เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 1399 เงาร่างนั้น + 1400 อาจารย์อาซั่งกวน

Now you are reading เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า Chapter 1399 เงาร่างนั้น + 1400 อาจารย์อาซั่งกวน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1399 เงาร่างนั้น + ตอนที่ 1400 อาจารย์อาซั่งกวน

ตอนที่ 1399 เงาร่างนั้น

เธอเงยหน้ามองไป เห็นชายอายุยี่สิบกว่าปีคนหนึ่งยืนพิจารณาเธออยู่หน้าถ้ำที่พัก

เห็นเช่นนี้เธอจึงก้าวไปข้างหน้า เหลือบเห็นป้ายห้อยเอวประจำตัวที่เอวเขา แล้วยังเห็นเหรียญตราประจำตัวนักเล่นแร่แปรธาตุอีกอันหนึ่ง จึงคารวะแล้วกล่าวว่า “คารวะศิษย์พี่ ข้ามาส่งยาทิพย์ เพียงแต่เพิ่งมาเป็นครั้งแรก ไม่ทราบว่าถ้ำของอาจารย์อาซั่งกวนอยู่ทางไหนหรือขอรับ”

ในสำนักโอสถตะวันแห่งนี้ การเรียกขานระหว่างศิษย์ล้วนเรียกกันว่าศิษย์พี่ศิษย์น้อง ไม่ได้แบ่งกันตามระดับนักเล่นแร่แปรธาตุ แต่ตำแหน่งเดียวที่ไม่เหมือนกันก็คือเจ้าเขาที่พวกเขาต้องขานเรียกว่าปรมาจารย์ ศิษย์ของเจ้าเขาพวกเขาล้วนเรียกด้วยความเคารพว่าอาจารย์อา

“ส่งยาทิพย์?” ชายคนนั้นจ้องเฟิ่งจิ่ว จ้องมองอยู่ครู่หนึ่งก็ถามว่า “เดิมทีนี่เป็นงานของศิษย์น้องกัวไม่ใช่หรือ? จู่ๆ ทำไมจึงเปลี่ยนคน?”

“คืออย่างนี้ขอรับ ศิษย์พี่กัวมีธุระด่วนต้องลงเขา จึงให้ข้ามาส่งยาทิพย์ให้อาจารย์อาซั่งกวนแทน”

ได้ยินเช่นนั้น ชายหนุ่มพยักหน้า “อืม เจ้ามาครั้งแรก อย่าเดินเพ่นพ่านข้างบนนี้ เดินตรงไปตามทางนี้เรื่อยๆ ถ้ำสุดท้ายก็คือถ้ำของอาจารย์อาซั่งกวน”

“ขอบคุณศิษย์พี่มากขอรับ” เธอยิ้มแล้วกล่าวขอบคุณ

ชายหนุ่มมองเฟิ่งจิ่วแวบหนึ่ง พูดว่า “แต่เมื่อครู่ข้าเหมือนเห็นอาจารย์อาซั่งกวนถูกลูกศิษย์ติดตามของปรมาจารย์เรียกตัวไปแล้ว ตอนนี้นางอาจไม่อยู่ที่ถ้ำ ถ้ำกางเขตอาคมไว้ อาจารย์อาซั่งกวนไม่ได้รับลูกศิษย์ติดตามไว้ข้างกาย เดาว่าเจ้าคงเข้าไปไม่ได้”

“หา? อย่างนั้นเองหรือ!” เธอชะงักเล็กน้อย จากนั้นก็เผยรอยยิ้มจริงใจ “ไม่เป็นไร เช่นนั้นข้าจะรออยู่นอกถ้ำของอาจารย์อาซั่งกวน อย่างไรข้าก็ส่งยาที่อื่นเสร็จหมดแล้ว ตอนนี้ไม่มีเรื่องเร่งด่วนอะไรอีก”

ครั้นได้ยินประโยคนี้ ชายคนนั้นกระแอมเล็กน้อย แววตาไหวระริก กล่าวว่า “ความจริงเจ้าฝากยาไว้ก็ได้ รออาจารย์อาซั่งกวนกลับมาเมื่อไร ข้าค่อยเอาให้นางแทนเจ้าก็ได้”

เฟิ่งจิ่วได้ยินแววตาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย ลอบแปลกใจ แต่ภายนอกกลับแย้มยิ้มไม่แสดงพิรุธ ทำเหมือนไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูด “ไม่เป็นไรขอรับ อย่างไรข้าก็กำลังว่าง รออีกหน่อยก็ไม่เป็นไร หากรบกวนศิษย์พี่ให้ต้องลำบากข้าคงมีความผิด หากทำให้ศิษย์พี่เสียเรื่อง หรือศิษย์พี่กัวรู้ว่าข้ารบกวนศิษย์พี่ ข้าจะต้องโดนด่าแน่ๆ”

“เรื่องนี้…” ชายหนุ่มยังพยายามจะเกลี้ยกล่อม แต่เพิ่งจะอ้าปาก ก็โดนเฟิ่งจิ่วตัดบทก่อน

“จริงสิ นี่เป็นถ้ำของอาจารย์อาท่านไหนหรือ?” เธอมองถ้ำที่อยู่ข้างหลังชายหนุ่มด้วยใบหน้าสงสัย “ดูใหญ่มากเลยนะ!”

“อาจารย์ของข้าแซ่ต้วน เป็นศิษย์เอกของปรมาจารย์ซานหยาง” ขณะเดียวกับที่ตอบ หว่างคิ้วของชายหนุ่มปรากฏแววภาคภูมิใจ

“ที่แท้ก็เป็นถ้ำของอาจารย์อาต้วน ถึงว่าไม่ธรรมดาเลย”

เธอรีบประจบด้วยสีหน้าเลื่อมใสทันที “ข้าได้ยินมาว่าคนใต้บังคับบัญชาของปรมาจารย์ซานหยาง ระดับโอสถของอาจารย์อาต้วนสูงที่สุดเลย เยี่ยมยอดจริงๆ! ศิษย์พี่ได้เป็นศิษย์ของเขา พรสวรรค์ด้านการหลอมยาก็ต้องอยู่ในระดับอัจฉริยะแน่นอน ใช่แล้ว ข้าชื่อเฟิ่งจิ่ว ยังไม่ทราบเลยว่าศิษย์พี่ชื่ออะไร?”

ได้ยินเฟิ่งจิ่วพูดเช่นนั้น หว่างคิ้วของชายหนุ่มก็ยิ่งฉายแววภูมิใจ แม้แต่มุมปากยังหยักโค้งขึ้นอย่างไม่อาจควบคุมได้ เขาเหลือบมองเฟิ่งจิ่วแวบหนึ่ง กระแอมเบาๆ แล้วโอ้อวดว่า “สำนักโอสถตะวันของพวกเราเป็นสำนักหลอมยาอันดับหนึ่งในแปดจักรวรรดิใหญ่ ในสำนักมีอัจฉริยะมากมาย ข้ายังไม่อาจนับเป็นอัจฉริยะได้”

ขณะกล่าว เขาชะงักไป ก่อนเสริมว่า “ภายหน้าตอนพบข้า เรียกข้าว่าศิษย์พี่หูก็ได้”

“ขอรับ ศิษย์พี่หู”

เธอยิ้มตาหยีรับคำ จากนั้นก็เห็นชายหนุ่มเบื้องหน้าเผยแววตาตื่นเต้นยินดี มองไปที่จุดหนึ่งอย่างลุ่มหลง…

………………………………….

ตอนที่ 1400 อาจารย์อาซั่งกวน

แววตาของเธอไหวระริก ครั้นหันไปมองตามสายตาของเขา ก็เห็นร่างสีขาวร่างหนึ่งขี่กระบี่ไปทางถ้ำที่อยู่ด้านหลัง ร่างนั้นเพรียวบางสง่างาม อาภรณ์สีขาวผุดผ่องบริสุทธิ์ กอปรกับดวงหน้าที่โดดเด่นนั่น ชวนให้ผู้พบเห็นต่างต้องเบิกตากว้างอย่างอดไม่ได้

“อ๊ะ! อาจารย์อาซั่งกวนกลับมาแล้ว”

เธออุทานด้วยความดีใจ พอเห็นร่างนั้นหายลับไปข้างหลัง เธอเรียกสติกลับมาแล้วมองศิษย์พี่หูที่อยู่ข้างหน้า ประกายวาววับพาดผ่านในดวงตา กล่าวว่า “ศิษย์พี่หู ข้าต้องไปส่งยาทิพย์แล้ว ครั้งหน้าหากมีเวลาพวกเราค่อยคุยกันอีก ข้าขอตัวก่อน”

เฟิ่งจิ่วพูดพลางโบกไม้โบกมือลา แล้วจึงค่อยหมุนตัวเดินไปยังถ้ำที่อยู่ด้านหลัง

นั่นท่านแม่ของเธอ! ยิ่งเห็นในระยะใกล้ยิ่งชัดเจน เพียงแต่นางดูเหมือนเย็นชาไปนิด เหมือนน้ำนิ่งที่ไร้คลื่นลม พาให้ความรู้สึกเย็นเยือกราวกับความเงียบวังเวง

เมื่อเห็นนางที่เป็นเช่นนั้น หัวใจเธอบีบรัดเล็กน้อย นางจะต้องคิดถึงเธอกับท่านพ่อของเธอมากแน่!

เพียงแต่เมื่ออยู่ที่นี่ นางเป็นศิษย์ของซานหยางจื่อ หากนางบอกว่าจะออกไปฝึกนอกสำนักก็น่าจะได้รับอนุญาต และไปเยี่ยมพวกเขาที่ราชวงศ์เฟิ่งหวงได้! แต่ดูจากท่าทางของนางแล้วเหมือนว่า…

ขณะในใจนึกสงสัย เธอเดินไปข้างหลังด้วยฝีเท้าเบาหวิวและรวดเร็ว ตอนเธอมาถึงถ้ำที่อยู่ท้ายสุด ก็ไม่เห็นร่างของนางแล้ว จึงยืนลังเลอยู่นอกถ้ำครู่หนึ่ง

“อาจารย์อาซั่งกวน อาจารย์อาซั่งกวน ข้าเป็นศิษย์ที่มาส่งยาทิพย์ขอรับ”

เธอตะโกนเรียกพลางมองเข้าไปในถ้ำด้วยอารามตื่นเต้น อาจเพราะเสียงของเธอดังเข้าไปข้างใน ไม่นานนัก เขตอาคมหน้าถ้ำจึงหายไป เสียงเฉยชาของซั่งกวนหวั่นหรงดังมาจากข้างใน

“เข้ามาเถอะ!”

เฟิ่งจิ่วดีใจ ขณะกำลังจะก้าวเท้าเข้าไป จู่ๆ ก็เห็นเงาร่างหนึ่งปรากฏตัวข้างกาย เมื่อเอียงคอดู สีหน้าก็แข็งทื่อไปเล็กน้อย “ศิษย์พี่หู? ท่านมาได้อย่างไร” คนผู้นี้มาทำไม? ที่นี่ไม่ใช่ถ้ำของอาจารย์เขาเสียหน่อย

“วันก่อนได้ผลไม้วิญญาณมาเยอะ ข้าจึงเอามาให้อาจารย์อาซั่งกวนสักหน่อย” เขามองเข้าไปในถ้ำพร้อมบอก

“ผลไม้วิญญาณหรือ ฝากข้าเข้าไปให้อาจารย์อาซั่งกวนก็ได้นะขอรับ!” เฟิ่งจิ่วเพิ่งสังเกตเห็นในตอนนี้ เขาถือตะกร้าไว้ในมือ ในนั้นมีผลไม้จำนวนหนึ่งอยู่

“จะได้อย่างไรกัน ทำอย่างนั้นเสียมารยาทแย่เลย!” เขาตอบ สายตากวาดมองเฟิ่งจิ่ว “เอาละ ไปกันเถอะ! อย่ามัวพูดมากอยู่ตรงนี้เลย” พูดจบ เขาก็ก้าวนำเข้าไปก่อน

เฟิ่งจิ่วที่อยู่ข้างหลังจนใจ มองชายแซ่หูแวบหนึ่ง แล้วทำได้เพียงเดินตามเข้าไป

ถ้าถึงตอนนี้เธอยังมองจุดประสงค์ของศิษย์พี่หูคนนี้ไม่ออก ก็ถือว่าเธอใช้ชีวิตมาอย่างเปล่าประโยชน์แล้ว ทว่า ท่านแม่ของเธอเกิดมามีหน้าตาสวยสดโดดเด่น ถ้ามีคนหมายปองก็เป็นเรื่องปกติ ปกตินั้นก็ปกติเถอะ เพียงแต่หมายปองท่านแม่ของเธอต่อหน้าเธออย่างนี้ ดูเหมือนจะไม่ค่อยอยากมีชีวิตอยู่แล้วกระมัง

เธอเหล่มองศิษย์พี่หูที่กำลังเดินเข้าไปข้างในด้วยความลิงโลดแวบหนึ่ง ไม่นานก็ละสายตาออกไป คลี่ยิ้มจนตาหยีพลางเดินเข้าไปด้านใน เมื่อเดินเข้ามาถึงในถ้ำ ก็เห็นร่างชุดขาวร่างหนึ่งนั่งดื่มชาอยู่ที่โต๊ะหิน

สีหน้าท่าทางของนางเฉยชา ราวกับไม่แยแสต่อสิ่งใดทั้งสิ้น แม้แต่ตอนที่พวกเขาเข้ามา นางก็ยังไม่เงยหน้ามอง เพียงเอ่ยเสียงเรียบว่า “วางยาทิพย์ไว้บนชั้นวางก็พอ”

“คารวะอาจารย์อาซั่งกวน” ชายแซ่หูแสร้งทำเป็นก้าวเข้าไปคารวะ กล่าวด้วยสีหน้าเอาอกเอาใจ “อาจารย์อาซั่งกวน ข้าเองขอรับ คราวก่อนพวกเราเคยพบกันแล้วหนึ่งครั้ง”

ขณะกล่าว เขาเว้นช่วงไปครู่หนึ่ง ก่อนจะวางตะกร้าลงบนโต๊ะ บอกว่า “ของเหล่านี้ล้วนเป็นผลไม้วิญญาณสดใหม่ ข้าตั้งใจเอามาให้อาจารย์อาซั่งกวนขอรับ”

………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด