เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 1587 มองเห็น + 1588 ผียังกลัว

Now you are reading เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า Chapter 1587 มองเห็น + 1588 ผียังกลัว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1587 มองเห็น + ตอนที่ 1588 ผียังกลัว

ตอนที่ 1587 มองเห็น

“น่าเสียดายจริงๆ คนเช่นนั้นพ่อกลับไม่มีวาสนาได้พบหน้า หากได้สานสัมพันธ์ จะต้องมีประโยชน์ต่อตระกูลต้วนของเราอย่างใหญ่หลวงแน่นอน เสียดาย ช่างน่าเสียดายจริงๆ” บิดาแห่งตระกูลต้วนนั่งถอนหายใจอยู่บนเตียง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเสียดาย

“แต่เขาฆ่าอาจารย์ของน้องรอง เรื่องนี้เกรงว่า…” เจ้าเมืองต้วนกล่าวด้วยความลังเล นึกถึงการลอบสังหารหน้าจวนตระกูลเมิ่ง แล้วหันไปพูดกับต้วนมู่ไป๋ “การลอบสังหารครั้งนั้นใช้ผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินถึงสี่คน และผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณอีกหลายสิบคน เห็นได้ชัดว่าตั้งใจจะสังหารเฟิ่งจิ่วให้ได้”

“เป็นไปได้มากว่าเจ้าสำนักเป็นคนสั่งการ หากเรื่องนี้เป็นฝีมือเจ้าสำนักจริง เกรงว่าสำนักโอสถตะวันต้องแย่แน่แล้ว คนข้างกายเฟิ่งจิ่วเป็นถึงเจ้าตำหนักยมราช วันนั้นหากไม่มีผู้อาวุโสคุ้มครองสำนักช่วยพูดให้ เกรงว่าตอนนั้นเจ้าสำนักคงรักษาชีวิตไว้ไม่ได้แล้ว”

พูดมาถึงตรงนี้ ต้วนมู่ไป๋พูดด้วยน้ำเสียงจนใจ “เดิมทีข้าก็เป็นห่วงอยู่แล้วว่าเจ้าสำนักจะสั่งลอบสังหารเขา จึงได้สั่งให้ศิษย์สองคนมาตามหาเฟิ่งจิ่ว เพียงแต่นึกไม่ถึงว่ายังคงช้าไปหนึ่งก้าว”

“มีเจ้าตำหนักยมราชอยู่ข้างกายเฟิ่งจิ่ว คิดจะฆ่าเขาไม่ง่ายขนาดนั้น หนำซ้ำหากคนอื่นไม่รู้ว่าคนผู้นั้นเป็นเจ้าตำหนักยมราชก็เรื่องหนึ่ง แต่หากรู้ เดาว่าอย่างไรก็ไม่มีทางรับภารกิจนี้แน่นอน” บิดาแห่งตระกูลต้วนบอก แม้สีหน้าจะยังไม่ค่อยดีนัก แต่พลังศูนย์กลางกลับเต็มเปี่ยมแล้ว ร่างกายฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว

อีกทั้งพอทั้งสามอยู่ในห้องเดียวกัน คนที่ไม่รู้คงคิดว่าพวกเขาเป็นพี่น้องกัน เพราะความสัมพันธ์และรากฐานวรยุทธ์ของบิดาเขา รูปลักษณ์ของเขาเรียกได้ว่าเด็กที่สุดในหมู่สามคนแล้ว ดูเหมือนน้องชายของต้วนมู่ไป๋อย่างไรอย่างนั้น

“นั่นก็จริงขอรับ อีกอย่างพลังของเฟิ่งจิ่วเองก็โดดเด่นมากอยู่แล้วด้วย” ต้วนมู่ไป๋บอก ก่อนจะพูดกับทั้งสองว่า “ท่านพ่อ พี่ใหญ่ ในเมื่อไม่มีอะไรแล้ว ข้าขอกลับไปพักก่อน พรุ่งนี้พอฟ้าสางข้าก็จะกลับแล้ว หากในบ้านมีเรื่องใหญ่อะไรเกิดขึ้น อย่าลืมบอกข้าด้วยเล่า”

“วางใจเถิด!” บิดาแห่งตระกูลต้วนโบกมือ เป็นเชิงบอกเขาว่าไม่มีอะไร ให้เขาเดินทางกลับไปก่อนได้เลย

สุดท้าย เจ้าเมืองต้วนออกจากเรือนพร้อมกับต้วนมู่ไป๋ สองพี่น้องพูดคุยกันตลอดทาง กระทั่งต้วนมู่ไป๋กลับเรือนเข้าห้องไป เจ้าเมืองต้วนจึงหันตัวเดินกลับมา

ยามหัวค่ำ ต้วนมู่ไป๋ที่พักผ่อนเสร็จแล้วนึกถึงเรื่องที่พี่ใหญ่ของเขาพูด ตอนที่พวกเฟิ่งจิ่วอยู่ในจวนพวกเขาไปพักที่เรือนของลูกสาวคนโตของเขา ด้วยเหตุนี้ จึงสาวเท้าเดินไปที่เรือนของนาง

คนที่ทำให้เฟิ่งจิ่วชื่นชมได้ เขากลับอยากรู้ว่าจะเป็นคนอย่างไร? โนเวล-พีดีเอฟ

แม้เขาจะเป็นคุณชายรองแห่งตระกูลต้วน แต่กลับบ้านน้อยครั้งมาก อย่าว่าแต่ไม่รู้จักคนในจวน แม้แต่ลูกสาวสองคนของพี่ใหญ่ เขาก็ยังรู้สึกเหมือนคนแปลกหน้า รู้เพียงพวกนางเป็นฝาแฝดกัน คนโตเหมือนจะเป็นใบ้หูหนวก รักษาไม่ได้มาตั้งแต่เด็ก

เวลานี้ เขารู้สึกสงสัยมากจริงๆ หลานสาวคนโตของเขาเป็นคนอย่างไรกัน? เฟิ่งจิ่วถึงได้ดีกับนางเป็นพิเศษ?

เมื่อฝ่าค่ายกลที่ลานบ้านมาถึงด้านใน แล้วเห็นยาทิพย์และดอกไม้ในสวนถูกทำความสะอาดดูเป็นระเบียบเรียบร้อย เขาก็อดพยักหน้าอย่างพึงพอใจไม่ได้

ได้ยินมาว่าในเรือนแห่งนี้มีอิ๋งอิ๋งหลานสาวคนโตของเขาอาศัยอยู่คนเดียว ดอกไม้และยาทิพย์พวกนี้ นางย่อมเป็นคนดูแลเองอยู่แล้ว

สาวเท้าเดินเข้าไปข้างในช้าๆ พลางมองพิจารณาแล้วเห็นว่าเรือนแห่งนี้ไม่ใหญ่มาก หลังเดินวนหนึ่งรอบ เขาก็เห็นพี่น้องคู่นั้นอยู่หน้าห้องห้องหนึ่ง คนหนึ่งสวมชุดกระโปรงสีชมพู คนหนึ่งกลับสวมชุดกระโปรงสีขาวสะอาด กลับแยกง่ายมาก เพราะอย่างไรเขาก็เคยเจอคนเล็กแล้ว

เพียงแต่ เมื่อเห็นคนเล็กล่อให้คนโตออกไป จากนั้นก็ล้วงสิ่งของออกมาจากแขนเสื้อแล้วเทเข้าไปในน้ำชาบนโต๊ะ เขาก็อดขมวดคิ้วไม่ได้

………………………………….

ตอนที่ 1588 ผียังกลัว

ยิ่งเมื่อไม่นานหลังจากนั้น พอเห็นหลานสาวคนโตกลับมา แล้วหลานสาวคนเล็กผลักน้ำชาที่ผสมยาไว้มาด้านหน้านาง ในที่สุดเขาก็ก้าวออกมาอย่างทนดูไม่ได้

“นี่กำลังทำอะไร?” เสียงของเขาเข้มขรึมเล็กน้อย คำถามถูกยิงไปที่หลานสาวคนเล็ก ขณะเดียวกัน ก็ยกมือห้ามหลานสาวคนโตที่กำลังจะดื่มน้ำชา เป็นเชิงบอกให้นางรอก่อน

ต้วนหลินหลินเห็นเขา สีหน้าดูลนลานเล็กน้อย นางลุกขึ้นอย่างร้อนตัว ขานเรียกด้วยความแตกตื่น “อารอง ทะ ท่านมาได้อย่างไร?”

“ข้าถามเจ้า ว่านี่กำลังทำอะไรอยู่?” ต้วนมู่ไป๋จ้องเข้าไปในดวงตานาง ถามด้วยน้ำเสียงดุดัน

“ขะ ข้ามาดื่มชา ละ แล้วก็คุยกับพี่สาวของข้า” นางก้มหน้า ไม่กล้ามองเขา น้ำเสียงยามพูดก็เบามาก

ขณะเดียวกัน ต้วนอิ๋งอิ๋งที่เดิมทีนั่งอยู่ก็ลุกขึ้นยืน นางยิ้มให้ต้วนมู่ไป๋เล็กน้อย กางกระดาษออก แล้วเขียนคำว่าอารอง

ต้วนมู่ไป๋สีหน้าอ่อนลง พยักหน้าให้นาง ก้าวเข้ามา ยกแก้วชาที่วางไว้ด้านหน้าหลานสาวคนโตขึ้นมาดม ครั้นดม สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที หันไปตวาดหลานสาวคนเล็กด้วยสายตาคมปลาบ “พูดคุยดื่มชาแล้วจำเป็นต้องวางยาผียังกลัว ให้พี่สาวเจ้าด้วยหรือ? เจ้าช่างจิตใจต่ำทรามไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี! กล้าคิดจะใช้ยาพิษต่ำทรามร้ายแรงเช่นนี้มาทำลายโฉมพี่สาวของเจ้า! ตระกูลต้วนของข้าเหตุใดจึงให้กำเนิดหญิงใจทรามเช่นเจ้าได้!”

เขาใช้คำว่าต่ำทรามด่านางถึงสามครั้ง น้ำเสียงดุดันแฝงแววเกรี้ยวโกรธ เขาไม่นึกเลยว่าจิตใจของหลานสาวคนเล็กจะชั่วร้ายขนาดนี้ ถึงขั้นใช้ยาต่ำทรามเช่นยาผียังกลัว มาทำลายโฉมของพี่สาวฝาแฝดที่หน้าตาเหมือนนาง อายุยังน้อย เหตุใดจึงมีความคิดเช่นนี้ได้?

ในอีกด้าน ต้วนอิ๋งอิ๋งที่ตอนแรกใบหน้ายังประดับด้วยรอยยิ้มพอได้ยินคำพูดของอารองของนาง รอยยิ้มบนใบหน้าพลันแข็งค้าง ร่างกายกระด้าง หัวใจดวงน้อยเหมือนร่วงตกลงไปในถ้ำน้ำแข็ง เย็นยะเยือกไปทั้งตัว

วันนี้น้องสาวมาหานาง บอกว่าจะอยู่คุยกับนาง แล้วยังพูดจาดีๆ กับนางตลอด ทำให้นางดีใจนัก เพียงแต่นึกไม่ถึงว่านางมาที่นี่เพื่อวางยาทำลายโฉมของนางงั้นหรือ?

ทำไม? ทำไมต้องทำอย่างนี้กับนาง? ทำไมเล่า?

นางหลุบตาต่ำ หัวใจสิ้นหวังอ้างว้าง บางที นางอาจไม่ควรคาดหวังความรักจากครอบครัว

“ปะ เปล่านะเจ้าคะ อารอง ข้าเปล่า” ต้วนหลินหลินยังไม่ยอมรับ รีบส่ายหน้าปฏิเสธทันที

“เปล่างั้นหรือ? เช่นนั้นเจ้าดื่มชาถ้วยนี้ให้ข้าดูหน่อยเป็นอย่างไร?” เขายกถ้วยชาแล้วยื่นไปตรงหน้านาง จ้องนางด้วยสายตาคมกริบ

“ไม่ ข้าไม่ดื่ม!” ต้วนหลินหลินผลักชาถ้วยนั้นออกไป พลางตะโกนเสียงดังแล้ววิ่งออกไป

ต้วนมู่ไป๋จ้องเงาร่างที่ห่างออกไปของนาง ไม่สนใจนางอีก แต่หันไปมองต้วนอิ๋งอิ๋ง แล้วหยิบกระดาษและดินสอจากมือนางไปเขียน “ถึงจะไม่อยากให้เจ้ารู้ แต่ข้าคิดว่าเจ้าจำเป็นต้องรู้ไว้ เจ้าต้องระวังน้องสาวของเจ้าไว้ให้มาก นางจิตใจไม่บริสุทธิ์ วันหน้าของที่นางให้ เจ้าอย่ากินของนาง”

อักษรบนกระดาษที่สะท้อนความเป็นห่วง ทำให้ต้วนอิ๋งอิ๋งอดน้ำตาไหลไม่ได้ ท่านอารองที่กลับบ้านน้อยครั้งมากยังใส่ใจนาง แต่ท่านพ่อของนาง น้องสาวของนาง พวกเขากลับทำเรื่องที่ทำร้ายจิตใจของนางซ้ำแล้วซ้ำเล่า บ้านหลังนี้ จะให้นางอยู่ต่อไปได้อย่างไรอีก?

เห็นนางก้มหน้าหลั่งน้ำตา โศกเศร้าอาดูร ต้วนมู่ไป๋ถอนหายใจ แล้วเขียนบนกระดาษอีกว่า “เจ้าวางใจเถิด! เรื่องนี้ข้าไม่ปล่อยไปอย่างนี้หรอก ข้าจะบอกท่านพ่อของเจ้า ให้เขาจัดการ และให้บทเรียนแก่นางแน่นอน”

เขาตบไหล่นาง เดิมทียังคิดจะมาถามเรื่องของเฟิ่งจิ่ว แต่ดูจากสถานการณ์แล้ว ทำได้เพียงถอนหายใจแล้วหมุนตัวเดินจากไป

………………………………….

————————————–

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด