เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 1455 คล้ายไม่เหมือนเดิม + 1456 ไม่อยู่บนยอดเขา แล้วอยู่ที่ใด

Now you are reading เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า Chapter 1455 คล้ายไม่เหมือนเดิม + 1456 ไม่อยู่บนยอดเขา แล้วอยู่ที่ใด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1455 คล้ายไม่เหมือนเดิม + ตอนที่ 1456 ไม่อยู่บนยอดเขา แล้วอยู่ที่ใด

ตอนที่ 1455 คล้ายไม่เหมือนเดิม

ตอนที่พวกนางลงเขาและตามหารอบๆ ก็พบว่าในป่าทึบแห่งหนึ่งที่ตีนเขา มีร่องรอยของเขตอาคมที่ถูกกำจัดไปแล้ว และที่นั่น กลิ่นอายในอากาศยังไม่จางหายไปทั้งหมด กลิ่นยาตรงนั้นแรงกว่าจุดอื่นๆ ในป่า

“เป็นที่นี่”

เฟิ่งจิ่วบอก พลางเดินเข้าไปดู เห็นร่องรอยบนพื้นที่เกิดจากรอยกระแทกของเศษเตาหลอมยาที่ระเบิด เศษเตาหลอมยาที่ระเบิดถูกเก็บทำความสะอาดไปหมดแล้ว นอกจากร่องรอยบนพื้น ก็ไม่เห็นเศษอะไรเลย แม้แต่คนหลอมยาก็ไม่เห็น

เธอเดินไปเดินมาอยู่ตรงนั้น สำรวจทีละเล็กทีละน้อย ตอนที่เท้าเหยียบโดนแผ่นเหล็กที่เสียบอยู่บนพื้น เธอย่อกายลงไปดู เศษเตาหลอมชิ้นหนึ่งถูกดินทรายฝังกลบอยู่ เมื่อหยิบขึ้นมาดู บนเศษเหล็กแผ่นนั้นยังมีผงยาเหลือให้เห็นอยู่เล็กน้อย

“ยาที่คนผู้นี้จะหลอมขึ้นมาน่าจะเป็นยาระดับห้าขึ้นไป แต่เตาหลอมยารับไม่ไหวจึงได้ระเบิด ท่านดูนี่” เธอยื่นเศษเตาหลอมให้ท่านแม่ของเธอ “บนนี้ยังมีผงยาเหลืออยู่ให้เห็น จากผงยาจำแนกได้ว่าเป็นยาระดับห้าขึ้นไป แต่เขาทำไม่สำเร็จ”

ซั่งกวนหวั่นหรงรับเศษเหล็กชิ้นนั้นไปดูอย่างละเอียด ตอนที่สายตาสะดุดเข้ากับลวดลายบนเศษเหล็กแผ่นนั้น ม่านตาของนางหดตัว แววตกตะลึงพาดผ่านดวงตา

เมื่อเห็นสีหน้าของนาง เฟิ่งจิ่วแววตาไหวระริก ถามว่า “อาจารย์อา ท่านรู้จักเศษเตาหลอมชิ้นนี้หรือขอรับ?”

“ไม่ ไม่รู้จัก” ซั่งกวนหวั่นหรงส่ายหน้า แต่กลับกำเศษเตาหลอมไว้แน่น สีหน้าเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่

เห็นอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วเองก็ไม่ได้ถามอะไรอีก หลังจากสำรวจรอบๆ ก็บอกว่า “คนคนนี้น่าจะไปแล้ว พวกเราเองก็ไปกันเถิดขอรับ!” เดาว่าท่านแม่ของเธอจำเศษเตาหลอมชิ้นนั้นได้ นางน่าจะรู้ว่าใครหลอมยาอยู่ที่นี่ แต่ในเมื่อนางไม่พูด เธอก็จะไม่ถาม

“อืม พวกเราออกไปที่รอบนอกกันเถิด!” นางเก็บเศษเตาหลอมชิ้นนั้น เก็บซ่อนสายตา แล้วเดินออกไปพร้อมกับเฟิ่งจิ่ว

หลังจากทั้งสองออกไปได้ไม่นาน ณ ปากถ้ำแห่งหนึ่งที่อยู่ตรงไหล่เขา เงาร่างหนึ่งเดินออกมา ยืนมองทั้งสองเดินจากไปจากตรงนั้น ผ่านไปเนิ่นนาน จึงค่อยหันตัวกลับเข้าไปในถ้ำ…

ขณะที่ทั้งสองคนออกไปที่รอบนอก ระหว่างทางก็บังเอิญพบต้วนมู่ไป๋ที่กำลังเข้ามาข้างในพอดี

“ศิษย์น้อง เจ้าไม่เป็นไรใช่หรือไม่?” ตอนที่ต้วนมู่ไป๋เห็นทั้งสองคน เขาเดินเข้ามาแล้วมองข้ามเฟิ่งจิ่วไปอย่างเป็นธรรมชาติ สายตาห่วงใยจับจ้องไปที่ซั่งกวนหวั่นหรง

เห็นอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วกระแอมเบาๆ ไม่รอให้ท่านแม่ของเธอพูดอะไร เธอก็ยิ้มตาหยีแล้วบอกว่า “อาจารย์อาต้วน ท่านช่างใส่ใจพวกเรานัก แต่ไม่ต้องห่วง ข้ากับอาจารย์อาซั่งกวนไม่เป็นไรขอรับ!”

ท่านพ่อของเธอไม่อยู่ที่นี่ เธอจะเป็นคนคอยไล่หมู่ภมรผีเสื้อที่มาคอยตอมท่านแม่ของเธอเอง!

ได้ยินคำพูดของเฟิ่งจิ่ว ต้วนมู่ไป๋ตวัดสายตามอง แล้วเอ็ดเสียงเข้ม “ผู้อาวุโสพูดอยู่ เจ้าเป็นเพียงผู้น้อยพูดแทรกอะไรกัน? หลบไปไกลๆ” ในใจลอบนึกว่าศิษย์ชั้นล่างคนนี้ช่างไม่รู้จักกาลเทศะเสียเลย

เขาละสายตาไม่ชอบใจกลับมาจากเฟิ่งจิ่ว แล้วหันมาจับจ้องซั่งกวนหวั่นหรง “ไม่รู้เพราะอะไร ในดินแดนลับแห่งนี้มีคลื่นฝูงสัตว์ร้ายก่อตัวขึ้น โชคดีที่ตอนนี้สงบลงแล้ว ยามนี้เห็นศิษย์น้องไม่เป็นไร ข้าก็วางใจแล้ว”

“ทำให้ศิษย์พี่ต้องเป็นห่วงเสียแล้ว” ซั่งกวนหวั่นหรงตอบ นางหันไปมองเฟิ่งจิ่วแวบหนึ่ง แล้วยิ้มให้เธอ

เห็นภาพนั้น ต้วนมู่ไป๋ตะลึงเล็กน้อย รู้สึกว่าระหว่างศิษย์น้องกับศิษย์ชั้นล่างคนนั้น เหมือนจะมีอะไรบางอย่างเปลี่ยนไป? คล้ายกับว่าสนิทสนมกันมากขึ้น อีกทั้งยามนางมองศิษย์ชั้นล่างที่ชื่อเฟิ่งจิ่วนั่น คล้ายว่า…

………………………………….

ตอนที่ 1456 ไม่อยู่บนยอดเขา แล้วอยู่ที่ใด

“ศิษย์พี่ใหญ่ เรื่องของท่านเรียบร้อยดีแล้วหรือ?” ซั่งกวนหวั่นหรงมองต้วนมู่ไป๋แล้วถาม

“อืม เรียบร้อยแล้ว เพราะคลื่นฝูงสัตว์ร้าย มีหลายคนต่างมุ่งหน้าออกไปรวมตัวกันที่รอบนอกแล้ว ข้าเห็นว่าเจ้าไม่อยู่ จึงเข้ามาดูหน่อย!” ขณะอธิบาย ก็เหลือบมองเฟิ่งจิ่วแวบหนึ่ง แล้วกล่าวต่อว่า “ในเมื่อไม่เป็นไร เช่นนั้นพวกเจ้าก็ตามข้าออกไปรอบนอกพร้อมกันเถิด!”

“เจ้าค่ะ พวกข้าเองก็กำลังจะออกไปเช่นกัน” ซั่งกวนหวั่นหรงบอก หันไปพยักพเยิดให้เฟิ่งจิ่ว แล้วทั้งสองก็สาวเท้าเดินไปข้างหน้าพร้อมกัน

ส่วนต้วนมู่ไป๋ที่เดินตามหลังเห็นภาพนั้น ก็อดรู้สึกแปลกใจไม่ได้

เหตุใดศิษย์น้องถึงได้ปฏิบัติกับศิษย์ชั้นล่างคนนี้เป็นพิเศษ? การกระทำที่สนิทชิดเชื้อนั่น แล้วยังมีท่าทีที่เปลี่ยนไปนั่นอีก เหมือนกับว่าระหว่างทั้งสองเกิดเรื่องอะไรบางอย่างขึ้น?

นึกถึงตรงนี้ สีหน้าของเขาดูแปลกขึ้นมา แต่ก็ข่มความสงสัยไว้ในใจแล้วมุ่งหน้าออกไปพร้อมกัน

ทว่า สองวันต่อมา เมื่อถึงเวลาเคลื่อนย้าย แม้พวกเขายังไม่ทันไปถึงรอบนอก หลุมอากาศก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศ ดูดพวกเขาเข้าไปทีละคน

บรรดานักเล่นแร่แปรธาตุที่อยู่ในแต่ละที่ของดินแดนลับ ขอเพียงยังมีชีวิตอยู่ ล้วนถูกเคลื่อนย้ายออกไปทุกคน ส่วนคนที่ตายไปแล้ว กลับถูกฝังไว้ในดินแดนลับไปตลอดกาล…

เมื่อเฟิ่งจิ่วกับซั่งกวนหวั่นหรงและต้วนมู่ไป๋ถูกเคลื่อนย้ายออกมา พวกเขาปรากฏตัวที่ตีนเขาของยอดเขาซานหยาง

“ข้าจะไปพบท่านอาจารย์ พวกท่านกลับไปก่อนเถิด!” นางหันไปบอกเฟิ่งจิ่วกับต้วนมู่ไป๋

เฟิ่งจิ่วได้ยินก็ได้แต่เงียบงัน เธอไม่มีสิทธิ์ขึ้นไปบนยอดเขาชั้นเก้า ด้วยเหตุนี้จึงไม่พูดอะไร ทำได้เพียงมองนาง

ต้วนมู่ไป๋ได้ยินก็ชะงักงัน แล้วบอกว่า “ข้าก็จะไปพบท่านอาจารย์ด้วย ข้าไปพร้อมเจ้าก็แล้วกัน!”

เห็นเช่นนั้น ซั่งกวนหวั่นหรงพยักหน้า “ก็ดีเจ้าค่ะ” พูดจบ ก็หันไปมองเฟิ่งจิ่ว “เจ้ากลับไปพักผ่อนก่อนเถิด!”

“ขอรับ” เฟิ่งจิ่วรับคำ มองดูทั้งสองหมุนตัวจากไป นัยน์ตาไหวระริก

ขณะเดินขึ้นเขา ต้วนมู่ไป๋อดถามไม่ได้ “ศิษย์น้อง ดูเหมือนเฟิ่งจิ่วคนนี้จะเข้าตาเจ้ามาก? ข้าเห็นเจ้าเหมือนจะสนิทกับเขามากกว่าคนอื่น”

ได้ยินอย่างนั้น ซั่งกวนหวั่นหรงยิ้ม คิ้วและดวงตาปรากฏแววสุขใจและอ่อนโยน “ใช่เจ้าค่ะ! เด็กคนนี้เป็นเด็กดีมาก”

เห็นแววอ่อนโยนและรอยยิ้มในดวงตาของนาง เขาลอบประหลาดใจเล็กน้อย หยุดพูดไปครู่หนึ่ง แล้วจึงเปลี่ยนเรื่อง “ใช่แล้ว หลังจากมอบยาสามชนิดนั้นให้ท่านอาจารย์แล้ว พักนี้เจ้าก็อย่าไปพบท่านอาจารย์ตามลำพังดีกว่า”

ได้ยินคำพูดนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าซั่งกวนหวั่นหรงจางหายไป นางเอียงคอมองต้วนมู่ไป๋ หยุดเดินแล้วถามว่า “ศิษย์พี่ใหญ่ ท่านรู้อะไรมาใช่หรือไม่? ไม่คิดจะบอกข้าจริงหรือเจ้าคะ?”

ต้วนมู่ไป๋ถอนหายใจ “ไม่ใช่ข้าไม่ยอมบอกเจ้า แต่ข้าไม่รู้จะเริ่มพูดจากตรงไหน แล้วก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร” เขาส่ายหน้า บอกว่า “ข้าเพียงหวังว่ากลับยอดเขาไปแล้วเจ้าจะรอบคอบ และระวังตัวสักหน่อย”

“เจ้าค่ะ ข้ารู้แล้ว” นางรับคำ แล้วเดินหน้าต่อ

ต้วนมู่ไป๋มองนางแวบหนึ่ง เดินตามมาอยู่ข้างนาง บอกว่า “ต่อไปหากเจ้าจะไปพบท่านอาจารย์ก็เรียกข้าด้วย”

ซั่งกวนหวั่นหรงยิ้มๆ ไม่ได้ตอบรับ เพียงหันไปมองทางเข้ายอดเขาชั้นเก้า นัยน์ตาไหวระริกเล็กน้อย ถามว่า “ศิษย์พี่ใหญ่ ท่านว่า ตอนนี้ท่านอาจารย์กำลังทำอะไรอยู่? เขา จะอยู่ในยอดเขาหรือไม่?”

“ท่านอาจารย์มักเก็บตัวฝึกหลอมยา ไม่ค่อยออกไปข้างนอก หากไม่อยู่ในยอดเขา จะอยู่ที่ใด?” เขามองนางด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย รู้สึกว่านางถามแปลกๆ

“ก็จริง ไม่อยู่บนยอดเขา แล้วจะไปอยู่ที่ใดได้เล่า?” นางพึมพำเบาๆ สาวเท้าเดินเข้าไป ตอนที่นางเดินเข้าไป ต้วนมู่ไป๋ที่เดินตามหลังมากลับถูกผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณสองคนซึ่งเป็นผู้เฝ้าประตูขวางหน้าไว้

………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด