งขรึมจริงจัง “เสี่ยวจิ่ว พ่อรู้ว่าลูกโดดเด่นยิ่งนัก แต่แคว้นรุ่งเรืองระดับหนึ่งเช่นนั้น สำหรับแคว้นเล็กระดับเก้าอย่างเรายังสูงเกินจะอาจเอื้อม ผู้แข็งแกร่งที่นั่นมีมากดั่งป่าไม้ แม้เป็นตระกูลเล็กๆ จากแคว้นรุ่งเรืองระดับหนึ่ง ความสามารถเราในตอนนี้ก็ไม่มีทางสู้ได้ ลูกต้องรู้ไว้ว่าในแดนตะวันออกมีแคว้นเล็กระดับเก้านับพัน แต่แคว้นรุ่งเรืองระดับหนึ่งทั่วแดนตะวันออกยังมีแค่สิบ ความแข็งแกร่งนั้นแม้แต่แคว้นเหินเวหาแคว้นระดับหกร้อยแคว้นยังเทียบไม่ได้เลย”

“ลูกต้องรับปากพ่อ เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในใจ ลูกรู้ว่าแม่คือซั่งกวนหวั่นหรง นางมาจากไหน และยังมีชีวิตอยู่ก็พอ หากคนตระกูลนางรู้ว่าผนึกที่ปิดไว้ถูกทำลายจนพ่อจำเรื่องทั้งหมดได้ สิ่งที่รอเราอยู่เกรงว่าจะเป็นการสังหารโดยไม่ลังเลสักนิด เพราะพวกเขาไม่ยอมให้คนจากแคว้นเล็กระดับเก้าอย่างเราไปทำให้ชื่อเสียงของพวกเขาตระกูลสูงศักดิ์แห่งแคว้นรุ่งเรืองต้องแปดเปื้อน ไม่ยอมให้ใครรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างคุณหนูใหญ่ตระกูลซั่งกวนกับเรา และยิ่งไม่ยอมให้คนตระกูลพวกเขามาเกลือกกลั้วสัมพันธ์กับเราด้วย”

ได้ยินคำพูดนี้ หัวใจเฟิ่งจิ่วสั่นไหวเล็กน้อย เห็นเขากังวลใจจึงเผยรอยยิ้มออกมา “ท่านพ่อโปรดวางใจ ลูกทราบแล้วเจ้าค่ะ”

………………………………………………….

ตอนที่ 492 พาใครไปด้วย?

ใช่ เฟิ่งจิ่วรู้แล้ว รู้ว่าต้องทำอย่างไร รู้ว่าแม่บังเกิดเกล้ายังมีชีวิตอยู่ และรู้ว่านางเป็นคนอย่างไร เช่นนั้นเธอจึงรู้ว่าควรทำอย่างไรแล้ว

ในดวงตายิ้มแย้มของมีประกายจางวาบผ่าน ปลอบโยนพ่อเธอด้วยรอยยิ้ม แล้วเปลี่ยนหัวข้อสนทนา บอกว่า “ท่านพ่อ อันที่จริงลูกเข้ามาวันนี้เพราะมีเรื่องต้องบอกท่านพ่อเจ้าค่ะ”

เฟิ่งเซียวจัดการอารมณ์ ถามว่า “เรื่องอะไรรึ?”

“ช่วงนี้วรยุทธ์ลูกถึงจุดคอขวด ตลอดมาไม่อาจบรรลุได้ ภายหลังหลิงโม่หานบอกว่าช่วงนี้ลูกไม่ต้องรีบบรรลุขั้นวรยุทธ์ และบอกว่าสิ่งที่ลูกขาดคือจุดประสาน ดังนั้นจึงต้องออกไปฝึกฝนวิชา เขาว่าจะไปด้วยกันกับลูก จะได้คอยชี้แนะอยู่ข้างๆ เช่นนั้นวันนี้พวกเราจึงเข้ามาบอกเรื่องนี้กับท่านเจ้าค่ะ”

เสียงเธอชะงักไป แล้วนึกอะไรบางอย่างได้ “โอ้ จริงสิ ตอนพวกเราออกมายังพบพี่สีหลิ่นด้วย ระหว่างทางเขาบอกลูกว่าตอนนี้ตลาดมืดให้โอกาสเขาออกไปได้แล้ว มีกลุ่มทหารรับจ้างให้เขาไปเข้าร่วม เขาคิดว่าไม่ช้าก็เร็วต้องไปจากที่นี่ จึงจะออกไปฝึกฝนวิชาก่อน ถึงเวลาค่อยอาศัยพละกำลังเข้าไปฝึกบำเพ็ญในสำนักศึกษาเจ้าค่ะ”

ได้ยินเช่นนี้แล้วเฟิ่งเซียวพยักหน้า “นี่เป็นเรื่องดี พรสวรรค์ของสีหลิ่นไม่ได้ด้อย ขอแค่แสดงฝีมือดีๆ ความสำเร็จในอนาคตต้องไม่ธรรมดาเป็นแน่ มีโอกาสเข้าร่วมกลุ่มทหารรับจ้างเช่นนี้ไม่เลวเลย พ่อเห็นด้วย แต่ลูกกับโม่หาน…”

เขามองนาง เห็นท่าทางนางไม่คิดอะไรมากนัก จึงถอนใจอย่างอดไม่ได้ “ลูกคิดว่ายังไง? พ่อว่าเขาไม่เลวเลยจริงๆ ไม่ว่าความสามารถหรือบุคลิกล้วนโดดเด่นเป็นที่สุด สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือพ่อมองออกว่าเขาจริงใจกับลูก”

“ท่านพ่อ เรื่องลูกท่านไม่ต้องกังวล ลูกจะตัดสินใจเองเจ้าค่ะ” เธอกอดแขนเขาพลางเขย่าเบาๆ ร่างกายเอนพิงไหล่ บอกว่า “ท่านพ่อ ลูกไปครั้งนี้ไม่รู้ว่านานแค่ไหนจะกลับมา แต่ท่านไม่ต้องเป็นห่วงไป ลูกจะดูแลตัวเองดีๆ หากมีโอกาสจะถามหาข่าวคราวท่านปู่เสียหน่อย ดังนั้นท่านก็ไม่ต้องกังวลเรื่องท่านปู่ ขอแค่มีข่าวลูกจะส่งกลับมา ลูกไม่อยู่ข้างกาย ท่านต้องดูแลตัวเองดีๆ รอพวกเรากลับมานะเจ้าคะ”

ได้ยินคำพูดนี้ เฟิ่งเซียวเผยรอยยิ้มปลาบปลื้มออกมา ตบมือนางเบาๆ และกล่าวว่า “ดีๆๆ พ่อรู้แล้ว เจ้าอยู่ข้างนอกดูแลตัวเองดีๆ ก็พอ พ่อจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงเจ้า”

“ลูกทิ้งผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังทั้งสี่ไว้ให้ท่านเรียกใช้ นอกจากนั้นข้ายังกำชับองครักษ์อย่างดี พวกหลัวอวี่ก็อยู่ด้วย ท่านพ่อมีเรื่องอะไรใช้พวกเขาไปทำได้ ลูกจะพาเหลิ่งซวงไป ส่วนเหลิ่งหวาให้อยู่นี่คอยดูแลท่านแล้วกัน!”

“ไม่พาพวกหลัวอวี่ไป?” เขาแปลกใจนิดหน่อย นึกว่านางจะพาพวกหลัวอวี่ไปฝึกวิชาด้วยกัน

เธอบอกอย่างยิ้มแย้มว่า “ให้พวกเขาอยู่ที่นี่แหละ พวกเขาคุ้นเคยกับการควบคุมองครักษ์ หนำซ้ำพาพวกเขาแปดคนไปจะวุ่นวายเกิน”

“เจ้านี่นะ!”

เฟิ่งเซียวส่ายหน้าอย่างจนปัญญา แววตารักใคร่หยุดลงบนร่างนาง กล่าวยิ้มๆ ว่า “ไม่พาพวกเขาไปก็ได้ แต่พาเด็กเหลิ่งหวาคนนั้นไปด้วยเถอะ! เขาใส่ใจรู้จักดูแลคน หนำซ้ำร่างกายเขาลูกก็รักษาจนหายดีนานแล้ว แม้ไม่มีพลังเร้นลับในร่างแต่ก็รำไทเก๊กได้ไม่เลว อีกทั้งยังเป็นพี่น้องกับเหลิ่งซวง สองคนนี้มีความเอาใจใส่เหมือนๆ กัน ติดตามข้างกายลูกไปพ่อยิ่งวางใจ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 491 ชาติกำเนิดไม่ธรรมดา + 492 พาใครไปด้วย?

Now you are reading เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า Chapter 491 ชาติกำเนิดไม่ธรรมดา + 492 พาใครไปด้วย? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 491 ชาติกำเนิดไม่ธรรมดา

“แม่เจ้ามีนามว่าซั่งกวนหวั่นหรง พ่อพบนางตอนออกไปฝึกวิชา ตอนนั้นพ่อรับภารกิจทหารรับจ้างจึงได้พบนางที่มาเก็บยา คนที่ติดตามนางถูกสังหารไป ส่วนตัวเองยังได้รับบาดเจ็บสาหัส พ่อพานางไปซ่อนตัวจากคนพวกนั้นที่ตามลอบฆ่า เจ้าไม่รู้หรอก! แม่เจ้าเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุ และเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุที่มีพรสวรรค์มากล้น…”

เฟิ่งจิ่วฟังอยู่เงียบๆ ฟังพ่อเล่าถึงอดีตที่ได้พบเจอ รู้จัก และรักกับแม่อย่างละเอียด ฟังเขาเล่าถึงอุปสรรคที่ทั้งสองประสบพบเจอในช่วงเวลานั้น เล่าว่าระหว่างทางที่แม่อุ้มท้องเธอ ขณะกำลังตามเขากลับแคว้นแสงสุริยันก็ถูกตระกูลนางหาตัวพบ

“ถูกคนจากตระกูลท่านแม่กีดกัน? แล้วหลังจากนั้นล่ะเจ้าคะ?” เธอหวั่นใจเล็กน้อย ฟังจากความทรงจำของพ่อเธอราวกับเห็นภาพสุดระทึกตอนนั้นได้

ตระกูลสูงศักดิ์ คุณหนูใหญ่ที่กำลังหนีออกจากบ้าน หนำซ้ำยังเป็นคุณหนูใหญ่ที่ตั้งครรภ์ลูกสาวทั้งที่ไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ใหญ่ในตระกูล ถูกตระกูลและพ่อนางไล่ตามจนทัน ผลที่ตามมานั้น เธอไม่กล้าจินตนาการจริงๆ

“พ่อนางต้องการฆ่าพ่อ และยังต้องการฆ่าเจ้าที่ใกล้จะเกิด นางจึงใช้ความตายข่มขู่ บอกว่าหากพ่อกับลูกใครมีอันเป็นไป นางจะไม่ใช้ชีวิตอย่างเดียวดายแน่นอน จากนั้นพ่อนางถึงยอมถอยหนึ่งก้าว ให้นางคลอดลูกและให้พ่อพาลูกจากไปโดยไม่อนุญาตให้พบหน้านางอีกตลอดกาล ส่วนนางโดนจับกลับไป ที่พ่อจำไม่ได้เป็นจึงเพราะพ่อนางปิดผนึกความทรงจำเอาไว้ ปิดผนึกความทรงจำทั้งหมดที่เกี่ยวกับนาง ครั้งนั้นถึงค่อยคลายออกเพราะความผิดพลาด”

“แม้หลายปีนี้พ่อจะจำแม่และเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับนางไม่ได้ แต่ในใจพ่อรู้มาตลอด ในใจมีคนคนหนึ่ง คนที่ไม่ควรลืมแต่กลับถูกลืม หากความผิดพลาดครั้งนั้นไม่ทำลายผนึกที่ปิดไว้ พ่อก็ไม่รู้จริงๆ ว่านางจะถูกพ่อลืม ไม่ถูกนึกถึงไปตลอดเลยหรือไม่”

เล่าถึงตรงนี้ เสียงเขาสั่นเครือเล็กน้อย คิดจนตายก็จำไม่ได้ว่าคนที่เขารักเป็นใคร จำทุกอย่างเกี่ยวกับนางไม่ได้ หัวใจยิ่งสั่นสะท้านอย่างไม่อาจห้าม…

แววตาหม่นหมองของเฟิ่งจิ่วสั่นไหวเล็กน้อย เอ่ยถามว่า “ท่านพ่อ ท่านยังไม่ได้บอกข้าเลย ท่านแม่เป็นคนแคว้นใด?”

“นางเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลซั่งกวนแห่งแคว้นสวรรค์บันดาล แคว้นรุ่งเรืองระดับหนึ่งในแดนตะวันออก”

กล่าวจบเฟิ่งเซียวมองนาง เอ่ยด้วยท่าทีเคร่งขรึมจริงจัง “เสี่ยวจิ่ว พ่อรู้ว่าลูกโดดเด่นยิ่งนัก แต่แคว้นรุ่งเรืองระดับหนึ่งเช่นนั้น สำหรับแคว้นเล็กระดับเก้าอย่างเรายังสูงเกินจะอาจเอื้อม ผู้แข็งแกร่งที่นั่นมีมากดั่งป่าไม้ แม้เป็นตระกูลเล็กๆ จากแคว้นรุ่งเรืองระดับหนึ่ง ความสามารถเราในตอนนี้ก็ไม่มีทางสู้ได้ ลูกต้องรู้ไว้ว่าในแดนตะวันออกมีแคว้นเล็กระดับเก้านับพัน แต่แคว้นรุ่งเรืองระดับหนึ่งทั่วแดนตะวันออกยังมีแค่สิบ ความแข็งแกร่งนั้นแม้แต่แคว้นเหินเวหาแคว้นระดับหกร้อยแคว้นยังเทียบไม่ได้เลย”

“ลูกต้องรับปากพ่อ เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในใจ ลูกรู้ว่าแม่คือซั่งกวนหวั่นหรง นางมาจากไหน และยังมีชีวิตอยู่ก็พอ หากคนตระกูลนางรู้ว่าผนึกที่ปิดไว้ถูกทำลายจนพ่อจำเรื่องทั้งหมดได้ สิ่งที่รอเราอยู่เกรงว่าจะเป็นการสังหารโดยไม่ลังเลสักนิด เพราะพวกเขาไม่ยอมให้คนจากแคว้นเล็กระดับเก้าอย่างเราไปทำให้ชื่อเสียงของพวกเขาตระกูลสูงศักดิ์แห่งแคว้นรุ่งเรืองต้องแปดเปื้อน ไม่ยอมให้ใครรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างคุณหนูใหญ่ตระกูลซั่งกวนกับเรา และยิ่งไม่ยอมให้คนตระกูลพวกเขามาเกลือกกลั้วสัมพันธ์กับเราด้วย”

ได้ยินคำพูดนี้ หัวใจเฟิ่งจิ่วสั่นไหวเล็กน้อย เห็นเขากังวลใจจึงเผยรอยยิ้มออกมา “ท่านพ่อโปรดวางใจ ลูกทราบแล้วเจ้าค่ะ”

………………………………………………….

ตอนที่ 492 พาใครไปด้วย?

ใช่ เฟิ่งจิ่วรู้แล้ว รู้ว่าต้องทำอย่างไร รู้ว่าแม่บังเกิดเกล้ายังมีชีวิตอยู่ และรู้ว่านางเป็นคนอย่างไร เช่นนั้นเธอจึงรู้ว่าควรทำอย่างไรแล้ว

ในดวงตายิ้มแย้มของมีประกายจางวาบผ่าน ปลอบโยนพ่อเธอด้วยรอยยิ้ม แล้วเปลี่ยนหัวข้อสนทนา บอกว่า “ท่านพ่อ อันที่จริงลูกเข้ามาวันนี้เพราะมีเรื่องต้องบอกท่านพ่อเจ้าค่ะ”

เฟิ่งเซียวจัดการอารมณ์ ถามว่า “เรื่องอะไรรึ?”

“ช่วงนี้วรยุทธ์ลูกถึงจุดคอขวด ตลอดมาไม่อาจบรรลุได้ ภายหลังหลิงโม่หานบอกว่าช่วงนี้ลูกไม่ต้องรีบบรรลุขั้นวรยุทธ์ และบอกว่าสิ่งที่ลูกขาดคือจุดประสาน ดังนั้นจึงต้องออกไปฝึกฝนวิชา เขาว่าจะไปด้วยกันกับลูก จะได้คอยชี้แนะอยู่ข้างๆ เช่นนั้นวันนี้พวกเราจึงเข้ามาบอกเรื่องนี้กับท่านเจ้าค่ะ”

เสียงเธอชะงักไป แล้วนึกอะไรบางอย่างได้ “โอ้ จริงสิ ตอนพวกเราออกมายังพบพี่สีหลิ่นด้วย ระหว่างทางเขาบอกลูกว่าตอนนี้ตลาดมืดให้โอกาสเขาออกไปได้แล้ว มีกลุ่มทหารรับจ้างให้เขาไปเข้าร่วม เขาคิดว่าไม่ช้าก็เร็วต้องไปจากที่นี่ จึงจะออกไปฝึกฝนวิชาก่อน ถึงเวลาค่อยอาศัยพละกำลังเข้าไปฝึกบำเพ็ญในสำนักศึกษาเจ้าค่ะ”

ได้ยินเช่นนี้แล้วเฟิ่งเซียวพยักหน้า “นี่เป็นเรื่องดี พรสวรรค์ของสีหลิ่นไม่ได้ด้อย ขอแค่แสดงฝีมือดีๆ ความสำเร็จในอนาคตต้องไม่ธรรมดาเป็นแน่ มีโอกาสเข้าร่วมกลุ่มทหารรับจ้างเช่นนี้ไม่เลวเลย พ่อเห็นด้วย แต่ลูกกับโม่หาน…”

เขามองนาง เห็นท่าทางนางไม่คิดอะไรมากนัก จึงถอนใจอย่างอดไม่ได้ “ลูกคิดว่ายังไง? พ่อว่าเขาไม่เลวเลยจริงๆ ไม่ว่าความสามารถหรือบุคลิกล้วนโดดเด่นเป็นที่สุด สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือพ่อมองออกว่าเขาจริงใจกับลูก”

“ท่านพ่อ เรื่องลูกท่านไม่ต้องกังวล ลูกจะตัดสินใจเองเจ้าค่ะ” เธอกอดแขนเขาพลางเขย่าเบาๆ ร่างกายเอนพิงไหล่ บอกว่า “ท่านพ่อ ลูกไปครั้งนี้ไม่รู้ว่านานแค่ไหนจะกลับมา แต่ท่านไม่ต้องเป็นห่วงไป ลูกจะดูแลตัวเองดีๆ หากมีโอกาสจะถามหาข่าวคราวท่านปู่เสียหน่อย ดังนั้นท่านก็ไม่ต้องกังวลเรื่องท่านปู่ ขอแค่มีข่าวลูกจะส่งกลับมา ลูกไม่อยู่ข้างกาย ท่านต้องดูแลตัวเองดีๆ รอพวกเรากลับมานะเจ้าคะ”

ได้ยินคำพูดนี้ เฟิ่งเซียวเผยรอยยิ้มปลาบปลื้มออกมา ตบมือนางเบาๆ และกล่าวว่า “ดีๆๆ พ่อรู้แล้ว เจ้าอยู่ข้างนอกดูแลตัวเองดีๆ ก็พอ พ่อจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงเจ้า”

“ลูกทิ้งผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังทั้งสี่ไว้ให้ท่านเรียกใช้ นอกจากนั้นข้ายังกำชับองครักษ์อย่างดี พวกหลัวอวี่ก็อยู่ด้วย ท่านพ่อมีเรื่องอะไรใช้พวกเขาไปทำได้ ลูกจะพาเหลิ่งซวงไป ส่วนเหลิ่งหวาให้อยู่นี่คอยดูแลท่านแล้วกัน!”

“ไม่พาพวกหลัวอวี่ไป?” เขาแปลกใจนิดหน่อย นึกว่านางจะพาพวกหลัวอวี่ไปฝึกวิชาด้วยกัน

เธอบอกอย่างยิ้มแย้มว่า “ให้พวกเขาอยู่ที่นี่แหละ พวกเขาคุ้นเคยกับการควบคุมองครักษ์ หนำซ้ำพาพวกเขาแปดคนไปจะวุ่นวายเกิน”

“เจ้านี่นะ!”

เฟิ่งเซียวส่ายหน้าอย่างจนปัญญา แววตารักใคร่หยุดลงบนร่างนาง กล่าวยิ้มๆ ว่า “ไม่พาพวกเขาไปก็ได้ แต่พาเด็กเหลิ่งหวาคนนั้นไปด้วยเถอะ! เขาใส่ใจรู้จักดูแลคน หนำซ้ำร่างกายเขาลูกก็รักษาจนหายดีนานแล้ว แม้ไม่มีพลังเร้นลับในร่างแต่ก็รำไทเก๊กได้ไม่เลว อีกทั้งยังเป็นพี่น้องกับเหลิ่งซวง สองคนนี้มีความเอาใจใส่เหมือนๆ กัน ติดตามข้างกายลูกไปพ่อยิ่งวางใจ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 491 ชาติกำเนิดไม่ธรรมดา + 492 พาใครไปด้วย?

Now you are reading เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า Chapter 491 ชาติกำเนิดไม่ธรรมดา + 492 พาใครไปด้วย? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 491 ชาติกำเนิดไม่ธรรมดา

“แม่เจ้ามีนามว่าซั่งกวนหวั่นหรง พ่อพบนางตอนออกไปฝึกวิชา ตอนนั้นพ่อรับภารกิจทหารรับจ้างจึงได้พบนางที่มาเก็บยา คนที่ติดตามนางถูกสังหารไป ส่วนตัวเองยังได้รับบาดเจ็บสาหัส พ่อพานางไปซ่อนตัวจากคนพวกนั้นที่ตามลอบฆ่า เจ้าไม่รู้หรอก! แม่เจ้าเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุ และเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุที่มีพรสวรรค์มากล้น…”

เฟิ่งจิ่วฟังอยู่เงียบๆ ฟังพ่อเล่าถึงอดีตที่ได้พบเจอ รู้จัก และรักกับแม่อย่างละเอียด ฟังเขาเล่าถึงอุปสรรคที่ทั้งสองประสบพบเจอในช่วงเวลานั้น เล่าว่าระหว่างทางที่แม่อุ้มท้องเธอ ขณะกำลังตามเขากลับแคว้นแสงสุริยันก็ถูกตระกูลนางหาตัวพบ

“ถูกคนจากตระกูลท่านแม่กีดกัน? แล้วหลังจากนั้นล่ะเจ้าคะ?” เธอหวั่นใจเล็กน้อย ฟังจากความทรงจำของพ่อเธอราวกับเห็นภาพสุดระทึกตอนนั้นได้

ตระกูลสูงศักดิ์ คุณหนูใหญ่ที่กำลังหนีออกจากบ้าน หนำซ้ำยังเป็นคุณหนูใหญ่ที่ตั้งครรภ์ลูกสาวทั้งที่ไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ใหญ่ในตระกูล ถูกตระกูลและพ่อนางไล่ตามจนทัน ผลที่ตามมานั้น เธอไม่กล้าจินตนาการจริงๆ

“พ่อนางต้องการฆ่าพ่อ และยังต้องการฆ่าเจ้าที่ใกล้จะเกิด นางจึงใช้ความตายข่มขู่ บอกว่าหากพ่อกับลูกใครมีอันเป็นไป นางจะไม่ใช้ชีวิตอย่างเดียวดายแน่นอน จากนั้นพ่อนางถึงยอมถอยหนึ่งก้าว ให้นางคลอดลูกและให้พ่อพาลูกจากไปโดยไม่อนุญาตให้พบหน้านางอีกตลอดกาล ส่วนนางโดนจับกลับไป ที่พ่อจำไม่ได้เป็นจึงเพราะพ่อนางปิดผนึกความทรงจำเอาไว้ ปิดผนึกความทรงจำทั้งหมดที่เกี่ยวกับนาง ครั้งนั้นถึงค่อยคลายออกเพราะความผิดพลาด”

“แม้หลายปีนี้พ่อจะจำแม่และเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับนางไม่ได้ แต่ในใจพ่อรู้มาตลอด ในใจมีคนคนหนึ่ง คนที่ไม่ควรลืมแต่กลับถูกลืม หากความผิดพลาดครั้งนั้นไม่ทำลายผนึกที่ปิดไว้ พ่อก็ไม่รู้จริงๆ ว่านางจะถูกพ่อลืม ไม่ถูกนึกถึงไปตลอดเลยหรือไม่”

เล่าถึงตรงนี้ เสียงเขาสั่นเครือเล็กน้อย คิดจนตายก็จำไม่ได้ว่าคนที่เขารักเป็นใคร จำทุกอย่างเกี่ยวกับนางไม่ได้ หัวใจยิ่งสั่นสะท้านอย่างไม่อาจห้าม…

แววตาหม่นหมองของเฟิ่งจิ่วสั่นไหวเล็กน้อย เอ่ยถามว่า “ท่านพ่อ ท่านยังไม่ได้บอกข้าเลย ท่านแม่เป็นคนแคว้นใด?”

“นางเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลซั่งกวนแห่งแคว้นสวรรค์บันดาล แคว้นรุ่งเรืองระดับหนึ่งในแดนตะวันออก”

กล่าวจบเฟิ่งเซียวมองนาง เอ่ยด้วยท่าทีเคร่งขรึมจริงจัง “เสี่ยวจิ่ว พ่อรู้ว่าลูกโดดเด่นยิ่งนัก แต่แคว้นรุ่งเรืองระดับหนึ่งเช่นนั้น สำหรับแคว้นเล็กระดับเก้าอย่างเรายังสูงเกินจะอาจเอื้อม ผู้แข็งแกร่งที่นั่นมีมากดั่งป่าไม้ แม้เป็นตระกูลเล็กๆ จากแคว้นรุ่งเรืองระดับหนึ่ง ความสามารถเราในตอนนี้ก็ไม่มีทางสู้ได้ ลูกต้องรู้ไว้ว่าในแดนตะวันออกมีแคว้นเล็กระดับเก้านับพัน แต่แคว้นรุ่งเรืองระดับหนึ่งทั่วแดนตะวันออกยังมีแค่สิบ ความแข็งแกร่งนั้นแม้แต่แคว้นเหินเวหาแคว้นระดับหกร้อยแคว้นยังเทียบไม่ได้เลย”

“ลูกต้องรับปากพ่อ เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในใจ ลูกรู้ว่าแม่คือซั่งกวนหวั่นหรง นางมาจากไหน และยังมีชีวิตอยู่ก็พอ หากคนตระกูลนางรู้ว่าผนึกที่ปิดไว้ถูกทำลายจนพ่อจำเรื่องทั้งหมดได้ สิ่งที่รอเราอยู่เกรงว่าจะเป็นการสังหารโดยไม่ลังเลสักนิด เพราะพวกเขาไม่ยอมให้คนจากแคว้นเล็กระดับเก้าอย่างเราไปทำให้ชื่อเสียงของพวกเขาตระกูลสูงศักดิ์แห่งแคว้นรุ่งเรืองต้องแปดเปื้อน ไม่ยอมให้ใครรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างคุณหนูใหญ่ตระกูลซั่งกวนกับเรา และยิ่งไม่ยอมให้คนตระกูลพวกเขามาเกลือกกลั้วสัมพันธ์กับเราด้วย”

ได้ยินคำพูดนี้ หัวใจเฟิ่งจิ่วสั่นไหวเล็กน้อย เห็นเขากังวลใจจึงเผยรอยยิ้มออกมา “ท่านพ่อโปรดวางใจ ลูกทราบแล้วเจ้าค่ะ”

………………………………………………….

ตอนที่ 492 พาใครไปด้วย?

ใช่ เฟิ่งจิ่วรู้แล้ว รู้ว่าต้องทำอย่างไร รู้ว่าแม่บังเกิดเกล้ายังมีชีวิตอยู่ และรู้ว่านางเป็นคนอย่างไร เช่นนั้นเธอจึงรู้ว่าควรทำอย่างไรแล้ว

ในดวงตายิ้มแย้มของมีประกายจางวาบผ่าน ปลอบโยนพ่อเธอด้วยรอยยิ้ม แล้วเปลี่ยนหัวข้อสนทนา บอกว่า “ท่านพ่อ อันที่จริงลูกเข้ามาวันนี้เพราะมีเรื่องต้องบอกท่านพ่อเจ้าค่ะ”

เฟิ่งเซียวจัดการอารมณ์ ถามว่า “เรื่องอะไรรึ?”

“ช่วงนี้วรยุทธ์ลูกถึงจุดคอขวด ตลอดมาไม่อาจบรรลุได้ ภายหลังหลิงโม่หานบอกว่าช่วงนี้ลูกไม่ต้องรีบบรรลุขั้นวรยุทธ์ และบอกว่าสิ่งที่ลูกขาดคือจุดประสาน ดังนั้นจึงต้องออกไปฝึกฝนวิชา เขาว่าจะไปด้วยกันกับลูก จะได้คอยชี้แนะอยู่ข้างๆ เช่นนั้นวันนี้พวกเราจึงเข้ามาบอกเรื่องนี้กับท่านเจ้าค่ะ”

เสียงเธอชะงักไป แล้วนึกอะไรบางอย่างได้ “โอ้ จริงสิ ตอนพวกเราออกมายังพบพี่สีหลิ่นด้วย ระหว่างทางเขาบอกลูกว่าตอนนี้ตลาดมืดให้โอกาสเขาออกไปได้แล้ว มีกลุ่มทหารรับจ้างให้เขาไปเข้าร่วม เขาคิดว่าไม่ช้าก็เร็วต้องไปจากที่นี่ จึงจะออกไปฝึกฝนวิชาก่อน ถึงเวลาค่อยอาศัยพละกำลังเข้าไปฝึกบำเพ็ญในสำนักศึกษาเจ้าค่ะ”

ได้ยินเช่นนี้แล้วเฟิ่งเซียวพยักหน้า “นี่เป็นเรื่องดี พรสวรรค์ของสีหลิ่นไม่ได้ด้อย ขอแค่แสดงฝีมือดีๆ ความสำเร็จในอนาคตต้องไม่ธรรมดาเป็นแน่ มีโอกาสเข้าร่วมกลุ่มทหารรับจ้างเช่นนี้ไม่เลวเลย พ่อเห็นด้วย แต่ลูกกับโม่หาน…”

เขามองนาง เห็นท่าทางนางไม่คิดอะไรมากนัก จึงถอนใจอย่างอดไม่ได้ “ลูกคิดว่ายังไง? พ่อว่าเขาไม่เลวเลยจริงๆ ไม่ว่าความสามารถหรือบุคลิกล้วนโดดเด่นเป็นที่สุด สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือพ่อมองออกว่าเขาจริงใจกับลูก”

“ท่านพ่อ เรื่องลูกท่านไม่ต้องกังวล ลูกจะตัดสินใจเองเจ้าค่ะ” เธอกอดแขนเขาพลางเขย่าเบาๆ ร่างกายเอนพิงไหล่ บอกว่า “ท่านพ่อ ลูกไปครั้งนี้ไม่รู้ว่านานแค่ไหนจะกลับมา แต่ท่านไม่ต้องเป็นห่วงไป ลูกจะดูแลตัวเองดีๆ หากมีโอกาสจะถามหาข่าวคราวท่านปู่เสียหน่อย ดังนั้นท่านก็ไม่ต้องกังวลเรื่องท่านปู่ ขอแค่มีข่าวลูกจะส่งกลับมา ลูกไม่อยู่ข้างกาย ท่านต้องดูแลตัวเองดีๆ รอพวกเรากลับมานะเจ้าคะ”

ได้ยินคำพูดนี้ เฟิ่งเซียวเผยรอยยิ้มปลาบปลื้มออกมา ตบมือนางเบาๆ และกล่าวว่า “ดีๆๆ พ่อรู้แล้ว เจ้าอยู่ข้างนอกดูแลตัวเองดีๆ ก็พอ พ่อจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงเจ้า”

“ลูกทิ้งผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังทั้งสี่ไว้ให้ท่านเรียกใช้ นอกจากนั้นข้ายังกำชับองครักษ์อย่างดี พวกหลัวอวี่ก็อยู่ด้วย ท่านพ่อมีเรื่องอะไรใช้พวกเขาไปทำได้ ลูกจะพาเหลิ่งซวงไป ส่วนเหลิ่งหวาให้อยู่นี่คอยดูแลท่านแล้วกัน!”

“ไม่พาพวกหลัวอวี่ไป?” เขาแปลกใจนิดหน่อย นึกว่านางจะพาพวกหลัวอวี่ไปฝึกวิชาด้วยกัน

เธอบอกอย่างยิ้มแย้มว่า “ให้พวกเขาอยู่ที่นี่แหละ พวกเขาคุ้นเคยกับการควบคุมองครักษ์ หนำซ้ำพาพวกเขาแปดคนไปจะวุ่นวายเกิน”

“เจ้านี่นะ!”

เฟิ่งเซียวส่ายหน้าอย่างจนปัญญา แววตารักใคร่หยุดลงบนร่างนาง กล่าวยิ้มๆ ว่า “ไม่พาพวกเขาไปก็ได้ แต่พาเด็กเหลิ่งหวาคนนั้นไปด้วยเถอะ! เขาใส่ใจรู้จักดูแลคน หนำซ้ำร่างกายเขาลูกก็รักษาจนหายดีนานแล้ว แม้ไม่มีพลังเร้นลับในร่างแต่ก็รำไทเก๊กได้ไม่เลว อีกทั้งยังเป็นพี่น้องกับเหลิ่งซวง สองคนนี้มีความเอาใจใส่เหมือนๆ กัน ติดตามข้างกายลูกไปพ่อยิ่งวางใจ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+