เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 1657 อำนาจฝ่ายใด / 1658 เร่ร่อนข้างนอก

Now you are reading เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า Chapter 1657 อำนาจฝ่ายใด / 1658 เร่ร่อนข้างนอก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1657 อำนาจฝ่ายใด / ตอนที่ 1658 เร่ร่อนข้างนอก

ตอนที่ 1657 อำนาจฝ่ายใด

ทุกครั้งที่เห็นคนรู้จักถูกฆ่าตายอย่างอนาถ องครักษ์ตระกูลเฟิ่งรู้สึกหัวใจบีบรัด พวกเขาซ่อนตัวจากคนพวกนั้นที่กำลังกวาดทำลายราชวัง พรางตามหาเสี่ยวเฟิ่งเย่ที่กำลังซ่อนตัว เพยงแต่ ตามหาหลายตำหนักแล้วก็ยังหาไม่เจอ

พวกเขาอดคิดไม่ได้ บางทีในวังหลวงแห่งนี้อาจมีเส้นทางลับอยู่ที่ไหนสักที่ ไม่เช่นนั้นพวกเขาไม่มีทางตามหาไม่เจอ เพียงแต่ เส้นทางลับนั่นอยู่ที่ใดกัน? พวกเขารู้แค่เส้นทางลับที่ใช้เข้ามาจากนอกวัง ไม่รู้เส้นอื่นแล้ว หากตามหาส่งเดชไปทั่ววัง พอถึงตอนนั้น อย่าว่าแต่เสี่ยวเฟิ่งเย่เลย แม้แต่ชีวิตของพวกเขาก็คงยากจะปกป้องได้

ในอีกด้านหนึ่ง ผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหินสองคนเห็นตำหนักหลังนั้นถูกเปลวไฟกลืนกิน มองดูคานและเสาในตำหนักล้มลงมาทับบนร่างสองคนนั้น จึงค่อยหมุนตัวเดินจากไปอย่างพอใจ เพื่อกลับไปรายงานภารกิจ

ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงไม่เห็น ว่าท่ามกลางเปลวเพลิงนั้น เงาร่างสีขาวร่างหนึ่งเดินออกมา ยกเสาต้นใหญ่นั้นออก แล้วตรวจสอบลมหายใจของทั้งสอง จากนั้นก็พาทั้งสองเข้าไปในห้องด้านในตำหนัก จากนั้นก็หนีไปทางเส้นทางลับใต้เตียงในห้อง…

ค่ำคืนนี้ ไม่ใช่แค่ราชวังที่ถูกไฟแผดเผา แม้แต่จวนเฟิ่งก็ยังถูกทำลายด้วย เพียงแต่ คนในจวนเฟิ่งแยกย้ายหนีหายไปนานแล้ว ล้มตายบาดเจ็บไม่มาก ทว่าแม้อย่างนั้น ก็ยังทำให้ผู้คนอกสั่นขวัญแขวนไม่น้อย

กระทั่งท้องฟ้าเริ่มสว่าง เรือบินสีดำลำนั้นจึงค่อยพาคนกลับไป มาเยือนอย่างเงียบๆ ยามจากไปก็หายลับไปในท้องฟ้าราวกับธนูแสง ไม่รู้ทิศทางที่จากไป เหลือไว้เพียงผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหินสี่คนและผู้แข็งแกร่งระดับกำเนิดวิญญาณหลายคนไว้ที่นี่ รอกำจัดคนตระกูลเฟิ่งอีกไม่กี่คนที่กำลังจะกลับมาให้สิ้นซาก…

องครักษ์ตระกูลเฟิ่งตามหาทั้งคืน ก็ยังเหาที่ซ่อนตัวของเสี่ยวเฟิ่งเย่ไม่พบ แต่เรื่องเดียวที่ทำให้พวกเขารู้สึกโชคดีก็คือ พวกเขาไม่พบศพของเสี่ยวเฟิ่งเย่กับเจ้าหยางอยู่ในนี้ ด้วยเหตุนี้ พวกเขามั่นใจได้ว่าเด็กสองคนนั้นต้องอยู่ด้วยกันแน่ๆ

พวกเขาค่อยๆ หนีไปโดยใช้เส้นทางลับ เพราะจวนตระกูลเฟิ่งและราชวังยังมีคนพวกนั้นจับตาดูอยู่ พวกเขาจึงกลับไปไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงซ่อนตัวอยู่ในฐานทัพที่เคยใช้แล้วหารือกัน

และในช่วงฟ้าสาง ผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหินสี่คนที่รั้งอยู่ก็เริ่มประกาศออกไป หากกล้าซ่อนตัวคนตระกูลเฟิ่ง จะต้องถูกฆ่าล้างตระกูลทันทีอย่างไม่มีข้อยกเว้น! ครั้นประโยคนี้ถูกประกาศออกไป อำนาจแต่ละฝ่ายในเมืองหลวงต่างอกสั่นขวัญหาย

ประการหนึ่งคือไม่รู้ว่าคนพวกนี้ที่จู่ๆ ก็ปรากฏตัวเป็นใครกันแน่ อีกประการคือเขตอาคมที่ขังวังหลวงไว้ข้างในถูกปลดผนึกแล้ว ได้ยินว่าคนข้างในไม่มีใครรอดชีวิต เฟิ่งซานหยวนกับฮูหยินของเขาตายในกองเพลิง ส่วนเฟิ่งเย่ลูกชายของพวกเขากลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

บ้างก็บอกว่าตายอยู่ในเหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวาย บ้างก็บอกว่าตายไปพร้อมกับพ่อแม่ของเขาในกองเพลิงแล้ว บ้างก็บอกว่ามีคนช่วยไป บ้างก็บอกหนีออกไปแล้ว…

ท่ามกลางคำพูดมากมายเหล่านี้ วันเวลาผ่านพ้นไปทีละวันๆ เรื่องที่ทุกคนกังวลว่าจะพลอยเดือดร้อนถูกฆ่าล้างตระกูลไปด้วยไม่ได้เกิดขึ้น แต่พวกเขากลับรู้ว่านอกวังหลวง รวมถึงในวังหลวงมีคนของพวกนั้นเฝ้ามอง และจับตาดูการปรากฏตัวของผู้รอดชีวิตจากตระกูลเฟิ่ง

คนที่รู้ข่าวเร็วที่สุดเป็นคนของตำหนักยมราช พวกเขารีบรายงานข่าวเกี่ยวกับราชวงศ์เฟิ่งหวงให้เบื้องบนรู้ ด้านหนึ่งก็กำลังแอบสืบอย่างลับๆ ว่าคนพวกนี้ที่จู่ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นมาและฆ่าล้างตระกูลเฟิ่งเป็นใครกันแน่?

คืนนั้นเพราะคนพวกนั้นปรากฏตัวกะทันหัน กว่าคนของตำหนักยมราชจะรู้ข่าวก็ช่วยอะไรไม่ได้แล้ว และคนพวกนั้นที่กำลังแฝงตัวอยู่ในเมืองหลวง คนของตำหนักยมราชได้สั่งให้ผู้แข็งแกร่งที่มีพลังเหนือกว่าผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินมาสังหารคนพวกนั้น จากนั้นก็สวมรอยแทนพวกเขาอย่างลับๆ

………………………………….

ตอนที่ 1658 เร่ร่อนข้างนอก

คนในตำหนักยมราชแอบติดต่อองครักษ์ตระกูลเฟิ่งอย่างเงียบๆ ด้านหนึ่งจัดระเบียบวังหลวงของราชวงศ์เฟิ่ง ด้านหนึ่งก็รอพวกเฟิ่งจิ่วกลับมา

ในเมืองที่อยู่ห่างออกไปจากเมืองหลวงระยะหนึ่ง เจ้าหยางที่อายุเจ็ดแปดขวบจูงมือเสี่ยวเฟิ่งเย่ที่อายุสามขวบเดินอยู่ในตรอกถนน ทั้งสองเปลี่ยนไปใส่เสื้อผ้าเด็กธรรมดาทั่วไป อีกทั้งเสี่ยวเฟิ่งเย่ยังใส่ชุดกระโปรงลายดอกไม้ ถักเปียผมและม้วนเป็นมวยสองข้าง กลายเป็นเด็กผู้หญิง ไม่ว่าใครก็นึกไม่ถึงว่าเด็กน้อยหน้าตางามละเอียดคนนี้จะเป็นนายน้อยแห่งราชวงศ์เฟิ่งหวงที่เหล่าองครักษ์ตระกูลเฟิ่งตามหากันให้พลิกแผ่นดิน

“หยางหยาง ท่านพ่อท่านแม่ของข้ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่? พวกเขาจะต้องยังมีชีวิตอยู่แน่ๆ เลยใช่หรือไม่?” เสียงอ้อแอ้ของเด็กน้อยพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่นอย่างบอกไม่ถูก

เขาเชื่อสุดหัวใจ ว่าท่านพ่อกับท่านแม่ของเขาจะต้องยังมีชีวิตอยู่

“ขอรับ ยังอยู่ จะต้องยังมีชีวิตอยู่แน่นอน” เจ้าหยางพยักนห้า ดวงหน้าน้อยๆ ดูขึงขังจริงจัง

“หยางหยาง พวกเราจะไปไหน? พวกเราจะถูกคนชั่วจับไปขายหรือไม่?” เด็กน้อยหน้าตากังวล เขาไม่เคยออกจากวังมาไกลขนาดนี้ แล้วก็ไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหน รู้เพียงว่าพอเขาตื่นมา ก็อยู่ที่นี่แล้ว ข้างกายมีแค่หยางหยางเฝ้าอยู่คนเดียว

“ไม่หรอกขอรับ ข้าจะปกป้องท่านเอง” เจ้าหยางบอก จูงมือเขาเดินไปข้างหน้า วันนั้นเขาหนีออกมาตามเส้นทางลับ เดินมาเรื่อยๆ แต่กลับพบว่าพอออกมาก็ไม่ได้อยู่ที่เมืองหลวงแล้ว ทว่ากลับไปโผล่ที่แห่งหนึ่งนอกวังหลวงซึ่งไม่มีใครอยู่

เขากลัวเมืองหลวงไม่กล้ากลับไป ทำได้เพียงพานายน้อยเดินตรงมาเรื่อย จนถึงเมืองแห่งนี้ เพื่อปกปิดความจริง เขาได้เปลี่ยนใส่ชุดเด็กผู้หญิงให้เฟิ่งเย่ เขาคิดว่าที่นี่อยู่ห่างจากเมืองหลวงระยะหนึ่ง แม้คนพวกนั้นจะตามหา ก็น่าจะตามมาไม่ถึงที่นี่ พวกเขาจะรออยู่ที่นี่ ได้ข่าวจากองค์หญิงเมื่อใด พวกเขาค่อยกลับไปดูอีกครั้ง

“หยางหยาง ข้าหิวแล้ว” เด็กน้อยได้กลิ่นหอมของซาลาเปา จึงยืนนิ่งไม่ยอมเดิน จ้องแผงลอยขายซาลาเปาข้างทางแล้วกลืนน้ำลาย

“นี่อาหารแห้ง ให้ท่านขอรับ” เขาหยิบขนมแป้งทอดชิ้นหนึ่งออกมาจากถุงฟ้าดินแล้วยื่นให้เขา “อยู่ข้างนอกนี้พวกเราจะใช้เงินส่งเดชไม่ได้ เด็กน้อยใช้เงินสุรุยสุร่ายจะถูกคนชั่วจับตัวไปขาย”

แม้เขาจะอายุเพียงเจ็ดแปดขวบ แต่เขาได้รับการอบรมมาไม่น้อยแล้ว รู้ว่าอยู่ข้างนอกต้องระวังตัวเรื่องใดบ้าง สิ่งที่พวกเขาต้องทำก็คือพยายามทำตัวให้ไร้ตัวตนมากที่สุด

ได้ยินว่าจะถูกคนชั่วจับตัวไปขาย เสี่ยวเฟิ่งเย่ไม่กล้าเอาแต่ใจ รับอาหารแห้งไปแล้วเดินตามเขาเข้าไปนั่งกินในตรอกถนนทีละคๆ

ถึงแม้เขาสองคนจะปกปิดจากการเปลี่ยนเสื้อผ้าและระวังการกระทำได้ดีมากแล้ว แต่ใบหน้างามละเอียดของเสี่ยวเฟิ่งเย่ก็ยังคงดึงดูดสายตาคนบางส่วนอยู่ดี

ผู้ชายตัวผอมสูงคนหนึ่งที่กำลังกินอาหารอยู่ที่แผงลอยเล็กๆ แผงหนึ่งกินไปพลาง จ้องเด็กน้อยสองคนนั้นไปพลาง เห็นข้างๆ พวกเขาไม่มีผู้ใหญ่ตามมา อีกทั้งดูจากเสื้อผ้าการแต่งกายน่าจะเป็นลูกของชาวบ้านธรรมดา แต่เด็กผู้หญิงคนนั้นกลับหน้าตางามละเอียดถึงเพียงนั้น ก็อดเกิดความคิดชั่วร้ายขึ้นมาไม่ได้

หากจับเด็กผู้หญิงคนนี้ไปขาย เพียงแค่หน้าตางามละเอียดนั่น เดาว่าคงได้เงินไม่น้อย

นึกมาถึงตรงนี้ เขาเผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา จ่ายเงินแล้วลุกขึ้นยืน เดินไปหาเด็กน้อยสองคนที่อยู่ในตรอกถนน

เจ้าหยางระแวดระวังอยู่ตลอดเวลา เหมือนหมาป่าตัวน้อยที่จ้องด้วยสายตาอันตราย เขาสังเกตเห็นผู้ชายคนนั้นแต่แรกแล้ว เพียงแต่เก็บซ่อนความระวังไว้อย่างแนบเนียน กระทั่งเห็นเขาเดินมาหาพวกเขา เขาจึงรีบจูงมือเสี่ยวเฟิ่งเย่ที่กำลังกินอาหารอยู่เดินลึกเข้าไปในตรอก

………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด