เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 1579 การมาถึงของเซวียนหยวน + 1580 นั่งหันหน้าเข้าหากัน

Now you are reading เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า Chapter 1579 การมาถึงของเซวียนหยวน + 1580 นั่งหันหน้าเข้าหากัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1579 การมาถึงของเซวียนหยวน + ตอนที่ 1580 นั่งหันหน้าเข้าหากัน

ตอนที่ 1579 การมาถึงของเซวียนหยวน

“เจ้าเมืองต้วน น้องชายข้าจำเป็นต้องรักษาแผลและพักฟื้นร่างกาย สองวันนี้ข้าหวังว่าพวกท่านจะไม่มารบกวนเขา” กวนสีหลิ่นพูดเสียงเข้ม สายตาคมปลาบจ้องมองเจ้าเมืองต้วน

ได้ยินอย่างนั้น เจ้าเมืองต้วนก็รู้ว่าไม่เหมาะจะรั้งอยู่ต่อ จึงพยักหน้า “เช่นนั้นก็ได้! พวกข้าไปก่อนแล้ว ทางนี้รบกวนสหายกวนช่วยดูแลมากหน่อย หากต้องการหมอหรือยาทิพย์อะไรก็บอกข้าได้เสมอ ข้าจะให้คนนำมาส่งทันที”

สิ้นเสียง เจ้าเมืองต้วนชำเลืองมองลูกสาวคนโตแวบหนึ่ง อยากจะกำชับนางสักสองสามประโยค แต่ก็นึกขึ้นได้ว่านางไม่ได้ยินและพูดไม่ได้ จึงถอนหายใจและได้แต่ถอดใจ

“ไปกับข้า” เขามองลูกสาวคนเล็กแวบหนึ่ง หมุนตัวแล้วเดินออกไป

ต้วนหลินหลินแม้จะเจ็บใจ แต่กลับไม่กล้าขัดคำสั่งของท่านพ่อ ทำได้เพียงเดินออกไปพร้อมกับเขา

เห็นอย่างนั้น ต้วนอิ๋งอิ๋งเพียงชะงักครู่หนึ่งแล้วเดินออกไปด้วย นางช่วยอะไรไม่ได้ แต่ยังช่วยทำอาหารให้พวกเขาได้

ส่วนในห้อง หลังจากกวนสีหลิ่นออกไปเฟิ่งจิ่วก็ขับเคลื่อนลมปราณในร่าง ใช้พลังจากเม็ดบัวเขียวมารักษาบาดแผลของตนเอง ร่างกายของเธอราวกับถูกรัศมีแสงสีเขียวใสห่อหุ้มไว้ทั้งตัว จุดที่พลังงานสีเขียวใสแผ่ปกคลุม บาดแผลล้วนสมานตัวเร็วจนมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

และในขณะที่เฟิ่งจิ่วกำลังรักษาตัว นอกเมืองซุ่นเหยียน เซวียนหยวนโม่เจ๋อพาฮุยหลางและอิ่งอีเดินทางมาถึงที่นี่แล้ว หลังจากได้รับจดหมายจากเฟิ่งจิ่ว เซวียนหยวนโม่เจ๋อที่สะสางเรื่องราวเรียบร้อยแล้วก็มุ่งหน้ามายังสถานที่ที่เธออยู่

“นายท่าน พวกเรามาถึงเมืองซุ่นเหยียนแล้วขอรับ” ฮุยหลางที่อยู่ด้านหนึ่งมองตัวอักษรเหนือประตูเมืองแล้วยิ้มบอก “ภูตหมอจะต้องไม่รู้แน่ว่าพวกเรามาถึงเร็วขนาดนี้ หากเห็นพวกเรา นางจะต้องประหลาดใจและดีใจมากแน่ๆ”

อิ่งอีที่อยู่อีกด้านชำเลืองมองฮุยหลาง แล้วบอกว่า “ดีใจเพราะเห็นนายท่านต่างหาก เกี่ยวอะไรกับเจ้าด้วย?”

ฮุยหลางกลอกตา พูดอย่างไม่พอใจ “เจ้าอย่าสาดน้ำเย็นใส่ข้าได้หรือไม่? ไม่ได้เจอภูตหมอตั้งนาน ข้าเองก็คิดถึงนางเหมือนกันนี่!” ทว่า เพิ่งจะสิ้นเสียง ก็สัมผัสได้ถึงสายตาเย็นชาคู่หนึ่งที่จ้องมองเขา ครั้นหันไป ก็พบว่าเป็นนายท่าน เขาจึงอดหัวเราะแห้งๆ ไม่ได้ “นายท่าน ที่จริง ที่จริงข้าไม่ได้คิดถึงภูตหมอขนาดนั้น”

ทว่า ขณะที่พวกเขากำลังพูดคุยพร้อมเสียงหัวเราะกันอยู่นั้น ชายชุดดำคนหนึ่งไม่รู้มาจากที่ใด โฉบไหวเข้ามาด้านหลังอิ่งอี กระซิบกระซาบสองสามคำ เห็นเพียงอิ่งอีหน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย โบกมือสั่งให้ชายชุดดำจากไป แล้วก้าวเข้ามาตรงหน้าเซวียนหยวนโม่เจ๋อ

“นายท่าน จากที่คนของเราบอก วันนี้เป็นวันที่ภูตหมอรักษาโรคให้บิดาของเจ้าเมืองต้วน เพราะต้องยืมใช้เตียงน้ำแข็งเหมันต์พันปีของตระกูลเมิ่ง จึงได้เดินทางไปยังจวนตระกูลเมิ่ง ทว่าหลังจากรักษาเสร็จแล้วเตรียมเดินทางกลับจวนเจ้าเมืองกลับเจอการลอบสังหารจากผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินสี่คน รวมถึงผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณอีกหลายสิบคน ภูตหมอและกวนสีหลิ่นสังหารผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินสามในสี่คน ผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินที่เหลือหนึ่งคนพาคนที่เหลือสิบกว่าคนหนีไป แต่ถูกคนของเราจัดการเรียบร้อยแล้ว หนึ่งในนั้นถูกจับเป็น เมื่อไต่สวนก็ได้ความว่าผู้สั่งการอยู่เบื้องหลังก็คือเจ้าสำนักโอสถตะวัน แล้วภูตหมอก็ได้รับบาดเจ็บด้วยเหตุนี้ ตอนนี้นางอยู่ในจวนเจ้าเมืองขอรับ””

“ช่างบังอาจนัก!”

เสียงคำรามทุ้มต่ำดังออกจากปากเขา ยามได้ยินว่าเธอถูกผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินหลายคนรุมโจมตี เขาก็เริ่มสาวเท้าออกเดินก้าวใหญ่ ตั้งใจจะไปดูว่าเธอเป็นอย่างไรบ้างแล้ว

ฮุยหลางกับอิ่งอีเห็นอย่างนั้นก็รีบเดินตามไป ในใจรู้ดี เจ้าสำนักโอสถตะวันคงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว

ทั้งสามเดินเข้าไปในเมือง พลางมุ่งหน้าไปยังจวนเจ้าเมือง เมื่อมาถึงหน้าจวนเจ้าเมือง ไม่รอให้องครักษ์รายงาน ฮุยหลางกับอิ่งอีใช้กำลังจัดการพวกเขา แล้วเปิดประตูให้นายท่านของพวกเขาเข้าไปข้างใน

องครักษ์ที่อยู่ข้างในเห็นว่ามีคนบุกเข้ามาในจวนเจ้าเมือง จึงตวาดเสียงดังลั่น “ผู้ใดกัน? กล้าบุกเข้ามาในจวนเจ้าเมืองเช่นนี้!”

………………………………….

ตอนที่ 1580 นั่งหันหน้าเข้าหากัน

เจ้าเมืองต้วนกับลูกสาวคนเล็กเพิ่งกลับมาจากห้องของเฟิ่งจิ่ว ขณะกำลังเดินไปด้วยอบรมลูกสาวไปด้วยนั้น ก็ได้ยินเสียงตวาดขององครักษ์ ว่ามีคนบุกเข้ามาในจวนเจ้าเมือง?

เมื่อหันไปมองต้นตอเสียง แล้วเห็นชายคนนั้นสวมเสื้อคลุมสีดำลายมืด บุคลิกสูงส่ง เห็นแวบแรกก็รู้แล้วว่าไม่ใช่คนธรรมดา หนำซ้ำเขายังพาคนมาแค่สองคน น่าจะไม่ใช่คนของกลุ่มนักฆ่าพวกนั้น เห็นองครักษ์ในจวนกับองครักษ์ของชายคนนั้นตั้งท่าจะปะทะกัน เขารีบตะโกนเสียงดัง

“หยุดเดี๋ยวนี้!”

องครักษ์ในจวนเจ้าเมืองเห็นว่าเป็นเจ้าเมืองต้วน จึงถอยหลังหนึ่งก้าว คารวะอย่างนอบน้อมแล้วยืนอยู่ด้านหนึ่ง จ้องผู้มาสามคนด้วยสายตาระแวดระวัง

เซวียนหยวนโม่เจ๋อตวัดสายตามองเจ้าเมืองต้วน แล้วถาม “เฟิ่งจิ่วเล่า?”

ได้ยินอย่างนั้น เจ้าเมืองต้วนชะงักงัน แล้วถาม “ไม่ทราบว่าท่านคือ?”

“เฟิ่งจิ่วเล่า?”

เซวียนหยวนโม่เจ๋อขมวดคิ้ว สีหน้าเริ่มปรากฏแววไม่พอใจ ราศีทั่วร่างยิ่งแปรเปลี่ยนเป็นน่าเกรงขามไม่อาจล่วงเกินเพราะสีหน้าที่เคร่งขรึมลงของเขา

การเปลี่ยนแปลงของบุคลิก และรัศมีน่าเกรงขาม ทำให้องครักษ์ในจวนเจ้าเมืองเริ่มกระสับกระส่าย เหลือบมองเจ้าเมืองต้วนเป็นระยะ

ทว่าในตอนนี้เอง เสียงอ่อนโยนปนเหนียมอายพลันดังขึ้น ทำลายบรรยากาศอันน่าอึดอัดใจ

“คุณชายท่านนี้ ข้ารู้ว่าเขาอยู่ที่ใด เชิญคุณชายตามข้ามา”

ต้วนหลินหลินหัวใจเต้นโครมคราม ในสายตาเต็มไปด้วยชายที่มีบุคลิกเผด็จการและสูงส่ง แม้ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แต่รัศมีและบุคลิกเช่นนี้ ก็มากพอที่จะทำให้นางรู้ว่าคนผู้นี้ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน

“เสี่ยวหลิน!”

เจ้าเมืองต้วนขมวดคิ้ว มองนางอย่างไม่เห็นด้วย ไม่รู้ว่าเป็นมิตรหรือศัตรู จะพาคนไปพบเฟิ่งจิ่วได้อย่างไร? หากเกิดอะไรขึ้น เกรงว่า…

“คุณชาย เชิญทางนี้” นางไม่สนใจคำพูดของท่านพ่อ คำพูดและการเคลื่อนไหวอ่อนช้อยงดงามแสดงให้เห็นถึงอิริยาบถของบุตรีเจ้าเมืองอย่างเต็มที่

เซวียนหยวนโม่เจ๋อออกเดิน ฮุยหลางกับอิ่งอีเดินตามหลังเขาเข้าไปข้างในพร้อมกัน

เจ้าเมืองต้วนเห็นอย่างนั้น ก็ทำได้เพียงเดินตามไป

ครั้นพวกเขาเดินมาถึงลานบ้านของเรือนนั้น เจ้าเมืองต้วนกับลูกสาวของเขาก็ถูกกักตัวไว้ข้างนอก

ครั้นมาถึงหน้าห้อง กวนสีหลิ่นเห็นพวกเซวียนหยวนโม่เจ๋อเดินเข้ามา เขาก็ถามด้วยความประหลาดใจ “เป็นท่าน? ท่านมาได้อย่างไร?”

“นางเป็นอย่างไรบ้าง?” เห็นกวนสีหลิ่นเฝ้าอยู่หน้าห้อง เซวียนหยวนโม่เจ๋อสีหน้าอ่อนลงเล็กน้อย แล้วถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ

“บาดเจ็บหลายที่ เลือดไหลไม่น้อย” เพิ่งจะสิ้นเสียงของเขา ก็เห็นเซวียนหยวนโม่เจ๋อทำท่าจะก้าวเข้าไปในห้อง จึงรีบห้ามเขาไว้ “ช้าก่อน”

เซวียนหยวนโม่เจ๋อชะงักเท้ามองหน้าเขา รอฟังเขาพูด

“เสี่ยวจิ่วกำลังรักษาตัว บอกว่าห้ามรบกวนถึงได้ให้ข้าเฝ้าอยู่ข้างนอกนี้ ฉะนั้นตอนนี้ท่านยังเข้าไปไม่ได้ รออีกสักหน่อยเถิด!” กวนสีหลิ่นบอก แล้วพยักพเยิดให้เขาไปนั่งรอที่โต๊ะด้านหนึ่ง

ได้ยินอย่างนั้น เซวียนหยวนโม่เจ๋อเพียงชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็ไปนั่งที่โต๊ะ บอกว่า “คนของข้าบอกว่าเป็นนักฆ่าที่เจ้าสำนักโอสถตะวันจ้างมา พวกที่หนีไปถูกคนของตำหนักยมราชจัดการแล้ว”

“เจ้าสำนักโอสถตะวัน? เป็นตาเฒ่านั่นงั้นหรือ?” กวนสีหลิ่นหน้าเครียด ไอสังหารพวยพุ่งทั่วร่าง “ต่ำช้ายิ่ง! เสี่ยวจิ่วไม่ถือสาเอาความพวกเขา แต่ตาเฒ่านั่นกลับกล้าส่งคนมาลอบสังหารนาง!”

“เรื่องของท่านแม่ของนางท่านคงรู้แล้วกระมัง?” เซวียนหยวนโม่เจ๋อมองหน้าเขา แล้วถาม

กวนสีหลิ่นพยักหน้า “อืม หลังจากที่ข้าพบเสี่ยวจิ่วที่นี่ นางก็เล่าให้ข้าฟังแล้ว เพราะต้องการยาทิพย์สองอย่าง ถึงได้มาที่นี่ และหนึ่งในนั้นก็อยู่ที่ภูผาสวรรค์”

………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด