เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 789 คืนชีพวังกำเนิดสวรรค์ + 790 ไม่ทรยศแน่นอน

Now you are reading เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า Chapter 789 คืนชีพวังกำเนิดสวรรค์ + 790 ไม่ทรยศแน่นอน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 789 คืนชีพวังกำเนิดสวรรค์ + ตอนที่ 790 ไม่ทรยศแน่นอน
ตอนที่ 789 คืนชีพวังกำเนิดสวรรค์

“เช่นนั้นเจ้าหมายความว่าอะไร?” ไป๋เสี่ยวลูบๆ หัวที่โดนตบจนเจ็บพลางขมวดคิ้วเอ่ยถาม

เฟิ่งจิ่วได้ยินเช่นนี้ก็ทอดถอนใจ “ข้าสงสัยจริงๆ ว่าเจ้าออกมาจากตระกูลตั้งนานเพียงนี้ รอดมาถึงตอนนี้ได้อย่างไร?” เจอคนไร้สติปัญญาเช่นนี้ ได้แต่ต้องพูดไปตรงๆ

“หมายความว่า เจ้าต้องซื่อสัตย์ต่อข้า ไม่คิดทรยศ จะทำหรือเปล่า?”

เขาได้ยินคำพูดนี้ก็คิดๆ ว่า “อืม อันที่จริงก็ได้ ความหมายคือข้าแค่รับเจ้าเป็นนายใช่หรือไม่? สวามิภักดิ์ต่อเจ้า จากนั้นเจ้าจะปกป้องข้ารวมถึงตระกูล? กำลังเจ้าดูเหมือนจะแข็งแกร่งมาก คงสามารถปกป้องตระกูลข้าได้ ดังนั้นเรื่องนี้ข้าทำแน่นอน”

เฟิ่งจิ่วถลึงตา อยากเก็บคำพูดเมื่อครู่กลับมา เจ้าหนูนี่แกล้งโง่แน่ๆ แค่คำพูดประโยคเดียวยังขอร้องให้ปกป้องแม้แต่ตระกูลเขา

“เจ้ารีบฝึกคุมสัตว์อสูรดีๆ ค่อยว่ากันเถอะ! ไม่เช่นนั้นข้าจะขาดทุนเกินไป” สองคนกำลังเอ่ยก็ได้ยินเซี่ยงหวาบนเตียงมีการเคลื่อนไหว มองไปทางเขาเห็นมือขยับ ไม่นานนักถึงลืมตาขึ้น

“ตื่นแล้วหรือ?” เฟิ่งจิ่วยืนอยู่ข้างเตียง มองเซี่ยงหวาที่หลังจากพลิกตัวลุกขึ้นมานั่ง ใบหน้ามีความตื่นเต้นที่ยากจะปิดบัง “รู้สึกอย่างไรบ้าง?”

“พลังวิญญาณในร่างทั้งเต็มเปี่ยมและแข็งแรง นั่นปะ นั่นเป็นกลิ่นอายระดับหลอมแก่นพลังขั้นสูงสุด…” สีหน้าเขาประหลาดใจ มองไปยังเฟิ่งจิ่ว “จะ เจ้ารักษาแก่นพลังข้าได้จริงๆ ซ้ำยังทำให้วรยุทธ์ข้าพัฒนาถึงระดับหลอมแก่นพลังขั้นสูงสุด?”

“เจ้าๆๆ อะไร เริ่มตั้งแต่ตอนนี้ต้องเรียกว่านายท่านแล้ว” ไป๋เสี่ยวกล่าวอยู่ข้างๆ กัน

“เรียกข้าคุณชายจิ่วเป็นพอ” เฟิ่งจิ่วหรี่ตาลงยิ้มพลางเอ่ย

เซี่ยงหวาได้ยินเช่นนี้ก็คุกเข่าข้างเดียวทันที ประสานมือคารวะ “ข้าน้อยคารวะคุณชายจิ่ว ขอบคุณคุณชายที่กรุณาทำให้ข้ากลับมาอีกครั้ง!” รักษาแก่นพลังเป็นดั่งการสร้างบุญคุณใหญ่หลวง ชีวิตนี้ทำไมจะไม่รับเขาเป็นนายเล่า?

“ลุกขึ้นเถอะ!” เธอให้สัญญาณขยับมือเล็กน้อย หยิบกระบี่คมพยับออกมา ถามว่า “เซี่ยงหวา เจ้าจำมันได้หรือไม่”

เซี่ยงหวามองปลอกกระบี่เจ็ดดาราอันหรูหรานั้น หลังจากถอดปลอกกระบี่ออก ประกายสีดำเปล่งออกมา อักษรนั้นที่ปรากฏรางๆ บนตัวกระบี่คม ทำให้สายตาเขาหดลงอย่างอดไม่ได้

“กระบี่คมพยับ!”

“ถูกต้อง เป็นกระบี่คมพยับ รู้หรือยังว่าข้าตามหาเจ้าทำไม? นอกจากเจ้าจะคุ้นเคยกับวังกำเนิดสวรรค์ สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือเจ้าเป็นผู้พิทักษ์วังกำเนิดสวรรค์รุ่นแรก และเป็นคนติดตามข้างกายฉู่ป้าเทียน อาจารย์ข้าในปีนั้น”

“อาจารย์คุณชายคือท่านเจ้าวังหรือ?” เขาเบิกตาโตด้วยความตะลึง นึกไม่ถึงว่าหนุ่มน้อยตรงหน้าจะมีความสัมพันธ์เป็นศิษย์อาจารย์กับเจ้าวัง รีบร้อนถามทันทีว่า “เช่นนั้นท่านเจ้าวังเล่า? ตอนนี้เขา…”

“ไม่กี่สิบปีก่อนวังกำเนิดสวรรค์ล่มสลาย ส่วนเขาล่วงลับไปตั้งแต่หลายสิบปีก่อน เพียงเพราะมีวาสนาต่อกัน ข้าถึงคารวะเขาเป็นอาจารย์ และทำตามเจตนาเขาที่ฝากฝังไว้ ตามหากระบี่คมพยับ รวมถึงรวบรวมวังกำเนิดสวรรค์ขึ้นใหม่”

ยามนี้เธอไม่มีท่าทางยิ้มแย้มเกียจคร้าน มีเพียงความเย็นเยียบและจริงจัง “ดังนั้นข้าจึงต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า ข้าจะทำให้วังกำเนิดสวรรค์ที่ล่มสลายไปหลายสิบปีกลับมามีชื่อเสียงอีกครั้ง”

เขาได้ยินคำพูดนี้ ก็ตื่นเต้นเสียจนเบ้าตาแดงก่ำเล็กน้อย “ปีนั้นข้าติดตามข้างกายท่านเจ้าวัง เขาสนับสนุนข้าจนกลายเป็นผู้พิทักษ์ฝ่ายซ้าย ตอนนั้นข้าแค่ยี่สิบต้นๆ เป็นเพียงระดับยอดปรมาจารย์พลังวิญญาณ ไม่นึกว่าผ่านไปหลายปีเช่นนี้ จะได้เห็นกระบี่คมพยับอีก และยังได้ยินคำพูดว่าจะคืนชีพวังกำเนิดสวรรค์…”

“คุณชาย ข้าเซี่ยงหวาขอสาบานไว้ ณ ที่นี้ ชีวิตนี้จะติดตามคุณชาย ซื่อสัตย์ภักดี และจะช่วยคุณชายกอบกู้ชื่อเสียงวังกำเนิดสวรรค์แน่นอนขอรับ!”

………………………………………………….

ตอนที่ 790 ไม่ทรยศแน่นอน

ไป๋เสี่ยวข้างๆ เห็นท่าทาง ก็รีบร้อนแสดงท่าที “ข้าก็เช่นกันขอรับ”

“ไปเถอะ! เข้ามาในนี้เพียงเพื่อตามหาเจ้า ตอนนี้หาพบก็ควรออกไป” เฟิ่งจิ่วยิ้มเอ่ย สาวก้าวเดินออกจากบ้านต้นไม้ แล้วเขย่งปลายเท้ากระโดดลงมาจากด้านบนทันที พร้อมพาสองคนด้านหลังเดินออกค่ายกลมายังด้านนอก

เมื่อทุกคนด้านนอกได้ยินเสียงฝีเท้า แต่ละคนหันกลับมามองไปยังทั้งสาม ขณะที่สายตาพวกเขาหยุดลงบนร่างเซี่ยงหวาคนนั้น ร่างกายก็สั่นสะท้าน ก่อนจะมองยังเฟิ่งจิ่วอย่างเหลือเชื่อ

เด็กหนุ่มคนนี้รักษาแก่นพลังที่แตกร้าวได้จริงหรือ? แรงกดดันนั้นบนร่างเซี่ยงหวาไม่เหมือนเมื่อวานที่พวกเขาเห็น เวลาเพียงวันเดียววรยุทธ์ก็พัฒนากลับมาแล้วหรือ?

เมื่อสายตาตู้ฝานหลังมองผ่านจากร่างเซี่ยงหวาก็หยุดลงบนร่างเฟิ่งจิ่ว ในดวงตาฉายประกายแสง เขามองคนไม่ผิดดังคาด!

ทุกคนเบื้องหน้าเปิดทางให้ทันควัน แต่ละคนถอยไปสองฝั่ง มองพวกเขาสามคนเดินไปข้างหน้า ยามนี้ตู้ฝานคารวะไปทางทุกคน บอกว่า “พี่น้องทั้งหลาย หวังว่าครั้งหน้าเราจะได้พบกันอีก” ระหว่างพูดยังเร่งฝีเท้าตามสามคนข้างหน้าไป

“พี่ใหญ่ ท่านจะตามพวกเขาไปจริงๆ หรือ?” คนหนึ่งขวางเขาไว้ เอ่ยถามอย่างโกรธเคือง

“แน่นอน ได้ออกไปและติดตามนายท่านผู้ลึกล้ำยากหยั่งรู้ ข้าจะเลือกอยู่ในนี้ได้อย่างไร?”

ตู้ฝานเผยรอยยิ้ม มองพวกเขาแต่ละคนสายตาเผยประกายชั่วร้าย ท่าทางดุร้ายกระหายเลือดมีจิตสังหารกระจายออกมา กล่าวทันทีว่า “พี่น้องทั้งหลาย ข้าแนะนำว่าพวกเจ้าอย่าต่อสู้ หากสู้กัน คนที่ตายสุดท้ายคงเป็นพวกเจ้าแน่ สู้ให้ตายก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้ ทำไมยังต้องเอาชีวิตมาเดิมพัน?”

แต่ละคนได้ยินคำพูดนี้ก็กัดฟันกรอด กลับไม่ได้เคลื่อนไหว ได้แต่ถลึงมองเขาเร่งฝีเท้าออกตามสามคนข้างหน้าไป และหายลับจากสายตาพวกเขา

“เจ้าบ้าเอ้ย! เขาไปทั้งแบบนี้จริงๆ ด้วย เสียแรงที่เรียกพี่ใหญ่มาตลอด ถึงตอนนี้กลับไปโดยทิ้งเราไว้ ช่างแล้งน้ำใจเสียจริง!” ชายร่างใหญ่คนหนึ่งถลึงตาเกรี้ยวกราด พร้อมส่งเสียงด่าทอไปยังร่างตู้ฝานที่จากไปเสียงดัง

“เอาล่ะ จะโกรธอะไรนักหนา? อย่าบอกเชียวว่าวันนี้เปลี่ยนเป็นเจ้าจะไม่ไป? เรื่องนี้เป็นใครก็เหมือนกัน เรื่องพี่น้องจริงพี่ใหญ่ปลอมอะไรนี่ แค่แก้ขัดไปเท่านั้น หากไม่อยากใช้ชีวิตอยู่ในนี้ดีๆ หน่อย ใครจะไปรับเด็กอย่างเขาเป็นพี่ใหญ่?”

ทุกคนที่เคยโกรธเคืองได้ยินคำพูดนี้ก็ค่อยๆ ใจเย็นลง เป็นเช่นนี้มาแต่ไหนแต่ไร แน่นอนว่าไม่มีอะไรน่าโมโหเลย พวกเขาล้วนเป็นคนชั่วร้ายป่าเถื่อน แล้วจะปฏิบัติกับใครสักคนอย่างจริงใจได้อย่างไร? สุดท้ายแค่หลอกใช้กันและกันเท่านั้นเอง

ส่วนอีกด้านหนึ่ง พวกเฟิ่งจิ่วเดินไปยังรอบนอก เวลาประมาณเที่ยงวัน เมื่อใกล้จะออกจากเขตอาคมแห่งนี้ เธอก็หยุดฝีเท้าลง และมองไปยังทั้งสาม

“ข้าจะพูดแค่ครั้งเดียว พวกเจ้าทุกคนต้องจำไว้”

ในน้ำเสียงเนิบนาบมีความเฉยชา ซ้ำยังเหมือนมีการเตือนอยู่ในนั้น “ข้าคนนี้ไม่ชอบที่สุดคือการทรยศ หากมีวันใดข้ารู้ว่าใครในหมู่พวกเจ้าหักหลังข้า เช่นนั้นจะไม่ใช่เรื่องที่แค่ตายไปก็แก้ไขได้”

ไป๋เสี่ยวได้ยินคำพูดนี้ เอ่ยทันทีว่า “คุณชายโปรดวางใจ ข้าจะไม่ทรยศแน่นอนขอรับ”

“ข้าก็เช่นกัน” เซี่ยงหวากล่าวเสียงเข้ม

ตู้ฝานมองยังเฟิ่งจิ่ว บอกว่า “ชีวิตข้านี้เป็นของนายท่าน ไม่มีนายท่านก็ไม่มีข้า แม้ทรยศใครก็จะไม่ทรยศนายท่านขอรับ”

กล่าวจบราวกับกังวลว่าเฟิ่งจิ่วจะไม่เชื่อ จึงชี้ฟ้าสาบานตน “หากผิดคำสาบานนี้ ขอให้ฟ้าดินลงโทษ!”

………………………………………………….

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *