เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 1745 ข้าไม่เป็นไร / 1746 ยกหินขึ้นมาแต่กลับหล่นทับเท้าตนเอง

Now you are reading เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า Chapter 1745 ข้าไม่เป็นไร / 1746 ยกหินขึ้นมาแต่กลับหล่นทับเท้าตนเอง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1745 ข้าไม่เป็นไร / ตอนที่ 1746 ยกหินขึ้นมาแต่กลับหล่นทับเท้าตนเอง

ตอนที่ 1745 ข้าไม่เป็นไร

ได้ยินเสียงนั้น โม่เฉินได้สติ มองเด็กหนุ่มผู้สุภาพอ่อนโยนที่เดินมาตรงหน้า เขาเผยยิ้ม ถามว่า “เจ้าว่า หากตอนนี้ข้าไปดูอาการเซวียนหยวนโม่เจ๋อ นายท่านของเจ้าจะไม่พอใจหรือไม่?”

เหลิ่งหวายิ้มๆ บอกว่า “หากคุณชายโม่เฉินกลัวนายท่านของข้าไม่พอใจ ไว้สายหน่อยค่อยไปก็ได้ขอรับ”

ได้ยินอย่างนั้น โม่เฉินส่ายหน้า “ได้อย่างไรกัน? สายไปความเข้าใจผิดอาจกลายเป็นใหญ่โต แม้ตอนนี้นางจะไม่พอใจ ข้าก็คิดว่าควรไปอธิบายให้กระจ่างจะดีกว่า”

กล่าวจบ เขาพยักหน้าให้เหลิ่งหวา แล้วเดินไปที่ตำหนักที่อยู่ข้างหลัง

เห็นอย่างนั้น รอยยิ้มบนใบหน้าเหลิ่งหวายิ่งกว้างขึ้น แต่กลับหยุดเดิน ไม่ตามไปอีก

“ไปกันเถิด! ไปเก็บของกันก่อน” เหลิ่งซวงเดินมาจากข้างหลัง บอกกับเหลิ่งหวา

“ขอรับ” เหลิ่งหวารับคำ แล้วเดินออกไปกับนาง

ฮุยหลางเกาหัว มองพวกเขาอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็พึมพำกับตนเอง แล้วค่อยเดินตามไปยังตำหนักข้างหลังด้วย

ส่วนเซวียนหยวนโม่เจ๋อที่ถูกเฟิ่งจิ่วอุ้มไปที่ตำหนัก ตลอดทางเรียกได้ว่าดึงดูดสายตามากมาย ไม่ว่าจะเป็นทหารหรือบ่าวรับใช้ในวัง หรือองครักษ์ลับที่เร้นกายอยู่ในที่มืด ยามเห็นภาพนั้น ต่างพากันตกตะลึงตาค้าง

ทหารและบ่าวรับใช้ในวังส่วนมากไม่รู้จักเฟิ่งจิ่ว ด้วยเหตุนี้ พอพวกเขาเห็นองค์รัชทายาทผู้สูงส่งน่าเกรงขามของพวกเขากลับถูกชายหนุ่มชุดแดงอุ้มไปยังตำหนักบรรทมอย่างใกล้ชิดสนิทสนมอย่างนั้น แต่ละคนอดกระซิบกระซาบกันไม่ได้

“คนผู้นั้นเป็นใครกัน? สวรรค์! นี่ข้าไม่ได้มองผิดไปกระมัง? ไม่นึกว่าข้าจะเห็นองค์รัชทายาทถูกชายผู้หนึ่งอุ้ม…”

“แต่ชายหนุ่มชุดแดงคนนั้นช่างรูปงามนัก รูปร่างเขาไม่ได้ล่ำสัน กลับอุ้มองค์รัชทายาทได้อย่างสบาย แต่องค์รัชทายาทมิใช่มิชอบให้ผู้อื่นเข้าใกล้หรือ? คนผู้นี้กล้าได้อย่างไรกัน?”

“นี่องค์รัชทายาททรงเป็นอะไรไป? ท่าทางเหมือนจะทรงหมดสติไปแล้ว?”

“พวกเจ้ารู้อะไรหรือไม่ ท่านผู้นั้นก็คือภูตหมอเฟิ่งจิ่ว นางเป็นหญิงสาว ได้ยินว่าอาจเป็นว่าที่พระชายาในองค์รัชทายาทของเรา ระหว่างทั้งสองเหลือเพียงแต่งงานเท่านั้น”

“หา? จริงหรือ? ข่าวใหญ่ขนาดนี้เหตุใดไม่เห็นเขาพูดกัน?”

“มีหลายคนรู้เรื่องนี้แล้ว อีกอย่างพระชายาของเราไม่ใช่คนธรรมดา จากข่าวที่ได้ยินมา จักรวรรดินทีแดงก็เป็นฝีมือพระชายาของเราพาคนไปบุกล้มล้าง” ผู้พูดคือทหารคนหนึ่ง เขายืดอกชูคอเล่าให้ทุกคนฟัง

“เมื่อครู่ยังมีคุณชายชุดขาวตามไปด้วยอีกคน เป็นใครอีก?”

“เรื่องนี้ข้าไม่รู้แล้ว แต่คนที่เดินไปเดินมาในวังได้ ต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่ เมื่อครู่พวกเจ้าเห็นคนคนนั้นเดินไปที่ตำหนักบรรทมขององค์รัชทายาท ไม่แน่อาจไปหาองค์รัชทายาทและพระชายาของเราก็ได้”

ผ่านไปครู่หนึ่ง ฮุยหลางที่เดินตามหลังมาได้ยินเข้า ก็ชำเลืองมองพวกเขาแวบหนึ่ง “กระซิบกระซาบอะไรกันอยู่? ยังไม่แยกย้ายกันอีก!”

ครั้นเห็นฮุยหลาง แต่ละคนก้มหน้าก้มตา รีบแยกย้ายกันไปคนละทิศคนละทาง

ฮุยหลางส่ายหน้า มองอิ่งอีที่อยู่ข้างหน้า ครุ่นคิดเล็กน้อย แล้วรู้สึกว่าควรไปคุยกับอิ่งอีสักหน่อยจะดีกว่า

ในตำหนัก เฟิ่งจิ่ววางเซวียนหยวนโม่เจ๋อลงบนเตียง ขณะกำลังจะตรวจชีพจรเขา ก็เห็นคนที่ตอนแรกหลับตาอยู่ฟื้นขึ้นมาแล้ว

“ข้าไม่เป็นไร” เซวียนหยวนโม่เจ๋อบอก มองเธอที่อยู่ใกล้แค่ตรงหน้า นัยน์ตาลึกล้ำเต็มไปด้วยความรักใคร่หวงแหน “เจ้าผอมลง” ขณะกล่าว ก็ยกมือลูบหน้าเธอ

ได้ยินอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วอดยิ้มไม่ได้ กุมมือเขา แล้วบอกว่า “ข้าสบายดี กลับเป็นท่าน เหตุใดทำเสียตนเองเป็นเช่นนี้? เหนื่อยเกินไปใช่หรือไม่? เหตุใดจึงสู้กับโม่เฉินได้เล่า? ข้าตรวจอาการท่านหน่อยดีกว่า ท่านถึงขั้นกระอักเลือด ข้ากลัวว่าท่านจะบาดเจ็บภายใน”

………………………………….

ตอนที่ 1746 ยกหินขึ้นมาแต่กลับหล่นทับเท้าตนเอง

“เจ้าไม่ต้องห่วง เป็นแค่แผลเล็กๆ เท่านั้น เจ้าก็อย่าตำหนิโม่เฉินเลย เขาเองก็ไม่รู้ว่าจู่ๆ เจ้าจะมา แค่กๆๆ!” เซวียนหยวนโม่เจ๋อพูดไปด้วย ไอไปด้วย

ได้ยินอย่างนั้น รอยยิ้มพาดผ่านดวงตาเฟิ่งจิ่ว แต่กลับไม่แสดงออกมาให้เขาเห็น เพียงพยักหน้าด้วยสีหน้าจริงจัง “อืม ท่านวางใจ ข้าไม่ตำหนิเขาหรอก ข้าคิดว่าเขาเองก็คงไม่ตั้งใจ”

เซวียนหยวนโม่เจ๋อที่กำมือป้องปากไออยู่ได้ยินอย่างนั้นก็ชะงักงัน เงยหน้าขึ้นไปมองโดยสัญชาตญาณ ก็เห็นดวงตาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มหยอกล้อของเธอ ก็อดรู้สึกอายไม่ได้ รีบแกล้งไอกลบเกลื่อน “เจ้าเดินทางมาไกลคงเหนื่อยแล้วกระมัง? ไปพักก่อนดีหรือไม่?”

ขณะพูด ก็ขยับตัวไปด้านในของเตียง เพื่อเว้นที่ว่างบนเตียงให้เธอ

“ไม่ได้ ข้าเป็นห่วงอาการบาดเจ็บของท่าน อย่างไรก็ต้องต้มยาอะไรให้ดื่มสักหน่อย” เฟิ่งจิ่วพูดพร้อมกับกลั้นยิ้ม

เซวียนหยวนโม่เจ๋อมุมปากกระตุก รู้สึกเหมือนตนเองหาเรื่องใส่ตัวยกก้อนหินแต่กลับทำก้อนหินหล่นทับเท้าตนเอง[1] เผลบแวบเดียว ก็เห็นเธอดึงมือเขาไปตรวจชีพจรแล้ว เห็นอย่างนั้น เขาก็ทำได้เพียงปล่อยให้เธอตรวจชีพจรต่อไป

ไม่นาน เฟิ่งจิ่วเก็บมือกลับไป บอกว่า “ร่างกายไม่มีอะไรผิดปกติ เพียงแต่ไฟตับร้อนสูง ไม่ได้พักผ่อนให้ดี ท่านต้องพักผ่อนให้มากหน่อย” ขณะกล่าว เธอดึงผ้าห่มคลุมตัวเขา “ท่านพักผ่อนอยู่ที่นี่ดีๆ ข้าจะออกไปคุยกับโม่เฉินสักหน่อย”

“มีอะไรให้คุยกับเขากัน? เจ้าสนิทกับเขามากหรือ?” น้ำเสียงของเขาออกแนวประชดประชันเล็กน้อย

เฟิ่งจิ่วเอามือชันคางทำท่าครุ่นคิด “อืม ข้าต้องออกไปถามเขาหน่อย เหตุใดต้องทำท่านบาดเจ็บ! จะปล่อยให้ท่านเจ็บตัวเปล่าอย่างนี้ก็ไม่ได้กระมัง?”

ได้ยินอย่างนั้น เซวียนหยวนโม่เจ๋อเอื้อมมือดึงเธอขึ้นมาบนเตียง ยกผ้าห่มขึ้นคลุมตัวเธอ มือใหญ่โอบกอด ตัวเธอก็ไปนอนอยู่บนอ้อมแขนของเขาแล้ว จากนั้นเขาก็ยกมืออีกข้างมากอด สองมือกอดรัดเธอไว้ในอ้อมอกแน่น

“คนผู้นั้นไม่ใช่คนดีอะไร ภายหน้าอยู่ให้ห่างเขาหน่อย”

เฟิ่งจิ่วหัวเราะเสียงอู้อี้ “ท่านก็อยู่ให้ห่างเขาหน่อย จะได้ไม่ถูกเขาทำบาดเจ็บเช่นนี้อีก”

“นั่นข้าออมมือให้เขา ไม่เช่นนั้นเขามีดีอะไรจะมาเป็นคู่ต่อสู้ของข้าได้?” เขาแค่นเสียงเบาๆ มุมปากหยักยกขึ้น กอดรัดคนในอ้อมแขน เผยรอยยิ้มพึงพอใจ

บางทีอาจเพราะพักนี้ไม่ค่อยได้พักผ่อนเต็มที่ เขากอดเฟิ่งจิ่วพร้อมกับพูดคุยกับเธอ ไม่นานกลับเผลอหลับไป

ครั้นรู้สึกได้ถึงลมหายใจอันสม่ำเสมอ เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ ขุดคู้อยู่ในอ้อมแขนของเขาแล้วหลับตา ไม่ได้เจอกันนานขนาดนี้ เธอเองก็คิดถึงเขาเหมือนกัน เพียงแต่นึกไม่ถึงว่าเธอเพิ่งมาถึงเขาก็เล่นลูกไม้เช่นนี้ ทำเอาเธอทั้งขำทั้งโมโห

ด้านนอก โม่เฉินที่เพิ่งเข้ามาในตำหนักถูกอิ่งอีขวางไว้ อิ่งอีมองเขา แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “คุณชายโม่เฉิน นายท่านของข้ากับภูตหมอกำลังพักผ่อน เชิญคุณชายโม่เฉินค่อยกลับมาใหม่อีกครั้งด้วย!”

ได้ยินอย่างนั้น ดวงตาของโม่เฉินมีแววประหลาดใจพาดผ่าน เขามองเข้าไปข้างใน จากนั้นก็ยิ้มๆ “ก็ดี” เขาไม่ได้อยู่ต่อ เพียงหมุนตัวเดินจากไป

ไม่นาน ฮุยหลางเดินมา กำลังจะเดินเข้าไปก็เห็นอิ่งอีเดินออกมา เขารีบโบกมือ ยิ้มกว้างแล้วทักทาย “อิ่งอี ข้ากลับมาแล้ว”

อิ่งอีเหล่มองเขาแวบหนึ่ง “ข้าเห็นแล้ว”

“นายท่านเป็นอย่างไรบ้าง? เหตุใดเขาจึงถูกคุณชายโม่เฉินทำให้บาดเจ็บได้เล่า? ไม่เป็นไรมากกระมัง?” ขณะถาม เขาชะโงกหน้ามองเข้าไปในตำหนัก อยากดูว่ามีเงาร่างของภูตหมออยู่ข้างในหรือไม่

“ไม่ต้องดูแล้ว นายท่านกำลังพักผ่อน มีภูตหมออยู่เป็นเพื่อน!” อิ่งอีบอก แล้วพยักหน้าให้เขาเดินออกไปข้างนอก จากนั้นก็ถามว่า “เจ้าเดินทางไปจักรวรรดิบุริมฉายครั้งนี้เป็นอย่างไรบ้าง? เรื่องทางนั้นจัดการเรียบร้อยหรือไม่?”

………………………………….

[1] ยกก้อนหินแต่กลับหล่นทับเท้าตนเอง หมายถึง คิดจะทำร้ายผู้อื่น แต่ผลร้ายกลับย้อนมาหาตนเอง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด